ใครมากดออดหน้าบ้าน น้องกานไปดูหน่อยลูก" "ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวกานไปดูเอง ไม่น่าจะเป็นคนที่รู้จักนะคะ กดกริ่งรัวๆ แบบนี้""นี่ตะวันอยู่ไหม ทำไมพี่โทรหาแล้วเขาไม่รับสายเลย เขาอยู่ที่นี่ไหม น้องกาน เปิดประตูให้พี่หน่อย" "สวัสดีค่ะพิ่กิ่งกาญณ์ มีธุระอะไรเหรอคะ พี่ตะวันไม่อยู่หรอกค่ะ ไปทำงานที่ใต้ หลายวันแล้วมีอะไรไหมคะ ฝากกานไว้ก็ได้นะคะ อีกหลายวันค่ะ กว่าพี่ตะวันจะกลับ" "ตะวันไปทำงานที่ไหนคะ มีที่อยู่ไหม จังหวัดอะไร แล้วนอกจากเบอร์เดิม ตะวันมีเบอร์อื่นอีกไหมคะ น้องกาน นี่น้องกานจะใจดำ ไม่ให้พี่เข้าไปสวัสดีคุณแม่เลยเหรอคะ พี่เหนื่อยแล้วก็ร้อนมาก ""ขอพี่เข้าไปไหว้คุณแม่หน่อยนะคะ แป๊ปเดียว ทำยังกับว่าบ้านนี้พี่ไม่เคยมางั้นแหละ""ไม่ต้องลำบากหรอกนะหนูกิ่งกาญณ์ พอดีพวกเราจะออกไปธุระข้างนอกกัน ไม่สะดวกเลยจ๊ะ""สวัสดีค่ะคุณแม่ แหม.....กิ่งมาผิดวันใช่ไหมคะ คุณแม่สบายดีนะคะ กิ่งคิดถึงทุกคนเลยนะคะ โดยเฉพาะตะวัน เขาคงงอนกิ่งนะคะ กิ่งโทรไปเข้าไม่รับสายกิ่งเลย ไม่เป็นไร วันหลังเดี๋ยวมาใหม่นะคะคุณแม่ น้องกาน" กิ่งกาญณ์จำต้องถอยกลับไปก่อน เอาเถอะไว้เธอติดต่อตะวันได้ เธอก็ต้องมาที่นี่อยู่วันยังค่ำ ทำไมเ
แม่ขา พี่ตะวันโทรมาแล้วค่ะ น่าจะถึงแล้ว เดี๋ยวกานออกไปเปิดประตูเองนะคะแม่ กานดารารีบวิ่งออกไปหน้าบ้้าน เพื่อเปิดประตูให้พี่ชายและปรายลดา เธอคิดถึงทั้งสองคนเลยสวัสดีค่ะพี่ตะวัน ไม่ได้เจอพี่ตะวัน หนึ่งเดือนเต็ม ๆ ดูมีความสุขมากเลยนะคะ หน้าตาอิ่มเอิบมาก อ้วนขึ้นไหมคะเนี้ย กานดาราทักทายพี่ชายของเธอ ทำไม ดูพี่อ้วนขึ้นเหรอน้องกาน ช่างสังเกตุนะเรานี่จริงอย่างที่น้องสาวเขาทัก เขาน้ำหนักขึ้นสามกิโล นั่งๆนอนๆ เฝ้าสาว คงเป็นเพราะสบายใจด้วยล่ะ ธรรมดาของคนมีความสุขไปๆช่วยพี่ขนของก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกันปรายเป็นไงบ้าง นี่คล้ำลงนะเนี้ย ใช่ไหม พี่ตะวันอ้วนขึ้น ปรายผอมลง สลับกัน คิดถึงเพื่อนจังเลย ไหนของฝาก กานดาราแหย่เพื่อนเล่นๆ กานเฝ้ารอของฝากจากทางใต้ นี่รอตั้งแต่เช้าแล้วรู้ไหม พี่ตะวันขับรถช้าหรือเปล่านะสบายดี กานก็เหมือนเดิมเลยนะ ของฝากอยู่ในกระเป๋า มีเพียบเลย ปรายไปเจอร้านผ้าฮาวายด้วย ได้มาฝากกานหลายชุดเลย พี่ตะวันไม่ได้ขับรถช้าหรอก เราแวะซื้อของกินบ่อย รถไม่เยอะด้วยแหละ เลยมาแบบสบายๆสองสาวรีบขนของเข้าบ้านก่อนเถอะครับ เดี๋ยวค่อยคุยกัน ตะวันบอกสองสาว เมื่อเห็นว่าทั้งคู่เริ่มที่จะคุยกันยาวสว
