ผ่านมาเกือบสี่ปี แทบไม่มีวันไหนเลยที่เราไม่คิดถึงเขา... กระบอกตาร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงวันที่อ่านข้อความจากเขา มันเป็นข้อความสุดท้ายที่เขาตอบกลับมาหลังจากที่หล่อนทักไปหาเพื่อจะบอกเรื่องสำคัญ ไปรยาจดจำได้ทุกจังหวะความคิดและความรู้สึกในเวลานั้น หล่อนไม่เคยลืมมันได้เลย... พลันเสียงเจื้อยแจ้วที่แสนคุ้นเคยก็ดึงหญิงสาวให้ออกจากความหม่นหมอง 'แม่กุ๊บกิ๊บคร้าบ แม่กุ๊บกิ๊บอยู่หนาย คุณตาพาอชิไปซื้อขนมมาเยอะแยะเลยคร้าบ' สำหรับไปรยา ไม่ใช่เวลาหรอกที่ช่วยเยียวยารักษาแผลในใจ แต่เป็นเด็กชายอชิระผู้เป็นแก้วตาดวงใจของหล่อนต่างหาก --------------- “หนูอยู่บ้านนี้ใช่ไหม” “ใช่ครับ นี่บ้านของอชิ” “แล้วพ่อเราไปไหน” “อชิไม่รู้ครับ แต่อชิมีคุณตาตัวใหญ่ๆ ใหญ่กว่าคุณลุงด้วย อชิไม่กลัวคุณลุงหรอก” “พ่อเราหนีไป ไม่อยู่เลี้ยงเราใช่ไหม” เพิ่งรู้ตัวว่าตนใจร้ายเกินไปก็ตอนที่เห็นดวงหน้าเล็กนั้นเบ้ ทำท่าจะร้องไห้ แต่น้ำตาก็ไม่ได้ไหลออกมา เพราะเจ้าตัวฮึบไว้ได้ทัน “อชิโป้งคุณลุง ไม่ให้คุณลุงมาบ้านอชิ”
View More“ข้อความสุดท้ายที่คุณได้รับจากคนที่เคยมีความรู้สึกดีๆ มีอะไรบ้างคะ”
กระทู้สังคมออนไลน์ในเว็บใหญ่ไม่เพียงสะดุดตา แต่มันยังทำให้หัวใจของไปรยากระตุก... แม้เห็นรำไรว่าเนื้อความข้างในคงหนีไม่พ้นแนวสะกิดรอยแผล แต่มันก็เหมือนแสงไฟที่ล่อให้หลายคนกระโจนลงไป โดยวัดได้จากจำนวนคนที่เข้าไปแสดงความคิดเห็นหลายร้อยคน ทั้งที่กระทู้ยังตั้งไม่ทันข้ามวันด้วยซ้ำ ยังไม่นับรวมคนที่เพียงเข้ามาอ่าน แต่ไม่ได้แบ่งปันเรื่องราวของตัวเองลงไป...เช่นเธอ เป็นต้น เมียพี่หยาง : บอกเขาว่าจะรอที่โต๊ะใต้ตึกคณะ เขาส่งสติ๊กเกอร์หมาร้องไห้ ไม่เข้าใจความหมายค่ะ เขาไม่มาตามนัดด้วย เรื่องมันผ่านมาปีกว่าแล้ว หมีขั้วโลก : คุยกันอยู่ดีๆ เธอขอตัวเข้าห้องน้ำ สามปีผ่านไปเธอยังไม่ตอบกลับเลยครับ อ้อ! แต่ไม่ต้องห่วง เธอออกจากห้องน้ำแล้ว เพราะผมเห็นเธอไปแต่งงาน มีสามีมีลูกไปเรียบร้อยแล้ว Natcha : เป็นข้อความบอกเลิกค่ะ เขาบอกว่าอยู่กับเราแล้วไม่มีความสุข ชีวิตเขาไม่ก้าวหน้า ทั้งที่เดือนก่อนยังบอกว่าเราเป็นนางฟ้าของเขา เราไม่ตอบค่ะ บล็อกไปแล้ว อยากเกลียดเขามาก แต่ดันยังรู้สึกดีๆ คิดถึงเขาทุกทีที่กลับห้อง ข้อความของผู้ใช้รายนี้มีความคิดเห็นตอบกลับมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่ไปในทิศทางเดียวกันก็คือ...