“เป็นยังไงครับน้องปราย กางเต้นท์ได้ไหม มาครับพี่ช่วย” เกรียงไกรที่เพิ่งว่างจากการประชุม รีบเดินตรงลิ่วมาหาปรายลดา เขาจับตามองเธอตลอดเวลา คอยหาโอกาสเข้ามาพูดคุย เธอไม่ได้อยู่กลุ่มของเกรียงไกร“ขอบคุณค่ะพี่เกรียงไกร ไม่เป็นไรค่ะ ปรายจัดการกับเพื่อนเองได้ค่ะ พี่ครรชิตก็ดูแลอยู่ ขอบคุณมากนะคะ เชิญพี่เกรียงไกรตามสบายเลยค่ะ มีหลายคนที่ยังกางเต้นท์ไม่คล่อง ทางด้านโน้นค่ะพี่ ปรายขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะมืดเสียก่อน” หญิงสาวพูดแล้วผละจากเขาไปหาเพื่อน จัดการใช้มีดถางหญ้า รอบบริเวณที่จะกางเต้นท์ โดยไม่ได้สนใจเขาอีกเลยนั่นทำให้เกรียงไกรรู้สึกว่าเสียหน้ามาก ไม่ใช่แค่ปรายลดาที่อยู่ตรงนั้น น้องฝึกงานอีก ทั้งกลุ่มก็รวมตัวกันอยู่ตรงนั้นด้วย เขาสู้อุตสาห์แวะมาเพื่อจะช่วยเหลือหญิงสาว กลับได้รับการปฏิเสษ วันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว เขาไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดเธอเลย และเธอก็เหมือนจะรู้ตัว คอยหลบหลีกเขาได้ตลอดเวลา และเพื่อนเขาก็เหมือนจะเข้าข้างเด็กกลุ่มนี้ เขาสงสัยว่าทำไมแทนที่ปรายลดา จะต้องอยู่กลุ่มที่เขาต้องดูแล แต่กลับกลายเป็นครรชิต ที่ต้องมาดูแลกลุ่มนี้แทน ช่างเถอะ เขาไม่สนใจหรอก ต้องมีโอกาสสักวันเขาเริ่มที่จะส
“เป็นไงบ้างทุกคน เรียบร้อยดีไหม” ครรชิตกลับมาจากประชุมหลังจากที่เขาหายไปเกือบ 1 ชั่วโมงเต็มๆ ส่วนตัวเขาชอบน้องๆ กลุ่มนี้มาก ไม่เรื่องมาก แข็งแรง นิสัยดีกันทุกคน แถมฉลาดมาก“มาค่ะพี่ครรชิต กินข้าวกันเถอะค่ะ พวกเราทำเต็มที่เลยนะคะ ข้าวกำลังพอดีเลยค่ะหอมมาก” ทุกคนร่วมวงกินข้าวป่ากันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีใครพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเลยเขานับถือในนับใจของปรายลดามาก ขนาดมีเรื่องขนาดนี้ ก็ยังเข้มแข็ง ไม่ปริ่ปากโวยวายแม้แต่คำเดียว โชคดีที่เขาได้เข้าร่วมภาระกิจลับ ที่บางคนเท่านั้นที่จะรู้ ภารกิจสอดแนม ทำให้เขารู้เห็นการณ์ที่เกิดขึ้นกับปรายลดาเมื่อวาน เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องหยุดการเดินป่าในครั้งนี้ เขาดีใจที่จะได้กลับออกไปที่หน่วย ภารกิจลาดระเวนถือว่าเสร็จสิ้น น้องๆ จะได้ออกไปฝึกงานแยกย้ายกันไปตามหน่วยต่างๆเขาแปลกใจว่าทำไมกลุ่มของปรายลดา ยังได้ฝึกงานอยู่ที่หน่วยของเขาตามเดิม ซึ่งยังต้องเจอกับเกรียงไกรอยู่ดี แต่ช่างเถอะมันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เขาก็ทำตามหน้าที่และจะดูแลพวกน้องๆ ให้ปลอดภัย และไห้ความรู้มากที่สุด แค่นั้นก็พอหลังจากที่กินข้าวกันเสร็จเรียบร้อย ทั้งกลุ่มนั่งพักผ่อนกันที่หน้ากองไฟ คืนนี
