LOGINเธอก็แค่ผู้หญิงที่ต้อยต่ำ! มิอาจเทียบกับความสูงศักดิ์ ในชาติตระกูลและความร่ำรวยของเขาได้แม้แต่นิด แต่ไยถึงได้ปฏิเสธที่จะเป็นของเขา ยิ่งเธอดิ้นหนีและหวาดกลัว มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะขย้ำและกลืนกิน กลิ่นสาปของเด็กสาวที่บริสุทธิ์ มันช่างหอมหวานและเย้าใจ จนทำให้เขาแทบคลั่ง แล้วแบบนี้จะให้เขาปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ? ไม่มีทาง!
View More(ลีโอ) เลโอนาดท์ โรคาซานเดอร์
หนุ่มหล่อเลือดผสมอิตาลี ตุรกี รัสเซีย และไทย เขาเป็นชายหนุ่มที่ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ของโลก ที่ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งประธานใหญ่ ผู้กุมบังเหียนของโรคาซานเดอร์ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป ลอนดอน ด้วยวัยเพียง 36 ปี สืบทอดตำแหน่งจากผู้เป็นบิดา ‘เอเดน’ ที่วางมือแล้วไปใช้ชีวิตอยู่อิตาลีกับภรรยา ‘เมลิซ่า’ (มารดาของเลโอนาดท์)
เขาถูกจัดอันดับให้เป็นหนุ่มฮ็อตที่หล่อรวยแห่งปี ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหน ก็มีสาวข้างกายไม่ว่างเว้น ทั้งดารานางแบบที่ผลัดเปลี่ยนเวียนหน้ากันมาเป็นของเล่นชั่วคราวไม่หยุดหย่อน แต่เลโอนาดท์ก็ไม่เคยให้สาวคนไหนอยู่เคียงข้างกายข้ามคืนเลยสักครั้ง! เพราะสำหรับเขาแล้ว พวกเธอไม่มีค่าพอที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อมองแสงอาทิตย์ของวันใหม่ พร้อมกันกับเขา!
เธอก็แค่ผู้หญิงที่ต้อยต่ำ! มิอาจเทียบกับความสูงศักดิ์ ในชาติตระกูล และความร่ำรวยของเขาได้แม้แต่นิด แต่ไยถึงได้ปฏิเสธที่จะเป็นของเขา ยิ่งเธอดิ้นหนีและหวาดกลัว มันก็ยิ่งทำให้เขาอยากจะขย้ำและกลืนกิน กลิ่นสาปของเด็กสาว...ที่บริสุทธิ์ มันช่างหอมหวานและเย้ายวนใจ จนทำให้เขาแทบคลั่ง แล้วแบบนี้จะให้เขาปล่อยเธอไปอย่างนั้นหรือ? ไม่มีทาง!!
(มะลิ) มะลิฉัตร เดือนแรม
สาวน้อยอายุ 21 ปี ที่มีดวงตากลมโตสีฟ้าอมเขียว รายล้อมไปด้วยขนตาที่ดกดำและยาวงอนเป็นแพ ริมฝีปากบางสีแดงอมส้มที่อวบอิ่ม รับกับจมูกโด่งสวยได้รูป ผมที่ดำเงายาวสยายรายล้อมดวงหน้าจิ้มลิ้ม ทำให้ดูมีเสน่ห์เย้ายวน สวยสะดุดตาใครต่อใครที่พบเห็นไปทั่ว
มะลิฉัตรเป็นเด็กกำพร้า ที่เติบโตมาจากศูนย์รับเลี้ยงเด็กกำพร้าบ้านเดือนแรม เธอไม่เคยรู้ว่าบิดาและมารดาเป็นใคร เพราะตั้งแต่จำความได้ ก็มีเพียงคุณจันทร์ฉายหรือที่เธอเรียกว่า ‘แม่’ คอยดูแลเธอมาตลอด!
