Share

บทที่ 169  

Author: กระต่ายน้อยใต้ดวงจันทร์
ณ สำนักหลิงอวิ๋น

เมื่อเจียงเฟิ่งหัวปรากฏตัวที่สำนักหลิงอวิ๋นด้วยชุดบุรุษแล้ว ถานหว่านชิงถึงกับผงะไป นางมาอยู่ที่นี่กับเหิงอ๋องได้อย่างไร เมื่อไม่กี่วันก่อนนางเพิ่งจะส่งข่าวมาบอกว่าอีกไม่นานจะได้พบนางเร็ว ๆ นี้ คิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้

เซี่ยซางเห็นถานหว่านชิงอ้าปากเหวอจ้องเจียงเฟิ่งหัวตาไม่กะพริบก็ถามว่า “เจ้าสำนักถานรู้จักหรือ”

ถานหว่านชิงตอบตะกุกตะกัก “ชายผู้นี้ดูคุ้นหน้าคุ้นตานัก พวกเราใช่เคยพบกันที่ใดสักที่หนึ่งหรือไม่”

เจียงเฟิ่งหัวอยากจะกลอกตาใส่ ถานหว่านชิงเจ้าคนผู้นี้กำลังจะเล่นละครอีกแล้ว นางเอ่ยด้วยเสียงขรึมว่า “ข้าไม่รู้จักท่าน”

ถานหว่านชิงยื่นมือออกไปคลำลำคอของเจียงเฟิ่งหัวเพื่อตรวจสอบลูกกระเดือก จากนั้นก็มองไปที่รูเจาะหูของนาง “เจ้าเป็นสตรี เช่นนั้นพวกเราจะต้องเคยพบกันมาก่อนแน่”

เจียงเฟิ่งหัวหลบไปอยู่ด้านหลังเซี่ยซาง “คนที่ท่านอ๋องพามาพบหม่อมฉันคือใครหรือเพคะ ไฉนมือเท้าจึงอยู่ไม่สุขนัก หม่อมฉันไม่รู้จักนาง”

ใบหน้าของเซี่ยซางฉายประกายสงสัย “เจ้าสำนักถานเคยพบพระชายาของข้าที่ใดหรือ?”

ถานหว่านชิงเพิ่งจะรู้ตัวว่าเสียมารยาทไปแล้ว “ที่แท้ก็เป็นพระชายาเหิงอ๋อง หว่า
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 170  

    เจียงเฟิ่งหัวเข้าอกเข้าใจอย่างถึงที่สุด นางรู้สึกเศร้าโศกยิ่งนัก สตรีที่มีชะตาชีวิตเหมือนหูเจียวเหนียง แม้แต่งงานไปแล้ว แต่ชีวิตก็มิได้สุขสบาย บัดนี้ยังต้องเลี้ยงดูบุตรอีกสามชีวิต เกรงจะยิ่งลำบากมากกว่าเก่า แต่กระนั้นนางก็ยังมิอาจตัดใจทอดทิ้งลูก ๆ ของตนเองได้ “ท่านอ๋อง” เจียงเฟิ่งหัวจ้องมองเซี่ยซาง “ต่อจากนี้ท่านอ๋องอย่าซื้ออาภรณ์แพรพรรณเครื่องประดับศีรษะใด ๆ ให้หม่อมฉันอีกเลย หม่อมฉันจะบอกพี่หญิงรองของหม่อมฉันด้วยว่ามิต้องส่งสิ่งของเหล่านี้มาให้หม่อมฉันแล้ว เปลี่ยนทั้งหมดเป็นเงินแล้วส่งมาจุนเจือพวกนางดีกว่าเพคะ” “เด็กโง่ หากทุกคนคิดเช่นนี้ พวกนางจะยิ่งมีชีวิตลำบากขึ้นนะ” เซี่ยซางรู้ดีว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะทางการไร้ความสามารถ ราชสำนักไร้ประสิทธิภาพ จึงทำให้คนในแผ่นดินจำนวนมากมายถึงเพียงนี้มิอาจมีชีวิตต่อไปได้ หากว่าทุกคนมีข้าวกิน ใครเล่าจะพาเด็กเหล่านี้มาทิ้ง หากบุรุษรู้จักให้เกียรติภรรยา ก็จะไม่ปล่อยให้หูเจียวเหนียงถูกครอบครัวทารุณ ถูกแม่สามีใจร้ายรังแกแบบนั้น หากว่าคนสารเลวแบบหยางจิ้งลดลง ก็จะไม่มีสตรีถูกข่มเหงย่ำยีศักดิ์ศรีแล้ว เขาในฐานะท่านอ๋อง จะต้องไม่หยุดเพียงแค่คลี่ค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 171

