Share

บทที่ 10

ทันใดนั้นห้องนั่งเล่นก็เงียบสงบจนได้ยินเสียงหัวใจเต้น

ฉินอันอันกลับไปที่ห้องแล้วปิดประตูดังปัง

‘ปัง’!

ดูเหมือนทั้งคฤหาสน์จะสะเทือน

กล้าทุบประตูบ้านของฟู่ซื่อถิง ผู้หญิงคนนี้ไม่กลัวตายเลยจริง ๆ

ทุกคนแอบมองสีหน้าของฟู่ซื่อถิง และเห็นว่าเขาดูสงบและไม่โกรธ

แต่ถ้าใครส่งเสียงดังเกินหกสิบเดซิเบลต่อหน้าเขา เขาจะต้องขมวดคิ้วแน่นอน

เสียงของฉินอันอันกระแทกประตูเมื่อครู่นี้น่าจะดังอย่างน้อยเก้าสิบเดซิเบล ทำไมเขาถึงไม่โกรธกัน?

ที่สำคัญกว่านั้น ขวดไวน์ที่ฉินอันอันเพิ่งทุบไปมีมูลค่าเกือบสองล้าน และพวกเขายังไม่ได้ดื่มมันเลย

เธอทุบมัน...แบบไม่กระพริบตาเลย

“เอ่อ... ฉันได้ยินมาว่าพ่อของคุณฉินเสียชีวิตเมื่อวันก่อน ดูจากการที่วันนี้เธอสวมชุดสีดำล้วน เธอคงเพิ่งกลับมาจากไปร่วมงานศพของพ่อเธอ!”

มีคนกล้าพูดทำลายความเงียบนี้

ผู้หญิงในชุดสีขาวคือถังเฉียน ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์ของเอสทีกรุ๊ป

วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ และเพื่อเฉลิมฉลองการฟื้นขึ้นมาของฟู่ซื่อถิง เธอจึงเชิญเพื่อน ๆ ของฟู่ซื่อถิงมาดื่มที่บ้านของฟู่ซื่อถิง

การต่อสู้กับฉินอันอันเมื่อครู่นี้ทำให้เธอเสียหน้าเป็นอย่างมาก

สีหน้าฟู่ซื่อถิงดูสงบเรียบเฉย แต่ความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอ อาจจะเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ก็ได้

ถังเฉียนกลับมาหาเขาและขอโทษอย่างระมัดระวัง "ซื่อถิงขอโทษนะ ฉันไม่รู้ว่าพ่อของฉินอันอันเสียชีวิตแล้ว"

ฟู่ซื่อถิงบดก้นบุหรี่ในที่เขี่ยบุหรี่ เขาหยิบแก้วไวน์ทรงสูงด้วยนิ้วเรียวยาว และดื่มไวน์ทั้งหมดภายในอึกเดียว เมื่อวางแก้วลงกับโต๊ะ เสียงทุ้มต่ำเซ็กซี่ของเขาก็ดังขึ้น "สุขสันต์วันเกิด"

ถังเฉียนหูร้อนผ่าว "ขอบคุณนะคะ"

“นอกจากนี้ ฉินอันอันไม่ใช่คนที่เธอจะไปแตะต้องได้” ฟู่ซื่อถิงจัดปกเสื้อของเขาด้วยนิ้วเรียว ในน้ำเสียงของเขาแฝงคำเตือนด้วยว่า "แม้ว่าเธอจะเป็นสุนัขของตระกูลฟู่ แต่มีแค่ฉันเท่านั้นที่รังแกเธอได้”

ถังเฉียนรู้สึกตกใจ "แต่คุณจะหย่ากับเธอในไม่ช้านี้ ถึงตอนนั้นเธอยังเทียบกับสุนัขของคุณไม่ได้ด้วยซ้ำ!"

ทันใดนั้นสายตาของฟู่ซื่อถิงก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา "แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่ฉันไม่ต้องการ แต่ฉันก็จะไม่ยอมให้เธอหรือคนอื่นไปเหยียบย่ำเหมือนกัน"

ในเวลานี้ป้าจางเข้ามาหยิบเศษขวดไวน์และพรมที่เปื้อนออกไป

แก้วไวน์ของฟู่ซื่อถิงถูกรินให้จนเต็ม

“ซื่อถิงอย่าโกรธเลย ถังเฉียนไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่ไปหาเรื่องกับฉินอันอันจริง ๆ หรอก” คนที่นั่งตรงข้ามฟู่ซื่อถิงเห็นว่าบรรยากาศดูท่าจะไม่ดี เลยพยายามคลี่คลายสถานการณ์ในตอนนี้

"ใช่แล้ว! ถังเฉียนทำไมเธอไม่ลงโทษตัวเองสักสามแก้วล่ะ? แม้ว่าเธอจะเป็นเจ้าของวันเกิด แต่เมื่อกี้เธอเองทำเกินไปแล้วเหมือนกัน!"

