“จริงด้วยค่ะคุณทักษ์ น้องฟรังก์จะมานั่งนาน ๆ แบบผู้ใหญ่ไม่ได้ด้วย ไปหนูนิเราไปเตรียมเค้กกัน วานคุณทักษ์ช่วยปิดไฟข้างนอกให้ด้วยนะคะ”
“ได้ครับ ส่วนเจ้าของวันเกิดควรนั่งเฉย ๆ นะครับตอนเป่าเค้ก” ทักษ์ดนัยเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นรุ้งพรายทำท่าจะลุกไปช่วยคนอื่น
“ก็ได้ค่ะ อยู่ตรงนั้นนะคะ” หญิงสาวเลยต้องเป็นคนชี้จุดปิดไฟให้เขาแทน
“น้องฟรังก์ครับใจร่ม ๆ นะครับอีกหน่อยเราก็จะได้กินเค้กกันแล้ว” รุ้งพรายหันมาพูดกับเด็กเพียงคนเดียวภายในงาน
“ครับ” น้องฟรังก์ตอบรับแบบตาปรือ ๆ
ไฟถูกดับลงทักษ์ดนัยก็เดินมานั่งอยู่ด้านข้างกับเจ้าของวันเกิด ไม่เกินห้านาทีนิยากับนางอำไพก็ถือเค้กที่จุดเทียนแล้วออกมาด้านนอก จากนั้นก็ส่งเสียงร้องเพลงอวยพรวันเกิดกันดัง ๆ
ชายหนุ่มอีกคนที่อยู่บนห้องนอนถึงกับต้องแง้มหน้าต่างออกมาดู วันเกิด ? เขามองดูผู้คนในงานมีคุ้นหน้าอยู่ทุกคนยกเว้นผู้หญิงอีกคนที่แปลกหน้าสำหรับเขา คริษฐ์จำได้ว่าวันเกิดของรุ้งพรายในอดีตนั้น เขาจะต้องเดือดร้อนเรื่องของขวัญที่เจ้าตัวมักจะทวงแล้วทวงอีกจนน่ารำคาญ
เพลงจบลงรุ้งพรายก็เป่าเค้กจนเทียนดับทุกเล่ม จากนั้นไฟก็สว่างขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวตัดเค้กให้มารดาเป็นคนแรก ฟังคำอวยพรจากท่านแล้วก็อมยิ้มอย่างสุขใจ และเมื่อแบ่งเค้กให้ทุกคนเรียบร้อยแล้วก็ต้องนำเค้กสามชิ้นไปมอบให้บ้านหลังข้างเคียงตามความตั้งใจแรก
“เอาไปให้ตอนนี้เลยรุ้ง เดี๋ยวดึกกว่านี้จะเข้านอนกันหมด” นางอำไพรีบเตือนลูกสาว
“ให้นิไปด้วยไหมรุ้ง” นิยารีบเสนอตัว
“ดีเหมือนกัน”
“งั้นเดี๋ยวเรากลับมานะคะคุณป้ากับคุณทักษ์กินเค้กกันไปก่อนเลยนะคะ” นิยาพูดเหมือนรู้ว่าเพื่อนรักกลัวจะต้องเผชิญกับอะไร ใครบอกว่ารุ้งพรายไม่มีเพื่อนสนิทตอนเรียนมัธยม เพราะนิสัยร้าย ๆ แสนเอาแต่ใจของเจ้าตัวทำให้คนอื่นมองในแง่ลบกันหมด แต่นิยากลับมองเห็นความจริงใจที่อยู่ในตัวของรุ้งพรายได้ เรื่องของคริษฐ์นิยาจึงร่วมรับรู้มาโดยตลอด
“เห็นหน้าพี่คริษฐ์แล้วมีหวั่นไหวบ้างไหมรุ้ง” ระหว่างทางนิยาก็เปรยขึ้น
“มันก็มีบ้าง” รุ้งพรายยอมรับตามตรง
“ก็บ้านติดกันนี่เนอะจะหนีไปไหนพ้น รอพี่คริษฐ์ของรุ้งแต่งงานไปก่อน ตอนนั้นรุ้งคงตัดใจได้เองนะนิว่า”
“ก็คงงั้นมั้ง” รุ้งพรายพูดเหมือนคนปลงไม่ตก