ตะวันเดินวนไปวนมาหน้าห้องนอนของปรายลดา ทำไมนอนนานจัง ไม่ตื่นสักที เขาเตรียมข้าวเช้าไว้ให้ตั้งแต่ 8 โมง นี่เกือบ 10 โมง หญิงสาวยังไม่ตื่นเลย เป็นอะไรหรือเปล่านะ จะเคาะก็กลัวจะเป็นการรบกวน เขาเข้าใจว่าเธอไม่ค่อยได้นอน แต่...มันเป็นการนอนที่นานเกินไปแล้วปรายลดาไม่ได้ล็อคประตูห้องนอน เขาลองใช้มือผลักเบาๆ แอร์ในห้องเย็นฉ่ำ หญิงสาวยังคงนอนอยู่บนเตียง ห่มผ้าเรียบร้อย นอนนิ่งเงียบมาก ตะวันพยายามไม่ให้เกิดเสียงดัง เขาเดินเข้าไปดูเธอข้างเตียง หลับสนิทจริงๆ นอนหายใจเป็นจังหวะ เขาเอื้อมมือไปแตะที่หน้าผากของเธอ เพราะกลัวว่าจะไม่สบาย ตัวไม่ร้อนไม่มีไข้ เขาค่อยสบายใจหน่อย งั้นปล่อยให้นอนต่อดีกว่า อีกสักพักคงตื่นเองแหละ คงจะเพลียและเหนื่อยสะสม เมื่อคืนคงเหนื่อยมากเลยลืมล็อคประตู เขาปล่อยให้เธอนอนต่อ ส่วนตัวเขาออกมาด้านนอก นั่งทำงานของเขาต่อไปเงียบๆคนบนเตียงตื่นได้สักพักแล้ว แต่ปวดเมื่อยตามตัว เลยยังไม่อยากลุก จริงๆ แล้วเธอนอนลืมตา แต่พอเห็นประตูเปิดขยับ เลยแกล้งหลับต่อ นึกตำหนิตัวเองที่ลืมล็อคประตู อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกปลอดภัย ตลอดเวลาที่อยู่ในป่าเธอนอนไม่เต็มที่เลย เพราะระแวงกลัวว่าจะเกิดอันตรา
“ครรชิต ว่างไหม เราอยากคุยด้วย” เกรียงไกรดักรอครรชิตหลายวัน แต่ไม่สบโอกาสสักที วันนี้เขามาทำงานแต่เช้า เพื่อที่จะให้ครรชิตช่วยเหลือเรื่องที่เกิดขึ้นในป่า"ว่าไงเกรียง มีอะไรเหรอ ขอโทษนะ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลย ต้องเตรียมข้อมูลสอนน้องนักศึกษา นี่อีกไม่กี่วัน น้องๆ ก็จะกลับกันแล้ว งานเราเยอะมากไไครรชิต เราอยากขอร้องเรื่องที่เกิดขึ้น นายช่วยเราอีกครั้งได้ไหม เราไม่อยากให้กัญญารู้ นายช่วยยืนยันกับหัวหน้าได้ไหมว่ามันไม่จริง ถ้านายไม่ช่วยเรา เราแย่แน่ๆ" เกรียงไกรตีหน้าเศร้า เล่าความเท็จ“เกรียง เราเคยเตือนนายแล้วใช่ไหม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราช่วยนายปกปิดเรื่องบ้าๆ ของนาย ทำไมว่ะ นายไม่เข็ดเลยเหรอ กี่ครั้งแล้ว เราช่วยนายตลอดเลยนะ รู้ไหมว่าเราเริ่มที่จะเบื่อแล้ว ไม่ใช้ธุระอะไรของเราเลย”“น่า ครรชิต ครั้งนี้ครั้งสุดท้ายแล้ว มีนายคนเดียวที่ช่วยเราได้ ถ้าโดนสอบ นายต้องบอกว่าไม่รู้ไม่เห็นนะ เด็กพวกนั้นไม่กล้าพูดอะไรหรอก เราอยากให้เรื่องมันเงียบเหมือนทุกครั้ง นายจะไปรู้อะไร เด็กพวกนั้นมันให้ท่าเราเอง ถ้ามันไม่ให้ท่าเรา ใครจะไปกล้า แล้วอีกอย่างเราก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย แค่จับมือถือแขน ไม่เห็น
