Masukภายในห้องใต้ดินขนาดใหญ่ถูกตกแต่งไว้อย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์สีแดงเข้มและสีดำตัดกับสีทอง ทุกอย่างถูกจัดไว้ราวกับฉากในโรงละครโรงหนึ่งที่มีผู้ชมคือผู้มาประมูลสินค้ามูลค่าสูงหายาก ผู้ชายในชุดสูทราคาแพงหลายคนเริ่มทยอยเข้ามานั่งตรงเก้าอี้ที่ถูกจัดเรียงไว้ด้านหน้าของเวทีที่ยกระดับสูงขึ้นจากพื้นห้องเกือบครึ่งเมตร เมื่อผู้ประมูลเข้ามานั่งประจำที่ของตัวเองครบแล้ว ไฟทุกดวงตรงผู้ประมูลนั่งอยู่ถูกลดความสว่างลงจนไม่สามารถมองหน้าคนพวกนั้นได้ชัดเจน บางส่วนหยิบหน้ากากสีดำที่ปกปิดช่วงดวงตาจนถึงครึ่งหนึ่งของใบหน้าขึ้นมาสวมใส่เพื่อปิดบังอำพรางหน้าตาของตนเองไว้
เกือบสองชั่วโมงเต็มที่การประมูลราคาเป็นไปอย่างคึกคักและดุเดือดอย่างไม่มีใครยอมใคร งานศิลปะหายากของศิลปินชื่อดังเป็นที่หมายตาของนักประมูลมหาเศรษฐีหลายคนและณปวาดพวกนั้นก็ถูกประมูลไปในราคาสูงลิบลิ่วชิ้นแล้วชิ้นเล่าและราคาประมูลสูงที่สุดก็มีราคาร้อยหลักล้านขึ้นไปทั้งนั้น
สินค้าพวกของโบราณหายากหลายชิ้นที่ถูกนำมาประมูลล้วนถูกโจรกรรมมาไม่ต่างจากภาพงานศิลปะชื่อดังบางชิ้น แต่บางชิ้นก็เป็นของสะสมที่เจ้าเต็มใจนำมาประมูลเอง ลำดับถัดมาก็เป็นเครื่องประดับล้ำค่าหายาก งานประมูลที่จัดขึ้นในชั้นใต้ดินในไนต์คลับแห่งนี้ทุกอย่างจะถูกเก็บเป็นความลับขั้นสุดยอดพร้อมทั้งมีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดที่สุด มีทางลับที่เป็นทางออกอยู่สองทางและตรงส่วนนั้นจะมีบอดี้การ์ดรูปร่างสูงใหญ่สามคนยืนประจำการอารักขาอยู่อย่างแน่นหนาพร้อมกับอาวุธหนักในมือ
นอกจากงานศิลปะและอัญมณีเครื่องประดับราคาสูงแล้วสินค้าที่นิยมนำมาทำการประมูลก็คือการประมูลเปิดบริสุทธิ์เด็กสาวที่มีอายุตั้งแต่สิบห้าปีไปจนถึงสาวรุ่นๆ ที่อายุไม่เกินยี่สิบ หญิงสาวพวกนั้นต้องหน้าตาสะสวยและรูปร่างดี ยิ่งเรือนร่างสวยๆ นั้นไม่มีร่องรอยตำหนิยิ่งทำเงินจากการประมูลได้ราคาสูงส่วนใหญ่พวกเธอมักจะถูกพ่อแม่หรือผู้ปกครองที่มีปัญหาหนี้สินมากมายจนหาทางออกอื่นไม่ได้อีกนำมาขัดดอกขัดหนี้และพวกเธอจะต้องสมัครใจและทำสัญญา
ก่อนจะถูกนำตัวเอามาประมูลผู้หญิงพวกนี้ต้องผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียดว่าไม่มีโรคติดต่อร้ายแรงหรือเคยผ่านมือชายมาก่อน ที่สำคัญเยื่อพรหมจรรย์ไม่มีการฉีกขาดหรือถูกย้อมแมวมาขาย
เมื่อไม่มีทางเลือกในชีวิตมากพวกเธอยินยอมและสมัครใจเอาตัวมาเป็นของสินค้าเพื่อสนองตัณหาของเศรษฐีหื่นกามพวกนี้ การทำสัญญาหลังจากทำการประมูลแล้วแต่การสมัครใจตกลงกันมีตั้งแต่คืนเดียวหรืออาจจะเป็นของเล่นระยะยาวจนกว่าคนชนะประมูลจะเบื่อ
