แชร์

บทที่ 2 หรือเจ้าก็ป่วย

ผู้เขียน: ซีไซต์
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-02 22:53:29

"ท่านอ๋อง สถานที่จัดเตรียมไว้พร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ"

ซีห่าวองครักษ์ขั้นสี่ซึ่งเป็นองครักษ์คนสนิทของลี่หมิงอ๋องเอ่ยขึ้นหลังจากเขาให้บรรดาองครักษ์ทั้งหมดสำรวจความปลอดภัยรอบบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์จนวางใจ

ซีห่าวนำทางลี่หมิงไปจนถึงบ่อน้ำพุศักดิ์สิทธิ์ เป็นเพราะลี่หมิงเองมาที่นี่จนจดจำเส้นทางได้แล้วแม้จะมองไม่เห็นทว่าเขากลับเดินเหินคล่องแคล่วนัก

เมื่อถึงบ่อน้ำร้อนซีห่าวช่วยปลดเสื้อคลุมให้ลี่หมิง กระทั่งเขาลงไปนั่งแช่ในบ่อน้ำพุจนเรียบร้อยจึงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ่อโดยละเอียด เมื่อพบว่าไม่มีสิ่งใดผิดปกติเขาจึงค่อย ๆ ถอยออกไป

ลี่หมิงอาศัยช่วงเวลานี้พักผ่อนร่างกาย เขากึ่งนั่งกึ่งเอนกายแล้วหลับตาลงอย่างสงบ สองก้านธูปที่ต้องนั่งแช่อยู่ในนี้เพื่อขจัดพิษมาเกือบสองปีนี้ทำให้เขาร่างกายของเขามีอาการดีขึ้นจนเกือบหายเป็นปกติ ทว่าดวงตาของเขากลับมีอาการดีขึ้นเพียงเล็กน้อย

จากที่มองไม่เห็นเลยบัดนี้ยังสามารถมองเห็นเงาเลือนรางไม่อาจแยกสีสันได้ชัดเจนซึ่งกระทั่งท่านหมอเองยังถอดใจคิดว่าชาตินี้เขาอาจไม่สามารถกลับมามองเห็นเป็นปกติได้อีกต่อไป แต่กระนั้นลี่หมิงอ๋องก็ยังคงเสาะหาท่านหมอผู้เก่งกาจคนอื่นมารักษาตนแทน

จื่อรั่วอิงรอด้วยใจระทึกอยู่ตรงที่หลบซ่อน จากจุดนี้นางเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างของบุรุษผู้นั้น นางมองไม่เห็นใบหน้าของเขาและไม่เคยมีผู้ใดเคยพบเห็นลี่อ๋องตัวเป็น ๆ มาหลายปีแล้วจึงไม่รู้ว่าหน้าตาเขาในตอนนี้เป็นอย่างไร

เขาจากเมืองหลวงไปทำศึกตั้งแต่อายุเพียงสิบสามปี ด้วยฐานะขุนศึกแห่งแคว้นหนิงเทียนทำให้เด็กน้อยต้องถูกบีบบังคับให้โตก่อนวัยอันสมควร เช่นนี้จึงไม่แปลกที่จิตใจของเขาจะวิปริต

เมื่อจื่อรั่วอิงเห็นว่าบัดนี้ลี่หมิงอยู่เพียงลำพังแล้ว นางจึงค่อย ๆ คลานออกมาจากที่ซ่อนซึ่งเป็นโพรงที่ทำขึ้นมาอย่างแนบเนียนกลืนไปกับธรรมชาติแถวนี้อย่างไร้ที่ติ ในใจก็อดชื่นชมเจ้าอ้วนเป่าไม่ได้มิเสียแรงที่นางลงทุนคุกเข่าอ้อนวอนท่านพ่อให้รับเขามาเป็นบ่าวของนาง

นางค่อย ๆ ย่องเข้าไปใกล้ท่านอ๋องผู้นั้นที่เหมือนจะไม่รู้ตัวว่ามีบุคคลที่สองอยู่ใกล้เขาเพียงนี้ ความจริงนางไม่อยากเอาเปรียบคนตาบอดแต่เมื่อแผนการได้วางมาจนถึงขั้นนี้แล้วไม่อาจถอยหลังกลับไปได้

