ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)

ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ร้ายกาจ (ยุค80)

last update최신 업데이트 : 2025-08-25
에:  sanvittayam방금 업데이트되었습니다.
언어: Thai
goodnovel16goodnovel
평가가 충분하지 않습니다.
31챕터
60조회수
읽기
서재에 추가

공유:  

보고서
개요
목록
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.

อยู่ดี ๆ ก็ทะลุมิติมาเป็นสะใภ้ของบ้านหลี่ที่ใครต่างก็เบือนหน้าหนีเพราะเธอนั้นสุดแสนจะร้ายกาจ นิสัยยังเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจ ทำให้นีรชาแทบอยากจะตายอีกครั้งหากไม่มีสองแฝดที่น่ารักน่าเอ็นดูคอยยิ้มให้!!

더 보기

1화

บทที่ 1 รับวิญญาณมาผิดดวง

บทที่ 1 รับวิญญาณมาผิดดวง

ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกลางเมืองหลวง

ภาพบรรยากาศในร้านเวลานี้กำลังวุ่นวายเนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยง ทำให้พนักงานและคนที่ใช้ชีวิตอยู่บริเวณนี้ต่างก็มาใช้บริการร้านนี้กัน เนื่องจากคุณภาพอาหารที่ดีแล้ว ราคานั้นเจ้าของร้านยังคิดไม่แพง เป็นราคาที่ทุกคนจับต้องได้ แม้ร้านจะดูหรูหราเหมือนเป็นร้านของคนร่ำรวยก็ตาม

“ทั้งหมดห้าร้อยเก้าสิบบาทค่ะ รับมาหนึ่งพันบาท เงินทอนสี่ร้อยสิบบาท ขอบคุณมากคุณลูกค้านะคะที่มาอุดหนุน” นีรชา เจ้าของร้านแสนสวยกำลังสาละวนทอนเงินให้กับลูกค้าที่ต่อแถวจ่ายเงินกันอยู่ แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่หญิงสาวกลับมีรอยยิ้มให้กับลูกค้าเสมอ

ความวุ่นวายแบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน จวบจนถึงเวลาบ่ายสาม วัตถุดิบและข้าวของที่ร้านก็หมด นี่จึงเป็นเวลาพักของหญิงสาวและพนักงานทุกคน

“เฮ้อ...เหนื่อยจังเลย” หญิงสาวเอ่ยขึ้น พร้อมกับเอนหลังไปกับพนักพิงเก้าอี้ แต่แล้วอยู่ ๆ เธอก็เกิดเจ็บหน้าอกขึ้นมา

“ซี๊ด...ทำไมช่วงนี้เจ็บหน้าอกบ่อยจัง คงต้องหาเวลาว่างไปหาหมอสักหน่อยแล้ว” เธอพูดขึ้นมาตามลำพัง ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า โดยไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว

“ที่นี่ที่ไหนกัน ทำไมมีแต่หมอกควันแบบนี้ล่ะ!!” นีรชาเมื่อรู้สึกตัวขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกำลังเดินอยู่ในที่แห่งหนึ่งที่มีแต่หมอกควันหนาที่แทบจะไม่เห็นอะไรเลย จึงพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ

ทันใดนั้นกลับมีเสียงทรงพลังดังขึ้นมา พร้อมกับภาพบรรยากาศโดยรอบที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “ที่นี่คือสถานที่สำหรับคนตายแล้ว

และเจ้าเองก็หมดลมหายใจไปแล้ว เรามาดูกันเถิดว่าระหว่างกรรมดีกับกรรมชั่วเจ้ามีสิ่งไหนมากกว่ากัน นางสาวนีรชา...”

ในขณะที่กำลังอ่านชื่ออยู่นั้น ยมทูตท่านนี้พลันหน้าเปลี่ยนสีไปทันทีแล้วก็อุทานออกมาด้วยความตกใจสุดขีด “นี่มันอะไรกัน!!”

ที่ยมทูตตกใจขนาดนั้นเป็นเพราะรายชื่อที่มีนั้นกลับไม่ใช่หญิงสาวตรงหน้า ‘แล้วแบบนี้เราจะทำอย่างไรดีล่ะ เวลาของที่นี่กับโลกมนุษย์ต่างกันมากเหลือเกิน แล้วหากวิญญาณของนีรชาคนนี้ยังไม่ถึงที่ตายเราจะ

ทำยังไงดี...’ ยมทูตได้แต่ถามตัวเองอยู่ในใจด้วยความหวาดหวั่น เพราะนี่คือการทำงานพลาดอย่างมากที่สุดในชีวิตการเป็นยมทูตของเขา

หญิงสาวรับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงที่เย็นชา และภาวนาว่าคงไม่เหมือนในละครหรือนิยายที่เคยอ่านว่าเอาวิญญาณมาผิดดวงหรอกนะ