สิ่งที่หญิงสาวพวกนี้จะได้รับคือเงินที่หักออกมาจากเงินที่ชนะการประมูลและเงินจากคนที่ชนะประมูลที่ได้พวกเธอไป บางรายที่ชนะประมูลในราคาสูงก็พอจ่ายหนี้ทั้งหมดได้แต่บางรายก็ไม่...น่าเศร้าที่หญิงสาวพวกนี้จะรู้ตัวว่ากำลังก้าวเท้าเข้าสู่ขุมนรกก็เมื่อพวกเธอถูกทารุณกรรมทั้งร่างกายและจิตใจไปแล้ว เซ็กซ์วิตถารแทบทุกรูปแบบที่คนวิปริตพวกนี้จะสรรหามาทำกับพวกเธอ
เจ้าชีวิตบางคนก็ใจดีแต่ส่วนใหญ่ก็ไม่..เพราะเศรษฐีพวกนี้มักมองผู้หญิงไร้ค่าแบบพวกเธอเหมือนทาสหรือแค่สัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อความสนุกไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียง ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในห้องประมูลจะถูกเก็บเป็นความลับและถ้าเรื่องทั้งหมดถูกแพร่งพรายออกไปถึงหูบุคคลภายนอกนั่นหมายถึงจุดจบของพวกเธอเองรวมถึงครอบครัวของพวกเธอด้วยเช่นกัน
“ค่ำคืนนี้เรามีสินค้ามีชีวิตสวยๆ งามๆ ที่ถูกคัดสรรมาแล้วว่าทั้งบริสุทธิ์และสะอาดจำนวนสิบรายการเช่นเดิม ประเดิมด้วยสินค้าชิ้นแรก สาวน้อยวัยแรกแย้มอายุสิบหกปี นำสินค้าชิ้นแรกขึ้นมาให้ผู้มีเกียรติทุกท่านยลโฉมกันหน่อยสิครับ”
“เป็นไงครับกับเรือนร่างสวยๆ ของสาวน้อยแรกแย้มสัดส่วน32-22-34”
เด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มในชุดชั้นในสีชมพูอ่อนถูกนำขึ้นมาโชว์ตัวบนเวทีต่อหน้าลูกค้าผู้ชายที่แต่งกายชุดสูทหรูเกือบสี่สิบคนที่นั่งมองเด็กสาวด้วยสายตากะลิ้มกะเหลี่ยหื่นกามอย่างเห็นได้ชัด
“เริ่มต้นที่ราคาสองหมื่นครับ เริ่มการประมูลได้”
ชายผู้ดำเนินการประมูลที่ยืนหลังโพเดียมเริ่มขานราคาไปเรื่อยๆ ในขณะที่ผู้ประมูลด้านล่างสลับกันยกสลับกันชูป้ายแข่งขันสู้กันไปเรื่อยๆ การเพิ่มราคาสินค้าก็แค่ให้พนักงานหญิงถอดบราเซียร์และแพนตี้ตัวจิ๋วบนเรือนร่างของเด็กสาวออกจนเหลือแต่เนื้อตัวเปลือยเปล่า แค่นั้นราคาประมูลก็สูงลิบลิ่วไปตามคุณภาพสินค้า
“สินค้ารายการสุดท้ายของการประมูลในค่ำคืนนี้เป็นสินค้าที่พิเศษเป็นอย่างมาก สร้อยเพชรพิงก์ไดมอนด์ล้ำค่าหายากและสาวน้อยลูกครึ่งแสนสวยวัยยี่สิบในชุดราตรีสีแดงแสนเร้าใจ เราจะทำการประมูลสินค้าทั้งสองรายการไปพร้อมกันนะครับ” ผู้ดำเนินรายการประมูลพยักหน้าให้พนักงานหญิงนำสินค้าขึ้นมาบนเวที
หญิงสาวลูกครึ่งในชุดราตรียาวสุดเซ็กซี่ บนลำคอระหงมีสร้อยเพชรพิงก์ไดมอนด์สวมอยู่ เธอถูกนำตัวขึ้นมาบนเวทีด้านหน้าโพเดียมเพื่อให้ลูกค้าเศรษฐีภายในงานได้ชื่มชมความสวยงามอย่างเต็มตา
เสียงฮือฮาดังขึ้นไม่หยุด หญิงสาวลูกครึ่งแสนสวยทำเอาแขกในงานมองตาเป็นมัน