"กินน้ำเต้าหู้แล้วคิดถึงที่บ้านปรายเนาะ ที่เราออกไปช่วยลุงกับป้าขายน้ำเต้าหู้ กานว่าที่บ้านปรายอร่อยกว่าเยอะเลยนะ หรือเราชินทางโน้น กานว่าจะซื้อของไปฝากป้ากับลุงสักหน่อย แต่คิดไม่ออกว่าจะซื้ออะไรดี"" ปรายซื้อผ้าถุงมาฝากป้า กางเกงเลมาฝากลุง จริงๆ กานไม่ต้องซื้อหรอก หรือแล้วแต่กานล่ะกัน เผื่ออยากให้ ไว้เราค่อยหาดูพรุ่งนี้ก็ได้ หลังจากกลับจากโรงงาน""ทุกคนครับ เดี๋ยวภาษจะเข้ามานะครับ เขาเข้ามาธุระเรื่องกาแฟที่กรุงเทพฯ ผมเลยชวนเขามาพักบ้านเรา พอดีเลยจะได้กลับพร้อมกันวันมะรืน เราก็จะได้คืนรถภาษด้วย ดีเหมือนกันนะครับ แม่ ผมจะได้ดูแบบบ้านกับเขาเลย เดี๋ยวให้ภาษนอนห้องเดียวผมเลยล่ะกันนะครับ""แล้วพี่ภาษมารถอะไรคะพี่ตะวัน" ปรายลดาถามชายหนุ่ม"มากับเพื่อนครับ เขาเห็นว่าเราจะกลับบ้านกันวันมะรืนก็เลยจะกลับด้วย ผมรบกวนแม่เตรียมที่นอนให้ภาษด้วยนะครับ พวกชุดเครื่องนอน ผ้าเช็ดตัว" "เดี๋ยวกานไปเตรียมให้ก็ได้ค่ะ จะได้ไม่ลำบากแม่ขึ้นลง ปรายไปช่วยกานหน่อยนะ "สองสาวขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง เพื่อเตรียมที่นอนให้ประภาษ "เดี๋ยวเราไปเอาผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม หมอน ผ้าเช็ดตัวก่อนนะ ตู้เก็บผ้าอยู่ที่ห้องอีกห้
ปรายยังไงเนี้ย ตกลงเขาจะมาซื้อของหรือทักมาหาปรายเฉยๆ เอาดีๆ กานงงแล้วนะ วิเคราะห์จากคำพูดที่เขาพิมพ์มา กานว่าเขาไม่ได้มาซื้อของหรอก กานเข้าไปส่องไอจีเขาแล้ว เอฟซีเขาเพียบ สวยๆทั้งนั้น กานไม่เชื่อว่าเขาไม่มีคนคุย เขาไปกดถูกใจสาวๆเพียบเลย มีแต่คนสวยๆ แล้วปรายไปรู้จักเขาได้ยังไง ตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเป็นรุ่นพี่ของปราย เพิ่งจบไปปีที่ผ่านมา เรียนคณะเดียวกัน ตอนที่พี่เขาเรียนเขาก็เข้าวงการแล้ว เราทำกิจกรรมด้วยกัน พี่เขามีแฟนแล้ว ไม่นานก็เลิกกันไป เป็นผู้ชายที่เจ้าชู้มาก จีบดะ ยกเว้นปราย ปรายจะคุยแค่งาน จบเรื่องงานก็ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตอนที่ปรายขายของในเพท พี่เขาเข้ามาทัก กดถูกใจในไอจีเวลาเราลงรูป นี่ห่างไปนานนะ เพิ่งจะมากดถูกใจ ที่ปรายตื่นเต้นเพราะ เพื่อนพี่เขามาสั่งชุดฮาวายกับปราย นี่ไงดูซิ เขาออเดอร์มาหลายชุดมาก ไม่มีอะไรหรอก เขาแค่ทักมาบอกว่าเพื่อนเขาอยากดูรูปชุดฮาวาย เรายังไม่ได้ซักไง แต่ปรายได้เบอร์เพื่อนเขาแล้วนะ ต่อไปนี่ก็จะติดต่อกับเพื่อนเขา ไม่ต้องผ่านพี่ผู้ชายแล้ว สบายใจได้เลย ไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวพรุ่งนี้ปรายบอกพี่ตะวันเอง ปรายเห็นหน้าพี่ตะวันแล้วเมื่อกี้ รู้ว่าจะต้องทำยังไง นี่ถ้า
