ในคืนนั้นฉันนอนกระสับกระส่ายรอจนกระทั่งแม่หลับไป ลังเลว่าจะออกไปตามที่หัวใจต้องการหรือว่าควรเชื่อฟังคำสั่งสอนของแม่ที่ไม่ให้อ่อยหนุ่มข้างบ้าน
แล้วเรื่องแบบนี้มันห้ามกันได้ซะที่ไหนล่ะ แม้จะถูกพร่ำสอนมาเป็นอย่างดี แต่เพราะตัวฉันเองที่มันร่านและไม่รักดี ที่ผ่านมาทุกครั้งก็ป้องกันเป็นอย่างดีครั้งนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ฉันออกจากห้องนอนแล้วเอาหูแนบที่ประตูห้องนอนของแม่ที่ตอนนี้เงียบสนิทไม่มีเสียงเล่นคลิปในแอปพลิเคชั่นดัง แสดงว่าแม่คงนอนหลับไปแล้ว
เมื่อมั่นใจว่าอย่างนั้นฉันก็รีบเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดลำลองและรีบไปที่บ้านของพี่พีท ไปกดกริ่งหน้าบ้านของเขาแล้วหันซ้ายหันขวามองอย่างระวัง
พี่พีทออกมาเปิดรั้วให้แล้วเราก็เดินเข้าไปในบ้านด้วยกัน ฉันถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่ไม่มีใครเห็นไม่อย่างนั้นถูกแม่สวดหูชาแน่
“ไหนล่ะของขวัญต้อนรับของพี่” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่กรุ้มกริ่ม
“ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าของขวัญต้องแกะที่ห้องนอนของพี่พีท” ฉันตอบเสียงกระเส่าเพื่อยั่วยวนเขาแล้วมองด้วยสายตาที่เชิญชวน
“งั้นเราอย่ารอช้าเลยนะครับ” เขายกยิ้มแล้วมองด้วยสายตาที่พอใจ เดินนำฉันไปยังห้องนอนของเขาที่อยู่ซ้ายมือ
แผนผังบ้านเหมือนกัน ขนาดบ้านหลังเท่ากันแต่การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ทำให้บ้านของเขาดูกว้างกว่า น่าอยู่มากๆ และที่สำคัญน่าใช้เป็นเรือนหอของเราได้อย่างลงตัว
เมื่อเข้าไปถึงห้องนอนของเขา พี่พีทก็เริ่มแกะของขวัญต้อนรับเพื่อนบ้านใหม่อย่างไม่รอช้า เสื้อยืดตัวจิ๋วและบราลูกไม้สีชมพูอ่อนที่ตั้งใจใส่มายั่วเขาถูกถอดโยนออกไปอย่างไม่ไยดี
“ของขวัญดูน่ากินมากเลยครับน้องซอ”
“แกะช้าจังเลยให้ซอช่วยแกะนะคะ” ว่าแล้วฉันก็แกะกระดุมกางเกงของตัวเองออกไปแล้วปล่อยให้กางเกงไหลหล่นลงพื้นเหลือไว้แค่แพนตี้ตัวเดียว
พี่พีทมองตาเป็นมันแล้วรีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกไป แล้วเขาก็รีบขยับมากอดจูบไซ้ซอกคอฉันด้วยความหื่นกระหาย
“ใจเย็นๆ สิคะ”
“ตัวหอมแบบนี้ใครจะอดใจไหวล่ะ คอยดูนะของขวัญชิ้นนี้พี่จะกินให้หมดทั้งตัวเลย”
เขาดันฉันไปที่เตียงแล้วถอดเครื่องนุ่งห่มร่างกายชิ้นสุดท้ายออกไปแล้วใช้นิ้วสำรวจที่กลีบกุหลาบสีหวานนั้นอย่างหลงใหล
“จะน่าเกลียดไหมถ้าพี่จะถามว่าเคยผ่านมารึยัง” เขาถามแล้วเลียริมฝีปาก มองดูนิ้วตัวเองที่แยงเข้าออกในรูสวาทด้วยแววตาที่โลมเลีย
“เคยนอนกับแฟนมาสองคนค่ะ” ฉันบอกเขาไปตามตรง “คนแรกคบกันหนึ่งปี อีกคนคบกันหกเดือน”