    สองเดือนผ่านไป เจียงจิ่นเหยียนกลับมาแล้ว และยังมีซางอวี๋เพียนเพียนกลับมากับเขาด้วย เจียงเฟิ่งหัวได้เห็นนางอีกครั้งก็ตะลึงงันทันที นางมิใช่องค์หญิงแคว้นเจาซีหรอกหรือ?ราชทูตแคว้นเจาซีกลับแคว้นไปหมดแล้ว เหตุใดนางจึงยังอยู่ที่นี่ กลับมากับพี่ใหญ่ได้อย่างไรนางจำได้ว่าชาติที่แล้วซางอวี๋เพียนเพียนกับพี่ใหญ่ไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กันเลย นางจะได้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดินีแห่งแคว้นเจาซี สิบกว่าปีหลังจากนั้นอาณาจักรต้าโจวกับแคว้นเจาซียังถึงขั้นกระทบกระทั่งกันบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ซางอวี๋เพียนเพียนไม่ได้เจรจาได้ด้วยง่าย ๆ แบบจักรพรรดินีองค์ปัจจุบันเลย นางบอกว่าจะรบ นั่นก็คือจะรบหรือว่านางถูกตาต้องใจพี่ใหญ่ อยากพาพี่ใหญ่ไปเป็นพระราชสวามีที่แคว้นเจาซี หากเป็นเช่นนี้ จางอวี่มั่วรักเขามาตั้งหลายปีขนาดนี้ รอเขามานานขนาดนี้ จะทำอย่างไรกันเล่า หรือว่าจางอวี่มั่วจะยังคงได้แต่รักแต่ไม่ได้ครอบครอง ถึงกับไปสู่ชะตากรรมที่กระโดดลงแม่น้ำเพื่อจบชีวิตตัวเองเหมือนว่าอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงเวลาที่จางอวี่มั่วจะกระโดดแม่น้ำฆ่าตัวตายแล้ว นางจำได้ว่าตอนที่นางจากไป หิมะและน้ำแข็งปกคลุมพื้นผิวทะเลสาบทั้งหมด ร่างของนางจม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 172

    เจียงเฟิ่งหัวไม่ได้คิดถึงขั้นนี้ นางก็เพียงแค่กังวลเรื่องจางอวี่มั่วเท่านั้น นางไม่อยากให้ชีวิตคนคนหนึ่งต้องดับสลายไปแบบนี้ ยิ่งไม่อยากให้พี่ใหญ่ต้องรู้สึกผิดเพราะเรื่องนี้ไปตลอดชีวิต ดังนั้นนางจึงคิดว่านางต้องทำอะไรบ้าง เพื่อช่วยพวกเขานางกล่าว “เดิมทีหม่อมฉันคิดไว้เป็นอย่างดีแล้วว่า รอพี่ใหญ่กลับมา หม่อมฉันก็จะสร้างโอกาสให้เขากับจางอวี่มั่ว แต่ตอนนี้กลับมีซางอวี๋เพียนเพียนโผล่มาอีก”“นางคือองค์หญิงรัชทายาทแห่งแคว้นเจาซีนะ หากนางไม่ได้ครอบครองชายที่นางหมายปองจะเกิดผลร้ายอะไรตามมา” เซี่ยซางเตือนสตินาง “แคว้นเจาซีกับอาณาจักรต้าโจวเพิ่งตกลงเงื่อนไขในการร่วมมือกัน จะทำลายสนธิสัญญานี้เพราะเรื่องความรักของพี่ใหญ่เจ้าไม่ได้เด็ดขาด เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องจัดการให้ดี”เจียงเฟิ่งหัวยิ่งไม่สบายใจ นางคิดว่าตัวเองวางกลยุทธ์ไว้เป็นอย่างนี้ แม้แต่เซี่ยซางก็ยังอยู่ในกำมือนาง แต่ว่าเรื่องบางเรื่องอยู่นอกเหนือการควบคุมของนางเจียงจิ่นเหยียนยังนำข่าวดีกลับมาบอกเซี่ยซางอีกด้วย สิ่งของที่หายไปจากสุสานหลวงแห่งอาณาจักรต้าโจวได้คืนมาครบแล้ว แม้แต่ตราสั่งการกองทัพตัวต้นฉบับของอาณาจักรต้าโจวก็หาพบแล้ว เคร

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 173

    วันนี้จางอวี่มั่วก็มาที่จวนอ๋องสี่นางมองไปแวบแรกก็เห็นเจียงเฟิ่งหัว จึงรีบไปต้อนรับ “คารวะพระชายาเหิงอ๋องเพคะ” “พี่หญิงจางมากพิธีอีกแล้ว” วันนี้นางมาก็เพราะอยากพบจางอวี่มั่วสักหน่อย เดิมทีพี่ใหญ่ของนางกลับมาเมืองหลวงพักใหญ่แล้ว และยังได้รับแต่งตั้งจากฮ่องเต้ให้เป็นขุนนางอีก ก็เริ่มยุ่งกับงานขึ้นมาที่ยิ่งประหลาดกว่านั้นคือซางอวี๋เพียนเพียนไม่ได้พักอยู่ที่ที่พักแรมด้วยสถานะองค์หญิง แต่กลับเข้ามาอยู่ที่จวนสกุลเจียงเลย ทั้งสกุลเจียงกลัวจนตัวสั่นงันงก ไม่มีใครไม่รอบคอบระมัดระวังเรื่องนี้แพร่ไปสู่ด้านนอกไม่มากก็น้อย แต่ว่าทุกคนรู้เพียงว่ามีหญิงนางหนึ่งเข้ามาอยู่จวนสกุลเจียง แต่ไม่รู้ว่านางคือองค์หญิงแห่งแคว้นเจาซี ยังมีคนหยอกเย้าเจียงฮูหยินอีกด้วยว่าสกุลเจียงกำลังจะมีข่าวดีใช่หรือไม่ เนื่องจากลูกชายไม่ได้ตอบรับ มารดาเจียงจึงไม่สะดวกที่จะตอบ ได้แต่บอกอย่างขอไปทีว่าเป็นญาติห่าง ๆ ที่มาขออาศัยอยู่ชั่วคราวเจียงเฟิ่งหัวก็กำลังยุ่งกับเรื่องศาลาการกุศล จึงไม่ได้ส่งจดหมายเชิญไปยังจวนสกุลจางเพื่อนัดพบนางเจียงเฟิ่งหัวกล่าว “พวกเราไปดูท่านหญิงน้อยกันก่อนเถอะ”จางอวี่มั่วกล่าว “ได้ ข้านำทาง

