[ลิลิน]“อ้าว ๆ ได้ข่าวว่าคืนก่อนกลับดึกพร้อมบอสเลยนี่นา~”เสียงลากยาวของใครบางคนดังขึ้นพร้อมเสียงหัวเราะแผ่วเบา ฉันเดินผ่านแผนกบัญชีไปยังลิฟต์แต่เหมือนกลายเป็นจุดศูนย์กลางของสายตาคนทั้งฟลอร์“เลขาบอสคนใหม่ ท่าทางจะมีสิทธิพิเศษนะ”“คนเขาว่าได้ตำแหน่งมาเพราะหน้าตา ไม่ใช่ความสามารถด้วยซ้ำ”“หรือใช้อะไรช่วยไต่เต้าน้า...”ฉันหยุดเท้าแค่ครู่เดียวก่อนจะกลั้นหายใจแล้วเดินต่อไปด้วยความเย็นชา แต่ภายในใจกลับร้อนรุ่มจนแทบระเบิด“พวกปากไม่มีหูรูด!”ไม่รู้อะไรจริงไม่จริงก็พูดไปเรื่อยจนกระทั่งเสียงเตือนจากมือถือดังขึ้น ฉันกดเข้าไปดูในไลน์กลุ่มบริษัท แล้วสิ่งที่เห็นก็แทบทำให้มือฉันเย็นเฉียบคลิปวิดีโอหนึ่งที่ถูกโพสต์จากไอดีแปลก ๆ เป็นภาพที่ฉันอยู่ในห้องทำงานของบอส ฉันกำลังเดินเข้าไปใกล้เขา แล้วเขาก็ลุกขึ้น โน้มหน้าเข้ามาใกล้...แค่ไม่กี่วินาทีในคลิป แต่มันดูราวกับฉันกำลังเสนอหน้าทอดสะพานให้เขาเต็ม ๆ“โอ๊ย แม่เจ้า นี่มันคลิปตัดต่อชัด ๆ!!”ฉันกัดฟันกรอด มือไม้สั่น ขณะมองคอมเมนต์ด้านล่างที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ฉันราวกับว่าฉันเป็นตัวร้ายในซีรีส์‘เลขาคนนั้น เอาตัวเข้าแลกชัด ๆ’‘บริษัทนี้คงโปรโมตกันด้วยวิ
[ลิลิน]ฉันไม่รู้เลยว่าวันนี้มันพิเศษแค่ไหน…จนกระทั่งระบบหญิงโผล่มาขำคิกคักพลางโยนข้อความภารกิจใส่หน้าอย่างร่าเริงเกินเหตุ[ระบบหญิง] “ภารกิจพิเศษ แอบเซอร์ไพรส์วันเกิดบอส แม้เขาจะไม่ยอมบอกวันเกิด เธอก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเกิดวันไหน รางวัล 15,000 บาท ห้ามถามตรง ๆ เด็ดขาด! ใช้ไหวพริบเท่านั้น ห้ามพลาดล่ะ!”ฉันถึงกับสำลักน้ำลายตัวเองในห้องน้ำหญิงตอนเช้า รีบเช็ดปากแล้วพึมพำงึมงำ“วันเกิดเหรอ แถมยังต้อง แอบเซอร์ไพรส์อีก โอ๊ยบ้าไปแล้ว! แล้วบอสเกิดวันไหนล่ะเนี่ย”“ลิลิน เธอหัวเราะคนเดียวเหมือนคนบ้าอีกแล้วนะ”เสียงของพลอยใสเลขาแผนกบัญชีที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ทำฉันสะดุ้งโหยง รีบยิ้มแห้ง ๆ ใส่แล้วเผ่นออกมาทันทีเอาล่ะ…ถ้าไม่ให้ถาม ก็ต้องสืบสินะ!ฉันเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ช่วงสาย ทั้งถามทีมแม่บ้านแบบอ้อม ๆ“พี่บัวคะ คุณคิรินชอบของหวานไหมคะ”แกล้งเมาท์เรื่องทำบุญวันเกิดเจ้านายเก่าให้คนขับรถฟังเพื่อหยั่งเชิงพูดคุยสัปเพเหระกับธีร์แล้ววกมาเรื่องวันเกิด และก็ลองโยนคำถามแบบเล่น ๆ ใส่ธีร์ ผู้ช่วยคนสนิทของเขา…รวมถึงไปเม้าส์มอยกับบอดี้การ์ดส่วนตัวของบอส ชอบคุยไปเรื่อยไปเปื่อยจนในที่สุด...…และแล้วฉันก็ได้คำต