“น้องปรายครับ พรุ่งนี้เตรียมตัวนะครับ พี่จะพาไปกินข้าวกลางวันและข้าวเย็นในเมือง พี่จะไปหาซื้อของฝากด้วย วันที่เรากลับบ้านจะได้ไม่ฉุกละหุกมาก”“ของฝากใครบ้างเหรอคะพี่ตะวัน เยอะไหมคะ”“แม่ น้องกาน บ้านน้องปรายทุกคนเลย บ้านภาษด้วย พี่อยากให้น้องปรายช่วยเลือกให้หน่อยครับ พี่ไม่ค่อยถนัดเรื่องแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรไปฝากใคร แต่พี่อยากซื้อ”“ได้เลยค่ะ เดี๋ยวปรายตากผ้าแป๊ปนะคะพี่ตะวัน”“ไปครับพี่ช่วย จะได้เสร็จเร็วๆ”“ปรายตากเองได้ค่ะพี่ มีแต่ของปรายทั้งนั้นเลย ปรายลดาดึงตะกร้าผ้าไว้” เธอไม่อยากให้เขาช่วย เพราะมีแต่เสื้อผ้าของเธอ ชุดชั้นในก็เยอะ มันน่าอาย“มาเถอะน่าน้องปราย พี่จะตากเสื้อกับกางเกง ให้ ที่เหลือน้องปรายก็ตากเอง โอเคไหมครับ รีบเถอะ ออกไปช้า จะหาซื้อของไม่ทัน เดี๋ยวมืดค่ำพอดี ทางเข้าเมืองเปลี่ยว เราไม่ใช่คนพื้นที่ต้องระมัดระวังตัว”“ก็ได้ค่ะ ตากก็ตาก ก็ดีเหมือนกันจะได้เสร็จเร็วๆ ”สองหนุ่มสาวช่วยกันตากผ้า เสร็จเรียบร้อยก็ออกเดินทางเข้าเมือง ระหว่างทางบ้านปราณลดา ไปในเมือง ค่อนข้างจะสงบเงียบ ข้างทางมีสวนปาล์ม และป่ายางพาราหนาตา“น้องปรายเห็นรถที่ตามหลังเรามาไหมครับ”"เห็นค่ะพี่ต
"แม่ขา....พรุ่งนี้ปรายจะได้กลับบ้านแล้วนะคะ ดีใจที่สุดเลย ปรายมีเรื่องจะเล่าให้แม่ฟังเยอะแยะเลยค่ะ ปรายคิดถึงพ่อกับแม่มากเลย แต่เล่าตอนนี้ไม่สะดวก ไว้ปรายถึงบ้านแล้วจะเล่าให้ฟังนะคะ ถ้าไม่มีพี่ตะวันอยู่ด้วย มีหวังปรายไม่รอดแน่ๆ ค่ะแม่ ได้ค่ะ แล้วเจอกันนะคะ สวัสดีค่ะ ฝากความคิดถึงพ่อด้วย ปรายรักพ่อกับแม่นะคะ""พี่ตะวันคะ ปรายเก็บของเสร็จหมดแล้ว เราขนขึ้นรถเลยดีไหมคะ พรุ่งนี้จะได้ไม่ต้องขนให้เหนื่อย หรือพี่ตะวันว่าไงแล้วแต่พี่เลยนะคะ ""ได้เลยครับน้องปราย ของพี่ก็เก็บเสร็จหมดแล้ว เราขนขึ้นรถ จัดเรียงเลยล่ะกัน พรุ่งนี้จะได้ไม่ยุ่งมาก""มาค่ะส่งมาเลยเดี๋ยวปรายยกไปให้ พี่ตะวันขึ้นข้างบนรถนะคะ เดี๋ยวปรายส่งกระเป๋าให้เองค่ะ แล้วพี่ตะวันจะแวะบ้านไหมคะ หรือจะเลยไปนครนายกกับปรายเลย" "น้องปรายว่ายังไงล่ะครับ แนะนำพี่หน่อย" ตะวันหันมาหาปรายลดา เขาอยากรู้ว่าเธอคิดยังไง"ปรายอยากให้พี่ตะวันแวะหาคุณป้า กันกานค่ะ พี่มาอยู่ที่นี่กับปรายหลายวัน เผื่อคุณป้ากับกานคิดถึง และอยากคุยด้วย ปรายแวะได้ค่ะ หรือให้ปรายขับรถกลับเองก็ได้ เพราะยังไง ปรายก็ต้องแวะส่งรถบ้านพี่ภาษอยู่แล้ว ไว้ให้พี่ภาษขับไปส่งปรายที่บ้
