ข้ามีอายุหลายร้อยปีเป็นราชินีในหมู่ปีศาจ มีพลังอำนาจมหาศาล แต่สิ่งเดียวที่ไม่มีวันลืม คือภาพชายคนรักสิ้นใจในอ้อมอก ข้าต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวมานานแสนนานเพื่อรอคอยชายอันเป็นดั่งดวงใจ และตอนนี้ข้าทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว เมื่อชายคนรักได้ไปเกิดในภพชาติใหม่ ภพที่มีแต่ความโลภ โกรธ หลง เข่นฆ่ากันไม่เว้นแต่ละวัน และใจข้ายิ่งร้อนดั่งไฟเมื่อชายคนรักที่เฝ้าคะนึงหากำลังหมั้นหมายกับหญิงอื่น พวกเขาทั้งคู่ดูเหมาะสมกันราวกับสวรรค์จงใจสร้าง แต่สวรรค์แล้วไงในเมื่อเขาคือคนรักของข้า!! ต่อให้เย้ยฟ้าท้าสวรรค์ข้าก็จะทวงทุกอย่างกลับคืนมา
Voir plusลิขิตรัก 1
ปฐมบทแห่งการจากลา
“อะ อึก แค่กๆ ละ ลันเซีย พะ พี่คงมาได้ คะ แค่นี้…” ร่างชายหนุ่มสวมชุมเกราะ หน้าตาราวกับเทพบุตรลงมาจุติ ดวงตาสีเขียวมรกตซึ่งแตกต่างจากเผ่าพันธุ์ปีศาจส่วนใหญ่ที่มีสีแดงคล้ายท้องนภายามเย็น อกด้านซ้ายมีโลหิตจำนวนมากไหลทะลักออกมา ด้านข้างมีสตรีงดงามยิ่งกว่าเทพธิดาใดๆ ดวงตาประกายแดงสั่นไหว หยาดน้ำตาหลั่งรินไหลดวงทหัยสลาย
“ท่านพี่ ดะ ได้โปรด ฮึก อย่าจากข้าไป” เสียงสะอื้นของสตรีอันเป็นที่รัก ทำให้เทพหนุ่มอยากดึงร่างบางตรงหน้ามากอดปลอบแต่ก็ต้องเจียมตัวเมื่อสถานะของเขาและนางนั้นต่างกันเหลือเกิน ความรักต่างเผ่าพันธุ์นี้ โชคชะตาไม่อาจลิขิต แต่ทว่าเขาและนางแอบฝืนลิขิตนั้น และตอนนี้สวรรค์คงกำลังลงโทษ
เรื่องมันเกิดขึ้นจากปีศาจที่คิดกบฏบุกเข้ามาหมายจะล้มล้างอำนาจของท่านจอมมารผู้ซึ่งเป็นบิดาของนาง โดยใช้นางเป็นเหยื่อล่อ มันหนักหนานักสำหรับปีศาจที่มีอายุเพียง 20 ปี สำหรับมนุษย์นั้นอายุเท่านี้ก็สามารถออกเรือนได้แต่สำหรับลันเซียยังเด็กมาก พลังมนตรา ก็ยังมีจำกัด ถึงแม้ร่างกายนางจะโตเต็มวัยแล้วก็ตาม ต่างจากเขาที่อายุ 500 ปี เป็นเทพบำเพ็ญเพียรตบะ มีพลังมหาศาลแต่เลือกทรยศเผ่าพันธุ์เพียงแค่อยากอยู่กับนางอันเป็นที่รัก จนต้องปลอมตัวเป็นปีศาจนักฆ่าเพื่อจะได้อยู่ใกล้ชิดกับนาง ซึ่งแลกมาด้วยพลังชีวิตที่สั้นลง ขณะที่เขากำลังปกป้องนางอยู่ จู่ๆได้ถูกหนึ่งในกบฏใช้มีดศาสตราซึ่งเป็นมีดสังหารเทพแทงเข้าอกด้านซ้าย
“ยะ อย่าได้ร้องไห้ ชะตา อึก ได้กำหนดมาแล้ว…” เอื้อมมือที่เปื้อนโลหิตจับดวงหน้าของนาง แววตาไม่มีความเจ็บปวดอันใด มีเพียงภาพสะท้อนหญิงอันเป็นที่รักคล้ายจะเก็บภาพความทรงจำไว้ครั้งสุดท้าย ส่งรอยยิ้มให้บางเบา พร้อมอธิฐานต่อฟ้าดิน
ถ้าภพหน้าเราได้พบกัน ขออย่าให้มีสิ่งใดพรากนางไปจากข้าอีกเลย…
