“หมิงลี่หยางคนเลว ข้าจะไม่สนใจท่านแล้ว”“ท่านหญิงเดี๋ยวสิเพคะ”“ท่านหญิง”ถิงถิงกำลังจะหันกลับออกไปแต่ไม่ทันได้เดินออกไปเสียงประตูด้านหลังก็เปิดออกมา พวกนางจึงรีบวิ่งไปหลบอีกครั้ง ประตูที่เปิดออกพร้อมกับเสียงเหมือนใครถูกถีบออกมาจากห้อง“ผลั่ก”“โอ๊ย ปล่อยข้านะ”“ว๊ายย นั่นมัน…”หลินเย่วซินที่สวมแต่ชุดชั้นใน ชุดนางถูกฉีกออกจนหมดถูกไพล่มือด้านหลังจะมัดด้วยชุดที่ฉีกขาดถูกเป่าอี้ลากขึ้นมาหลังจากที่นางถูกองค์รัชทายาทถีบออกมาจากห้อง“เจ้าช่างบังอาจนัก ลักลอบเข้าห้ององค์รัชทายาทแห่งฉีโจว”“นี่มันอะไรกัน ตายแล้ว ดูสภาพนางสิ น่าอับอายเสียจริง นั่นนางเกือบจะแก้ผ้าแล้วนะ”“ห้ามมองข้านะ หยุดนะ องค์ชายเพคะ เหตุใดทำกับหม่อมฉันเช่นนี้ องค์รัชทายาท”“ข้าควรต้องถามเจ้า ว่าเจ้าต้องการจะทำสิ่งใด ยั่วยวนข้างั้นหรือ เจ้าไม่รู้ฐานะตัวเองเลยงั้นหรือว่าเจ้าเป็นผู้ใด หลินเยว่ซิน กล้าเข้าห้องของข้าโดยที่ไม่มีคำสั่ง”“แต่ว่าหม่อมฉันเป็น…”“ทหาร!!”“พ่ะย่ะค่ะ”“เอานางไปโบยสิบไม้แล้วจับนางออกไปนอกวัง อย่าให้ข้าเห็นหน้านางอีก”“รับด้วยเกล้าพ่ะย่ะค่ะ”“ไม่นะ องค์รัชทายาท หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ ไม่ทำอีกแล้วเพคะ อย
“นางช่างไร้มารยาทและอวดเก่งเสียจริงๆ”“เจ้ายังไม่รู้ความโหดเหี้ยมขององค์รัชทายาท เจ้าจำไม่ได้หรือที่เขาปล่อยนางไว้ในป่าคนเดียวกับรถม้า เป็นข้าคงกลัวจนสติแตกไปแล้ว แล้วนางยังถูกองค์รัชทายาทด่าต่อหน้าองค์ชายทั้งสิบเอ็ดแคว้นในงานเลี้ยงน้ำชาวันก่อนด้วยนะ”“แต่นางก็ยังไม่เข็ด ไม่สำนึกเลย”“อีกไม่นานหรอก นางคงจะเจอของจริง เราไปกันเถอะ”ขบวนนั้นแห่ไปรอบเมืองพร้อมกับผู้คนที่คอยรับเสด็จทั้งสองข้างทางด้วยความชื่นชมความงดงามของท่านหญิงฟ่านถิงถิงแห่งม่านโจว รอยยิ้มของนางสร้างความประทับใจให้กับชาวเมืองอย่างมากตำหนักท่านอ๋องฟ่าน“หมายความว่าเรื่องที่ท่านไปช่วยนางที่เขาหนานเซียงทันนั่นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ”“ใช่แล้ว ข้าเฝ้าตามหานางตั้งแต่ข่าวว่าอาจารย์เฟยเทียนสิ้น ข้าไม่เคยเชื่อว่าน้องสาวข้าจะตาย ข้าเกือบหมดหวังแล้ว ตอนที่ขึ้นเขาแล้วพบแค่ซากบ้านที่ถูกเผา เสด็จอารู้ว่าข้าแทบจะไม่เป็นคนแล้ว จึงได้สั่งให้ข้าไปประจำอยู่ชายแดนจนพบกับท่าน ข้าเลยรู้สึกอยากมีชีวิตอีกครั้ง”“ข้างั้นหรือ ทำไมกัน”“ท่านแข็งแกร่ง ไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่อยู่ข้างหน้าทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่ามันจะมาดีหรือร้าย ท่านก็ยังคงหนักแน่น มั่นคง เด็ด
