รักครั้งนี้ต้องทุ่มทั้งใจ
ตอนที่ 4
[ไม่เป็นไร(แต่ข้างในโคตรเจ็บ)]
(ด็อจ)
"......" สิ่งที่ผมเห็นทำให้ผมนิ่งทันที มันเจ็บปวดตรงอกข้างซ้าย เหมือนใครเอาฝ่าเท้ามาเหยียบหัวใจของผมซ้ำ ๆ ไปมา เจ็บปวดกับภาพตรงหน้าที่เห็น เหมือนมีใครเอาน้ำแข็งเย็นมาถูจนผมหน้าชา คนที่บอกว่ารักผม คนที่มักบอกผมว่าทำงานยุ่ง จนหลัง ๆ เราแทบไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน แต่ผมก็เชื่อในคำปากนั้นและไว้ใจ เพราะหน้าที่การงานของเขามันยุ่งจริง ๆ เพราะผมเคยเห็นมาก่อนหน้าแล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเป็นเพียงคำลวง
"เป็นอะไรวะด็อจ"
"....."
"ไอ้ด็อจ!"
"หา ห๊ะ!"
แล้วผมก็ต้องรีบคืนสติกลับมาอยู่กับตัว เมื่อเพื่อนเขย่าแขนและตะเบ็งเสียงดังร้องถาม สิ่งที่เห็นนั้นทำให้ผมแทบช๊อก แทบลืมหายใจไป
"พี่ด็อจเป็นอะไรไหม ทำไมสีหน้าพี่ดูไม่โอเคเลย" เป็นขนมปังที่ถามผมต่อ ด้วยสีหน้าที่เธอดูกังวล จ้องมองหน้าผมอย่างพิจารณา
"พี่ไม่เป็นไรครับ ...(แต่ข้างในโคตรเจ็บเลย)..." ผมยิ้มแห้ง ๆ ให้คนตัวเล็ก ให้คำตอบในสิ่งที่เธอถาม ก่อนจะพร่ำพูดลำพังในใจด้วยความเสียใจและเจ็บปวดที่หัวใจแทบแหลกสลาย
"แน่ใจนะคะ" คนตัวเล็กที่ยืนข้างไอ้ยอนมินถามย้ำผมอีกครั้ง
"ครับ" ผมตอบแค่นั้นแล้วเดินนำหน้าเข้าไปข้างใน ไม่อยากพูดอะไรต่อให้มากความ ไม่อยากให้ใครถามอะไรมากมายต่อจากนี้ เพราะผมคงจะพูดไม่ออกและคงจะบอกไม่ถูก มันจุกมันเจ็บไปทั้งขั้วหัวใจ
(ยอนมิน)
"ปังว่าพี่ด็อจแปลก ๆ" ขนมปังที่ยืนมองตามหลังของเพื่อนแฟน เธอหันมาพูดกับเพื่อน ๆ ของเธอด้วยความสงสัย
ผมก็ได้แต่ยืนรอฟังเงียบ ๆ ผมรู้ดีว่าที่ไอ้ด็อจเป็นอะไร เมื่อเห็นกับใครคนหนึ่งที่มันเคยพาไปแนะนำให้รู้จัก นั่งคลอเคลียทั้งจูบทั้งหอมกับผู้ชายอยู่
"นั่นสิ ดาวเรืองเห็นจ้องมองไปตรงนั้นแล้วพี่เขาก็เงียบ" ดาวเรืองว่าเสริมอย่างออกความเห็นครับ ตอนนี้ทั้งสามสาวยืนสุมหัวพูดคุยกัน เหมือนกับผมไม่มีตัวตน
"ลูกแก้วว่าพี่ด็อจเหมือนคนอกหัก" และนั่นก็เป็นเสียงของเพื่อนอีกคน หวังว่าคงไม่ยืนคุยกันตรงนี้หรอกนะ แต่ผมว่าท่าจะยาว เพราะผู้หญิงถ้าได้เม้านี่ค่อนข้างออกนอกทะเล
"อะแฮ่ม พี่ว่าเราไปนั่งข้างในดีไหม คุยตรงนี้เดี๋ยวเมื่อยขาเอานะ" ผมต้องรีบแทรกบทสนทนาครับ ไม่งั้นยาว~~
