ฮัลโหล...ปราย พี่ปราณเองนะ เป็นยังไงบ้าง สอบเสร็จรึยัง เมื่อไหร่กลับบ้าน คุยกับพ่อแม่เรื่องหอพักรึยัง
สบายดีค่ะพี่ปราณ แหม…มาเป็นชุดเลยนะคะ ปรายกำลังสอบค่ะ คิดว่าสอบเสร็จแล้วก็จะขนของบางส่วนกลับบ้านเลย ปรายคิดว่าปรายจะอยู่ที่เดิมค่ะพี่ปราณ ไม่อยากย้าย ขี้เกียจ และจะไม่ไปอยู่บ้านคุณป้าดุจเดือนด้วย อยู่ที่เดิมก็สะดวกดี เพราะอีกไม่นานปรายก็จะฝึกงานแล้ว อดทนเอาอีกนิด กลับไปบ้านครั้งนี้จะไปคุยกับพ่อแม่เรื่องหอพักค่ะ
พี่ปราณช่วยปรายด้วยนะคะ ปรายขี้เกียจย้ายของ และบ้านป้าดุจเดือนก็ไกลจากมหาวิทยาลัยปรายมากด้วย เดินทางลำบากกว่าเดิม มันไม่อิสระเหมือนอยู่หอเดิมเรานะคะพี่ปราณ ปรายก็งง กับพ่อแม่ พี่ปราณกับปรายอยู่มาตั้งนานไม่เห็นเคยว่าอะไร ปรายก็ไม่ใช่คนเกเร อยู่ๆ นึกอยากให้ไปอยู่กับคนอื่น ทั้งๆ ที่เราก็ไม่ได้คุ้นเคยกับเขา แล้วปรายก็ไปเห็นบ้านเขามาแล้วนะคะ ปรายไม่อยากไปอยู่
อีกหน่อยปรายก็ต้องไปฝึกงานตั้งหลายเดือน ไม่อยากเอาข้าวของเครื่องใช้ไปทิ้งไว้บ้านเขา อยู่หอนี่ปรายจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ได้ สะดวกสบายทุกอย่าง นะคะพี่ปราณ ช่วยพูดให้พ่อกับแม่ยอมให้ปรายอยู่ที่หอพักนี้เหมือนเดิมทีนะคะ หญิงสาวอ้อนพี่สาวสุดฤทธิ์
ว่าแต่ว่าเมื่อไหร่พี่ปราณจะกลับบ้านคะ หรือต้องรอโรงเรียนปิดเทอม ใกล้ได้ฤกษ์หรือยัง นี่ปรายตื่นเต้นมากเลยนะเนี้ย อยากให้พี่ปราณแต่งเร็ว ๆ ปรายจะได้มีหลานไว้หยอก อยากเห็นหน้าหลานแล้ว พี่ธานินทร์สบายดีไหมคะ อยู่ทางโน้นเป็นยังไงบ้าง สะดวกสบายเหมือนบ้านเราไหม ปรายคิดถึงเสมอนะคะพี่ปราณ ไว้ถ้าปรายว่างเมื่อไหร่ ปรายจะไปหาพี่ปราณ รอเรียนจบก่อนนะคะ จะเที่ยวให้ชุ่มปอดชุ่มใจเลย
เอาล่ะๆ พี่รับปากว่าจะพูดกับพ่อแม่ให้ แต่พี่ก็ไม่รู้นะว่าจะสำเร็จไหม พี่สบายดีพี่ชอบที่นี่มาก พี่ธานินทร์ก็สบายดีจ๊ะ งานเขาเยอะมาก เรื่องฤกษ์แต่งงานต้องรอให้สะดวกหลายอย่าง ปรายก็ดูแลตัวเองให้ดีนะ ไปไหนมาไหนก็ระมัดระวัง ขับรถขับรา เห็นว่าเอารถมาใช้ใช่ไหม เดี๋ยวนี้คนยิ่งไว้ใจไม่ค่อยได้ พี่เป็นห่วง เรื่องอื่นไม่เท่าไหร่พี่ไว้ใจปราย ห่วงแต่เรื่องความปลอดภัยนี่แหละ เอาเป็นว่าเดี๋ยวพี่ช่วยพูดกับพ่อแม่ให้นะ วันนี้ แค่นี้ก่อน พี่จะตรวจการบ้านเด็กต่อ
ขอบคุณมากค่ะพี่ปราณ ปรายรอฟังข่าวดีนะคะ หญิงสาววางสายจากพี่สาว เธอมีความหวังจริงๆ ว่าจะได้อยู่หอเดิม มันต้องเป็นหอเดิมเท่านั้น เพราะว่าเธอจะอยู่หอเดิม จะไม่ย้้ายไปที่ไหนเด็ดขาด
หลังจากที่สอบเสร็จวิชาสุดท้าย หญิงสาวกลับถึงหอพัก หยิบโทรศัพท์โทรหากานดาราทันที
ฮัลโหล...กานเหรอ ปรายเองว่างไหม?