นิยาเป็นคนกดกริ่งหน้าบ้าน ไม่ช้าแม่บ้านสูงวัยก็วิ่งเข้ามาเปิดประตูให้ ป้าพุดหรือนางพุดจีบมองเค้กในมือของรุ้งพรายก็เข้าใจว่าหญิงสาวมาที่นี่ทำไม
“เข้ามาค่ะคุณรุ้ง”
“ขอบคุณนะคะป้าพุด รุ้งเอาเค้กวันเกิดมาให้คุณป้าพิมพ์ค่ะเพิ่งจะสองทุ่มเลยคิดว่ายังไม่นอนกัน”
“ยังค่ะคุณพิมพ์กับคุณคริษฐ์ยังนั่งดูทีวีกันอยู่”
“งั้นฝากป้าพุดไปให้ได้ไหมคะ” แค่ได้ยินชื่อของคริษฐ์รุ้งพรายก็แขยงแบบแปลก ๆ
“ยัยรุ้งน่าเกลียดตายทำแบบนั้น เอาไปให้ด้วยตัวเองสิกลัวอะไร” นิยารีบแทรกขึ้นเพราะคิดว่าเพื่อนรักทำไม่ถูก
“จริงของคุณ เอ่อ”
“นิยาค่ะป้าพุดเป็นเพื่อนของรุ้ง” นิยารีบแนะนำตัวเอง
“จริงของคุณนิยานะคะคุณรุ้ง ต้องเอาไปให้คุณพิมพ์กับมือถึงจะถูกค่ะ”
“ก็ได้ค่ะ นิไปด้วยกันนะ”
“ไม่ไปหรอก วันเกิดรุ้งรุ้งก็ไปสิ นิอยู่รอข้างนอกนี่แหละ” นิยาโบกมือให้เพื่อน เธอไม่อยากเข้าไปเจอบรรยากาศชวนอึดอัด เลือกที่จะยืนรอด้านนอกนี่ดีกว่า
รุ้งพรายเลยต้องเดินถือกล่องขนมเค้กเข้าไปภายในบ้านเพียงลำพัง คริษฐ์หันมาเห็นเธอก่อนแต่เขาไม่พูดทำนิ่ง ๆ เหมือนไม่แปลกใจ
“สวัสดีค่ะคุณป้าพิมพ์พี่คริษฐ์” หญิงสาวยืกมือขึ้นไหว้ทั้งคู่ แต่ก็เงอะงะเพราะถือกล่องเค้กอยู่ในมือ
“เข้ามาสิหนูรุ้งป้าได้ยินเหมือนเสียงเพลงวันเกิด และเพิ่งรู้จาก คริษฐ์ว่าวันนี้วันเกิดหนูรุ้ง”
“พอดีได้ยินเสียงเพลงกับเห็นไฟประดับ” คริษฐ์รีบออกตัวก่อน เกรงว่ารุ้งพรายจะได้ใจที่จำวันเกิดของเธอได้
“วันเกิดรุ้งจริง ๆ ค่ะคุณป้าพิมพ์เมื่อกี้เราเพิ่งเป่าเค้กวันเกิดกัน รุ้งเลยเอาเค้กมาให้คุณป้าพิมพ์กับพี่คริษฐ์ค่ะ มีของพี่เตด้วยนะคะเอามาสามชิ้น” หญิงสาวคุกเข่าแล้วขยับเข้าไปใกล้ ๆ พร้อมกับยื่นกล่องเค้กให้นางพิมพ์พร
“จริง ๆ เลยนะเราวันเกิดทั้งทีก็ไม่มาชวนป้ากับพี่ ๆ เขาเลย เห็นเป็นคนอื่นคนไกลไปได้” นางพิมพ์พรต่อว่าเล็กน้อย
“รุ้งเกรงใจค่ะคุณป้าพิมพ์ เห็นว่าทำงานหนักกันเลยไม่อยากรบกวน”
“เกรงใจอะไรกันลูก ป้ากับพี่ ๆ ก็เหมือนเดิมนะหนูรุ้ง ไปมาหาสู่กันได้ตลอดเหมือนเมื่อก่อนไงที่หนูรุ้งมุดรั้วมาเล่นที่บ้านป้าบ่อย ๆ ตอนนี้จะทำอย่างนั้นก็ได้นะเพียงแต่ไม่ต้องมุดรั้วแล้วให้มากดกริ่งหน้าบ้านเอา” นางพิมพ์พรบอกหญิงสาวอย่างเป็นกันเอง จากนั้นก็อวยพรวันเกิดให้เสียยาวเหยียด
“คริษฐ์อวยพรวันเกิดน้องด้วยสิลูก”
