ตอนที่ 4
ที่ห้องทำงาน
คลินท์นั่งมองภาพของสองหนุ่มสาวคู่หนึ่งผ่านหน้าจอโทรศัพท์ด้วยใบหน้าเรียบเฉย ก่อนจะยิ้มนิดๆ เมื่อรับฟังคำรายงานจากลูกน้องว่าเดือนหน้า หนุ่มสาวในภาพจะเข้าพิธีหมั้นหมายกันตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่
“อย่าฝันว่าจะได้มีความสุข นิธารา” คลินท์พูดขึ้นด้วยแววตาแข็งกร้าว เพราะมันถึงเวลาแล้วที่เขาจะไปเอาคืนผู้หญิงหน้าเงิน หลังจากเขาต้องทุ่มเทเวลาให้กับลูกชายและงานที่บริษัทแทนผู้เป็นย่าที่วางมือไปหลายปี
“คุณคลินท์จะไปหรือเปล่าครับ” บารอน บอดี้การ์ดหนุ่มเอ่ยถามเสียงเรียบ คาดเดาว่างานนี้เจ้านายไปแน่
“เมียฉันจะหมั้นทั้งที ยังไงฉันก็ต้องไปแสดงความยินดีอยู่แล้ว”
“แล้วผมจะให้คุณคอนนี่จัดการเรื่องการเดินทางให้เจ้านายเลยนะครับ”
“จัดการได้เลย เพราะงานทางนี้ก็ลงตัวแล้ว แล้วระหว่างที่ฉันอยู่เมืองไทย ฉันจะฝากให้คอนนี่ดูแลงานแทน”
“แล้วคุณฟลินท์ล่ะครับ เจ้านายจะพาไปด้วยหรือเปล่าครับ” บารอนหมายถึงทายาทเพียงคนเดียวของเจ้านายหนุ่ม
“ฉันจะพาไปด้วย”
“ครับ”
“นายออกไปได้แล้วบารอน แล้วอย่าลืมจัดการเรื่องการเดินทางให้เรียบร้อยด้วยล่ะ”
“ครับเจ้านาย” บารอนลุกขึ้นยื่นแล้วโค้งศีรษะเล็กน้อย จากนั้นก็เดินออกจากห้องทำงานของเจ้านายหนุ่มไปจัดการตามคำสั่ง ขณะที่เจ้านายหนุ่มก็เอนตัวพิงเก้าอี้ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะยื่นมือไปเปิดลิ้นชักหยิบภาพของอดีตคนรักออกมา
‘คุณต้องชดใช้ความเจ็บครั้งนี้ให้ผม นิธารา’ คลินท์พึมพำเสียงเครียด เขาจ้องมองภาพของอดีตคนรักด้วยความรู้สึกที่ยอมรับว่ายังรักเธอ แต่ความโกรธก็มีมากเช่นกัน
******
ช่วงค่ำวันต่อมา ขณะที่นิธารากำลังเปิดประตูเข้าห้องพักก็มีห้องข้างๆ เปิดประตูออกมาทักทายและก็เป็นแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง
“สวัสดีครับ เพิ่งกลับมาเหรอครับ” หนุ่มฝรั่งทักทายด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร หลังจากเขากะเวลาเอาไว้แล้วว่าสาวสวยข้างห้องจะกลับมาเวลานี้
“ค่ะ พอดีงานเพิ่งเลิก” คนถูกทักตอบกลับเสียงราบเรียบ มุมปากกดยิ้มเล็กน้อยพอเป็นพิธี ก่อนจะรีบเปิดประตูเข้าห้องพักไปบอกเป็นนัยว่าไม่อยากสนทนากับหนุ่มต่างชาติ เพราะเธอเหนื่อย อยากพัก แต่คงพักไม่ได้เพราะค่ำนี้มีนัดกับว่าที่คู่หมั้น
“คุณพักอยู่คนเดียวเหรอครับ”
“คุณน่าจะรู้อยู่แล้วนะคะ” คนถูกถามตอบกลับด้วยปลายเสียงสะบัดเล็กน้อย สีหน้าก็แสดงออกชัดเจนว่าไม่พอใจกับถามของอีกฝ่าย