สายตาของจื่อรั่วอิงไม่อาจละไปจากแผ่นหลังของเขาได้ ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้องอาจผ่าเผย แม้แต่ท่วงท่าการนั่งยังดูสูงส่งเพียงนี้ แผ่นหลังเปลือยเปล่านั่นยังจับตัวเป็นมัดกล้ามอันแสนงดงาม ลี่อ๋องผู้นี้ช่างมีเรือนร่างที่เหมาะสมที่เป็นนักรบจริง ๆ ผมของเขาถูกรวบสูงและสวมครอบด้วยกวานสีเงินสลักลายก้อนเมฆบ่งบอกฐานะที่คนทั่วไปไม่อาจเอื้อม

จื่อรั่วอิงอยู่ในชุดเสื้อผ้าสีขาวที่คิดเอาไว้เป็นอย่างดี หากชุดนี้เปียกน้ำจะสามารถมองเห็นเนื้อหนังข้างในได้ชัดเจน เมื่อนางลงไปในอ่างน้ำพุร้อนแห่งนี้กับเขา แน่นอนว่าชุดนี้จะแนบเนื้อจนดูค่อนข้างโป๊หากมีคนมาพบเข้าก็ยากที่จะคิดเป็นอื่น

จากนั้นนางจะกรีดร้องเพื่อให้ดูน่าสงสาร ชื่อเสียงของสตรีโบราณสำคัญยิ่งกว่าชีวิต เมื่อถึงตอนนั้นลี่หมิงอ๋องก็อย่าคิดว่าจะหนีรอดเงื้อมมือของนางไปได้

จื่อรั่วอิงคิดอย่างเพลิดเพลิน ขาเรียวขาวของนางค่อย ๆ จุ่มลงน้ำ อุณหภูมิของน้ำค่อนข้างอุ่นพอดี การแช่น้ำในอุณหภูมิเช่นนี้คงทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้นจริง ๆ

หลังจากค่อย ๆ ก้าวลงน้ำอย่างช้า ๆ จื่อรั่วอิงกลั้นหายใจค่อย ๆ แหวกน้ำเข้าไปใกล้เขาเพียงเงยหน้าขึ้นสายตาของนางพลันปะทะกับอกกว้างแข็งแกร่ง

 จื่อรั่วอิงดวงตาแข็งค้างกับภาพยั่วยวนตรงหน้า รูปร่างที่โผล่พ้นสายน้ำทำให้นางไม่อยากเชื่อสายตา เหมือนเป็นประติมากรรมชั้นเยี่ยม 

มัดกล้ามหน้าท้องเป็นลอนแน่นคมชัดราวกับภาพสี่มิติ ภายใต้แสงแดดอ่อนที่สาดส่องราวกับมีลำแสงรายรอบร่างกายให้เปล่งประกาย ยากนักที่ใครเห็นแล้วจะต้านเสน่ห์อันเย้ายวน นางค่อย ๆ ไต่สายตาขึ้นไปเรื่อย ๆ ลำคอแห้งผากกระทั่งพบเข้ากับใบหน้านั้น

จื่อรั่วอิงอ้าปากค้าง สวรรค์ ให้ตายเถอะรูปร่างเช่นนี้คนที่เป็นเจ้าของสมควรหล่อเหลาไร้ที่ติมิใช่หรือ ทว่าลี่อ๋องบัดนี้กลับแตกต่างจากที่นางคิด เมื่อใบหน้านั้นเต็มไปด้วยหนวดเคราที่ขึ้นเต็ม เส้นผมของคนผู้นี้ยังมีสีขาวแซมเป็นกระจุกกระจายทั่วศีรษะ

แน่นอนว่าสมัยนี้ไม่มีสารเคมีกัดสีผม สีขาวที่เห็นจึงไม่ใช่การทำไฮไลต์แต่มันต้องคือผมหงอกนั่นเอง ท่านอ๋องอายุสามสิบเองมิใช่หรือ เหตุใดใบหน้าและเส้นผมจึงแก่ก่อนวัยราวกับคุณลุงคนหนึ่งเช่นนี้

ยิ่งเห็นหนวดเคราที่รกแบบนั้นจื่อรั่วอิงคิดอยากใช้กรรไกรตัดหญ้าถากถางป่ารกนั้นให้เกลี้ยงสะอาดตาแล้วดูว่าใบหน้าภายใต้หนวดนั้นจะเป็นเช่นไร