เวลาจะช่วยให้เธอลืมเรื่องร้ายๆ เพราะดูเหมือนว่าเธอเพิ่งผ่านเหตุการณ์นั้นมาไม่นาน ไปรยาพิมพ์ข้อความลงไปด้วย แต่ความคิดเห็นของหล่อนสวนทางกับคนส่วนใหญ่ เมื่อชั่งใจอ่านข้อความร่างของตัวเอง หล่อนจึงตัดสินใจลบออกแทนที่จะกดโพสต์ลงไป ผ่านมาเกือบสี่ปี แทบไม่มีวันไหนเลยที่เราไม่คิดถึงเขา... กระบอกตาร้อนผ่าวเมื่อนึกถึงวันที่อ่านข้อความจากเขา มันเป็นข้อความสุดท้ายที่เขาตอบกลับมาหลังจากที่หล่อนทักไปหาเพื่อจะบอกเรื่องสำคัญ ไปรยาจดจำได้ทุกจังหวะความคิดและความรู้สึกในเวลานั้น หล่อนไม่เคยลืมมันได้เลย...พลันเสียงเจื้อยแจ้วที่แสนคุ้นเคยก็ดึงหญิงสาวให้ออกจากความหม่นหมอง “แม่กุ๊บกิ๊บคร้าบ แม่กุ๊บกิ๊บอยู่หนาย คุณตาพาอชิไปซื้อขนมมาเยอะแยะเลยคร้าบ” สำหรับไปรยา ไม่ใช่เวลาหรอกที่ช่วยเยียวยารักษาแผลในใจ แต่เป็นเด็กชายอชิระผู้เป็นแก้วตาดวงใจของหล่อนต่างหาก “แม่อยู่ใต้ถุนบ้านครับ เดี๋ยวแม่ออกไป อชิไม่ต้องเข้ามานะลูก” ไปรยารีบลุกจากเปลยวนที่พ่อผูกไว้นอนเล่นใต้ถุนบ้านหลังเก่าซึ่งอยู่กลางสวนผลไม้ก่อนเจ้าตัวน้อยจะบุกมาหา ด้วยเกรงว่าเด็กชายวัยกำลังซนจะวิ่งชนข้าวของที่ยังวางระเกะระกะอยู่เต็มลาน หล่อนกำลังรอลูกชายกลับมาจากไปเที่ยวตลาดน้ำกับคุณตา เพราะช่วงบ่ายจะต้องพาเจ้าตัวน้อยกลับกรุงเทพฯ“หลายวันมานี้กุ๊บกิ๊บนอนเยอะกว่าปกติ ไม่สบายหรือเปล่าครับ”คำถามมาจากเจ้าของรอยจูบที่แตะเบาๆ บนขมับของภรรยาที่ยังนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียงนอน...หลังจากที่เขานอนกอดหล่อนอยู่พักใหญ่ แต่เจ้าหล่อนก็ไม่ยอมตื่นนอนสักที เขาจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำและแต่งตัว หากเมื่อกลับมาดูอีกรอบก็พบว่าหล่อนยังนอนอยู่ในท่าเดิม“อื้อ...พี่อู๋อย่ากวน”“ยังจะมางอแงอีก เกือบเก้าโมงเช้าแล้วนะ จะตื่นไหม”“ลูกอยู่ที่ไหนคะ”“อชิอยู่กับคุณย่า ไม่ต้องห่วงลูกหรอก รายนั้นมีโปรแกรมให้ทำอะไรสนุกทั้งวัน”“งั้นกุ๊บกิ๊บขอนอนอีกหน่อยนะ”พอได้ยินคำต่อรอง คนเป็นสามีก็ยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากและดวงหน้าของหล่อน เมื่อเห็นว่าอุณหภูมิปกติดีก็มองพิศดวงหน้าหวานอย่างสังเกตมากขึ้น“กุ๊บกิ๊บหน้าซีดไปนะ ไปตรวจร่างกายสักหน่อยไหม”ชายหนุ่มเริ่มไม่สบายใจ นอกจากจะมีอาการหลับง่าย หล่อนยังกินอาหารน้อยกว่าปกติด้วย แถมของที่เคยชอบก็กลับไม่ชอบทางด้านไปรยา เมื่อสัมผัสได้ว่าสามีกังวลกับการเปลี่ยนไปของตัวเอง หล่