ทุกๆ วันที่ตื่นขึ้นมา เธอมีความสุขกับงานที่ทำ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นแค่เมดทำความสะอาดห้องพักในโรงแรม แต่มันก็เป็นงานที่ทำให้เธอมีเงินเดือนสูงถึงสามหมื่นบาทต่อเดือน ทุกๆ อย่างมันลงตัวดีกับชีวิตของคนคนหนึ่งที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนทำงานหลังจากที่เรียนจบ
แต่แล้วอยู่ๆ ความสุขของเธอก็หายไป! หลังจากที่ได้รับสายของหัวแผนก ที่โทร. มาในเช้าของวันนั้น! วันที่จะทำให้ชีวิตของเมดสาวอย่างเธอ ต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล!
1
Rocasander Grand Hotel... (ประเทศไทย)
ร่างสูงภูมิฐานในชุดเครื่องแบบสีกากี เดินผ่านประตูทางเข้ามาด้วยท่าทางยิ้มแย้ม เมื่อเห็นหญิงสาวที่ตนแอบหลงรัก ยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์
“สวัสดีครับมะลิ” คเชนทร์ นายตำรวจหนุ่มหล่อเพิ่งเดินทางกลับจากไปเที่ยวอิตาลีกับครอบครัว ทันทีที่ลงจากเครื่องชั่วโมงก่อน เขาก็รีบ ขับรถตรงมาหาสาวเจ้าที่โรงแรมพร้อมกับของฝาก
“สะ... สวัสดีค่ะผู้กำกับฯ” มะลิฉัตรหันมามองอย่างรู้สึกตกใจนิดๆ ที่เห็นนายตำรวจหนุ่มหิ้วถุงกระดาษใบใหญ่สองสามใบเดินตรงเข้ามาหา
“ผมเอาของฝากมาให้ครับ” คเชนทร์บอกพร้อมยกถุงกระดาษวางบนเคาน์เตอร์ให้กับหญิงสาว
“ขอบคุณค่ะ” เธอเอ่ยรับอย่างรู้สึกเขินอาย เพราะสายตาหลายคู่ของพนักงานและลูกค้าที่เข้าพักในโรงแรม กำลังหันมามองเธออย่างสนใจ
“ไม่มีของกุ๊กไก่บ้างเหรอคะผู้กำกับฯ” คนที่เพิ่งมาถึงฉีกยิ้มหวานให้ผู้กำกับการหนุ่มหล่อที่มักจะมานั่งจิบกาแฟที่ล็อบบีเป็นประจำ
“เอ่อ! ครั้งหน้าแล้วกันนะครับ” คเชนทร์บอกหญิงสาวจบ ก็หันกลับไปจ้องมองใบหน้าจิ้มลิ้มของมะลิฉัตรต่ออย่างคิดถึง
“แหม... แบ่งที่มะลิให้ก็ได้นี่คะผู้กำกับฯ” สายไหมบอกพลางมองในถุงใบใหญ่ด้วยความรู้สึกอิจฉา
“คือขนมพวกนี้ผมตั้งใจซื้อฝากมะลิไปให้เด็กๆ น่ะครับ” คเชนทร์หันไปยิ้มให้สองสาวที่มาใหม่
“แต่เมื่อกี้ไหมเห็นกล่องคล้ายๆ กับน้ำหอมยี่ห้อดังนะคะ” สายไหมบอกพลางจ้องถุงกระดาษใบเล็กอย่างสนใจ
“ใช่ครับ! น้ำหอมของ Dior ขวดนั้นคุณแม่ของผมท่านฝากมาให้มะลิน่ะครับ” คเชนทร์ตอบพร้อมกับส่งสายตาสื่อความหมายไปให้คนที่เอาแต่เงียบ
“ว้าว!” กุ๊กไก่ทำตาลุกวาว ก่อนจะแสร้งถามต่อ เมื่อเห็นอีกกล่อง ที่อยู่ด้านในถุงใบเดียวกัน “แล้วกล่องนั้นอะไรคะ?”