ดวงตาคู่นั้นก็ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรเพราะถูกพันเอาไว้ด้วยผ้าสีดำ ท่าทางการนั่งหลังตรงของลี่อ๋องตอนนี้ก็น่ากลัวดุดันจนนางเชื่อเสียสนิทว่าเขาคงกลายเป็นคนสติวิปลาส หัวใจบิดเบี้ยวไปจริงๆ แล้ว

แต่เมื่อขึ้นหลังเสือแล้วนางไม่อาจลงได้ มิเช่นนั้นคงถูกเสือขย้ำจนร่างละเอียด

 จื่อรั่วอิงจึงตัดสินใจพุ่งเข้าหาเขาตามแผนทันใด ทว่าบัดนี้เพียงนางขยับเล็กน้อย คนผู้นั้นก็ขยับมาถึงร่างของนางแล้ว

จื่อรั่วอิงตกใจจนชะงักค้าง เมื่อฝ่ามือของเขาทั้งสองข้างสัมผัสที่หน้าอกของนางเดิมทีคิดว่าคงจะถูกฝ่ามือนั้นทำร้ายจนร่างกระเด็นเสียแล้ว ทว่าลี่อ๋องกลับไม่ทำเช่นนั้นเขากำลังทำบางอย่าง....คล้ายจะสำรวจบางสิ่งบางอย่างใต้ฝ่ามือของเขา

"เจ้าไม่มีวรยุทธ์ ไม่มีอาวุธ ไม่น่าจะเป็นมือสังหาร"

เสียงเยือกเย็นของเขาทำให้นางรู้สึกหนาวขึ้นทันใด ปากของนางสั่นเพราะตกใจก่อนจะเอ่ยว่า

"ขะ ข้าไม่ใช่ ไม่ใช่มือสังหาร"

"เช่นนั้นเจ้าคือผู้ใด หรือว่า..." ลี่หมิงหยุดเล็กน้อยแล้วยังคลำต่อ ก่อนจะเอ่ยว่า "หรือว่า เจ้าก็ป่วยเช่นกันจึงมาแช่น้ำศักดิ์สิทธิ์นี้"

จื่อรั่วอิงยังคงตกใจไม่หาย เขาสงบกว่าที่นางคาดคิดจนนางไม่รู้จะดำเนินแผนโวยวายอย่างไร

ผู้ใดว่าเขาวิปริตเจ้าอารมณ์ คนผู้นี้สมควรโวยวายจนทำให้คนแห่เข้ามามิใช่หรือ อีกทั้งนางยังไม่เข้าใจที่เขาพูด

นางป่วยหรือ ทำไมเขาคิดว่านางป่วยหรือคนผู้นี้จะเป็นบ้าไปจริง ๆ ก่อนที่นางจะอ้าปากตอบลี่หมิงก็เอ่ยต่อ

"ตรงนี้ของเจ้า เป็นเนื้องอกสองก้อนขนาดเท่าหัวเด็ก ข้าไม่เคยพบเนื้องอกที่ใหญ่โตเช่นนี้ หรือว่าจะมิใช่เป็นของจริงกัน"

จื่อรั่วอิงกะพริบตาปริบ ๆ ในยามนี้มือของลี่อ๋องกลับบีบเข้าไปที่หน้าอกทั้งสองข้างของนางอย่างแรง ราวกับว่ากำลังทำให้ตัวเองแน่ใจว่ามันคือเนื้องอกจริง ๆ จื่อรั่วอิงกำลังสับสนและรู้สึกเจ็บจนแทบน้ำตาเล็ด

ป่วย...เนื้องอก...หัวเด็ก....ของปลอม!

