เข้าสู่ระบบEMMARION Club and Lounge
สาวสวยผมสีน้ำตาลยาวสลวยถูกดัดเป็นลอนใหญ่ตรงปลายเบาๆ ในชุดเดรสยาวสุดเซ็กซี่สีแดงแบรนด์เนมหรูและรองเท้าคริสเตียนลูบูแตงสีเดียวกันกำลังนั่งจิบเครื่องดื่มในไนต์คลับหรูกับหนุมใหญ่ชูการ์แดดดี้ของเธอ
อีธานบอกกับเธอว่าเป็นสเปเชียลไนท์และมันก็เป็นค่ำคืนที่พิเศษมากอย่างที่เขาบอกจริงๆ ชุดราตรีหรู กระเป๋าคลัทช์ตกแต่งคริสทัลและรองเท้าราคาแพงที่หญิงสาวสวมใส่ในตอนนี้ล้วนเป็นของขวัญสุดพิเศษที่หนุ่มใหญ่มอบให้ อีธานพาเธอมาดินเนอร์มื้อเย็นแสนอร่อยที่นี่หลังจากทานอาหารเสร็จก็พาเธอมานั่งดื่มค็อกเทล ฟังเพลงเพราะๆ เคล้าบรรยากาศดีๆ แบบนี้ต่อ
มีอากวาดสายตามองไปโดยรอบของไนต์คลับอย่างพินิจพิเคราะห์ มองดูผู้คนที่แต่งตัวหรูหรามีรสนิยม มันแตกต่างจากไนต์คลับที่เธอเคยไปมาอย่างสิ้นเชิง เธออดรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับความหรูหราโออ่าของมันไม่ได้ นอกจากเครื่องดื่มเลิศรสแล้วที่นี่ยังตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหราสีทองตัดกับสีดำอย่างได้อย่างลงตัวดูมีระดับโฮโซสุดๆ
เมื่อเห็นหญิงสาวตรงหน้าเหม่อมองไปทั่วอย่างตื่นเต้นและสนอกสนใจเป็นพิเศษ ดวงตากลมโตเป็รประกายระยิบระยับจนหนุ่มใหญ่ที่มองอยู่ถึงกับหลุดยิ้มกว้างออกมาด้วยความเอ็นดู
“อยากได้เครื่องดื่มเพิ่มอีกไหมครับ” หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบเอ่ยทักขึ้นมาเมื่อเห็นมาการิต้าในแก้วของชูการ์เบบี้ของเขาใกล้หมดเต็มที อีธานยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเอื้อมมือไปจับบนหลังมือเล็กอย่างถือวิสาสะ นวดคลึงวนปลายนิ้วบนหลังมือของเธอเบาๆ และเน้นหนักขึ้นบางจังหวะ
การกระทำแบบนั้นของหนุ่มใหญ่ทำเอามีอารู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาแต่ก็ปั้นหน้ายิ้มหวานส่งให้เขาตามปกติ แววตาและท่าทางที่แสดงออกส่อไปทางเรื่องอย่างว่าจนมีอายังรู้สึกได้
อีธานเปย์หนักก็จริงแต่ก็มือไวมากเช่นกัน เขาต่างจากชูการ์แดดดี้อีกคนของลีอาที่สุภาพกว่าและให้เกียรติเธอมากกว่าแต่ก็เปย์หนักได้ไม่เท่าหนุ่มใหญ่ตรงหน้า
“อืม..พอก่อนดีกว่าค่ะ มีอาดื่มมาสามแก้วแล้ว..ดื่มมากกว่านี้กลัวว่าจะเมาเสียก่อนตอนมีอาเมาไม่ค่อยน่าดูสักเท่าไหร่ คุณมิวนิคตั้งใจจะมอมเหล้ามีอาหรือเปล่าคะเนี่ย คริๆ ”