“ก็น้ำหอมอีกนั่นแหละครับ ของคุณพิ” ชายหนุ่มบอกพลางมองท่าทางของสองสาวอย่างสังเกตอาการที่แปลกไป
“โห... มะลิกับพินี่โชคดีจริงๆ นะคะ” กุ๊กไก่เอ่ยด้วยน้ำเสียงค่อนขอดอย่างอดไม่ได้ ‘เดี๋ยวเถอะมึง เจอดีแน่อีมะลิ!’
“มะลิ! ไปทานข้าวกัน” พิมาลาที่ไปเข้าห้องน้ำมา เอ่ยชวน
“สวัสดีครับคุณพิ” คเชนทร์หันไปเอ่ยทักทายด้วยใบหน้ายิ้มๆ
“อ้าว! ผู้กำกับฯ คเชนทร์ สวัสดีค่ะ” พิมาลามองผู้กำกับการหนุ่มแวบหนึ่ง ก่อนจะมองเลยไปยังสองสาวที่ยืนอยู่ด้านในเคาน์เตอร์อย่างพอจะเดาสถานการณ์ออก ‘อีบ้าสองตัวนี่หาเรื่องมะลิหรือเปล่านะ!’
“มาได้จังหวะพอดีครับ ผมว่าจะชวนมะลิกับคุณพิไปทาน ข้าวเที่ยงด้วยกันน่ะครับ” คเชนทร์บอกยิ้มๆ เพราะเริ่มจะรำคาญสองสาวที่ตั้งคำถามไม่หยุดขึ้นมานิดๆ
“โอ้โฮ! ผู้กำกับฯ ชวนทั้งทีไม่ปฏิเสธเด็ดขาดค่ะ ปะ มะลิ! ไปเร็วฉันหิวจนตาลายไปหมดแล้ว” พิมาลาเอ่ยพลางหันไปยักคิ้วให้กุ๊กไก่กับสายไหมอย่างผู้ชนะ
“พิ! ช่วยเราถือของหน่อยสิ” มะลิฉัตรหันไปบอกเพื่อนอย่างขอความช่วยเหลือ
“เดี๋ยวผมถือให้ดีกว่าครับ” ผู้กำกับการหนุ่มรีบอาสา
“ขอบคุณค่ะ” มะลิฉัตรส่งถุงใบใหญ่ให้อีกฝ่าย จากนั้นก็เดินออกมาที่นอกเคาน์เตอร์ด้วยสีหน้ายิ้มๆ
“ยินดีครับ” คเชนทร์รับถุงใบเดิมมาถือ แล้วชวนสาวเจ้าให้ออกเดินไปพร้อมกัน
“ไปก่อนนะ” พิมาลาหันไปบอกสองสาว ก่อนจะออกเดินตามเพื่อนรักกับนายตำรวจหนุ่มออกไปด้วยสีหน้ากวนๆ
“ผู้กำกับฯ หลงอีมะลิน่าดูเลยนะว่าไหม?” สายไหมเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองสาวเดินไปขึ้นรถ BMW รุ่นใหม่ของคเชนทร์ที่จอดอยู่ด้านหน้า!