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 174

    ดวงตาของจางอวี่มั่วแดงก่ำไปหมด น้ำตารื้น “เฟิ่งหัว ข้าเข้าใจแล้ว ขอบคุณเจ้าที่ไม่ปิดบังข้า”เจียงเฟิ่งหัวงงงวย นางรู้อะไรเข้าหรือ?เห็นว่าน้ำตาร่วงเผาะลงบนแก้มของจางอวี่มั่ว นางก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งให้นาง “เหตุใดท่านจึงชอบพี่ใหญ่ของข้ากัน ที่จริงแล้วเขาเงียบขรึมไร้อารมณ์ เอาอกเอาใจผู้หญิงให้มีความสุขไม่เป็นอีกด้วย เขาก็แค่หน้าตาหล่อเหลากว่าชายอื่นอยู่บ้างเท่านั้น ไม่มีข้อดีอะไรเลย”“เขาดีกับเจ้ามากเลยนะ เฟิ่งหัว” จางอวี่มั่วกล่าวเจียงเฟิ่งหัวอยากพูดว่านางเป็นน้องสาวของเขาอย่างไรเล่า เขาย่อมดีกับนางเป็นอย่างมากอยู่แล้วก็ได้ยินจางอวี่มั่วกล่าวอีกว่า “ถึงแม้เขาจะเอาใจผู้หญิงให้มีความสุขไม่เป็นก็ไม่เป็นไร ข้าก็ไม่ได้ใส่ใจ” นางชอบที่เขามากความสามารถ ชอบท่าทางอันสง่างามของเขา ชอบทุกสิ่งทุกอย่างของเขานางกล่าว “วันนั้นที่เขาวิ่งเข้ามาคุยกับข้าอย่างกะทันหัน หัวใจข้าแทบจะหลุดออกมาแล้ว”นางถึงขั้นเคยคิดว่าหากเจียงจิ่นเหยียนยินดีรับนางไว้ นางก็ยอมเป็นอนุภรรยาของเขาได้เจียงเฟิ่งหัวรู้สึกว่าเจียงเฟิ่งหัวรักอย่างต่ำต้อยด้อยค่าเกินไปแล้ว เหมือนตัวเองในชาติที่แล้วไม่มีผิด หากจางอวี่มั่ว

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 175

    “ได้ยินว่าเกิดเรื่องกับท่านหญิงน้อย ตอนนี้กำลังตามหมอหลวงให้มารักษาน่ะ”“เป็นเช่นนี้ได้อย่างไรกัน แม่นมกับสาวใช้ล้วนเฝ้าอยู่ข้าง ๆ มิใช่หรือ”“ไม่รู้เหมือนกัน เพียงชั่วขณะ ท่านหญิงน้อยเพิ่งอายุเดือนกว่า ใบหน้านั่นก็เป็นแผลแบบนี้ได้อย่างไร ช่างน่าสงสารจริง ๆ”เซี่ยซางกับเจียงเฟิ่งหัวมาที่เรือนด้านหน้าพอดี ก็เห็นเหล่าสาวใช้สีหน้าตื่นตระหนก เดินด้วยท่าทางร้อนรน ถามดูจึงได้รู้ว่า ที่แท้เป็นเพราะท่านหญิงน้อยถูกคนทำให้ใบหน้าเป็นแผล ทารกอายุแค่หนึ่งเดือนก็ถูกทำให้เสียโฉมเช่นนี้ ใครกันหนอใจไม้ไส้ระกำขนาดนี้เจียงเฟิ่งหัวกับเซี่ยซางล้วนเคยเห็นเด็กคนนั้น ใบหน้าน้อย ๆ เนียนนุ่มเหมือนเต้าหู้ หน้าเล็กยิ่งกว่าฝ่ามือของผู้ชาย คนแบบใดกันใจร้ายขนาดนี้ ไปทำร้ายเด็กเล็กเช่นนี้ได้สองสามีภรรยาก็รีบไปทางเรือนด้านหลังอย่างรีบเร่ง ก็ได้ยินพระชายาอ๋องสี่ร้องห่มร้องไห้จนฟ้าถล่มดินทลาย ส่วนคนที่นางก่นด่ายิ่งเป็นคนที่ทุกคนต่างคาดไม่ถึง ซึ่งก็คือหลัวจื่อฉยง พระชายาอวี้อ๋อง หรือว่าเป็นพระชายาอวี้อ๋องที่ทำร้ายท่านหญิงน้อย?คนที่อยู่รอบ ๆ ก็วิพากษ์วิจารณ์กล่าวโทษ “ตัวเองมีลูกไม่ได้ นางจึงได้ลงมืออย่างอำมหิตเ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 176

