Share

ตอนที่ 4 ยาในสุรา3

Author: LiHong
last update Last Updated: 2025-10-29 12:17:54

หญิงสาวรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย วิ่งไปดักหน้าเขา

“พี่เฟิ่ง ท่านรู้ดีว่าตั้งแต่ข้าเป็นเด็กหญิงไม่ประสา ในใจข้าก็มีเพียงท่านแล้ว ทำไมเล่า ทำไมท่านไม่มองข้าบ้าง ไยต้องมองหาสตรีที่ไม่คู่ควรที่หายตัวไปทางใดก็ไม่รู้ผู้นั้นด้วย”

ฝีเท้าอันหนักอึ้งชะงักกึก หางตาจ้าวเฟิ่งกระตุกเบาๆ     

หวังซูเหยาเห็นดังนั้นก็เริ่มลำพองใจ สองตาปริ่มน้ำแลดูงดงามหยาดเยิ้มจึงส่งให้ไม่มีลดละ จ้องมองอย่างลึกซึ้งเข้าไปในดวงตาคมดำไร้ก้นบึ้งของเขาอย่างจงใจ

ด้วยสภาพของเขายามนี้หากถูกสตรียื้อเวลาให้ร่วมเสวนา               เกรงว่าพรุ่งนี้คงต้องส่งแม่สื่อไปเจรจาหมั้นหมายตามแผนการ

หวังซูเหยาลอบแย้มยิ้มอยู่ในใจ เมื่อเห็นหนทางสำเร็จรำไร

ทว่าท้ายที่สุด จ้าวเฟิ่งกลับไม่ใส่ใจว่านางจะรู้เรื่องส่วนตัวของเขามากน้อยแค่ไหน แววตาของเขายังคงเฉยเมยคล้ายผลักไส น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบผิดกับอาการร้อนรุ่มในอก

“ไม่เกี่ยวว่าข้ามีใครเคียงหรือครองตัวสันโดษ เพราะสิ่งเดียวคือข้าไม่ต้องการเจ้า”

กล่าวจบเขาปรายตามองนางนิ่งๆ เดินจากไปอย่างเย็นชา

อีกคราที่หวังซูเหยาทำได้เพียงมองเงาร่างสูงสง่าจนลับตา รับรู้เพียงกลิ่นอายรังเกียจที่เขาทิ้งไว้ให้แผ่ซ่านรอบตัวนาง ตอกย้ำเด่นชัดถึงคำปฏิเสธอันเฉียบคมและเน้นว่าวันหน้าไม่มีโอกาสแล้ว...

เรือนเฉินเฟิงตั้งตระหง่านในจวนเฉิงอ๋อง

ขันทีเร่งรุดเข้าหาทันทีที่เห็นผู้เป็นนายกลับเข้าเรือนมา “ท่านอ๋อง”

จ้าวเฟิ่งเดินเข้าห้อง ไม่หันมอง “เตรียมน้ำให้เปิ่นหวาง”

“พ่ะย่ะค่ะ” ขันทีน้อมกายรับคำ หันไปสั่งให้คนดำเนินการ

นางกำนัลผู้มีสายตามากประสบการณ์มองจ้าวเฟิ่งครู่หนึ่งจึงรับรู้ถึงความผิดปกติของผู้เป็นนาย นางเอ่ยอย่างรู้งานอย่างดี “ท่านอ๋อง บ่าวจะไปตระเตรียมสาวงามให้เดี๋ยวนี้”

จบคำก็ยอบกายแล้วจากไปจัดการทันที

น้ำในถังไม้ถูกเติมจนเต็ม ในจังหวะที่ขันทีนามหลี่อี้กำลังยกน้ำร้อนค่อยๆ เติมให้ เฉิงอ๋องยกมือห้ามไว้ “ไม่ต้อง”

จบคำก็ปลดผ้าออกจากร่างแล้วนั่งลงถังไม้ทั้งอย่างนั้น

หลี่อี้นิ่วหน้า “ท่านอ๋อง น้ำเย็นเกินไป ขอท่านอ๋องโปรดถนอมพระวรกายด้วย” ยังพูดไม่จบ เสียงแหบพร่าก็ตัดบท

“แต่เปิ่นหวางกำลังจะตายหากไม่ได้น้ำเย็น เจ้ารู้หรือไม่?”

รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ ในเมื่อเขาเห็นชัดเจนว่าผู้เป็นนายเหนือหัวถูกวางยาอันใดมา หลี่อี้ยืดคอยาว มองประตูครั้งแล้วครั้งเล่า            หวังให้นางกำนัลพาตัวสาวงามมาโดยไว

ในถังไม้ จ้าวเฟิ่งลำตัวสั่นเทา ฝ่ามือที่จับขอบถังเกร็งแน่น          หลังมือตลอดจนท่อนแขนเข็งแกร่งมีเส้นเลือดปูดนูนเด่น แลดูมีเสน่ห์ร้อนแรงแฝงความเย้ายวนดึงดูดใจคนเป็นพิเศษ ยังมีสันกรามที่ขบกัน จมูกโด่งสันขึ้นสีแดงเรื่อ ริมฝีปากบางเม้มแน่น องคาพยพบนใบหน้ายามนี้คำว่าหล่อเหลาทรงเสน่ห์ยังน้อยเกินไป

ขณะเหม่อมอง หลี่อี้ก็ต้องรีบหมุนตัวหันหลังหนีทันที           เมื่อเห็นเฉิงอ๋องเริ่มกระทำบางอย่างเพื่อจัดการกับความปรารถนาของตัวเอง แม้ตอนนี้หลี่อี้ไม่มีสิ่งนั้นแล้ว แต่ก็ยังรู้ดีว่าคืออันใด

จ้าวเฟิ่งกัดฟันขบริมฝีปาก พาร่างกายตนฝ่าพายุร้าย            ผ่านไปครู่หนึ่งจึงผ่านพ้นมรสุมลูกแรก เขาสูดปากหายใจหอบใหญ่

ทว่าฤทธิ์ของยาที่ได้รับกลับไม่บรรเทาลงแต่อย่างใด ตรงกันข้าม ยิ่งเพิ่มเพลิงปรารถนาให้ยิ่งลุกไหม้โหมกระพือ  

เสมือนว่าเมื่อครู่ที่เขาทำลงไปเป็นการเพิ่มเชื้อไฟท่ามกลางไม้สน[1]กองพะเนินเท่านั้น

อ๋องหนุ่มสายตาเย็นเยือกผิดกับตัวตนที่ร้อนรุ่มเกินบรรยาย

จังหวะนั้น นางกำนัลนามเซวียเทาก็เอาตัวสาวงามเข้ามา ก่อนพยักหน้าให้ขันทีเดินออกไปพร้อมกัน

ประตูห้องถูกปิดลง เหลือเพียงสาวงามระเหิดระหงกำลังยืนมองเฉิงอ๋องด้วยดวงตาสั่นไหว

นางดีใจแทบตายเมื่อได้รู้ว่าคืนนี้จะต้องปรนนิบัติเฉิงอ๋อง

สาวงามเดินกรีดกรายเข้าใกล้เป้าหมายที่ต้องการปีนป่าย  

“ท่านอ๋องเพคะ...”

นางสะสวยอย่างยิ่ง ประหนึ่งเทพธิดาทิ้งชั้นฟ้าลงมา น้ำเสียงยังหวานละมุนมาก รูปร่างอ่อนนุ่มยวนตา หน้าอกยวนใจ บั้นท้ายใคร่เสน่หา

สาวน้อยปรือตาฉ่ำน้ำแวววาวมองริมฝีปากที่ขบกันแน่นบนใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นนาย มองแววตาคมเข้มที่เหมือนมีประกายไฟอยู่ข้างใน มองเส้นสายลายกล้ามและเส้นเลือดข้างลำคอที่กำลังปูนโปน

[1] ไม้สน ไม้เกี๊ยะ จุดเป็นเชื้อเพลิง ใช้ก่อฟืน ก่อถ่าน ตั้งเตา ตั้งกระโจมล้อมวงสุราในป่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 7 สตรีเอาแต่ใจ 2