“เอ่อครับ” คริษฐ์เหมือนจะยังตั้งตัวไม่ทัน รุ้งพรายก็คลานเข่าไปตรงหน้าเขาแบบงง ๆ จะให้ลุกเดินไปหาเขาก็ดูจะข้ามหน้าผู้ใหญ่ไป
“ขอให้มีความสุขนะ” เขาอวยพรแบบสั้น ๆ
“ขอบคุณค่ะพี่คริษฐ์” รุ้งพรายยกมือขึ้นไหว้ตรงตักแล้วคลานกลับไปที่เดิม
“ลุกขึ้นนั่งบนโซฟาก่อนหนูรุ้ง เดี๋ยวป้ามีของขวัญจะให้”
“เอ่อ ไม่ต้องก็ได้ค่ะคุณป้าพิมพ์” เรื่องที่เธอเกรงใจและอยากหลีกเลี่ยงให้ได้มากที่สุดดูเหมือนจะไม่เป็นผล
“ไม่ได้ ๆ คริษฐ์ขึ้นไปหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งมาให้แม่หน่อยลูก”
“ครับแม่” คริษฐ์จำต้องขึ้นไปชั้นสองของบ้านตามคำสั่งของมารดา
หน้าบ้านของนางพิมพ์พรนิยากำลังตบตีกับยุงอย่างโมโห หากรู้ว่ายุงเยอะอย่างนี้เธอคงเข้าไปในบ้านพร้อมรุ้งพรายแล้ว เพราะคิดว่าคงจะใช้เวลาไม่นานนักสำหรับการมอบเค้กวันเกิด แต่นี่อะไรผ่านไปสิบนาทีแล้วรุ้งพรายก็ยังไม่ออกมาสักทีแต่พอยืนไปสักพักแสงไฟหน้ารถก็ส่องเข้าหน้า ประตูบ้านถูกเปิดออกเหมือนมีคนกดเปิดอัตโนมัติ รถเก๋งคันหรูสีดำเมี่ยมถูกขับเข้ามาอย่างช้า ๆ ผ่านหน้าเธอไป แล้วหยุดถอยหลังกลับมาใหม่ กระจกถูกลดลงพร้อมกับใบหน้าของคนขับที่นิยาเองต้องตะลึง
“เธอเป็นใครมาอยู่ในบ้านของฉันได้ยังไง” เตชัสถามคนที่ยืนตบยุงอยู่คนเดียว
“เอ่อ” นิยาเกาหัวแกรกๆ
“แม่บ้านคนใหม่เหรอ ไม่เห็นแม่บอกว่าจะรับแม่บ้านเพิ่ม” เตชัสคิดเองพูดเอง คนถูกทึกทักว่าเป็นแม่บ้านถึงกับกลอกตาไปด้านข้าง เสื้อผ้าที่สวมใส่มันเหมือนแม่บ้านตรงไหนกัน หรือว่าเพราะความมืดสายตาของเขาเลยมีปัญหา
“เอ้าว่าไงเป็นใบ้รึไงถามว่าเป็นแม่บ้านคนใหม่เหรอ”
“ใช่ค่ะ เพิ่งมาทำงานวันแรก” อยากคิดว่าเป็นแม่บ้านดีนัก นิยาก็สวมบทบาทให้ซะเลย หญิงสาวนึกสนุกอย่างแกล้งคนเล่น
“แล้วมายืนตบยุงอยู่แถวนี้ทำไม”
“พอดีเพิ่งมาจากบ้านนอกค่ะ ไม่เคยเจอบ้านหลังใหญ่หรูหราแบบนี้ เลยอยากมาสูดบรรยากาศคนรวยเขาบ้าง” นิยาขยับแว่นแล้วทำท่าเพ้อฝันให้เขาดู
“ประสาท” เขาส่ายหน้าหนีแล้วขับรถเข้าไปจอดในโรงรถ