    “ข้าไม่ได้ทำ” พระชายาอวี้อ๋องตะโกนใส่นางเจียงเฟิ่งหัวรู้ว่านางกำลังมีโทสะ เมื่อครู่ไม่กล้าตะโกนใส่อวี้อ๋อง และก็ไม่กล้าตะโกนใส่ผู้ที่ใส่ความนาง แต่ยามนี้กลับมาตะคอกใส่นาง นางอยากสะบัดหญิงที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดีนางนี้ทิ้งไป แต่เมื่อคิดว่าหากปล่อยให้เรื่องวุ่นวายเช่นนี้ต่อไป เกรงว่านางคงถูกตีตายแน่หลัวจื่อฉยงเพียงไร้ทายาทและปากร้ายไปหน่อยเท่านั้น ความผิดของนางยังไม่ถึงขั้นตายนางกระซิบเสียงเบาว่า “หากคิดอยากจะยืนยันความบริสุทธิ์ ก็คงต้องเหลือชีวิตอยู่จึงจะทำได้กระมัง หากวันนี้เขาตีท่านจนตาย ท่านอาจถูกครหาว่าฆ่าตัวตายเพราะความผิดด้วย ไม่แน่ว่าตอนนี้ผู้ที่ต้องการให้ร้ายพระชายาอาจกำลังดีใจอยู่ก็ได้” ราชวงศ์นั้นไร้น้ำใจเป็นที่สุด เพื่อศักดิ์ศรีแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดพวกเขาก็ล้วนทำได้ทั้งสิ้นหลัวจื่อฉยงสงบลงในเสี้ยววินาที “เจ้าต้องเชื่อข้านะ”เมื่อนึกได้ว่านางเคยเหยียดหยามเจียงเฟิ่งหัวมาก่อน แล้วนางจะเชื่อนางได้อย่างไรนางน่าจะเหยียบย่ำนางแรงๆ สักรอบจึงจะทำให้นางเปรมปรีดิ์มากกว่านี่อันที่จริงแล้ว นางกับเจียงเฟิ่งหัวก็มิได้มีความแค้นใดต่อกัน ก็แค่เพราะคนเขามีรูปโฉมงดงาม และเซี่ยอวี้ก็มีสันด

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 177

    นางแอบเหลือบมององค์ชายสี่กับพระชายาคราหนึ่ง ชาติก่อน องค์ชายสี่ผู้อ่อนแอไร้ความสามารถก่อกบฏล้มเหลว เซี่ยซางเห็นแก่ความสัมพันธ์พี่น้อง จวนขององค์ชายสี่ทั้งสายจึงถูกเนรเทศไปยังพื้นที่เหน็บหนาวทุรกันดารส่วนอวี้อ๋องที่เป็นปรปักษ์อย่างรุนแรงกับเซี่ยซาง เนื่องจากมัวเมาในนารีจึงใช้ชีวิตอย่างล่องลอยไร้สติไปชั่วชีวิต เขาก็ไม่ได้รับงานสำคัญจากเซี่ยซางเช่นกัน สุดท้ายจวนของอวี้อ๋องก็ตกต่ำ ช่วงชีวิตครึ่งหลังอยู่อย่างน่าเวทนา ได้ยินว่าพระชายาคนใหม่ที่เขาแต่งด้วยไม่ใช่คนว่าง่าย ร้ายกว่าหลัวจื่อฉยงมากนัก นางได้แต่ถอนใจ คนชั่วก็ต้องใช้คนชั่วมาปราบจริงๆ!องค์ชายสามเซี่ยเซวียนเพราะพิการแต่กำเนิด เขาเลือกรักษาตัวรอดอย่างชาญฉลาด ครองคู่กับพระชายาของเขาอย่างอิสรเสรีดุจดั่งนกเป็นน้ำนางก็มิได้รู้สึกเห็นใจพระชายาองค์ชายสี่ที่อยู่เบื้องหน้าเช่นกัน สำหรับผู้ที่กล้าก่อกบฏ นางจะน่าสงสารได้สักเท่าใดพระชายาอวี้อ๋องไม่มีทางเขลาถึงขนาดเลือกวันนี้มาวางแผนทำร้ายทารกที่อายุเพียงเดือนเดียว นอกจากนี้ยังมีข้ารับใช้คอยดูแลอยู่จำนวนมากขนาดนี้อีก นางเพิ่งออกมาท่านหญิงน้อยก็เสียโฉมแล้ว จะบังเอิญถึงเพียงนั้นได้อย่างไร นี่