    เพ่ยหนิงปรือตามองก็เห็นใบหน้าหล่อเหลาประชิดมา ก่อนที่ริมฝีปากร้อนผ่าวจะประกบอย่างอุกอาจเอาแต่ใจ หญิงสาวถูกจุมพิตที่ไม่หยาบกระด้างแต่ก็ไม่อ่อนโยนถาโถมเข้าใส่จนมึนงงลมหายใจของนางกำลังถูกลมหายใจของเขาที่ร้อนเร่ายิ่งกว่าเตาไฟเผาไหม้จนแทบละลาย ความแข็งขืนมิผ่อนปรนของเขาทำหัวใจของนางเต้นแรง ริมฝีปากของนางถูกเขาครอบครอง ฝ่ามือยังถูกเขากอบกุมยากปัดป้อง เนื้อตัวถูกเขารุกเร้าเอาแต่ใจมากขึ้นเรื่อย ๆเพ่ยหนิงรู้สึกเหมือนวิญญาณถูกสูบ สมองขาวโพลน คล้ายถูกมอมเมาด้วยจุมพิตอันร้อนแรง ร้ายที่สุดก็คือถูกชักจูงด้วยสิ่งที่ฝ่ามือนางกุมแทบไม่หมดนั้นและก่อนที่นางจะขาดอากาศหายใจ เขาค่อยๆ ผละออก แต่ยังคลอเคลียไม่ห่าง ปลายลิ้นที่ไล้เลียเปลี่ยนจูบเร่าร้อนเป็นการละเลียดชิมริมฝีปากอย่างเว้าวอน คล้ายอ้อนวอนให้ช่วยเหลือกัน“ท่านอ๋อง” นางเสียงสั่น“ช่วยหน่อย” เขาสั่งเสียงเข้ม แฝงนัยร้องขอสาวน้อยหลับตา ข่มอารมณ์ข่มใจอย่างยากลำบาก นางปวดมือมากยิ่งนางขยับ เขาก็เหมือนยิ่งขยาย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป...“ท่านเอาแต่ใจเกินไปแล้วนะ”“คืนนั้นเจ้าเอาแต่ใจมากกว่านี้มิใช่หรือไร

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 6 สตรีเอาแต่ใจ 1

    หลังจากนั้นไม่นานตัวนางก็ร้อนรุ่ม รู้สึกถึงเพลิงผลาญที่แล่นพล่านจะไปทั่วตัวก่อนจะพุ่งขึ้นสูงและดิ่งลงต่ำไปที่ท้องน้อย ท้ายที่สุดนางก็ควบคุมตัวเองเอาไว้ไม่อยู่ ร้องขอเขาเสียงสั่นเครือ ขณะทิ้งตัวลงนั่งบนตักของเขาเขาตัวเกร็ง นิ่วหน้ามองพวกเราต่างไม่รู้ว่าในน้ำชามีอันใดขันทีที่อยู่นอกห้องถูกเฉิงอ๋องเรียกมาสอบถามถึงได้รู้ว่าเป็นชาพระราชทานจากฮ่องเต้ที่รัชทายาทแบ่งมาให้สองมือแกร่งที่ประคองบั้นท้ายของนางซึ่งกำลังถูไถไปมาบนหน้าขาของเขาชะงักค้างไปทันที“ไหวหรือไม่?” เขาถามเสียงเครียดนางตอบเสียงสั่น “ไม่ไหว...”หลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกค่ำคืน คือนางไม่ได้ออกจากห้องลับ และเขาก็จะกลับมานอนด้วยแทบทุกคืนไม่รู้ว่าใครติดใจใครเฉิงอ๋องจ้าวเฟิ่งที่แค่กระดิกนิ้วก็มีสาวงามวิ่งตามเป็นพรวนกับนางที่เรียกร้องเขาเพราะยาแค่ครั้งเดียว...หญิงสาวถอนหายใจให้กับความโง่เขลาของตัวเองเป็นครั้งที่เท่าใดมิอาจนับ จากนั้นพลันลุกขึ้น กระชับชุดนางกำนัลไร้สีสันให้แน่นขึ้น ทำท่าจะเดินไปทางเตียงนอนในตอนนี้เอง ประตูเล็กฝั่งที่ติดกับห้องอาบน้ำก็เปิดออก ร่างบุรุษสูงสง่าสวมเพียงเสื้อคลุมเผยแผ่นอกตึงแน่น