สติขาดผึงทันใด จื่อรั่วอิงกรีดร้องขึ้นมาพร้อมกับก่นด่าเขาดังลั่น

"เจ้าลุงบ้า ข้าไม่ได้เป็นเนื้องอก หัวเด็กบ้านลุงน่ะสิ นี่มันหน้าอกข้า นมของข้า นมจริง ๆ ไม่ใช่ยัดซิลิโคน ไม่ใช่ของปลอมหากเป็นของปลอมเจ้าบีบแรงแบบนี้ก็คงแตกคามือเจ้าไปแล้ว ปล่อยข้านะ กรี๊ด คนบ้า เจ้าลุงหนวดเฟิ้ม เจ้าคนบ้า เลิกบีบนมข้าเดี๋ยวนี้"

นางทั้งตีทั้งทุบเขา ลี่หมิงอ๋องเองก็ตกตะลึงไม่หาย เสียงนี้คือสตรีแน่ชัด

เดิมทีเขาไม่คิดว่านางจะเป็นสตรี ที่นี่คือวัดเชิงเขาและสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ได้อนุญาตให้คนนอกเข้ามา ยิ่งเป็นสตรีด้วยแล้วยิ่งไม่มีทางแล้วนางหลุดเข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

และที่สำคัญของขนาดใหญ่เท่าหัวเด็กนั่นจะกลายเป็น....ของสตรีไปได้อย่างไร 

ว่าแล้วโทสะของเขาก็พุ่งขึ้นสูง คนที่เข้ามาที่นี่ย่อมต้องเป็นมือสังหาร เขาขยับร่างว่องไวแม้ตาจะมองไม่เห็นทว่าเพียงพริบตาก็คว้าลำคอของนางมาไว้ในอุ้งมือแล้วบีบอย่างแรง

"สารภาพมา ผู้ใดส่งเจ้ามาสังหารข้า"

จื่อรั่วอิงถูกบีบคอจนรู้สึกเจ็บ นางทั้งไอทั้งสำลักทั้งดิ้นรนหนีจากมือเหล็กนี้ นางอยากขอร้องให้เขาปล่อยทว่าเสียงกลับหายเข้าไปในลำคอแล้ว และบัดนี้นางกำลังรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะขาดใจตาย

ให้ตายเถอะ ไม่คิดว่าการหาสามีสักคนมันยากลำบากจนกระทั่งต้องเอาชีวิตเข้าแลกเช่นนี้

เพราะเสียงกรีดร้องที่ดังก้องไปทั่วเขา จึงทำให้ทหารและบรรดาไต้ซือที่รออยู่ด้านนอกกรูกันเข้ามาราวกับกองทัพมด

และเมื่อเข้ามาแล้วทุกคนยังอ้าปากค้าง ไต้ซือหลายคนถึงกับหันหลังหนีภาพนั้นด้วยเสื้อผ้าของจื่อรั่วอิงบางจนเห็นเนื้อด้านใน

แน่นอนว่าบัดนี้ทุกคนล้วนเข้ามาทันเห็นเหตุการณ์ที่จื่อรั่วอิงถูกลี่อ๋องลวนลามจับเข้าไปที่ตรงนั้นก่อนที่ท่านอ๋องจะคิดสังหารนาง

ในที่สุดก็มีคนจำจื่อรั่วอิงได้ ไต้ซือผู้หนึ่งจึงร้องลั่นออกมาด้วยความตกใจ ที่แท้คือท่านเจ้าอาวาสนั่นเอง

"ท่านอ๋อง ได้โปรดปล่อยนาง นางคือคุณหนูสามแห่งจวนสกุลจื่อ ท่านไม่อาจสังหารนางได้!"

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 55 ตอนพิเศษ 4 (จบตอนพิเศษ)

    “กวนเกอร์เอ๋อร์ วาดอะไรอยู่หรือ”เด็กน้อยตัวอวบอ้วนวัยสามขวบเงยหน้าขึ้นมาจากกระดาษที่อยู่ตรงหน้า มือเล็กยังถือพู่กันเอาไว้พร้อมกับเอ่ยว่า“วาดภูเขาพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงเดินท้องโย้เข้ามาใกล้บุตรชาย โดยมีเสี่ยวหยุนคอยประคอง“ไหนเอามาให้แม่ดูหน่อย”เด็กน้อยส่งกระดาษให้ผู้เป็นมารดาดู พร้อมกับมองตาแป๋ว“ลูกวาดเป็นอย่างไรบ้างพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงเห็นว่าภูเขาของบุตรชายประหลาดนัก ทว่าก็ได้แต่อมยิ้มแล้วพยักหน้าช้า ๆ“งามมาก กวนเกอร์เอ๋อร์ของแม่ช่างเป็นผู้มีพรสวรรค์จริง ๆ วาดภูเขาได้เหมือนมาก แล้วจุดสองจุดตรงภูเขาคืออะไรหรือ”เด็กน้อยเกาศีรษะกลมพร้อมกับส่ายหน้า“ยังไม่รู้พ่ะย่ะค่ะ ต้องถามเสด็จพ่อ”จื่อรั่วอิงขมวดคิ้ว ด้วยบัดนี้ท่านอ๋องเข้าวัง มีเพียงบ่าวของนางเจ้าอ้วนเป่าที่คอยฝนหมึกให้และบ่าวของท่านอ๋องอาฟงที่คอยปรนนิบัติอยู่ข้าง ๆ“ไยต้องถามเสด็จพ่อเล่า”“เพราะลูกมีภาพวาดของเสด็จพ่อเป็นต้นแบบ อาฟงบอกลูกว่ายามนั้นเสด็จพ่อตาบอดมองไม่เห็นสิ่งใดยังพากเพียรวาดรูปฝึกปรือฝีมือ ความเพียรนี้สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ”จื่อรั่วอิงนั่งลงข้าง ๆ บุตรชาย นางลูบท้องใหญ่ของตนเองที่บัดนี้ตั้งครรภ์ได้เ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 54 ตอนพิเศษ 3

