เช้านี้เวลาเจ็ดโมงกว่าๆ ที่โต๊ะอาหารบ้าน ว่องไววิทย์ ทุกคนทานอาหารกันพร้อมหน้า
น้องกาน สอบเสร็จแล้วใช่ไหม เป็นยังไงบ้าง คิดว่าผ่านฉลุยไหม
สบายค่ะพี่ตะวัน เทอมนี้สบายมากเลย เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง มาจ่อรออยู่แล้วค่ะ กานดาราตอบพี่ชาย และยิ้มอย่างมีความสุข เธอทำได้แล้ว หญิงสาวมั่นใจในตัวเอง เรื่องเรียนเธอไม่เคยทำให้ที่บ้านผิดหวัง
พี่ดีใจด้วยนะ แล้วเรื่องฝึกงาน ได้ติดต่อไว้บ้างหรือยัง หรือจะฝึกที่บริษัทฯ เรา
คะ....พี่ตะวันว่าไงนะคะ กานดาราถามย้ำพี่ชายเธออีกครั้ง เธอไม่อยากจะเชื่อเลย พระเจ้า นี่พี่ชายเธอกินยาอะไรเข้าไป ถึงผิดสำแดงแบบนี้ แต่ไหนแต่ไหนยืนยันว่าจะให้เธอฝึกงานที่บริษัทฯ ไม่ยอมให้ไปฝึกที่ไหน แล้วตอนนี้ คืออะไร ใครช่วยตอบฉันที
พี่ถามว่า ได้ไปติดต่อสถานที่ฝึกงานไว้บ้างหรือยัง นี่ก็ใกล้แล้วไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวก็ไม่ทันหรอก จะไปฝึกที่อื่นก็ไป พี่ไม่ว่าอะไร รีบหาเดี๋ยวจะเสียโอกาส
อื่อ...ขอบคุณพี่ตะวันนะคะ กานก็มองๆ ไว้บ้างค่ะ เดี๋ยวกานรีบติดต่อ ได้เรื่องยังไงกานแจ้งพี่ตะวันนะคะ กานดาราพูดเสียงสั่น จะไม่ให้สั่นได้ยังไง ที่ผ่านมา 22 ปี เธอไม่เคยเป็นตัวของตัวเอง เพิ่งจะเริ่มเป็นตัวของตัวเองก็เดือนนี้แหละ หญิงสาวแอบหยิกแขนตัวเอง เจ็บนี่นา แสดงว่าเธอไม่ได้ฝัน
แม่ครับ ผมว่าเราน่าจะโทรไปบอกคุณน้าทั้งเองดีไหมครับ ว่าจะเดินทางวันไหน นี่รอเด็กนั่นตั้งแต่เมื่อวาน ไม่เห็นมีวี่แววว่าจะโทรมาเลย เหลวไหลจริง ให้ผู้ใหญ่รอได้ยังไง นี่ทำไมเขาต้องรู้สึกร้อนใจกับเรื่องแค่นี้ด้วยนะ แต่เมื่อรู้สึกตัวและนึกขึ้นมาได้ว่าหมกหมุ่นกับเรื่องนี้มากไปเขาก็เงียบ
น้องน่าจะเก็บของอยู่มั้งลูก เห็นว่าต้องขนของบางส่วนกลับไปไว้บ้านด้วยไม่ใช่เหรอ บ่ายๆ คงโทรมาหรอก หรือว่าไงน้องกาน หนูปรายโทรหาไหมลูก หลังจากที่หนูคุยกันเมื่อวาน นางดุจเดือนหันมาถามลูกสาวคนเล็ก
ยังเลยค่ะแม่ แต่กานคิดว่า ปรายคงเริ่มเก็บของค่ะ หรือต้องมีอะไรแน่ๆ ปกติปรายจะเร็วมาก
ไม่ทันที่กานดาราจะพูดอะไรต่อ ก็มีเสียงออด หน้าบ้านดังขึ้น
ลุงสรรไปดูให้หน่อย ใครมาแต่เช้าเลย ยังเช้ามากเลยนะเนี้ย ปกติไม่เคยมีใครมานะ นางดุจเดือนพูดอยู่คนเดียว
อ้าวปราย มายังไงเนี้ย กานก็รอเข้าใจว่าจะโทรมา แล้วไหงมาเองอ่ะ เรากำลังกินข้าวเช้ากันเลย มากินด้วยกันไหมปราย มาๆ มานั่งก่อน กานดาราขยับเก้าอี้ให้ปรายลดามานั่งข้างตัวเอง ซึ่งตรงข้ามกับตะวัน ส่วนกานดารานั่งตรงข้ามกับนางดุจเดือน