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 5 ยาในสุรา4

    นางมองทุกส่วนที่ทรงเสน่ห์นั้นอย่างหลงใหลยิ่งมองก็ยิ่งรู้สึกหวงแหนลำพองใจ ไม่ว่าใครหากได้มองล้วนรู้สึกเฉกเดียวกับนาง“หม่อมฉันหนิงเอ๋อร์เพคะ ท่านอ๋องทรงให้หม่อมฉัน...”ยังพูดไม่จบ นางพลันรับรู้ถึงกลิ่นอายอันตราย ได้ยินบุรุษในถังไม้แค่นเสียงลอดไรฟันว่า “ออกไป”“แต่ว่า ท่านอ๋องเพคะ...”จ้าวเฟิ่งช้อนตาขึ้นมองแวบหนึ่ง “หากเข้ามาอีกครึ่งก้าว เปิ่นหวางจะฆ่าเจ้า”ได้ยินดังนั้น ใครจะกล้ารั้งอยู่ “พ่ะ เพคะ ไปแล้วเพคะ”“ช้าก่อน”เมื่อเสียงเข้มนี้กระทบโสตประสาท หนิงเอ๋อร์พลันชะงักฝีเท้า ในใจลิงโลดทันใด คิดว่าท่านอ๋องต้องทนไม่ไหว คิดเปลี่ยนใจให้นางปรนนิบัติแน่แล้วทว่ายังไม่ทันหันไปยิ้มหวานกลับได้ยินคำพูดเย็นเยียบแทน“ต่อไปอย่าให้เปิ่นหวางได้ยินว่าเจ้าใช้ชื่อนี้อีก”“...!?”“และอย่ามาให้เห็นหน้าอีก ออกไป!”“เอ่อ...ท่ะ”ยังไม่ทันอ้าปาก หลี่อี้ที่ได้ยินพลันเข้ามากระชากตัวนางลากออกไปทันทีประตูห้องอาบน้ำปิดลงอีกครั้ง จ้าวเฟิ่งหลับตาขบกราม จัดการกับตัวเองต่อไปผ่านไปค่อนคืน น้ำในถังกระฉอกไปเกือบครึ่ง แต่พายุอารมณ์ในกายก็ยังไม่ยอมสงบลง จ้าวเฟิ่งหอบหายใจหนักหน่วง ทั้งกระเส่าและถี่กระชั้น

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 4 ยาในสุรา3

    หญิงสาวรวบรวมความกล้าครั้งสุดท้าย วิ่งไปดักหน้าเขา“พี่เฟิ่ง ท่านรู้ดีว่าตั้งแต่ข้าเป็นเด็กหญิงไม่ประสา ในใจข้าก็มีเพียงท่านแล้ว ทำไมเล่า ทำไมท่านไม่มองข้าบ้าง ไยต้องมองหาสตรีที่ไม่คู่ควรที่หายตัวไปทางใดก็ไม่รู้ผู้นั้นด้วย”ฝีเท้าอันหนักอึ้งชะงักกึก หางตาจ้าวเฟิ่งกระตุกเบาๆ หวังซูเหยาเห็นดังนั้นก็เริ่มลำพองใจ สองตาปริ่มน้ำแลดูงดงามหยาดเยิ้มจึงส่งให้ไม่มีลดละ จ้องมองอย่างลึกซึ้งเข้าไปในดวงตาคมดำไร้ก้นบึ้งของเขาอย่างจงใจด้วยสภาพของเขายามนี้หากถูกสตรียื้อเวลาให้ร่วมเสวนา เกรงว่าพรุ่งนี้คงต้องส่งแม่สื่อไปเจรจาหมั้นหมายตามแผนการหวังซูเหยาลอบแย้มยิ้มอยู่ในใจ เมื่อเห็นหนทางสำเร็จรำไรทว่าท้ายที่สุด จ้าวเฟิ่งกลับไม่ใส่ใจว่านางจะรู้เรื่องส่วนตัวของเขามากน้อยแค่ไหน แววตาของเขายังคงเฉยเมยคล้ายผลักไส น้ำเสียงของเขาเย็นเยียบผิดกับอาการร้อนรุ่มในอก“ไม่เกี่ยวว่าข้ามีใครเคียงหรือครองตัวสันโดษ เพราะสิ่งเดียวคือข้าไม่ต้องการเจ้า”กล่าวจบเขาปรายตามองนางนิ่งๆ เดินจากไปอย่างเย็นชาอีกคราที่หวังซูเหยาทำได้เพียงมองเงาร่างสูงสง่าจนลับตา รับรู้เพียงกลิ่นอายรังเกียจที่เขาทิ้งไว้ให้แผ่ซ่าน