"แม่ครับ รถคันนี้นั่งสบายไหมครับ" ตะวันสังเกตว่า แม่ของเขานั่งเอนหลังท่าทางสบายมาก"สบายมากเลยลูก นิ่ง เสียงเงียบ เก้าอี้ใหญ่นั่งสบาย แม่ชอบ" นางดุจเดือนพูดตามที่ตัวเองรู้สึก"น้องกาน ชอบไหม" ตะวันมองผ่านกระจกถามน้องสาว ที่นั่งแถวหลังคนขับ สายตาเขาเลยไปหาคนที่นั่งข้างกานดาราด้วย ได้เห็นสักนิดก็ยังดี แค่นี้เขาก็พอใจแล้ว ได้อยู่ใกล้ๆ ได้เห็นหน้า"ชอบค่ะพี่ตะวัน กานชอบตั้งแต่นั่งไปใต้แล้วนะคะ คันใหญ่ นิ่งและนิ่มสบายดี กานยังคุยกับปรายเลยค่ะ ตอนที่เราไปใต้ว่าชอบรถคันนี้นอนสบาย""ถ้าทุกคนชอบ พี่ว่าจะซื้อไว้ใช้สักคัน พี่ก็ชอบใช้แล้วติดใจเลย ใหญ่ไปนิดแต่ ขับสบาย แถมประหยัดน้ำมันด้วย เวลาพาแม่เดินทาง จะได้นั่งสบายๆ ไม่เหนื่อยมาก""ถ้าคุณจะซื้อบอกผมนะ ผมจะพาไปดู เซลล์ที่ขายให้ผม บริการดีมาก" ประภาษบอกกับตะวัน"โอเคงั้น ไว้สักประมาณอาทิตย์หน้า เรามาดูด้วยกันนะ แม่กับน้องกานเลือกสีไว้ได้เลยนะครับ ผมคิดว่าไปนครนายกก่อน ไม่เกินอาทิตย์หน้า ผมจะขึ้นมาดูรถ ถ้ามีสีตามที่ต้องการ ก็จะตกลงซื้อเลย ""กานพี่เขาตอบมาแล้วนะ ปรายส่งผ้าลอตเก่าไปให้เขาดู ห้าสิบชุด รับไปสามสิบ ที่เหลือถ้าขายไม่ได้ เราก็เก็บไว้ใส
ตั้งแต่ปรายลดากลับจากใต้ ถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบหกเดือนแล้ว บ้านของตะวันสร้างเสร็จเรียบร้อยและย้ายเข้ามาอยู่แล้ว ตกลงว่าเขาสร้างบ้านสองหลัง หลังเล็กสร้างให้กานดารา เขาให้เหตุผลว่า เผื่อน้องสาวแต่งงานแล้วอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง เลยสร้างให้อีกหลัง ซึ่งประภาษก็เป็นคนออกแบบให้เหมือนเดิม นางดุจเดือนมีความสุขมาก ได้ทำอาหาร ได้ทำสวนครัว ได้ปลูกดอกไม้ ตอนนี้นางลุ้นอยู่อย่างเดียวคือ รอให้ตะวันแต่งงาน นางอยากเลี้ยงหลาน อยากอุ้มหลานนางไปทาบทามฝั่งของปรายลดาแล้ว แต่เห็นว่าปรายลดาขอเวลาอีกสักหน่อย นางเข้าใจในฐานะที่เป็นผู้หญิงด้วยกัน ปรายลดาเพิ่งจะเรียนจบ และรับปริญญาไป หญิงสาวอาจอยากอยู่กับตัวเอง อยากเป็นอิสระ ยังอยากอยู่คนเดียว ผู้หญิงเรื่องมีครอบครัวต้องคิดเยอะหน่อย แต่ลูกชายนางนี่ซิ ใจร้อน อยากแต่งเสียเร็วๆ บางทีผู้ชายก็ไม่เข้าใจผู้หญิง นางก็คอยบอกให้เขาใจเย็นๆ ต้องให้เวลาปรายลดาบ้าง“พ่อว่ายังไงล่ะ พี่ดุจเดือนเขาทาบทามน้องปรายให้พ่อตะวันแล้วนะคะ แม่ว่าพ่อตะวันเขาก็ดูดีทุกอย่างเลยนะ ทั้งฐานะ หน้าที่การ อายุ พร้อมทุกอย่าง สามารถจะดูแลลูกสาวเราได้ ไม่ลำบากหรอก” นางพูดไปเรื่อยๆ แต่หน้าตาก็มีความก
ปรายลดาตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ตะวันกับกานดาราเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เธอจะอาศัยช่วงเวลานี้ เอาตัวเองออกไปจากที่ตรงนี้สักพัก ไว้หัวใจเธอแข็งแรงดีแล้วเธอจะกลับมา พ่อกับแม่เธอไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ถ้าเธอหายไปท่านทั้งสองก็จะรู้ว่าเธอเป็นอะไร ครั้งนี้เธอเจ็บเหลือเกิน โธ่เอ้ยปรายลดา ริจะรักก็อกหักซ่ะแล้วหญิงสาวไม่เข้าใจเลย ทำไมกับการที่เธอขอเวลา