คุณป้าขาสวัสดีค่ะ พี่ตะวันคะ สวัสดีค่ะ ปรายลดาทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสองคน ก่อนนั่งลงข้างๆ กานดารา วันนี้เธอสวมชุดเดรสยีนต์แขนสั้น คอเชิ้ต ยาวเลยเข่านิดหน่อย มีกระเป๋าสะพายคล้องไว้ที่ไหล่ ใส่รองเท้าผ้าใบ ดูทะมัดทะแมง
ปรายต้องขอโทษด้วยนะคะที่ไม่ได้โทรมาบอกล่วงหน้า ปรายคิดว่ามาด้วยตัวเอง ดีกว่าใช้โทรศัพท์ค่ะ เพราะคุณป้า และพี่ตะวันเป็นผู้ใหญ่ หญิงสาวยกมือไหว้ขอโทษ เจ้าของบ้านทั้งสองคน ขอโทษกานด้วยนะที่ต้องให้รอ หญิงสาวยิ้มให้เพื่อน ที่ซึ่งเหมือนจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกันไปเสียแล้ว
คือยังงี้คุณป้า พี่ตะวัน ปรายสอบเสร็จเมื่อวาน คิดว่าวันนี้จะเก็บของ ที่ตั้งใจเอาไปไว้ที่บ้านใส่รถไว้ก่อนค่ะ และจะเดินทางวันมะรืนค่ะ มันกะทันหันไป สำหรับทางคุณป้า เอาแบบที่คุณป้าและพี่ตะวันสะดวกนะคะ ปรายรอได้ เพราะปรายหยุด 15 วัน ไปวันไหนก็ได้ค่ะปรายอยู่ยาว จนเปิดเทอม แล้วก็ขาไป ปรายเอารถกลับบ้านด้วยค่ะ ถ้าเราไปพร้อมกัน ให้กานนั่งไปกับปรายได้ไหมคะ พูดแล้วก็หันไปยิ้มให้ชายหนุ่ม ซึ่งเธอคิดว่าต้องขออนุญาตเขาเท่านั้น ถ้าถามคุณป้าๆ ก็ต้องให้คุณพี่ตอบอยู่ดี สู้ขอกับเจ้าตัวเองเลยดีกว่า ถึงแม้ว่าจะขัดๆ กับหน้าที่นิ่งสนิทของเขา แต่เธอสงสารกานดาราหรอก ดู หน้าตาแบบมีความหวังมาก เธอถึงต้องคุยกับเขา จะได้รู้ว่าได้หรือไม่ได้
ส่วนที่บ้านปรายแจ้งพ่อกับแม่แล้ว ท่านรออยากที่จะเจอกับคุณป้า แม่เตรียมปิดร้านเลยค่ะ และลงมือทำความสะอาดบ้านหลังเล็ก สำหรับครอบครัวคุณป้าไว้รอเองเลย แม่ตื่นเต้นมาก
กินข้าวมารึยัง คนหน้านิ่งถามกลับมา แบบนิ่งๆ
ยังเลยค่ะ คนตอบๆ แบบไม่มองหน้าเช่นกัน เพราะสายตามองอาหารบนโต๊ะ
งั้นกินข้าวด้วยกันเสียเลย เสร็จแล้วจะได้ไปช่วยน้องกานเตรียมของ รายนี้ไม่ค่อยได้ไปไหน คงต้องการคนช่วย ใช่ไหมน้องกาน ขนไปเท่าไรก็ได้รถเราเอง เสร็จแล้วจะได้ไปช่วยแม่จัดของบ้าง
ไม่เป็นไรหรอกลูก ของแม่เตรียมพร้อมไว้แล้ว ช่วยน้องกานเถอะ สาวๆ ของเยอะ ของแม่มีไม่มากเลย เอ่ากินข้าวกินปลากันก่อนนะหนูปราย กับข้าวป้าทำเอง ลองดูว่าจะถูกปากไหม เอาเลยลูกลงมือ ไม่ต้องเกรงใจ
ขอบคุณมากค่ะคุณป้า ปรายคิดว่า น่าจะถูกปากทุกอย่างเลยละค่ะ ปรายไม่เกรงใจแล้วนะคะ หญิงสาวพูดพร้อมกับจัดการอาหารตรงหน้า อย่างเอร็ดอร่อย โดยที่ไม่มีอาหารเขินอายเลยแม้แต่น้อย
กานดาราแทบจะกรี๊ดออกมาดังๆ แต่ทำได้แค่กรี๊ดอยู่ในอก หัวใจเต้นแรง คนข้างๆ แอบหยิกแขน แบบว่าแสดงความดีใจด้วย แต่พี่ชายเธอยังไม่ตอบเรื่องที่จะให้นั่งรถไปกับปรายลดา