“งั้นถ้าพี่เอาแรงๆ ก็ไม่เป็นไรใช่ไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น พร้อมจะขยี้สวาทฉันอย่างเต็มที่แล้ว
“เต็มที่เลยค่ะ ซอเองก็ขาดของมานาน เห็นพี่พีทแล้วมันก็รู้สึกอยากได้อยากโดน” ฉันพูดจบก็แยกขาออกกว้าง
“ใจร้อนจังมาเป็นของขวัญให้พี่ งั้นก็ต้องปรนนิบัติพี่ก่อนสิ” เขาเอานิ้วที่มีน้ำใสๆ เคลือบเต็มนิ้วออกมาจากรูคับแคบของฉันแล้วดูดเลียมันอย่างไม่รังเกียจ
ฉันลุกขึ้นมองเขานอนหงายลงไปแล้วขยับไปสำรวจเสาเข็มลำใหญ่ที่จะตอกลงหลุมในวันนี้ มันผงาดตั้งขยายเต็มมือ ปลายหัวบานราวกับดอกเห็ดนางรมหลวงดอกใหญ่ที่พร้อมจะให้ฉันได้ลิ้มรส
“อมให้พี่สิครับน้องซอ” เขาพูดเสียงต่ำพร่า เอาหมอนรองคอให้ยกสูงเพื่อดูการใช้ปากและลิ้นของฉัน
ฉันจับดุ้นอวบนั้นขึ้นมารูดรั้งด้วยมือแล้วแตะปลายลิ้นลงไปที่หัวมันวาวดูดแล้วเลียด้วยความตื่นเต้นกับการส่งมอบของขวัญต้อนรับเพื่อนบ้านใหม่ในคืนนี้
แผล็บ แผล็บ! ปลายลิ้นฉันตวัดเลียท่อนเนื้อนั้นอย่างเต็มความสามารถ จากนั้นก็ห่อปากเป็นรูปตัวโอเพื่ออมมันเข้าไปแล้วเม้มริมฝีปากโยกคอขึ้นลงปรนนิบัติเอาใจเขา
“อ๊าส์ อมเก่งมากเลยซอ ซี๊ด พี่เสียวมากจริงๆ” เขาครางเสียงกระเส่า ปลายเสียงสั่นพร่าแสดงถึงความสุขสมที่ได้รับ
เมื่อเห็นว่าเขาพอใจกับทักษะการใช้ปากของฉันแล้ว ฉันก็ลุกขึ้นแล้วมองไปยังถุงยางที่เขาวางเตรียมไว้และหยิบมันมาสวมใส่ให้เขา
ฉันกดสะโพกครอบครองท่อนเนื้อของเขาแล้วโยกตัวเบาๆ ค่อยๆ เพิ่มแรงขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเป็นขย่มขึ้นลงในแนวดิ่งจนสองเต้าของฉันกระเพื่อมขึ้นลงท้าทายสายตาเขา
สวบ สวบ สวบ! กลีบสวาทของฉันเสียดสีท่อนเนื้อของเขาสวบเข้าสวบออกอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่มือหนาบีบเคล้นหน้าอกที่กระเพื่อมไหวแล้วยกคอขึ้นมาดูดอย่างมูมมาม
“อ๊าส์ พี่พีทดูดแรงๆ สิคะ อ๊าส์” ฉันพูดเสียงกระเส่าแล้วขย่มลงไปหนักๆ
เขานอนเอนลงไปแล้วมองใบหน้าที่บิดเบ้ของฉัน เกร็งสะโพกให้ฉันขย่มลงไปหาเขาแล้วนิ่วหน้าด้วยความเสียวในจังหวะที่ฉันขย่มลง
“อ๊าส์ เสียวจัง จะแตกแล้ว” พี่พีทพูดเสียงสั่นแล้วจับสะโพกฉันช่วยส่งแรงให้ขย่มลงไปหนักๆ
“ซอจะแตกแล้วพี่พีท อื้อ ดุ้นพี่พีทเอามันมาก มันเกาะถูกจุดเสียวเต็มๆ เลยค่ะ หัวบานๆ แบบนี้ซอชอบมากๆ เลย” ฉันบอกเขาอย่างชื่นชม
“ไม่ไหวแล้ว ขย่มแรงอีก อ๊าส์ แรงอีก” เขาร้องขอเสียงสั่นแล้วหลับตานิ่วหน้าด้วยความเสียวที่โดนฉันขย่มเน้นๆ
สวบ สวบ สวบ! ฉันขย่มลงไปหนักๆ จากนั้นก็รู้สึกโล่งสบายที่ท้องน้อย ตัวเบาโหวง ภายในบีบรัดท่อนเนื้อนั้นจนมันกระตุกปลายหัวพ่นของเหลวออกมา
“ตื่นเต้นน่ะ เลยเสร็จไว ขอแก้มือนะ”
“แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ต้อนรับพี่พีททั้งทีรอบเดียวได้ยังไง” ฉันบอกเขาเสียงกระเส่าปนหอบเหนื่อย
ทิ้งตัวลงนอนรอเขาเพื่อที่จะละเลงรักต่อในรอบถัดไปให้เต็มอิ่ม
---------------------
เจ้าของร่างกำยำตอนนี้คลานอยู่กับพื้น รับบทหมีตัวใหญ่ที่กำลังโดนพรานสาวอย่างเพลินพราวกำลังไล่ล่าและควบคุมหลอดน้ำผึ้งที่เธอถืออยู่ใช้หลอกล่อเจ้าหมีตัวนั้นให้ทำตามคำสั่ง“หมีอยากกินน้ำผึ้งแล้ว” ธาดาผู้รับบทเจ้าหมีผู้อาภัพพูดแล้วเลียริมฝีปากไปรอบๆหญิงสาวเดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวในห้องโถงรับแขก อ้าขาออกกว้างแล้วเทน้ำผึ้งราดที่กลีบกุหลาบและเม็ดคริสตัลสีชมพูใสแววตาของเขามองลุกวาว ไม่อยากเชื่อว่าเธอจะร่วมสนุกไปกับเขาได้อย่างน่าตื่นเต้นแบบนี้“มาเลียน้ำผึ้งสิเจ้าหมี เลียเสร็จแล้วฉันจะพาเล่นอะไรสนุกๆ” เธอรับบทบาทเป็นพรานสาวที่เจ้าเล่ห์และยั่วยวน และให้เขารับบทผู้ถูกกระทำอย่างที่เขาชอบธาดาค่อยๆ คลานเข้าไปหาแล้วแยกเข่าทั้งสองออกให้กว้างขึ้น จากนั้นก็มุดหน้าเลียกินน้ำผึ้งจากกลีบดอกไม้สีหวานอย่างตะกละตะกลามเพลินพราวรู้สึกเพลิดเพลินไปกับบทบาทสมมติเหล่านี้ มันทำให้เธอตื่นเต้นและชักจะติดใจกับการแสดงในบทบาทต่างๆ มันทำให้ชีวิตเซ็กส์ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป“เลียหนักๆ สิเจ้าหมี เลียหนักๆ ซี้ด อ๊าส์ เลียให้ฉันน้ำแตกไปเลย” เธอพูดหยาบโลนเพื่อกระตุ้นอารมณ์ปรารถนาปลายลิ้นสากละเลงเลียลงไปที่จุดเสียวอย่างบ้าคลั่
สัญญาซื้อขายถูกเซ็นครบพร้อมกับวางมัดจำในจำนวนที่ตกลงกันเอาไว้ ทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่นไม่มีอะไรต้องพูดคุยกันให้เสียเวลา“ต้องขอบคุณคุณธาดามากนะคะ ที่ไว้ใจให้พราวได้ดูแลบ้านหลังนี้ให้”“ครับ ถ้าผมได้ลูกค้าที่ต้องการบ้านอีก ผมก็จะแนะนำโครงการนี้ครับ ในตอนนั้นก็คงจะต้องรบกวนคุณพราวอีกอย่างแน่นอน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้ดูเหมือนคนเจ้าชู้ใส่เธอ ทุกอย่างเป็นไปตามปกติดูไม่มีอะไรผิดสังเกต“ขอบคุณมากจริงๆ นะครับพี่วางใจให้เราดูแล” วาทิตพูดย้ำอีกครั้ง เขารู้สึกโล่งใจมากที่อีกฝ่ายไม่ได้มีท่าทีสนใจเพลินพราว ไม่อย่างนั้นเขาคงทนไม่ได้แน่เพราะรู้กิตติศัพท์ของเขาดี“ยินดีมากครับรับรองว่ามีหลังต่อๆ ไปแน่” เขาพูดแล้วยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู บ่งบอกเป็นนัยว่ามีเวลาไม่มาก“เดี๋ยวพราวเดินไปส่งที่รถนะคะ” พนักงานขายสาวพูดด้วยความยินดี เธอจะได้ค่าคอมมิชชั่นจากงานนี้ใหม่น้อยก็ต้องดูแลเขาให้ดีหน่อย“พราวไม่ต่อออกไปก็ได้ครับ ไม่สบายอยู่ไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวผมออกไปส่งคุณธาดาเอง” วาทิตรับอาสาที่จะเดินออกไปส่งลูกค้ารายใหญ่คนนี้แทนแต่หญิงสาวก็ไม่ได้ยินยอม “ไม่เป็นไรค่ะ ตอนออกไปดูบ้านพราวก็ยังออกไปได้ พราวไหวค่ะ” เธ