เธอยิ้มหวานและแสร้งหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ชักมือหนีสัมผัสจากหนุ่มใหญ่ที่นั่งมองเธอตาเป็นมัน ปล่อยให้เขาสัมผัสเธอไปแบบนั้นเรื่อยๆ พอเห็นหญิงสาวไม่ว่าอะไรแถมยังยิ้มหวานให้มือหยาบกร้านก็ลูบไล้ขึ้นมาบนท่อนแขนเนียนๆ ของเธอแทนก่อนจะเลื่อนลงมาเกาะกุมมือบางไว้
“ผมอยากเห็นตอนมีอาเมานะ คงจะ..น่ารักมากแน่ๆ ” อีธานยกยิ้มพลางขยิบตาส่งให้
คืนนี้หนุ่มใหญ่อยากได้คนคลายเหงามากกว่าแค่เพื่อนนั่งดื่มและพูดคุยกันเหมือนทุกครั้ง เขามีชูการ์เบบี้สามคนและมีอาก็เป็นชูการ์เบบี้ที่อีธานเปย์หนักที่สุด ถึงแม้จะทุ่มเงินให้หญิงสาวตรงหน้ามากแค่ไหนเธอก็ไม่ยอมใจอ่อนมีเซ็กซ์กับเขาสักที
อีธานจ้องมองใบหน้าของสาวสวยเยาว์วัยตรงหน้าค่อยๆ เลื่อนสายตาลงมาจนถึงทรวงอกอิ่มที่มีชุดเดรสสีแดงปกปิดอยู่ ผิวพรรณผุดผ่องของวัยสาว เขาอยากรู้จริงๆ ว่าเรือนร่างเปลือยเปล่าของชูการ์เบบี้อย่างมีอาจะสวยอย่างที่จินตนาการไว้หรือเปล่า มีอายังเด็กก็จริงแต่ก็ดูเป็นผู้ใหญ่เกินสาวๆ ในวัยเดียวกัน บางครั้งก็ดูไร้เดียงสาและในบางครั้งก็ดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจแบบสาวมากประสบการณ์แบบที่อีธานชอบ
ถ้าประเมินจากจริตมารยาของหญิงสาวตรงหน้าก็พอเดาออกว่าเธอคงไม่ซิงแล้วแน่ๆ หนุ่มใหญ่ไม่เข้าใจว่ามีอาจะหวงเนื้อหวงตัวไปทำไมหรือว่านี่เป็นวิธีหว่านเสน่ห์เพื่อเรียกค่าตัวมากๆ ของเธอกันแน่
“มีอาเมาแล้วน่าเกลียดมากเลยค่ะ ไม่ได้น่ารักอยากที่คุณคิดหรอก เอ่อ..ไนต์คลับที่นี่สวยแล้วก็หรูมากเลยนะคะ” มีอารู้สึกแบบนั้นจริงๆ เธอเคยไปเที่ยวไนต์คลับหรูมามากแต่ไม่มีที่นี่หรูหราเท่าที่นี่เลย แถมลูกค้าแต่ละคนก็มีแต่บรรดาพวกนักธุรกิจและคนมีชื่อเสียงที่เธอเคยเห็นผ่านตาตามทีวีหรือในโซเชียลมีเดีย ไม่น่าแปลกใจที่คนมาเที่ยวที่นี่จะมีแต่พวกผู้ชายทั้งนั้น คงเป็นเพราะพนักงานสาวของที่นี่ พวกเธอหน้าตาสะสวยและรูปร่างก็ดีมากเช่นกัน
“เอ็มมาริออนเป็นไนต์คลับที่หรูหราและไฮคลาสสุดในไทยแล้วนะ ผมอยากจะพามีอามาตั้งนานแล้วเพิ่งจะมีโอกาส”
“คืนนี้มีงานประมูลที่ห้องใต้ดินด้วยนะ ผมก็มีเครื่องประดับหายากมาประมูลในงานด้วย งานประมูลแบบนี้จัดขึ้นแค่สามเดือนครั้งเท่านั้นถือว่าสเปเชียลสุดๆ มีแต่ของหายากทั้งนั้นอยากไปดูไหมครับ”
“เหมือนงานประมูลทั่วๆ ไปหรือเปล่าคะ”
“ไม่ใช่มันพิเศษกว่านั้นมาก มันเป็นงานประมูลของหายากพวกเครื่องประดับที่มีมูลค่ามากๆ หรือพวกงานศิลปะของศิลปินชื่อดังต่างๆ ”
“ว้าว! น่าสนใจดีนะคะ มีอาชักอยากเห็นแล้วสิคะว่ามันจะพิเศษขนาดไหน ว่าแต่งานประมูลเริ่มตอนกี่โมงคะ”