ว่างๆ ว่าไง ปราย โธ่....นี่กานตั้งตารอเลยนะ โคตรดีใจที่ปรายโทรมา ว่าไง?
นี่กานดีใจกับฉันหน่อย สอบเสร็จแล้ว โคตรดีใจ วันมะรืนปรายจะกลับบ้านแล้วนะ พรุ่งนี้ปรายเก็บของมีบางอย่างที่ต้องขนไปไว้บ้าน ปรายจะเดินทางวันมะรืน ที่บอกว่าคุณป้าจะไปเยี่ยมพ่อกับแม่ฉัน ท่านยังไปอยู่ไหม? แล้วถ้าจะคุยเรื่องนี้ ปรายจะต้องคุยบอกใคร คุณป้าหรือคุณพี่ แต่เอาจริงๆ นะ ปรายอยากให้กานได้ไปเที่ยวด้วยกัน ถ้าคุณป้ากับคุณพี่กาน ไม่ไป เธอไปกับฉันไหม?
แป๊ปนะปราย กานดาราหันมาหาแม่และพี่ชาย ทุกคนได้ยินเพราะเธอเปิดลำโพง
นางดุจเดือนทำสัญญาณว่าให้คุยกับลูกชายของเธอ
ให้เขาโทรหาพี่ เดี๋ยวพี่คุยเอง ชายหนุ่มพูดขึ้นหลังจากนางดุจเดือนส่งสัญญาณให้
ปรายเธอโทรหาพี่ตะวันเลย เอาเบอร์นี่ไป กานดาราบอกเบอร์พี่ชายไป
ได้ๆ เธอก็รีบเตรียมเสื้อผ้านะ ไม่ต้องเอาไปเยอะ เพราะของฉันเยอะมากใส่ด้วยกันได้ เราหุ่นใกล้เคียงกัน แต่ว่าฉันไปอยู่ 15 วันนะกาน เธออยู่ได้ไหม จริงๆ ฉันอยากให้อยู่ พักผ่อนยาวๆ บ้านปรายฟรีทุกอย่าง ถ้ากานไป ปรายจะได้ไม่ต้องไปหาเพื่อน พ่อกับแม่ชอบบ่น เวลากลับบ้าน ปรายไม่ค่อยอยู่ เอาล่ะๆ แคนี้ก่อนนะ เดี๋ยวปรายโทรหาพี่ชายกานก่อน แต่...มีแต่นะ อย่าหวังอะไรให้มาก มันอาจไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ จริงๆ ปรายควรไปหาทุกคนที่บ้าน แต่...ปรายจะลองโทรก่อน เคร...แค่นี้นะ เราจะโชคดี
กานดาราวางสาย หันมามองผู้เป็นแม่และพี่ชายตาแป๋ว ตั้งแต่เจอกับปรายลดา เธอก็คุยโทรศัพท์บ่อยขึ้น แต่ต้องเปิดลำโพง เพราะพี่ชายเธอสั่งไว้ ห้ามมีความลับ เอาเถอะมันไม่มีอะไรอยู่แล้ว เรื่องที่คุยกับปรายก็ไม่ได้มีเรื่องปิดบังอะไร ติดอยู่แค่ทางโน้นไม่รู้ว่าเวลาคุยกับเธอ แม่ และพี่ชาย ได้ยินหมด
เฮ้อ...น่าสงสารจริงกานเอ้ย มีพี่ชายเข้มงวดกว่าแม่ สงสัยจริงๆ ว่าอยู่ได้ยังไง คอยดูเถอะกลับบ้านครั้งนี้เธอจะพากานดาราเที่ยวให้จุใจ แต่จะพูดยังไงกับคุณพี่ชายลูกป้าดุจเดือนดี ถ้าสมมุตว่าคุณป้าและคุณพี่ชาย ยังไม่สะดวกไปเวลานี้ ทำยังไงทั้งสองถึงจะยอมให้กานดาราไปเที่ยวบ้านเธอ
แต่ว่าจะเริ่มยังไงดีนี่แหละปัญหา ดูไม่ออกเลยว่าคุณพี่เขาคิดอะไรอยู่ หน้านิ่งเคร่งขรึมตลอดเวลา เป็นไงเป็นกัน ไม่ลองก็ไม่รู้ หลังจากคิดทบทวนดู หญิงสาวคิดว่าควรที่จะไปหาทุกคนที่บ้านเขาดีกว่า เธอเป็นเด็กคุยทางโทรศัพท์ดูไม่ดีแน่ๆ