“หมายความว่ายังไงคะท่าน หรือว่าท่านเอาวิญญาณมาผิดดวงเหมือนในละคร”

“....” ยมทูตทำหน้านิ่ง ๆ อย่างพยายามคิดหาวิธีแก้ไขอยู่

“ว่ายังไงคะท่าน” ยิ่งไม่มีคำตอบกลับมา หญิงสาวยิ่งมั่นใจว่าเธอนั้นคาดเดาถูกต้อง จึงถามจี้ออกไปอีกเพื่อคาดคั้นเอาคำตอบ

“เอ่อ...เจ้าใจเย็น ๆ ก่อนนะ ข้าอธิบายได้ คะ คือว่า.. ข้าเอาวิญญาณมาผิดดวงน่ะ” ยมทูตที่โดนจ้องถามมาก็พยายามยกมือให้หญิงสาวใจเย็น ๆ และอธิบายอย่างตะกุกตะกัก

“ห๊ะ..เอาวิญาณมาผิดดวง” หญิงสาวทวนคำพูดของยมทูตอย่างตกใจ และพยายามตั้งสติก่อนจะถามออกไปอีกครั้ง “แล้วท่านจะอธิบายฉันอย่างไรคะ เรื่องที่ท่านเอาวิญญาณมาผิดดวง” นีรชาโกรธแทบควันออกหู การเอาวิญญาณมาผิดดวงนี่คืออะไร 

“เอ่อ...ข้าขอโทษ เอาเป็นว่าข้าจะส่งเจ้าไปเกิดใหม่ในที่ดี ๆ ก็แล้วกันนะ” ยมทูตเห็นอาการของหญิงสาวว่ากำลังโกรธก็รีบพูดขึ้นมา

“เหอะ ท่านก็พูดง่ายนะคะ แม้ว่าฉันจะเป็นเด็กกำพร้า แต่ฉันก็มีชีวิตที่ดีมาตลอด ฉันมีทรัพย์สินมากมายที่ยังไม่ได้ใช้ แล้วท่านจะจะให้ฉันทำอย่างไร พินัยกรรมก็ไม่ได้ทำไว้ สามีก็ยังไม่เคยมี แต่กลายเป็นว่าฉันใช้ชีวิตยังไม่คุ้มเลย แต่ต้องมาตายเพราะยมทูตรับวิญญาณมาผิดดวงนี่นะ” หญิงสาวยืนกอดอกสวนกลับคำพูดของอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ เพราะคิดว่าตนเองนั้นยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยก็มาตายเสียแล้ว แถมตายแบบผิดธรรมชาติอีกด้วย

“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไรเล่า เวลานี้ร่างกายของเจ้าคงทำพิธีเผาจนเหลือแต่เถ้ากระดูกแล้ว หากไม่ให้ข้าส่งเจ้าไปเกิดใหม่ เจ้าจะยอมเป็นวิญญาณเร่ร่อนอย่างนี้หรือไง” ยมทูตเอ่ยขึ้นมาบ้าง ตั้งแต่ทำงานมานี่เป็นครั้งแรกที่รับวิญญาณมาผิดดวง หากท่านพญายมรู้เข้า มีหวังเขาถูกทำโทษจนไม่ได้ไปเกิดแน่นอน

“เอาเป็นว่า ฉันขอพรวิเศษได้หรือเปล่าล่ะ ในเมื่อต้องไปเกิดใหม่เป็นใครไม่รู้” หญิงสาวพูดถึงข้อแลกเปลี่ยนขึ้นมา เพราะถ้าหากยมทูตตนนี้ส่งเธอไปเกิดผิดพลาดอีก อย่างน้อยก็ไม่ต้องกลัวอดตาย และที่สำคัญเธอเคยอ่านนิยายมาบ้าง อย่างไรก็ต้องได้ของวิเศษเหมือนในนิยายสิ

ยมทูตรู้สึกคล้ายกับกินยาขม เพราะเวลานี้ไม่ต่างกับการถูกกรรโชกทรัพย์อย่างไรก็ไม่รู้ แต่เพราะความผิดพลาดของตนเองจึงยินยอมที่จะให้พรแก่หญิงสาว จึงถามออกไปเพื่อหยั่งเชิง “เจ้าอยากได้อะไรไหนลอง

บอกมาสิ”

“ข้อแรก ฉันต้องการมิติ ในนั้นต้องมีร้านอาหารและที่พักเดิมรวมถึงทรัพย์สินของฉันก่อนที่จะตาย เพราะถ้าเกิดเป็นลูกคนจนหรือเป็นเด็กกำพร้า อย่างน้อยเรื่องนี้ก็ไม่ทำให้ฉันอดตาย

