/ รักโบราณ / ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น / ตอนที่ 8 เสียงกระซิบใต้ม่านหยก

공유

ตอนที่ 8 เสียงกระซิบใต้ม่านหยก

last update 최신 업데이트: 2025-07-24 02:08:46

วังหลวงแห่งแคว้นต้าหลิงยามย่ำค่ำยิ่งดูเงียบสงบงดงาม โคมแก้วหินลอยเหนือคูน้ำทอดยาวรอบตำหนัก เงาสะท้อนของดวงจันทร์สาดลงบนพื้นศิลาหยกขาวนวล แต่ภายใต้เงาสว่างนั้น มีบางอย่างเคลื่อนไหวในความมืดอย่างเงียบงัน

ภายในตำหนักซ่างอิงขององค์หญิงจ้าวฮุ่ย บ่าวรับใช้ก้มหน้าอย่างเคารพเมื่อหญิงสาวในชุดเรียบหรูเดินตามขันทีเข้ามา

เซียวลี่อิน ถูกเชิญให้มาเข้าเฝ้าองค์หญิงอย่างเป็นทางการครั้งแรก

นางน้อมคำนับอย่างงดงาม “หม่อมฉัน เซียวลี่อิน ถวายบังคมองค์หญิงเพคะ”

บนบัลลังก์หยกขาวกลางตำหนัก องค์หญิงจ้าวฮุ่ยทอดพระเนตรหญิงสาวเบื้องหน้าด้วยสายตาที่คมดุจหอก

“เจ้าคือบุตรสาวคนโตของเซียวเฟิงเฉินหรือ?” น้ำเสียงนั้นเรียบนิ่ง ทว่าหนักแน่น

“เพคะ” ลี่อินตอบโดยไม่ลังเล “หม่อมฉันเป็นบุตรภรรยาเอก แต่ถูกถอนชื่อจากทะเบียนเรือนตอนอายุสิบสาม”

ดวงตาขององค์หญิงหรี่ลง “เหตุใดถึงเป็นเช่นนั้น?”

ลี่อินเงยหน้าขึ้น สบตากับองค์หญิงอย่างสงบนิ่ง

“เพราะหม่อมฉันเป็นลูกของภรรยาที่ไม่ชื่นชอบ และไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อในสายตาผู้เป็นบิดา”

คำตอบนั้นทำให้องค์หญิงนิ่งไปอึดใจหนึ่ง ก่อนแย้มพระโอษฐ์

“เจ้าพูดอย่างสงบนิ่งทั้งที่ความจริงนั้นราวกับน้ำกรด”

“เพราะหม่อมฉันไม่จำเป็นต้องราดน้ำกรดใส่ใคร หม่อมฉันเพียงแต่เฝ้ามองให้มันกัดกร่อนคนที่สมควรถูกน้ำกรดนั้น”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้น “น่าสนใจนัก”

องค์หญิงจ้าวฮุ่ยโบกมือ “นั่งลงเถิด ข้าไม่ต้องการเห็นคนที่มีสายตาแบบเจ้า คุกเข่าให้ข้า”

ในคืนนั้น สนทนาใต้แสงจันทร์ระหว่างหญิงสูงศักดิ์กับบุตรสาวผู้ถูกทอดทิ้งกินเวลายาวนาน และสิ่งที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้คือ คำสัญญาลับที่แลกเปลี่ยนกันเบื้องหลังม่านหยก

“องค์หญิงต้องการอำนาจ ส่วนหม่อมฉันต้องการคนที่กล้าพอที่จะลากปีศาจร้ายในคราบขุนนางออกมาประจาน หม่อมฉันไม่เคยกลัวอสูรร้ายที่ซ่อนตัวในวัง และไม่เคยกลัวเลือดของคนที่หม่อมฉันเคยรักจะแปดเปื้อนมือ”

องค์หญิงจ้าวฮุ่ยทรงมองลี่อินอย่างนิ่งงัน ก่อนตรัสเพียงหนึ่งคำ

“ดี…”

รุ่งเช้าในอีกสองวันถัดมา

ข่าวลือใหม่เริ่มแพร่ในหมู่ขุนนางชั้นสูง ว่าองค์หญิงจ้าวฮุ่ยทรงรับรอง “หญิงนิรนามหนึ่งคน” ให้เข้าออกตำหนักซ่างอิงได้อย่างอิสระ