“สร้อยเพชรพิงก์ไดมอนด์หายากสวยงามล้ำค่าและสาวสวยลูกครึ่งวัยยี่สิบกับส่วนสัด35-24-34 สวยงามมากใช่ไหมครับ ผิวพรรณขาวใสผุดผ่อง ทรวงอกอิ่มสวยบั้นท้ายกลมกลึงงอนงามน่ากอดน่าขย้ำใช่ไหมครับ เราจะเริ่มประมูลราคากันที่หนึ่งล้านบาท เริ่มประมูลได้ครับ”
มีอาที่นั่งลงเก้าอี้กำมะหยี่สีดำหันไปมองบรรยากาศรอบตัวด้วยสายตาเหม่อลอย แสงไฟวูบวาบที่ส่องกระทบดวงตาและใบหน้าทำให้เธอยกมือขึ้นมาบังแสงไว้ เสียงผู้ชายที่กำลังพูดคุยกันอื้ออึงลอยเข้าโสตประสาทเต็มไปหมด หญิงสาวเห็นภาพหลอนของพวกมันที่มีหน้าตาราวกับสัตว์ประหลาดแสนน่าเกลียดน่ากลัวกำลังแสยะยิ้มมองดูเธออยู่ รอยยิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยหื่นกามและดวงตาสีแดงก่ำพวกนั้นมองโลมเลียไปทั่วเรือนร่างของเธออย่างกักขฬะ
แผ่นป้ายที่มีตัวเลขในมือผู้ชายพวกนั้นถูกชูขึ้นสลับกันไปมาไม่หยุด เธอตัวสั่นด้วยความกลัวแต่ร่างกายกลับเคลื่อนไหวได้เชื่องช้าลงเพราะฤทธิ์ยากล่อมประสาท มีอาช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แค่พยายามจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวนี้ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มือและเรียวขาทั้งสองข้างไร้เรี่ยวแรงและในเวลานี้สติเธอก็ใกล้จะปลิดพลิ้วลอยหายไปหมดแล้ว ดวงตากลมโตสีน้ำตาลมองเห็นทุกอย่างแต่เธอไม่สามารถจะทำอะไรได้..ได้แต่นั่งนิ่งเงียบเหมือนตุ๊กตามีชีวิตตัวหนึ่งเท่านั้น
“สิบห้าล้าน มีใครให้ราคาสูงกว่านี้ไหมครับ ..สิบหกล้าน ...สิบเจ็ดล้าน” ชายผู้ดำเนินการประมูลกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเมื่อเห็นป้ายในมือของลูกค้ายกชูขึ้นสลับกันเรื่อยๆ ก่อนที่ราคาประมูลจะไปหยุดนิ่งที่ยี่สิบห้าล้านบาท
ผู้ดำเนินการประมูลหันไปมองหน้าพนักงานสาวคนหนึ่งก่อนจะพยักหน้าให้เธอเดินขึ้นไปบนเวที พนักงานสาวเดินเข้าไปใกล้หญิงสาวลูกครึ่งก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างดึงสายสปาเกตตีชุดราตรีลงมาอยู่ตรงเอวคอด ทรวงอกอิ่มสวยที่มีเพียงบราปีกนกปกปิดอยู่ถูกกระชากออกตามทำให้เต้านมคู่สวยกระเด้งกระดอนออกมาเรียกเสียงฮือฮาจากลูกค้าผู้ชายหื่นกามทั้งหลายจนเกิดเสียงดังอื้ออึงไปทั่วห้อง
“อ๊ะ!! ยะอย่า..ช่วยด้วย ไม่เอาๆ ” เสียงแหบพร่าเบาหวิว ใบหน้าสวยส่ายหน้าไปมาด้วยความเสียใจและเจ็บปวด ความโกรธโมโห ความน่ารันทดอดสูและความรู้สึกสิ้นไร้ซึ่งศักดิ์ศรีของตัวเองตีตื้นขึ้นมาในอกผสมปนเปจนเจ็บปวดไปหมด มีอารับรู้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวเองแต่ก็ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย
ยอดปทุมถันสีชมพูสวยบนทรวงอกขาวกลมกลึงทำเอาผู้ชายหลายคนลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างกระหายอยาก พวกเขาทุกคนล้วนคิดอยากจะลิ้มรสชาติและอยากดูดดึงมันเล่นว่าจะรสชาติสาวน้อยตรงหน้าจะอร่อยหวานล้ำสักแค่ไหน
น้ำตาใสรื้นคลอเบ้าตาคู่สวยก่อนที่มันจะไหลลงมาอาบแก้มใสในขณะที่มีอากัดริมฝีปากล่างของตัวเองแน่นจนเลือดซึมออกมา
มีอาไม่คิดเลยว่าสุดท้ายตัวเองจะมีชะตากรรมแบบนี้.. เพราะไอ้คนชั่วสารเลวคนนั้นเพียงคนเดียว
เธอเห็นอีธานนั่งอยู่ตรงด้านหน้าสุดของเวทีถึงจะมีหน้ากากปิดอำพรางใบหน้าเธอก็จำรอยยิ้มและชุดสูทราคาแพงที่มันสวมใส่ได้ ไอ้ชูการ์แดดดี้สารเลวนั่นกำลังนั่งยิ้มอย่างพออกพอใจเมื่อผู้ประมูลราคาชูป้ายเสนอราคาแข่งขันกันอย่างบ้าเลือดและไม่มีใครยอมใคร
“ยะอย่า..ไม่..ได้โปรด อึก” มีอาร้องห้ามเสียงสั่น เธอช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แค่จะยกมือปกป้องตัวเองยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มีอาถูกพนักงานหญิงคนนั้นจับไหล่บังคับให้เธอนั่งตรงๆ ก่อนจะจับใบหน้าสวยให้เงยขึ้นสูง
“สี่สิบล้านบาท มีใครให้ราคาสูงกว่านี้ไหมครับ ..สาม ..สอง” ก่อนที่ค้อนในมือของผู้ดำเนินงานประมูลจะเคาะลงกับโต๊ะ ป้ายหมายเลข17ก็ยกชูขึ้นสูงโดยชายหนุ่มในชุดสูทสีดำที่สวมหน้ากากสีเดียวกันคุลมปกปิดครึ่งใบหน้า
“ห้าสิบล้าน” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยพูดขึ้นมา ดวงตาคมกริบมองหญิงสาวลูกครึ่งที่นั่งเหม่อลอยราวกับคนไม่มีสติอยู่ครู่หนึ่ง ทรวงอกอวบอิ่มสวยกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะการหายใจนั้นดูเย้ายวนสายตาให้ชายหนุ่มหยุดจ้องมองมันอยู่นานก่อนจะละสายตากลับขึ้นไปมองชายผู้ดำเนินรายการที่มองมาทางเขาอยู่เช่นกัน
เสียงฮือฮาดังขึ้นมาอีกครั้งเมื่อทุกคนในห้องประมูลรู้ว่าชายหนุ่มที่เสนอราคาสูงลิบลิ่วนั่นเป็นใครพอรู้แบบนั้นทุกคนในห้องประมูลก็ไม่มีใครอยากจะเสนอราคาแข่งขันกับชายหนุ่มอีก ถึงอยากจะได้สินค้าสองชิ้นนั้นมากแค่ไหนพวกเขาทุกคนก็ไม่มีใครอยากเสียเงินจำนวนมากมายเพื่อให้ได้มันมา
ถึงแม้เพชรสีชมพูรูปหยดน้ำที่ถูกนำมาทำเป็นจี้ประดับจะเป็นของหายากแต่มันก็มีขนาดเล็กแค่สิบกะรัตเท่านั้นสนนราคาจริงๆ ของมันยังไม่ถึงสามสิบล้านเลยด้วยซ้ำ ..ถึงแม้สาวสวยลูกครึ่งคนนั้นจะสวยสะดุดตาแค่ไหนก็ไม่มีค่าพอที่พวกเขาจะทุ่มเงินมากกว่าห้าสิบล้านเพื่อให้ได้เธอมาเล่นสนุกด้วยเพราะเงินจำนวนมากขนาดนี้สามารถหาซื้อสาวสวยจำนวนมากมายมาสนุกด้วยแทบไม่ซ้ำหน้าเลยด้วยซ้ำ
“เอ่อ..ใครจะให้ราคาสูงกว่านี้ไหมครับ สาม..สอง..หนึ่ง” สิ้นสุดเสียงนับถอยหลังเสียงค้อนก็ถูกทุบลงบนโต๊ะเสียงดังป๊อกเป็นอันสิ้นสุดการประมูลราคาของชิ้นนั้น