งั้นเราเดินทางพรุ่งนี้พร้อมกันดีไหมครับแม่ เตรียมของไปเยอะหน่อย เผื่อแม่กับน้องกานยังไม่อยากกลับ ส่วนเรื่องขาไปก็แล้วแต่น้องกานนะ จะนั่งไปเป็นเพื่อนกันก็ได้ พี่ไม่มีปัญหา
จริงๆ เหรอคะ ขอบคุณมากนะคะ รับรองว่าปรายไม่ขับซิ่งแน่นอนค่ะ ใบขับขี่ปรายสอบด้วยตัวเอง จะระมัดระวังให้ดีที่สุดเลย ดีใจไหมกาน ปรายดีใจมากเลยรู้ไหม เราจะได้คุยกันประสาผู้หญิงๆ แต่ตอนนี้ปรายหิวแล้ว ขอกินข้าวก่อนนะ เสร็จแล้วล้างถ้วยจานแล้วเราได้ไปจัดเตรียมของกัน หลังจากนั้นบนโต๊ะอาหารเช้านั้น ก็มีแต่บทสนทนาของสาวๆ
ส่วนคนที่อนุญาตยังคงนั่งกินข้าวเงียบ หน้านิ่งเหมือนเดิม ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
นางดุจเดือนเองก็รู้สึกผ่อนคลายมาก
ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวปรายกับกานเก็บเอง คุณป้ากับคุณพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ หญิงสาวเก็บถ้วยจานบนโต๊ะอาหารอย่างคล่องแคล่ว โดยมีกานดารา คอยช่วย ถึงแม้จะไม่คล่องนัก เพราะปกติแม่บ้านจะเป็นคนทำให้ตลอด หรือไม่นางดุจเดือนก็จะเป็นคนทำเอง
ป่ะกานที่ล้างจานอยู่ตรงไหน รีบล้าง เราจะได้ไปเตรียมของกัน กานยกถาดแก้วนำหน้าไปเลย เดี๋ยวปรายยกพวกนี้เอง กับข้าวฝีมือคุณป้าอร่อยที่สุดเลย อิจฉากานได้กินกับข้าวฝีมือแม่ทุกวัน ปรายนี่ขนาดกลับบ้านแม่ยังไม่ค่อยทำเลย แต่จริงๆ แม่ทำอร่อยนะ แต่แค่แม่ไม่ค่อยมีเวลา หญิงสาวพูดบ่นพร้อมเดินตามกานดาราไป หัวเราะไปพราง สองสาวช่วยกันทำความสะอาดถ้วยจาน ปรายลดารู้ว่ากานดาราไม่ค่อยได้ทำแบบนี้ เพราะเห็นท่าทางเก้ๆ กังๆ สำหรับเธอ แค่นี้จิ๊บๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร คิดไปก็สงสารเพื่อน ต่อแต่นี้แหละ สนุกแน่ๆ กานดารา ฉันจะพาเธอเปิดโลกกว้าง ที่บ้านของฉัน
วันนี้ปรายลดา ขลุกตัวอยู่กับกานดาราเกือบทั้งวัน ช่วยกันเลือกเสื้อผ้า หลากหลายชุด กว่าจะลงตัว กลางวันก็กินข้าวกันสองคน เพราะสองสาวมัวแต่จัดของเพลิน คุณป้าดุจเดือน และลูกชายกินกันก่อนเรียบร้อย ซึ่งเป็นอะไรที่ถูกใจปรายลดา เธอเห็นหน้านิ่งๆ คิ้วขมวดตลอดเวลาของเขาแล้วปวดหัวไปด้วย จะเครียดอะไรนักหนา แต่ก็ช่างเถอะ แค่เขาตามใจน้องสาวกับแม่เขาก็ดีมากแล้ว หลังอาหารกลางวัน สองสาวจัดเสื้อผ้าเสร็จเกือบบ่ายสอง ปรายลดาจึงขอตัวกลับไปจัดของตัวเองบ้าง
คุณป้าคะ คุณพี่ปรายขอตัวก่อนนะคะ มีบางอย่างที่ยังไม่เรียบร้อยค่ะ พรุ่งนี้ให้ปรายมากี่โมงดีคะ หญิงสาวหันไปถามตะวัน จำต้องมองหน้านิ่งของเขาเพื่อรอคำตอบ
มาถึงสักประมาณเจ็ดโมงหน่อยๆ ล่ะกัน จะได้มากินข้าวเช้าที่นี่ ให้เรียบร้อยเลย หรือแม่ว่าไงครับ