“สี่ทุ่ม เดี๋ยวผมจะพาชูการ์เบบี้คนสวยของผมไปดูนะ” อีธานใบหน้าเข้าไปหอมแก้มใสของหญิงสาวอย่างหลงใหล
รอยยิ้มหวานของอีธานทำให้มีอารู้สึกขนลุกแปลกๆ อะไรในตัวเขาหลายๆ อย่างในคืนนี้ก็เช่นกัน
ชูการ์แดดดี้ของเธอคนนี้นานๆ จะนัดเจอกับเธอสักครั้งเพราะอีธานเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศบ่อยๆ มีอารู้แค่ว่าเขาทำธุรกิจพวกจิวเวลรี่ ส่วนมากมีอาจะคุยกับเขาผ่านข้อความมากกว่าและจะคุยโทรศัพท์เฉพาะเวลาที่เขาโทรมาหา ถึงไม่เจอหน้ากันบ่อยแต่แดดดี้คนนี้ก็เปย์เงินและของราคาแพงๆ ให้เธอมากกว่าแดดดี้ชูการ์อีกคนของเธอ อย่างชุดเดรสสั้นสุดสวยและกระเป๋ารองเท้าที่เธอใส่มาในคืนนี้อีธานก็เป็นคนซื้อให้
อีธานนั่งมองหน้าปัดนาฬิกาเป็นพักๆ เพราะเหลือเวลาอีกแค่สามสิบห้านาทีก็จะได้เวลาที่หนุ่มใหญ่ต้องลงไปที่ห้องประมูลใต้ดินของไนต์คลับ เขาเดินเข้าไปพูดคุยกับบอดี้การ์ดสองคนที่เดินเข้ามาหาก่อนที่บอดี้การ์ดทั้งคู่จะเดินออกไปจากห้อง
มีอามองอีธานที่กำลังเดินกลับเข้ามาหา พลันสายตาก็สะดุดเข้ากับร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีดำที่เดินเข้ามาในห้อง ด้านหลังของชายหนุ่มคนนั้นมีบอดี้การ์ดหน้าตาขึงขังเดินตามประกบไม่ห่าง
มีอารู้สึกถึงรังสีบางอย่างแผ่กระจายออกมาจากผู้ชายร่างสูงคนนั้น เธอสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่และความมีอำนาจที่แตกต่างจากคนปกติทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด ปฏิกิริยาของทุกคนในไนต์คลับดูจะตื่นตัวกับการปรากฏกายของผู้ชายคนนี้เช่นกัน ทุกคนหันไปมองชายหนุ่มเป็นตาเดียว..มันทำให้มีอายิ่งรู้สึกสนใจและอยากรู้จักผู้ชายคนนั้นตามไปด้วย
ใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาคมเข้มที่มองมาทำเอาลมหายใจของหญิงสาวสะดุดไปจังหวะหนึ่ง หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นอย่างไม่รู้สาเหตุ มีอาเคยเห็นหนุ่มหล่อมามากแต่ไม่มีใครหล่อและสมาร์ตได้เท่าผู้ชายร่างสูงคนนี้เลย
อีธานรีบเดินเข้าไปหาชายหนุ่มคนนั้นทันทีด้วยท่าทางเคารพนอบน้อมทั้งๆ ที่ดูแล้วผู้ชายคนนั้นน่าจะอายุน้อยกว่าเขาด้วยซ้ำ
มีอามองดูพวกเขาทั้งคู่ด้วยความสนใจ อีธานหันมายิ้มเจื่อนๆ ให้เธอเป็นพักๆ ขณะที่พูดคุยทักทายกับผู้ชายคนนั้น เขาดูลนลานและวิตกกังวล คอตกไหล่ตกอย่างคนสูญเสียความมั่นใจจนไม่เหลือความสง่างามเฉกเช่นในยามปกติที่อีธานเป็น