ปรายลดาเริ่มเก็บของบางส่วน เตรียมไว้ พวกหนังสือนี่ไม่ได้ใช้แล้ว ต้องเก็บกลับบ้านให้หมด สินค้าที่เธอขายก็เหลือไม่มาก หลังๆ มาเธอสต็อกไม่เยอะ แต่เสื้อผ้านี่ซิ ชุดฮาวายทั้งหลายแหล่ของเธอ มันเยอะเสียเหลือเกิน พอคิดว่าจะต้องย้ายของกลับบ้าน เธอก็รู้สึกใจหวิวๆ เหมือนกัน ห้องนี้เธอมาอาศัยอยู่ตั้งแต่เรียนปี 1 มีความผูกพันธ์มาก แต่จะให้เธออยู่ตลอดก็คงไม่ได้ เธออยู่ช่วงเรียนจริง แต่จะให้อยู่ต่อก็ไม่เอาดีกว่า ถ้าเธอสอบบรรจุในสายงานที่เรียนมาไม่ได้ เธอก็ไม่อยู่ กลับบ้านช่วยที่บ้านดีกว่า เอาจริงๆ พ่อกับแม่ก็ไม่ได้เร่งรัดพัฒนาอะไรเธอมากหรอก ให้อิสระกับเธอทุกอย่าง พ่อขาแม่ขา ปรายขอเวลาอีกสักหน่อยเถอะ เรียนจบแล้วก็ค่อยว่ากัน โปรเจคมากมายอยู่ในหัวของเธอ อยากทำโน้นนี่นั่น ไปหมดทุกอย่าง เอาล่ะปราย ตั้งใจเก็บของให้เสร็จก่อน ยากตรงขนลงไปใส่รถนี่แหละ หนังสือเธอเยอะเหลือเกิน
หลังจากคู่ของประภาษไปฮันนีมูลที่ญี่ปุ่นกลับมา นางดุจเดือนก็ไปสู่ขอปรายลดาให้กับตะวัน จัดงานแบบเรียบง่าย ตามที่ทั้งสองต้องการ ตะวันย้ายมาอยู่ที่บ้านของปรายลดา เขายังคงดูแลบริษัทฯ โรงงาน เหมือนเดิม หลังแต่งงาน กิจการของเขาจะดีวันดีคืนส่วนปรายลดา ช่วยพ่อกับแม่ดูแลไร่ ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านกาแฟ ร้านขายผ้ามือสอง อย่างเต็มตัว ร้านของเธอเป็นรายใหญ่ ของภาคตะวันออก ให้นายอลงกต และนางกรกนกได้พักจริงๆ เสียที แต่นิสัยของทั้งพ่อและแม่ก็ยังคงขยันเหมือนเดิม ทำไปทำมา นางดุจเดือนและนางกรกนก ก็เปิดร้านขายอาหารจนได้ หญิงสูงวัยทั้งสองคนมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตส่วนประภาษก็ยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม ดูร้านกาแฟบ้าง ตะวันให้ประภาษเข้าไปช่วยงานบริหารในส่วนของงานบัญชี เพราะเห็นว่าทั้งประภาษและกานดารา เรียนบัญชีด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเขาเอง รับผิดชอบแค่ที่โรงงานเป็นหลักกานดารานอกจากจะช่วยงานสามีทำงานที่บริษัทฯ แล้ว ยังมีร้านที่ต้องทำร่วมกันกับปรายลดา และเปิดร้านกาแฟอีก 1 ร้าน เป็นสาขาที่สองวันนี้เป็นวันดี ทั้งสามครอบครัว เดินทางมามอบอาคารเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร มอบทุนกาศึกษ
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง เธอเห็นเขาหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เธอไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆตะวันลืมตา เขามองข้างๆ ตัว และหันมาตามเสียงของปรายลดา หน้าสดชื่นมาก ตาสุกใสเป็นประกาย เขานั่งมองมาจากบนเตียงนอน เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกลงกระเป๋า“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่ก็แต่งตัวเรียบร้อย“ขามาพี่มีเสื้อผ้ามาสองชุด ขากลับนี่คงเพิ่มหลายชุดแน่เลย เขาพูดเบาๆ” อย่างคนที่มีความสุข“น้องปราย ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะครับ ไม่เปลี่ยนเลย พี่ซะอีกโรคนอนไม่หลับกลับมาอีกแล้ว ““ไม่เป็นไรค่ะ กลับบ้