Latest chapter

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 376  

    เหลียนเย่หยิบมาลองดม รู้สึกเพียงกลิ่นหอมสดชื่นโชยปะทะจมูก หอมยิ่งนัก “หากว่าคุณหนูมีของสิ่งนี้ตั้งแต่เมื่อเยาว์วัยก็คงดี ตอนเด็ก ๆ จะได้ไม่ต้องฝันร้ายบ่อย ๆ อีก” อ้าวเสวี่ยถามเหลียนเย่ “เกิด อะไรขึ้นกับพระชายากันแน่ พวกเจ้ารับใช้พระชายามาตั้งแต่ยังเล็ก เคยเกิดเรื่องน่าสะพรึงกลัวใดขึ้นกับนางมาก่อนหรือไม่?” “ไม่มี คุณหนูมีชีวิตเป็นสุขดีมาตลอด หากว่ายาหอมคืนเรือนสามารถช่วยให้คุณหนูไม่ต้องฝันร้ายอีกเช่นนั้นก็ดีมากแล้วจริง ๆ” ที่เหลียนเย่กล่าวมาเป็นความจริง เช้าตรู่วันต่อมา หลังจากเจียงเฟิ่งหัวตื่นขึ้นมาแล้วนางดูปกติคล้ายว่าไม่เคยมีเรื่องใดเกิดขึ้นมาก่อน เห็นอ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เฝ้าอยู่ในห้องของนาง นางก็เหยียดตัวบิดขี้เกียจพลางกล่าวว่า “เมื่อคืนหลับสบายจริง ๆ ข้ารู้สึกจิตใจปลอดโปร่ง ร่างกายสดชื่นดีมาก พวกเจ้าได้จุดกำยานอะไรเอาไว้หรือไม่?” เหลียนเย่เห็นนางลืมเรื่องเมื่อคืนที่ละเมอร้องไห้ในความฝันไปก็ถามขึ้นว่า “พระชายาจำอะไรไม่ได้เลยหรือเพคะ?” “ข้าต้องจำอะไรได้หรือ?” เจียงเฟิ่งหัวประคองท้องของตนเองเดินลงมาจากเตียงพลางเอ่ยว่า “ข้าจำได้ว่าเมื่อคืนข้ากับเจ้านอนด้วยกัน” “ใช่แล้วเพค

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 375  

    ครั้นส่งสี่หมัวมัวออกไปแล้ว เจียงเฟิ่งหัวเองก็มิอาจใจเย็นอยู่เฉยได้ ซูถิงหว่านต้องมีความทรงจำจากเมื่ออดีตชาติแล้วแน่ ซูถิงหว่านรู้แล้วว่าหลังจากนี้นางจะได้เป็นฮองเฮา เพราะฉะนั้นนางถึงได้ไม่เกรงกลัวเพราะมีสิ่งยึดเหนี่ยว หากมิใช่เพราะการตายของจีเฉินทำให้การเดินทางของนางล่าช้า นางอาจจะมุ่งหน้าไปเขตชายแดนเพื่อรวมตัวกับคนสกุลซูแล้วก็ได้ นางมิอาจเอาความโปรดปรานของเซี่ยซางมาเดิมพันว่าตำแหน่งของนางจะมั่นคง เมื่อวานฝ่าบาทนอกจากพระราชทานสิ่งล้ำค่าให้กับนางเพื่อเป็นรางวัลแล้ว ยังพระราชทานป้ายอาญาสิทธิ์ทองคำส่วนพระองค์ป้ายหนึ่งให้กับนางด้วย ด้านบนมีอักษรเขียนว่า ‘เสมือนฮ่องเต้เสด็จ’ มีมันแล้ว นางก็สามารถเดินผ่านได้ทุกที่ในวังหลวงแม้กระทั่งทั่วทั้งใต้หล้า ตอนแรกนางงุนงงอยู่เล็กน้อย ต่อมาเฉากงกงถึงได้เร่งให้นางรีบกล่าวขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทได้ สัญลักษณ์ของผู้ที่ได้รับป้ายทองอาญาสิทธิ์อันนี้ก็คืออำนาจ คือความไว้เนื้อเชื่อใจที่ฝ่าบาทมีต่อนาง “พระชายา ท่านเป็นอะไรไปเพคะ หน้าซีดเชียวเพคะ” เหลียนเย่เห็นนางเงียบไปนาน เหม่อลอยอยู่ตามลำพัง “เปล่า อาจเพราะเหนื่อยล้าเกินไปหน่อยกระมัง ข