ตอนพิเศษครอบครัวใหญ่ของอชิระหลังจากผ่านพ้นพิธีสู่ขอ อาณัติและไปรยาก็จัดงานแต่งงานเล็กๆ ขึ้นที่อัมพวา หากคุณนายอรอรก็ได้จัดงานฉลองมงคลสมรสให้ทั้งสองคนอีกรอบที่จังหวัดพิษณุโลกคุณนายมีความสุขอย่างมิอาจหาสิ่งใดมาเทียบได้ เพราะในปีนี้เธอได้จัดงานมงคลให้ลูกชายถึงสองคน แถมยังได้หลานชายพ่วงมาด้วยอชิระกับแม่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังใหม่แล้ว ส่วนบ้านหลังสีฟ้าหลังเดิม พ่อของเขารีโนเวตให้ใหม่จนแทบไม่เหลือเค้าเดิม กลายเป็นบ้านหลังกะทัดรัดรูปแบบสมัยใหม่ที่น่าอยู่ขึ้นมาก และแม่ก็ตั้งใจจะเก็บบ้านหลังนี้ไว้ เพื่อให้คุณตากับป้าติ๋วได้มาพักยามเดินทางเข้ากรุงเทพฯช่วงนี้เป็นวันหยุดยาวสี่วัน พ่อกับแม่พาอชิระมาเยี่ยมคุณย่า อชิระชอบมาเที่ยวที่บ้านคุณย่าไม่น้อยไปกว่าการไปบ้านสวนของคุณตา เพราะนอกจากคุณย่าจะใจดีแล้ว คุณย่ายังมักพาไปที่ร้านขายของขนาดใหญ่ แล้วยังพาไปที่บ้านไร่ของลุงอั๋นด้วยที่บ้านของลุงอั๋นมีเด็กตัวเล็กที่เพิ่งคลอดหนึ่งคน คุณย่าบอกว่าเด็กคนนี้เป็นน้องชายของเขา เมื่อน้องโตขึ้น น้องจะเรียกเขาว่าพี่อชิ...แค่ได้ยินคุณย่าบอก อชิระก็รู้สึกดีใจจนหุบ
“อากาศเย็นกำลังดีนะ”อาณัตินอนหนุนตักหญิงสาวอยู่บนพื้นไม้ตรงระเบียงของโฮมสเตย์ ตอนนี้เป็นเวลาค่ำคืน ดวงดาวกำลังทอประกายพริบพราวด้วยเป็นคืนเดือนแรม“ช่วงนี้หน้าหนาวนี่คะ อากาศก็ต้องเย็นเป็นธรรมดา แต่หน้าร้อนที่นี่ก็ไม่ได้ร้อนอบอ้าว ลมยังพัดดีค่ะ”“แล้วทำไมลูกเราถึงไม่ยอมนอน กุ๊บกิ๊บให้ลูกกินอะไรหรือเปล่า”อาณัติเปลี่ยนเรื่องได้หน้าตาเฉย จนไปรยาต้องแกล้งบีบปลายจมูกโด่งเป็นสันนั้นอย่างหมั่นไส้“อชิเป็นอย่างนี้แหละค่ะ เวลามาที่บ้านคุณตา อชิไม่ชอบเข้านอนเร็ว เขาจะนอนเล่นอยู่ข้างนอก พอง่วงจนทนไม่ไหวถึงจะยอมให้พาไปนอน”“ตอนนี้สองทุ่มแล้ว อชิคงใกล้จะน็อกแล้วละ”“พี่อู๋นี่ยังไงกันนะ”ไปรยาอดที่จะขำเขาไม่ได้ ส่วนเด็กชายที่นอนไขว่ห้างอยู่บนพื้นไม้ใกล้ๆ นั้นกำลังร้องเพลงอย่างสบายอารมณ์ เจ้าตัวเล็กพลิกกายมามองพ่อกับแม่เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะของพวกเขา ต่อเมื่อเห็นว่าคนทั้งคู่ไม่ได้สนใจตน เด็กชายจึงหันกลับไปเล่นกับตุ๊กตาไดโนเสาร์ในอ้อมกอดต่อ“พี่อู๋อยาก
“ลูกเขยของลุงเป็นยังไงบ้างคะ ให้คะแนนผ่านหรือเปล่า”ติ๋วที่เดินตามนายอุดมเข้าไปในสวนถามขึ้น ขณะที่อีกฝ่ายกำลังใช้มีดพร้าตัดหญ้าสาบเสือที่งอกเป็นกออยู่ใต้ต้นมะพร้าวน้ำหอม“คนไม่เคยเจอหน้า ยังไม่ได้คุยกัน จะรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นคนแบบไหน”“ติ๋วเห็นลุงยืนดูเขาตั้งแต่จอดรถแล้ว ลุงมองเขาตาไม่กะพริบเชียว”“ช่างสังเกตนะเรา”“ติ๋วเห็นลุงทุกที่นั่นแหละ ไม่ว่าลุงจะอยู่ตรงไหน”“พูดซะน่ากลัว” นายอุดมหัวเราะขัน ก่อนเขาจะนิ่งคิดไปถึงผู้ชายคนนั้น แล้วบอกตามความรู้สึกจริง “เขาคงไม่เลว ไม่งั้นอชิคงไม่ร้องหาพ่อตั้งแต่มาถึงบ้านตา”“ท่าทางเขาใช้ได้ทีเดียวค่ะ หล่อด้วยนะลุง ติ๋วไม่สงสัยเลยว่าเจ้าอชิได้ความหล่อมาจากใคร”“เธอก็ชอบแต่คนหล่อ”“เพราะชอบคนหล่อ ติ๋วถึงได้ชอบลุงดมไง”พยาบาลสาวใหญ่ที่ครองตัวเป็นโสดมาตั้งแต่วัยสาวหยอดชายวัยกลางคน ถ้าไม่บอกว่าตอนนี้เขากลายเป็นคุณตาและคุณปู่ไปแล้วก็คงยากที่ใครจะเชื่อถึงแ
