เข้าสู่ระบบ“งั้นไปหาแหวนมาคุกเข่าขอฉันแต่งงานสิ! บางทีฉันอาจจะยอมคุณ!” มะลิฉัตรบอกข้อแลกเปลี่ยนที่ไม่มีทางเป็นไปได้
“หึ! ฉันให้สิบล้านค่าตัวเธอ” เลโอนาดท์ยกยิ้มมุมปากพร้อมกับจ้องมองสาวตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว
“คนอย่างคุณคงไม่มีทางรู้จักคำว่ารักหรอก! รู้อะไรไหม? ต่อให้คนที่คุกเข่าขอฉันแต่งงาน จะเป็นแค่ยามหน้าโรงแรม เงินเดือนแค่หมื่นกว่าๆ ฉันก็ยินดีจะแต่งกับเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีแหวนแต่งงานมาขอก็ตาม”
มะลิฉัตรเอ่ยด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด เมื่อถูกอีกฝ่ายประเมินค่าเป็นเงินตรา
“ฉันไม่ใช่ยาม โอเค้! และฉันสามารถซื้อแหวนเพชรเป็นร้อยๆ วงให้เธอได้” เลโอนาดท์บอกต่ออย่างหน้ามึน ‘พระเจ้า! ให้ขนาดนี้ยังไม่พอเหรอวะ’
“นี่ฉันอธิบายไม่ชัดตรงไหน! มันไม่ได้เกี่ยวกับแหวน แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกต่างหาก! ให้ตายสิ! คุณเคยรักผู้หญิงสักคนไหม”
“ไม่! ไม่เคยถามชื่อเลยด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าพวกเธออายุเท่าไหร่ อยู่ประเทศไหน แค่เซ็กส์ร้อนๆ แล้วจบที่ค่าตัว!” เลโอนาดท์บอกด้วยท่าทีสบายๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยมาตลอดชีวิต
“งั้นคุณก็ไปเรียกหาพวกเธอสิ! จะมายุ่งกับพนักงานทำความสะอาดอย่างฉันทำไม”
“ก็เธอน่าเอากว่านี่”
“โอ๊ย! นี่ฉันเริ่มจะทนคุณไม่ไหวแล้วนะ”
“งั้นก็ไม่ต้องทน! เอาเลยดีกว่า เสียเวลา ฉันแข็งจนปวดไปหมดแล้ว ดูสิ!” เลโอนาดท์เอ่ยพร้อมกับดึงหมอนที่ปิดบังขีปนาวุธออกให้สาวเจ้าดู
“กรี๊ดดดดดดด” มะลิฉัตรกรีดร้องเสียงดังอย่างรับไม่ได้กับพฤติกรรมที่โจ๋งครึ่มของอีกฝ่าย
“ฮ่าๆๆๆ” เลโอนาดท์หัวเราะจนหน้าแดงก่ำอย่างขบขัน เมื่อเห็นใบหน้าจิ้มลิ้มแดงเถือกมาถึงหู
“ไอ้คนบ้า!” เธอต่อว่า ขณะที่ใบหน้ายังซุกอยู่กับหมอนใบใหญ่
“ฉันไม่ได้บ้า! ฉันก็แค่... อารมณ์ค้าง”
“นี่คุณจะเถียงกันแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเลยใช่ไหม?”
