ชายหนุ่มยอมส่งลูกชายให้หล่อนแต่โดยดี อชิระรู้สึกตัว งอแงงัวเงียครู่เดียวแล้วหลับคาไหล่บางของแม่ต่อ
อาณัติถอยออกห่างจากประตูบ้านหลังสีฟ้า หากสายตายังมองไปในทิศทางที่สองแม่ลูกนั้นอยู่ แม้มองไม่เห็นคนทั้งคู่เพราะบานประตูปิดกั้นก็ตามมือหนายกขึ้นมาวางบนแผงอกตัวเอง ยามเด็กชายซบอยู่กับเขามันอุ่นซ่านถึงหัวใจ...สัมผัสจากร่างจิ๋วและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ของเด็กทำให้เขาไม่อยากส่งเจ้าตัวเล็กคืนให้ไปรยา เขาอยากยื้อไว้เพื่อจะได้อุ้มเด็กชายให้นานที่สุดคนร่างสูงแข็งแรงเดินผ่านประตูรั้วออกมาแล้วหยุดอยู่แค่ตรงนั้น เขายืนปักหลักอยู่หลายนาที จนเห็นไปรยาตามออกมาอาณัติรอให้หญิงสาวล็อกประตูรั้วเสร็จแล้วเดินกลับไป จนเห็นว่าหล่อนเข้าไปในบ้านเรียบร้อยแล้ว เขาจึงตรงไปยังรถที่จอดไว้ จากนั้นรถคันสีดำก็เคลื่อนจากไปผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นพอหมาดๆ บรรจงซับดวงหน้าเล็กกลมของคนที่นอนหลับสนิท ตามด้วยซับซอกคอ ข้อพับแขน และข้อพับขาเพื่อระบายความร้อน จากนั้นจึงเช็ดแขนและขาด้วยต้องการทำความสะอาดไปในตัว อชิระขยับตัว แต่ไม่ได้ตื่นขึ้นมา เด็กน้อยเพียงพลิกตัวกอดหมอนข้า“เขาเป็นลูกของกุ๊บกิ๊บ...เกี่ยวอะไรกับพี่”น้ำตาหยดแหมะแตะแก้มนวล จนหล่อนต้องยกมือขึ้นปาดออก“ถ้าคุณช่วยปลาหางนกยูงของอชิได้ ฉันจะจ่ายดอกเบี้ยให้คุณตามที่คุณต้องการ”“งั้นเหรอ...มั่นใจนะว่าทำได้”เสียงลากยาวจากคนปลายสายทำให้แม่ลูกหนึ่งหงุดหงิดหัวใจ แต่หล่อนทำได้เพียงข่มใจรับปาก“ค่ะ”“ว่าแต่กุ๊บกิ๊บบล็อกเบอร์พี่ตั้งนาน จู่ๆ ติดต่อมาเพราะเรื่องปลาหางนกยูงแค่นี้เหรอ”ทำไมเขาต้องถามซอกแซกด้วยนะ...หัวใจของไปรยาร้อนรน หากความรู้สึกหนึ่งที่ซุกอยู่ทำให้หล่อนโพล่งออกไป“คุณบอกว่าไม่มีเรื่องจะคุย เวลาของคุณมีค่า...” คุณไม่อยากเสียเวลาคุยกับฉันอีก ก้อนแข็งๆ ตีตื้นขึ้นในลำคอก่อนที่หล่อนจะพูดจบ“กุ๊บกิ๊บเลยบล็อกเบอร์พี่อย่างนั้นสิ”ขณะที่ไปรยาถูกความอ่อนแอเข้าโจมตี ทั้งที่เรื่องผ่านมาตั้งสี่ปีแล้ว แต่เสียงของอาณัติยังคงเรียบเฉย คล้ายกับว่าเรื่องที่พูดถึงนั้นไม่ได้กระทบความรู้สึกของเขาสักกระผีกเดียวแน่ละสิ เขาคงจำได้แต่ว่าพี่ป้องทำกับเขายัง
