ログインเธอเปรียบเสมือนของเล่นที่ไร้ค่า ที่เขาให้ความสำคัญเฉพาะเวลาอยู่บนเตียง!!!!!
もっと見るในเช้าของฤดูร้อนที่แสงแดดส่องลอดใบไม้ราวกับแสงที่ระยิบระยับจากท้องฟ้า ยายนวลจันทร์วัย 55 ปี เดินกลับจากตลาดพร้อมรถเข็นคันเก่าที่เอาไว้ใส่ขนมไทยไปขาย แต่ตอนนี้ขายหมดเกลี้ยงพร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว มือหยาบกร้านที่เคยเป็นกำลังในการสร้างรายได้ให้กับตัวเอง แม้จะไร้ลูกหลานหรือญาติพี่น้อง แต่ยายนวลจันทร์ก็ยังคงมีแรงสู้ต่อไป…
แต่แล้วสายตาของยายนวลจันทร์ก็สะดุดเข้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดว่าชีวิตนี้จะได้มาเห็น สองสามีภรรยากำลังอุ้มเด็กเล็กมาไว้ข้างทาง ยายใจเต้นแรงเมื่อเห็นความลุกลี้ลุกลนของทั้งสองคน “พวกเธอกำลังทำอะไรกัน?” ยายถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัย เมื่อสองคนผัวเมียได้ยินเสียงยาย พวกเขาก็ใช้ผ้าคลุมหน้าเอาไว้ ก่อนจะหันไปมองยายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความตกใจ แล้วรีบร้อนวางเด็กไว้ที่พื้นข้างทางแบบไม่คิดลังเลเลยสักนิด “นี่มันเรื่องอะไรกัน? เด็กคนนี้เป็นลูกของพวกเธอใช่ไหม?” ยายนวลจันทร์ถามย้ำอีกครั้ง พร้อมกับใช้น้ำเสียงที่เริ่มเข้มขึ้น “เรา... เราไม่มีทางเลือก” ผู้หญิงตอบเสียงเบา แต่ไม่ยอมสบตายาย “ไม่มีทางเลือก? แล้วทำไมถึงต้องทิ้งเด็กไว้แบบนี้!” ยายพูดด้วยความไม่พอใจ ทำไมถึงต้องเป็นพ่อแม่ใจร้ายที่ยอมทิ้งลูกตัวเองเอาไว้ได้ลงคอ ชายหนุ่มดึงมือหญิงสาวขึ้นมาและพูดเสียงเบาเพื่อเรียกสติคนที่เป็นภรรยา “ไปกันเถอะ! อย่าเสียเวลาเลย” หญิงสาวหันไปมองลูกที่นอนอยู่พื้นข้างทางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเศร้า เธอไม่ได้ตั้งใจที่จะทิ้งลูก แต่เธอก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ สองคนผัวเมียรีบขึ้นรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าและขับหนีไปโดยไม่หันกลับมามองเลยสักนิด เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นและหายไปในระยะไกล ทิ้งไว้เพียงเด็กน้อยที่ร้องไห้เสียงดังอยู่ข้างถนน ยายนวลจันทร์มองตามรถที่ขับออกไปด้วยความตกใจและผิดหวัง เสียงเด็กเล็กร้องไห้เรียกความสงสารในใจยายนวลจันทร์จนล้น ยายก้มตัวลงดูเด็กน้อยอย่างใกล้ชิด จึงเห็นใบหน้าที่บริสุทธิ์และตาแดงช้ำจากการร้องไห้ ยายตัดสินใจอย่างแน่วแน่ที่จะรับเด็กคนนี้มาเลี้ยงด้วยความรักและความเมตตาที่เต็มเปี่ยมในหัวใจ “ไม่ต้องกลัวนะลูก ยายจะดูแลหนูเอง” ยายพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ยายนวลจันทร์ค่อยๆ อุ้มเด็กน้อยขึ้นมาในอ้อมแขน น้ำหนักอันเบาของร่างเล็กๆ ในอ้อมอกทำให้หัวใจของยายเต้นแรงอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานานหลายปี เด็กน้อยมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว แต่ในสายตานั้นกลับมีบางอย่างที่ทำให้ยายนวลจันทร์รู้สึกอบอุ่นและอ่อนโยน ในขณะที่ยายนวลจันทร์ก้าวเดินกลับบ้านพร้อมกับเด็กในอ้อมแขน ยายรู้สึกถึงความผูกพันที่อธิบายไม่ได้ ราวกับว่ายายนวลจันทร์และเด็กคนนี้ถูกกำหนดให้มาพบกัน “ตั้งแต่นี้ไป หนูจะไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว ยายจะดูแลหนูเอง” ยายนวลจันทร์พูดอย่างมั่นใจ ทั้งๆ ที่ในใจยายก็รู้ว่าการเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดและยายก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กเลยสักคนมาก่อน แต่ความรู้สึกที่ถูกชะตานั้นชัดเจนเสียจนมันกลายเป็นพลังให้ยายนวลจันทร์ไม่หวาดกลัวสิ่งใดอีกต่อไปและจากวินาทีที่ยายรับเด็กคนนี้เข้าสู่อ้อมอก ยายก็ตั้งใจอย่างแน่วแน่ว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เด็กน้อยเติบโตด้วยความรักและความอบอุ่นที่ยายนวลจันทร์มี ยายนวลจันทร์พึมพำเบาๆ ขณะยกมือขึ้นลูบแก้มเด็กน้อยที่ยังมีคราบน้ำตา ยายอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา แม้ว่าจะเป็นยิ้มที่ปนไปด้วยความเศร้าและสงสาร “ยายจะตั้งชื่อให้หนูว่าอะไรดีนะ” ยายนวลจันทร์อุ้มเด็กน้อยกลับบ้านพร้อมกับคิดหาชื่อให้กับเด็กไปด้วย “ยายขอตั้งชื่อให้หนูว่าเทียนหอมนะ” ยายนวลจันทร์พูดพร้อมรอยยิ้ม ชีวิตที่เคยเงียบเหงาตอนนี้มี เทียนหอม ที่เข้ามาเป็นเหมือนแสงสว่างทำให้ชีวิตของยายสดใสและมีสีสันมากขึ้น จากวันนั้นมายายนวลจันทร์ก็ดูแลเลี้ยงดูเทียนหอมด้วยความรัก ความอบอุ่นและความเสียสละ แม้ว่าชีวิตจะไม่สมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็น แต่ทั้งสองก็กลายเป็นครอบครัวที่คอยเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กันและกันอย่างมีความสุข .. ฝากติดตามนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะหนึ่งเดือนต่อมางานแต่งเล็กๆ จัดขึ้นในสวนของบ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในงานก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น ดอกไม้ที่ใช้ในงานก็เต็มไปด้วยสีขาวสะอาดบ่งบอกถึงความรักที่บริสุทธิ์อาหารในงานแต่ละเมนูก็เป็นมาร์เวลที่เลือกเองกับมือ ทุกอย่างภายในงานต้องผ่านการคิดและการตัดสินใจของมาร์เวลทั้งหมด เพราะเขาทุ่มเทและตั้งใจกับการจัดงานแต่งในครั้งนี้เป็นอย่างมากงานแต่งครั้งแรกและเป็นงานแต่งครั้งเดียวในชีวิตทุกอย่างก็ต้องออกมาดีและสมบูรณ์แบบมากที่สุดแขกภายในงานเริ่มทยอยมาร่วมงานกันแล้ว มาร์เวลเลือกเชิญเฉพาะญาติที่เป็นคนสนิทและเชิญนักข่าวหลายช่องมาร่วมงาน เรียกได้ว่านักข่าวกับญาติที่มาร่วมงานนั้นมีจำนวนใกล้เคียงกันมากที่เขาเชิญนักข่าวมาร่วมงานก็เพราะมาร์เวลอยากประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาแต่งงานและมีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว จะได้ไม่มีเรื่องเข้าใจผิดเข้ามาให้เขาต้องมีเรื่องปวดหัวอีกเทียนหอมอยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์ ใบหน้าสวยถูกเติมแต่งด้วยเครื่องสำอางราคาแพงจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพชื่อดังที่มาร์เวลเป็นคนจัดการและจ้างทุกอย่างแบบดีที่สุดเพื่อวันสำคัญที่สุดในชีวิตให้กับเธอ“เจ้าสาวสวยมากเลยค่ะ”ผู้ช่วยช่างแ