เทพหนุ่มคิดก่อนจะสิ้นใจท่ามกลางความโศกเศร้าของปีศาจสาวที่บัดนี้ดวงตาสีแดงข้างหนึ่งได้แปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างโกรธจัด
“ม่ายยยยยยยยยยย !!!” สิ้นสุดเสียงตะโกนแทบขาดใจของนาง ความโกลาหลก็เริ่มขึ้น ท้องฟ้าเกิดความปั่นป่วน ป่าทึบที่มักเงียบสงบกลับมีพายุหมุนรุนแรง พัดพาทุกสรรพสิ่งลอยไปอย่างไม่มีจุดหมายคล้ายกำลังแสดงความพิโรธตามแรงอารมณ์ของว่าที่ราชินีปีศาจ
พลังอำนาจสามารถทำลายล้างทุกอย่างที่ขวางหน้า สายลมเสมือนคมดาบได้ห้ำหั่นปีศาจทรราชอย่างอำมหิต ผ่าร่างปีศาจร้ายตนแล้วตนเล่าแยกเป็นชิ้นๆน่าสยดสยอง แววตาไม่มีความรู้สึกใดๆ ทั้งเวทนาหรือสงสาร ผมสีฟ้าอมเขียวที่มักส่องประกายสยายอย่างงดงามแปรเปลี่ยนเป็นสีดำแห่งรัตติกาลทันที
‘เพราะพวกมันทำให้ท่านจากข้าไป !!’ หยาดน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าหลั่งริน เจ้าตัวไม่คิดจะเช็ดมันออก แววตาฉายความมืดมิดออกมาอย่างชัดเจน มีเพียงความเจ็บปวดก่อขึ้นภายในใจ นางคลั่งแค้นพวกมันทุกตนแต่กลับไม่รู้ตัวเลยว่าความแค้นที่ได้บันดาลโทสะลงไป ได้กลายเป็นสายลมหมุนห้ำหั่นเข่นฆ่าพวกมันอย่างเลือดเย็น ท่ามกลางสายตาตกใจของบริวารปีศาจตนอื่น
500 ปีผันผ่าน
ปีศาจสาวผู้ซึ่งมีนัยน์ตาสีโลหิต ผมสีฟ้าอมเขียวสยายอย่างสวยงาม ใบหน้างดงามกว่าปีศาจหรือเทพใดในใต้หล้า แม้เหล่านางอัปสรสวรรค์ยังมิอาจเทียบ ณ บัดนี้กลับแลดูเยือกเย็น น่าค้นหา ดวงตาจ้องมองไปที่ภาพในกระจก ที่ซึ่งฉายภาพสถานที่แปลกตา มีผู้คนพลุกพล่าน มองไปรอบๆเห็นแท่นนั่งรูปร่างแปลกประหลาดและอาคารรอบๆเป็นสีน้ำตาล ขณะนั้นเองนางเห็นชายหญิงคู่หนึ่งเดินออกมาจากอาคารหลังนั้น
เป็นชายคนรักของนางไม่ผิดแน่ ท่านอาคเนย์ที่นางเฝ้ารอมานานแสนนาน แม้จะผ่านไปหลายร้อยปี กายภายนอกแตกต่างไปจากเดิมเล็กน้อย แต่แววตาความอบอุ่นนั้นนางยังจำมันได้ดี แต่แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด
“บังอาจ !!” นางเปล่งเสียงด้วยความโมโห ดวงตาแดงก่ำ จ้องมองภาพนิมิตในกระจกศิลามณีที่สามารถมองเห็นได้ทุกอย่างตามใจต้องการ สะท้อนภาพหญิงสาวที่เดินมาด้วย สะดุดล้มแล้วมีคนรักของนางเข้ามาประคอง แววตาของเขาฉายแววห่วงใยอย่างชัดเจน นางโกรธจนตัวสั่นเพราะเขาไม่เคยต้องกายหญิงใดนอกจากนาง มองหญิงอื่นด้วยสายตาห่วงใยนอกจากนาง
“ราชินีท่าน…”
“ออกไป !!” บริวารปีศาจสาวรีบออกไปตามคำสั่งของเจ้านาย ตอนนี้ในห้วงความคิดของนางไม่มีสิ่งใดนอกจากภาพของเขาประคองกอดหญิงอื่น ขณะเดียวกันภาพในกระจกก็ดับวูบไปด้วยพลังอำนาจของผู้เป็นราชินี