ใครมากดออดหน้าบ้าน น้องกานไปดูหน่อยลูก" "ได้ค่ะแม่ เดี๋ยวกานไปดูเอง ไม่น่าจะเป็นคนที่รู้จักนะคะ กดกริ่งรัวๆ แบบนี้""นี่ตะวันอยู่ไหม ทำไมพี่โทรหาแล้วเขาไม่รับสายเลย เขาอยู่ที่นี่ไหม น้องกาน เปิดประตูให้พี่หน่อย" "สวัสดีค่ะพิ่กิ่งกาญณ์ มีธุระอะไรเหรอคะ พี่ตะวันไม่อยู่หรอกค่ะ ไปทำงานที่ใต้ หลายวันแล้วมีอะไรไหมคะ ฝากกานไว้ก็ได้นะคะ อีกหลายวันค่ะ กว่าพี่ตะวันจะกลับ" "ตะวันไปทำงานที่ไหนคะ มีที่อยู่ไหม จังหวัดอะไร แล้วนอกจากเบอร์เดิม ตะวันมีเบอร์อื่นอีกไหมคะ น้องกาน นี่น้องกานจะใจดำ ไม่ให้พี่เข้าไปสวัสดีคุณแม่เลยเหรอคะ พี่เหนื่อยแล้วก็ร้อนมาก ""ขอพี่เข้าไปไหว้คุณแม่หน่อยนะคะ แป๊ปเดียว ทำยังกับว่าบ้านนี้พี่ไม่เคยมางั้นแหละ""ไม่ต้องลำบากหรอกนะหนูกิ่งกาญณ์ พอดีพวกเราจะออกไปธุระข้างนอกกัน ไม่สะดวกเลยจ๊ะ""สวัสดีค่ะคุณแม่ แหม.....กิ่งมาผิดวันใช่ไหมคะ คุณแม่สบายดีนะคะ กิ่งคิดถึงทุกคนเลยนะคะ โดยเฉพาะตะวัน เขาคงงอนกิ่งนะคะ กิ่งโทรไปเข้าไม่รับสายกิ่งเลย ไม่เป็นไร วันหลังเดี๋ยวมาใหม่นะคะคุณแม่ น้องกาน" กิ่งกาญณ์จำต้องถอยกลับไปก่อน เอาเถอะไว้เธอติดต่อตะวันได้ เธอก็ต้องมาที่นี่อยู่วันยังค่ำ ทำไมเ
แม่ขา พี่ตะวันโทรมาแล้วค่ะ น่าจะถึงแล้ว เดี๋ยวกานออกไปเปิดประตูเองนะคะแม่ กานดารารีบวิ่งออกไปหน้าบ้้าน เพื่อเปิดประตูให้พี่ชายและปรายลดา เธอคิดถึงทั้งสองคนเลยสวัสดีค่ะพี่ตะวัน ไม่ได้เจอพี่ตะวัน หนึ่งเดือนเต็ม ๆ ดูมีความสุขมากเลยนะคะ หน้าตาอิ่มเอิบมาก อ้วนขึ้นไหมคะเนี้ย กานดาราทักทายพี่ชายของเธอ ทำไม ดูพี่อ้วนขึ้นเหรอน้องกาน ช่างสังเกตุนะเรานี่จริงอย่างที่น้องสาวเขาทัก เขาน้ำหนักขึ้นสามกิโล นั่งๆนอนๆ เฝ้าสาว คงเป็นเพราะสบายใจด้วยล่ะ ธรรมดาของคนมีความสุขไปๆช่วยพี่ขนของก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกันปรายเป็นไงบ้าง นี่คล้ำลงนะเนี้ย ใช่ไหม พี่ตะวันอ้วนขึ้น ปรายผอมลง สลับกัน คิดถึงเพื่อนจังเลย ไหนของฝาก กานดาราแหย่เพื่อนเล่นๆ กานเฝ้ารอของฝากจากทางใต้ นี่รอตั้งแต่เช้าแล้วรู้ไหม พี่ตะวันขับรถช้าหรือเปล่านะสบายดี กานก็เหมือนเดิมเลยนะ ของฝากอยู่ในกระเป๋า มีเพียบเลย ปรายไปเจอร้านผ้าฮาวายด้วย ได้มาฝากกานหลายชุดเลย พี่ตะวันไม่ได้ขับรถช้าหรอก เราแวะซื้อของกินบ่อย รถไม่เยอะด้วยแหละ เลยมาแบบสบายๆสองสาวรีบขนของเข้าบ้านก่อนเถอะครับ เดี๋ยวค่อยคุยกัน ตะวันบอกสองสาว เมื่อเห็นว่าทั้งคู่เริ่มที่จะคุยกันยาวสว
หลังจากคู่ของประภาษไปฮันนีมูลที่ญี่ปุ่นกลับมา นางดุจเดือนก็ไปสู่ขอปรายลดาให้กับตะวัน จัดงานแบบเรียบง่าย ตามที่ทั้งสองต้องการ ตะวันย้ายมาอยู่ที่บ้านของปรายลดา เขายังคงดูแลบริษัทฯ โรงงาน เหมือนเดิม หลังแต่งงาน กิจการของเขาจะดีวันดีคืนส่วนปรายลดา ช่วยพ่อกับแม่ดูแลไร่ ร้านขายวัสดุก่อสร้าง ร้านกาแฟ ร้านขายผ้ามือสอง อย่างเต็มตัว ร้านของเธอเป็นรายใหญ่ ของภาคตะวันออก