ข้อสอง ฉันต้องการตาทิพย์ที่มองทะลุข้าวของที่ปิดทึบ และที่สำคัญฉันจะต้องสามารถมองทะลุก้อนหินทุกก้อนได้ เพราะหากสามารถมองทะลุหินที่เป็นหยกและพวกอัญมณีราคาแพงได้ นั่นจะทำให้ฉันสามารถสร้างเม็ดเงินและกิจการได้โดยไม่ต้องกลัวว่าต่อไปจะลำบาก

ข้อสาม ฉันต้องการปัจจัยสี่ทั้งหมดเพื่อดำรงชีวิตทุกอย่าง ทั้งของเด็กและคนโต เพราะถ้าท่านส่งฉันไปในยุคยากลำบากเหมือนในนิยายที่มีให้อ่านตามเวปต่าง ๆ ฉันจะแย่เอาน่ะสิหากไม่มีของกินของใช้ที่ต้องดำรงชีวิต”  

นีรชาบอกถึงความต้องการของตนเองพร้อมกับบอกเหตุผลว่าเพราะอะไร ในเมื่อยมทูตตนนี้ยังรับวิญญาณของเธอมาผิดดวง การที่จะส่งเธอไปเกิดใหม่นั้นจะไม่ผิดพลาดหรือยังไง อย่างไรก็กันไว้ก่อนดีกว่า

“ข้อแรกและข้อสองฉันให้ได้ เพราะมันเป็นความผิดฉัน มีของสองสิ่งนี้ติดตัวก็ไม่ทำให้เธอลำบากแล้วไม่ว่าจะไปเกิดที่ไหน แต่ข้อสาม ปัจจัยสี่ในการดำรงชีวิต มันเยอะมาก หากเธอไม่ระบุว่าต้องการอะไรบ้างฉันคงทำให้ไม่ได้...” ทันทีที่พูดจบก็หันไปมองนีรชา ทว่าสายตาที่เธอส่งมานั้นทำให้เขารู้ได้ว่าความซวยกำลังจะมาเยือนถ้าไม่ทำตามที่เธอต้องการ ดังนั้นเขาจึงรีบพูดขึ้นอีกครั้ง

“เอาแบบนี้ไหม ฉันจะใส่ห้างสรรพสินค้าไว้ให้ในมิติก็แล้วกัน

เธอต้องการอะไรก็เลือกเอาเองเถอะ” ว่าแล้วยมทูตตนนี้ก็ใช้นิ้วตวัดไปมาคล้ายกำลังวาดภาพ ไม่นานก็ปรากฏสร้อยหยกเส้นหนึ่งให้ที่คอของหญิงสาว จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างพอใจแล้วพูดขึ้นอีกครั้ง

“นั่นคือสร้อยมิติ มันจะอยู่กับตัวเธอโดยไม่มีใครเห็น เดินตามฉันมาเถอะ ฉันจะพาไปเกิดใหม่” 

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวใช้มือจับสร้อยหยกแล้วยิ้มอย่างพอใจก่อนจะเอ่ยขอบคุณ

จากนั้นนีรชาจึงเดินตามยมทูตท่านนี้ไปทันที ทว่าจู่ ๆ กลับมีใครก็

ไม่รู้มากระแทกจากทางด้านหลังจนหญิงสาวตกบ่อน้ำดัง ตู้ม!!

“ซวยแล้ว นีรชาจะแช่งฉันไหมเนี่ย แต่อย่างไรของที่ให้ไปคงทำให้เธอใช้ชีวิตอย่างไม่ลำบากนะ”

ยมทูตกล่าวด้วยเสียงเบา และหวังว่าจะไม่ต้องเจอกับหญิงสาวอีก และขอให้หญิงสาวมีความสุขกับชีวิตใหม่

หมู่บ้านชิงหวง

ห้องเล็ก ๆ ที่อยู่หลังบ้านข้างครัว มีเด็กสาวคนหนึ่งนั่งมองร่างของพี่สะใภ้ด้วยสายตาหวาดกลัว พร้อมกับโอบอุ้มหลานวัยเจ็ดเดือนไว้ใน

อ้อมกอด โดยมีร่างของหญิงวัยกลางคนนั่งอยู่ไม่ไกลกัน

“แม่คะ พี่สะใภ้จะเป็นอะไรไหมคะ” เด็กสาวเอ่ยถามแม่ตนเองเมื่อเห็นว่าพี่สะใภ้ยังไม่ยอมฟื้น