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 374  

    สี่หมัวมัวตกใจกลัวตัวสั่น รีบยั้งปากทันใด ครั้นมาถึงด้านในตำหนักเฉินซี เจียงเฟิ่งหัวก็สั่งให้เหลียนเย่ปิดประตูทันที ทิ้งให้อยู่ในห้องกับสี่หมัวมัวลำพัง เห็นเพียงนางสีหน้าเยือกเย็น พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “สี่หมัวมัว เจ้าคงจะทราบดีว่าคำพูดเมื่อครู่ของเจ้ามีโทษหนักถึงขั้นตัดศีรษะ บัดนี้เสด็จพ่อมีพระพลานามัยแข็งแรงดี ตำแหน่งองค์รัชทายาทยังมิได้แต่งตั้ง เจ้ากลับเผยแพร่คำพูดเหล่านี้โดยพลการ มิเพียงเจ้าจะรักษาศีรษะของเจ้าไว้ไม่ได้ แม้แต่เสด็จแม่ ท่านอ๋องและข้าก็จะพลอยได้รับเคราะห์จากคำพูดประโยคนี้ของเข้าไปด้วย” สี่หมัวมัวตกใจกลัวจนเหงื่อเย็นไหลพราก ๆ “บ่าวทราบเพคะ ดังนั้นบ่าวถึงได้เก็บงำไว้ในใจมาตลอด บางคำมิได้พูด บ่าวเองก็ทุกข์ใจเพคะ หนนี้ถึงได้อยากแจ้งพระชายา อยากให้พระชายาช่วยโน้มน้าวฮองเฮาด้วยเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างจงใจ “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าถ้อยคำเหล่านี้พระชายารองซูเอ่ยกับเสด็จแม่ เจ้ามิได้โป้ปดจริงแน่หรือ” สี่หมัวมัวเล่าอย่างละเอียดไม่มีปิดบัง “ถ้อยคำเหล่านี้บ่าวมิได้เป็นคนพูดเพคะ บ่าวจะกล้าพูดแบบนี้ออกไปได้อย่างไรเพคะ และมิใช่ฮองเฮาเป็นคนตรัสด้วยเพคะ ถ้อยคำเห

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 373  

    ผ่านไปสองวัน ซูถิงหว่านยังไม่กลับมา สุดท้ายแล้วนางเลือกเดินซ้ำรอยเดิมของชาติก่อนติดตามเซี่ยซางไปที่เขตชายแดน และที่น่าขันคือข่าวนี้เฉิงฮองเฮาเป็นคนมาบอกนางด้วยตนเอง ได้ยินเฉิงฮองเฮากล่าวว่า “พระชายารองซูไปที่เขตชายแดนเพื่อช่วยซางเอ๋อร์ทำศึก ซางเอ๋อร์เองก็จำเป็นต้องมีสตรีสักคนคอยดูแลอยู่เคียงข้างกาย ส่วนเจ้าก็ท้องแก่แล้ว ข้าจึงอนุญาตให้นางไป หรวนหร่วนเจ้าคงไม่กล่าวโทษข้ากระมัง” เจียงเฟิ่งหัวผุดยิ้มน้อย ๆ พลางเอ่ยว่า “เสด็จแม่ทรงคิดรอบคอบ ท่านอ๋องมีคนเอาใจใส่อยู่เคียงข้างกายสักคนก็นับว่าดีเพคะ เพียงแต่เหมันต์ฤดูอากาศข้างนอกหนาวเย็นยิ่งนัก และอีกไม่นานก็จะถึงวันปีใหม่แล้ว พระชายารองซูเป็นสตรีตัวคนเดียวเดินทางไปเช่นนั้นจะปลอดภัยหรือเพคะ” “นางมีวรยุทธ์ติดตัว และมีกองทัพสกุลซูปกป้องคุ้มครอง ปลอดภัยไร้กังวล เราเห็นว่านางก็มิได้มีท่าทีอิดออดอะไร” “เป็นเช่นนี้ก็ดียิ่งนักเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ฮองเฮาเปลี่ยนใจรวดเร็วเสียจริง ตอนแรกยังคัดค้านเซี่ยซางอย่างสุดกำลังไม่ให้พาสตรีไปออกศึก อ้างว่าจะไม่เป็นสิริมงคล ถึงขั้นทำลายความองอาจน่าเกรงขามของหัวหน้าแม่ทัพ ทว่าบัดนี้กลับอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 372  

    เจียงเฟิ่งหัวออกจากตำหนักคุนหนิงก็ตรงไปยังตำหนักเฉินซีทันที ในตอนนั้น เห็นนางกำนัลคนหนึ่งท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ ก็โพล่งเสียงตำหนิออกไป “ใคร” อ้าวเสวี่ยตั้งรับทันที ไม่รอให้นางเดินเข้าไปใกล้ อวิ๋นฟางก็เดินงก ๆ เงิ่น ๆ มาหยุดเบื้องหน้าเจียงเฟิ่งหัว “บ่าวคารวะเพคะพระชายา” เจียงเฟิ่งหัวเห็นนางชัดถนัดตาแล้วก็แอบคิดเงียบ ๆ ในใจ นางมีฝีมือไม่เบาเลยทีเดียว แอบลอบกลับวังมาได้ ทว่าด้วยสถานการณ์ของนางตอนนี้ ซูถิงหว่านไม่มีทางปล่อยนางไปแน่ นางจนตรอกไม่มีทางถอยแล้ว จำต้องวิ่งเข้ามาหลบในวังถึงจะไม่ถูกคนไล่ล่า อ้าวเสวี่ยและเหลียนเย่เองก็ชะงักงันไปแล้วเช่นกัน อวิ๋นฟางช่างกล้าหาญยิ่งนัก กล้ากลับเข้ามาในวังหลวงอีก พวกนางคิดว่าหลังจากอวิ๋นฟางหนีไปทางประตูหลังของเขตเมืองหลวงแล้ว นางจะหนีออกไปจากเมืองเซิ่งจิง อย่างน้อยก็ต้องหนีให้ห่างไกลจากเรื่องวุ่นวาย ปกป้องชีวิตไว้เป็นสำคัญ “เข้ามาเถิด!” เจียงเฟิ่งหัวกล่าว อวิ๋นฟางตามเข้าไปในตำหนักเฉินซี นางกำนัลได้ต้มน้ำร้อนเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว ภายในห้องอบอุ่นเป็นอย่างยิ่ง ภายใต้แสงตะเกียงสว่างรุบรู่ อวิ๋นฟางก็เริ่มขะมักเขม้นทำงานสารพัดทั้งยกน้ำเทน้ำ นางยังกระตือ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 371  