"ปะ ๆ เราเข้าไปกันดีกว่า" เป็นเสียงของแฟนตัวแสบของผม ที่เดินจับมือเพื่อนทั้งสองเข้าไปด้านในด้วยความรีบร้อน ส่วนผมนั้นก็ได้แต่เดินตามหลัง คิดห่วงเพื่อนที่ต้องมาเจอเรื่องราวที่คงทำมันเจ็บไม่น้อย
"มาช้าว่ะ" เป็นเสียงของไอ้ศิลาที่ทักพวกผม
"พวกกูมาช้าหรือมึงมาเร็ว พูดให้เคลียร์" ผมย้อนเพื่อน พร้อมกับดึงขนมปังให้นั่งลงข้าง ๆ ส่วนเพื่อนผมอีกคนนั้นเงียบกริบ มาถึงก็จัดการสั่งเครื่องดื่มอย่างเดียว ซึ่งผมก็รู้ดีว่าเพราะอะไร
"พี่ศิลานี่เพื่อนปังค่ะ ดาวเรืองกับลูกแก้ว จำได้ไหมที่เคยเอารูปให้ดู" แล้วแฟนผมก็แนะนำเพื่อนของเธอกับไอ้ศิลา ส่วนผมเหรอนั่งคลอเคลียเมียอย่างเดียวครับ
"สวัสดีค่ะพี่ศิลา" ทั้งสองสาวทักทายเพื่อนผมพร้อมรอยยิ้มสวย ๆ และสายตาที่จับจ้องมองหน้าเพื่อนของผม
"ครับ" ไอ้ศิลามันตอบแค่นั้นจริง ๆ ครับ แต่มันก็โปรยรอยยิ้มที่แสนจะละลายใจสาว
"เห้ย ๆ เบา ๆ ไอ้ด็อจ" เมื่อเครื่องดื่มที่สั่งมาถูกวางลงตรงหน้า ไอ้ด็อจที่เสียใจเหมือนอกหัก จัดการกระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่รอใคร จึงทำให้ผมนั้นรีบร้องปรามไว้
"มันเป็นอะไรวะ" ไอ้ศิลาที่ไม่รู้เรื่องราว หันมาถามผม
"เสือก!" แล้วไอ้ด็อจก็ตอบแทรกอย่างหงุดหงิด ซึ่งผมน่ะเข้าใจความรู้สึกของมันดี
"เอ้าไอ้นี่ กูแค่ถามไหม?" ไอ้ศิลามันรีบสวนทันทีด้วยความหัวเสียเลยครับ
"ใจเย็น เพื่อนกันบางทีไอ้ด็อจอาจจะมีเรื่องไม่สบายใจก็ได้ มา ๆ ชนดีกว่า" ผมรีบแย้งเมื่อเห็นไอ้ศิลาเหมือนเคืองเพื่อน
"ขอชนด้วยได้ไหมคะ...ขอวันหนึ่งได้ปะ?" นั่นไงยัยตัวแสบของผม เริ่มออดอ้อนขอดื่มอีกแล้ว
"ดื่มแค่นั้นพอครับ น้ำสีสวยกับคนสวย ๆ เดี๋ยวคืนนี้หนูไม่มีสติ มันจะ..." ผมกระซิบลงข้างหูเธอที่ได้ยินเพียงสองคน
"อย่ามา..." เธอเขม็งตาใส่ผมเหมือนจะรู้ทันว่าผมหมายถึงอะไร
"ไม่มีข้อแม้ครับ ผัวให้ดื่มแค่นั้น หรือไม่งั้นก็กลับบ้านดีไหม?" ผมแข็งข้อครับเพราะเป็นห่วงเธอ
"เหมือนพวกกูไม่มีตัวตน เป็นธาตุอากาศไว้ประดับโต๊ะมึงเนาะไอ้ยอนมิน" ผมหันไปตามเสียงที่พูดแซว และมีสายตาหลายคู่มองมาที่ผมกับขนมปังแล้วยิ้ม สองสาวเพื่อนของเธอก็เช่นกัน
"อิจฉานะคะ เห็นใจคนโสดอย่างลูกแก้วบ้าง" เป็นลูกแก้วครับที่แซวผมกับขนมปัง
"ถ้าไม่อยากโสด มาลองคบกับพี่ดูไหมครับ"
((!!!))