เอาตามนั้นล่ะลูก หนูปรายมาทานข้าวเช้าที่บ้านป้า เดี๋ยวป้าทำกับข้าวอร่อยๆ รอ นางดุจเดือนรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้ขึ้นทุกวันๆ ตกลงตามนี้นะลูก
ได้ค่ะคุณป้า งั้นปรายกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะคุณป้า สวัสดีค่ะคุณพี่ ปรายไปก่อนนะกาน พรุ่งนี้เจอกัน คืนนี้ปรายโทรหา หญิงสาวเดินตัวปลิวไปขึ้นรถ ขับออกไปอย่างสบายใจ
หลังจากคู่ของประภาษไปฮันนีมูลที่ญี่ปุ่นกลับมา นางดุจเดือนก็ไปสู่ขอปรายลดาให้กับตะวัน จัดงานแบบเรียบง่าย ตามที่ทั้งสองต้องการ ตะวันย้ายมาอยู่ที่บ้านของปรายลดา เขายังคงดูแลบริษัทฯ โรงงาน เหมือนเดิม หลังแต่งงาน กิจการของเขาจะดีวันดีคืนส่วนปรายลดา ช่วยพ่อกับแม่ดูแลไร่ ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านกาแฟ ร้านขายผ้ามือสอง อย่างเต็มตัว ร้านของเธอเป็นรายใหญ่ ของภาคตะวันออก ให้นายอลงกต และนางกรกนกได้พักจริงๆ เสียที แต่นิสัยของทั้งพ่อและแม่ก็ยังคงขยันเหมือนเดิม ทำไปทำมา นางดุจเดือนและนางกรกนก ก็เปิดร้านขายอาหารจนได้ หญิงสูงวัยทั้งสองคนมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตส่วนประภาษก็ยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม ดูร้านกาแฟบ้าง ตะวันให้ประภาษเข้าไปช่วยงานบริหารในส่วนของงานบัญชี เพราะเห็นว่าทั้งประภาษและกานดารา เรียนบัญชีด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเขาเอง รับผิดชอบแค่ที่โรงงานเป็นหลักกานดารานอกจากจะช่วยงานสามีทำงานที่บริษัทฯ แล้ว ยังมีร้านที่ต้องทำร่วมกันกับปรายลดา และเปิดร้านกาแฟอีก 1 ร้าน เป็นสาขาที่สองวันนี้เป็นวันดี ทั้งสามครอบครัว เดินทางมามอบอาคารเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร มอบทุนกาศึกษ
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง เธอเห็นเขาหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เธอไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆตะวันลืมตา เขามองข้างๆ ตัว และหันมาตามเสียงของปรายลดา หน้าสดชื่นมาก ตาสุกใสเป็นประกาย เขานั่งมองมาจากบนเตียงนอน เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกลงกระเป๋า“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่ก็แต่งตัวเรียบร้อย“ขามาพี่มีเสื้อผ้ามาสองชุด ขากลับนี่คงเพิ่มหลายชุดแน่เลย เขาพูดเบาๆ” อย่างคนที่มีความสุข“น้องปราย ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะครับ ไม่เปลี่ยนเลย พี่ซะอีกโรคนอนไม่หลับกลับมาอีกแล้ว ““ไม่เป็นไรค่ะ กลับบ้