และในช่วงเวลาเดียวกัน พยานคนสำคัญในคดีเงินหลวงถูกยักยอก ผู้ตรวจบัญชีฝ่ายคลังย่อยนามว่าหวังซูจิน

ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ

ในจวนสกุลเซียว เซียวเฟิงเฉินขว้างถ้วยชาใส่ผนังจนแตกละเอียด

“เขาหายไปได้อย่างไร?! หวังซูจินอยู่ภายใต้การดูแลของพวกเราไม่ใช่หรือ?!”

เจินซูเม่ยหน้าซีดเผือด “ข้าให้คนจับตาดูเขาตลอดเวลานะ เขาจะหนีออกไปได้อย่างไรกัน?”

เสียงของเซียวเฟิงเฉินสั่นด้วยโทสะ

“ถ้ามันเปิดปากแม้เพียงคำเดียว นอกจากข้าจะไม่มีที่ยืนในราชสำนักอีก จวนสกุลเซียวก็จะล่มสลายแน่!”

ในเงามืดของสวนเมฆหยก

เฉินอี้ สายลับของจิ้งอ๋อง ยื่นจดหมายลับให้ลี่อิน นางอ่านพลางยิ้ม เนื้อความในจดหมายเขียนว่า

หวังซูจิน

ปลอดภัยดี ตอนนี้อยู่ที่ตำหนักซ่างอิง

เขากำลังจดคำให้การฉบับเต็ม

ต่อหน้าองค์หญิงจ้าวฮุ่ยด้วยตนเอง

ลี่อินเงยหน้าขึ้น มองท้องฟ้าที่เริ่มเปลี่ยนสี

“เกมนี้ เริ่มส่งเสียงแล้ว และเสียงกระซิบใต้ม่านหยก จะกลายเป็นคำตัดสินในท้องพระโรงในไม่ช้านี้”

สายลมยามราตรีพัดผ่านแนวกำแพงหินของวังหลวง เสียงใบไม้เสียดสีกันแผ่วเบาราวเสียงกระซิบจากเทพเจ้า

และในค่ำคืนนี้ ณ ศาลากลางสวนหลวงในเขตหวงห้าม แสงตะเกียงสว่างจาง ๆ ลอยอยู่ใต้ร่มเงาไผ่

ชายผู้หนึ่งในชุดขาวนั่งอยู่หน้ากระดานหมาก

เขาคือ จิ้งอ๋อง หวังจิ้งเหยียน

บุรุษผู้ไม่เคยเล่นหมากเพื่อฆ่าเวลา แต่ทุกครั้งที่เดินหมาก คือการเดินยุทธศาสตร์ชีวิต

ตรงข้ามเขา คือหญิงสาวผู้กลับมาจากความตาย พร้อมหัวใจที่แน่วแน่ดั่งเหล็กกล้า เซียวลี่อิน

“ท่านอ๋องทรงวางหมากกลางกระดานเร็วกว่าครั้งก่อน”

ลี่อินกล่าวเบา ๆ ขณะหยิบหมากดำในมือลงวาง

“เพราะคู่แข่งข้าฉลาดขึ้น” เขาตอบเสียงเรียบ

บรรยากาศระหว่างคนทั้งสองไม่ได้มีคำหวาน ไม่มีแววตาชื่นชม มีเพียงความเข้าใจลึกซึ้งในเป้าหมาย และช่องว่างบางอย่างที่ยังไม่มีผู้ใดข้าม จิ้งอ๋องจ้องหมากบนกระดานอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนกล่าวเสียงเบา

“เจ้ารู้หรือไม่ หวังซูจินเคยมีโอกาสออกจากต้าหลิง แต่เขาเลือกอยู่เพราะมีคนในครอบครัวที่ยังถูกข่มขู่อยู่ในเมืองหลวงนี้”

ลี่อินเงียบไปนาน ก่อนจะกล่าว “หากเขากล้าพูดความจริง ทั้งที่รู้ว่าครอบครัวอาจตกเป็นเป้า หม่อมฉันจะไม่ยอมให้ความกล้าของเขาต้องถูกทำให้ไร้ค่าแน่”