ตอนที่ : 74 วันของเรา 5 (จบ)คริษฐ์ขานเหมือนไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้มือของเขากำลังล้วงเข้าไปในกระโปรงผ้าชีฟองสีครีมของภรรยา ค่อย ๆ ดึงชั้นในผ้าซาตินสีดำออกจากโคนขา อาการเบาหวิวแสนสะท้านส่งผลให้รุ้งพรายหนีบท่อนขาเข้าหากันแน่ แต่อีกคนใช่ว่าจะยอมให้ทำแบบนั้นได้ง่ายดาย คริษฐ์ใช้สองมือจับที่ต้นขาแล้วดันแยกให้ออกจากกัน “อ๊ะ !” เหมือนถูกจับเปิดอ้าทั้งที่มีกระโปรงคลุมอยู่ ทว่าผ้าบางเบานั่นก็ร่นขึ้นอยู่เหนือสะโพก ยิ่งเขาดันต้นขาให้สูงขึ้นทุกอย่างก็ยิ่งเปิดอ้าและเปลือยเปล่าต่อหน้าต่อตาของเขา รุ้งพรายไม่เคยมั่นใจตั้งแต่หลังคลอดลูก ทุกครั้งที่ถูกร่วมรักเธอก็มักจะกล้า ๆ กลัว ๆ “พี่คริษฐ์ !” หญิงสาวสะบัดหน้าไปมาตามแรงขยับจากปลายนิ้วของเขา “ยังไม่ชินอีกเหรอรุ้งทำไมต้องอายพี่ขนาดนี้ด้วยหืม” “รุ้งยังอ้วนอยู่เลยนะคะพี่คริษฐ์” “อ้วน ! ไปเอาความคิดนี้มาจากไหนกันรุ้ง พี่ว่านี่มันหุ่นนางฟ้าชัด ๆ ดูสิอวบอิ่มจับตรงไหนก็เต็มไม้เต็มมือไปหมด” ไม่เพียงแค่พูดคริษฐ์ยังจับหมุบหมับอีกด้วย “พี่คริษฐ์พูดจริงเหรอคะ” “จะโกหกทำไม แบบนี้เซ็กซี่มากรู้ไหม ไ
ตอนที่ : 73 วันของเรา 4 “ก็มีบ้างค่ะ แย้มยังไม่ได้รู้ไม่ได้เห็นโลกใบนี้อีกตั้งหลายอย่าง จู่ ๆ จะให้มาเป็นแม่คนมันก็แปลก ๆ สักหน่อยค่ะ” “นี่จะบอกว่าฉันตัดอนาคตเธอเหรอแย้ม” เตชัสตัดพ้อภรรยา “ไม่ใช่ค่ะ คุณเตก็รู้ว่าก่อนหน้าแย้มก็ เอ่อ” แย้มรีบปฏิเสธแต่ก็ตะกุกตะกักในตอนท้ายประโยค “เอ่อ อะไร” คนได้ใจเขี่ยแก้มแย้มเล่น “ก็รู้ว่าแย้มมีใจให้ก่อนหน้าแล้วใช่ไหมคะ ในตอนนั้นถึงได้กล้าเอ่อ ปล้ำ” ถามเขาแล้วก็หลบสายตาที่จ้องหยาดเยิ้มกลับมาไปอีกทาง “ใช่ ฉันรู้ฉันถึงกล้าทำยังไงล่ะ”เตชัสยิ้มบาง ๆ เพราะเขาหงุดหงิดกับเรื่องของพี่ชายที่ไปหมั้นกับรุ้งพราย เตชัสรู้สึกเหมือนตัวเองไม่ใช่คนสำคัญมาตั้งแต่เด็ก ยิ่งรู้ว่าพวกเขาได้หมั้นกันความรู้สึกของเขาก็เหมือนเด็กขี้อิจฉา ที่ไม่เคยได้ของเล่นชิ้นถูกใจสักที เตชัสไม่เคยบอกใครเรื่องที่เขาอยากให้รุ้งพรายมาสนใจบ้าง มันเป็นความริษยาวัยเด็กที่พอโตขึ้นมาก็อยากจะได้ความรู้สึกพิเศษแบบนั้น แต่รุ้งพรายก็ทำให้เขารู้สึกไร้ค่ามาโดยตลอด ในวันนั้นเขาเลยอยากปลดปล่อยความรู้สึกพวกนั้นทิ้งไป และแย้มก็คือคนที่อยู่ตรงนั้นพอ