“แม่จะเข้าครัว อชิจะไปกับแม่ไหม”“อชิเล่นกับปลาหางปายูนได้ไหมครับ”ดูเหมือนว่าหล่อนจะปิดเรื่องนี้กับลูกไม่ได้ เพราะอชิระคงติดใจอีกนาน หญิงสาวจึงจับมือของลูก แล้วบอกตามตรง“เมื่อคืนปลาหางนกยูงไม่ได้กลับมาพร้อมเราค่ะ”“พี่ปลาไม่อยู่หรือครับแม่กุ๊บกิ๊บ แล้วพี่ปลาไปไหน”สีหน้าตื่นๆ ของอชิระทำให้ไปรยาต้องระมัดระวังคำพูดมากขึ้น แม้ผู้ใหญ่บางคนอาจมองเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเด็กชายมันเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก“ตอนนี้พี่ปลาอยู่กับคุณลุงจ้ะ”“คุณลุงเอาพี่ปลาของอชิไปหรือครับ พี่ปลาเป็นของอชินะครับแม่กุ๊บกิ๊บ”อชิระตั้งท่าโวยวาย ไปรยาจึงรีบอธิบาย หล่อนไม่อยากให้เรื่องนี้เข้ามาก่อกวนจิตใจของเด็กชายตั้งแต่เช้าตรู่“คุณลุงไม่ได้เอาปลาหางนกยูงของลูกไป แต่แม่ฝากให้คุณลุงช่วยดูแล เมื่อวานอชิเล่นกับคุณลุงเสร็จก็นอนหลับเลย แม่เลยพาอชิกลับมาบ้าน แล้วฝากพี่ปลาไว้กับคุณลุงก่อน วันนี้แม่จะไปรับพี่ปลากลับมาให้อชินะครับ พออชิกลับมาจากโรงเรียน อชิก็ค่อยเล่นกับพี่ปลา”“อ๋อ
“แล้วแกนึกยังไงถึงเช่าโรงแรมอยู่เป็นเดือน ตอนแรกบอกว่าจะขับรถไปกลับไง”“ผมก็แค่อยากอยู่”“แกเบื่อบ้านสินะ ตอนกลับถึงไทยก็ไปพักอยู่ที่ภูเก็ตตั้งหลายวัน พอมาอยู่บ้านได้ไม่กี่วัน แค่จบงานแต่งพี่ชายแก แกก็ไปเช่าโรงแรมที่กรุงเทพฯ อยู่ต่อ”“โธ่แม่! อย่าทำเสียงน้อยใจไปหน่อยเลยน่า ผมคิดถึงแม่จะแย่อยู่แล้ว ผมอยากอยู่บ้านให้แม่จิกทุกวัน แต่ผมมีเรื่องคาราคาซังอยู่ทางนี้ อยากทำให้มันจบๆ”“เรื่องอะไรของแก”“ทวงหนี้”“ใครติดหนี้แก แล้วติดเท่าไร”“ไม่มากหรอก แต่ผมเจ็บใจ อยากทวง”“แล้วแกไปเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ตั้งแต่เมื่อไร”“เพื่อนยืมน่ะ เขาเอาไปทำร้านเหล้าแล้วเจ๊ง ผ่านมาตั้งหลายปีแล้ว แต่ยังไม่คืนผม”“สมน้ำหน้า” สวนกลับเร็วทันใจสมเป็นคุณนายอรอร จนลูกชายต้องโอดครวญ“ไม่ให้กำลังใจกันเลย”“ขอให้แกทวงเงินได้ก็แล้วกัน” คุณนายเปลี่ยนใจอวยพร เพราะอยากให้ลูกชายกลับมาอยู่ที่บ้านไวๆ แต่อดที่จะบอก
“ผมเห็นว่าแหล่งวัตถุดิบเดิมที่จะป้อนเข้าโรงไฟฟ้าในไตรมาสต่อไปหรือปีหน้าอาจมีจำกัด ไม่ทราบว่าบริษัทมีแนวทางรับมือหรือยังครับ และในรายงานนี้แจ้งมาว่าบริษัทมีแผนเข้าซื้อบริษัทดับเบิลยูวาย ส่วนนี้ดำเนินการถึงไหนแล้วครับ”ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับเจ็ดของบริษัทพลังงานเทรนด์รักษ์โลกที่นั่งอยู่ใกล้หัวโต๊ะถามขึ้น หากไม่ทันที่เขาจะได้คำตอบ เครื่องมือสื่อสารที่วางตรงหน้าก็ส่งสัญญาณเตือนครืด...ครืดโทรศัพท์มือถือที่ตั้งเป็นระบบสั่นแจ้งว่ามีสายเรียกเข้า เขาจึงหยิบมาพิมพ์ข้อความตอบกลับ“อีกครึ่งชั่วโมงพี่โทร.