จิ้งอ๋องเหลือบตามองนางครู่หนึ่งก่อนกล่าว “ข้าได้ส่งคนไปดูแลครอบครัวเขาแล้ว จะไม่มีใครทำอะไรคนพวกนั้นได้”

นั่นคือประโยคที่ไม่มีใครเคยได้ยินจากจิ้งอ๋องมาก่อน และลี่อินก็รับรู้เช่นกัน

“เจ้าจะไม่ถามเลยหรือ ว่าข้าคิดสิ่งใดกับการช่วยเจ้าจนถึงเพียงนี้?” เขากล่าวเบา ๆ

ลี่อินเงยหน้าขึ้น สบตาเขาตรง ๆ เสียงของนางเรียบสงบ แต่แฝงความแน่วแน่

“หม่อมฉันรู้ว่าเราต่างใช้กันและกัน แต่ท่านอ๋องไม่ได้ใช้หม่อมฉันเพื่อผลประโยชน์ส่วนตน ท่านอ๋องใช้หม่อมฉันเพื่อผลลัพธ์ที่สูงกว่านั้น”

จิ้งอ๋องนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะเอ่ยเบา ๆ โดยไม่มองนาง

“เจ้าเปลี่ยนไปมาก นับจากวันที่ทำถาดน้ำชาในมือเจ้าหล่น”

บรรยากาศในศาลานั้นเงียบไปชั่วขณะ แม้เพียงการเอ่ยถึงอดีตเพียงประโยคเดียว กลับเผยให้เห็นการจดจำในรายละเอียดของเขา

นั่นไม่ใช่เพียงความสนใจชั่ววูบอีกต่อไป...

“วันพรุ่งนี้…” เขาเว้นช่วงก่อนจะกล่าวต่อ “ข้าจะจัดให้เจ้าได้พบกับหนึ่งในทหารราชสำนักที่เคยอยู่ใต้ฝ่ามือบิดาของเจ้าในอดีต เขาเป็นอีกคนหนึ่งที่เคยเห็นสิ่งที่ไม่ควรถูกเห็น แต่เลือกที่จะเงียบ”

“หากเจ้าเอาชนะใจเขาได้ ข้อมูลที่เจ้าเคยคิดว่าจะไม่มีวันหาเจอ อาจปรากฏในมือเจ้าเร็วเกินคาด”

ลี่อินประสานมือคำนับอย่างลึกซึ้ง

“ขอบพระทัยท่านอ๋อง ที่ทำให้หม่อมฉัน ได้รับมากกว่าโอกาส”

จิ้งอ๋องมองหมากที่นางเพิ่งวางลง ตำแหน่งนั้น แนบแน่นพอดีกับช่องว่างที่เขาทิ้งไว้ก่อนหน้า

“เจ้าวางหมากได้แม่นยำขึ้น จนข้าต้องระวังว่าวันหนึ่งจะพ่ายให้เจ้าในกระดานของตัวเอง...”

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 39 เล่ห์กลในเงาจันทร์

    หลังจากงานเลี้ยงผ่านไปไม่กี่วัน ข่าวลือเรื่องเซียวลี่อินเดินเคียงจิ้งอ๋องเข้าร่วมงานเลี้ยงในหอเลี้ยงยังคงแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงเหล่าสตรีน้อยใหญ่ต่างเอ่ยถึงเรื่องของนางด้วยทั้งความอิจฉาและเกรงขามขุนนางหลายคนเริ่มจับตามองนางในฐานะ ผู้ที่อ๋องเจ็ดยกย่องแต่ภายในจวนสกุลเซียว กลับเงียบงันราวกับพายุที่กำลังสะสมแรงเจินซูเม่ยนั่งอยู่หน้าโต๊ะบูชา ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ“นางกล้าหักหน้าข้าต่อหน้าผู้คน ข้าจะไม่มีวันปล่อยไปแน่!”เซียวถิงฮวารีบเข้ามา“ท่านแม่ เราจะทำอย่างไรต่อดี”เจินซูเม่ยยกผงยาสีขาวขึ้นจากกล่องไม้เล็ก ๆ“เพียงแค่โรยสิ่งนี้ในน้ำชา ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม นางก็จะอับอายต่อหน้าผู้คน”ในอีกฟากหนึ่ง เซียวลี่อินนั่งอยู่ใต้แสงจันทร์ในเรือนเล็ก สายลมพัดเส้นผมปลิวไหว แววตาของนางสงบนิ่ง แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้มเย็น“เจินซูเม่ย เจ้าคิดว่าข้าไม่รู้ทันเล่ห์กลกระจอก ๆ ของเจ้าเช่นนั้นหรือ”จังหวะนั้นเอง เสียงฝีเท้าที่หนักแน่นก็ดังขึ้น หวังจิ้งเหยียนก้าวเข้ามาพร้อมกับองครักษ์สองคน“ข้าได้ข่าวว่ามีคนเคลื่อนไหวใกล้เรือนเจ้าอีกแล้ว”เซียวลี่อินหันไปสบตากับเขา“เช่นนั้นหม่อมฉันก็จะรอดู ว่าเล่ห์กลภายใต้เ

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 38 คมดาบในงานเลี้ยง

    ค่ำคืนวันนั้น จวนเจ้ากรมพิธีการจัดงานเลี้ยงใหญ่เพื่อต้อนรับคณะทูตจากแคว้นเหนือเหล่าขุนนางและสตรีผู้สูงศักดิ์ต่างแต่งกายหรูหรา เสียงดนตรีและกลิ่นสุรารินไหลเคล้าบรรยากาศเซียวลี่อินก้าวเข้าสู่หอจัดงานเลี้ยงพร้อมกับจิ้งอ๋องที่เดินเคียงข้างเพียงแค่ปรากฏตัว ทั้งห้องโถงก็เหมือนเงียบลงไปชั่วขณะสายตานับไม่ถ้วนหันมามอง มีทั้งความตกตะลึงและเสียงซุบซิบแผ่วเบา“นั่นคุณหนูใหญ่สกุลเซียวไม่ใช่หรือ นางมาพร้อมกับท่านอ๋องเจ็ดเชียวหรือนั่น”“ท่าทีดูสง่างามนัก ต่างจากแต่ก่อนโดยสิ้นเชิงเลยนะ”“ก็นั่นน่ะสิ”เจินซูเม่ยและเซียวถิงฮวาที่นั่งอยู่เบื้องหน้า แววตาแทบลุกเป็นไฟการที่เซียวลี่อินเดินเข้าสู่หอจัดงานเลี้ยงพร้อมกับจิ้งอ๋องเช่นนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการตบหน้าสองแม่ลูกนั้นตรง ๆ ต่อหน้าผู้คนเซียวถิงฮวากัดฟันกระซิบ“ท่านแม่ นางจงใจ! นางจงใจเย้ยหยันข้า นางจงใจทำให้คนทั้งเมืองหลวงรู้ว่าท่านอ๋องอยู่ข้างนาง”เจินซูเม่ยกำผ้าเช็ดหน้าแน่น แต่ก็ยังฝืนยิ้มไว้จิ้งอ๋องกวาดสายตาไปทั่วห้องโถงก่อนเอ่ยเสียงทุ้มเรียบ“วันนี้ข้ามาเพื่อร่วมดื่มสักจอก มิได้มาเพื่อฟังเสียงซุบซิบนินทาของใคร”เพียงคำพูดเดียว เสียงพูดคุยทั้งห