เพื่ออยู่กับตัวเองสักพัก มันจะทำให้ความรักที่ตะวันรักเธอมันหมดไปเลยเหรอ ปากเขาก็บอกว่ารักเธอ รอเธอได้ จะไม่บังคับเธอ จะตามใจเธอทุกอย่าง จะรอวันที่เธอพร้อม ชีวิตนี้จะมีแต่เธอคนเดียว คำพูดเหล่านี้ เธอจำมาตลอด จำจนขึ้นใจ นึกโมโหตัวเองที่หลงเชื่อเขาง่ายๆ สุดท้ายก็เจ็บอยู่คนเดียวแต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับรอเธอไม่ได้ ในกรณีที่รอไม่ได้แล้วทำแต่งาน บ้างาน เธอจะไม่คิดอะไรเลย แต่นี่เขากลับกลายเป็นคนละคน เขาแอบมีคนอื่น ถามว่าทำไมเธอรู้ คนเราคบกันเป็นแฟน พออีกคนเปลี่ยนไป ใครบ้างจะไม่รู้ ที่เธอขอเวลา ใช่ว่าเธอจะมีคนอื่น เธอแค่อยากทำงาน อยากดูแลพ่อแม่ อยากสานต่อธุรกิจที่บ้าน เอาตรงๆ เธออยากตอบแทนบุญคุณพ่อและแม่บ้าง อยู่ๆ เรียนจบมาแล้วจะให้แต่งงานเลย เธอคิดมันไม่ใช่หญิงสาวใ
พ่อขา แม่ขา ปรายขอลาไปพักผ่อนสักพักนะคะ อาจสองปีสามปี หรือมากกกว่านั้น ปรายกลับมาแน่นอนค่ะ ปรายขอรถพ่อไปใช้คันหนึ่งนะคะ คันที่ไม่มีใครรู้ว่าบ้านเรามี ปรายขอโทษพ่อกับแม่นะคะ ที่ไม่เข้มแข็งพอ ยังไม่ได้ตอบแทบบุญคุณของพ่อกับแม่เลย ปรายอาจยังเด็ก เลยรับมือกับปัญหายังไม่ได้ พ่อกับแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินนะคะ ปรายพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง และเบอร์โทรนี้ ปรายจะยกเลิกนะคะ เดี๋ยวปรายจะติดต่อมาเองค่ะ ขณะที่แม่กับพ่ออ่านแชทนี้ ปรายก็งไปไกลมากแล้ว สุดท้ายนี้ปราย ขอให้พ่อกับแม่มีสุขภาพแข็งแรง รักพ่อกับแม่มากนะคะ อ่อ...พวกเครื่องประดับ ปรายไม่ได้เอามาด้วยนะคะ ยังอยู่ในเซฟครบทุกอย่าง รักพ่อกับแม่มากค่ะ ปรายลดา................นายอลงกต มองหน้าภรรยา หน้านิ่ง “จนได้นะหนูปราย แม่เห็นว่ายังไงล่ะ” เขาถามภรรยา“จะยังไงล่ะ ก็ต้องตามนั้น ก็รู้กันอยู่ นิสัยน้องปราย ถ้าไม่ที่สุดแล้ว ไม่เป็นแบบนี้หรอก แม่ไม่เป็นไรหรอกพ่อ ดีเสียอีก ลูกจะได้อยู่กับตัวเอง คิดทบทวน ปล่อยเขาไปสักพัก สบายใจดีแล้วคงติดต่อกลับมา ปกติเขาก็ไม่ค่อยได้อยู่กับเราอยู่แล้ว เราก็ให้อิสระลูกเต็มที่ แล้วแต่เขาแม่ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวเขาก็กลับมา เราสอง
หลังจากคู่ของประภาษไปฮันนีมูลที่ญี่ปุ่นกลับมา นางดุจเดือนก็ไปสู่ขอปรายลดาให้กับตะวัน จัดงานแบบเรียบง่าย ตามที่ทั้งสองต้องการ ตะวันย้ายมาอยู่ที่บ้านของปรายลดา เขายังคงดูแลบริษัทฯ โรงงาน เหมือนเดิม หลังแต่งงาน กิจการของเขาจะดีวันดีคืนส่วนปรายลดา ช่วยพ่อกับแม่ดูแลไร่ ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านกาแฟ ร้านขายผ้ามือสอง อย่างเต็มตัว ร้านของเธอเป็นรายใหญ่ ของภาคตะวันออก ให้นายอลงกต และนางกรกนกได้พักจริงๆ เสียที แต่นิสัยของทั้งพ่อและแม่ก็ยังคงขยันเหมือนเดิม ทำไปทำมา นางดุจเดือนและนางกรกนก ก็เปิดร้านขายอาหารจนได้ หญิงสูงวัยทั้งสองคนมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตส่วนประภาษก็ยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม ดูร้านกาแฟบ้าง ตะวันให้ประภาษเข้าไปช่วยงานบริหารในส่วนของงานบัญชี เพราะเห็นว่าทั้งประภาษและกานดารา เรียนบัญชีด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเขาเอง รับผิดชอบแค่ที่โรงงานเป็นหลักกานดารานอกจากจะช่วยงานสามีทำงานที่บริษัทฯ แล้ว ยังมีร้านที่ต้องทำร่วมกันกับปรายลดา และเปิดร้านกาแฟอีก 1 ร้าน เป็นสาขาที่สองวันนี้เป็นวันดี ทั้งสามครอบครัว เดินทางมามอบอาคารเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร มอบทุนกาศึกษ
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง เธอเห็นเขาหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เธอไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆตะวันลืมตา เขามองข้างๆ ตัว และหันมาตามเสียงของปรายลดา หน้าสดชื่นมาก ตาสุกใสเป็นประกาย เขานั่งมองมาจากบนเตียงนอน เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกลงกระเป๋า“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่ก็แต่งตัวเรียบร้อย“ขามาพี่มีเสื้อผ้ามาสองชุด ขากลับนี่คงเพิ่มหลายชุดแน่เลย เขาพูดเบาๆ” อย่างคนที่มีความสุข“น้องปราย ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะครับ ไม่เปลี่ยนเลย พี่ซะอีกโรคนอนไม่หลับกลับมาอีกแล้ว ““ไม่เป็นไรค่ะ กลับบ้
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง คนข้างๆ เธอหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น ไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ค่อยๆ ย่องลงมาเก็บของใช้จุกจิกใส่กระเป๋า พยายามทำทุกอย่างให้เบามือที่สุด ทักเขาเมื่อเห็นว่าขยับตัวตะวันรู้สึกตัวลืมตาตื่น งงว่าตัวเองอยู่ในความฝันหรือความจริง จำได้ว่าปรายลดานอนอยู่ข้างๆ นี่นา ลองมองด้านข้างปรายลดาหายไป ชายหนุ่มรีบลุก เขาหลับรวดเดียวไม่รู้สึกตัวเลย รีบลุกขึ้นมองไปทางเสียง เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกเตรียมใส่กระเป๋า หน้าตาสดใสและสดชื่นมาก ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เป็นเสียงของปรายลดาจริงๆ“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปใน
วันนี้ปรายลดาปิดงานเสร็จเรียบร้อย อีก 2 วัน หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับบ้าน จ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ยังมีเวลา เหมือนเดิม เธอรีบไปที่ร้านผ้า เพื่อคัดผ้าที่เหลืออีกสักหน่อย และให้ร้านแพคส่งกลับที่ประเทศไทย หญิงสาวได้หนังสือดีๆ อีกมากมาย เจอค่าส่งก็เกือบถอดใจ แต่มันเป็นหนังสือที่หายาก และเธอก็รักมันมากสมัยเรียนมัธยม ปรายลดามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร เพราะนานมาก เนื้อเรื่องพระเอกเป็นเจ้าผู้ครองนคร นางเอกเป็นหมอ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทย นางเอกเจอพระเอกที่เมืองไทย เขาพาภรรยามารักษาตัว แต่ภรรยาเสียชีวิต นางเอกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นองค์รักษ์ เนื้อเรื่องอ่านแล้วประทับใจมาก เธอเสียดายมาก พยายามหาก็ยังไงก็หาไม่เจอ แต่คิดไว้แล้วว่า จะต้องหาซื้อมือสองมาเก็บไว้อีก ก็ยังไม่มีโอกาสสักที กลับบ้านครั้งนี้แหละ จะต้องหามาเก็บไว้ในชั้นหนังสือให้ได้ที่ร้านผ้ามือสอง ระหว่างที่คัดผ้า ใจก็คิดถึงคราวที่ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย ตะวันเป็นรักแรกของเธอ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาทำผิด จะด้วยอะไรก็ตาม ประชด เอาแต่ใจตัวเอง คนอายุเท่าเขา มีตำแห
“อ่ะ.....อะไรเธอ” ปรายลดาเข้าไปเม้นในไอจีของ กานดารา รูปที่ลงล่าสุด นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนเพชรวงกำลังดี สวยงามมาก แค่นั้นหญิงสาวก็ทำงานต่อปรายลดาแปลเอกสารต่อ เธอชอบงานนี้รองลงมาจากงานขายของ เกาะแห่งนี้เงียบสงบมากๆ เหมาะกับงานที่เธอทำ เธอคิดว่าเสร็จจากงานนี้แล้วจะเดินทางกลับบ้านเกือบสามเดือนหลังจากที่กานกับก้อยกลับไปแล้ว ปรายลดาก็อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เที่ยวคนเดียว ที่มาเลย์นี่ผ้าเยอะมาก เสร็จจากงานแปลเอกสาร เธอก็ไปหาคัดผ้า ได้พอสมควรก็ทยอยส่งกลับไทย“ว่าไงเธอ มีอะไรจะบอกฉันไหม” ปรายลดารับสายเมื่อกานดาราโทรไลน์หาเธอ“ก็อยากที่ปรายเห็นนั่นแหละ” กานดาราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุขมาก“นี่อย่าบอกนะว่าหมั้นกับพี่ภาษ” ปรายลดาส่งเสียงดีใจถามเพื่อนสาว“ใช่ ปรายเข้าใจไม่ผิด เมื่อวานนี่เอง กานไม่อยากรบกวนปราย อยากให้ปรายเร่งงานให้เสร็จจะได้กลับบ้านทีเดียวเลย ไม่ต้องมางานหมั้น มาตอนแต่งเลยดีกว่า งานหมั้นเล็กๆ มีแค่พวกเรา ไม่ได้บอกใคร เดี๋ยวได้ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่ กานจะส่งข่าวนะปราย”“โห....เสียดายอ่ะ แต่ทำไงได้ ฉันเลือกเอง ไม่เป็นไรหรอก งานใกล้เสร็จแล้ว งานแต่งกานปรายได้ไปแน่ๆ รับรองไม่พลา