“เปลี่ยนเป็นเอาทั้งวันทั้งคืน เข้าท่ากว่านะ! ฮ่าๆๆ”
“ฉันเหนื่อยที่จะเถียงกับคุณแล้วนะ! คุณจะเอายังไง”
“เอาเป็นว่าวันนี้ฉันจะอาบเอง ส่วนเธอก็ไปทำอาหารรอ ถ้าอีกครึ่งชั่วโมงฉันออกมาแล้วไม่มีอาหารอยู่บนโต๊ะ! ฉันจะกินเธอแทนเข้าใจใช่ไหม!” สิงโตหนุ่มบอกอย่างตัดใจ ‘ใจเย็นๆ ลีโอ! โอกาสที่จะได้ฟาดเธอยังมีอีกเยอะ’
“แต่ฉันไม่มีเสื้อผ้าใส่”
“อยู่ในตู้! ไปเลือกเอาเองแล้วกัน อ้อ! แล้วก็ฝากเก็บหมอนให้ด้วยสิ!” เลโอนาดท์บอกพร้อมกับโยนหมอนที่ปิดบังอาวุธลับไปให้สาวเจ้าที่นั่งอยู่ข้างเตียงอย่างขำๆ
“ว้าย! กรี๊ดดดดดดด” มะลิฉัตรเห็นหมอนลอยมาทางหางตา ก็รีบคว้าหมับเอาไว้ตามสัญชาตญาณ แต่พอนึกขึ้นได้ว่าหมอนที่รับเป็นหมอนที่อีกฝ่ายใช้ปิดช่วงล่างมาก่อน สาวเจ้าถึงกับส่งเสียงกรีดร้องพร้อมกับโยนหมอนทิ้งด้วยท่าทางขยะแขยง
“ฮ่าๆๆๆ” เลโอนาดท์หัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจ กับท่าทางตลกๆ ของสาวเจ้าที่อายจนตัวแดงเหมือนกุ้งต้ม ‘ยัยนี่น่ารักเป็นบ้า!’ ชายหนุ่มยิ้มก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องน้ำอย่างอารมณ์ดี
“ไอ้คนบ้า!” มะลิฉัตรต่อว่า หลังจากได้ยินเสียงปิดประตูห้องน้ำ ดังขึ้น จึงรีบวิ่งลงจากเตียง ตรงไปยังตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่อย่างไม่รอช้า
เมดสาวก้มมองตัวเองในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงนอนแบบ ผูกเชือกที่เอว “เอาน่ามะลิ ดีกว่าไม่ได้ใส่อะไรเลย!”
มะลิฉัตรปลอบใจตัวเองก่อนจะพับขากางเกงที่ยาวขึ้นมาสี่ห้าตลบ จากนั้นก็รีบเดินออกไปด้านนอก เพื่อจะทำอาหารให้อีกฝ่าย
เธอเดินหาห้องครัวสักพัก เพราะทั้งชั้นค่อนข้างใหญ่และกว้างมีทั้งสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องทำงาน ห้องนอนสี่ห้องใหญ่ ห้องทานอาหาร ห้องรับแขกและบาร์เครื่องดื่ม
“ว้าว! ไม่รวยเว่อร์คงไม่ได้อยู่แบบนี้แน่ๆ” มะลิฉัตรมองห้องครัวขนาดใหญ่อย่างอึ้งๆ ก่อนจะเปิดตู้เย็นเพื่อเลือกของที่จะใช้ทำอาหาร
“อื้อฮือ! ของเยอะอย่างกับจะอยู่เป็นเดือนแน่ะ!” เมดสาวชั่งใจอยู่ครู่ ก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ
“หึ! รับรองว่านายท่านจะลืมไม่ลงเจ้าค่ะ” มะลิฉัตรรีบหยิบของออกมาเตรียมทำอาหารมื้อพิเศษ เอาใจสิงโตหื่น!
สี่สิบนาทีต่อมา... หลังจากที่ทำอาหารเสร็จ มะลิฉัตรก็เดินไปตามอีกฝ่ายที่ห้อง นอน แต่ก็ไม่พบ เธอจึงเดินไปที่ประตูห้องน้ำด้วยความรู้สึกหวั่นใจแปลกๆ
“คงไม่ได้ลื่นล้มหัวฟาดพื้นตายหรอกนะ เงียบเชียว!” มะลิฉัตร เอ่ยกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเอาหูแนบกับประตูห้องน้ำ เพื่อฟังเสียง!
“พระเจ้า... อะ... อา...”
หญิงสาวขนลุกซู่ ใจสั่นขึ้นมาทันใดที่ได้ยินเสียงของอีกฝ่ายขาดหายเป็นช่วงๆ ราวกับคนที่กำลังจะขาดใจตาย
“ปะ... เป็นอะไรมากหรือเปล่านะ?” เธอจินตนาการไปถึงภาพที่อีกฝ่ายลื่นล้มหัวแตกเลือดไหลท่วมตัว กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้นรอความช่วยเหลือ
“คะ... คุณ ปะ... เป็นอะไรไหม?” เธอถามด้วยเสียงสั่นๆ
“อื้อ... อ๊ะ... มะ... ไม่ไหวแล้ว...”
“บ้าจริง! ไอ้สิงโตกำลังจะตายแล้วแน่ๆ” เมดสาวพึมพำเหมือนคนจิตตก รีบผลักประตูห้องน้ำเข้าไป มันเป็นจังหวะเดียวกับที่...