กลับ”อาณัติวางโทรศัพท์ลงที่เดิม แล้วกลับไปให้ความสนใจกับการประชุมต่อ“ทางเราติดต่อซัพพลายเออร์ที่พร้อมทำสัญญาขายไม้สับให้กับเราไว้แล้วครับ และเราจะเปิดรับซื้อซังข้าวโพดจากเกษตรกรไว้ป้อนโรงไฟฟ้าอีกช่องทางด้วย ภายในสองปีนี้ราคาวัตถุดิบยังไม่ปรับตัว ต้นทุนเราจะยังไม่เพิ่ม ส่วนการเข้าซื้อบริษัทดับเบิลยูวาย เราจะระดมทุนจากนักลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ แต่อย่างไรก็ตาม เรามีงบสำรองสำหรับกรณีที่ระดมเงินทุนไม่ได้ตามเป้าไว้แล้ว”การ
รถคันสีดำของแขกที่พักห้องสวีตแล่นมาจอดหน้าโรงแรมก่อนสี่โมงเย็น เขาเร่งทำเวลา และคิดว่าโชคดีที่รถของตนแล่นในทิศทางเข้าเมือง ซึ่งสวนทางกับรถส่วนใหญ่ที่แล่นอยู่ในช่องทางออกนอกเมือง เขาจึงไม่ต้องผจญกับรถติดหากเมื่อเข้ามาในล็อบบี้ หางตาก็แลเห็นเด็กชายในชุดอนุบาลวิ่งมาหา เจ้าตัวหยุดตรงหน้าเขาแล้วยกมือไหว้ ก่อนจะแหงนมองหน้าตั้งอชิระมองเขานิ่งๆ ไม่พูดไม่จา ช่างไม่รู้เลยว่าท่าทีนั้นทำเอาผู้ใหญ่ทำตัวไม่ถูกอาณัติกวาดสายตามองหาแม่ของเจ้าตัวน้อย เห็นหล่อนจ้ำเท้ามาหาอย่างไว เขาจึงถามหล่อนขึ้น“มารอนานแล้วหรือ”“สักครึ่งชั่วโมงแล้วค่ะ”สีหน้าของไปรยาจืดเจื่อน หล่อนเกรงใจอาณัติ เพราะคิดว่าเมื่อคืนตนลืมปลาหางนกยูงไว้ในรถของเขาเอง ไม่ใช่เขาเอาปลาของลูกไปสักหน่อย“อชิมารับพี่ปลาครับ”เด็กชายบอกหลังจากจบคำพูดของแม่ ถึงตอนนี้คนตัวโตเข้าใจแล้วว่าทำไมไปรยาถึงร้อนรนที่จะตามหาปลาหางนกยูงไปคืนลูกชายให้ได้...ก็ดูท่าทีมุ่งมั่นของเจ้าตัวน้อยสิ ใครจะกล้าขวางกันเล่า“ลุงเก็บปลาไว้ในห้องพัก อชิจะขึ้นไป
“นั่งรอตรงนี้ ไม่ต้องตามเข้าไป เดี๋ยวลุงจะเอาปลาออกมาให้”ไปรยาหรี่ตามองตามหลังคนที่ผลุบหายเข้าไปในโถงกว้างอย่างสงสัย รู้ว่าอาณัติกำลังปิดบังบางอย่าง แต่หล่อนเลือกที่จะไม่ทักถามเมื่อเห็นว่ามีเก้าอี้วางอยู่ข้างประตู หญิงสาวจึงรั้งร่างของลูกชาย ตั้งใจจะพาไปนั่งด้วยกัน แต่เจ้าตัวเล็กก็ดึงดัน เบี่ยงตัวออกจากแม่ ตั้งท่าแต่จะพุ่งไปหาพี่ปลาท่าเดียว...จนเสียงจากด้านในดังขึ้น“โอ๊ะ! อะไรวะ ยังไม่ตายเหรอ”อชิระวิ่งเข้าไปหาอย่างไวโดยที่ไปรยาห้ามไว้ไม่ทัน พลันเสียงร้องกรี๊ดของลูกชายก็ดังขึ้น หญิงสาวตกใจ แต่เมื่อตามไปถึงแล้วจึงเห็นลูกชายกระโดดอยู่ข้างโต๊ะ พลางชะโงกหน้ามองโถแก้วใสที่มีปลาหางนกยูงแหวกว่ายอยู่ข้างในอย่างดีใจ…หากท่าทางของคนตัวโตกลับต่างจากเด็กชายโดยสิ้นเชิง“พี่คิดว่าปลาตายแล้ว เมื่อเช้ามันหงายท้องตั้งสามตัว แต่มาดูอีกที มันกลับไม่ตาย ดีนะที่พี่ไม่ทำลายหลักฐาน”อาณัติสารภาพเสียงเบา สีหน้าดูไม่จืดเอาเสียเลย ไปรยาไม่รู้จะขำหรือโกรธเขาดี หลายอารมณ์กำลังตีกันวุ่น เมื่อได้ยินเสียงใสๆ ของเด็กชาย ชายหนุ่มก็ยิ่ง