“หึ! เดี๋ยวฉันจะสั่งสอนให้มันรู้ว่าไม่ควรมายุ่งกับของของคนอื่น”
กุ๊กไก่บอกอย่างเจ็บแค้นใจ เมื่อคนที่เธอแอบสนใจมานาน ไปสนใจเพื่อนร่วมงานอีกคน ที่ไม่มีอะไรจะสู้เธอได้แม้แต่น้อย
“ต้องแบบนี้สิกุ๊ก! อย่าไปยอมแพ้มันเด็ดขาด ใครๆ ก็รู้ว่าเธอน่ะ เป็นว่าที่คุณนายผู้กำกับฯ มาแต่ไหนแต่ไร” สายไหมรีบเสริม
“ใช่! ฉันจะไม่ยอมแพ้มันเด็ดขาด!” กุ๊กไก่บอกด้วยสีหน้ามุ่งมั่น
“ฉันอยู่ข้างเธอจ้ะกุ๊ก!” สายไหมบอกอย่างเอาใจ เพราะป้าของ อีกฝ่ายเป็นคนเก่าคนแก่ของโรงแรมแห่งนี้มาตั้งแต่เริ่มเปิดใหม่ๆ ทำให้เป็นที่เกรงอกเกรงใจของพนักงานในทุกๆ แผนก
“ขอบใจมากไหม” กุ๊กไก่ยิ้มกว้างอย่างซาบซึ้งใจ ที่เพื่อนช่วยสนับสนุนและอยู่ข้างๆ
คเชนทร์ขับรถพาสองสาวไปทานมื้อเที่ยงที่ร้านดังใกล้ๆ กับโรงแรมเสร็จ ก็ขับรถไปส่งมะลิฉัตรกับพิมาลาที่หอพัก
“ขอบคุณผู้กำกับฯ มากๆ นะคะ” มะลิฉัตรเอ่ยพร้อมกับยกมือขึ้นไหว้ชายหนุ่มหลังจากที่ลงจากรถ
“น้องๆ คงจะดีใจมากค่ะ ที่จะได้กินขนมของอิตาลี อ้อ! ขอบคุณสำหรับน้ำหอมด้วยนะคะ” พิมาลายกมือขึ้นไหว้ พร้อมกับยิ้มให้ชายหนุ่ม
“เล็กน้อยครับ!” คเชนทร์รับไหว้สองสาว ก่อนจะขับรถกลับคอนโดมิเนียมอย่างอารมณ์ดี พลางวาดฝันไปถึงอนาคตที่จะได้ครอบครองหญิงสาวที่ตนหลงรักตั้งแต่แรกเจอ
สองวันต่อมา... 8:54 น.
หลังจากที่สองสาวกลับจากชลบุรีก็ต้องเปลี่ยนกะการทำงาน เข้า 9:00 น. เลิกงาน 18:00 น. โดยพักเบรกตั้งแต่บ่ายโมงถึงบ่ายสอง เนื่องจากสองสาวไม่มีที่พักในกรุงเทพฯ จึงได้รับสิทธิ์ในการเข้าพักฟรีในหอพักของพนักงานที่อยู่ใกล้กับโรงแรม
มะลิฉัตรเดินแกมวิ่งตรงไปยังห้องสแกนนิ้วมือพนักงานอย่างเร่งรีบ เพื่อลงเวลาเข้างานเหมือนที่บางแห่งใช้การตอกบัตรเป็นเครื่องยืนยัน ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่นาทีแล้ว
“ไงมะลิ!” กุ๊กไก่ที่เพิ่งจะออกกะ ทักทายศัตรูหัวใจด้วยสีหน้าตึงๆ
“มีอะไรเหรอกุ๊ก!” คนที่กำลังวางนิ้วลงบนเครื่องสแกนหันมาถามกุ๊กไก่กับสายไหม ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายจะพูดเรื่องอะไร
“เธอรู้ว่าฉันชอบผู้กำกับฯ คเชนทร์ใช่ไหม” กุ๊กไก่เข้าประเด็น
“แล้ว...” มะลิฉัตรเลิกคิ้วถามพร้อมกับยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู อีกครั้ง เพราะพิมาลาที่แวะซื้อกาแฟยังไม่โผล่มาสแกนนิ้ว
“แหม! รู้แล้วก็ไม่ควรยุ่งกับคนที่เพื่อนแอบรักน่ะสิยะ” สายไหม ต่อว่าอย่างรู้สึกหมั่นไส้