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง คนข้างๆ เธอหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น ไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ค่อยๆ ย่องลงมาเก็บของใช้จุกจิกใส่กระเป๋า พยายามทำทุกอย่างให้เบามือที่สุด ทักเขาเมื่อเห็นว่าขยับตัวตะวันรู้สึกตัวลืมตาตื่น งงว่าตัวเองอยู่ในความฝันหรือความจริง จำได้ว่าปรายลดานอนอยู่ข้างๆ นี่นา ลองมองด้านข้างปรายลดาหายไป ชายหนุ่มรีบลุก เขาหลับรวดเดียวไม่รู้สึกตัวเลย รีบลุกขึ้นมองไปทางเสียง เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกเตรียมใส่กระเป๋า หน้าตาสดใสและสดชื่นมาก ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เป็นเสียงของปรายลดาจริงๆ“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปใน
วันนี้ปรายลดาปิดงานเสร็จเรียบร้อย อีก 2 วัน หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับบ้าน จ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ยังมีเวลา เหมือนเดิม เธอรีบไปที่ร้านผ้า เพื่อคัดผ้าที่เหลืออีกสักหน่อย และให้ร้านแพคส่งกลับที่ประเทศไทย หญิงสาวได้หนังสือดีๆ อีกมากมาย เจอค่าส่งก็เกือบถอดใจ แต่มันเป็นหนังสือที่หายาก และเธอก็รักมันมากสมัยเรียนมัธยม ปรายลดามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร เพราะนานมาก เนื้อเรื่องพระเอกเป็นเจ้าผู้ครองนคร นางเอกเป็นหมอ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทย นางเอกเจอพระเอกที่เมืองไทย เขาพาภรรยามารักษาตัว แต่ภรรยาเสียชีวิต นางเอกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นองค์รักษ์ เนื้อเรื่องอ่านแล้วประทับใจมาก เธอเสียดายมาก พยายามหาก็ยังไงก็หาไม่เจอ แต่คิดไว้แล้วว่า จะต้องหาซื้อมือสองมาเก็บไว้อีก ก็ยังไม่มีโอกาสสักที กลับบ้านครั้งนี้แหละ จะต้องหามาเก็บไว้ในชั้นหนังสือให้ได้ที่ร้านผ้ามือสอง ระหว่างที่คัดผ้า ใจก็คิดถึงคราวที่ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย ตะวันเป็นรักแรกของเธอ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาทำผิด จะด้วยอะไรก็ตาม ประชด เอาแต่ใจตัวเอง คนอายุเท่าเขา มีตำแห