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 37 รอยร้าวในจวนสกุลเซียว

    ข่าวสมุนไพรปนเปื้อนที่ถูกจับได้กลางทางแพร่สะพัดราวกับไฟลามทุ่ง จากตลาดเข้าสู่วังหลวง จากวังสู่หูเหล่าขุนนาง และสุดท้ายก็ย้อนกลับมาถึงจวนสกุลเซียวภายในเวลาไม่กี่วันเรือนใหญ่ภายในจวนบัดนี้เต็มไปด้วยบ่าวไพร่ที่ซุบซิบนินทา“ว่าแต่ฮูหยินรอง...เป็นนางจริงหรือไม่ที่อยู่เบื้องหลัง”“ชู่ว์! ระวังปากหน่อย หากนางได้ยินเข้า พวกเราจะซวยเอา”แต่ยิ่งห้าม เสียงเล่าลือก็ยิ่งดังไปทั่วภายในห้องโถง เจินซูเม่ยสีหน้าซีดขาว มือสั่นจนถ้วยชาร่วงแตกกับพื้น เซียวถิงฮวารีบคุกเข่าข้างกาย“ท่านแม่ อย่าหวาดหวั่นไป! เราต้องหาทางพลิกสถานการณ์ มิฉะนั้นเรื่องนี้จะกลายเป็นหลักฐานชัดเจนมัดตัวเรา”เจินซูเม่ยกัดฟันกรอด“ข้าไม่ยอมแพ้แน่ ข้าจะไม่ยอมให้นังเด็กนั่นมาทำให้ชีวิตข้าพัง!”ในอีกฟากหนึ่ง ลี่อินนั่งจิบชาในเรือนเล็กอย่างสงบ รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนใบหน้างาม ยิ่งนางดิ้น ข่าวลือก็จะยิ่งมัดรอบคอนางเองเสียงฝีเท้าหนักดังขึ้นจากนอกโถง เซียวเฟิงเฉินก้าวเข้ามา สีหน้าเคร่งเครียดผิดปกติ เขาได้รับฎีกาลับจากวังที่สอบถามเรื่องเกวียนสมุนไพรปนเปื้อน หากพิสูจน์ว่าเกี่ยวข้องกับจวนสกุลเซียว ชื่อเสียงและตำแหน่งเจ้ากรมคลังของเขาจะสั่นคลอนท

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 36 ไฟลุกโชนกลางเงามืด

    ข่าวการที่สมุนไพรปนเปื้อนถูกตรวจพบก่อนถูกส่งเข้าวังหลุดรอดไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว ชื่อของตระกูลเซียวถูกซุบซิบนินทาตามตลาด ร้านน้ำชา โรงเตี๊ยม และแม้แต่ในหมู่ขุนนางของราชสำนักภายในเรือนใหญ่ของจวนสกุลเซียว เจินซูเม่ยขว้างถ้วยชาจนแตกกระจาย“ผู้ใด! ผู้ใดมันกล้าใส่ร้ายข้าเช่นนี้!”เซียวถิงฮวารีบเข้ามาปลอบผู้เป็นมารดา“ท่านแม่ ใจเย็นก่อนเจ้าค่ะ หากเราร้อนรน ผู้คนก็จะยิ่งสงสัยนะเจ้าคะ”แต่แววตาของเซียวถิงฮวาเองก็กังวลไม่น้อย เพราะในใจนางเริ่มหวาดระแวงว่าผู้ที่ทำทั้งหมดนี้ อาจจะเป็นเซียวลี่อินขณะเดียวกัน เซียวลี่อินกำลังนั่งจิบชาเงียบ ๆ ในเรือนเล็ก ใบหน้าเรียบสงบ แต่ภายในเต็มไปด้วยเพลิงเย็นของความพึงพอใจนี่เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น หลังจากนี้ยังจะมีอีกหลายก้าวที่เจินซูเม่ยไม่มีทางหนีรอด!จังหวะนั้นเอง จิ้งอ๋องก็ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่ส่งข่าวล่วงหน้า เขาก้าวเข้ามาในห้องอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะทอดสายตามองนาง“ครั้งนี้เจ้าทำได้เด็ดขาดยิ่งนักจนแม้แต่ข้าเองก็เกือบไม่ทันตั้งตัว”ลี่อินยกยิ้มบาง “เพราะหม่อมฉันไม่อยากให้ศัตรูมีเวลาหายใจเพคะ หากศัตรูมีเวลาได้หายใจ ก็อาจจะไหวตัวทัน”เซียวลี่อินหันไปมองจิ้ง

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 35 คลื่นใต้น้ำในจวนสกุลเซียว