“ผู้กำกับฯ เอาขนมมาฝากให้น้องๆ ของฉันก็แค่นั้น” เธอบอกก่อนจะเอากระเป๋าไปเก็บในล็อกเกอร์
“แล้วน้ำหอมล่ะ?” กุ๊กไก่ถามพลางมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจดเท้า
“พวกเธอก็ได้ยินไม่ใช่เหรอ ตอนที่เขาบอก” มะลิฉัตรรู้สึก เบื่อหน่าย ที่ถูกอีกฝ่ายถามเรื่องเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนแทบจะเรียกได้ว่ามันเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่ง ที่เธอจะต้องเจอตอนเข้างาน
กุ๊กไก่รีบกระชากแขนของคนที่กำลังจะเดินออกไป ให้หันมาคุยกับตน “เขาจะบอกยังไงก็ช่าง! ที่ฉันอยากรู้ตอนนี้คือแกจะเลิกยุ่งกับ ผู้กำกับฯ หรือเปล่า”
“ฉันไม่ได้ไปยุ่งกับเขาสักหน่อย พวกเธอก็เห็น” มะลิฉัตรบอกพร้อมกับยกยิ้มมุมปากอย่างเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมานิดๆ
“ตกลงจะไม่เลิกยุ่งใช่ไหม” กุ๊กไก่จ้องมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาแดงก่ำอย่างเอาเรื่อง
“ลากมันเข้ามาตบข้างในนี่เลยกุ๊ก ข้างนอกมีกล้องวงจรปิด!”
สายไหมบอกเพื่อนสาว พร้อมกับเตรียมตั้งท่าจะตบอีกฝ่าย
“ก็ลองดูสิ!” พิมาลาที่ถือกาแฟเดินเข้ามา ทันได้ยินประโยคเมื่อครู่เข้า จึงบอกกับสายไหมแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าที่บ่งบอกว่าพร้อม จะมีเรื่อง
“พิ!” มะลิฉัตรอุทานอย่างตกใจ เมื่อเห็นเพื่อนสาวโผล่เข้ามาได้จังหวะพอดี
“ถ้าเธอสองคนทำอะไรมะลิละก็ จบไม่สวยแน่” พิมาลาบอกพร้อมกับชี้หน้าของสองสาวอย่างเอาเรื่อง
“พิ! อย่า” มะลิฉัตรสะบัดแขนที่ถูกกุ๊กไก่จับออก แล้วรีบเดินเข้าไปจับแขนเพื่อนสาวจอมบู๊เอาไว้มั่น กลัวว่าอีกฝ่ายจะเบรกอารมณ์ไม่อยู่
“กลัวอะไรมะลิ” พิมาลาหันมาต่อว่าเพื่อนด้วยสีหน้าขุ่นเคือง
“ไม่ได้กลัว! แต่ถ้ามีเรื่องแล้วเราจะได้ออกจากงานทั้งคู่นะพิ!” มะลิฉัตรกระซิบบอกเสียงเบา
หลังจากที่พราวดาราอาบน้ำเสร็จก็รีบลงไปด้านล่าง เพราะไม่อยากเจอหน้าของสามี เธอเดินตรงเข้าไปหาบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหน้าของคฤหาสน์“เอ่อ... ช่วยไปส่งที่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์ได้ไหมคะ”“ได้ครับ” บอดี้การ์ดยิ้มให้ เตรียมจะเข้าประจำที่คนขับ“ไม่ต้อง!” โดมินิกยกมือห้าม ก่อนจะหันมาถามภรรยาสาวที่ทำท่าทางราวกับเด็กหนีเที่ยวอย่างไรอย่างนั้น “คุณจะไปไหน”“ฉันจะไปหามะลิค่ะ นัดกันเอาไว้ว่าจะทำขนม” พราวดาราบอกโดยไม่ยอมมองหน้าของอีกฝ่าย“เดี๋ยวผมไปส่ง” โดมินิกดึงมือของสาวเจ้าให้ออกเดินตามพราวดารายอมนั่งรถไปกับอีกฝ่าย เพราะไม่อยากทะเลาะกันที่ด้านหน้าคฤหาสน์ กลัวว่าบิดาและมารดาของเขาจะได้ยินเข้า“คุณจะไม่คุยกับผมจริงๆ เหรอพราว” โดมินิกถามหลังจากขับรถออกมาได้สักพัก“แค่หน้าคุณ ฉันก็ยังไม่อยากมองเลยซาเก้” พราวดาราเอ่ยเยาะ ก่อนจะแสร้งหันไปมองข้างทาง“ผมเคยมีความสัมพันธ์กับฮาน่าเมื่อหลายเดือนก่อนที่จะบินไปไทย มันไม่ได้พิเศษหรือสำคัญใดๆ นอกเหนือไปจากการปลดปล่อยความต้องการเหมือนทุกๆ ครั้ง”“ฉันไม่อยากฟัง” พราวดาราบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ“คุณต้องฟังพราว! เพราะผมไม่ได้แต่งงานกับผู้หญิงทุกคนที่ผมมีเซ็กส์ด้วยนะให้ต
“เจอกันข้างในครับมาดาม” ลูเซียสหันไปยิ้มให้มารดาของเพื่อน“เดี๋ยวผมตามไปครับ” เลโอนาดท์บอก พร้อมกับจ้องมองเรือนร่างบอบบางของภรรยาอย่างไม่วางตา“คุณดูหล่อสุดๆ ไปเลยค่ะ คิกๆๆ” มะลิฉัตรหัวเราะเบาๆ“คุณก็สวยจนผมไม่อยากพาเข้างานเลยให้ตายสิ!” เลโอนาดท์ยิ้มกว้างเมื่อถูกสาวเจ้าชมเป็นครั้งแรก“อืม... งั้นเราหนีกลับกันเลยดีไหมลีโอ!” โดมินิกเอ่ยชวนด้วยสีหน้าจริงจัง“บ้า!” ลูเซียสกลอกตาอย่างเพลียๆ เมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองกำลังพูดจาเหมือนคนละเมอ จึงหันไปแนะนำตัวกับสองสาวแทน“สวัสดีครับ ผมลูเซียส รีเวอร์ยอง เรียกลูเฉยๆ ก็ได้ครับ”“อ้าว! ลืมแนะนำไปเลย นี่พราวดารา ภรรยาของฉัน เรียกสั้นๆ ว่าพราวก็ได้ ส่วนนี่มะลิ หรือมะลิฉัตร ภรรยาของลีโอ” โดมินิกเอ่ยแนะนำ “สวัสดีค่ะลู” พราวดารากับมะลิฉัตรจับมือทักทายอีกฝ่ายด้วย สีหน้ายิ้มแย้ม“ครับ พราว มะลิ!” ลูเซียสมองสองสาวอย่างชื่นชม กับความงามที่สมบูรณ์แบบและลงตัว ‘มิน่า! ถึงได้รีบร้อนจัดงานแต่งที่ไทย’เลโอนาดท์ส่งสายตามองไปรอบๆ ด้านหน้าของงาน ก็เห็นนักข่าวนับร้อยต่างพากันถ่ายรูปของตนกับเพื่อนและสองสาว จึงหันมาบอกกับ ทุกคน “ถ่ายรูปกันหน่อยเพื่อน มะลิมายืนข้างๆ