สามรักสามหัวใจตอนที่ 16(ริวจิน)“ทำไมเงินในบัญชีหายไป 20,000” อีเมียคนที่หนึ่งของผมถาม ชำเลืองมองหางตา “เอาไปทำบุญเลี้ยงเด็กที่บ้านเด็กกำพร้า” ผมก้มหน้าตอบแบบขอทีไปที กดจิ้มเกมเล่นแบบไม่สบตา“แล้วทำไมไม่บอกแต่ทีแรก” อีเมียคนที่สองก็แทรกต่อ ตอนนี้เหมือนผมกำลังอยู่ท่ามกลางขุมนรกยังไงไม่รู้ สายตาเมียทั้งคู่จ้องมาที่ผมเป็นตาเดียวเลยครับ“บอกก็กลัวอะดิ” ผมตอบแบบหน้าด้าน ๆ ทั้งที่ก็แอบหวั่น ๆ อยู่ข้างใน คือเกรงใจเมียนะครับไม่ได้กลัวเลยสักนิด“เอาเงินไปเลี้ยงเด็กหมดแล้วตัวเองจะกินอะไร” เมียคนที่สองถามอีกครั้ง คนนี้ไม่อ่อนหวานกับผมสักนิด “เดือนนี้จะกินอะไร แชตไม่ให้ยืมนะบอกก่อนเลย” เมียคนที่หนึ่งของผมพูดขึ้นอีกครั้ง คนนี้พูดเสียงหวานหน่อย เธอเป็นคนเรียบร้อยน่ารักครับ“ก็กินเด็กสิ ไม่เห็นจะยุ่งยากอะไรเลย”((ไอ้ริว!!))ให้คำตอบเมียทั้งสองจบ จากนั้นก็วิ่งสิครับ จะอยู่ทำไมให้โดนทุบ...เพราะเด็กที่ผมหมายถึงพวกเธอสองคนเข้าใจดีวันนี้ผมไม่ได้ไปไหน เพราะเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ก็เลยนั่งกระดกเบียร์เย็น ๆ ให้เพลิดเพลินใจอยู่ในห้อง“ทำไมต้องกินมันทุกเย็นด้วยริว ไอ้เบียร์เนี้ยมันมีดีอะไร มันเปลืองรู้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 15"ป๊าอยากมีเมียน้อย" ผมพูดขึ้น ตอนนี้นั่งเล่นและคุยกันอยู่ห้องกระจกที่ป๊าทำไว้สำหรับดูหนัง ร้องเพลงคาราโอเกะหรือสังสรรค์"เดี๋ยวก็ได้โดนสองเมียมึงทุบหรอก" แล้วป๊าก็ทำสีหน้าเหมือนหนักอกหนักใจ แล้วผมพูดผิดตรงไหน แค่บอกอยากมีเมียน้อยเองนะ"ทุบทำไมริวแค่อยากมีเมียน้อย" แล้วผมก็ถามย้ำ"แค่คิดป๊าก็เห็นอนาคตมึงละริว" แล้วป๊าก็ตอบผมพร้อมกับจ้องหน้า"ริวผิดอะไร แค่บอกว่าอยากมีเมียน้อย" จากนั้นผมก็เริ่มถกเถียง ตอนนี้สีหน้าของป๊าคือแบบว่ากำลังด่าผมอยู่แน่ ๆ จะด่าทำไมผมว่าก็ไม่ได้พูดอะไรผิดสักหน่อย"ยัง ยังไม่รู้สึกอีก ริอาจจะมีเมียน้อย แค่เมียสองคนตอนนี้เลี้ยงให้รอดก่อนไหมไอ้ลูกชาย" ป๊าก็เริ่มจะบานปลายไปกันใหญ่ แถมยังตบหัวผมแทบทิ่มกับโต๊ะอีก"ตบริวทำไมป๊า ก็ถึงบอกไงว่าอยากมีเมียน้อยเนี้ย ทำไมป๊าไม่เข้าใจริวเลย...แค่นี้ก็ไม่รู้เรื่อง ไปหาแชตกับดอลลี่ดีกว่า" พอแล้วครับพูดยังไงก็ไม่เข้าใจผมเลย เดินขึ้นบ้านไปหาแชตกับดอลลี่สบายหูกว่าเยอะ ดีไม่ดีได้ออกกำลังกายเพิ่มความแข็งแรงให้ตัวเองอีกต่างหาก"ไอ้ริวมันด่ากูโง่ทางอ้อมปะวะด็อจ" เสียงของป๊าดังตามหลัง"ไม่รู้สินะ😁" อันนี้เสียงพ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 14“ลูกแบบริวนี่แหละ โคตรสีสันของชีวิต...