“เจียวเหมยไม่เป็นอะไรหรอก แม่กลัวว่าหากฟื้นขึ้นมาแล้วรู้ว่าใครกลั่นแกล้งจนจมน้ำ แล้วจะลุกมาอาละวาดอีกน่ะสิ แม่ไม่อยากจะมีเรื่องกับบ้านใหญ่” หญิงวัยกลางคนพูดขึ้นมาพร้อมกับมีสีหน้าหนักใจ หล่อนมีชื่อว่า ‘หนิงหงชุน’ แม่ของเด็กสาวที่ชื่อ ‘หลี่เหว่ยเหลียน’ และยังเป็น

แม่สามีของ หญิงสาวที่นอนสลบอยู่นั่นเอง

펼치기
다음 화 보기
다운로드

최신 챕터

더보기

댓글

댓글 없음
31 챕터
บทที่ 1 รับวิญญาณมาผิดดวง
บทที่ 1 รับวิญญาณมาผิดดวงร้านอาหารแห่งหนึ่งในกลางเมืองหลวงภาพบรรยากาศในร้านเวลานี้กำลังวุ่นวายเนื่องจากเป็นช่วงพักเที่ยง ทำให้พนักงานและคนที่ใช้ชีวิตอยู่บริเวณนี้ต่างก็มาใช้บริการร้านนี้กัน เนื่องจากคุณภาพอาหารที่ดีแล้ว ราคานั้นเจ้าของร้านยังคิดไม่แพง เป็นราคาที่ทุกคนจับต้องได้ แม้ร้านจะดูหรูหราเหมือนเป็นร้านของคนร่ำรวยก็ตาม“ทั้งหมดห้าร้อยเก้าสิบบาทค่ะ รับมาหนึ่งพันบาท เงินทอนสี่ร้อยสิบบาท ขอบคุณมากคุณลูกค้านะคะที่มาอุดหนุน” นีรชา เจ้าของร้านแสนสวยกำลังสาละวนทอนเงินให้กับลูกค้าที่ต่อแถวจ่ายเงินกันอยู่ แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนแต่หญิงสาวกลับมีรอยยิ้มให้กับลูกค้าเสมอความวุ่นวายแบบนี้เกิดขึ้นทุกวัน จวบจนถึงเวลาบ่ายสาม วัตถุดิบและข้าวของที่ร้านก็หมด นี่จึงเป็นเวลาพักของหญิงสาวและพนักงานทุกคน“เฮ้อ...เหนื่อยจังเลย” หญิงสาวเอ่ยขึ้น พร้อมกับเอนหลังไปกับพนักพิงเก้าอี้ แต่แล้วอยู่ ๆ เธอก็เกิดเจ็บหน้าอกขึ้นมา“ซี๊ด...ทำไมช่วงนี้เจ็บหน้าอกบ่อยจัง คงต้องหาเวลาว่างไปหาหมอสักหน่อยแล้ว” เธอพูดขึ้นมาตามลำพัง ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า โดยไม่รู้เลยว่าตนเองนั้นจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกแล้ว“ที่นี่ท
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 2 อยากจะตายอีกครั้ง
บทที่ 2 อยากจะตายอีกครั้งนีรชาได้ยินคนสองคนคุยกันอยู่ไม่ไกล แต่ไม่ใช่ภาษาบ้านเกิดของเธอ แม้อยากจะลืมตาขึ้นมาแต่ก็ลืมไม่ขึ้น อาจจะเพราะร่างกายนี้ยังไม่หายดีจึงได้นอนฟังหญิงต่างวัยสองคนนี้พูดคุยกันต่อ“นั่นสิคะ พี่สะใภ้มักจะไม่ค่อยยอมใครเสียด้วย ต่อให้ไปหาความจริง ก็คงจะไม่มีใครยอมออกหน้ามาเป็นพยานให้ หมู่บ้านนี้มีใครชอบพี่สะใภ้บ้างคะ ว่าแต่บ้านเราถูกให้แยกครัวออกมาแล้ว ทำไมปู่กับย่าถึงไม่ยอมให้พวกเราแยกบ้านค่ะ หรือหวังเงินที่พี่ใหญ่ส่งมาให้”หลี่เหว่ยเหลียนเอ่ยขึ้นมา เนื่องจากพี่ชายของเธอนั้นทำงานต่างเมือง และเงินเดือนที่ได้รับจะต้องแบ่งเข้ากองกลางครึ่งหนึ่ง แต่ตั้งแต่พี่ใหญ่แต่งงานมา พี่สะใภ้ก็ไม่ยอมแบ่งให้เหมือนเดิม โดยอ้างว่าไม่ต้องกตัญญูขนาดนั้นเพราะพ่อของเราได้ตายไปแล้ว จึงให้เพียงไม่กี่หยวนเท่านั้นทำให้ย่าไม่พอใจอย่างมาก จึงให้บ้านสามทุกคนย้ายมาอยู่ห้องเก็บของนี้ และให้แยกกันทำอาหาร แต่ยังให้บ้านสามรับผิดชอบซื้อเนื้อมาให้เดือนละหนึ่งครั้งเรื่องนี้ตอนแรกฟางเจียวเหมยไม่ยอม แต่เพราะแม่สามีขอไว้จึงยังไว้หน้าแม่สามี เลยซื้อเนื้อมาให้เดือนละครั้ง!!“เรื่องนี้แม่ก็จนปัญญา เพราะพี่ชา
