รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจ
ตอนที่ 3-รู้สึกเจ็บ
(ยอนมิน)
"มีมี่"
ผมเรียกคนที่นอนเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียง เมื่อเสียงข้อความแชตดังเข้ามา สายตาของผมเห็นข้อความแล้วว่าเพื่อนชวนไปเที่ยวคืนนี้ ทั้งที่ผมตั้งใจจะมาง้อเมีย แต่เพื่อนมันก็ชวนอยู่นั่น อยากปฏิเสธนะแต่ว่าก็นานแล้วที่ผมไม่ได้ค่อยไปเที่ยวไหน ตั้งแต่ที่มีขนมปังมาอยู่ในชีวิต ทุกอย่างผมเปลี่ยนไปจนหมด ผมเปลี่ยนได้อยู่แล้วเพื่อเธอ แม้เธอจะบอกว่าให้ผมนั้นเหมือนเดิม ไม่ต้องเพิ่มเติมหรือทำอะไร ให้เป็นตัวของตัวเองก็พอ แต่ผมมันไม่พอไง ก็อยากมีเธอในชีวิตก็ต้องยอมเสียความเป็นตัวตนบางส่วนเพื่อต้อนรับคนที่รักเข้ามาอยู่จริงไหม?
"คะ?"
เธอตอบรับแต่สายตายังคงจ้องมองโทรศัพท์มือถือแล้วยิ้ม ยิ้มอะไรวะ หรือจะคุยกับผู้ชาย? คิดได้ดังนั้นผมจึงเดินเข้าไปแล้วนั่งข้างเธอ
"ดูอะไร ทำไมยิ้ม ๆ คุยกับผู้ชายเหรอ เอามาดูดิ"
เริ่มแล้วครับ ผมเริ่มหัวเสียแล้วที่เห็นเธอยิ้มกับหน้าจอมือถือ
"มูมู่บ้าแล้ว เปล่าค่ะมีมี่แค่คุยกับดาวเรืองแล้วก็ลูกแก้ว นี่ไงคะ สองสาวนั้นชวนไปเที่ยว วันนี้ขอไปเที่ยวได้ไหมอ่ะ"
เธอยื่นโทรศัพท์ให้ผมดูครับ แล้วก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ เธอคุยแชตกับกลุ่มเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากัน เพราะด้วยหน้าที่ของแต่ละคนแต่พวกเธอก็ยังติดต่อกันด้วยการสื่อสารผ่านโซเชียล
"แล้วที่เรียกเมื่อกี้มีอะไรหรือเปล่า" เธอย้อนถามผมประกอบกับรอยยิ้มที่แสนจะกินใจผม ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี เธอก็ยังมีความน่ารักสดใสเสมอ
"จะบอกว่าวันนี้ไอ้ด็อจชวนไปเที่ยว เลยจะขอ" ผมบอกในสิ่งที่ตั้งใจ
"มีมี่ไปด้วย! นัดสองสาวนั้นเลย ไปที่เดียวกันเลยได้ไหมคะ?"
ตาโตลุกวาวเชียวครับเมื่อได้ยิน สงสัยคงอยากจะออกไปเปิดหูเปิดตา เพราะตั้งแต่เราคบกัน แทบนับครั้งได้เลยที่เราจะออกไปเที่ยวกลางคืน เพราะบ้านนี้เหมือนจะไม่ค่อยชอบการเที่ยวสถานที่อโคจร แต่เมียผมมันดื้อไงครับ อยากรู้อยากลองจนผมต้องยอมทุกที ทั้งที่พี่สาวเธอแทบไม่เคยจะก้าวขาไปยังสถานที่แบบนี้เลย แต่น้องสาวนี่แสบซนดีเหลือเกิน
"งั้นก็นัดเพื่อนแล้วไปแต่งตัวครับ แล้วก็อย่าคิดปะทะเยอะ รอปะทะกับผัวก็พอ โอเคไหม?" ผมบอกเธอด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหอมลงแก้มเนียนใสนั้น
"โอเคค่ะ...จุ๊บ!! อย่างไวเลยจ้าสามีจ๋า" เธอแตะจูบปากผมด้วยความดีใจ แล้ววิ่งอย่างไวเลยครับ เหมือนคำอนุญาตของผมนั้นเหมือนพรจากฟ้าก็ไม่ปาน ผมได้แต่ส่ายหัวแล้วยิ้ม กับความสดใสของเธอที่มีเป็นเอกลักษณ์