“ผมต้องขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำให้คุณไม่พอใจ” หนุ่มฝรั่งเอ่ยเสียงเรียบ แต่ก็ทุกคำก็กลั่นออกมาใจจริงๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ พอดีฉันเหนื่อยๆ เลยทำสีหน้าไม่ค่อยดี แต่ฉันขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบโทรศัพท์ของเธอก็ส่งเสียงร้อง เธอจึงหันไปยิ้มให้กับหนุ่มฝรั่งเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้าไปในห้องพักพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาดู พอเห็นชื่อคนโทรมาเธอก็ถอนใจออกมาเบาๆ
“พี่สิริ นิดเพิ่งมาถึงคอนโด ขอนิดอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ พี่สิริไม่ต้องรีบมานะคะ จะได้ไม่ต้องมารอนิดนาน” คนไม่อยากไปดินเนอร์ตอบกลับเสียงเรียบเมื่อว่าที่คู่หมั้นโทรมาถามว่าถึงไหนแล้ว หลังจากเขาไม่ได้มาส่งที่คอนโด เพราะติดงาน
“พี่ยังไม่ได้ออกไปรับนิด คือพี่...” สิริอ้ำอึ้ง ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาบอกว่าที่คู่หมั้นคนสวย
“ถ้าพี่สิริมีธุระ พี่ก็ไปเถอะค่ะ ส่วนเรื่องดินเนอร์เอาไว้วันหลังก็ได้ค่ะ”
“แล้วนิดไม่โกรธพี่ใช่ไหมที่พี่ผิดนัดกับนิดอีกแล้ว”
“นิดจะไปโกรธพี่ทำไมค่ะ แล้วถ้าพี่นัดนิดแล้วเกิดมีธุระด่วน พี่ก็ไปทำธุระของพี่ได้เลยนะคะ ไม่ต้องห่วงนิด นิดเข้าใจดีว่าพี่สิริงานเยอะ”
“ถ้างั้นดินเนอร์ครั้งหน้า พี่จะหาของขวัญให้นิดนะครับ” สิริพูดเอาใจว่าที่คู่หมั้นสาว โดยไม่รู้เลยว่าว่าที่คู่หมั้นคนสวยไม่ต้องการของขวัญสุดพิเศษอะไรเลยนอกเสียจากอยากให้งานหมั้นที่กำลังจะเกิดขึ้นถูกยกเลิก
“พี่สิริไม่ต้องเอาของขวัญอะไรให้นิดหรอกค่ะ”
“ก็ตามใจนิดแล้วกัน ถ้างั้นพี่วางสายก่อนนะ” สิริไม่อยู่รอฟังคำใดๆ จากว่าที่คู่หมั้น เขาก็กดวางสายทันทีเพราะสาวสวยอีกคนมาถึงแล้ว
“พิณแก้ว” สิริเอ่ยเรียกเมื่อผู้ช่วยเลขาคนสวยมองหาเขาอยู่
“คุณสิริ” พิณแก้วมองซ้ายมองขวา เพราะกลัวจะมีคนรู้จักผ่านมาเห็น ก่อนจะเดินเข้าไปหาเจ้านายหนุ่ม
“ไม่ต้องกลัวที่รัก จะไม่มีใครมาเห็นเราสองคน” สิริยื่นมือไปกุมมือเล็กแล้วยกขึ้นจูบเบาๆ ส่งผลให้เจ้าของมือนุ่มผิวหน้าเห่อร้อน ก่อนจะถูกเจ้านายหนุ่มสั่งให้เข้าไปในรถ ครั้นพอเข้ามาแล้วเธอก็ถูกเจ้านายหนุ่มรั้งเข้าไปกอด
“คุณสิริ” พิณแก้วใจเต้นกระหน่ำเมื่อถูกสวมกอดทั้งที่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ถูกกอด
“ทำไม” สิริถามกลับเสียงพร่า