    เซียวลี่อินกลับถึงเรือนเล็กในยามสนธยา แสงตะวันย้อมผนังเรือนเป็นสีส้มหม่น แต่ในหัวใจนางกลับไม่อุ่นเลยสักนิดข่าวลือแผ่ว ๆ จากพวกบ่าวไพร่ทำให้นางหยุดฟังอย่างตั้งใจ“ว่าแต่คุณหนูใหญ่นี่นางช่างดวงแข็งนัก ถึงกลับมามีชีวิตอยู่ได้”“เงียบปากเสีย! หากฮูหยินรองได้ยินเข้าเจ้าจะถูกโบย”บ่าวสาวสองคนรีบก้มหน้าก้มตาเมื่อเห็นเซียวลี่อินเดินผ่าน นางเพียงปรายตาเย็นชามองเล็กน้อยแล้วเดินต่อไปเจินซูเม่ย เจ้ากำลังคิดจะทำสิ่งใดอีกกันไม่นาน เสี่ยวจู สาวใช้คนสนิทของลี่อินก็เข้ามารายงาน“คุณหนูเจ้าคะ ข้าได้ยินมาว่าฮูหยินรองเรียกพ่อบ้านไปหารืออย่างลับ ๆ ทั้งยังสั่งให้คนออกไปนอกเมืองตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างอีกด้วยเจ้าค่ะ”ลี่อินเลิกคิ้วเล็กน้อย“ไปนอกเมือง? ไปเพื่อติดต่อผู้ใดกัน”เสี่ยวจูส่ายหน้า“ข้าไม่อาจเข้าใกล้ได้ แต่จากที่ได้ยิน คราวนี้ดูเหมือนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายสมุนไพรบางชนิดเจ้าค่ะ”เซียวลี่อินนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนดวงตาจะวาวขึ้นสมุนไพร...ใช่แล้ว หากข้าจำไม่ผิด ในชาติก่อนมีคดีทุจริตส่งสมุนไพรปนเปื้อนเข้าวัง และหนึ่งในผู้เกี่ยวข้องก็คือเจินซูเม่ยริมฝีปากของนางยกยิ้มเย็น“ดี เสี่ยวจู เช่นนั้นเจ้าช่วยข้า

  • ย้อนเวลากลับมาทวงแค้น   ตอนที่ 34 สายลมพัดต้องใจ

    บ่ายวันนั้น เซียวลี่อินออกจากจวนสกุลเซียวเพื่อตรงไปยังตลาดใหญ่ นางตั้งใจจะไปหาซื้อสมุนไพรหายากเพื่อนำไปให้ท่านหมอเทวดาที่ช่วยรักษาผู้ป่วยยากไร้ ได้ยินมาว่าหากได้สมุนไพรนี้ไว้ จะมีค่าราวกับทองคำในยามจำเป็นผู้คนในตลาดคึกคัก เสียงตะโกนเรียกลูกค้าสลับกับกลิ่นอาหารหอมกรุ่นจากแผงลอย เซียวลี่อินก้าวเดินไปตามตรอกแคบด้วยท่าทีระวัง จนกระทั่งเสียงเกือกม้าดังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็วตึก ตึก ตึก!นางเงยหน้าขึ้นทันที เห็นขบวนทหารม้าสวมเกราะดำมุ่งตรงมาทางตรอก ผู้คนรีบหลบลี้กันจ้าละหวั่น แต่เพราะช่องทางแคบนัก ลี่อินจึงถูกเบียดจนเกือบล้มก่อนที่ร่างจะกระแทกพื้น มือใหญ่แข็งแรงกลับคว้าข้อมือนางไว้มั่น แรงดึงพานางให้ซบเข้าสู่อ้อมอกที่อบอุ่นและมั่นคง“เหตุใดถึงเดินอยู่ตรงนี้คนเดียว”เสียงทุ้มเย็นนั้นดังขึ้นชิดข้างหูเซียวลี่อินเงยหน้าขึ้น เห็นใบหน้าคมคายที่นางจำได้ดี เป็นเขา จิ้งอ๋อง หวังจิ้งเหยียนแววตาคมกริบของเขามองนางอย่างจับจ้อง จนหัวใจของนางเต้นสะดุดไปชั่วขณะ“หม่อมฉันมีธุระ”นางตอบสั้น ๆ พลางพยายามถอยห่าง แต่ฝ่ามือเขายังจับมั่นไม่ปล่อยหวังจิ้งเหยียนเหลือบตามองขบวนทหารที่เคลื่อนผ่านอย่างเร่งรีบ ก่อน

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status