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 3 ไม่ทิ้งคราบสะใภ้ร้ายกาจ
บทที่ 3 ไม่ทิ้งคราบสะใภ้ร้ายกาจเมื่อเห็นว่าแม่สามีกำลังจะออกจากห้องไป ฟางเจียวเหมยจึงรีบร้องห้าม “แม่ไม่ต้องออกไปหรอก ดูหลานอยู่ในห้องเถอะ ข้างนอกนั่นฉันจัดการเอง” พูดจบเธอก็ลุกขึ้นยืนเหมือนกับคนที่ไม่ได้ล้มป่วยมาก่อน“ตะ...แต่” หนิงหงชุนมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกเพราะไม่ต้องการให้ลูกสะใภ้มีเรื่องกับบ้านใหญ่“ไม่มีแต่ค่ะ หรือแม่ต้องการให้ฉันอาละวาดตรงนี้” หญิงสาวพยายามนึกถึงท่าทางเดิมของร่างนี้ ก่อนจะพยายามแสดงออกมาให้เหมือนที่สุด จะได้ไม่เป็นที่ผิดสังเกต“ได้ ได้จ้ะ แม่จะอยู่ดูหลานนะ” เมื่อเห็นท่าทีของลูกสะใภ้คล้ายจะกลับมาร้ายกาจเหมือนเดิม หนิงหงชุนจึงตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักจากนั้น ฟางเจียวเหมยจึงได้ออกมาจากห้องเก็บของที่เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวสาม เมื่อออกมาก็พบกับหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งมาพร้อมกับหญิงสาวคนหนึ่ง“แม่สามีหล่อนล่ะ ไม่ออกมาด้วยเหรอ” ซ่งเจียฮุยสะใภ้ใหญ่ของบ้านใหญ่หลี่เอ่ยขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ“แล้วทำไมแม่ต้องออกมาล่ะ มีอะไรก็พูดกับฉันได้นี่นา” หญิงสาวถามกลับด้วยดวงตาใสแป๋วคล้ายกับไม่รู้จุดประสงค์ของอีกฝ่ายว่าถามถึงแม่สามีของตนเองทำไมเมื่อเจอท่าทางที่ไม่เคยพบ
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 4 สะใภ้ที่น่ารังเกียจ
บทที่ 4 สะใภ้ที่น่ารังเกียจกลับมาทางด้านซ่งเจียฮุย เมื่อเข้ามาในบ้านแล้วก็รีบวิ่งมาบอกแม่สามีทันที “แม่ค่ะ ตอนนี้บ้านสามช่างปีกกล้าขาแข็งขึ้นมา เวลานี้สะใภ้สามไม่ยอมออกมาทำงานอีกแล้วค่ะ”ย่าหลี่ที่กำลังนั่งเอนกายอยู่ เมื่อลูกสะใภ้คนโปรดมารายงานว่าบ้านสามไม่ยอมออกมาทำงานจึงยกเท้ากระทืบกับพื้นด้วยความไม่พอใจ “หน็อย นังสะใภ้สามเอาความกล้ามาจากที่ไหนถึงไม่ยอมออกมาทำงาน เหอะ! คิดว่าฉันจะยอมหรือไง” ท่าทางของย่าหลี่นั้นดูโมโหมาก เพราะไม่คิดบ้านสามที่ไม่มีเสาหลักของครอบครัวจะกล้าแข็งข้อกับบ้านใหญ่แบบนี้“ฉันไม่เห็นน้องสะใภ้ออกมา แต่คนที่พูดคือ...” ซ่งเจียฮุยรีบพูดอีกครั้งและทำท่าทางเหมือนไม่อยากจะพูดออกมาเท่าไรนัก“นังหลานสะใภ้ร้ายกาจอีกละสิ” ย่าหลี่เอ่ยขึ้นมาด้วยความฉุนเฉียว เพราะรู้อยู่แล้วว่าใครที่พูดแบบนี้“ใช่ค่ะแม่ หลานสะใภ้พูดว่าพวกเราก็มีมือมีเท้าไม่ได้พิการก็ทำกันเองสิ ทำไมต้องใช้บ้านสามด้วย...” จากนั้นซ่งเจียฮุยจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่หล่อนและลูกสะใภ้เจอให้แม่สามีฟังอย่างละเอียด นี่จึงทำให้แม่เฒ่าหลี่ไม่พอใจบ้านสามยิ่งกว่าเดิม และคิดว่าจะต้องกำราบหลานสะใภ้คนนี้เสียแล้ว“มันใช้