“ปล่อย ปล่อยพิณก่อนเถอะค่ะ” พิณแก้วยกมือดันอกของอีกคนเอาไว้ ใบหน้าแดงระเรื่ออย่างเขินอาย
“แต่ผมอยากกอดคุณ” สิริเอ่ยเสียงพร่า ยอมรับเต็มปากเลยว่าความต้องการพุ่งพล่านจนแทบไม่อยากพาหญิงสาวในอ้อมกอดไปทานอาหารมื้อค่ำ แต่อยากจะพาหญิงสาวไปทำอย่างอื่น
“แต่พิณกลัวคนเห็น”
ตอนอวสาน สามทุ่มตามเวลานัดหมาย คลินท์ก็เดินทางมาถึงตึกร้างตามเวลานัด จากนั้นเขาก็เดินถือกระเป๋าเงินเข้าไปในด้านใน เดินไปได้สักพักก็มีคนออกมารับพร้อมอาวุธในมือ “เงินอยู่ไหน!” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถามพร้อมกับมองไปที่กระเป๋า “นี่ไง” คลินท์โยนกระเป๋าเงินให้สองคนร้าย แล้วมองหาผู้เป็นย่าด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนร้ายก็เปิดกระเป๋าดูเงิน เห็นแล้วพากันตาโต ไม่คิดว่าจะหาเงินได้ง่ายขนาดนี้ “ครบหรือเปล่าว่ะ” หนึ่งในคนร้ายเอ่ยถาม “ถ้าพวกแกกลัวฉันให้ไม่ครบ ก็นับดู แต่ปล่อยคุณย่าของฉันมาก่อน” คลิน
ก่อนอวสาน ช่วงเย็นของวันคลินท์เดินทางมาถึงบ้านของคุณหญิงฤทัยรัตน์และขอเข้าพบเจ้าของบ้าน ที่ตอนนี้คนในบ้านกำลังนั่งเล่นอยู่กับหนุ่มน้อยช่างพูด นิธาราเองก็มองลูกชายอย่างรักใคร่ แต่ดูเหมือนความสุขจะหยุดชะงัก เมื่อสาวใช้เข้ามาแจ้งว่ามีผู้ชายชื่อ คลินท์ อธิวัตน์ คาร์เตอร์ มาขอพบคุณหญิงฤทัยรัตน์ “ไปเรียกเข้ามาเลย” จบคำเจ้าของบ้าน คลินท์ก็เดินเข้ามาและทันทีที่น้องฟลินท์เห็นพ่อก็วางของเล่นแล้ววิ่งเข้าไปหา สองพ่อลูกกอดหอมกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่คลินท์จะปล่อย หนุ่มน้อยลงแล้วเข้าไปทักทายเจ้าของบ้าน ที่นั่งอยู่กับแม่สาย “นี่แม่สาย แม่ของยัยนิด” คุณหญิงฤทัยรัตน์เอ่ยแนะนำ
ตอนที่ 51บ้านคุณหญิงฤทัยรัตน์ที่ห้องรับแขกเวลานี้เจ้าของบ้านและแม่บ้านคนสนิทกำลังพากันมองหนุ่มน้อยที่มากับนิธาราเป็นตาเดียว แล้วก็สงสัยว่าเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน “นิด มีอะไรก็บอกคุณหญิงไปสิ จะมัวนั่งเงียบอยู่ทำไม แล้วเด็กคนนี้เป็นใครมาจากไหน เราไปเก็บมาได้หรือไง” คนเป็นแม่สะกิดบอกลูกสาวเสียงเครียด ใจก็ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่ใจกำลังคิดเลย นิธารามองหน้าลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆ ยกมือลูกศีรษะเล็กอย่างรักใคร่ ก่อนจะหันมาก้มลงกราบขอโทษมารดาและคุณหญิงฤทัยรัตน์ ที่ท่านเมตตาส่งเสียเงินทองให้เธอไปเรียนแต่เธอกลับทำให้ท่านผิดหวัง แล้วยังปิดบังเรื่องนี้มาหลายปี “ยัยนิด เป็นอะไรนะเรา จู่ๆ ก็มากราบแม่กับคุณหญิง” คนเป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวเสียงสั่น