วันต่อมาเพลินพราวมาทำงานตามปกติ และวันนี้เป็นวันที่ธาดานัดเอาไว้ว่าจะเข้ามาเดินดูบ้านพอเป็นพิธีและเซ็นสัญญาซื้อขายในวันนี้วาทิตเห็นว่าเธอมาถึงก็เดินเข้าไปทักทายด้วยความหวังดี “หายดีแล้วเหรอครับ”“ยังรู้สึกไม่สบายตัวนิดหน่อยค่ะ แต่วันนี้นัดคุณธาดาเอาไว้แล้วเลยมาเซ็นสัญญา พราวไม่อยากพลาดค่าคอมมิชชั่นน่ะค่ะ” หญิงสาวพูดด้วยรอยยิ้มที่สุภาพและเป็นมิตรเธอต้องออกตัวไว้ก่อน เพราะคืนนี้แน่นอนว่าธาดาจะต้องจัดหนักส่งท้ายก่อนจะยุติความสัมพันธ์ชั่วคราวในครั้งนี้ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์จึงต้องมีข้ออ้างในการลาที่สมเหตุสมผล“งั้นวันนี้ถ้าคุณธาดาเขาเซ็นสัญญาซื้อขายเสร็จ พราวลาพักได้เลยนะ พรุ่งนี้ไม่ไหวก็ไม่ต้องมา”“ขอบคุณค่ะผู้จัดการ” เธอรับคำพูดนั้นแล้วแอบถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอกเมื่อวานนี้เขาไปรับประทานอาหารค่ำตามคำเชิญของมารดา ด้วยความที่เป็นเจ้าบ้านที่ดีเธอต้องต้อนรับเขาตามมารยาท และใช้ข้ออ้างในการป่วยขอตัวกลับเข้าไปพักผ่อนไม่ได้อยู่คุยกับเขาต่อ“ตอนเที่ยงพี่จะซื้ออาหารมาให้ พราวไม่ต้องออกไปนะ ออกจากห้องแอร์ไปเจออากาศข้างนอกร้อนๆ เดี๋ยวจะยิ่งแย่”“ค่ะ ผู้จัดการ” เธอยิ้มให้เขาบางๆ ที่ม
ในตอนเช้าสภาพของเพลินพราวดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัดเจน เธอนั่งกินอาหารเช้าฝีมือมารดาอย่างเงียบๆ เหมือนคนกำลังใช้ความคิด“มีอะไรเล่าให้แม่ฟังไหม” นภาถามด้วยน้ำเสียงที่ห่วงใย จะดีเลวอย่างไรคนตรงหน้าก็คือลูกที่คลอดมาเองกับมือ“เปล่าหรอกค่ะ แค่คิดว่าจะลางานดีไหม” เธอตอบตามตรง เพราะว่าสภาพที่ถูกเขาจัดหนักจัดเต็มมันทำให้เธอเดินแปลกๆ เพราะแสบขัดที่น้องสาว“แม่ว่าลาก็ดี ยังไม่ได้แต่งตัวนี่ พราวคงคิดจะลาอยู่แล้วใช่ไหม” นภาถามอย่างรู้ทัน เพลินพราวจึงพยักหน้ายอมรับออกมาตามตรง เพราะเธอเทใจไปทางอยากจะลามากกว่า “ค่ะ ก็คิดว่าจะลา แต่ปัญหามันอยู่ที่นี่ล่ะคะ” เธอถอนหายใจด้วยความหนักอก หากผู้จัดการหนุ่มรู้เข้า เขาจะต้องหาเรื่องมาเยี่ยมเยียนเธอถึงบ้านแน่“ทำงานหนักมาทั้งปีแล้ว ลาหยุดไม่กี่วันคงไม่เป็นไรหรอก”“ก็คงอย่างนั้นค่ะ ครั้งนี้พราวเพลียมากเลยจริงๆ ค่ะ” เธอพูดเสียงอ่อย รู้ว่ามารดาต้องเดาออกอยู่แล้วว่าเธอไปทำอะไรเมื่อคืนนี้ เพียงแต่เธอไม่พูดออกมาเท่านั้นและแล้วก็เป็นไปตามคาด เมื่อเธอโทรศัพท์ไปลางานในช่วงเช้า พอถึงเวลาพักกลางวันสิทธาก็มาเยี่ยมเธอถึงบ้าน และเป็นการมาเยี่ยมแบบเป็นส่วนตัวไม่ได้ชวนเพื