    เฉิงฮองเฮาเปิดเปลือกตา ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบว่า “มาแล้ว จัดการเรื่องข้างนอกวังเรียบร้อยดีแล้วหรือยัง? ออกจากวังไปครึ่งเดือนแล้วมิใช่หรือ!” เจียงเฟิ่งหัวท่าทางมิได้หยิ่งยโสเกินควรแต่ก็มิได้ถ่อมตัวจนเกินเหตุ “ทูลเสด็จแม่ จัดการเหมาะสมเรียบร้อยดีแล้วเพคะ” “ข้าได้ยินว่าเมื่อสิบวันก่อนสินค้าและวัตถุดิบถูกส่งไปหมดแล้ว” แม่สามีของนางก็ดูจะวางมาดขึ้นเช่นกัน ราวกับต้องการให้นางยอมเชื่อฟังคำสั่งสอน เหมือนกับเมื่อชาติก่อนไม่มีผิด “เพคะ เพียงแต่ของที่ส่งออกไปเมื่อสิบวันก่อนเป็นแค่ชุดแรกเพคะ เพราะมีจำนวนมากเกินไป ชุดต่อไปจะต้องทยอยลำเลียงออกไปเพคะ” เจียงเฟิ่งหัวกล่าวอย่างละเอียด มองแล้วอ่อนโยนนอบน้อม สงบเสงี่ยมเรียบร้อยมารยาทเพียบพร้อมไร้ที่ติ แม้แต่เฉิงฮองเฮายังมิอาจหาจุดใส่ไฟได้เลย “ลุกขึ้นมานั่งเถิด” น้ำเสียงของเฉิงฮองเฮาฟังดูดีขึ้นเล็กน้อย “ซางเอ๋อร์มีสกุลซูคอยจุนเจือ บัดนี้เด็กในครรภ์ของเจ้าสำคัญเหนือสิ่งใด อย่ามัวเพ่นพ่านด้านนอกมากนัก อย่าไปข้องเกี่ยวกับสตรีในหมู่ขุนนางราชสำนักมากเกินไป ที่สำคัญจงอย่าได้มัวละโมบใฝ่หาความดีความชอบจนลำดับความสำคัญผิดไป” เจียงเฟิ่งหัวคิดในใจ ตอนอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 370

    “เพคะ สะใภ้รับบัญชา”จากนั้น เจียงเฟิ่งหัวก็วางหมากลงไปตัวหนึ่ง “เสด็จพ่อ ทรงแพ้แล้วเพคะ”ฮ่องเต้เหลือบมองกระดานหมากคราหนึ่ง เริ่มจากความตกตะลึง ตามด้วยสีหน้ามืดครึ้มที่มองไม่ออก จากนั้นก็ทรงหัวเราะออกมาว่า “ดูเหมือนเราไม่อาจไม่ตกรางวัลนี้แล้ว มาเล่นอีกตา หากเจ้าชนะเราอีก เราก็จะมอบรางวัลให้อีกครั้ง”เจียงเฟิ่งหัวเก็บหมากบนกระดานขึ้นมาอย่างเยือกเย็น ไร้ความลนลาน “ลูกก็ชนะมาได้อย่างหวุดหวิดเพคะ ต้องเป็นเพราะเมื่อครู่เสด็จพ่อทรงฟังลูกพูดเพลิน จึงได้ออมมือให้ลูกแน่เลยเพคะ”“เจ้าคงไม่รู้สินะ หลายวันมานี้เรามีราชโองการเรียกตัวบิดาของเจ้าเข้าวังมาเดินหมากเป็นเพื่อนเราทุกวัน เขากลับไม่เคยชนะเราเลยสักตา ช่างน่าเบื่อนัก แต่เขาบอกว่าบุตรสาวของเขาเป็นยอดฝีมือในการเดินหมาก เรายังคิดว่าเขาพูดเกินจริงเสียอีก แต่วันนี้ หลังได้เดินหมากไปกระดานหนึ่งเราก็เชื่อแล้ว”“ท่านพ่อก็เหมือนยายหวังขายแตง ที่ชอบขายเองชมเองเพคะ ต่อให้บุตรสาวของท่านจะทำสิ่งใดไม่เป็นเลย ท่านก็รู้สึกว่าดีอยู่ดีเพคะ”“ยังถ่อมตัวเข้าเสียแล้ว เมื่อมาเป็นลูกสะใภ้ของราชวงศ์เรา แค่การถ่อมตนอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ในอนาคตยังต้องช่วยซางเอ