“จริงๆ นะครับ”“ใช่ อชิอยากได้อะไรอีก บอกมาเลย”คนตัวโตที่กำลังเรียกความสนใจจากคนตัวจ้อยบอกอย่างใจป้ำ ไม่วายที่คนเป็นแม่จะส่งสายตาเขียวปัดไปให้ โทษฐานที่ตามใจลูกของหล่อนโดยไม่ปรึกษากันก่อน“แค่ปลาหางนกยูง” อาณัติบอกลอยๆ แค่เห็นสายตาของไปรยา เขาก็รู้ตัวว่าทำอะไรขัดใจหล่อน“มันคือปลาหางนกยูงสิบตัว และคุณซื้อมาอีกตั้งเท่าไร”“ยี่สิบตัว” อาณัติบอกหน้าตาเฉย ก่อนจะเขยิบไปใกล้ไปรยาแล้วพูดเสียงเบาลง เพราะไม่อยากให้คนตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับปลาได้ยินด้วย “พี่ซื้อมาเผื่อมันตายน่ะ แต่ดูสิ ดันรอดทุกตัว สงสัยเป็นปลาพันธุ์ดี คนขายบอกว่าเขาส่งพันธุ์นี้ไปขายต่างประเทศด้วย พี่เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าปลาหางนกยูงเป็นสินค้าส่งออกด้วย”คำพูดและท่าทางของอาณัติแลดูธรรมดา แต่ความใกล้ชิดที่มีมากเกินไปนั้นทำให้ไปรยาผงะ เพราะหล่อนไม่ทันตั้งตัวหญิงสาวขยับตัวออกห่างแล้วเข้าไปใกล้ลูกชายมากขึ้น แต่หล่อนต้องทำอย่างระมัดระวัง ไม่อยากให้อาณัติสังเกตเห็นว่าหล่อนไม่อยากอยู่ใกล้เขา เพราะนอกจากหัวใจจะเต้นแรง มือไม้ของหล่อน
หลายวันก่อนอชิระยังเกทับว่าตนมีคุณตาที่ตัวโตกว่าเขา หากวันนี้เจ้าตัวยกให้เขาตัวโตเทียบเท่าคุณตา...อภินิหารปลาหางนกยูงสินะอาณัติยิ้มอ่อนโยนขณะทอดมองเด็กชายด้วยท่าทีนิ่งๆ ผิดกับข้างในที่กำลังสับสนและพลุ่งพล่านอย่างหนัก หัวใจของเขากำลังเต้นไม่เป็นจังหวะ หากต้องบังคับตัวเองไว้ ไม่ดึงเด็กชายมากอดตามความปรารถนาที่กำลังพุ่งสูงขึ้นหากจะนับเดือนนับปี เขาจากไปรยาไปสามปีกับสิบเดือน เมื่อกลับมา เขากลับพบว่าหล่อนมีลูกชายอายุสามขวบ...‘คุณตามาหาอชิที่บ้านไหม’‘มาครับ คุณตามีของมาให้แม่กุ๊บกิ๊บกับอชิเยอะแยะเลยครับ อชิช้อบชอบ’‘แล้วมีใครมาหาอชิกับแม่กุ๊บกิ๊บอีกบ้าง’‘คุณป้าติ๋วมาด้วยครับ คุณป้าติ๋วมากับคุณตา แต่คุณป้ามาไม่บ่อย’อาณัติไม่รู้จักชื่อนี้ แต่มันทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง คนสำคัญของอชิระ นอกจากแม่และคุณตาแล้ว ยังมีใครอีกคนที่เขาไม่รู้จัก แต่ไม่มีพ่อ ไม่มีลุงที่ชื่อปกป้อง ราวกับว่าสองคนนี้ไม่มีตัวตนในชีวิตของเจ้าตัวเล็ก...หรือถ้ามีก็คงรั้งท้ายเต็มที เด็กชายจึงไม่ได้พูดถึง‘คุณลุงเป็นอะไรครับ คุณลุ