ให้นายอลงกต และนางกรกนกได้พักจริงๆ เสียที แต่นิสัยของทั้งพ่อและแม่ก็ยังคงขยันเหมือนเดิม ทำไปทำมา นางดุจเดือนและนางกรกนก ก็เปิดร้านขายอาหารจนได้ หญิงสูงวัยทั้งสองคนมีความสุขในบั้นปลายของชีวิตส่วนประภาษก็ยังคงทำงานของตัวเองเหมือนเดิม ดูร้านกาแฟบ้าง ตะวันให้ประภาษเข้าไปช่วยงานบริหารในส่วนของงานบัญชี เพราะเห็นว่าทั้งประภาษและกานดารา เรียนบัญชีด้วยกันทั้งคู่ ส่วนเขาเอง รับผิดชอบแค่ที่โรงงานเป็นหลักกานดารานอกจากจะช่วยงานสามีทำงานที่บริษัทฯ แล้ว ยังมีร้านที่ต้องทำร่วมกันกับปรายลดา และเปิดร้านกาแฟอีก 1 ร้าน เป็นสาขาที่สองวันนี้เป็นวันดี ทั้งสามครอบครัว เดินทางมามอบอาคารเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร มอบทุนกาศึกษ
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง เธอเห็นเขาหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น เธอไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆตะวันลืมตา เขามองข้างๆ ตัว และหันมาตามเสียงของปรายลดา หน้าสดชื่นมาก ตาสุกใสเป็นประกาย เขานั่งมองมาจากบนเตียงนอน เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกลงกระเป๋า“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปในห้องน้ำ สักครู่ก็แต่งตัวเรียบร้อย“ขามาพี่มีเสื้อผ้ามาสองชุด ขากลับนี่คงเพิ่มหลายชุดแน่เลย เขาพูดเบาๆ” อย่างคนที่มีความสุข“น้องปราย ตื่นเช้าเหมือนเดิมเลยนะครับ ไม่เปลี่ยนเลย พี่ซะอีกโรคนอนไม่หลับกลับมาอีกแล้ว ““ไม่เป็นไรค่ะ กลับบ้
“ตื่นแล้วเหรอคะพี่ตะวัน” ปรายลดาแต่งตัวเสร็จแล้ว เมื่อคืนเธอทำงานเกือบเที่ยงคืน กว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่ง คนข้างๆ เธอหลับลึกมากเธอตื่นเมื่อตอนตีห้าครึ่ง คนที่นอนข้างๆ เธอเปลี่ยนท่าเป็นนอนตะแคง แต่เขาก็ยังไม่ตื่น ไม่อยากกวนเขา อยากให้เขาพักผ่อนเยอะๆ ค่อยๆ ย่องลงมาเก็บของใช้จุกจิกใส่กระเป๋า พยายามทำทุกอย่างให้เบามือที่สุด ทักเขาเมื่อเห็นว่าขยับตัวตะวันรู้สึกตัวลืมตาตื่น งงว่าตัวเองอยู่ในความฝันหรือความจริง จำได้ว่าปรายลดานอนอยู่ข้างๆ นี่นา ลองมองด้านข้างปรายลดาหายไป ชายหนุ่มรีบลุก เขาหลับรวดเดียวไม่รู้สึกตัวเลย รีบลุกขึ้นมองไปทางเสียง เห็นปรายลดากำลังเก็บของใช้จุกจิกเตรียมใส่กระเป๋า หน้าตาสดใสและสดชื่นมาก ถึงรู้ว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป เป็นเสียงของปรายลดาจริงๆ“พี่ตะวันอาบน้ำได้เลยนะคะ ชุดปรายเตรียมไว้ให้แล้ว แล้วเดี๋ยวเราลงไปกินข้าวที่ห้องอาหารของโรงแรม วันนี้ปรายต้องเช็คเอาท์แล้วค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะว่าจะยังไงต่อ” หญิงสาวเอ่ยขึ้นแล้วหันไปเก็บของต่อ“ขอบคุณนะครับ สำหรับเสื้อผ้า” ตะวันหายเข้าไปใน