ตอนเย็นของวันวันนี้บรรยากาศภายในบ้านหลังใหญ่เต็มไปด้วยความอบอุ่น มาร์เวลกับเทียนหอมนั่งพูดคุยกันระหว่างรอแม่บ้านตั้งโต๊ะอาหารเย็นให้เรียบร้อย วันนี้เป็นวันที่เรียบง่ายแต่ก็เต็มไปด้วยความพิเศษนอกจากจะจดทะเบียนสมรสกันแล้วมาร์เวลก็ยังอยากสานฝันให้กับเทียนหอม เพราะเขาคิดว่าเธอก็คงจะมีความฝันเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“เราจัดงานแต่งดีไหม จัดงานให้ยิ่งใหญ่ให้ทุกคนได้รู้ว่าเธอคือภรรยาของฉัน” ชายหนุ่มยังคงมองภรรยาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก“หนูว่า…” เทียนหอมไม่คิดเลยว่ามาร์เวลจะเซอร์ไพร์สเธอด้วยการชวนเธอจัดงานแต่งแบบนี้“มีอะไรหรือเปล่า?” มาร์เวลเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทางลังเลและคิดหนักของอีกฝ่าย ตอนแรกเขาคิดว่าเธอจะตอบตกลงเพราะเธออยากจัดงานแต่งและใส่ชุดเจ้าสาวเหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คน“ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่ยายยังอยู่ หนูก็อยากจัดงานแต่งให้ยิ่งใหญ่ให้ยายได้เห็นและมาร่วมงานด้วย…” หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เธอเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้นมา“แต่ตอนนี้ไม่มียายแล้ว อีกอย่างหนูก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนจัดงานไปก็คงไม่มีความหมายหรอกค่ะ” เมื่อไม่มียายการจัดงา
เช้าวันต่อมามาร์เวลตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วมองเทียนหอมที่กำลังนอนหลับอยู่ข้างๆ การที่เขาตื่นมาแล้วเจอเธอมันทำให้เขามีความสุข ไม่ว่าจะเป็นตอนหลับหรือตอนตื่นก็จะมีเธออยู่ข้างๆ เสมอ รอยยิ้มเล็กๆ ปรากฏบนใบหน้าหล่อ ผู้ชายที่นิ่งเงียบและเย็นชาตอนนี้กลับคลั่งรักและอบอุ่นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนอกจากมาร์เวลจะอยากให้เทียนหอมมาอยู่บ้านด้วยกันแล้ว ก็ยังมีอีกหลายอย่างที่เขาอยากจะทำร่วมกันกับเธอ ซึ่งเขาจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เขาจะทำทุกอย่างให้ถูกต้องและสมบูรณ์แบบที่สุดมือหนาลูบปอยผมออกจากใบหน้าสวยอย่างอ่อนโยน เทียนหอมเป็นเหมือนเด็กที่ใสซื่อที่ต้องได้รับการปกป้องจากเขา ไม่คิดเลยว่าความสงสารในวันนั้นจะกลายเป็นความรักในวันนี้ มาร์เวลผ่านผู้หญิงมาตั้งมากมายแต่สุดท้ายก็ยกหัวใจให้เทียนหอมไปจนหมดชายหนุ่มขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าจะรบกวนเวลานอนของเทียนหอม วันนี้เขามีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำและเขาก็ตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ถูกต้องมาร์เวลลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมก่อนที่เทียนหอมจะตื่น ซึ่งวันนี้เขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเธอ ถึงเธอจะไม่ได้ขอให้เขาหยุดงานแต่เขาก็เต็มใจ
เช้าวันต่อมามาร์เวลเป็นคนเตรียมอาหารเช้าให้กับเทียนหอมในทุกๆ วัน ถึงแม้ว่าเขาจะทำไม่เป็นแต่เทียนหอมก็จะได้ทานอาหารอร่อยๆ ทุกวัน เพราะด้านล่างของคอนโดจะมีร้านอาหารชื่อดังคอยเปิดบริการลูกค้าตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ซึ่งมาร์เวลก็ใช้บริการที่ร้านอาหารทุกวันหลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จทั้งสองก็นั่งเล่นกันอยู่ที่โซฟากลางห้อง บนโต๊ะก็จะมีจานผลไม้หลากหลายชนิดและน้ำผลไม้ที่คั้นสดใหม่ทุกแก้วที่เอาไว้สำหรับบำรุงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะมาร์เวลใส่ใจเทียนหอมทุกอย่างแม้แต่เรื่องเล็กน้อยวันนี้เป็นวันที่มาร์เวลดูเงียบผิดปกติ เหมือนกับมีเรื่องอะไรบางอย่างติดอยู่ภายในใจแต่เขาไม่กล้าที่จะพูดออกมา บรรยากาศภายในห้องดูเงียบจนน่าอึดอัด