"มูมู่ ฝากพิมพ์แชตบอกเพื่อนในกลุ่มในด้วยค่ะ" เสียงแหลมตะโกนทะลุบานประตูห้องน้ำมาเพื่อสั่งการสามีอย่างผม แล้วถามว่ายอมไหม ก็ต้องยอมสิครับ ไม่งั้นได้งอนตุบป่องแน่นอน
"ครับผม"
///////
(ด็อจ)
"มาตรงเวลาเชียวนะมึง" ผมถามเมื่อบรรจบกับจังหวะที่ไอ้ยอนมินกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับบรรดาสาว ๆ หนึ่งสาวที่ผมรู้จักคุ้นเคยดี แต่อีกสองสาวนี่ใครวะ? คุ้น ๆ หน้าแต่ว่าผมจำไม่ค่อยได้
"สวัดสีค่ะพี่ด็อจ" ขนมปังเธอยกมือไหว้ผม พร้อมกับสองสาวสวยที่ยืนยิ้มส่งมา
"ครับ เข้าไปข้างในกันเถอะ" ผมบอกอย่างเชิญชวน เพราะเวลานี้ไอ้ศิลาคงจะมารอแล้ว รายนี้ชอบมาก่อนเวลาเป็นประจำ
"ไม่ให้ปังแนะนำเพื่อนหน่อยเหรอ" ยัยตัวแสบที่มีตำแหน่งเป็นเมียเพื่อนร้องทัก พร้อมยิ้มอ่อนส่งมา
"โอเค เดี๋ยวพี่ขอเสนอหน้าแนะนำตัวเองก่อนละกัน...พี่ชื่อด็อจนะครับ" ผมส่ายหัวแล้วยิ้มกับสิ่งที่เมียเพื่อนพูด ก่อนจะรีบแนะนำตัวเองเบนสายตาไปยังสองสาวที่ยืนสวยอยู่ข้าง ๆ ขนมปัง
"สวัสดีค่ะ ลูกแก้วค่ะ" เพื่อนสาวที่ดูจะเรียบร้อยสุดแนะนำกับผม รอยยิ้มของเธอดูอ่อนหวานมาก ๆ และดูมีเสน่ห์สุด ๆ
"ดาวเรืองค่ะ" และอีกคนก็แนะนำตาม
"ยินดีที่ได้รู้จักครับ...น้องสองคนหน้าคุ้น ๆ" ผมรับไหว้ผู้หญิงทั้งสองก่อนจะบอกเล่ากับสายตาที่ผมเห็น
"นี่อย่าบอกว่าจำไม่ได้?" ขนมปังย้อนถามผมพลางกลอกสายตามองบน ก็คนมันจำไม่ได้แล้วผมก็ไม่แน่ใจว่าเคยเจอด้วย ก็แค่มันคุ้น ๆ เกลียดสีหน้าเมียเพื่อนมากครับ อยากจะจับหัวโยก ๆ ไปมา
"ครับ" ผมตอบออกไปตรง ๆ นั่นแหละ จำไม่ได้คือจำไม่ได้
"เพื่อนปังสมัยเรียน ที่ปังเคยเอารูปให้ดูไงคะ ทำไมจำไม่ได้เพราะสวยขึ้นใช่ไหมล่ะ" ขนมปังยิ้มเยาะพร้อมกับมือเรียวตบบ่าของผมเบา ๆ เป็นจังหวะ
"สูด หื้ม มือห๊อมหอม" ผมแกล้งสูดดมความหอมจากมือของขนมปัง อยากแกล้งเพื่อนให้หัวร้อนเฉย ๆ ไม่มีอะไรครับ
"กวนตีนแล้วมึงไอ้ด็อจ...นี่ก็ปากพูดเฉย ๆ มือไม่ต้องครับที่รัก" นี่เสียงเพื่อนผมเองครับ ไอ้คนขี้หวงเมีย แล้วตอนนี้มันก็ชักสีหน้าใส่ผมด้วย ผมผิดอะไรเมียมันมาแตะตัวผมเองช่วยไม่ได้
"ขอโทษนะพี่จำไม่ได้ ก็สวยขึ้นแทบเป็นคนละคน...ไปข้างในกันเถอะ" ผมรีบกล่าวขอโทษขอโพย ก่อนจะรีบชวนทั้งหมดเข้าไปด้านในที่ไอ้ศิลาคงรออยู่แล้ว
ผมและพรรคพวกเดินเข้ามาในสถานที่บันเทิงที่ผู้คนพลุกพล่าน ผมไล่กวาดสายตามองหาเพื่อนอีกคนที่นัดแนะไว้ จนเจออีกมุมหนึ่งที่มีคนที่คุ้นสายตายืนอยู่ แต่เพราะอะไรไม่รู้สิ่งที่ผมเห็นนั้นมันทำให้ผมแทบไปต่อไม่ไหว แรงขาเหมือนจะหดหายไป มือของผมสั่นเทิ้มระรัว ก้อนเนื้อเล็ก ๆ ตรงอกข้างซ้ายแทบหยุดเต้นทันที
ผมรู้สึกเจ็บ!!