วันนี้ปรายลดาปิดงานเสร็จเรียบร้อย อีก 2 วัน หญิงสาวจะต้องเดินทางกลับบ้าน จ่ายค่าที่พักเรียบร้อย ยังมีเวลา เหมือนเดิม เธอรีบไปที่ร้านผ้า เพื่อคัดผ้าที่เหลืออีกสักหน่อย และให้ร้านแพคส่งกลับที่ประเทศไทย หญิงสาวได้หนังสือดีๆ อีกมากมาย เจอค่าส่งก็เกือบถอดใจ แต่มันเป็นหนังสือที่หายาก และเธอก็รักมันมากสมัยเรียนมัธยม ปรายลดามีหนังสืออยู่ 2 เล่ม จำไม่ได้ว่าชื่อเรื่องอะไร เพราะนานมาก เนื้อเรื่องพระเอกเป็นเจ้าผู้ครองนคร นางเอกเป็นหมอ พ่อเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนในเมืองไทย นางเอกเจอพระเอกที่เมืองไทย เขาพาภรรยามารักษาตัว แต่ภรรยาเสียชีวิต นางเอกไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร เข้าใจว่าเป็นองค์รักษ์ เนื้อเรื่องอ่านแล้วประทับใจมาก เธอเสียดายมาก พยายามหาก็ยังไงก็หาไม่เจอ แต่คิดไว้แล้วว่า จะต้องหาซื้อมือสองมาเก็บไว้อีก ก็ยังไม่มีโอกาสสักที กลับบ้านครั้งนี้แหละ จะต้องหามาเก็บไว้ในชั้นหนังสือให้ได้ที่ร้านผ้ามือสอง ระหว่างที่คัดผ้า ใจก็คิดถึงคราวที่ไปคัดผ้าที่ตลาดโรงเกลือ อรัญประเทศ เอาจริงๆ เธอก็ไม่เคยลืมเขาเลย ตะวันเป็นรักแรกของเธอ ถ้าไม่ติดตรงที่เขาทำผิด จะด้วยอะไรก็ตาม ประชด เอาแต่ใจตัวเอง คนอายุเท่าเขา มีตำแห
“อ่ะ.....อะไรเธอ” ปรายลดาเข้าไปเม้นในไอจีของ กานดารา รูปที่ลงล่าสุด นิ้วนางข้างซ้ายมีแหวนเพชรวงกำลังดี สวยงามมาก แค่นั้นหญิงสาวก็ทำงานต่อปรายลดาแปลเอกสารต่อ เธอชอบงานนี้รองลงมาจากงานขายของ เกาะแห่งนี้เงียบสงบมากๆ เหมาะกับงานที่เธอทำ เธอคิดว่าเสร็จจากงานนี้แล้วจะเดินทางกลับบ้านเกือบสามเดือนหลังจากที่กานกับก้อยกลับไปแล้ว ปรายลดาก็อยู่คนเดียว ทำงานคนเดียว เที่ยวคนเดียว ที่มาเลย์นี่ผ้าเยอะมาก เสร็จจากงานแปลเอกสาร เธอก็ไปหาคัดผ้า ได้พอสมควรก็ทยอยส่งกลับไทย“ว่าไงเธอ มีอะไรจะบอกฉันไหม” ปรายลดารับสายเมื่อกานดาราโทรไลน์หาเธอ“ก็อยากที่ปรายเห็นนั่นแหละ” กานดาราตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ดูมีความสุขมาก“นี่อย่าบอกนะว่าหมั้นกับพี่ภาษ” ปรายลดาส่งเสียงดีใจถามเพื่อนสาว“ใช่ ปรายเข้าใจไม่ผิด เมื่อวานนี่เอง กานไม่อยากรบกวนปราย อยากให้ปรายเร่งงานให้เสร็จจะได้กลับบ้านทีเดียวเลย ไม่ต้องมางานหมั้น มาตอนแต่งเลยดีกว่า งานหมั้นเล็กๆ มีแค่พวกเรา ไม่ได้บอกใคร เดี๋ยวได้ฤกษ์แต่งเมื่อไหร่ กานจะส่งข่าวนะปราย”“โห....เสียดายอ่ะ แต่ทำไงได้ ฉันเลือกเอง ไม่เป็นไรหรอก งานใกล้เสร็จแล้ว งานแต่งกานปรายได้ไปแน่ๆ รับรองไม่พลา