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 5 แม้จะลำบากก็ต้องสู้เพื่อครอบครัว
บทที่ 5 แม้จะลำบากก็ต้องสู้เพื่อครอบครัวส่วนทางด้านฟางเจียวเหมยก็เดินออกมาพร้อมกับรอยยิ้มมุมปาก และพูดขึ้นมาเบา ๆ ว่า “นี่ยังน้อยไปค่ะย่า ป้าสะใภ้ใหญ่ ฉันจะปั่นป่วนบ้านใหญ่จนกว่าจะทนไม่ได้แล้วไล่บ้านสามและตัดขาดกับบ้านสาม เมื่อถึงเวลานั้นความสงบสุขก็จะกลับมาเยือนอีกครั้ง”หลี่เหว่ยเหลียนที่อยู่ในเหตุการณ์มาตลอดรู้สึกขนลุกกับท่าทีและรอยยิ้มของพี่สะใภ้ ก่อนหน้านี้ความร้ายกาจของพี่สะใภ้นั้นเธอและทุกคนล้วนรู้ดี แต่ความรู้สึกหลังจากนี้บอกว่ามันจะเป็นอย่างที่พี่สะใภ้ของเธอพูดจริง ๆเมื่อมาส่งน้องสามีที่ห้อง ฟางเจียวเหมยก็กำชับว่าห้ามเปิดประตูห้องจนกว่าเธอจะกลับมา“อย่าเปิดประตูห้องต้อนรับใครเด็ดขาดจนกว่าฉันจะกลับมาเข้าใจไหม บอกแม่ด้วย แม่ยิ่งหัวอ่อนอยู่” เธอสั่งด้วยน้ำเสียงเข้มงวด“ค่ะ พี่สะใภ้” เด็กสาวตอบรับด้วยความหวาดกลัว และก็ยังก้มหน้าก้มตาเหมือนเดิม“โอ๊ย!! ฉันจะบ้าตาย ทั้งแม่ ทั้งน้องสามี ทำไมขี้กลัวอย่างนี้เลิกก้มหน้าก้มตาเสียทีเถอะ ถ้าอยากหลุดออกจากขุมนรกของบ้านหลังนี้ เราต้องสู้ เข้าใจไหม” หญิงสาวพูดออกมาอย่างขัดใจและอยากจะบ้าตายเมื่อเจอท่าทางของน้องสามี“เอ่อ...เข้าใจค่ะ ฉันจะพ
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 6 ค้าขายครั้งแรก
บทที่ 6 ค้าขายครั้งแรกฟางเจียวเหมย หลังจากเดินออกมาจากบ้านแล้ว หญิงสาวก็เดินตามทางมาเรื่อย ๆ ก่อนจะหลบเข้าข้างทางเพื่อตรวจสอบมิติที่ได้มา“ในนี้มีร้านอาหาร บ้านพักและห้างสรรพสินค้าจริง ๆ ด้วย แต่ถ้าฉันต้องสำรวจทั้งหมดคงเสียเวลาไม่น้อย เอาแบบนี้ก็แล้วกัน ฉันไปหาอาหารที่ร้านอาหารก่อนดีกว่า” หญิงสาวพูดกับตัวเองในตอนที่สำรวจทุกอย่างคร่าว ๆ แล้วจากนั้นหญิงสาวจึงเข้าไปที่ร้านอาหารของตนเองและตรวจสอบว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งในห้องเย็นที่เก็บวัตถุดิบนั้นมีทุกอย่างที่เธอต้องการ ก่อนที่เธอจะเลือกเนื้อหมู และผัก รวมถึงเครื่องปรุงเพื่อจะเอาออกไปประกอบอาหารเย็นนี้ เมื่อได้อาหารมาแล้ว เธอจึงเดินไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อเลือกดูขอใช้ให้ลูกๆ รวมถึงแม่และน้องสามี เนื่องจากเสื้อผ้าที่ใส่นั้นล้วนแต่มีรอยปะทั้งนั้น ก่อนจะเลือกเสื้อผ้าผู้ชายมาอีกหลายชุด ตามขนาดของพี่ชายและสามีของร่างนี้“เลือกเสร็จทุกอย่างแล้ว แต่เวลายังเหลือ ลองเข้าไปที่ตลาดมืดดีกว่า ต่อให้มีการเปิดให้ชาวบ้านทำการค้าได้ แต่อาหารก็ยังมีจำกัด ไม่แน่ว่าอาจจะหาลู่ทางหาเงินได้บ้าง”พูดจบแล้วเธอก็หาจักรยานที่คล้ายกับของยุคนี้มากที่สุด ก่อนจะปิดบังใบห