สามรักสามหัวใจตอนที่ 16(ริวจิน)“ทำไมเงินในบัญชีหายไป 20,000” อีเมียคนที่หนึ่งของผมถาม ชำเลืองมองหางตา “เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า” ผมก้มหน้าตอบแบบขอทีไปที กดจิ้มเกมเล่นแบบไม่สบตา“แล้วทำไมไม่บอกแต่ทีแรก” อีเมียคนที่สองก็แทรกต่อ ตอนนี้เหมือนผมกำลังอยู่ท่ามกลางขุมนรกยังไงไม่รู้ สายตาเมียทั้งคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวเลยครับ“บอกก็กลัวอะดิ” ผมตอบแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็แอบหวั่น ๆ อยู่ข้างใน คือเกรงใจเมียนะครับไม่ได้กลัวเลยสักนิด“เอาเงินไปเลี้ยงเด็กหมดแล้วตัวเองจะกินอะไร” เมียคนที่สองถามอีกครั้ง คนนี้ไม่อ่อนหวานกับผมสักนิด “เดือนนี้จะกินอะไร แชตไม่ให้ยืมนะบอกก่อนเลย” เมียคนที่หนึ่งของผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนนี้พูดเสียงหวานหน่อย เธอเป็นคนเรียบร้อยน่ารักครับ“ก็กินเด็กสิ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย”((ไอ้ริว!!))ให้คำตอบเมียทั้งสองจบ จากนั้นก็วิ่งสิครับ จะอยู่ทำไมให้โดนทุบ...เพราะเด็กที่ผมหมายถึงพวกเธอสองคนเข้าใจดีวันนี้ผมไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็เลยนั่งกระดกเบียร์เย็น ๆ ให้เพลิดเพลินใจอยู่ในห้อง“ทำไมต้องกินมันทุกเย็นด้วยริว ไอ้เบียร์เนี้ยมันมีดีอะไร มันเปลืองรู้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 15"ป๊าอยากมีเมียน้อย" ผมพูดขึ้น ตอนนี้นั่งเล่นและคุยกันอยู่ห้องกระจกที่ป๊าทำไว้สำหรับดูหนัง ร้องเพลงคาราโอเกะหรือสังสรรค์"เดี๋ยวก็ได้โดนสองเมียมึงทุบหรอก" แล้วป๊าก็ทำสีหน้าเหมือนหนักอกหนักใจ แล้วผมพูดผิดตรงไหน แค่บอกอยากมีเมียน้อยเองนะ"ทุบทำไมริวแค่อยากมีเมียน้อย" แล้วผมก็ถามย้ำ"แค่คิดป๊าก็เห็นอนาคตมึงละริว" แล้วป๊าก็ตอบผมพร้อมกับจ้องหน้า"ริวผิดอะไร แค่บอกว่าอยากมีเมียน้อย" จากนั้นผมก็เริ่มถกเถียง ตอนนี้สีหน้าของป๊าคือแบบว่ากำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ จะด่าทำไมผมว่าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย"ยัง ยังไม่รู้สึกอีก ริอาจจะมีเมียน้อย แค่เมียสองคนตอนนี้เลี้ยงให้รอดก่อนไหมไอ้ลูกชาย" ป๊าก็เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ แถมยังตบหัวผมแทบทิ่มกับโต๊ะอีก"ตบริวทำไมป๊า ก็ถึงบอกไงว่าอยากมีเมียน้อยเนี้ย ทำไมป๊าไม่เข้าใจริวเลย...แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไปหาแชตกับดอลลี่ดีกว่า" พอแล้วครับพูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมเลย เดินขึ้นบ้านไปหาแชตกับดอลลี่สบายหูกว่าเยอะ ดีไม่ดีได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองอีกต่างหาก"ไอ้ริวมันด่ากูโง่ทางอ้อมปะวะด็อจ" เสียงของป๊าดังตามหลัง"ไม่รู้สินะ😁" อันนี้เสียงพ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 14“ลูกแบบริวนี่แหละ โคตรสีสันของชีวิต...