LOGINวันนี้แดนดินออกไปติดต่อเรื่องการรับเด็กๆ เป็นลูกบุญธรรมในอำเภอ ทางฤทัยรักษ์เองก็รับเอาครอบครัวลูกสุนัขอายุราวสองเดือนหน้าตาน่ารักน่าฟัดเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ของเรือนเช่นกัน โดยได้รับการอนุมัติจากคุณย่าเจ้าของเรือนเรียบร้อย กว่าจะอาบน้ำขัดตัวให้เสร็จ คนอาบให้ก็เปียกปอนจนต้องขึ้นไปเปลี่ยนชุดใหม่ฤทัยรักษ์เปลี่ยนมาสวมเสื้อยืดกับผ้าซิ่นสีครามแล้วลงเรือนมาหาคุณย่าทั้งสองที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ข้างเรือน คนเลี้ยงมาแต่เด็กเห็นชุดของเธอแล้วยิ้มชมทันที“แต่งตัวน่ารักเชียวนะจ๊ะ”“ก็น่ารักอยู่หรอก แต่หนูซื้อเสื้อผ้ามาใหม่แล้วนี่ ทำไมยังนุ่งผ้าซิ่นอยู่อีกล่ะลูก” ย่าคำหอมกะพริบตาถาม“หนูอุ่นว่าแบบนี้มันใส่ได้สไตล์ดีค่ะ แบบหนูหิ่นไงคะ”“หนูอุ่นกลายเป็นหนูหิ่นไปแล้วเหรอเนี่ย”สองคุณย่าหัวเราะออกมาพร้อมกัน หญิงสาวได้แต่หัวเราะตามแห้งๆ ความจริงแล้วเธอกลับมาสวมชุดหนูหิ่นก็เพราะสาธิตมีความอยากสวยอยู่ในตัวสูงเกินไป เสื้อผ้าที่เลือกให้ก็ ‘ผู้หญิ๊งผู้หญิง’ ไป พอเธอใส่มันออกมาเผยโฉมวันแรกก็ไปเตะลูกกะตาใครบางคนเข้า‘นั่นเสื้อเรอะ กลับไปใส่ชุดหนูหิ่นของเธอเลยนะยัยหนูตุ่น!’ปากว่ายังไม่เท่าตามอง สายตาคมกริบของแดน
เป็นนานกว่ายายมาจะให้คำตอบกับแดนดิน แกส่ายหน้าบอกเสียงสะอื้น “ยายเฮ็ดบ่ได้ จั่งได๋กะบ่ได้ ตอนนี้ยายยังมีแฮงเลี้ยงหลานอยู่ ฮอดยามล้มตายมื้อได๋ จั่วว่ากันได้บ่นายดิน” (ยายทำไม่ได้ ยังไงก็ไม่ได้ ตอนนี้ยายยังมีเลี้ยงหลานอยู่ ถึงวันตายเมื่อไร ค่อยว่ากันได้ไหมนายดิน)“ฉันอยากทำเรื่องตอนนี้เลย ยายไม่ต้องกังวลว่าฉันจะละเลยพวกแกในอนาคต ฉันรับปากว่าจะดูแลพวกแกให้ดีที่สุด ย่าเองก็อยากได้เหลนมานานแล้ว”“ตอนนี้มันกะดี แต่ถ้านายดินแต่งงานไปล่ะ เมียนายดินสิเห็นดีนำบ่ เขาสิฮักสิแพงไอ้แฝดของยายบ่” (ตอนนี้มันก็ดี แต่ถ้านายดินแต่งงานไป เมียนายดินจะเห็นด้วยเหรอ เขาจะรักจะชอบไอ้แฝดของยายไหม)แดนดินยังไม่ได้ตอบ คำหอมก็ถอนใจบอกเสียงดัง“บ่ต้องไปคิดถึงเรื่องนั้นยายมา ชาตินี้ข้อยคงบ่มีหลานสะใภ้กับชาวบ้าน จ่มเช้าจ่มแลงให้หาเมียได้แล้ว หลานข้อยมันกะยังบ่หามาให้เห็นจั่กคน มันหาเหลนแฝดมาให้เลยกะดีคึกัน ข้อยสิยกนายกไฮ่ให้เบิดเลย!” (ไม่ต้องไปคิดถึงเรื่องนั้นยายมา ชาตินี้ฉันคงไม่มีหลานสะใภ้กับชาวบ้าน บ่นเช้าบ่นเย็นให้หาเมียได้แล้ว หลานฉันมันก็ยังไม่หามาให้เห็นสักคน มันหาเหลนแฝดมาให้เลยก็ดีเหมือนกัน ฉันจะยกที่นาไร่สว