พราวดาราเดินไปยังศาลาสีขาว ที่อยู่กลางดงหมู่มวลดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์อย่างตื่นตาตื่นใจ ‘อย่างกับอยู่บนสวรรค์แน่ะ’“ผมดีใจที่คุณชอบ” โดมินิกบอกก่อนจะทำเนียนเข้าไปสวมกอดสาวเจ้าจากด้านหลัง“อ๊ะ! นี่คุณจะทำอะไรน่ะ” คนที่กำลังอารมณ์ดี ถามเสียงขุ่นทันใด“พราว! เราทิ้งเรื่องก่อนหน้าทั้งหมดไป แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกันที่นี่ได้ไหม” เขากระซิบถาม“ฉันไม่ชอบคนโกหก ไม่ชอบที่คุณหลอกฉัน ไม่ชอบถูกบังคับเพราะมันทำให้ฉันอึดอัดและสติแตก” พราวดาราบอกด้วยน้ำเสียงตึงๆ“ผมขอโทษ ผมกลัวว่าคุณจะไม่ยอมมาอยู่กับผมที่นี่” โดมินิกเอ่ยเสียงอ่อน“ฉันอยากเข้าไปดูด้านในคฤหาสน์ค่ะ” พราวดาราเปลี่ยนเรื่องคุย“ผมจะพาคุณไปดูห้องนอนของเราก่อน” โดมินิกยิ้มก่อนจะช้อนอุ้มสาวเจ้าขึ้นอย่างรวดเร็ว“บ้า! วะ... วางฉันลงนะ” พราวดาราบอกอย่างตกใจ“ผมต้องอุ้มคุณข้ามประตูตามขนบธรรมเนียมจ้ะ” เขาบอกก่อนจะอุ้มเจ้าสาวเดินตรงเข้าสู่คฤหาสน์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ‘ขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เธอเลิกพยศซะที’พราวดารามองชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีอย่างรู้สึกสับสนกับหลายๆ สิ่ง หลายๆ อย่าง ทั้งงานหมั้นและงานแต่ง รวมถึงการที่พาเธอมาอังกฤษ ซึ่งเธอไม่อาจคิดเ
“คุณคบอยู่กับเธอก่อนจะเจอฉันใช่ไหม?” มะลิฉัตรถามต่อด้วยหัวใจสั่นๆ“ไม่! แค่รู้จักพอประมาณ ไม่ได้คบหากันแบบคนรัก” เลโอนาดท์บอกด้วยสีหน้าจริงจัง เพราะรู้ดีว่าเมื่อไรก็ตามที่มีความสัมพันธ์ทางกายกับไอวี่ เมื่อนั้นตนจะต้องเตรียมตัวเข้าพิธีวิวาห์กับอีกฝ่ายทันที และนั่นจึงทำให้เขาไม่ยอมทำตัวสนิทสนมกับเธอมากกว่าคนรู้จักทั่วไป“เธอรักคุณ” มะลิฉัตรบอกพร้อมกับจ้องมองนัยน์ตาสีฟ้าอมเทานั้นอย่างค้นหา“ใช่! แต่ผมไม่ได้รักเธอ” เลโอนาดท์ยืนยันด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กลัวว่าสาวเจ้าจะเข้าใจตนผิดไปเหมือนครั้งก่อน“เป็นเพราะฉัน พวกเขาก็เลยยกเลิกธุรกิจที่ทำกับคุณ” เธอบอกอย่างรู้สึกเป็นห่วง แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกอบอุ่นที่เขาทำให้เธอรู้ว่าตัวเองสำคัญสำหรับเขา“นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย มัน... ไม่สำคัญเท่ากับรอยแดงๆ ที่อยู่บนหน้าของคุณตอนนี้หรอก เชื่อสิ!” เลโอนาดท์บอกพลางถอนหายใจยาวอย่างหงุดหงิด“ฉันโอเคค่ะ” เธอบอกพร้อมกับกอดแขนของเขาเอาไว้แน่น“แต่ผมไม่โอเค!” เลโอนาดท์บอกก่อนจะหันไปสั่งคนสนิทและ สาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลัง“โทร. บอกแด๊ดกับมัมของฉันด้วย