“พ่อครับ แม่ครับ ไปบ้านคุณป้าดุจเดือนอีกรอบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ผมเกริ่นๆ กับตะวันไว้แล้ว เหลือแต่ไปคุยกับคุณป้า ให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ” ประภาษ เอ่ยกับนายเกริกและนางยุรี“เฮ้อ....พ่อกับแม่ก็รอวันนี้มานานแล้ว คุยกับหนูกานดีแล้วใช่ไหมภาษ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไปแล้วหน้าแตกกลับมานะ” นายเกริกหันมาพูดกับลูกชาย“ไม่หรอกครับพ่อ ผมคุยกับน้องกานแล้วครับ จริงๆ ว่าจะรอให้น้องปรายกลับมาก่อน ป่านนี้ยังไม่มาเลย ผมไม่รอแล้วครับ แรกๆ น้องกานห่วงคุณป้าดุจเดือน กลัวว่าแต่งงานแล้ว จะไม่มีคนดูแล แต่ตะวัน รับปากและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าน้องกานมาอยู่บ้านเรา เขาจะดูแลคุณป้าดุจเดือนเอง”“ส่วนผมแล้วแต่น้องกานเลยว่าแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านเรา หรืออยู่บ้านเขา น้องกานอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้หมด หรือพ่อกับแม่ว่าไงครับ”“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เห็นใจบ้านโน้นเขาเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวตะวันเขาแต่งกันหนูปราย ก็ต้องไปอยูบ้านหนูปรายใช่ไหม พ่อกับแม่น้องปราย ก็ไม่มีใคร ทางนี้ พ่อกับแม่ก็มีน้องตั้งสองคน ภาษไม่ต้องห่วงหรอกลูก เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาหรอก ใช่ไหมพ่อ” นางยุรีหันไปหาสามี“พ่อก็ไม่มีปัญหา
ที่ตรอกเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ถ้าเป็นคนต่างถิ่นมา จะไม่รู้เลยว่า อาคารที่เรียงรายกันสองฝั่ง นี่คือโกดังผ้ามือสอง ที่มีผ้าเยอะมากๆ มันเป็นที่ๆ ปรายลดาคุ้นเคยอีกที่หนึ่ง เวลาที่ได้คัดผ้า มันเหมือนกับเธอได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง อาจจะดูเวอร์เกินไป ถ้าจะไปเล่าให้คนอื่นฟัง ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ก็เหมือนคนเรา ชอบอะไรบางอย่างนั่นแหละ ชอบอ่านหนังสือ เวลาอ่านหนังสือก็จะอยู่แต่กับหนังสือ ไม่สนใจใคร คนเล่นเกมส์ก็จะมีความสุขกับการเล่นเกมส์ คนที่ชอบเย็บปักถักร้อย เวลาถักก็จะมีความสุข เพลิดเพลินกับสิ่งที่กำลังทำ“ของทั้งหมดนี้เราจะขนกลับไปยังไงอ่ะปราย ในเมื่อเราต้องไปเบตง และเราจะไปยังไง ขับรถไปเองหรือยังไง ก้อยยังคิดไม่ออกเลย”“จริงด้วย กานว่าจะถามหลายวันแล้ว แต่ไม่ได้ถามสักที” กานดาราเอ่ยขึ้นบ้างผ้านี่ปรายจะให้ร้านส่งไปที่บ้าน บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว เราจะเช่ารถตู้ไปเบตง เพราะเราคงขับกันเองไม่ไหว ไม่ชำนาญทาง ขากลับปรายจะให้ก้อยกับกาน ขึ้นเครื่องกลับ ส่วนรถคันนี้ปรายจะฝากไว้ที่ปัตตานี ปรายมีเพื่อนที่นั่น ฝากได้ จนกว่าปรายจะกลับบ้าน เราจะเช่ารถตู้จากปัตตานีไปเบตงกันนะสาวๆ ค้างที่ปัตตานี เที่ยวในเมือง ที่ปัตต