หลายวันผ่านไป“พ่อใหญ่ไปไส คึบอกมากับแม่ใหญ่” (ตาไปไหน ทำไมไม่มากับยาย)“พ่อใหญ่...”คำถามจากหลานชายเรียกก้อนสะอื้นขึ้นมาจุกอยู่ที่ลำคอของยายมา แกบอกกับหลานไม่ได้จริงๆ ว่าผู้เป็นตาได้จากโลกนี้ไปแล้ว ตลอดงานศพของตาทองที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายในสองวันที่ผ่านมา ยายมาพยายามทำใจรับการจากลานี้ให้ได้ พยายามตั้งหลักเพื่อหลานๆ เมื่อเสร็จงานแล้วจึงมารับหลานที่ฝากไว้เรือนคำหอมกลับบ้านสวน อยากจะเอาเจ้าตัวหอมของยายกลับไปนอนกอดเหมือนตอนที่ผู้เป็นตายังอยู่ แต่พอหลานชายถามหาคนที่จากไป หัวใจที่คิดว่าเข้มแข็งกลับร้าวราน ได้แต่นั่งน้ำตาซึมมองหน้าหลานอย่างพูดไม่ออกเจ้าของเรือนเห็นท่าทีของผู้เป็นยายแล้วถอนใจ พยักหน้าเรียกเด็กน้อยทั้งสอง ค่อยๆ อธิบายให้พวกแกเข้าใจ “ฟังทวดดีๆ นะ ตอนนี้ตาทองบ่ได้อยู่กับพวกเฮาแล้ว เพิ่นไปอยู่ในที่ที่ดีมากๆ เลย ลูกเป็ดกับลูกไก่ฮู้บ่ว่าตาทองไปอยู่ที่ไหน” (ฟังทวดดีๆ นะ ตอนนี้ตาทองไม่ได้อยู่กับพวกเราแล้ว ตาไปอยู่ในที่ที่ดีมากๆ เลย ลูกเป็ดกับลูกไก่รู้ไหมว่าตาทองไปอยู่ที่ไหน)เด็กๆ ส่ายหน้าตอบพร้อมกัน“อยู่ในนี้” คำหอมจิ้มไปที่อกเล็กๆ ของพวกแกด้วยสีหน้าอ่อนโยน “ตาทองเพิ่นเบิดเวลาอย
เหตุการณ์ถูกแตนยกพวกรุมต่อยครั้งนี้ทำให้คุณย่าคำหอมมีหวังเรื่องจับคู่ขึ้นมาเล็กน้อยระหว่างยืนรอใส่บาตรในเช้าวันถัดมา จึงสั่งให้ก้องหล้าแอบไปสืบความคืบหน้าระหว่างแดนดินกับฤทัยรักษ์อย่างใกล้ชิดแล้วเอามารายงานท่านในตอนเย็นทุกวัน เพิ่งจะสั่งเสร็จก็เห็นแดนดินกับฤทัยรักษ์เดินตามกันมาห่างๆ พอดี“อ้าว มากันแล้วเหรอ มาๆ พระท่านใกล้จะมาแล้วลูก” กวักมือเรียกไปก็แอบมองท่าทีเหลือบตามองกันของเด็กทั้งสองยิ้มๆ แกล้งทำเป็นถามก้องหล้า “เอ๊ะ! ดอกไม้อยู่ไหนล่ะเจ้าก้อง”“ดอกไม้? ยังไม่ได้ตัดเลยจ้ะ ก้องลืม” ก้องหล้าเกือบจะบอกว่ายายบัวกำลังเอาดอกไม้ไปล้าง ดีที่เห็นคุณย่าขยิบตาส่งสัญญาณก่อน“งั้นหนูอุ่นไปตัดให้จ้ะ/ดินไปตัดให้จ้ะ”คนอาสาพร้อมกันหันไปสบตากันแวบหนึ่ง จากนั้นก็เมินไปมองคนละทางก้องหล้าเห็นแล้วรีบเอ่ย “ไปช่วยกันเก็บสิจ๊ะ เดี๋ยวหลวงตาท่านจะมาแล้วนะ”คุณย่ายิ้มบอก “เอาดอกเข็มหอมมาก็ได้ เมื่อเช้าย่าเห็นออกดอกขาวเต็มต้นเลย”“ได้จ้ะ" แดนดินหมุนตัวเดินนำไปก่อนทันที สักพักจึงได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามมา เมื่อเดินมาถึงต้นเข็มหอมหน้าบันไดเรือน เสียงที่เบาราวกับยุงบินก็ถามขึ้น“คุณเป็นยังไงบ้างคะ”“เป็นยังไ