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 3 ยาในสุรา 2

    “น้องเหยา เจ้ามาทำอะไรที่นี่” จ้าวเฟิ่งถามเสียงพร่าหญิงผู้นี้มีนามว่า หวังซูเหยา บิดาคือหวังซวี่ ขุนนางใหญ่ในราชสำนัก นับเป็นขุนนางน้ำดีผู้หนึ่ง ส่วนมารดาคือญาติผู้น้องของอดีตฮองเฮาผู้ล่วงลับซึ่งเป็นมารดาของเฉิงอ๋อง กล่าวก็คือ หวังซูเหยานับเป็นสตรีที่ไม่อาจดูเบาในเรื่องสายสัมพันธ์หวังซูเหยามองจ้าวเฟิ่งด้วยสายตาตัดพ้อ มีน้ำตาเอ่อคลอน่าสงสาร สื่อนัยคล้ายต่อว่าสามีที่มิค่อยกลับบ้านมาดูดำดูดีภรรยา“พี่เฟิ่ง รัชทายาททรงให้เหยาเอ๋อร์เข้าวังมาเพื่อพูดคุยกับท่านเรื่อง...เอ่อ...การหมั้นหมายของเราเจ้าค่ะ”ไม่พูดเปล่า นางยังโถมกายอ้อนแอ้นเข้าใกล้ ส่งกลิ่นหอมเชิญชวนให้คนต้องโอบกอดเกินห้ามใจสองแขนงามราวหยกที่เกาะเกี่ยวไหล่หนาคล้ายเกาะเกี่ยวเข้าไปในอณูเนื้อตรงอกด้านซ้าย ความรู้สึกนี้แทรกผ่านเสื้อผ้าเข้าปะทะกล้ามเนื้อหน้าอกทำเอาหัวใจเต้นรัว จ้าวเฟิ่งขนลุกเกรียวลำคอบุรุษแห้งผาก หากเขาคล้อยตามนางสักเล็กน้อย แม้จะกึ่งผลักไสกึ่งโอนอ่อน นางย่อมเป็นของเขาโดยสมบูรณ์ดังใจทว่าจ้าวเฟิ่งแค่ขมวดคิ้ว เม้มริมฝีปากบาง ก้มมองนางนิ่งๆ มิได้กอด แค่ไม่หลบเลี่ยงอาจเพราะร่างกายของเขาตอนนี้กำลังมีความต้อ

  • ยามรักปักใจ   ตอนที่ 2 ยาในสุรา 1

    รัชศกจิ้นหยวนปีที่สิบเก้า กลางเดือนสามในโถงงานเลี้ยงอันโอ่อ่าหรูหรา เบื้องบนฝั่งแท่นประธานปรากฏเรือนร่างสูงศักดิ์ขององค์รัชทายาทเด่นสง่าใบหน้าคมสันหล่อเหลาและงดงามเป็นเอกมีรอยยิ้มน้อยๆ ประดับริมฝีปากสีแดงสดตลอดเวลา ให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าค้นหา ทั้งน่าหลงใหลชวนฝันถึงพระองค์สวมผ้าแพรสีม่วงลายมังกรสีขาวปักดิ้นสีทองอร่าม ขับเน้นให้เผยคำว่า ‘รูปงาม’ ยากหาใดเทียมเขาคือองค์รัชทายาทแคว้นจิน นามจ้าวไท่หรงด้านข้างพระวรกายสูงค่าขององค์รัชทายาทจ้าวไท่หรงคือเรือนร่างสูงใหญ่ในอาภรณ์สีดำเข้มของเฉิงอ๋อง นามจ้าวเฟิ่งเดิมทีหากไม่มีบุรุษสูงศักดิ์ผู้อื่นนอกจากรัชทายาท ทุกสายตาของบรรดาคุณหนูวัยกำดัดทั้งหลายต่างย่อมต้องมองเพียงว่าที่ประมุขแผ่นดินผู้นี้ผู้เดียว ทว่าวันนี้นั้นแตกต่าง เมื่อในงานเลี้ยงมีเฉิงอ๋องอยู่ด้วย ทุกสายตาจึงเปลี่ยนมาจับจ้องที่จ้าวเฟิ่งเป็นตาเดียวเหล่าสาวงามนางรำในห้องรับรองก็เช่นกัน พวกนางต่างแอบมองบุรุษหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมคายเปี่ยมล้นไปด้วยเสน่ห์เหลือร้ายอย่างจ้าวเฟิ่งจนตาเป็นมันหากเอ่ยว่ารัชทายาทหนุ่มทรงหล่อเหลารูปงามเหนือผู้คน บุรุษผู้เหมาะสมเปรียบเทียบเท่าเท

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status