ดวงตาคมกริบที่มองมาทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นยิ่งกว่าเดิม มีอามองสบสายตากับเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ชายหนุ่มจะหันกลับไปคุยกับชูการ์แดดดี้ของเธอต่อ ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยดูเย็นชากลับมีเสน่ห์ชวนหลงใหลจนมีอาไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าของมาเฟียหนุ่มได้เลย
มีอารู้ว่าการจ้องหน้าคนอื่นแบบที่เธอทำอยู่มันเป็นการเสียมารยาทแต่เธอก็หยุดมองเขาไม่ได้จริงๆ
“เอ่อ..คุณราเชนทร์ ไม่ได้เจอกันนานคืนนี้สนใจจะไปร่วมงานประมูลด้วยหรือเปล่าครับ ผมเพิ่งได้สร้อยเพชรพิงก์ไดมอนด์ชิ้นพิเศษสุดที่หายากมากๆ มาจากยุโรปเมื่อสี่เดือนก่อน”
“ขอโทษด้วย..ผมไม่สนใจเครื่องประดับ”
“ผู้หญิงคนนั้นแฟนคุณอีธานเหรอครับ เห็นเธอมองมาทางคุณตลอดเลย” มาเฟียหนุ่มปรายตามองสาวสวยชุดแดงสุดเซ็กซี่อยู่ครู่หนึ่ง หญิงสาวคนนั้นมองมาทางพวกเขาทั้งคู่ด้วยความสนใจ
“ไม่ใช่ครับ คุณราเชนทร์สนใจเธอเหรอครับ? ” อีธานมองตามสายตาของราเชนทร์ที่กำลังมองชูการ์เบบี้ของเขาด้วยความสนใจ พลันความคิดบางอย่างก็แล่นเข้ามาในสมอง อีธานอยากเอาใจเจ้าหนี้รายใหญ่คนนี้ถ้าอะไรที่ราเชนทร์บอกว่าสนใจเขาก็พร้อมจะยอมทำทุกอย่างเพื่อจะทำให้มาเฟียหนุ่มพอใจ
“หึ เธอสวยดี เด็กคุณเหรอครับ”
“เอ่อ..เธอเป็นชูการ์เบบี้ของผมนะครับ ถ้าคุณราเชนทร์สนใจ..ผมจะเรียกเธอให้มาบริการคุณนะครับ”
“ไม่ล่ะครับ ผมแค่จะมาบอกให้คุณอีธานทราบไว้ว่าระยะเวลาชำระหนี้ของคุณเหลืออีกแค่เดือนเดียว ถ้าไม่จ่ายตามกำหนดเวลาผมคงต้องดำเนินการตามกฎหมาย”
อีธานรู้ดีว่าราเชนทร์ไม่ใช่แค่เจ้าของไนต์คลับหรู เขาเป็นนักธุรกิจและก็เป็นมาเฟียที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่ง ดำเนินการตามกฎหมายที่มาเฟียหนุ่มบอกก็เป็นแค่ข้ออ้าง อีธานรู้ดีว่าถ้าเขาหาเงินเกือบหกสิบล้านมาจ่ายตามกำหนดสัญญาไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น นอกจากจะถูกยึดทรัพย์สมบัติทั้งหมดที่มีแล้วชีวิตเขาก็อาจจะไม่รอดด้วยเช่นกัน
สร้อยเพชรพิงก์ไดมอนด์ที่หายากนี้อาจจะเป็นหนทางเดียวที่จะช่วยต่อลมหายใจของอีธานได้เฮือกใหญ่ เสียดายที่มันมีขนาดเล็กไปหน่อยไม่งั้นคงเรียกราคาประมูลได้หลายสิบล้านบาทเผลอๆ อาจจะได้ถึงหลักร้อยล้านถ้ามีคนสนใจประมูลแข่งขันราคามากๆ หนุ่มใหญ่วาดหวังกับงานประมูลในครั้งนี้มากเพราะคนที่มาร่วมประมูลในงานคืนนี้แต่ละคนก็เป็นเศรษฐีระดับแถมหน้าของเมืองไทยทั้งนั้น ยิ่งเป็นของหายากมากเท่าไหร่ทุกคนก็พร้อมจะทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมาเป็นของตัวเอง