เมื่อเดินเข้าไปในป่าได้ไม่นาน คนไม่เคยเก็บเห็ดก็เห็นแดนดินก้มๆ เงยๆ อยู่แถวต้นอะไรสักอย่างที่ใบใหญ่ยักษ์แต่ต้นสูงแค่เข่า เธอรีบเดินเข้าไปหาเพื่อดูหน้าตาของเห็ดที่เขามาเก็บ“นี่คือเห็ดเผาะ สุดยอดเห็ดในป่านี้”ฤทัยรักษ์กะพริบตามองเห็ดในมือแดนดินดีๆ มันมีลักษณะเป็นลูกสีขาวเท่าเหรียญสิบบาท ดูแล้วเหมือนไข่งูมากกว่าเห็ดอีก “คุณแน่ใจนะ ว่านั่นคือเห็ดเผาะ”“แน่ใจสิ ชาวบ้านแถบนี้เรียกมันว่าเห็ดเผาะ ทางเหนือเรียกว่าเห็ดถอบ มีเฉพาะช่วงต้นฤดูฝนแบบนี้ เอาไปแกงร้อนๆ อร่อยมาก เธอรีบมาเก็บช่วยกันเร็วๆ ถ้าคนอื่นมาถึง เราจะเก็บไม่ทันเขานะ”ท่าทางมองไปรอบๆ เหมือนกลัวคนจะโผล่มาแย่งเห็ดในป่าของเขาทำให้เธอพลอยตื่นเต้นไปด้วย รีบนั่งลงถาม “คุณก็บอกมาสิว่ามันขึ้นอยู่ตรงไหนยังไง ฉันจะได้ช่วยเก็บ”แดนดินชูกิ่งไม้ในมือให้ดูแล้วหันไปเปิดใบไม้ที่ทับถมเต็มพื้นออก “เขี่ยใบไม้ขึ้นแบบนี้นะ นี่ไงเห็ดเผาะ!”หญิงสาวชะโงกดูจุดสีขาวๆ ที่ซ่อนอยู่ใต้ใบไม้ที่เขาเขี่ยดูแล้วหาไม้มาเขี่ยใบไม้ที่พื้นใกล้ๆ ออกบ้าง พอเห็นจุดขาวๆ ขึ้นอยู่หลายจุดก็ร้องดีใจ “ตรงนี้ก็มีค่ะ!”“รีบเก็บแล้วเอามาใส่ถุงนี่” เสียงเข้มสั่งการพลางยกย่ามที่ทำจา
สุดท้ายฤทัยรักษ์ก็พยักหน้าให้แดนดินอย่างไม่มีทางเลือก“ดีมาก” เขายิ้มกริ่มปล่อยมือออกทันที พอเห็นปากเล็กทำท่าจะร้องเรียกคนก็เอ่ยเตือนทันที “ไม่ร้องหาคนช่วยสิ”“ไอ้บ้า! ฉันมาที่นี่เพราะมีปัญหาเรื่องเจ้าหนี้ของคุณชายกับคุณหญิงจริงๆ ไม่ได้ร่วมมือทำอะไรกับใครทั้งนั้นแหละ” ตะโกนบอกไปแล้วเธอก็ถอยหนีออกมาห่างๆ มือไม้ของเขาอย่างไม่ไว้ใจ“ถ้าเธอไม่มีแผนอะไรจริงๆ แล้วทำไมถึงไม่บอกไอ้คุณชายนายหัวนั่นว่าหนีอยู่ที่นี่ ทำไมต้องเก็บไว้เป็นความลับด้วย”“คนนิสัยไม่ดี แอบฟังคนอื่นคุยโทรศัพท์!”“คนอื่นแหกปากพูดเสียขนาดนั้น ไม่แอบก็ได้ยิน”“ฉันไม่ได้มีแผนการอะไรจริงๆ พวกเราหนีมาอยู่ที่นี่เพราะกลัวเจ้าหนี้ตามมาทวงเงิน ถ้าบอกไปว่าพวกเราอยู่ที่นี่แล้วเขาเอาไปบอกเจ้าหนี้ให้ตามมาหาพวกเราที่นี่ก็แย่สิ” อันนี้เธอไม่ได้โกหกนะ ถ้าเกิดว่าหม่อมราชวงศ์หอมจันทร์รู้ว่าพวกเธอมาซ่อนอยู่ที่นี่ แม่คงแจ้นมาเอาเรื่องทันที โทษฐานไปสมรู้ร่วมคิดกับสองหนุ่มหักหลังคุณหญิงเธอ!แดนดินหรี่ตามองคนที่เถียงฉอดๆ เขามั่นใจว่าต้องมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังการมาของเธอ คิดแล้วก็เริ่มเดินวนรอบร่างเล็กช้าๆ “จะว่าไปแล้ว ฉันมีเบอร์โทรของไอ้คุณชา