เช้านี้ที่บ้านไร่ ทุกคนรวมตัวกันที่ลานจอดรถหน้าบ้านปรายลดา“น้องปราย น้องก้อย ป้าฝากน้องกานด้วยนะลูก น้องกานอย่าลืมโทรบอกพี่เขาด้วยนะ เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” นางดุจเดือนบอกลูกสาว นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวนางเดินทางท่องเที่ยว โดยที่ไม่มีแม่และพี่ชายไปด้วย นางเชื่อมั่นในตัวกานดารา ตั้งแต่ลูกสาวนางรู้จักคบหากับปรายลดา ลูกสาวนางเข้มแข็ง และแข็งแรงมาก เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยเอาจริงนางก็ห่วง แต่ไม่ห่วงมาก เพราะมีน้องปราย น้องก้อยไปด้วย เด็กทั้งสองคนไว้ใจได้“เดี๋ยวปรายขับเองนะ ไว้ถึงประจวบค่อยให้กานขับ ทางตรงไม่ใช่หน้าเทศกาล กานขับได้อยู่แล้ว ถึงชุมพรค่อยให้ก้อยขับ ดีไหมทุกคน”ปรายลดาถามเพื่อนทั้งสองคน“ได้เลย ก้อยไม่มีปัญหา ถ้าปรายเหนื่อยตอนไหน ก้อยเปลี่ยนก็ได้ สบายมาก”“กานก็ไม่มีปัญหาเลย ตกลงตามนี้นะ “สามสาวออกเดินทางจากนครนายก นางดุจเดือน และนางกรกนก เตรียมอาหาร ให้สามสาวเต็มที่ มีแต่ขอชอบ งของทุกคนทั้งนั้น รถจิ๊ปของปรายลดาคันใหญ่ จุของได้เยอะมากปรายลดาใส่ชุดฮาวายสีเหลืองสด ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ชุดที่เธอใส่ไม่ได้เข้ากับรถที่ขับเลย แต่เธอไม่ได้สนใจเพราะชอบ เธอชอบใส่เดรสหลวมๆ มากกว่าใส่กางเ
“น้องปราย จะไปนานไหมลูก” นายอลงกตถามลูกสาว ขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกอยู่ในห้องพัก“ปรายว่าจะค่อยๆ เดินทางไปเรื่อยๆ ค่ะพ่อ แต่จะพักที่หาดใหญ่หลายวันหน่อย เพราะว่าปรายกับกานคุยกันว่าจะคัดผ้าค่ะ หลังจากนั้นจะไปต่อที่เบตง คิดว่าจะข้ามไปฝั่งมาเลย์ และปรายจะอยู่ที่นั่นสักพัก ส่วนก้อยกับกาน จะกลับมาก่อนค่ะ”“แล้วมีที่อยู่เหรอ ไว้ใจได้ไหมลูก” นางกรกนกลูบหัวลูกสาวด้วยความรักหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง หลังจากที่นอนตักมารดามาสักพัก“ปรายมีเพื่อนอยู่ที่นั่นค่ะแม่ เรียนรุ่นเดียวกัน ค้าขายอยู่ทางโน้น เขาแต่งงานได้สามีเป็นคนมาเลย์ค่ะ ปรายเคยไปเที่ยวสมัยเรียน แถบที่เขาอยู่ค้าขายได้สบายเลยค่ะแม่"“พ่อกับแม่ขอให้ลูกเดินทางปลอดภัย ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำนะลูก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามพ่อกับแม่ก็ยังรอลูกกลับบ้านเสมอ พ่อกับแม่จะปล่อยให้ลูกไปทำในสิ่งที่อยากทำ”“แล้วเรื่องพ่อตะวันล่ะลูก น้องปรายพูดให้แม่ฟังหน่อยซิ จะเอายังไงต่อไป เพราะแม่ดูแล้วว่าพ่อตะวันเขาก็คงไม่ปล่อยเราแน่ๆ โกรธและเกลียดเขามากเหรอลูก ถ้าน้องปรายรักพี่เขา เราก็ต้องปล่อยวางบ้างนะ ให้อภัยได้ก็ให้อภัยเขา แม่รู้ว่าน้องปรายไม่ชอบคนที่ไม่มีเหตุผล และคนที่เห็น