“เขารู้ค่ะ”“นี่ขนาดมันรู้นะว่าอชิเป็นลูกของมัน แต่มันยังทวงเงินกับพี่ได้หน้าตาเฉย”“ไม่เกี่ยวกันเลยนะพี่ป้อง อชิก็อยู่ส่วนอชิ พี่อย่าดึงลูกของกุ๊บกิ๊บไปยุ่งเรื่องนี้ แล้วพี่เอาเงินเขาไป พี่ก็ต้องคืนเขา ไม่อย่างนั้นมันก็ไม่จบสักที”ไปรยายอมพี่ชายมาโดยตลอด แต่เมื่อเขาดึงลูกชายของหล่อนเข้าไปในปัญหาที่ยังคาราคาซัง ปัญหาที่ผู้ใหญ่ร่วมกันก่อขึ้นเอง หล่อนก็ต้องปกป้องลูกชายเอาไว้ปกป้องถอนหายใจ แล้วพูดเสียงอ่อนลง ชะรอยเขาจะรู้ตัวว่ากำลังคิดไม่เข้าท่า“พี่มีเงินที่ไหนกันล่ะ ถ้าพี่มี พี่คืนมันไปนานแล้ว”“พ่อก็มีเงินไม่มากค่ะ รายได้จากการทำสวนของพ่อปีละไม่กี่แสน แต่พ่อก็มีวิธีของพ่อ ถึงตอนนี้พ่อใช้หนี้ให้พี่ไปเกินล้านแล้ว เหลือแค่หนี้ของพี่อู๋ กุ๊บกิ๊บคิดว่าหนี้ก้อนนี้พี่ควรรับไปจัดการเอง กุ๊บกิ๊บสงสารพ่อ อยากให้พ่อได้พักผ่อน”เป็นครั้งแรกกระมังที่ไปรยาขัดความต้องการของพี่ชาย ปกติหล่อนเป็นน้องสาวที่ไม่มีปากเสียง เป็นน้องที่ว่านอนสอนง่าย...ซึ่งคงเป็นสาเหตุให้หล่อนต้องเข้าไปพัวพันกับ
“โทร.ตอนนี้เลยได้ไหม”“สองทุ่มแล้ว พ่อใกล้จะนอนแล้วค่ะ”“งั้นพี่รอพรุ่งนี้ก็ได้...อย่าให้พี่รอนานกว่านี้นะ พ่อของกุ๊บกิ๊บรู้เรื่องของเราแล้ว พี่ไม่อยากถูกพ่อตาหมายหัว”อาณัติพูดติดอารมณ์ขัน แต่หญิงสาวไม่รู้สึกขันไปกับเขาด้วย หล่อนมองเขา แล้วถามจริงจัง“คุณไม่มีใครจริงๆ หรือคะ”“ถ้าถามถึงช่วงที่พี่อยู่ที่อเมริกา พี่มีเดตกับผู้หญิงบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นคบกัน ตอนนั้นพี่คิดว่าตัวเองโสด ก็เลยใช้ชีวิตแบบผู้ชายโสดไปตามปกติ ไม่ได้สานต่อกับใครจริงจัง พอคิดจะกลับเมืองไทย พี่ก็กลับได้อย่างอิสระ”“คุณจะกลับไปอยู่ที่นั่นอีกหรือเปล่า”“ไม่แล้วละ พี่ไม่รู้จะกลับไปทำไม นอกเสียจากพาลูกเมียไปเที่ยวเป็นครั้งคราว เพราะชีวิตของพี่มีเป้าหมายอยู่ที่นี่แล้ว เราอาจข้ามขั้นตอนไปบ้าง อาจทำบางช่วงเวลาหล่นหายไป แต่ถ้ากุ๊บกิ๊บให้โอกาสพี่ มันก็ไม่สายที่เราจะกลับมาเป็นครอบครัวกันใหม่ พี่รู้ว่ากุ๊บกิ๊บยังมีพ่อให้นึกถึง พี่เองก็คิดเรื่องนี้มาตลอด พี่จะไม่ให้พ่อของกุ๊บกิ๊บและตัวกุ๊บกิ๊บเองผิดหวังในตัวของพี่ พี
อาณัติขับรถมาจอดหน้าบ้านหลังสีฟ้าในเวลาเกือบสองทุ่ม เขามองไปทางข้างหลัง ลูกชายกำลังหลับสนิท ซึ่งเจ้าตัวเล็กออกอาการง่วงนอนตั้งแต่ออกจากบ้านหลังใหม่แล้ว“กุ๊บกิ๊บไปเปิดประตูรั้วสิ พี่อุ้มลูกเข้าไปให้”ชายหนุ่มบอกเมื่อเห็นแม่ของลูกเตรียมจะอุ้มเจ้าตัวกลมเข้าบ้านเอง หญิงสาวพยักหน้าอย่างไม่เกี่ยงงอน ลูกชายของหล่อนตัวโตขึ้นมากในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ แถมยังมีพัฒนาการก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งคนเป็นแม่ที่อยู่กับลูกทุกวันสังเกตเห็นได้ร่างเล็กกลมถูกอุ้มขึ้นมาจากคาร์ซีต เด็กชายขยับตัว หากเมื่อได้ซบบนไหล่หนาที่อบอุ่นของพ่อก็พร้อมจะหลับต่อไปรยาเดินนำชายหนุ่มตรงไปยังตัวบ้าน เมื่อเปิดประตูบ้านแล้วหันมาทางเขา ดวงตาสองคู่ที่สบกันทำให้ไปรยาทำตัวไม่ถูก“พี่จะพาลูกเข้านอน ขอให้พี่ทำหน้าที่นี้สักครั้งเถอะนะ”จากเดิมที่ตั้งท่าจะค้าน แต่พอเห็นสายตาวอนขอ หล่อนก็ไม่อาจปฏิเสธหญิงสาวเดินนำเข้าไปในห้องนอนที่ตนกับลูกครอบครองอยู่ อาณัติวางร่างของลูกชายลงบนเตียงนอนเคียงข้างตุ๊กตาไดโนเสาร์สีฟ้า เขาถอยออกมา หากสายตายังทอดมองลูกชายนิ่งๆ
“หน้าตาโหงวเฮ้งดีเชียว หน้าเรียวผุดผ่อง หน้าผากนูนเกลี้ยง ไม่มีรอย แก้มก็อิ่ม ผิวพรรณดี”บรรยากาศภายในห้องพักผ่อนของบ้านจัดสรรสองชั้นในโครงการหรูเป็นไปอย่างสงบ หากท่าทีของคุณนายอรอรก็สร้างความแปลกใจให้กับลูกชายและแม่ของหลานนัก“ไหน เอามือมาให้แม่ดูสิ” แค่จบคำพูด คุณนายอรอรก็ดึงมือบางของคนที่นั่งข้างๆ มากุมไว้เอง หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง เพราะไม่ทันตั้งตัว “มือไม่นุ่มเท่าไร หนูคงต้องทำงานอยู่ตลอดสินะ แต่ไม่เป็นไร ทาโลชันบ่อยๆ ไม่นานก็หาย แต่นิ้วมือเรียวอวบดี ลักษณะส่งเสริมคู่ครอง”“แม่ทำอะไรเนี่ย แล้วแม่เป็นหมอดูโหวงเฮ้งตั้งแต่เมื่อไร”อาณัติอดที่จะถามเพราะสงสัยไม่ได้ อีกทั้งยังเกรงว่าไปรยาจะอึดอัดและกลัวว่าที่แม่สามีไปเสียก่อน“ฉันหัดดูตั้งแต่มีพี่สะใภ้แก”ถ้านับนิ้วก็คงเป็นเวลาไม่กี่เดือนสินะ...ลูกชายตีสีหน้าประหลาดเมื่อมองแม่หมอมือใหม่กำลังลองวิชากับว่าที่ลูกสะใภ้คนใหม่ หากคนใกล้ชิดคุณนายอรอรที่ติดตามมาด้วยนั้นก็บอกให้เขาเข้าใจ“สบายใจเถอะค่ะ คุณนายรักลูกสะใภ้จนเป็นที่เลื่องลือทั้
แล้วอาณัติก็ส่งเบอร์โทร.ของพ่อตาไปให้แม่ เขาได้เบอร์นี้มาพร้อมกับเบอร์ของปกป้อง...หรือจะพูดให้ถูกนั่นก็คือเขาแอบเก็บเบอร์ของพ่อตามาในคราวนั้นด้วยพอเห็นว่าหมดธุระกับเขาแล้ว คุณนายอรอรก็เอนกายนอนบนเก้าอี้นอนเล่นในห้องพักผ่อนแล้วหลับตาลง เป็นการปิดการสนทนากลายๆ จากนั้นอาณัติถึงได้ขับรถออกมารับลูกชายนี่แหละ“พ่อครับ คุณย่าจะใจดีกับแม่กุ๊บกิ๊บไหมครับ”คำถามของลูกทำให้เขาต้องนิ่งงัน รับรู้ถึงสายใยระหว่างแม่และลูกชายที่ไม่อาจแยกจากกัน“คุณย่าเป็นคนใจดี พ่อคิดว่าคุณย่าจะใจดีกับแม่ด้วย แต่ถ้าอชิอยากรู้จริงๆ อชิต้องถามคุณย่าเอาเองนะ”เด็กชายตีสีหน้าครุ่นคิด เรียวคิ้วเล็กขมวดเข้าหากันอย่างน่าเอ็นดู จู่ๆ เขาก็อยากรู้ความคิดของลูกขึ้นมา“คุณย่าต้องใจดีกับแม่กุ๊บกิ๊บแน่นอนครับ เพราะแม่กุ๊บกิ๊บสวย แม่กุ๊บกิ๊บรักอชิมากด้วย”“เหตุผลเข้าท่า...