    “ทะท่านอ๋อง ช่วยหม่อมฉันด้วยเพคะ”จื่อรั่วอิงมือสั่น“นี่เจ้ากล้าเรียกสามีข้าหรือ เจ้าไม่ได้ตายดีแน่”สาวใช้ของคุณหนูผู้นั้นกอดคุณหนูของตนเองเอาไว้แน่น ยังเอ่ยว่า“พระชายา คุณหนูของบ่าวได้รับบาดเจ็บข้อเท้าแพลงไม่อาจขยับได้เพคะ อย่าทำร้ายคุณหนูของข้า นางได้รับบาดเจ็บอยู่นะเพคะ”“เจ็บจริง ๆ หรือไม่ข้าต้องทดสอบ เจ้ารู้หรือไม่หากข้าฟาดแส้ไปที่ใบหน้าของนาง คงต้องเสียโฉมไปตลอดกาลเป็นแน่ อยากลองดีหรือไม่”กล่าวจบจื่อรั่วอิงฟาดแส้ลงมาครั้งหนึ่งลงไปข้างกายของนางผู้นั้น ผู้คนเริ่มมามุงดูกันด้วยความสงสัย ในขณะที่สตรีทั้งสองคนกรีดร้องอย่างหวาดกลัวสาวใช้กลับไม่ยินยอม“ท่านถือดีอย่างไรจึงได้ลงมือตีคนกลางถนนเช่นนี้ คุณหนูของข้าเป็นถึงธิดาของท่านผู้ว่าการศึกษานะเพคะ”จื่อรั่วอิงถลึงตาใส่คนทั้งสอง“ข้าถามหรือว่านางเป็นลูกใคร ได้ไล่ไม่ไปใช่หรือไม่ หากไม่ไปอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ ข้าจะตีพวกเจ้าทั้งนายและบ่าวให้ตายไปข้างหนึ่ง”จื่อรั่วอิงเงื้อมือขึ้นเตรียมฟาดแส้ลงมา ไม่น่าเชื่อว่าสตรีที่บ่อน้ำตาแตกท่าทางอ่อนแอนางนั้นบัดนี้จะลุกขึ้นแล้ววิ่งหนีไปสุดชีวิต ทว่ากลับไม่ทันเสียแล้ว เมื่อแส้ในมือของนางยังฟาดเข้าท