“ท่านลืมข้าแล้วหรือ ท่านอาคเนย์…” ดวงตาคู่สวยฉายแววตัดพ้อ หรือเป็นเพราะห้วงเวลาอันยาวนาน ทำให้ท่านลืมข้าไป ไหนเล่าคำสาบาว่าจะรักเพียงข้า
นางเสมองไปนอกหน้าต่างด้วยความปวดร้าว เปล่งเสียงแผ่วเบาอย่างเจ็บช้ำ ทิ้งตัวลงนั่งคล้ายคนหมดแรง
ไม่ได้ ข้าต้องทำอะไรสักอย่าง
นางคิดหาหนทางพลันสิ่งหนึ่งก็ปรากฏในความคิด นับเป็นความหวังเล็กๆของนางและสุดท้ายจึงได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ แววตากลับมาทอประกายอีกครั้ง
“แล้วพบกัน ท่านอาคเนย์”
ลิขิตรัก 4ครอบครัวใหม่หญิงสาวสวมอาภรณ์สีดำสนิท ขับให้เส้นผมสีรัตติกาลเงางามกลืนกินไปกับความมืดมิดแต่มิอาจบดบังความงดงามได้เลย นางเดินไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมาย ผ่านสัตว์อสูรมากมาย ที่จ้องมองร่างบางอย่างหิวโหย ทว่าสัญชาตญาณของมันบอกว่าอย่าได้ริเข้าไปยุ่งกับหญิงผู้นี้เป็นอันขาด ร่างกายเกิดความเหนื่อยล้าเนื่องจากเดินมาไกล จึงหยุดพักใต้ร่มไม้ใหญ่และผลอยหลับไปในที่สุด“แม่หนู แม่หนู” ชายชราที่กำลังขนสินค้าผ่านมา เห็นหญิงสาวนอนอยู่ใต้ต้นไม้จึงนึกเป็นห่วง เพราะสถานที่ตรงนี้เป็นเขตสัตว์อสูรย่อมอาจเป็นอันตราย ไม่มีใครเขามานอนเล่นกันหรอก ตนที่เป็นพ่อค้า ต้องขนสินค้าอย่างไม่สามารถเลี่ยงทางนี้ได้เพราะเป็นทางผ่านทางเดียวที่จะเข้าเมือง จึงได้หยุดเกวียนพร้อมเอ่ยเรียก“อะ เอ่อ ท่าน…” ร่างบางตื่นขึ้นมา ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่ยามใด มองซ้ายทีขวาทีอย่างมึนงง“ตรงนี้อันตรายยิ่งนัก หากเจ้าอยากพักผ่อนต้องเดินไปอีก 2 ลี้ จึงจะเข้าเขตเมือง” (
ลิขิตรัก 3ฝืนลิขิต“ท่านจะไปจริงๆหรือ…” เสียงทุ้มลึกของนักฆ่าหนุ่มผู้มากความสามารถเอ่ยถามอย่างสงสัย โฉมหน้าภายนอกนั้นผู้พบเห็นเป็นต้องลุ่มหลงมัวเมาด้วยรูปลักษณ์แต่ใครจะล่วงรู้ว่าเขาได้ชื่อว่าเป็นบุรุษที่โหดเหี้ยม ฆ่าผู้อื่นได้อย่างเลือดเย็นหากมาขวางทางราชินีของตน แววตาเย็นชาทำให้ปีศาจสาวหลายตนอยากถวายตัวให้ยิ่งนัก แต่ก็ต้องเศร้าใจเพราะดวงใจของเขาไม่มีไว้ให้ผู้ใดนอกจากหญิง ‘ผู้นั้น’ แม้มิอาจเอื้อม ทำได้เพียงแหงนมองเสมือนสัตว์เลี้ยงผู้ซื่อสัตว์มองเจ้านายก็ตาม“ข้าตัดสินใจแล้วซันซัส” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา เหม่อมองทิวทัศน์เห็นธรรมชาติสุดแสนจะงดงาม เวลานี้ไม่ใช่เวลามาชื่นชมความงามของมัน ภายในใจกระวนกระวายด้วยความสับสนยามคิดถึงคำพูดของบิดาบัดนี้นางกำลังทิ้งหน้าที่อันใหญ่หลวงเพียงต้องการทำตามเสียงเรียกร้องของดวงใจ แม้นางจะยืนกรานอยากไปแต่ใครจะรู้ว่าใจนางนั้นแสนจะสับสนและกลัว…“ท่านกำลังสับสน…”&nbs