ตอนที่ 50 วันต่อมานิธาราขับรถไปยังบ้านของราชันแต่เช้าตรู่ หลังจากเมื่อคืนอีกคนกลับเข้ามาบอกว่าต้องอยู่เฝ้าผู้เป็นย่า เพราะท่านไม่ค่อยสบาย ที่เธอก็อยากจะเข้าไปเยี่ยมเหมือนกัน แต่กลัวไปแล้วจะยิ่งทำให้ท่านเครียด เธอจึงตัดสินใจไม่ไปและเช้ามืดวันนี้เธอก็ตั้งใจจะพาลูกชายไปกราบขอโทษผู้มีพระคุณและมารดา หลังจากเธอปิดบังเรื่องมีครอบครัวเอาไว้ เกือบสี่ปี ที่เธอเก็บเงียบ ไม่ยอมบอกใครแม้กระทั่งเพื่อน ที่วันนี้เธอตัดสินใจมาที่ร้านของเพื่อนก่อนไปบ้านผู้มีพระคุณ“นิด! ไปอุ้มลูกใครมาเนี่ย” ศุภิสราที่ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนนานเอ่ยทัก และดีใจมากๆ ที่เพื่อนโทรมาหาว่าจะมาหาที่ร้าน แต่เมื่อเห็นหน้าเพื่อนแล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อเพื่อนรักมาพร้อมเด็กฝรั่ง หน้าตาน่ารัก“เข้าไปคุยในร้านนะ แล้วในร้านมีคนเยอะหรือเปล่า”“ไม่มีเลย”“งั้นเข้าไปในร้านก่อนนะแล
ตอนที่ 49 “แล้วผู้หญิงคนนั้นก็จะมาอยู่กับตาคลินท์หลานของย่า” คนอยากชังหน้าเมียของหลานชายพึมพำออกมาเบาๆ แต่ก็พอให้แซนด้าได้ยิน “เอ่อ...” แซนด้าถึงกับพูดไม่ออก เพราะรู้ดีว่าผู้อาวุโสไม่ชอบเมียของหลานชายจนถึงกับเอาชีวิตเด็กตัวเล็กๆ มาข่มขู่ จนอีกฝ่ายต้องเผ่นกลับประเทศ “หนูไม่ต้องพูดหรอก เพราะถ้าย่ายังอยู่ ย่าไม่มีวันให้ตาคลินท์ได้อยู่กับผู้หญิงคนนั้น” “โธ่...คุณย่า” “นี่ก็ดึกแล้ว ย่าว่าหนูไปพักผ่อนเถอะ” 
ตอนที่ 48นิธาราเดินกลับห้องพักไปอย่างคนใจลอย หลังจากมาถึงบ้านพักแล้วเธอกับคุณคลินท์ก็พากันไปเดินเล่นรับลมสักครู่ก็พากันกลับเข้าบ้าน แล้วก็เจอกับแซนด้าที่เข้ามาขอคุยธุระกับคุณคลินท์แบบส่วนตัว เธอเลยเดินกลับห้องพักตามลำพัง แต่ขณะที่กำลังจะถึงห้องพักท่อนแขนก็ถูกกระชากอย่างแรง“นิด!”“พี่สิริ!”“ใช่! พี่เอง”“พี่...พี่มีธุระอะไรกับนิดเหรอคะ” ถามไปก็พยายามปลดมือของอีกคนไปด้วย“เธอแอบมีลูกมีผัวอยู่แล้วทำไมต้องปิดบังพี่”“พี่สิริ!”“ตกใจมากหรือไงที่พี่รู้ความจริง”“นิด...นิดขอโทษค่ะ”“คิดว่าขอโทษแล้วจะจบง่ายๆ หรือไง” สิริบีบแขนเล็กจนเจ้าของแขนหน้าเบ้ด้วยความเจ็บ“พี่สิริ นิดเจ็บ” นิธาราพยายามดึงแขนออกจากมือของคู่หมั้นหนุ่ม“แล้วทีเธอหลอกพี่ล่ะ แล้วไหนจะทำเป็นเล่นตัวกับ พี่อีก สะใจเธอมากใ