เราขึ้นห้องกันดีกว่า ปล่อยป๊าไว้นี่แหละ” แล้วผมก็จับมือเมียทั้งสองขึ้นห้องกัน ส่วนป๊านั้นก็อีกเดี๋ยวคงขึ้นห้องไปหาพ่อละมั้งสองเดือนผ่านไป"มานี่สิทั้งสามคน" ป๊าเรียกเมื่อเห็นพวกผมเดินมาจากสวนหลังบ้าน พาสาว ๆ ไปเดินเล่นจะได้คุ้นเคยเวลามาอยู่ที่นี่ มองไปเห็นสีหน้าของพ่อที่ดูกังวล แม้กระทั่งป๊าก็ไม่ต่างกัน ผมเดาออกว่าพวกท่านคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็คงไม่พ้นเรื่องของผมกับเมียทั้งสอง ที่ได้มาครองคู่ใช้ชีวิตกันแบบบังเอิญสามคนผัวเมีย แม้ว่ามันจะผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้คลี่คลาย ทางบ้านของแชตกับดอลลี่ยังไม่รู้เรื่องราวของลูก มีเพียงป๊ากับพ่อเท่านั้นที่รับรู้ และตอนนี้เหมือนพวกผม จะต้องถูกเคลียร์เรื่องราวแล้วล่ะ จากท่าทางของป๊าที่เป็นตอนนี้มันบ่งบอก"มีอะไรเหรอคะป๊า" เป็นดอลลี่ที่ถามขึ้น สรรพนามเปลี่ยนไป เมื่อป๊ากับพ่อบอกให้เรียกตามผม เพราะยังไงก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว"จะอยู่กันแบบนี้จริงเหรอ?" พ่อถามแทนครับ"อยู่ไม่ได้เหรอ?" ผมย้อนถามคืน ก็อยู่กันมาตั้งหลายเดือนแล้ว พ่อก็นะไม่น่าถาม"ไอ้ได้มันก็ได้ แต่แบบนี้มันมีใคร
สามรักสามหัวใจตอนที่ 13“ต้องมีฉันด้วย!”“เฮ้อ”ผมถึงกับถอนหายใจเลยครับ เมื่อดอลลี่เธอตะเบ็งเสียงแข็งข่มใส่ ยังไงก็ต้องไปแพ็คคู่ให้ได้ใช่ไหม?“เออ รับผิดชอบทั้งสองคนนั่นแหละ” ผมตบปากรับคำเสร็จ ก็เดินเข้าห้องน้ำเลยครับ แล้วจะบอกกับพ่อยังไงล่ะทีนี้ ลูกชายสุดหล่อแบบผม มีเมียทั้งทีได้มาแพ็คคู่ซะงั้น โคตรล้ำเลยครับเมื่อพวกเราเคลียร์อะไรกันลงตัว จากที่เหมือนจะยากแต่ก็ดันง่ายดาย แรก ๆ ผมโคตรจะวุ่นวายมาก ไม่กล้าที่จะบอกป๊ากับพ่อเรื่องที่ผมก่อขึ้น จนตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมกับแชตและดอลลี่เหมือนเราสามคนจะเข้ากันได้ดี แชตก็ไปทำงานกับผมอยู่แล้ว ส่วนดอลลี่แน่นอนว่าเธอเป็นลูกค้าของบริษัท ไม่ได้ยากเลยกับการที่จะทำงานหรือว่าติดต่อกันตอนนี้ผมกับพวกเธอเราตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อย อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือนแล้ว และวันนี้ผมคิดว่าคงต้องบอกให้ป๊ากับพ่อได้รับรู้ ไม่อยากจะอยู่แบบหลบซ่อนแล้วล่ะ เพราะยังไงสักวันป๊ากับพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี วันนี้ตอนเย็นเลยตั้งใจว่าจะพาไปแนะนำกับที่บ้าน ซึ่งผมก็ได้คุยกับพวกเธอไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นัดกันออกไปทำสวยอยู่ บางทีผมก็แอบคิดว่าพวกเธอจะไปแอบกินกันเองลับหลังผมไหม