ถิงถิงค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้ตำแหน่งที่เขาอยู่มากขึ้น หมิงลี่หยางไม่รู้ว่าควรคิดอะไรก่อนดี ไม่ว่าเรื่องที่ว่าจู่ๆ นางมาอยู่ที่นี่ได้เช่นไร และเป็นถึงท่านหญิงแห่งม่านโจว หรือว่าพิธีประลองการคัดเลือกคู่ครองที่เขาเฝ้าพร่ำด่ากับนางก่อนที่จะมาที่นี่ หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ของนางกับฟ่านหยวนผิง“ท่านอ๋องพ่ะย่ะค่ะ”จอกเหล้าในมือถูกเป่าอี้รับไปก่อนที่มันจะร่วงเพราะสายตาของหมิงลี่หยางตอนนี้มองไปที่ถิงถิงอย่างไม่ลดละเหมือนกับคนอื่นๆ ก่อนหน้านี้ที่เขาเอ่ยวาจาดูถูกเอาไว้ ฟ่านหยวนผิงยืนยิ้มอย่างภาคภูมิใจเมื่อเห็นท่าทีนี้ของหมิงลี่หยาง ในที่สุดบุรุษที่ชนะมาแล้วทุกศึกอย่างเขาก็พ่ายแพ้ต่อความงามของถิงถิงตามที่หยวนผิงคาดการณ์เอาไว้“หม่อมฉันฟ่านถิงถิง ถวายบังคมฝ่าบาท ขอพระองค์อายุยืนหมื่นปี หมื่นหมื่นปีเพคะ”ที่ปรึกษาของฝ่าบาทเดินออกมาเพื่อประกาศราชโองการแต่งตั้งท่านหญิง“ด้วยองค์การแห่งฟ้า วันนี้ฮ่องเต้ฟ่านเผิงแห่งราชวงศ์ฟ่านแห่งม่านโจว มีพระบัญชาแต่งตั้งฟ่านถิงถิงเป็นฟ่านถิงถิงจวิ้นจู่ ท่านหญิงแห่งม่านโจวนับแต่นี้ ให้ปกครองราษฎร์สามพันครัวเรือน มอบสิงโตหยกคู่ ทองคำสิบหีบ เงินสามแสนตำลึงทอง ผ้าไหมทองพระร
“ท่านกลัวนางรู้ด้วยหรือ หากว่าท่านไม่ได้คิดอะไรทำไมต้องกลัวถิงถิงจะโกรธด้วย”“แม่นางหลินคนนี้เคยทำเรื่องเลวร้ายกับนาง แล้วหากถิงถิงรู้ว่านางมากับข้า เป็นท่านจะไม่โกรธข้างั้นหรือ แม้ว่าจะต้องใช้เวลาอธิบายก็เถอะ แต่ข้าไม่อยากให้นางระคายใจเพราะเรื่องนี้”“ข้าเข้าใจแล้ว ท่านรอบคอบยิ่งนักแต่ข้าคิดว่าท่านไม่ควรปกปิดเรื่องนี้กับนาง ท่าทีของท่านแสดงออกชัดเจนต่อหน้าคนอื่นขนาดนี้ ข้ายังรู้สึกภูมิใจแทนถิงถิงจริงๆ”“แต่นางไม่รู้นี่ ข้าพานางมาด้วยเพราะขัดคำสั่งเสด็จพ่อไม่ได้ เลยจำใจต้องพามา ไม่ได้อยากพามาด้วยเสียหน่อย ข้าไม่อยากรับผิดชอบอะไรนางทั้งสิ้นไม่รู้ว่ามาที่นี่นางจะก่อเรื่องอะไรอีก”“ให้ข้าช่วยได้นะ ข้าจะส่งคนคอยจับตามองนางให้”“ได้เช่นนั้นก็ขอบคุณท่านมากเลย เพราะข้าไม่นึกอยากจะสนใจนางเท่าใดนัก มาเพียงเพื่อพบสหาย ร่วมงานแล้วก็จะรีบกลับไปรับถิงถิงที่หย่งโจว”“ไปรับนางหรือ รับนางทำไมกัน หรือว่าท่านคิดจะพานางเข้าวังหลวง”“ใช่ ข้าบอกเสด็จพ่อเอาไว้แล้ว แต่ว่ายังไม่ได้บอกว่านางเป็นผู้ใด”“เสด็จพ่อท่านจะยอมหรือ ท่านเป็นถึงองค์รัชทายาทของแคว้น จะอภิเษกกับสตรีธรรมดา แบบนี้มัน…” “นางมิใช่ส