“พ่อครับ แม่ครับ ไปบ้านคุณป้าดุจเดือนอีกรอบให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมว่าน่าจะสมควรแก่เวลาแล้ว ผมเกริ่นๆ กับตะวันไว้แล้ว เหลือแต่ไปคุยกับคุณป้า ให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ” ประภาษ เอ่ยกับนายเกริกและนางยุรี“เฮ้อ....พ่อกับแม่ก็รอวันนี้มานานแล้ว คุยกับหนูกานดีแล้วใช่ไหมภาษ ไม่ใช่พ่อกับแม่ไปแล้วหน้าแตกกลับมานะ” นายเกริกหันมาพูดกับลูกชาย“ไม่หรอกครับพ่อ ผมคุยกับน้องกานแล้วครับ จริงๆ ว่าจะรอให้น้องปรายกลับมาก่อน ป่านนี้ยังไม่มาเลย ผมไม่รอแล้วครับ แรกๆ น้องกานห่วงคุณป้าดุจเดือน กลัวว่าแต่งงานแล้ว จะไม่มีคนดูแล แต่ตะวัน รับปากและยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ว่าถ้าน้องกานมาอยู่บ้านเรา เขาจะดูแลคุณป้าดุจเดือนเอง”“ส่วนผมแล้วแต่น้องกานเลยว่าแต่งแล้วจะมาอยู่บ้านเรา หรืออยู่บ้านเขา น้องกานอยู่ที่ไหนผมก็อยู่ได้หมด หรือพ่อกับแม่ว่าไงครับ”“แม่ไม่ว่าอะไรหรอก เห็นใจบ้านโน้นเขาเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวตะวันเขาแต่งกันหนูปราย ก็ต้องไปอยูบ้านหนูปรายใช่ไหม พ่อกับแม่น้องปราย ก็ไม่มีใคร ทางนี้ พ่อกับแม่ก็มีน้องตั้งสองคน ภาษไม่ต้องห่วงหรอกลูก เราอยู่ใกล้แค่นี้เอง ไม่มีปัญหาหรอก ใช่ไหมพ่อ” นางยุรีหันไปหาสามี“พ่อก็ไม่มีปัญหา
ที่ตรอกเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก ถ้าเป็นคนต่างถิ่นมา จะไม่รู้เลยว่า อาคารที่เรียงรายกันสองฝั่ง นี่คือโกดังผ้ามือสอง ที่มีผ้าเยอะมากๆ มันเป็นที่ๆ ปรายลดาคุ้นเคยอีกที่หนึ่ง เวลาที่ได้คัดผ้า มันเหมือนกับเธอได้หลุดไปอยู่อีกโลกหนึ่ง อาจจะดูเวอร์เกินไป ถ้าจะไปเล่าให้คนอื่นฟัง ว่ามีความรู้สึกแบบนี้ก็เหมือนคนเรา ชอบอะไรบางอย่างนั่นแหละ ชอบอ่านหนังสือ เวลาอ่านหนังสือก็จะอยู่แต่กับหนังสือ ไม่สนใจใคร คนเล่นเกมส์ก็จะมีความสุขกับการเล่นเกมส์ คนที่ชอบเย็บปักถักร้อย เวลาถักก็จะมีความสุข เพลิดเพลินกับสิ่งที่กำลังทำ“ของทั้งหมดนี้เราจะขนกลับไปยังไงอ่ะปราย ในเมื่อเราต้องไปเบตง และเราจะไปยังไง ขับรถไปเองหรือยังไง ก้อยยังคิดไม่ออกเลย”“จริงด้วย กานว่าจะถามหลายวันแล้ว แต่ไม่ได้ถามสักที” กานดาราเอ่ยขึ้นบ้างผ้านี่ปรายจะให้ร้านส่งไปที่บ้าน บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว เราจะเช่ารถตู้ไปเบตง เพราะเราคงขับกันเองไม่ไหว ไม่ชำนาญทาง ขากลับปรายจะให้ก้อยกับกาน ขึ้นเครื่องกลับ ส่วนรถคันนี้ปรายจะฝากไว้ที่ปัตตานี ปรายมีเพื่อนที่นั่น ฝากได้ จนกว่าปรายจะกลับบ้าน เราจะเช่ารถตู้จากปัตตานีไปเบตงกันนะสาวๆ ค้างที่ปัตตานี เที่ยวในเมือง ที่ปัตต