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง คนข้างๆ เธอหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น ไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ค่อยๆ ย่องลงมาเก็บของใช้จุกจิกใส่กระเป๋า พยายามทำทุกอย่างให้เบามือที่สุด ทักเขาเมื่อเห็นว่าขยับตัวตะวันรู้สึกตัวลืมตาตื่น งงว่าตัวเองอยู่ในความฝันหรือความจริง จำได้ว่าปรายลดานอนอยู่ข้างๆ นี่นา ลองมองด้านข้างปรายลดาหายไป ชายหนุ่มรีบลุก เขาหลับรวดเดียวไม่รู้สึกตัวเลย รีบลุกขึ้นมองไปทางเสียง เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกเตรียมใส่กระเป๋า หน้าตาสดใสและสดชื่นมาก ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เป็นเสียงของปรายลดาจริงๆ“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปใน
วันนี้ปรายลดาปิดงานเสร็จเรียบร้อย อีก 2 วัน หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับบ้าน จ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ยังมีเวลา เหมือนเดิม เธอรีบไปที่ร้านผ้า เพื่อคัดผ้าที่เหลืออีกสักหน่อย และให้ร้านแพคส่งกลับที่ประเทศไทย หญิงสาวได้หนังสือดีๆ อีกมากมาย เจอค่าส่งก็เกือบถอดใจ แต่มันเป็นหนังสือที่หายาก และเธอก็รักมันมากสมัยเรียนมัธยม ปรายลดามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร เพราะนานมาก เนื้อเรื่องพระเอกเป็นเจ้าผู้ครองนคร นางเอกเป็นหมอ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทย นางเอกเจอพระเอกที่เมืองไทย เขาพาภรรยามารักษาตัว แต่ภรรยาเสียชีวิต นางเอกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นองค์รักษ์ เนื้อเรื่องอ่านแล้วประทับใจมาก เธอเสียดายมาก พยายามหาก็ยังไงก็หาไม่เจอ แต่คิดไว้แล้วว่า จะต้องหาซื้อมือสองมาเก็บไว้อีก ก็ยังไม่มีโอกาสสักที กลับบ้านครั้งนี้แหละ จะต้องหามาเก็บไว้ในชั้นหนังสือให้ได้ที่ร้านผ้ามือสอง ระหว่างที่คัดผ้า ใจก็คิดถึงคราวที่ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย ตะวันเป็นรักแรกของเธอ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาทำผิด จะด้วยอะไรก็ตาม ประชด เอาแต่ใจตัวเอง คนอายุเท่าเขา มีตำแห