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 369

    เมื่อเจียงเฟิ่งหัวกลับวังก็ถูกฮ่องเต้เรียนตัวไปที่ห้องทรงอักษร หลังนางรายงานเรื่องภารกิจที่ฮ่องเต้มอบหมายให้นาง ก็วางแผนจะกลับตำหนักคุนหนิงไปคารวะฮองเฮาแต่จู่ๆ ฮ่องเต้ก็ตรัสขึ้นมาว่า “ได้ยินว่าพระชายาของเหิงอ๋องชำนาญการวางหมาก เราอยากหาคนมาเล่นด้วยสักตาพอดี ว่าอย่างไร จะอยู่เล่นเป็นเพื่อนเราสักตาหรือไม่”เจียงเฟิ่งหัวคารวะลงรอบหนึ่งด้วยมารยาที่พอเหมาะ ไม่ถ่อมตัวไม่เย่อหยิ่ง แล้วกล่าวอย่างเคารพว่า “เคารพมิสู้เชื่อฟัง สะใภ้ย่อมทำตามพระบัญชาของเสด็จพ่อเพคะ แต่หากเสด็จพ่อทรงเป็นฝ่ายปราชัย ลูกจะขอรางวัลจากเสด็จพ่อสักอย่างได้ไหมเพคะ”ฮ่องเต้ตรัสว่า “อยากได้อะไรก็พูดมาได้เลย หากเจ้าเอาชนะข้าได้ ก็ถือเป็นรางวัลที่เจ้ามีผลงานใดการทำคดี แต่หากพ่ายแพ้ รางวัลก็จะไม่มีแล้วนะ”เจียงเฟิ่งหัวแอบคิดว่า “ฮ่องเต้ยังคงเป็นพวกที่ไม่ยอมเสียเปรียบ ถึงกับเอารางวัลของนางมาใช้เดิมพันหมาก หากนางชนะหมากควรนับเป็นรางวัลพิเศษไม่ใช่หรือ!”“เพคะ” นางตอบอย่างว่าง่ายเพราะในท้องของเจียงเฟิ่งหัวมีเด็กอยู่ เพื่อดูแลเด็กในท้องของนาง จึงให้หัวหน้าขันทีเฉายกโต๊ะที่สูงขึ้นเล็กน้อยเข้ามาตัวหนึ่งมาใช้แก้ขัด และยังเตรียม

  • ย้อนชะตาวิวาห์รัก ชาตินี้ข้าขอเป็นฮองเฮา   บทที่ 368

    คนทั้งสองเท้าสะเอวหัวเราะขึ้นมา “คนที่คิดจะช่วยคุณหนูหลินของเราไถ่ตัวมีเต็มไปหมด ท่านต่อแถวไม่ทันหรอก อีกอย่าง ท่านก็ไม่มีคุณสมบัตินั้นด้วย อย่าได้เพ้อฝันอีกเลย” คุณหนูหลินไม่ขาดแคลนเงินทอง ทั่วทั้งหออี๋ชุนล้วนอยู่ใต้การตัดสินใจของนาง ไม่จำเป็นต้องไถ่ตัวเพราะนางไม่มีสัญญาขายตัว“ข้าจะต้องแต่งนางเป็นภรรยาให้ได้ พวกเจ้ารอก่อนเถอะ” กัวเซี่ยวตัดสินใจเด็ดขาดแล้วว่าจะแต่งกับหลินอวี่ให้ได้ในบรรดาเหล่าคุณชายตระกูลใหญ่ กัวเซี่ยวก็พอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง เขาหน้าตาไม่เลว ชาติตระกูลก็ไม่เลว เขาจึงคิดว่าหลินอวี่ไม่มีทางปฏิเสธแน่ได้ยินเขาพูดเช่นนั้น จื่อฮุ่ยจึงเอ่ยบ้างว่า “หากคิดจะแต่งกับคุณหนูของข้า นอกเสียจากว่าท่านจะเป็นจอหงวน นั่นอาจพอมีโอกาสบ้าง ไม่เช่นนั้นก็อย่าได้เสียเวลาอีกเลย”กัวเซี่ยวตะลึงงันไปแล้ว ที่เขาไม่ชอบที่สุดก็คือการอ่านตำรานี่แหละเห็นเขายังคงไม่ยอมจากไปอีก พวกนางก็ไม่อยากเปลืองน้ำลายกับเขาแล้ว จึงตีกัวเซี่ยวจนสลบแล้วโยนเขาออกไปนอกหออี๋ชุนเสียเลย “ช่างน่ารำคาญเหลือเกิน คนที่อยากแต่งงานกับคุณหนูของข้าตอนนี้ต่อแถวไปถึงนอกประตูเมืองนู่นแล้ว ค่อยๆ ไปต่อแถวเถอะ” พวกนางย่อมไม่เห็น

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status