“อ่ะ.....อะไรเธอ” ปรายลดาเข้าไปเม้นในไอจีของ กานดารา รูปที่ลงล่าสุด นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนเพชรวงกำลังดี สวยงามมาก แค่นั้นหญิงสาวก็ทำงานต่อปรายลดาแปลเอกสารต่อ เธอชอบงานนี้รองลงมาจากงานขายของ เกาะแห่งนี้เงียบสงบมากๆ เหมาะกับงานที่เธอทำ เธอคิดว่าเสร็จจากงานนี้แล้วจะเดินทางกลับบ้านเกือบสามเดือนหลังจากที่กานกับก้อยกลับไปแล้ว ปรายลดาก็อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เที่ยวคนเดียว ที่มาเลย์นี่ผ้าเยอะมาก เสร็จจากงานแปลเอกสาร เธอก็ไปหาคัดผ้า ได้พอสมควรก็ทยอยส่งกลับไทย“ว่าไงเธอ มีอะไรจะบอกฉันไหม” ปรายลดารับสายเมื่อกานดาราโทรไลน์หาเธอ“ก็อยากที่ปรายเห็นนั่นแหละ” กานดาราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุขมาก“นี่อย่าบอกนะว่าหมั้นกับพี่ภาษ” ปรายลดาส่งเสียงดีใจถามเพื่อนสาว“ใช่ ปรายเข้าใจไม่ผิด เมื่อวานนี่เอง กานไม่อยากรบกวนปราย อยากให้ปรายเร่งงานให้เสร็จจะได้กลับบ้านทีเดียวเลย ไม่ต้องมางานหมั้น มาตอนแต่งเลยดีกว่า งานหมั้นเล็กๆ มีแค่พวกเรา ไม่ได้บอกใคร เดี๋ยวได้ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่ กานจะส่งข่าวนะปราย”“โห....เสียดายอ่ะ แต่ทำไงได้ ฉันเลือกเอง ไม่เป็นไรหรอก งานใกล้เสร็จแล้ว งานแต่งกานปรายได้ไปแน่ๆ รับรองไม่พลา
“พ่อครับ แม่ครับ ไปบ้านคุณป้าดุจเดือนอีกรอบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ผมเกริ่นๆ กับตะวันไว้แล้ว เหลือแต่ไปคุยกับคุณป้า ให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ” ประภาษ เอ่ยกับนายเกริกและนางยุรี“เฮ้อ....พ่อกับแม่ก็รอวันนี้มานานแล้ว คุยกับหนูกานดีแล้วใช่ไหมภาษ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไปแล้วหน้าแตกกลับมานะ” นายเกริกหันมาพูดกับลูกชาย“ไม่หรอกครับพ่อ ผมคุยกับน้องกานแล้วครับ จริงๆ ว่าจะรอให้น้องปรายกลับมาก่อน ป่านนี้ยังไม่มาเลย ผมไม่รอแล้วครับ แรกๆ น้องกานห่วงคุณป้าดุจเดือน กลัวว่าแต่งงานแล้ว จะไม่มีคนดูแล แต่ตะวัน รับปากและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าน้องกานมาอยู่บ้านเรา เขาจะดูแลคุณป้าดุจเดือนเอง”“ส่วนผมแล้วแต่น้องกานเลยว่าแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านเรา หรืออยู่บ้านเขา น้องกานอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้หมด หรือพ่อกับแม่ว่าไงครับ”“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เห็นใจบ้านโน้นเขาเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวตะวันเขาแต่งกันหนูปราย ก็ต้องไปอยูบ้านหนูปรายใช่ไหม พ่อกับแม่น้องปราย ก็ไม่มีใคร ทางนี้ พ่อกับแม่ก็มีน้องตั้งสองคน ภาษไม่ต้องห่วงหรอกลูก เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาหรอก ใช่ไหมพ่อ” นางยุรีหันไปหาสามี“พ่อก็ไม่มีปัญหา