“อ่ะ.....อะไรเธอ” ปรายลดาเข้าไปเม้นในไอจีของ กานดารา รูปที่ลงล่าสุด นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนเพชรวงกำลังดี สวยงามมาก แค่นั้นหญิงสาวก็ทำงานต่อปรายลดาแปลเอกสารต่อ เธอชอบงานนี้รองลงมาจากงานขายของ เกาะแห่งนี้เงียบสงบมากๆ เหมาะกับงานที่เธอทำ เธอคิดว่าเสร็จจากงานนี้แล้วจะเดินทางกลับบ้านเกือบสามเดือนหลังจากที่กานกับก้อยกลับไปแล้ว ปรายลดาก็อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เที่ยวคนเดียว ที่มาเลย์นี่ผ้าเยอะมาก เสร็จจากงานแปลเอกสาร เธอก็ไปหาคัดผ้า ได้พอสมควรก็ทยอยส่งกลับไทย“ว่าไงเธอ มีอะไรจะบอกฉันไหม” ปรายลดารับสายเมื่อกานดาราโทรไลน์หาเธอ“ก็อยากที่ปรายเห็นนั่นแหละ” กานดาราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุขมาก“นี่อย่าบอกนะว่าหมั้นกับพี่ภาษ” ปรายลดาส่งเสียงดีใจถามเพื่อนสาว“ใช่ ปรายเข้าใจไม่ผิด เมื่อวานนี่เอง กานไม่อยากรบกวนปราย อยากให้ปรายเร่งงานให้เสร็จจะได้กลับบ้านทีเดียวเลย ไม่ต้องมางานหมั้น มาตอนแต่งเลยดีกว่า งานหมั้นเล็กๆ มีแค่พวกเรา ไม่ได้บอกใคร เดี๋ยวได้ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่ กานจะส่งข่าวนะปราย”“โห....เสียดายอ่ะ แต่ทำไงได้ ฉันเลือกเอง ไม่เป็นไรหรอก งานใกล้เสร็จแล้ว งานแต่งกานปรายได้ไปแน่ๆ รับรองไม่พลา
“พ่อครับ แม่ครับ ไปบ้านคุณป้าดุจเดือนอีกรอบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ผมเกริ่นๆ กับตะวันไว้แล้ว เหลือแต่ไปคุยกับคุณป้า ให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ” ประภาษ เอ่ยกับนายเกริกและนางยุรี“เฮ้อ....พ่อกับแม่ก็รอวันนี้มานานแล้ว คุยกับหนูกานดีแล้วใช่ไหมภาษ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไปแล้วหน้าแตกกลับมานะ” นายเกริกหันมาพูดกับลูกชาย“ไม่หรอกครับพ่อ ผมคุยกับน้องกานแล้วครับ จริงๆ ว่าจะรอให้น้องปรายกลับมาก่อน ป่านนี้ยังไม่มาเลย ผมไม่รอแล้วครับ แรกๆ น้องกานห่วงคุณป้าดุจเดือน กลัวว่าแต่งงานแล้ว จะไม่มีคนดูแล แต่ตะวัน รับปากและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าน้องกานมาอยู่บ้านเรา เขาจะดูแลคุณป้าดุจเดือนเอง”“ส่วนผมแล้วแต่น้องกานเลยว่าแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านเรา หรืออยู่บ้านเขา น้องกานอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้หมด หรือพ่อกับแม่ว่าไงครับ”“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เห็นใจบ้านโน้นเขาเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวตะวันเขาแต่งกันหนูปราย ก็ต้องไปอยูบ้านหนูปรายใช่ไหม พ่อกับแม่น้องปราย ก็ไม่มีใคร ทางนี้ พ่อกับแม่ก็มีน้องตั้งสองคน ภาษไม่ต้องห่วงหรอกลูก เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาหรอก ใช่ไหมพ่อ” นางยุรีหันไปหาสามี“พ่อก็ไม่มีปัญหา