เขานั่งทำใจอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจพูดเรื่องที่ค้างคาอยู่ในใจออกมา“เทียนหอม…” ชายหนุ่มเรียกชื่อหญิงสาวอย่างแผ่วเบา พร้อมกับจับมือเธอเอาไว้อย่างอ่อนโยนใบหน้าสวยหันมองตามเสียงเรียกพร้อมรอยยิ้ม เพราะวันนี้มาร์เวลบอกกับเธอว่าเขาจะไม่ไปทำงานและจะอยู่กับเธอทั้งวันไม่ไปไหน“เราย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านกันไหม?” มาร์เวลพูดในสิ่งที่คิดและอยู่ภายในใจออกมา เขามองใบหน้าสวยอย่างเฝ้ารอและลุ
ตอนเย็นของวันวันนี้เป็นวันหยุดที่แสนพิเศษเพราะมาร์เวลให้เลขาจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหารสุดหรูใจกลางเมืองเอาไว้ให้ เมื่อใกล้ถึงเวลาเขาก็พาเทียนหอมไปที่ร้านอาหารทันที จะได้มีเวลานั่งเล่นและทานอาหารเย็นด้วยกันอย่างสบายใจพอเดินเข้าไปภายในร้านพนักงานก็พาทั้งสองคนไปยังโต๊ะพิเศษที่จองเอาไว้ในทันที บรรยากาศภายในร้านดูโรแมนติก เสียงเปียโนบรรเลงเบาๆ สร้างความผ่อนคลาย แถมบนโต๊ะที่มาร์เวลจองเอาไว้ยังมีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบวางเอาไว้ทำให้ดูมีความพิเศษกว่าโต๊ะอื่นเป็นอย่างมากเทียนหอมนั่งลงที่เก้าอี้ด้วยความสบายใจ โต๊ะที่จองไว้ก็อยู่มุมสูงห่างจากโต๊ะอื่นและมีความเป็นส่วนตัว หญิงสาวมองวิวใจกลางเมืองในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงไฟ นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้มาทานร้านอาหารหรูแบบนี้ เรียกได้ว่ามาร์เวลเป็นคนที่พาเธอทำอะไรใหม่ๆ ในชีวิตอยู่ตลอด“ทำไมถึงพาหนูมาร้านแพงๆ แบบนี้คะ?” ถึงแม้ว่าเทียนหอมจะชอบบรรยากาศของร้าน แต่เธอก็พอจะรู้ว่าราคาของร้านแบบนี้คงจะแพงมากแน่ๆ ถึงจะชอบแต่เธอก็เสียดายเงินที่เขาจ่ายไปอยู่ดี“แค่อยากพามา ทำไมต้องมีเหตุผลด้วย” มาร์เวลตอบหญิงสาวตรงน้ำด้วยน้ำเสียงและแววตาที่เต็มไปด้ว
สองเดือนต่อมาหลังจากที่กลับจากทะเลในวันนั้นมาร์เวลก็พาเทียนหอมไปฝากครรภ์ที่โรงพยายาลกับคุณหมอในทันทีเพื่อความปลอดภัยของคุณแม่กับลูกที่อยู่ในท้อง โดยที่เขาเลือกโรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงและติดอันดับต้นๆ ในประเทศ ระดับประธานบริษัทอย่างมาร์เวลคงต้องเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เขารักอย่างแน่นอนตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้มาร์เวลก็ทำหน้าที่ดูแลเทียนหอมเป็นอย่างดี เขาทำได้ทุกอย่างตามที่บอกกับเธอเอาไว้ ส่วนเรื่องเวลาของการทำงานก็ลดลงไปบ้าง เพราะเวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันเขาจะให้ความสำคัญกับเทียนหอมมากกว่างาน พอมีเวลาว่างเขาก็จะอยู่กับเธอชวนเธอไปทานอาหารอร่อยๆ หรือไม่ก็ไปเดินเล่นเปิดหูเปิดตาบ้างตอนนี้เทียนหอมก็เริ่มท้องโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เวลาที่เธอจะไปไหนก็จะมีมาร์เวลคอยดูแลอย่างใกล้ชิด เขาไม่ปล่อยให้เธอทำงานหรือทำอะไรที่รู้สึกเหนื่อย เพราะกลัวว่าจะมีผลต่อลูกในท้อง ถึงแม้ว่าจะมีบริษัทโทรมาบอกให้เธอไปทำงาน แต่เขาก็ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าจะไม่ให้เธอทำงาน“พร้อมหรือยัง?” มาร์เวลเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับโอบกอดเธอเอาไว้ ช่วงนี้ชายหนุ่มเสพติดการกอดเทียนหอมเป็นอย่างมาก เวลาเจอหน้าหรืออยู่ด้วยกันเขาก็
コメント