“เอ่อ... เราไปนั่งตรงนู้นด้วยกันดีไหมคะ” มะลิฉัตรเอ่ยชวน“ค่ะ” พราวดาราพยักหน้ารับ ก่อนจะลุกออกไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด“ห้ามพวกมึงพูดให้ใครฟังว่ากูโดนเมียซ้อมบนเครื่องนะ” โดมินิกหันไปบอกคนสนิทและเพื่อนรักด้วยสายตาขวางๆ“ฮ่าๆๆๆ” เลโอนาดท์หัวเราะลั่นอย่างขบขัน โดยที่สองหนุ่มดีนกับเจซีพยายามกลั้นเสียงหัวเราะเอาไว้จนหน้าแดงก่ำ“เฮ้! กูซีเรียสโว้ย!” โดมินิกบอกก่อนจะชำเลืองมองสาวเจ้าที่ฝากร่องรอยเอาไว้บนตัวของตนอย่างขุ่นเคือง‘พราวนะพราว! ไม่ไว้หน้าผัวบ้างเลย’“เอาน่า มันเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่นะเพื่อน” เลโอนาดท์บอกก่อนจะยกนิ้วเช็ดน้ำที่หางตาทิ้ง“หึ!” โดมินิกกลอกตา ก่อนจะหันไปบอกคนสนิทด้วยสีหน้าตึงๆ “ไปเอาบรั่นดีมาสิ! ยืนบื้ออยู่ได้”“ครับ” ดีนตอบก่อนจะรีบดึงแขนของเจซีให้เดินออกไปด้วยกัน‘ต้องพามันไประบาย เดี๋ยวขาดใจตายเพราะกลั้นหัวเราะซะก่อน’ทันทีที่สองหนุ่มเดินไปที่ห้องครัวของเครื่องบิน“แกเห็นหน้าบอสไหม ฮ่าๆๆๆ” ดีนถามก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่“หะ... เห็นสิ ฮ่าๆๆ” เจซีตอ
“มะลิ! ลีโอ! มาถ่ายรูปกัน” โดมินิกเอ่ยชวนมะลิฉัตรกับเลโอนาดท์ยิ้ม ก่อนจะรีบเข้าไปร่วมเก็บภาพความทรงจำ ที่มีโดมินิก พราวดารา อริน คเชนทร์ พิมาลา ธีรติ ธาริณี เอเดน เมลิซ่า อังเดร ไอรดา เพียงดาว หม่อมหลวงอภิชาต และจันทร์ฉายกับเด็กๆบ้านเดือนแรมบรรยากาศในงานดำเนินต่อไปท่ามกลางสีหน้ายิ้มแย้มของเจ้าบ่าวเจ้าสาว และแขกที่มาร่วมงานต่างสังสรรค์กันต่ออย่างสนุกสนาน จวบจนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงห้าทุ่ม ทุกคนก็ออกมาส่งเจ้าบ่าวเจ้าสาวขึ้นรถที่ด้านหน้าของงาน เพื่อจะเดินทางไปยังสถานที่ที่ใช้เป็นเรือนหอนักข่าวที่ดักรออยู่ด้านหน้า ต่างกระหน่ำกดชัตเตอร์ขณะที่เจ้าบ่าวและเจ้าสาวทั้งสองคู่เข้าไปในรถลีมูซีน“เราจะไปไหนกันเหรอคะ?” มะลิฉัตรถามเมื่อเข้ามานั่งในรถคันหน้ากับเจ้าบ่าว ขณะที่พราวดารานั่งลีมูซีนคันหลังกับโดมินิก“ยังไม่บอก ผมอยากให้คุณเซอร์ไพรส์!” เลโอนาดท์ดึงร่างบางขึ้นมานั่งคร่อมบนตัก แล้วมอบจูบที่เร่าร้อนให้กับผู้หญิงที่ได้ชื่อว่า เป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฏหมายอย่างไม่รอช้า“อื้อ...” มะลิฉัตรครางท้วงได้เพียงครู่ก็ต้องยอมโอนอ่อนตามเจ้าบ่าวอย่างเลี่ยงไม่ได
Comments