“หมายเลข17ชนะการประมูล ยินดีด้วยครับ”
พนักงานสาวนำชุดคลุมมาสวมทับบนเรือนร่างเกือบเปลือยของมีอาที่นั่งนิ่งเงียบอยู่บนเก้าอี้ หญิงสาวที่ไร้เรี่ยวแรงและแทบไม่มีสติถูกนำตัวลงจากเวที เธอถูกพาตัวไปไว้ในห้องพักหรูชั้นสี่ของไนต์คลับเพื่อรอพบคนที่ชนะการประมูล
กอบัวเรียนอยู่คนละคณะกับมีอาและม่านมุก เวลาเจอกันที่มหาลัยก็แค่ทักทายพูดคุยกันตามธรรมดา แต่ส่วนมากถ้าไม่เจอกันแบบจังๆ กอบัวแทบไม่เดินเฉียดพวกเธอเลยด้วยซ้ำ เหมือนกลัวว่าใครๆ จะรู้ว่าหล่อนเคยอยู่ที่มูลนิธิมาก่อน การที่กอบัวเดินเข้ามาหาเธอนับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับมีอาไม่น้อย“มีอะไรหรือเปล่าบัว” มีอาพูดทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นท่าทางอึกอักของกอบัว“วันเสาร์นี้พวกเธอว่างไหม” กอบัวหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังมีอา“ไม่แน่ใจ..น่าจะว่าง มีอะไรเหรอ” มีอาตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก“อยากชวนไปงานปาร์ตี้”“งานปาร์ตี้อะไร” มีอามองใบหน้ายิ้มๆ ของกอบัวอย่างนึกสงสัย“งานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนรุ่นพี่ที่คณะของฉันเอง ฉันอยากชวนพวกเธอไปเที่ยวด้วยกัน”“วันนี้ฝนท่าจะตกหนัก ร้อยวันพันปีเธอแทบไม่อยากคุยหรือเสวนากับพวกฉันเลยด้วยซ้ำ คิดยังไงถึงมาชวนให้พวกฉันไปเที่ยวด้วย..” ม่านมุกพูดประชดออกมา เธอไม่ค่อยชอบกอบัวอยู่ก่อนแล้ว“มุก” มีอาพูดปรามเพื่อนสนิทพลางส่ายหน้าให้ม่านมุกหยุดพูด กอบัวที่ฟังอยู่ยิ้มเจื่อนหน้าถอดสีลงไปทันที“ก็พูดเรื่องจริงนิ” ม่านมุกไม่สนใจว่ากอบัวจะรู้สึกยังไงกับคำพูดของเธอ เพราะเธออยาก
“จำใส่สมองไว้ด้วยสิ ฉันไม่ชอบพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ บ่อยๆ ”“เข้าใจแล้วค่ะ” เธอกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อยขณะกลั้นใจตอบ ยังไม่ทันจะพาร่างกายบอบช้ำของตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปเสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน“มานี่” ราเชนทร์ขยี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆ ก่อนจับบานหน้าต่างให้ปิดสนิทเหมือนเดิม“พรุ่งนี้มีเรียนเช้าค่ะ แล้วตรงสะโพกมันก็เจ็บมากไว้ต่อวันอื่นได้ไหมคะ” มีอาโกหก...ที่จริงแล้วเธอมีเรียนแค่ช่วงบ่าย แต่เรื่องเจ็บตรงบั้นท้ายนั้นเธอพูดจริง เธออยากได้ยาแก้ปวดและอยากนอนพักผ่อน“ตั้งหลายรอบแล้วคุณ..เอ่อ..