แต่ถ้าแม่กุ๊บกิ๊บรักพ่ออู๋ด้วยก็จะสมบูรณ์แบบมากกว่านี้”“แม่กุ๊บกิ๊บรักพ่ออู๋ครับ ถ้าแม่ไม่รัก แม่ไม่ให้พ่อกอดหรอก ไม่ให้พ่อหอมแก้มด้วย”“เดี๋ยว
ช่วงบ่ายของวันศุกร์ ผู้ชายรูปร่างสูง หน้าตาหล่อเหลา รูปลักษณ์เด่นสะดุดตากำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูรั้วโรงเรียนอนุบาล เขาจะอยู่ตรงนี้ตรงตามเวลาทุกวัน เป็นอันรู้กันว่าเขาเป็นคุณพ่อของเด็กชายอชิระหากก่อนหน้านี้ไม่ว่าคุณครูหรือเพื่อนนักเรียนตัวน้อยต่างคุ้นเคยว่าคุณแม่ของอชิระจะเป็นคนมารับเด็กชาย และคุณแม่ก็มักมารับช้ากว่าพ่อแม่ของนักเรียนคนอื่นด้วยเหตุผลจากภาระหน้าที่การงาน ทำให้อชิระต้องกลับบ้านเป็นกลุ่มสุดท้ายเกือบทุกวัน แต่เดี๋ยวนี้เพียงแค่เลิกเรียน เด็กชายก็วิ่งออกมาเป็นคนแรกๆ เพราะรู้ว่าพ่อของตนจะต้องมารออยู่ก่อนแล้ว…และวันนี้ก็เช่นกัน“พ่ออู๋มารับอชิแล้วครับ”เด็กชายร้องบอกคุณครู แล้วกระโดดเหยงๆ พลางโบกไม้โบกมือให้พ่อเห็นว่าตนมาแล้ว“อชิลาคุณครูแล้วก็กลับบ้านได้ค่ะ อย่าลืมสวัสดีคุณพ่อด้วยนะคะ”“ครับคุณครู” เด็กชายทำตามคุณครูบอกอย่างว่าง่าย เมื่อวิ่งไปหาพ่อก็ยกสองมือป้อมๆ ขึ้นมาไหว้หัวใจของอาณัติเบ่งบาน เขาบอกไม่ได้เลยว่าความสุขในทุกวันนี้นอกจากการเห็นรอยยิ้มของลูกแล้ว ยังมีสิ่งใดที่มีค
“บอกพี่สิว่ากุ๊บกิ๊บยังติดอะไร ถึงได้ไม่อยากเริ่มต้นใหม่กับพี่”“คุณก็รู้”“พี่รู้? รู้อะไร?”“คุณกลับมาที่นี่เพื่ออะไรคะ ก่อนที่คุณจะรู้ว่าฉันมีอชิอยู่ด้วย”คำถามนั้นทำให้ชายหนุ่มนิ่งงัน ก่อนเขาจะถามกลับทั้งที่รู้แก่ใจว่าหล่อนหมายถึงอะไร“กุ๊บกิ๊บหมายถึงหนี้ของพี่ป้องใช่ไหม”“ตอนนี้มันไม่ได้เป็นแค่หนี้ของพี่ป้องค่ะ แต่เป็นหนี้ของครอบครัวเรา”“พี่ไม่เคยคิดอย่างนั้น ถึงพี่ป้องจะเป็นพี่ชายของกุ๊กกิ๊บ แต่พี่ก็ไม่เคยอยากให้กุ๊บกิ๊บมาใช้หนี้แทนเขา มันไม่ยุติธรรม ใครก่อเรื่องไว้ก็ต้องให้คนนั้นรับผิดชอบ”อาณัติพูดง่าย...แต่ในความเป็นจริง ไปรยากับพ่อทำไม่ได้“เราเลี่ยงความรับผิดชอบไม่ได้หรอกค่ะ”“เพราะพี่ป้องหนีไป กุ๊บกิ๊บกับพ่อต้องอยู่รับหน้าก็เลยต้องใช้หนี้แทนเขาอย่างนั้นหรือ”ในทีแรกไปรยาไม่ได้คิดว่าเรื่องจะมาถึงขั้นนี้ หล่อนเข้าใจว่าปกป้องไปทำงานที่อื่นเพื่อจะหาเงินส่งมาใช้หนี้ พี่ชายคงรับผิดชอบหนี้สินที่ตัวเองก่อขึ้น หากหล่อน