ธาดายื่นกุญแจมือให้เธอจับเขาล็อกเอาไว้กับหัวเตียงทั้งสองข้าง จากนั้นก็รับบทเป็นทาสหนุ่มที่ร้องขอชีวิตจากเธอหญิงสาวกำลังขย่มเขาอย่างเมามันแล้วทิ้งตัวลงไปบดขยี้เต็มแรงสะโพก“นายหญิง อ๊าส์ อย่าทำผม ซี้ด ผมยอมแล้ว” เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะมีรสนิยมแปลกๆ รับบททาสหนุ่มที่อ่อนแอให้เธอจัดการเขา“หุบปาก นี่แน่ะ...อ๊าส์” เธอด่าเขาแล้วเร่งขย่มลงไปอย่างเต็มแรงใบหน้าหวานโน้มหน้าลงไปแล้วดูดเม้มที่เนินอกกำยำจนเกิดจ้ำสีแดงช้ำ ดูดขบไปตามเนื้อที่อยู่ในร่มผาตามที่เขาบอกเอาไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้เขายิ่งร้องครางอย่างสะใจแล้วรับบทผู้ถูกกระทำได้อย่างสมบทบาท“นายหญิง อย่าทำรอย อ๊าส์ อย่าทำรอย ซี้ด...”ยิ่งเขาร้องครางเท่าไรเธอก็ยิ่งมีอารมณ์ร่วมกับเขาเท่านั้น“ไม่ไหวแล้ว ซี้ด” หญิงสาวทนต่อการกระตุ้นที่แปลกใหม่ไม่ไหว เอถึงจุดหมายไปแล้วขมิบรัดท่อนลำนั้นจนธาดาก็ปลดปล่อยออกมาแทบจะพร้อมกันเธอมองเขาที่ยิ้มอย่างพออกพอใจ จากนั้นก็ไขกุญแจมือให้พร้อมกับออกคำสั่ง“ฉันเหนื่อยแล้ว แกต้องทำให้ฉันมีความสุข” เธอรับบทบาทนายหญิงได้อย่างไม่มีที่ติ เป็นครั้งแรกที่ทำแบบนี้มันตื่นเต้นและเร้าใจดีเป็นอย่างมาก“แต่ว่าผมไม่อยากทำ” เขา
ธาดามีฉลาดพอที่จะยังไม่ตกลงซื้อบ้านในตอนนี้ เพราะตราบใดที่เขายังไม่ได้เชยชมเพลินพราวสมใจ ก็ยังไม่วางใจอะไรทั้งสิ้น“คุณธาดามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ ติดขัดตรงไหนบอกผมได้นะครับ” ผู้จัดการโครงการถามอย่างร้อนใจ กลัวว่าจะเสียลูกค้ารายใหญ่ไปเพราะปกติหากเขาสนใจก็จะซื้อโดยไม่ต่อรอง“ผมลังเลใจระหว่างหลังแรกกับหลังที่สอง ขอกลับไปปรึกษาที่บ้านก่อนดีกว่าครับ” เขาบอกเหตุผลที่ทำให้ผู้จัดการหนุ่มโล่งใจธาดาเป็นนายหน้าซื้อขายบ้าน เขาหาบ้านที่เหมาะสมให้แก่ลูกค้าต่างชาติที่มีภรรยาคนไทยและต้องการที่พักภายในประเทศเป็นที่รู้กันดีว่าธาดามีหัวด้านธุรกิจอสังหาฯ และร่ำรวยขึ้นมาได้ด้วยตนเอง การตัดสินใจซื้อขายก็มีความเด็ดขาด เขาไปดูบ้านโครงการไหนอย่างน้อยก็มีสองถึงสามหลังที่เขาจะซื้อเพื่อนำไปปรับปรุงและขายต่อเอากำไรหลักล้าน“ผมคิดว่าคุณธาดาไม่พอใจพนักงานขายของเราเสียอีก” ผู้จัดการหนุ่มยังรู้มาอีกด้วยว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง ชอบฉวยโอกาสสาวสวยรอบตัวอยู่เสมอ จึงคิดว่าถูกเพลินพราวปฏิเสธจึงยังไม่เซ็นสัญญา“ไม่เลยครับ คุณพราวเธอดูแลผมดีมาก อธิบายรายละเอียดได้ดีจนผมลังเลเลยว่าจะเลือกซื้อหลังไหน” เขาพูดชื่นชมเธอแล้วมองด้