เช้านี้ที่บ้านไร่ ทุกคนรวมตัวกันที่ลานจอดรถหน้าบ้านปรายลดา“น้องปราย น้องก้อย ป้าฝากน้องกานด้วยนะลูก น้องกานอย่าลืมโทรบอกพี่เขาด้วยนะ เขาจะได้ไม่เป็นห่วง” นางดุจเดือนบอกลูกสาว นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกสาวนางเดินทางท่องเที่ยว โดยที่ไม่มีแม่และพี่ชายไปด้วย นางเชื่อมั่นในตัวกานดารา ตั้งแต่ลูกสาวนางรู้จักคบหากับปรายลดา ลูกสาวนางเข้มแข็ง และแข็งแรงมาก เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นด้วยเอาจริงนางก็ห่วง แต่ไม่ห่วงมาก เพราะมีน้องปราย น้องก้อยไปด้วย เด็กทั้งสองคนไว้ใจได้“เดี๋ยวปรายขับเองนะ ไว้ถึงประจวบค่อยให้กานขับ ทางตรงไม่ใช่หน้าเทศกาล กานขับได้อยู่แล้ว ถึงชุมพรค่อยให้ก้อยขับ ดีไหมทุกคน”ปรายลดาถามเพื่อนทั้งสองคน“ได้เลย ก้อยไม่มีปัญหา ถ้าปรายเหนื่อยตอนไหน ก้อยเปลี่ยนก็ได้ สบายมาก”“กานก็ไม่มีปัญหาเลย ตกลงตามนี้นะ “สามสาวออกเดินทางจากนครนายก นางดุจเดือน และนางกรกนก เตรียมอาหาร ให้สามสาวเต็มที่ มีแต่ขอชอบ งของทุกคนทั้งนั้น รถจิ๊ปของปรายลดาคันใหญ่ จุของได้เยอะมากปรายลดาใส่ชุดฮาวายสีเหลืองสด ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว ชุดที่เธอใส่ไม่ได้เข้ากับรถที่ขับเลย แต่เธอไม่ได้สนใจเพราะชอบ เธอชอบใส่เดรสหลวมๆ มากกว่าใส่กางเ
“น้องปราย จะไปนานไหมลูก” นายอลงกตถามลูกสาว ขณะที่สามคนพ่อแม่ลูกอยู่ในห้องพัก“ปรายว่าจะค่อยๆ เดินทางไปเรื่อยๆ ค่ะพ่อ แต่จะพักที่หาดใหญ่หลายวันหน่อย เพราะว่าปรายกับกานคุยกันว่าจะคัดผ้าค่ะ หลังจากนั้นจะไปต่อที่เบตง คิดว่าจะข้ามไปฝั่งมาเลย์ และปรายจะอยู่ที่นั่นสักพัก ส่วนก้อยกับกาน จะกลับมาก่อนค่ะ”“แล้วมีที่อยู่เหรอ ไว้ใจได้ไหมลูก” นางกรกนกลูบหัวลูกสาวด้วยความรักหญิงสาวลุกขึ้นนั่ง หลังจากที่นอนตักมารดามาสักพัก“ปรายมีเพื่อนอยู่ที่นั่นค่ะแม่ เรียนรุ่นเดียวกัน ค้าขายอยู่ทางโน้น เขาแต่งงานได้สามีเป็นคนมาเลย์ค่ะ ปรายเคยไปเที่ยวสมัยเรียน แถบที่เขาอยู่ค้าขายได้สบายเลยค่ะแม่"“พ่อกับแม่ขอให้ลูกเดินทางปลอดภัย ประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำนะลูก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามพ่อกับแม่ก็ยังรอลูกกลับบ้านเสมอ พ่อกับแม่จะปล่อยให้ลูกไปทำในสิ่งที่อยากทำ”“แล้วเรื่องพ่อตะวันล่ะลูก น้องปรายพูดให้แม่ฟังหน่อยซิ จะเอายังไงต่อไป เพราะแม่ดูแล้วว่าพ่อตะวันเขาก็คงไม่ปล่อยเราแน่ๆ โกรธและเกลียดเขามากเหรอลูก ถ้าน้องปรายรักพี่เขา เราก็ต้องปล่อยวางบ้างนะ ให้อภัยได้ก็ให้อภัยเขา แม่รู้ว่าน้องปรายไม่ชอบคนที่ไม่มีเหตุผล และคนที่เห็น