[ลิลิน]เช้าตรู่ของวัน ยังไม่ทันได้หายใจหายคอ เสียงระบบในหัวก็ดังขึ้น นี่ไม่คิดจะให้พักให้ผ่อนบ้างเลยรึไง[ระบบชาย] “ภารกิจวันนี้ ห้ามพูดโกหกกับเขาเด็ดขาดตลอด 24 ชั่วโมง หากล้มเหลว หักเงิน 10,000 บาท จำไว้ให้ดี!”ฉันแทบจะโยนหมอนใส่ระบบชายที่เหมือนกำลังลอยหน้าลอยตาใส่ฉันอยู่ ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นแค่เสียงจากระบบในหัว ป่านนี้ฉันคงจะต่อยไปสักหมัดแล้ว และลากคอมันไปเขย่าหัวให้หลุดจากบ่าแล้วตะโกนใส่หน้าว่า “หุบปากซักที!”“ห้ามพูดโกหกกับเขา” ภารกิจอะไรเนี่ย? แล้วถ้าเขาถามอะไรที่ไม่สามารถจะตอบตรง ๆ ได้จะทำยังไง “ภารกิจบ้าบอคอแตกอะไรเนี่ย คนเรามีใครบ้างที่พูดความจริงอยู่ตลอด ขนาดพระขนาดเจ้ายังโกหกเลย ถ้าเขาตามเรื่องที่ไม่สามารถตอบได้จะทำไง”[ระบบหญิง] “ก็ตอบตรง ๆ ไปเลยสิ~ เขาถามอะไรก็ตอบตามนั้น บางทีพูดตรง ๆ ก็ไม่เสียหายน๊า เธออาจจะได้หัวใจเขามาครอบครอง!”[ระบบชาย] “แล้วถ้าไม่ตอบความจริงตามกติกา อย่าลืมนะว่าระบบจะหักเงิน 10,000 บาท!”ระบบชายเสริมเสียงเข้มขึ้น ถ้อยคำนั้นเหมือนค้อนทุบลงกลางกระบาลฉันอย่างแรง“หักหมื่นนึง! กะจะให้ฉันกินแกลบรึไง”สิ้นเสียง ฉันก็ถึงกับหัวหมุนหนึ่งหมื่นบาท! ถึงโดนหันช
[ลิลิน]ตั้งแต่เช้า ฉันก็รู้สึกว่าระบบหญิงต้องมาแปลกอีกแน่ ๆ และก็ไม่ผิดเลย[ระบบหญิง] “ภารกิจใหม่ของวันนี้! ทำให้เขายิ้มออกเพราะเธอ! ถ้าสำเร็จ ได้เงิน 5,000! ถ้าทำไม่สำเร็จ โดนหัก 10,000! เอ้า จงใช้เสน่ห์ทั้งหมดที่มีแล้วออกไปทำให้เขาหลงให้ตายไปเล๊ย!”แม่เจ้า! หลงไม่ว่า แต่ขอแค่ไม่ให้ฉันล้มละลายก็พอฉันถอนหายใจยาวอย่างหมดแรงแล้วเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเดรสทำงานสีครีมเรียบ ๆ ขึ้นมาใส่ หวีผมให้เรียบ ลิปสติกสีชมพูอ่อนถูกทาแบบเร่งด่วนก่อนจะคว้าแฟ้มแล้วรีบออกจากห้องในใจคิดแผนสารพัด บางทีก็อยากใช้มุกตลก แต่ก็กลัวโดนไล่ออก หรือไม่ก็โดนเขม่นจากคนทั้งบริษัทแต่ก็ต้องเสี่ยงล่ะนะ!“บอสคะ นี่เอกสารประชุมเช้านี้ค่ะ”ฉันวางแฟ้มลงตรงหน้าเขาบนโต๊ะทำงาน เอนตัวพิงขอบโต๊ะอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วเอียงคอมองอีกฝ่ายเขายังนั่งนิ่ง มือพลิกเอกสาร สีหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึกเหมือนเดิม“วันนี้ท่าทางอารมณ์ดีนะคะ ฉันกล้าพนันว่าถ้าตอนนี้ฉันเดินกระโดดกบไปรอบโต๊ะ บอสคงไม่ขำออกหรอกใช่ไหมคะ?”เขาเงยหน้าขึ้นมองฉันแล้วเงียบไม่หัวเราะ ไม่ยิ้ม ไม่อะไรทั้งนั้น...เอาวะ รอบแรกไม่สำเร็จ รอบสองล่ะต้องสำเร็จแน่!ตอนสายระหว่างประชุ