“โอ้พระเจ้า... อ๊ะ!” คนที่เพิ่งจะแตะขอบสวรรค์ถึงกับช็อกตาค้าง ที่เห็นสาวเจ้าพรวดพราดเข้ามา
มะลิฉัตรเห็นร่างเปลือยเปล่าของสิงโตหื่น กำลังยืนกอบกุมตอร์ปิโดขนาดใหญ่ยาวเอาไว้ในมือ ขณะที่น้ำสีขาวข้นๆ พุ่งออกมาจากส่วนปลาย... ต่อหน้า ต่อตา
“กรี๊ดดดดด ไอ้บ้ากาม!” หญิงสาวกรีดร้องก่อนจะวิ่งหนีออกไปอย่างคนเสียสติ!
“บ้าฉิบ! ทำไมต้องมาเห็นตอนนี้ด้วยวะ!” ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสีย ก่อนจะรีบคว้าเสื้อคลุมมาใส่แล้ววิ่งตามออกไป
แปดเดือนต่อมา...เลโอนาดท์จ้องมองดูลูกชายตัวน้อย ‘แพททริกสัน’ ที่เป็นส่วนผสมระหว่างตนกับภรรยา ด้วยความรู้สึกอิจฉา“ขอผมชิมมั่งได้ไหมมะลิ?” เขาเอ่ยขออย่างคนมีมารยาท พร้อมกับส่งสายตาวิงวอนไปให้ภรรยาสาว ที่หุ่นกลับเข้ารูปเข้าร่างเซ็กซี่เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือหน้าอกขนาดใหญ่“ไม่ค่ะ!” มะลิฉัตรปฏิเสธ พร้อมกับส่งค้อนให้คนตัวโต ที่ชอบมาออดอ้อนขอกินนมแทบจะทุกครั้งที่เธอให้นมลูก“ได้โปรด...”“นี่คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอลีโอ?”“ผมไม่ได้บ้า! แต่ถ้าบ้าแล้วได้กินนมเหมือนแพททริก ผมก็พร้อม!” คนหื่นบอกด้วยสายตาแพรวพราว“บ้า!”“เร็วสิ! เปิดหน้าอกอีกข้างให้ผม” เลโอนาดท์บอกพลางจะเปิดเสื้อของภรรยาขึ้น แต่กลับถูกสาวเจ้าตีมือเข้าให้“ไม่มีทาง!”“คุณลำเอียงนะมะลิ! คุณรักแพททริกมากกว่าสามีของตัวเองใช่ไหม” คนที่อยากลิ้มลองรสชาติใจจะขาดบอกด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ“พระเจ้า! แพททริกคือลูกชายของคุณนะลีโอ” เธอเอ่ยเตือนอย่างเริ่มจะเอือมระอากับท่าทางเหมือนเด็กเอาแต่ใจของสามี“ใช่! แล้วคุณก็คือภรรยาของผม” เขาบอกพร้อมกับส่งค้อนวงใหญ่ทางหางตา
“แต่ตอนที่แม่ท้องลูก! แม่แพ้ท้องตั้งสามเดือนแน่ะซาเก้” ไอรดา บอกเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมาให้บุตรชายฟัง“โอ้พระเจ้า! ทำไมถึงได้กลั่นแกล้งผมแบบนี้” คนที่ดีใจจะได้เป็นพ่อคน แต่กลับต้องมาสวมหน้ากากบดบังใบหน้าหล่อเหลาเอาไว้ เพราะภรรยาดันเห็นแล้วรู้สึกอยากจะอ้วกถึงกับคร่ำครวญออกมา“ฉะ... ฉันขอโทษ” พราวดาราน้ำตาคลออย่างรู้สึกเห็นใจอีกฝ่าย“ไม่ใช่ความผิดคุณพราว” โดมินิกดึงภรรยาเข้ามากอดปลอบอย่างรู้สึกสงสาร พร้อมกับด่าตัวเองในใจ ที่เข้าใจผิดคิดว่าเธอแสร้งทำทุกอย่างขึ้น เพราะอยากแก้แค้นตนคืนเรื่องนางแบบดังครั้งก่อน“แบบนี้มันดีกว่าที่หนูพราวต้องอ้วกนะว่าไหม?” ไอรดาบอกพลางจ้องมองใบหน้าของบุตรชายหน้ากาก