ยังไม่พอใจอีกหรือคะ”“พอหรือไม่พอมันอยู่ที่ฉัน”“…”“ฉันจะอาบน้ำด้วย”“อาบสองคนมันไม่ค่อยสะดวกมั้งคะ คุณราเชนทร์อาบก่อนก็ได้” มีอาบ่ายเบี่ยง เธอรู้ว่ามันไม่ใช่แค่อาบน้ำหรอก เขาต้องการมากกว่านั้นราเชนทร์ไม่ได้ตอบแต่ใช้สายตากดดัน ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหามีอาที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ มือข้างหนึ่งกระชากชุดเดรสรสีแดงที่เธอถือไว้ออกก่อนจะใช้มือข้างเดิมบีบขยำลงบนบั้นท้ายที่บวมแดงของเธอ ใบหน้าสวยเหยเกเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือหนาบีบแรงขึ้นๆ ร่างสูงดึงรั้งหญิงสาวที่เดินตามเข้าไปในห้องน้ำมันก็เป็นอย่า
เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาไม่ได้สวมถุงยางอนามัยยังไม่ทันจะเอ่ยปากทักคนใต้ร่างก็กระแทกสวนขึ้นมาจนเธอนิ่วหน้าเพราะรู้สึกจุกเจ็บมากกว่าเดิม เขามันโรคจิตและดูจะพอใจที่ทำให้เธอเจ็บ“อ๊ะ มันเจ็บ คุณ..บอกว่าจะให้..มีอาทำไง อยู่นิ่งๆ สิคะ” เธอไม่อยากเจ็บตัวอยากจะรู้สึกดีมากกว่า ให้เธอทำเองคงดีกว่าปล่อยให้เขากระแทกใส่แรงๆ แบบนี้“ใส่ถุงยางก่อนดีไหมคะ อ๊ะ”“ไม่ ทำหน้าที่ของเธอต่อสิ ขย่มลงมาแรงๆ ถ้าทำไม่ถูกใจ..ฉันจะเป็นฝ่ายทำเอง”“ถ้าฉันทำ เธอจะเจ็บมากกว่านี้”มีอากัดริมฝีปากล่างเบาๆ ขณะที่มือบางจับหน้าท้องแบนราบไว้แน่น ขยับสะโพกกลมกลึงบดคลึงบนแก่นกายแข็งใหญ่ช้าๆ พอเธอทำเองมันก็เสียวมากจริงๆ ของเขาทั้งใหญ่ทั้งยาวมันคงเข้าไปลึกจนถึงปากมดลูกเลยทีเดียว“อ๊า สะเสียวจัง” เธอหลุดปากออกมาอย่างลืมตัวเมื่อออกแรงกระแทกบนแก่นกายแรงขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนราเชนทร์จะพอใจขึ้นแต่มีอาก็ยังทำไม่ถูกใจเขานัก ฝ่ามือหนาฟ
ชายหนุ่มยิ่งยิ้มกริ่มรู้สึกเหมือนสาวสวยตรงหน้ากำลังเล่นตัวมากกว่าจะอยากให้เขาปล่อยมือเธอจริงๆ ไม่มีสาวคนไหนไม่รู้จักนักธุรกิจนามสกุลดังอย่างเขา“มานั่งข้างๆ ฉันนี่ เธอ!ลุกออกไป ฉันจะให้ผู้หญิงคนนี้นั่งตรงนี้แทน” ชายหนุ่มออกปากไล่สาวสวยที่นั่งข้างๆ หล่อนตวัดสายตาขึ้นมองมีอาอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมขยับตัวลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมไปนั่งที่โซฟายาวด้านหลังแทนยิ่งขัดขืนผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ ท่อนแขนตวัดโอบรัดรอบเอวบางอย่างถือวิสาสะก่อนจะดันร่างบางให้นั่งลงบนตักของตัวเอง“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยย!!”มีอาดิ้นขลุกขลัก มือทั้งสองพยายามแกะท่อนแขนที่โอบรัดรอบเอวออก ทุกคนยังคงพูดคุยหัวเราะและดื่มเหล้ากันต่อโดยทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน พวกเขาทำเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นเรื่องปกติเธอหันไปมองราเชนทร์ พยายามจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เขากำลังมองเธออยู่เช่นกัน แต่มองด้วยสีหน้าและแววตาเรียบเฉยเย็นชา คาดเดาไม่ออกว่าเขาจะช่วยเธอไหมในขณะที่ผู้ชายคนนี้กำลังกร