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 7 ของฝากที่น่าอิจฉา
บทที่ 7 ของฝากที่น่าอิจฉาฟางเจียวเหมยใช้เวลาอยู่ในตลาดมืดพักใหญ่ เมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องกลับบ้านแล้ว และวันนี้เธอก็หาเงินได้หลายร้อยหยวน เลยตั้งใจจะกลับไปทำมื้อเย็นที่อร่อยให้ทุกคนกิน และตั้งใจจะไปชวนพี่ชายของร่างนี้มากินด้วย เพราะที่ผ่านมาไม่ว่าพี่ชายจะไปล่าสัตว์อะไรมาได้ ก็มักจะเอามาแบ่งปันเธอเสมอในขณะที่ปั่นจักรยานกลับบ้าน หญิงสาวก็ใช้สายตาสอดส่องดูสองข้างทาง เผื่อว่าจะมีร้านค้าให้เช่า เพราะเงินไม่กี่ร้อยหยวนที่มีอยู่ตอนนี้ไม่น่าจะเซ้งร้านหรือว่าซื้ออะไรได้ อย่างน้อยเธอต้องหาเงินเพื่อซื้อตึกสักหลัง เพื่อเปิดร้านอาหารอย่างที่เธอถนัด และตั้งใจว่าจะเปิดร้านขายของให้พี่ชายด้วย เพราะถ้ายังอยู่บ้านฟางที่แม่เลี้ยงจอมวายร้ายคุมทุกอย่างในบ้านชาตินี้พี่ชายของเธอคงลืมตาอ้าปากไม่ได้แน่ ๆเมื่อเดินทางมาใกล้หมู่บ้าน ฟางเจียวเหมยจึงหลบเข้าข้างทางเพื่อเก็บจักรยานไว้ในมิติ และเอาของทั้งหมดที่เตรียมไว้ออกมา โดยใส่ตะกร้าแล้วสะพายไว้ข้างหลัง ก่อนจะเดินกลับเข้าหมู่บ้านด้วยท่าทีปกติ“เจียวเหมย น้องเข้าเมืองมาเหรอ มาเถอะ ส่งตะกร้ามาพี่เดี๋ยวพี่จะช่วยแบกเอง”ระหว่างทางนั้น เธอกลับได้ยินเสียงเรียกข
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 8 วางแผนจะแยกบ้าน
บทที่ 8 วางแผนจะแยกบ้าน“คิดอย่างที่ถี่ถ้วนแล้วใช่ไหม พี่ขอถามหน่อยสิว่า เจียวเหมยรู้จักพ่อค้าคนกลางได้อย่างไร และขายอะไรถึงได้กำไรมากมายขนาดนั้น”ฟางลู่เฉินตัดสินใจถามน้องสาวออกไป ที่ถามไม่ใช่เพราะอิจฉาหรือว่าต้องการอะไรของน้อง แต่เพราะเป็นห่วงกลัวว่าน้องสาวจะถูกหลอกนั่นเอง จึงได้ถามออกมาพร้อมกับสีหน้าที่มีความกังวลไม่น้อย“พี่ใหญ่ไม่ต้องกังวลไปหรอก ต่อให้ฉันจะเคยร้ายกาจแต่ตอนนี้ก็เริ่มมีความคิดแล้ว ฉันสงสารพี่อี้ข่ายที่ต้องทำงานคนเดียว อยู่ห่างลูกเมียและครอบครัว เป็นเวลาหลายเดือนถึงจะได้กลับมาบ้านสักครั้ง อีกอย่างนะพี่ ตอนนี้ฉันมีลูกแล้ว ความคิดความอ่านก็ต้องเปลี่ยนไปบ้างล่ะ ฉันขอยังไม่บอกนะคะว่ารู้จักคนกลางได้ยัง ส่วนของที่ขายแล้วได้กำไรเยอะก็เป็นพวกเนื้อ พวกอาหารที่หายาก จึงทำกำไรได้มากแบบนี้” หญิงสาวตอบกลับพี่ชายพร้อมกับยิ้มให้อย่างเจ้าเล่ห์ โดยไม่ยอมความลับของเธอออกไป “งั้นแม่ขอถามได้ไหมว่าเจียวเหมยมีความคิดจะทำอย่างไร เรื่องที่จะให้บ้านใหญ่ยอมแยกบ้านกับเรา” คราวนี้หนิงหงชุนเอ่ยขึ้นมาบ้าง เนื่องจากเธอมองไม่เห็นทางเลยว่าจะสามารถแยกบ้านได้ เพราะที่ผ่านมานั้นเธอและลูกชายเคยพูดกับพ
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 9เป็นไปอย่างที่คิด