ถังเฉียนหยิบแก้วไวน์ขึ้นมา เพื่อที่จะลงโทษตัวเองด้วยการดื่มสามแก้ว

ฟู่ซื่อถิงเหลือบมองบอดี้การ์ดที่อยู่ข้าง ๆ เขา

บอดี้การ์ดเข้ามาช่วยประคองเขาลุกขึ้นทันที

“พวกนายดื่มกันไปเถอะ!” หลังจากที่พูดแล้ว ฟู่ซื่อถิงก็กลับไปที่ห้องของเขา

ถังเฉียนมองแผ่นหลังที่ตั้งตรงเด็ดขาดของเขาตอนที่ออกไป ดื่มไวน์สามแก้วที่ด้วยน้ำตาคลอเบ้า แล้วสวมรองเท้าส้นสูงเดินจากไป

“ให้ตายเถอะ! ตัวเอกทั้งสองหายไปแล้ว ยังอยากดื่มต่อไหม?”

"ดื่มสิ! ให้ถังเฉียนรู้ว่าไม่มีทางที่จะดีกว่า ไม่งั้นเธอก็จะแค่คิดว่าเธอจะได้กลายเป็นคุณนายฟู่!"

“สิ่งที่เกิดขึ้นคืนนี้คงไม่ทำให้เธอยอมแพ้หรอก! อย่างไรก็ตาม ซื่อถิงวางแผนที่จะหย่ากับฉินอันอันอยู่แล้ว”

“พูดถึงฉินอันอัน เธอหน้าตาดีจริง ๆ แต่เธอมีอารมณ์ร้ายขนาดนี้ ซื่อถิงทนไหวได้ยังไง?”

ในห้องรับรองแขก

ฉินอันอันนั่งกอดเข่า น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ

อดทนกลั้นน้ำตามาสามวันแล้ว และในตอนนี้กลับร้องไห้ออกมา

คำขอโทษของพ่อ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตดังก้องในใจอยู่ตลอดเวลา

ความเกลียดชังของฉันมีต่อเขาในช่วงชีวิตที่ผ่านมา กลายเป็นความอ่อนแอที่ไม่อาจทนรับได้

เธอร้องไห้และหลับไปทั้งน้ำตา

เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อตื่นขึ้นมา ตาทั้งบวมและปวดไปหมด

หลังจากอาบน้ำสวมชุดนอนสะอาดสะอ้านแล้ว เธอก็ออกมาจากห้องไป

ไม่กี่วันที่ผ่านมา เธอไม่ได้กินอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย ตอนนี้เธอหิวมากจนปวดท้องไปหมด

เธอเดินไปที่ประตูห้องอาหาร เมื่อเห็นแผ่นหลังของฟู่ซื่อถิง เธอก็หยุดเดินทันที

เมื่อป้าจางเห็นเธอมา เธอก็ทักทายเธอทันที "คุณนาย อาหารเช้าพร้อมแล้ว! มาทานอาหารกันเถอะค่ะ!"

ปกติแล้วเธอมักหลีกเลี่ยงเขา เพราะกลัวไปทำให้เขาขุ่นเคือง จะพลอยทำให้ชีวิตลำบากไปเปล่า ๆ

ตอนนี้เมื่อคิดว่าเป็นเขาที่ชะลอการหย่า ก็รู้สึกมั่นใจขึ้นมามากขึ้น

เธอเลือกที่นั่งที่อยู่ห่างจากเขามากที่สุดแล้วนั่งลง ป้าจางนำอาหารเช้ามาให้เธอ เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาเตรียมจะกิน

“ขวดไวน์เมื่อคืนนี้ราคาหนึ่งล้านแปดแสน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

ฉินอันอันจับตะเกียบแน่นขึ้นและสับสนไปหมด

หนึ่งล้านแปดแสน?

ไวน์หนึ่งขวดเหรอ?

ไวน์อะไร แพงมากขนาดนี้?

เขาจะให้เธอชดใช้งั้นหรือ?

เขาคิดว่าเธอมีปัญญาจ่ายได้รึไง?