ลิขิตรัก 2โลกมนุษย์“ลูกว่าอันใดนะ…” สุรเสียงทรงอำนาจของบุรุษผู้ปกครองโลกปีศาจเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ เหตุใดบุตรสาวที่มักเย็นชาของตนถึงเอ่ยเช่นนั้น รอบข้างมีข้าราชบริภารและเหล่าเสนาทั้งหลายที่ต่างตกใจไม่แพ้กันเมื่อหมื่นปีก่อนในสายตาของส่วนใหญ่มองปีศาจน่ากลัวและอัปลักษณ์ มีจิตใจโหดเหี้ยม เข่นฆ่ากันเองและระรานสวรรค์ชั้นฟ้า ไม่มีผู้ใดล่วงรู้เลยว่าแท้จริงแล้วปีศาจเป็นพวกรักสงบ ชอบบำเพ็ญเพียรและสั่งสมบารมีแรงกล้าจะมีแต่พวกนอกรีตเท่านั้นที่มักระรานไปทั่วจนนำภัยมาสู่โลกปีศาจเอง สาเหตุหนึ่งเพราะอดีตโลกปีศาจเคยมีกษัตริย์ปกครองเห็นแก่ตัว หลงมัวเมาในอำนาจและนารี เป็นเหตุให้มีปีศาจตนหนึ่งผู้มีอำนาจและพลังตบะแรงกล้า แม้นปีศาจด้วยกันเองยังต้องยำเกรงและขนานนามปีศาจตนนั้นว่า ‘จอมมาร’จอมมารได้ปราบกษัตริย์ที่ปกครองปีศาจลง เมื่อเห็นว่าปีศาจตนนั้นไม่สมควรปกครองโลกปีศาจอีกต่อไปโดยได้ร่วมมือกับสวรรค์ชั้นฟ้าทั้งหลายที่ได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของปีศาจตนนั้น
ลิขิตรัก 1ปฐมบทแห่งการจากลา“อะ อึก แค่กๆ ละ ลันเซีย พะ พี่คงมาได้ คะ แค่นี้…” ร่างชายหนุ่มสวมชุมเกราะ หน้าตาราวกับเทพบุตรลงมาจุติ ดวงตาสีเขียวมรกตซึ่งแตกต่างจากเผ่าพันธุ์ปีศาจส่วนใหญ่ที่มีสีแดงคล้ายท้องนภายามเย็น อกด้านซ้ายมีโลหิตจำนวนมากไหลทะลักออกมา ด้านข้างมีสตรีงดงามยิ่งกว่าเทพธิดาใดๆ ดวงตาประกายแดงสั่นไหว หยาดน้ำตาหลั่งรินไหลดวงทหัยสลาย“ท่านพี่ ดะ ได้โปรด ฮึก อย่าจากข้าไป” เสียงสะอื้นของสตรีอันเป็นที่รัก ทำให้เทพหนุ่มอยากดึงร่างบางตรงหน้ามากอดปลอบแต่ก็ต้องเจียมตัวเมื่อสถานะของเขาและนางนั้นต่างกันเหลือเกิน ความรักต่างเผ่าพันธุ์นี้ โชคชะตาไม่อาจลิขิต แต่ทว่าเขาและนางแอบฝืนลิขิตนั้น และตอนนี้สวรรค์คงกำลังลงโทษเรื่องมันเกิดขึ้นจากปีศาจที่คิดกบฏบุกเข้ามาหมายจะล้มล้างอำนาจของท่านจอมมารผู้ซึ่งเป็นบิดาของนาง โดยใช้นางเป็นเหยื่อล่อ มันหนักหนานักสำหรับปีศาจที่มีอายุเพียง 20 ปี สำหรับมนุษย์นั้นอายุเท่านี้ก็สามารถออกเรือนได้แต่สำหรับลันเซียยังเด็กมาก พลังมนตรา ก็ยังมีจำกัด ถึงแม้ร่างกายนางจะโตเต็มวัยแล้วก็ตาม ต่างจากเขาที่อายุ 500 ปี เป็นเทพบำเพ็ญเพียรตบะ มีพลังมหาศาลแต่เลือกทรยศเผ่าพ
Commentaires