ทอม ครูซ อย่างขำๆ“ครับ” โดมินิกยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง เพราะกลัวว่าจะเสียเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องภรรยาตามที่หมอบอก“พรุ่งนี้เช้ารบกวนเข้าไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกครั้งนะครับ วันนี้ผมขอตัวกลับก่อน” นายแพทย์ใหญ่เอ่ยขึ้นหลังจากที่ทุกอย่างเริ่มเข้าที่เข้าทาง“ขอบคุณมากๆ ครับอาหมอ” โดมินิกหันไปบอก“ขอบคุณค่ะ” พราวดารายกมือไหว้อีกฝ่ายทันใด“ย
สิบนาทีต่อมา...“พราว! เป็นไงบ้างลูก” ไอรดาถามลูกสะใภ้ที่หน้าซีดอย่างเป็นห่วง“หนูเวียนหัวค่ะ” พราวดาราบอก“ซาเก้บอกว่าหนูอาเจียนด้วยใช่ไหม”“ใช่ค่ะ! พอตื่นขึ้นมาแล้วเห็นหน้าของเขา หนูก็รู้สึกอยากอ้วกขึ้นมาทันทีทันใด” พราวดาราบอกเสียงอ่อนอย่างคนที่หมดแรง“พระเจ้า!” คนที่ยืนฟังอยู่หน้าประตูสบถเสียงดังอย่างหัวเสีย“ซาเก้!” ไอรดากลอกตากับท่าทางของบุตรชาย ก่อนจะหันไปถามสาวเจ้าต่อ “แล้วถ้าไม่เห็นหรือไม่มองหน้าของพี่เขา หนูก็ไม่...”“หนูก็โอเคนะคะ แต่พอเห็นแล้วทุกอย่างในท้องมันก็ตีขึ้นมาที่ต้นคอทันทีเลยค่ะ” พราวดารากระซิบบอกเสียงเบา“คิกๆๆๆ” ไอรดาหัวเราะขึ้นอย่างชอบอกชอบใจ“นะ... หนูเป็นอะไรเหรอคะคุณแม่” พราวดาราถามอย่างรู้สึกงงงวยในท่าทีของแม่สามี“อีกเดี๋ยวเราจะได้รู้พร้อมๆ กันจ้ะ เพราะหมอกำลังเดินทางมา” ไอรดายิ้มให้หญิงสาวอย่างเอ็นดูคนที่รออยู่ด้านนอก เห็นสาวใช้ยกถาดน้ำส้มเดินมา จึงตรงเข้าไปแย่งแก้วน้ำส้ม จากนั้นก็ตีเนียนถือเข้าไปในห้องนอน พร้อมกับเอ่ยถามคนบนเตียงด้วยน้ำเสียงนอยด์ๆ “ดีขึ้นหรือยัง”พราว
“ผมทรมานนะที่ได้แต่มองคุณ แต่ทำอะไรไม่ได้” เขาบอก พร้อมกับช้อนอุ้มภรรยาสาวเดินไปยังโซฟาตัวใหญ่ ด้วยสายตาสื่อความหมายพราวดาราใบหน้าร้อนผ่าว รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า“คืนนี้ผมจะรักคุณให้ถึงเช้าเลยคอยดู” โดมินิกบอกก่อนจะเริ่มบรรเลงเพลงรักขึ้นอย่างโหยหาและเร่าร้อนหลายต่อหลายครั้ง อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเช้าวันต่อมา...อ๊อก! อ๊อก! เสียงอาเจียนในห้องน้ำปลุกร่างบางที่นอนอยู่บนเตียงให้ลุกขึ้นทันใด“ลีโอ!”“ผมโอเค!”“คุณเป็นอะไร?” มะลิฉัตรถามอย่างเป็นห่วง“ผมเวียนหัว คุณช่วยโทร. ไปบอกแม่ครัวให้หาอะไรเปรี้ยวๆ ขึ้นมาให้ผมทานหน่อย ได้โปรด...”“ดะ... ได้ค่ะ” มะลิฉัตรตอบรับก่อนจะเดินแกมวิ่งไปยังโทรศัพท์ ที่วางอยู่บนโต๊ะด้านนอก แล้วโทร. บอกแม่บ้านด้วยน้ำเสียงตื่นๆ จากนั้นก็กลับเข้าไปหาสามีที่ยังคงอาเจียนอยู่ในห้องน้ำ“คุณไหวไหม!”“ไหว!” เลโอนาดท์บอกก่อนจะดันตัวลุกขึ้น แล้วเดินออกมาด้านนอกด้วยท่าทางอ่อนเพลีย มะลิฉัตรรีบเข้าไปประคองสามีเดินไปยังเตียงนอน“ขึ้นมานอนข้างๆ ผมสิ” เข