ตอนที่ : 72 วันของเรา 3 “น่ารักที่สุดเลย รอบนี้ครั้งสุดท้ายแล้วจริง ๆ พี่รับรอง” เขาฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวเรียงสะอาด รุ้งพรายพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเขา แล้วโน้มหน้าเข้าไปจูบแก้มสากด้านขวาเบา ๆ “รุ้งรักพี่คริษฐ์ค่ะ ไปไหนไปกัน” ได้ไฟเขียวแบบนี้สามีของเธอก็เดินหน้าต่อในอ่างอาบน้ำ กว่าเขาจะถึงฝั่งฝันแสนเร่าร้อนรุ้งพรายก็แทบสลบคาอกของสามี รู้ตัวอีกทีก็ถูกช้อนอุ้มขึ้นมาวางบนเตียงนอน สภาพของเธอคงไม่ไหวแล้วจริง ๆ สามีจึงจัดการสวมชุดนอนให้ พอได้ซุกอกอุ่น ๆ ของเขา รุ้งพรายก็ไม่อยากเปิดเปลือกตาขึ้นมาอีกเลย ในความกึ่งหลับกึ่งตื่นเธอกลับได้ยินเสียงนุ่ม ๆ ของเขา กระซิบแผ่วเบาตรงใบหู “สุดท้ายพี่ก็หนีรุ้งไม่พ้น” ในความมึนงงเธอขมวดคิ้วขึ้นตามความรู้สึกสงสัย“และพี่ก็รักรุ้งจนได้” คราวนี้คนใกล้จะหลับสนิทถึงกับเผยรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า ได้รางวัลพิเศษเป็นการหอมแก้มซ้ายขวาจากสามี ค่ำคืนนี้เธอจะได้นอนหลับอย่างมีความสุข ในอ้อมอกของคนที่เธอรักสุดหัวใจ“รุ้งก็รักพี่คริษฐ์ค่ะ” เธอตอบเขาทั้งที่หลับตาคริษฐ์เขี่ยแก้มของภรรยาเบา ๆ รอยยิ้มของเขาแต่งแต้มเต็มใบหน้า แม้ตอนหลับจิตใต้สำ
ตอนที่ : 71 วันของเรา 2 “พี่คริษฐ์ !” คราวนี้หญิงสาวผวาเข้ากอดคอเข้าแน่น หนีบต้นขาเข้าหากันแน่นไม่ยอมปล่อย “ไม่เอาน่าคนดีของพี่ ไม่งอแงสิ” “รุ้งไม่ได้งอแงนะ แต่ว่า แต่...” “พี่ขอนะ” “คะ” รุ้งพรายยังงงแต่เขาเลื่อนชั้นในออกจากสะโพกของเธอ ใช้ปลายเท้าเขี่ยทิ้งลงข้างเตียง ความเย็นโล่งหวิวสัมผัสเข้ากับความเป็นชายของเขา “รุ้ง” คริษฐ์เรียกคนที่แทบจะตัวแข็งไปอีกรอบ “คะ” หนนี้รุ้งพรายไม่กล้าสู้หน้าเขา เธอรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาในทันที “อย่ากลัวพี่สิ ไหนว่ารักพี่ไง” “ก็รักค่ะ” ‘แต่ก็กลัว’ “รักแล้วทำไมถึงทำท่าไม่มั่นใจพี่แบบนี้ล่ะ” คริษฐ์เห็นหน้าเจ้าสาวของตัวเองแล้วพลอยหัวใจอิ่มเอมไปด้วย ทั้งสวยทั้งนุ่มนิ่มไปทั้งตัว ยัยเด็กจอมตื๊อในอดีตคนนั้นทำเขาใจสะท้านได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือท่าทีเอียงอายแกมไร้เดียงสายิ่งทำให้เขาสุขใจขึ้นไปอีก ก้มลงจูบปิดปากอิ่มอย่างดูดดื่มและเรียกร้อง ฝ่ามือก็ขยำทรวงอวบอัดทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียม กายท่อนล่างก็เสียดสีให้เกิดหยาดน้ำหวานหล่อเลี้ยง และเมื่อทุกอย่างพรั่งพร้อมแล้วคริษฐ์ก