เธอปวดท้องแปลบๆ มีเหงื่อเย็นไหลซึมออกมาจากหลัง รู้สึกไม่อยากอาหารขึ้นมาทันที

ฟู่ซื่อถิงเหลือบมองใบหน้าที่ตื่นตระหนกจนซีดเซียวของเธอ แล้วพูดอย่างจริงจังว่า "นี่เป็นคำเตือน ครั้งต่อไป ถ้าเธอทุบอะไรในบ้านของฉัน ฉันจะให้เธอชดใช้ตามราคา!"

เมื่อได้ยินเช่นนี้ อาการปวดท้องของเธอก็หยุดลง และรู้สึกอยากอาหารขึ้นมา

ผู้หญิงจำนวนมากมีอาการตั้งครรภ์ในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก ตั้งแต่การอาเจียนไปจนถึงล้มป่วย

นอกจากจะคลื่นไส้เล็กน้อยเป็นครั้งคราวแล้ว เธอไม่เคยอาเจียนเลย

แต่เมื่อเห็นเนื้อในชามบะหมี่ เธอรู้สึกพะอืดพะอม จึงคีบมันออกอย่างไม่รู้ตัว

“คุณนาย ไม่ถูกปากคุณเหรอคะ?” ป้าจางเห็นเธอหยิบเนื้อออกมาจึงเอ่ยถาม

ฉินอันอันส่ายหน้า "ช่วงนี้ฉันไม่อยากกินเนื้อน่ะค่ะ"

ป้าจางรีบพูด "ได้ค่ะ ฉันจะจำเอาไว้นะคะ"

หลังอาหารเช้า ฉินอันอันก็กลับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

วันนี้ทนายความของฉินเจี้ยขอให้เธอมาเจอ แม้ว่าทนายความจะไม่ได้บอกอย่างละเอียดว่าเรียกหาเธอทำไม แต่เธอก็พอเดาได้

หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เธอก็เดินออกจากห้องพร้อมถือกระเป๋า

บังเอิญฟู่ซื่อถิงก็เตรียมออกไปเช่นกัน

เขามีบอดี้การ์ดคอยรับใช้ มีคนขับรถมารับและส่งเขา

ฉินอันอันดูเวลานัดกับทนายไว้ตอนสิบโมง ตอนนี้ก็เกือบเก้าโมงแล้ว

จากคฤหาสถ์เดินออกไปข้างนอก เธอต้องเดินไปประมาณสิบนาทีเพื่อเรียกแท็กซี่

หลังจากฝนตกในฤดูใบไม้ร่วงเมื่อวาน อุณหภูมิก็ลดลงเล็กน้อยในวันนี้

เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะลมหนาวหรือเปล่า แต่หลังจากจากไปไม่นาน เธอก็รู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมา

รถเบนซ์สีเงินขับออกมา และกำลังจะเร่งความเร็วขึ้น คนขับรถมองเห็นฉินอันอันซึ่งอยู่ไม่ไกล

“ดูเหมือนคุณนายเลยครับ” คนขับพูดพร้อมชะลอความเร็วลง

คนขับเห็นฉินอันอันออกมาจากบ้าน วันนี้เธอแต่งตัวค่อนข้างเป็นทางการ

ฟู่ซื่อถิงที่นอนหลับตาอยู่ แต่หลังจากได้ยินคำพูดของคนขับ เขาก็ลืมตาขึ้นทันที

“นายท่านฟู่ครับ คุณนายดูเหมือนจะอาเจียนอยู่เลยครับ” คนขับนั่งอยู่ข้างหน้าเห็นได้ชัดขึ้น

ตอนที่ฉินอันอันกำลังกินอาหารเช้า แอบดีใจที่อาการแพ้ท้องไม่รุนแรง แต่เธอคิดไม่ถึงว่าจะควบคุมไม่ให้อาเจียนได้

เธอกอดถังขยะอาเจียน หลังจากอาเจียนเสร็จก็ว่าจะกลับบ้านไปล้างหน้า

ทันทีที่หันกลับมา ก็เห็นรถหรูของฟู่ซื่อถิง

แดดสาดลงมากระทบกับรถของเขา

เมื่อเข้ามาใกล้คนขับก็หยุดรถข้าง ๆ เธอ และลดกระจกลง

เธอเห็นสายตาเย็นชาที่ฟู่ซื่อถิงมองมาที่เธอ

เธอหน้าแดงก่ำ

เขาคงไม่สงสัยใช่ไหม?

เธอขมวดคิ้วเดินไปที่ท้ายรถที่จอดอยู่ แล้วไปคุยอธิบายกับเขาว่า "ฉันอาจจะกินอาหารเช้ามากเกินไปหน่อย"

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status