“คะคุณราเชนทร์กรุณาด้วยเถอะครับ ถ้าผมได้เงินประมูลในคืนนี้ผมจะนำมาจ่ายดอกและชำระเงินต้นให้ไปบางส่วนนะครับ..ที่เหลือผมจะรีบหามาใช้โดยเร็วที่สุด คุณราเชนทร์ก็รู้ว่าตลอดมาผมจ่ายเงินคุณตามกำหนดระยะเวลาที่ตกลงกันไว้เสมอ ตะ..แต่เป็นเพราะช่วงนี้ธุรกิจของผมมีปัญหานิดหน่อยเลยทำให้หาเงินมาคืนคุณไม่ทัน คุณราเชนทร์ช่วยเห็นใจผมหน่อยเถอะครับ”
“นั่นเป็นปัญหาของคุณ ผมใจดีผ่อนผันให้คุณมาหลายครั้งแล้วเพราะเห็นว่าเราเคยทำธุรกิจด้วยกันมาก่อน คุณคงเข้าใจใช่ไหมว่าธุรกิจก็คือธุรกิจ ถ้าภายในเดือนนี้ผมไม่ได้เงินคืนทั้งหมดอย่าหาว่าผมใจร้ายไม่ได้นะ” มาเฟียหนุ่มมองลูกหนี้ที่ยืนหน้าซีดตรงหน้าอย่างไม่สนใจ
มาเฟียหนุ่มหันไปมองหญิงสาวที่กำลังมองมาทางเขาด้วยความสนใจ ดวงตาคมเข้มมองสบสายตากับเธอครู่หนึ่งก่อนจะเดินจากไป
“Shit!! ไอ้หน้าเลือด” เขาสบถออกมาอย่างหัวเสียขณะมองตามหลังร่างสูงไปอย่างโมโห
อีธานพ่นลมหายใจออกมาอย่างหงุดหงิด เขาเดินกลับมาหาชูการ์เบบี้ที่ยิ้มหวานส่งให้ หน้าตาที่เคร่งเครียดผิดกับเมื่อครู่ลิบลับทำเอาคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัย ถึงอีธานจะพยายามปั้นหน้าเป็นปกติมากแค่ไหนก็ไม่สามารถกลบเกลี่ยนความวิตกกังวลบนใบหน้าและแววตาได้ มีอามองเขาอยู่ครู่หนึ่งอย่างใช้ความคิด เธอรู้ว่าอีธานผิดปกติไปตั้งแต่คุยกับผู้ชายคนนั้น
อีธานเอื้อมมือออกมากุมมือบางไว้ขณะมองมีอาอย่างใช้ความคิด
“ผมมีเรื่องอยากขอให้คุณช่วยหน่อย”
กอบัวเรียนอยู่คนละคณะกับมีอาและม่านมุก เวลาเจอกันที่มหาลัยก็แค่ทักทายพูดคุยกันตามธรรมดา แต่ส่วนมากถ้าไม่เจอกันแบบจังๆ กอบัวแทบไม่เดินเฉียดพวกเธอเลยด้วยซ้ำ เหมือนกลัวว่าใครๆ จะรู้ว่าหล่อนเคยอยู่ที่มูลนิธิมาก่อน การที่กอบัวเดินเข้ามาหาเธอนับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับมีอาไม่น้อย“มีอะไรหรือเปล่าบัว” มีอาพูดทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นท่าทางอึกอักของกอบัว“วันเสาร์นี้พวกเธอว่างไหม” กอบัวหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังมีอา“ไม่แน่ใจ..