เราขึ้นห้องกันดีกว่า ปล่อยป๊าไว้นี่แหละ” แล้วผมก็จับมือเมียทั้งสองขึ้นห้องกัน ส่วนป๊านั้นก็อีกเดี๋ยวคงขึ้นห้องไปหาพ่อละมั้งสองเดือนผ่านไป"มานี่สิทั้งสามคน" ป๊าเรียกเมื่อเห็นพวกผมเดินมาจากสวนหลังบ้าน พาสาว ๆ ไปเดินเล่นจะได้คุ้นเคยเวลามาอยู่ที่นี่ มองไปเห็นสีหน้าของพ่อที่ดูกังวล แม้กระทั่งป๊าก็ไม่ต่างกัน ผมเดาออกว่าพวกท่านคิดเรื่องอะไรอยู่ ก็คงไม่พ้นเรื่องของผมกับเมียทั้งสอง ที่ได้มาครองคู่ใช้ชีวิตกันแบบบังเอิญสามคนผัวเมีย แม้ว่ามันจะผ่านมาร่วมสองเดือนแล้ว แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้คลี่คลาย ทางบ้านของแชตกับดอลลี่ยังไม่รู้เรื่องราวของลูก มีเพียงป๊ากับพ่อเท่านั้นที่รับรู้ และตอนนี้เหมือนพวกผม จะต้องถูกเคลียร์เรื่องราวแล้วล่ะ จากท่าทางของป๊าที่เป็นตอนนี้มันบ่งบอก"มีอะไรเหรอคะป๊า" เป็นดอลลี่ที่ถามขึ้น สรรพนามเปลี่ยนไป เมื่อป๊ากับพ่อบอกให้เรียกตามผม เพราะยังไงก็ตัดสินใจอยู่ด้วยกันแล้ว"จะอยู่กันแบบนี้จริงเหรอ?" พ่อถามแทนครับ"อยู่ไม่ได้เหรอ?" ผมย้อนถามคืน ก็อยู่กันมาตั้งหลายเดือนแล้ว พ่อก็นะไม่น่าถาม"ไอ้ได้มันก็ได้ แต่แบบนี้มันมีใคร
สามรักสามหัวใจตอนที่ 13“ต้องมีฉันด้วย!”“เฮ้อ”ผมถึงกับถอนหายใจเลยครับ เมื่อดอลลี่เธอตะเบ็งเสียงแข็งข่มใส่ ยังไงก็ต้องไปแพ็คคู่ให้ได้ใช่ไหม?“เออ รับผิดชอบทั้งสองคนนั่นแหละ” ผมตบปากรับคำเสร็จ ก็เดินเข้าห้องน้ำเลยครับ แล้วจะบอกกับพ่อยังไงล่ะทีนี้ ลูกชายสุดหล่อแบบผม มีเมียทั้งทีได้มาแพ็คคู่ซะงั้น โคตรล้ำเลยครับเมื่อพวกเราเคลียร์อะไรกันลงตัว จากที่เหมือนจะยากแต่ก็ดันง่ายดาย แรก ๆ ผมโคตรจะวุ่นวายมาก ไม่กล้าที่จะบอกป๊ากับพ่อเรื่องที่ผมก่อขึ้น จนตอนนี้ทุกอย่างมันดีขึ้น ผมกับแชตและดอลลี่เหมือนเราสามคนจะเข้ากันได้ดี แชตก็ไปทำงานกับผมอยู่แล้ว ส่วนดอลลี่แน่นอนว่าเธอเป็นลูกค้าของบริษัท ไม่ได้ยากเลยกับการที่จะทำงานหรือว่าติดต่อกันตอนนี้ผมกับพวกเธอเราตกลงคบกันเป็นที่เรียบร้อย อยู่ด้วยกันมาเกือบเดือนแล้ว และวันนี้ผมคิดว่าคงต้องบอกให้ป๊ากับพ่อได้รับรู้ ไม่อยากจะอยู่แบบหลบซ่อนแล้วล่ะ เพราะยังไงสักวันป๊ากับพ่อก็ต้องรู้อยู่ดี วันนี้ตอนเย็นเลยตั้งใจว่าจะพาไปแนะนำกับที่บ้าน ซึ่งผมก็ได้คุยกับพวกเธอไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้นัดกันออกไปทำสวยอยู่ บางทีผมก็แอบคิดว่าพวกเธอจะไปแอบกินกันเองลับหลังผมไหม ซึ่งผมยอ