รถคันสีขาวค่อนข้างเก่าเคลื่อนมาจอดหน้าบ้านจัดสรรที่อยู่ค่อนไปทางด้านหลังของโครงการหรู แม้บ้านหลังนี้จะมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับหลังอื่นในโครงการเดียวกัน แต่พื้นที่รอบบ้านนั้นกว้างขวางไม่ต่างกันไปรยาเปิดประตูรถออกมาหลังจากดับเครื่องยนต์แล้ว เมื่อสักครู่หล่อนขับรถผ่านป้อมยามหน้าหมู่บ้านก็สัมผัสได้ถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยที่มีค่อนข้างสูง หากพอมาถึงบ้านหลังนี้ หล่อนก็ขับรถเข้ามาได้เลย เพราะประตูรั้วเปิดกว้างอยู่หล่อนมาไม่ผิดบ้านแน่นอน เพราะเห็นรถคันสีดำคุ้นตาจอดอยู่ เมื่อมองผ่านผนังกระจกเข้าไปในห้องหนึ่งซึ่งมีสภาพโล่งว่าง ไม่มีผ้าม่านกำบัง และทั่วทั้งห้องก็แทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์ หล่อนก็เห็นลูกชายกำลังนั่งอยู่กลางพื้นห้อง ใกล้กันนั้นก็เห็นคนตัวใหญ่นั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางจดจ่ออยู่กับอะไรสักอย่าง...พวกเขายังไม่รู้ถึงการมาของหล่อนไปรยาตัดสินใจเดินเข้าไปในบ้าน ผ่านห้องโถงใหญ่แล้วตรงไปยังห้องนั้น เมื่อหล่อนปรากฏตัวอยู่ตรงประตู พวกเขาจึงเงยหน้าขึ้นมามอง“แม่มารับอชิแล้ว”อชิระร้องบอก รอยยิ้มกว้างประดับบนดวงหน้าเล็กกลมที่เปรอะเปื้อนเศษอาหาร เนื้อตัวก็มอ
เป็นเวลานานกว่าสองสัปดาห์แล้วที่อาณัติรับหน้าที่ไปรับอชิระกลับจากโรงเรียน โดยไปรยาได้แจ้งกับทางโรงเรียนไว้ล่วงหน้าแล้ว เนื่องจากช่วงนี้สถานการณ์ของโรงแรมดีขึ้น ลูกค้าเข้ามาพักมากกว่าเดิม หัวหน้าแผนกจึงขอให้หล่อนยืดเวลาเลิกงานเป็นห้าโมงเย็นเหมือนกับพนักงานคนอื่นหลังจากเลิกเรียน อชิระจึงต้องอยู่กับพ่อ เพื่อรอแม่เลิกงานแล้วกลับบ้านไปพร้อมกัน ระหว่างนั้นเด็กชายจะอยู่ในห้องพักของพ่อในโรงแรม แต่บางวันพ่อก็จะพามาที่บ้านหลังใหม่ที่เพิ่งซื้อได้ไม่นาน ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ในโครงการหรูที่อชิระเคยมาดูพร้อมพ่อและแม่นั่นเอง และตอนนี้บ้านหลังนี้ก็อยู่ในระหว่างการตกแต่ง“พ่อครับ อชิเอาปลาหางปายูนมาอยู่กับปลาคาร์ปได้ไหมครับ”อชิระถามขึ้นเมื่อเกาะผนังกระจกในห้องพักผ่อนแล้วมองออกไปข้างนอก เห็นคนงานกำลังสร้างบ่อปลาคาร์ปภายในพื้นที่สวน เด็กชายเห็นว่าบ่อมีขนาดใหญ่ ถ้าหากจะให้ปลาหางนกยูงของตนมาอยู่ด้วยก็คงน่าสนใจไม่น้อย“ปล่อยให้ปลาหางนกยูงอยู่ในอ่างบัวนั่นแหละดีแล้ว มันอยู่ตรงนั้นสบายแล้วนะ”อาณัติเกรงว่าถ้าปล่อยให้ปลาทั้งสองชนิดมาอยู่ร่วมกัน ปลาหางนกยูงอาจ