บทที่ 9เป็นไปอย่างที่คิดฟางเจียวเหมยอมยิ้ม ไม่คิดว่าทะลุมิติมาครั้งนี้จะมีพี่ชายที่รักตนเองมากอย่างนี้ “พี่ใหญ่ทำเท่าที่ไหวก็พอนะ อย่าฝืนตัวเอง จำแผนการที่เราคุยกันก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ละ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกับทวนความทรงจำที่พูดคุยกันก่อนหน้านี้กับพี่ชายฟางหลู่เฉินเกาท้ายทอยเล็กน้อยด้วยความเขิน เพราะเขาลืมเรื่องนี้ไปแล้วทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่คนลืมง่ายขนาดนั้น แต่คิดว่าประเดี๋ยวน้องสาวก็ลืมเช่นกัน “อืม พี่จะทำเท่าที่พวกเราจะอยู่ที่นี่ ตกลงไหม? มาเถอะเดี๋ยวพี่ช่วยก่อฟืนตั้งเตา”จากนั้นชายหนุ่มจึงเดินไปหยิบหินก้อนใหญ่ที่พอจะเอามาทำเป็นขาเตาได้ ก่อนจะลงมือก่อไฟให้น้องสาวด้วยความอบอุ่นหัวใจ เพราะมันนานแล้วเหลือเกินที่เขาและน้องสาวได้ใช้ชีวิตด้วยกันแบบนี้ฟางเจียวเหมยเมื่อเห็นว่าพี่ชายก่อเตาให้เรียบร้อยแล้ว ก็รีบมาจัดการในส่วนของตนเอง หญิงสาวหยิบกระทะใบใหญ่มาวางบนเตา ก่อนจะจัดการปรุงอาหารอย่างแรกด้วยความคล่องแคล่ว ส่วนพี่ชายอย่างฟางหลู่เฉินนั้นยกหม้อมาอีกใบเพื่อหุงข้าวช่วยน้องสาวสองพี่น้องต่างก็ช่วยกันทำอาหารอย่างขมักเขม่นและเต็มไปด้วยความคล่องแคล่ว จนหนิงหงชุนและหลี่เหว่ยเหลียนที่พาหลานฝาแฝ
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
บทที่ 10 ด่ามาด่ากลับไม่โกงค่ะ
บทที่ 10 ด่ามาด่ากลับไม่โกงค่ะ“แล้วมันผิดตรงไหนคะ ในเมื่อพี่ใหญ่คือพี่ชายฉัน ส่วนบ้านใหญ่มีสายเลือดของฉันหรือเปล่า ถึงได้มาเรียกร้องอย่างกับ...” ประโยคสุดท้าย ฟางเจียวเหมยเลือกที่จะไม่พูด แต่ให้คนบ้านใหญ่คิดเอาเอง“นี่แกกล้าด่าย่าสามีเหรอนังเจียวเหมย อีกอย่าง แกแต่งเข้าบ้านหลี่ ของทุกอย่างย่อมต้องเป็นของบ้านหลี่สิ มันไม่เกี่ยวอะไรกับบ้านเดิม หากจะชวนคนอื่นกินอาหาร หล่อนต้องชวนบ้านใหญ่ก่อนสิ นี่อะไรกลับชวนบ้านเดิมของตัวเองมากินโดยไม่ชวนบ้านใหญ่ แบบนี้มันถูกต้องที่ไหนกัน” ซ่งเจียฮุยตอบด้วยความโกรธจัด เมื่อคิดว่าอีกฝ่ายด่าตนเองและบ้านใหญ่“ฉันด่าย่าตรงไหนป้าสะใภ้ช่วยบอกหน่อยสิ แล้วการที่ฉันแต่งเข้าบ้านสามหลี่ก็ใช่ว่าของฉันที่นำติดตัวมาจะต้องให้บ้านหลี่ทั้งหมด ฉันใช้เงินจากสินเดิมของตัวเองซื้ออาหารและข้าวของมาให้ใครมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน บ้านใหญ่เกี่ยวอะไรด้วยล่ะ” ฟางเจียวเหมยย้อนกลับอย่างไม่เกรงกลัว อย่างไรร่างนี้ก็คือสะใภ้ที่ขึ้นชื่อว่าร้ายกาจอยู่แล้ว หากจะด่ากลับพวกเห็นแก่ตัวคงไม่แปลกอะไรเหมือนกันเมื่อเจอคำตอบนี้ คนบ้านใหญ่ก็ถึงกับพูดไม่ออก แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้เพราะต้องการอาหารพวกนี้กลับ
last update최신 업데이트 : 2025-08-21
더 보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status