ซึ่งผมยอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 12“โอ๊ย!! โยนมาได้ หมาตัวไหนวะ” เสียงคนเมาทำเอาผมรีบดีดตัวลุกจากแชต แล้วยื่นมือให้เธอจับลุก“ดอลลี่เป็นไงบ้าง” แชตรีบวิ่งเข้าไปประคองดอลลี่ให้ลุกยืน ผมว่าแชตคงเอาดอลลี่ไม่ไหวหรอก เมาเละเทะซะขนาดนั้น งานนี้ต้องพระเอกมาแล้วล่ะ“มา ริวช่วยเพราะแชตคงพาดอลลี่กลับไม่ไหว ไปริวจะไปส่ง” ผมพูดอาสา“ดี!! ไปดวลกันที่ห้องเลยจะได้จบ ๆ ตัดสินกันไปเลย” คนเมาก็ยังพูดต่อ ชี้มั่วซั่วไปหมดหลงทิศทาง จนผมกับแชตต้องถอนหายใจแรงอย่างระอา“ขอบใจนะริว”“ได้เสมอแหละ ริวทำเพราะแชตหรอกนะ ไม่ใช่ทำเพราะใคร”“ปากหวานเชียวนะ”“เมื่อกี้ก็ลองแล้ว น่าจะรู้รสชาติดี”“ไม่คุยกับริวแล้ว...รถแชตอยู่ทางนั้น”แชตดูเขินอาย เพราะจากการอมยิ้มผมว่าใช่ เธอหลบสายตาที่ผมจ้องมอง ก่อนจะบ่ายเบี่ยงเฉไฉไปเรื่องอื่นจากนั้นผมก็อาสาขับรถพาพวกเธอมาส่งที่พัก มันเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากร้านที่ผมนัดกับเพื่อน ประคองพาดอลลี่ขึ้นมายังชั้นที่พวกเธออยู่ เพราะถ้าให้แชตแบกมาคนเดียวมีหวังไม่รอด ผมสงสารแชตที่ต้องมาเจอตัวภาระแบบนี้จริง ๆ เลยครับ“ขอบใจนะริว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา” แชตเธอพูดขึ้น เมื่อผมแบกดอลลี่มาส่งที่ห้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 11“รู้จักกันเหรอ?” ป๊าถามขึ้นเมื่อเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ที่แย่งผมอะ เพราะปกติผมจะนั่งทุกวัน แต่วันนี้เว้นให้ชั่วโมงหนึ่งละกัน“รู้จักสิป๊า รู้จักดีเลยล่ะ ใช่ไหมครับแชต” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างแชต แล้วตอบป๊าไป สายตาจ้องมองแค่แชตเท่านั้น ส่วนป๊าผมไม่ได้สนใจมาก ไม่ได้พิศวาสเท่าผู้หญิงตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว“ให้มันน้อย ๆ หน่อยริว นี่ที่ทำงาน”“แล้วไง”ป๊าพูดขึ้นซึ่งผมก็ไม่รู้หรอก ป๊าจะมีสีหน้ายังไง เพราะตอนนี้ผมอยากมองแค่แชตคนเดียว“หน้าป๊าอยู่นี่ริว สนใจก็ที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้ามึงสักแป๊บได้ไหม?” น้ำเสียงเริ่มจะกริ้วแล้ว ฉะนั้นผมควรจะทำตาม“ก็ได้ อย่าคุยนานนะริวอยากทำงานละ” มันก็แค่ข้ออ้างอะนะ ที่จริงอยากจะจีบสาวให้ติดมากกว่า อุตส่าห์ฟ้าเข้าข้างขนาดนี้ ต้องรีบทำคะแนน เพราะเดี๋ยวยัยดอลลี่ปากจัดจะแซงซะก่อน“แนะนำตัว” ป๊าสั่งเสียงเข้ม จากนั้นแชตก็เริ่มแนะนำตัวไปเรื่อย ๆ ส่วนผมก็นั่งมองเธอ ปากกระจับเล็ก ๆ ที่ขยับเวลาพูดมันดูน่าหลงใหล ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาไปไหน แชตดูน่ารักอ่อนหวาน ทั้งท่าทาง แววตา ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเธอ มันทำให้ผมไม่อาจจะละสายตามองได้เลย