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 53 ตอนพิเศษ 2

    “กอดข้าหน่อยเพคะ”เขาถอดรองเท้าแล้วสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนนั้นกอดมือใหญ่ดึงร่างเล็กมากอด จื่อรั่วอิงขยับกายมาแนบชิดเกยก่ายร่างตนเองบนร่างกายใหญ่โตของเขาอบอุ่นและหอมกรุ่นยิ่งนักเขาลูบแผ่นหลังของนางอย่างรักใคร่“เหตุใดเอาแต่นอน หากนอนมากจะไม่สบายไม่รู้หรือ”จื่อรั่วอิงส่ายหน้า“ไม่ได้นอนอย่างเดียวเพคะ ยังตื่นขึ้นมากินด้วย”“กินกับนอนไม่กลัวอ้วนหรือ”“ไม่กลัวเพคะ คนเราต้องใช้ชีวิตให้ดีหากชอบกินก็กินเสียก่อนที่จะไม่ได้กิน หม่อมฉันเคยตายมาแล้วของที่อยากได้ก็ไม่ได้ใช้จึงคิดเสียดายยิ่ง ชาตินี้จึงคิดว่าหากอยากจะทำอะไรก็จะทำเพคะ”นางมักจะพูดเช่นนี้เสมอว่าตนเองเคยตายมาแล้ว ปกติจื่อรั่วอิงมักพูดจาประหลาดอยู่แล้ว ลี่หมิงอ๋องจึงเคยชินกับคำพูดของนางจึงไม่ได้เอ่ยถามคำใดเขาขยับตัวขึ้นนั่งโดยมีจื่อรั่วอิงพังพาบอยู่บนร่างกายเขา ได้กอดสามีเหมือนกอดเตาอุ่นนางจึงซุกหน้าเข้ากับอกของเขาแล้วถูเบา ๆ“ไม่คิดออกไปข้างนอกหรือ มีข่าวว่ามีของน่าสนใจมากับเรือเทียบท่าลำใหญ่ที่เพิ่งมาถึง”“ไม่ไปเพคะ หนาวข้าไม่ชอบความหนาวอยากนอน”“ไม่ไปจริงหรือ”“จริงเพคะ”แน่นอนว่านอกจากนางจะไม่ไปแล้ว ยังล็อกตัวสามีแน่นหนาไม่ยอมให

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 52 ตอนพิเศษ1

    ตอนพิเศษ ตอนที่ 1หลังแต่งงานใหม่เข้าจวนอ๋องในฐานะพระชายาได้สองปีกว่าจื่อรั่วอิงก็ไม่ยอมตั้งครรภ์ ด้วยนางยังห่วงความสนุกสนานในชีวิตวัยรุ่นของนางยิ่งนักในแต่ละวันหลังจากท่านอ๋องเข้าวังหลวงไปทำงาน จื่อรั่วอิงก็มักจะกลับไปจวนของตนเองเพื่อไปเยี่ยมท่านย่าและน้องสาวทั้งสองอยู่เสมอโดยขากลับต้องลำบากลี่หมิงอ๋องต้องไปรับนางด้วยตัวเองทุกวันก่อนหน้านี้ท่านย่ามาเยี่ยมที่จวนอ๋อง หลังจากเดินวนชื่นชมความงดงามของจวนพร้อมกับบ่าวคนสนิทและน้องสี่น้องห้าจนเหนื่อยก็ลงมือต้มน้ำแกงให้นางดื่มบำรุงกำลัง“เจ้าสามอย่าหาว่าย่าสั่งสอน อย่างไรเราเป็นสตรีการมีบุตรให้สามีคือหน้าที่ เจ้าแต่งมาสองปีแล้วยังไม่มีวี่แววเช่นนี้นับว่าบกพร่องต่อหน้าที่แล้ว”“ท่านย่าข้าเป็นภรรยาคน ไม่ใช่แม่พันธ์เพาะลูก อายุก็น้อยเพียงนี้จะรีบมีไปทำไม รอข้าพร้อมก่อนจะมีแน่นอนไม่ต้องห่วงเจ้าค่ะ”“น้อยได้อย่างไร คนอื่นลูกเขาต่างวิ่งกันได้แล้วดูเจ้าสิอย่าทำตัวเหลวไหลนักเลย ของที่ย่านำมาด้วยดื่มให้เป็นประจำบำรุงร่างกายทั้งนั้น ร่างกายสมบูรณ์จะได้ตั้งครรภ์เสียที”จากนั้นก็หันไปสั่งเสี่ยวหยุน“เสี่ยวหยุนอย่าลืมให้พระชายาดื่มยาบำรุงของข้าทุกวัน ร