[คิริน]เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่ผมกำลังตรวจเอกสารอยู่ในห้องทำงานส่วนตัว เสียงของธีร์ลอดเข้ามาทางปลายสาย น้ำเสียงนิ่งแต่แฝงด้วยความเร่งรีบที่ผิดปกติ“มีเหตุการณ์ยิงกันครับ บอดี้การ์ดของคุณท่านคนหนึ่งถูกซุ่มโจมตีกลางถนน โชคดีแค่บาดเจ็บไม่ถึงชีวิตครับ แต่ดูเหมือนจะเป็นการขู่มากกว่าจะฆ่าจริง”นิ้วผมหยุดอยู่ตรงกลางหน้ากระดาษ ดวงตาเย็นเฉียบขณะหลุบลง“ฝีมือใคร”“ยังไม่ชัดเจนครับ แต่ดูจากลักษณะ น่าจะเป็นฝีมือของพวกเฮกเตอร์”ผมเม้มปากแน่น ความรู้สึกเย็นเยียบไล่ลงไปถึงปลายนิ้วพวกเฮกเตอร์…มันกล้าเล่นกับตระกูลอคินธรักษ์ นี่มันเท่ากับท้าทายกันชัด ๆ“นัดคุณปู่ที่ห้องประชุมลับ ฉันจะคุยเอง”ภายในห้องประชุมชั้นบนสุดของตึก ‘อคินธรักษ์กรุ๊ป’ ไม่มีเสียงใดเล็ดลอดนอกจากเสียงของนาฬิกาเรือนเก่าที่แขวนไว้เหนือผนังไม้สักคุณปู่ของผมนั่งนิ่ง ใบหน้าสลักไว้ด้วยรอยย่นแห่งประสบการณ์ ดวงตาคมกริบไม่มีแม้เศษเสี้ยวของความตื่นกลัว“แกเห็นหรือยัง ว่าเส้นทางนี้มันไม่เคยสงบ และไอ้พวกนั้น มันก็ยังไม่เข็ด”“ผมจะจัดการเองครับ” ผมพูดเรียบ แต่เด็ดขาด“แกเอาให้เด็ดขาดนะคิริน อย่าให้มันได้หายใจ” คุณปู่กระแทกไม้เท้ากับพื้นเบา
[ลิลิน]ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันพุธที่เงียบสงบ ท่ามกลางเสียงนกร้องที่ลอดผ่านหน้าต่างห้องนอนมันผ่านมาหลายวันแล้วที่ฉันต้องมาอยู่ที่บ้านนี้ ถึงจะปั่นป่วนไปบ้างบางครั้งแต่ฉันก็ผ่านมาได้อย่างภาคภูมิ ฉันเริ่มชินกับกล้องวงจรปิดและสายตาแหลมคมของบอสแล้วเสียงในหัวดังขึ้นมาเบา ๆ[ระบบหญิง] “วันนี้เป็นวันพิเศษ งดภารกิจ และงดหักเงิน 1 วัน”[ระบบชาย] “อย่าคิดว่านี่คือรางวัล มันคือการจับตามอง”ฉันเบะปากใส่อากาศ ถอนใจเฮือกใหญ่“ในที่สุดก็ได้พักซักที”ฉันเดินลงมายังห้องครัว กลิ่นหอมของกาแฟลอยมาตามลมอ่อน ๆ พอเดินเข้าไปใกล้ ๆ ก็พบว่ามีแซนด์วิชวางอยู่บนโต๊ะ พร้อมโน้ตแผ่นเล็กเขียนไว้ด้วยลายมือเรียบร้อยว่า“กินซะ จะได้ไม่หิวระหว่างทำงาน - คิริน”ฉันยืนอึ้งไปพักใหญ่ สมองพยายามประมวลผล นี่เขาใส่ใจเรารึเปล่านะ?“บอส ทำแซนด์วิชให้ฉัน?” ฉันพูดกับตัวเองเบา ๆไม่สิ เขาอาจแค่บังเอิญทำไว้แล้วเหลือ หรือไม่ก็กลัวฉันทำครัวพังอีกเหมือนวันก่อน แต่พอคิดถึงรสชาติแย่ ๆ ที่เขายอมกลืนลงท้องไปได้ ฉันก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มบาง ๆ“คนแบบเขา มีมุมแบบนี้ด้วยเหรอเนี่ย”ฉันหยิบแซนด์วิชมานั่งกินเงียบ ๆ บนเก้าอี้ มองออกไปยังสวนหลัง