ตอนที่ : 70 วันของเรา26วันของเรา คืนเข้าหอของคริษฐ์กับรุ้งพราย หลังจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายได้ให้พรและส่งตัวเข้าหอเรียบร้อยแล้ว ก็เป็นเวลาของคู่บ่าวสาวคริษฐ์มองดูเตียงนอนสีชมพูระบายลูกไม้สวยงาม เขาสั่งงดโรยดอกกุหลาบบนเตียงเพราะไม่อยากเสียเวลาปัดออก เจ้าสาวคนงามก็ยังนั่งนิ่งอยู่บนเตียง วันนี้รุ้งพรายสวยจนเขาตะลึง ชุดเจ้าสาวด้านหน้าดูเรียบง่ายเป็นผ้าซาตินแขนกุด ทว่าเปิดเปลือยด้านหลังไปถึงเอว มีโบผูกอันใหญ่ด้านหลังกระโปรงที่ทิ้งชายลงลากพื้นแลดูเรียบหรู “เหนื่อยไหมรุ้ง” เจ้าบ่าวเดินมานั่งลงด้านข้างกับเจ้าสาว “เหนื่อยค่ะ ปวดขาไปหมดแล้ว” รุ้งพรายถลกกระโปรงขึ้นเพื่อดูเท้าของตัวเอง คริษฐ์ถึงกับคุกเข่าลงกับพื้นห้อง “พี่คริษฐ์ทำอะไรคะ” เจ้าสาวร้องเสียงหลงเมื่อเจ้าบ่าวยกเท้าของเธอขึ้นมาวางบนหน้าขาของเขา “พี่จะดูว่าเท้าเป็นแผลไหม ใส่รองเท้าใหม่อาจไม่ชิน” เอ่ยแล้วก็หันเท้าของเจ้าสาวเพื่อดูบริเวณส้น พบว่ามีรอยถลอกจนแดงไปทั้งสองข้าง “นี่แค่ญาติพี่น้องแล้วก็จัดในสวนบ้านพี่เองนะ ถ้าเป็นในโรงแรมอาจจะหนักกว่านี้” คริษฐ์บอกแล้วก็อดสงสารเจ้าสาวไม่ได
ตอนที่ : 69 ทางออกของทุกคน 3 “ก็ให้แย้มมานั่งเป็นเพื่อนจะไปอาบน้ำทำไมกันคะ” แย้มก็ทำหน้าทะเล้นใส่เขาบ้าง “ไม่ต้องมาย้อนฉันเลย ไปเดี๋ยวนี้” “ไม่ค่ะ” “ถ้าไม่ไปฉันจะเป็นคนพาไปเองนะ อ้อ แล้วฉันก็จะอาบเป็นเพื่อนเธอด้วย” อีกคนลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ดีแน่หากปล่อยให้เขาเข้าห้องอาบน้ำด้วย “ไม่ต้องค่ะ แย้มอาบคนเดียวดีกว่า” หญิงสาวแทบจะวิ่งเข้าห้องน้ำไป โดยมีเสียงหัวเราะของเตชัสไล่หลังไปติด ๆ กลับออกมาอีกครั้งเขาก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม แย้มสวมเสื้อยืดสีขาวตัวยาวกับกางเกงขาสั้นเอวยืดแบบที่เตชัสชอบให้สวมใส่ เตชัสเห็นแล้วก็อมยิ้มพร้อมกับชี้ลงที่หน้าตักของตัวเอง “มานั่งนี่เลย” แย้มทำหน้างอใส่เล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินไปทิ้งสะโพกลงนั่งบนตักของเขาอย่างว่าง่าย “หอม ๆ แบบนี้ค่อยน่ากอดหน่อย” คนพูดซุกหน้าลงตรงซอกคอของแย้มสูดกลิ่นกายสาวเข้าเต็มปอด “แย้มไม่ได้ใช้น้ำหอมแบบสาว ๆ คนอื่นของคุณเต ไม่ได้น่ากอดขนาดนั้นหรอกค่ะ” “อยู่กับฉันแค่สองคนทำไมต้องพูดถึงคนอื่นนะแย้ม เสียอารมณ์หมด” เตชัสตำหนิหญิงสาวเล็กน้อย นั่นทำให้แย้