“ผมว่าแด๊ดกับมัมต้องอยู่นานกว่านั้นแน่ๆ เพราะผมกะจะมีลูก สักสามคนครับ” เลโอนาดท์บอกยิ้มๆ“ฮ่าๆๆ จัดไปไอ้เสือ” เอเดนหัวเราะเสียงดังอย่างชอบใจกับสีหน้ามุ่งมั่นของว่าที่คุณพ่อมือใหม่‘บ้า! ตั้งสามคนแน่ะ ใครจะขยันเกิดได้ขนาดนั้นกัน’ มะลิฉัตรกลอกตามองบนอย่างเพลียๆ กับจำนวนลูกๆ ที่สามีตั้งใจจะมีให้ได้หลังจากที่วางสายวิดีโอคอลเสร็จ เอเดนกับเมลิซ่าก็ออกไปนั่งจิบไวน์เบาๆ ที่ระเบียงริมสระว่ายน้ำ พูดคุยกันต่อเรื่องของขวัญที่จะเตรียมเอาไว้รับขวัญหลานคนแรกกันอย่างตื่นเต้นเลโอนาดท์รีบพาภรรยากลับขึ้นห้อง เพราะต้องการกระชับความสัมพันธ์ หลังจากที่เหตุการณ์ต่างๆ คลี่คลายและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี“คืนนี้ผมจะได้นอนกอดคุณใช่ไหม?” เลโอนาดท์กระซิบถาม“จริงๆ เราแยกกันนอนมันสบายดีนะคะ” มะลิฉัตรบอกยิ้มๆ“โธ่! อย่าแกล้งผมสิ ผมนอนมองคุณมาอาทิตย์กว่าๆ แล้วนะ” เลโอนาดท์โอดครวญ“หลบไปค่ะ! ฉันจะไปอาบน้ำ” มะลิฉัตรรีบผลักร่างหนาออกให้ห่างตัว“เดี๋ยวผมถูหลังให้” เขาบอกพร้อมกับช้อนอุ้มเธอทันใด“อ๊ะ!” มะลิฉัตรตกใจ อายหน้าแดงก่
“น่าจะเป็นเพราะยาที่ไอวี่ใส่ในเหล้าที่นายดื่มไปก่อนหน้า ฉันเข้าไปก็เห็นนายนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง ตอนนั้นไอวี่คงจะถ่ายรูปเก็บเอาไว้แบล็กเมล์นายตามที่เห็นในข่าว” ลูเซียสเล่าต่อ“ลู! นายทำอะไรไอวี่” โดมินิกถามเข้าเรื่อง“ฉันลากเธอไปอีกห้องที่อยู่ถัดไป แล้วก็จัดการปลดปล่อยสิ่งที่อัดแน่นอยู่ในตัว” ลูเซียสยอมรับตามตรง“แต่ฉันก็ยังมองไม่เห็นเหตุผลที่นายจะต้องแต่งงานกับไอวี่อยู่ดี” โดมินิกถามอย่างไม่เข้าใจ“นายหลงรักไอวี่ใช่ไหม!” เลโอนาดท์ถามเรื่องที่แอบสงสัยมานาน“ไม่มีทาง!” ลูเซียสปฏิเสธเสียงแข็ง“แล้วทำไมนายถึงจะ...”“ก็เพราะฉันคือผู้ชายคนแรกของเธอน่ะสิ” ลูเซียสบอกด้วยสีหน้าตึงเครียด“พระเจ้า!” เลโอนาดท์อุทานตาโต ‘เกือบซวยแล้วไหมเรา!’“ลีโอไม่ได้มีอะไรกับไอวี่ คุณสบายใจได้ครับมะลิ” ลูเซียสหันไปบอกภรรยาของเพื่อนรักให้คลายกังวล“เห็นไหม ผมบอกคุณแล้วก็ไม่เชื่อ” เลโอนาดท์รีบตัดพ้อภรรยาทันใด มะลิฉัตรอายหน้าแดงขึ้นมานิดๆ หลังจากได้ยินการเล่าแบบเปิดอกของลูเซียส“ไอวี่ออกจากห้องไปตอนเช้า พร้อมกับมือถือที่ถ่ายรูป จา