หลินเยว่ซินเดินทางมาถึงช่วงหัวค่ำ เมื่อนางมาถึงก็มีคนนำทางไปยังที่พักเมื่อถึงแล้วนางจึงรีบลงมาเพื่อเข้าห้องพักสำหรับแขกทันที“ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะ ข้าคือนางกำนัลที่ดูแลตำหนักพักของพวกท่าน ข้าจะนำทางพวกท่านไปเองเจ้าค่ะ”เมื่อนางกำนัลหญิงเดินนำพวกนางเข้าไปห้องพักจึงได้เรียกให้คนน้ำสัมภาระของพวกนางตามเข้ามา“กว่าจะถึง นี่หรือแคว้นม่านโจว ดูหรูหราพอๆ กับเมืองหลวงเลยนะเจ้าคะคุณหนู”“เจ้าเก็บของก่อนเถิด ข้าปวดเมื่อยไปหมดแล้ว เสร็จแล้วข้าจะไปแช่น้ำเสียหน่อยแล้วมานวดให้ข้า ทรมานยิ่งนักกว่าจะมาถึง นี่เจ้ารู้หรือไม่ว่าองค์รัชทายาทพักที่ใดกัน”“ท่านหมายถึงองค์รัชทายาทของฉีโจวเช่นนั้นหรือแม่นาง”“ใช่เจ้าค่ะ พระองค์พักอยู่ห้องใดกันเจ้าคะ”“อ่อ พระองค์พักอยู่ในวังเจ้าค่ะ”“แล้วเหตุใดข้าถึงพักอยู่ที่นี่ ไม่ได้พักที่เดียวกับพระองค์เล่า ข้ามากับพระองค์ ท่านจำที่ผิดหรือไม่เจ้าคะ ข้าควรจะต้องพักที่เดียวกับองค์รัชทายาทมิใช่หรือเจ้าคะ”“ตามที่ท่านอ๋องฟ่านแจ้งข้ามา ให้จัดที่พักของพวกท่านที่เป็นสาวใช้และผู้ติดตาม ให้พักที่นี่ถูกต้องแล้วเจ้าค่ะ”“แต่ข้ามิใช่สาวใช้นะ ข้าเป็น..”“แม่นาง ท่านเป็นอะไรเจ้าคะ”“ไม่
หลินเยว่ซินต้องยอมเดินกลับรถม้าของตัวเองอย่างหงุดหงิด เมื่อแผนของนางไม่สำเร็จ แต่ตลอดเส้นทางนี้ต้องมีสักครั้งที่นางมีโอกาส“เป่าอี้ เส้นทางข้างหน้าเป็นอย่างไร”“มีสองเส้นทางพ่ะย่ะค่ะ เส้นทางที่ผ่านเมืองจะสะดวกสบายหน่อย แต่จะอ้อมไกล แต่อีกทางเป็นเส้นทางป่า แต่เร็วกว่าสองชั่วยามพ่ะย่ะค่ะ”“ดี ไปเส้นทางป่าก็แล้วกัน”“เอ่อ ท่านอ๋อง คือว่าแม่นาง...”“เจ้าจะขัดคำสั่งข้างั้นหรือ”“พ่ะย่ะค่ะ”เป่าอี้สั่งเดินทางต่อตามคำสั่งของหมิงลี่หยางมุ่งหน้าเข้าทางที่เป็นป่าเขา หลินเยว่ซินนั้นแต่แรกก็มิได้มีอาการเมารถอย่างที่นางกล่าว แต่พอเริ่มเดินทางนานๆ เข้าก็เริ่มรู้สึกปวดหลังเพราะรถม้านางทั้งเล็กและไม่ได้สะดวกสบายเฉกเช่นรถคันใหญ่ขององค์รัชทายาทนางเริ่มปวดเนื้อปวดตัวและพะอืดพะอมเพราะเส้นทางลำบากกว่าที่คิด ไหนคนขับบอกว่าทางป่าเพียงไม่มากเท่าใดก็จะเข้าเมืองอีกสองเมืองก็ถึงม่านโจว แต่นั่งรถมาเกือบครึ่งวันนางยังไม่เห็นวี่แววจะเข้าเมืองเลย“เหตุใดมีแต่ป่าเขา เส้นทางก็ลำบาก เมื่อไหร่เราจะเข้าเมืองกันงั้นหรือ”“คุณหนูหลิน เราจะเข้าเมืองม่านโจวเลย ไม่ได้แวะเมืองอื่นเจ้าค่ะ”“เจ้าว่าอย่างไรนะ หมายความว่าอย่างไร