ภรรยาของปกป้องพาลูกสาววัยหกเดือนกลับไปที่โรงแรมซึ่งจองไว้เป็นที่พักสำหรับคืนนี้แล้ว ส่วนตัวเขายังพูดคุยอยู่กับพ่อ“พ่อไม่เคยสอนให้ลูกหนีปัญหา ปัญหามันเกิดขึ้นแล้ว เราก็ต้องแก้ไข ไม่มีปัญหาอะไรที่เราแก้ไม่ได้ แต่ขั้นแรกเราต้องยอมรับมันก่อน แล้วค่อยหาทางแก้กันไป”นายอุดมเพิ่งได้พูดถึงเรื่องหนี้สินที่ลูกชายก่อขึ้นเมื่อสี่ปีก่อน ทั้งที่เขาอยากคุยมานานแล้ว แต่ไม่เคยได้เปิดใจคุย เพราะปกป้องเองก็พยายามหลบเลี่ยงเขา ซึ่งคราวนี้ชายวัยกลางคนก็รอจนลูกสะใภ้พาหลานสาวกลับไปก่อนถึงได้หยิบมาพูด ด้วยรู้ถึงสถานการณ์ของลูกชายดี เขาไม่ต้องการตำหนิลูกชายให้ลูกสะใภ้ได้ยิน อีกทั้งเห็นว่าปัญหานี้มีมาก่อนที่ปกป้องจะได้พบกับลูกสะใภ้ ดังนั้นลูกชายจึงควรแก้ปัญหาด้วยตัวเอง“ผมพยายามทำงานหลายอย่าง แต่มันก็พลาดทุกที”คนเป็นพ่อรู้ว่าหากไม่จนทาง ลูกชายคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้...แต่หากรั้นไป ทั้งที่มองไม่เห็นทางออก มันก็พบแต่ความผิดพลาดอย่างที่เป็นมา“ถ้าเราทำเต็มที่ทุกงาน แต่ผลยังออกมาไม่ดี เราก็ต้องคิดใหม่นะว่าเราอาจทำผิดทาง ถึงจะเชื่อมั่นความคิดตัวเอ
ไปรยานั่งบนเปลยวนใต้ถุนบ้านหลังเก่า ทุกครั้งเมื่อมาที่บ้านสวน หล่อนชอบมานั่งเล่นอยู่ที่บ้านหลังนี้ เพราะความทรงจำในวัยเด็กของหล่อนอยู่ที่นี่...บ้านหลังนี้เคยมีพ่อ แม่ พี่ชาย และหล่อนอาศัยอยู่ร่วมกันเมื่อแม่จากไป พ่อทำใจไม่ได้ พ่อจึงสร้างบ้านอีกหลังในบริเวณพื้นที่เดียวกัน แล้วย้ายไปอยู่ที่นั่นแทน และไม่นานจากนั้นหล่อนกับพี่ชายก็ย้ายไปเรียนในกรุงเทพฯ พ่อจึงซื้อบ้านแถบชานเมืองให้อยู่ ซึ่งเป็นบ้านหลังที่หล่อนกับอชิระใช้พักอาศัยในปัจจุบัน โดยพ่อที่ยังปักหลักอยู่ที่บ้านสวนจะแวะเวียนไปเยี่ยมอยู่เสมอ เพิ่งเว้นช่วงไปเมื่อสองเดือนนี้แหละไปรยาปล่อยความคิดไปเพลินๆ กระทั่งได้ยินเสียงใสๆ ของลูกดังขึ้น“แม่กุ๊บกิ๊บคร้าบ อชิอยากไปบ้านป้าติ๋วแล้ว แม่กุ๊บกิ๊บพาอชิไปส่งหน่อยครับ”ลูกชายที่ขออยู่กับคุณตาตั้งแต่เดินทางมาถึงกำลังเรียกหาหล่อน หญิงสาวรีบลุกจากเปลยวน แล้วออกไปหาแก้วตาดวงใจที่ยืนรออยู่ตรงลานด้านหน้า“อชิไม่อยู่กับคุณตาแล้วหรือคะ”“ไม่อยู่ครับ อชิไปอยู่บ้านป้าติ๋วดีกว่า”พอเห็นสีหน้าของลูกชาย หญิงสาวก็ดึงร่างเล็กมา
Comments