“แกรู้จักกับคุณราเชนทร์ด้วยเหรอ” ม่านมุกเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างที่พวกเธอทั้งคู่ยืนรอรถแท็กซี่อยู่บริเวณด้านหน้าของมูลนิธิมีอารู้ว่าเพื่อนอยากรู้เรื่องนี้มากแต่ไม่กล้าถามอะไรออกมาเพราะในมูลนิธิมีคนอยู่เยอะและเธอแทบไม่เปิดโอกาสให้ม่านมุกได้ถามเลย เธออยากโกหกแต่คนอย่างม่านมุกคงไม่เชื่อและไม่เลิกสงสัยแน่ๆ ถ้าคำตอบมันไม่มีเหตุผลพอและคงตามถามเซ้าซี้ไม่หยุดจนกว่าจะได้คำตอบที่หล่อนพอใจ“อืม เคยเจอที่เอ็มมาริออนเมื่ออาทิตย์ก่อน”“ตอนที่แกไปกับอีธานเหรอ เฮ้ย! ทำไมแกไม่เห็นแกเล่าให้ฉันฟังอะ เล่ามาให้หมดเลยนะไปรู้จักคุณราเชนทร์ได้ยังไง”“อือ ก็คุยกันนิดหน่อย” ขนาดเธอเตรียมคำตอบไว้แล้วพอถูกจี้ถามจริงๆ ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน สายตาม่านมุกดูคาดคั้นจนมีอาต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด“แค่นั้นจริงเหรอ ไม่เชื่ออะ! ดูแกสนิทสนมกับเขาออก เห็นคุยกันตลอดแถมเดินตัวติดกันไม่ห่าง แถมฉันยังได้ยินเขาเรียกชื่อเล่นแกบ่อยๆ
ช่วงสายของวันเสาร์ทุกคนที่มูลนิธิดูยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมงานต้อนรับบุคคลสำคัญที่กำลังจะเดินทางมาถึง มีอา ม่านมุกและเพื่อนคนอื่นๆ ที่ว่างในวันนี้กำลังช่วยกันสำรวจดูแลความเรียบร้อยอีกรอบเพื่อไม่ให้งานขาดตกบกพร่อง รวมถึงการช่วยดูแลเด็กเล็กๆ ให้นั่งอยู่กับโต๊ะของตัวเองให้เรียบร้อย ถึงการจัดเตรียมสถานที่จะมีเจ้าหน้าที่มาจัดเตรียมงานให้อยู่แล้วแต่ถ้าวันไหนตรงกับวันว่างไม่มีเรียนหรือไม่ได้ติดธุระอย่างอื่นมีอาและม่านมุกมักจะมาช่วยงานต่างๆ ของมูลนิธิเสมอเธอรู้แค่ว่าเจ้าของมูลนิธิจะเดินทางมาแจกของขวัญและขนมให้กับเด็กๆ แต่ไม่มีกำหนดการแน่นอน เดือนครั้งหรือไม่ก็สองสามเดือนครั้ง พอเด็กทุกคนรู้ก็มักจะตื่นเต้นดีใจและตั้งหน้าตั้งตานับวันรอเพราะจะได้ทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่ หนังสือนิทาน ของเล่นรวมถึงขนมอร่อยๆ แต่ภาพผู้ชายร่างสูงที่เดินลงมาจากรถและมีลูกน้องที่มีอาคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีเดินตามหลังมาด้วยทำให้เธอทั้งตกใจและประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่มาเองเพราะส่วนมากคนที่มาจะเป็นคุณมิคาเอลกับภรรยาของท่านเธอไม่คิดว่าคนร้ายกาจ
![สิงขร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