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 51 ตอนจบ

    บทที่ 51 จบบริบูรณ์วันนี้เป็นวันอันสำคัญที่ฝ่าบาทจัดขึ้นเพื่อลี่หมิงอ๋อง จึงทรงเชิญคนมากมายรวมทั้งคนในครอบครัวของจื่อรั่วอิงมาร่วมงานเลี้ยงฉลอง ท่านย่าของจื่อรั่วอิงตื่นเต้นเป็นอันมาก นางยังได้เชิญญาติ ๆ มาร่วมงานด้วยโดยที่ฝ่าบาทเองก็ไม่ได้ขัดข้องที่เหล่าชนชั้นพ่อค้าเหล่านี้จะเข้าวังร่วมแสดงความยินดี ในขณะที่บิดาและภรรยาทั้งสี่ของเขาต่างก็เข้าร่วมงานด้วยความสำราญใจและยังได้รับการคารวะสุราแทบจะไม่ว่างเว้นจื่อรั่วอิงถึงกับส่ายหน้าเมื่อเห็นท่านย่าแต่งกายด้วยอาภรณ์และเครื่องประดับสีทองทั้งตัว นางกลัวว่าจะถูกคนในวังตำหนิที่ทำตัวเด่นดังเกินหน้าเกินตาน้องสี่ของนางจึงเอ่ยว่า"ฝ่าบาทพระราชทานให้ท่านย่า เพราะบอกว่าเลี้ยงพี่สามมาดียิ่งทำให้พบคนร้ายที่ทำลายดวงตาท่านอ๋อง ความดีความชอบยกให้ท่านย่าทั้งหมด อีกทั้งเครื่องประดับเหล่านั้นจึงยังเป็นลี่ไท่เฟยที่มอบให้ อีกไม่นานลี่ไท่เฟยจะดำรงตำแหน่งไทฮองไทเฮาแล้ว พระนางจึงมีของมากมาย ของกำนัลเหล่านี้ล้วนเป็นพระนางที่คัดเลือกส่งให้ท่านย่าทั้งหมดเจ้าค่ะ"จื่อรั่วอิงย่อมรู้ว่าแม่สามีตอบรับตำแหน่งไทฮองไทเฮาแล้ว นางดีใจจนเนื้อเต้น ไม่ใช่เพราะแม่สามีจะได้ตำ

  • ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด   บทที่ 50 ผู้ใดทำผิดต้องรับการลงโทษ

    บทที่ 50 ผู้ใดทำผิดต้องได้รับการลงโทษเจียวลู่ตามคนผู้นั้นมายังสถานที่หนึ่ง บัดนี้นางคุกเข่าอยู่ต่อหน้าคนผู้นั้นพร้อมกับเอ่ยว่า"จัดการเรียบร้อยแล้วเพคะ พวกเขาจะไม่ตื่นขึ้นมาอีกต่อไป""เจ้าแน่ใจหรือไม่""เพคะ หม่อมฉันลงมือด้วยตนเอง และก่อนออกจากจวนก็ไปพบพวกเขา ทุกคนล้วนนอนหลับแล้วเพคะ""อืม ดีมาก คงมีเพียงเจ้าที่ไว้ใจได้ เจ้าทำพลาดมาแล้วครั้งหนึ่ง คงนี้คงไม่พลาดอีกใช่หรือไม่""เพคะ ทรงไว้ใจหม่อมฉันได้ ไม่พลาดแน่นอน"สตรีนางนั้นแย้มยิ้ม แล้วยกแขนขึ้นกวักมือเรียกเจียวลู่ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน"ลูกแม่ มาหาแม่สิ มาใกล้ ๆ แม่"เจียวลู่ขยับเข้าไปใกล้คนผู้นั้น แล้วซบใบหน้าลงบนตัก"เสด็จแม่ยอมรับหม่อมฉันแล้วใช่หรือไม่"สตรีนางนั้นเอ่ยว่า"ไม่ยอมรับได้อย่างไร เจ้าคือลูกแม่มิใช่หรือ หลายปีมานี้ใช้งานเจ้าให้หลบซ่อนตัวในจวนอ๋อง เจ้าทำตามที่แม่สั่งมาเนิ่นนาน สุดท้ายมือของเจ้ายังแปดเปื้อนเลือดคน ทั้งหมดเจ้าแสดงให้เห็นแล้วว่าซื่อสัตย์ต่อแม่เพียงใด แม่ซาบซึ้งใจยิ่งนัก"เจียวลู่เงยหน้ามองนางผู้นั้นแล้วเอ่ยว่า"ไยจึงเปลี่ยนพระทัยสังหารไท่เฟยเพคะ นางโดนยาพิษมาหลายปีเพียงนี้อีกไม่นานก็คงล้มป่วยแล้ว"สองมือข

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status