สามรักสามหัวใจตอนที่ 12“โอ๊ย!! โยนมาได้ หมาตัวไหนวะ” เสียงคนเมาทำเอาผมรีบดีดตัวลุกจากแชต แล้วยื่นมือให้เธอจับลุก“ดอลลี่เป็นไงบ้าง” แชตรีบวิ่งเข้าไปประคองดอลลี่ให้ลุกยืน ผมว่าแชตคงเอาดอลลี่ไม่ไหวหรอก เมาเละเทะซะขนาดนั้น งานนี้ต้องพระเอกมาแล้วล่ะ“มา ริวช่วยเพราะแชตคงพาดอลลี่กลับไม่ไหว ไปริวจะไปส่ง” ผมพูดอาสา“ดี!! ไปดวลกันที่ห้องเลยจะได้จบ ๆ ตัดสินกันไปเลย” คนเมาก็ยังพูดต่อ ชี้มั่วซั่วไปหมดหลงทิศทาง จนผมกับแชตต้องถอนหายใจแรงอย่างระอา“ขอบใจนะริว”“ได้เสมอแหละ ริวทำเพราะแชตหรอกนะ ไม่ใช่ทำเพราะใคร”“ปากหวานเชียวนะ”“เมื่อกี้ก็ลองแล้ว น่าจะรู้รสชาติดี”“ไม่คุยกับริวแล้ว...รถแชตอยู่ทางนั้น”แชตดูเขินอาย เพราะจากการอมยิ้มผมว่าใช่ เธอหลบสายตาที่ผมจ้องมอง ก่อนจะบ่ายเบี่ยงเฉไฉไปเรื่องอื่นจากนั้นผมก็อาสาขับรถพาพวกเธอมาส่งที่พัก มันเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ไกลมากนักจากร้านที่ผมนัดกับเพื่อน ประคองพาดอลลี่ขึ้นมายังชั้นที่พวกเธออยู่ เพราะถ้าให้แชตแบกมาคนเดียวมีหวังไม่รอด ผมสงสารแชตที่ต้องมาเจอตัวภาระแบบนี้จริง ๆ เลยครับ“ขอบใจนะริว ขอโทษด้วยนะที่ทำให้เสียเวลา” แชตเธอพูดขึ้น เมื่อผมแบกดอลลี่มาส่งที่ห้
สามรักสามหัวใจตอนที่ 11“รู้จักกันเหรอ?” ป๊าถามขึ้นเมื่อเดินไปนั่งเก้าอี้ประจำตำแหน่ง ที่แย่งผมอะ เพราะปกติผมจะนั่งทุกวัน แต่วันนี้เว้นให้ชั่วโมงหนึ่งละกัน“รู้จักสิป๊า รู้จักดีเลยล่ะ ใช่ไหมครับแชต” ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างแชต แล้วตอบป๊าไป สายตาจ้องมองแค่แชตเท่านั้น ส่วนป๊าผมไม่ได้สนใจมาก ไม่ได้พิศวาสเท่าผู้หญิงตรงหน้าเลยแม้แต่นิดเดียว“ให้มันน้อย ๆ หน่อยริว นี่ที่ทำงาน”“แล้วไง”ป๊าพูดขึ้นซึ่งผมก็ไม่รู้หรอก ป๊าจะมีสีหน้ายังไง เพราะตอนนี้ผมอยากมองแค่แชตคนเดียว“หน้าป๊าอยู่นี่ริว สนใจก็ที่เป็นพ่อบังเกิดเกล้ามึงสักแป๊บได้ไหม?” น้ำเสียงเริ่มจะกริ้วแล้ว ฉะนั้นผมควรจะทำตาม“ก็ได้ อย่าคุยนานนะริวอยากทำงานละ” มันก็แค่ข้ออ้างอะนะ ที่จริงอยากจะจีบสาวให้ติดมากกว่า อุตส่าห์ฟ้าเข้าข้างขนาดนี้ ต้องรีบทำคะแนน เพราะเดี๋ยวยัยดอลลี่ปากจัดจะแซงซะก่อน“แนะนำตัว” ป๊าสั่งเสียงเข้ม จากนั้นแชตก็เริ่มแนะนำตัวไปเรื่อย ๆ ส่วนผมก็นั่งมองเธอ ปากกระจับเล็ก ๆ ที่ขยับเวลาพูดมันดูน่าหลงใหล ยิ่งมองก็ยิ่งไม่อยากละสายตาไปไหน แชตดูน่ารักอ่อนหวาน ทั้งท่าทาง แววตา ทุกอย่างที่อยู่บนตัวเธอ มันทำให้ผมไม่อาจจะละสายตามองได้เลย