น่าจะว่าง มีอะไรเหรอ” มีอาตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก“อยากชวนไปงานปาร์ตี้”“งานปาร์ตี้อะไร” มีอามองใบหน้ายิ้มๆ ของกอบัวอย่างนึกสงสัย“งานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนรุ่นพี่ที่คณะของฉันเอง ฉันอยากชวนพวกเธอไปเที่ยวด้วยกัน”“วันนี้ฝนท่าจะตกหนัก ร้อยวันพันปีเธอแทบไม่อยากคุยหรือเสวนากับพวกฉันเลยด้วยซ้ำ คิดยังไงถึงมาชวนให้พวกฉันไปเที่ยวด้วย..” ม่านมุกพูดประชดออกมา เธอไม่ค่อยชอบกอบัวอยู่ก่อนแล้ว“มุก” มีอาพูดปรามเพื่อนสนิทพลางส่ายหน้าให้ม่านมุกหยุดพูด กอบัวที่ฟังอยู่ยิ้มเจื่อนหน้าถอดสีลงไปทันที“ก็พูดเรื่องจริงนิ” ม่านมุกไม่สนใจว่ากอบัวจะรู้สึกยังไงกับคำพูดของเธอ เพราะเธออยาก
“จำใส่สมองไว้ด้วยสิ ฉันไม่ชอบพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ บ่อยๆ ”“เข้าใจแล้วค่ะ” เธอกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อยขณะกลั้นใจตอบ ยังไม่ทันจะพาร่างกายบอบช้ำของตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปเสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน“มานี่” ราเชนทร์ขยี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆ ก่อนจับบานหน้าต่างให้ปิดสนิทเหมือนเดิม“พรุ่งนี้มีเรียนเช้าค่ะ แล้วตรงสะโพกมันก็เจ็บมากไว้ต่อวันอื่นได้ไหมคะ” มีอาโกหก...ที่จริงแล้วเธอมีเรียนแค่ช่วงบ่าย แต่เรื่องเจ็บตรงบั้นท้ายนั้นเธอพูดจริง เธออยากได้ยาแก้ปวดและอยากนอนพักผ่อน“ตั้งหลายรอบแล้วคุณ..เอ่อ..ยังไม่พอใจอีกหรือคะ”“พอหรือไม่พอมันอยู่ที่ฉัน”“…”“ฉันจะอาบน้ำด้วย”“อาบสองคนมันไม่ค่อยสะดวกมั้งคะ คุณราเชนทร์อาบก่อนก็ได้” มีอาบ่ายเบี่ยง เธอรู้ว่ามันไม่ใช่แค่อาบน้ำหรอก เขาต้องการมากกว่านั้นราเชนทร์ไม่ได้ตอบแต่ใช้สายตากดดัน ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหามีอาที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ มือข้างหนึ่งกระชากชุดเดรสรสีแดงที่เธอถือไว้ออกก่อนจะใช้มือข้างเดิมบีบขยำลงบนบั้นท้ายที่บวมแดงของเธอ ใบหน้าสวยเหยเกเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือหนาบีบแรงขึ้นๆ ร่างสูงดึงรั้งหญิงสาวที่เดินตามเข้าไปในห้องน้ำมันก็เป็นอย่า
เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาไม่ได้สวมถุงยางอนามัยยังไม่ทันจะเอ่ยปากทักคนใต้ร่างก็กระแทกสวนขึ้นมาจนเธอนิ่วหน้าเพราะรู้สึกจุกเจ็บมากกว่าเดิม เขามันโรคจิตและดูจะพอใจที่ทำให้เธอเจ็บ“อ๊ะ มันเจ็บ คุณ..บอกว่าจะให้..มีอาทำไง อยู่นิ่งๆ สิคะ” เธอไม่อยากเจ็บตัวอยากจะรู้สึกดีมากกว่า ให้เธอทำเองคงดีกว่าปล่อยให้เขากระแทกใส่แรงๆ แบบนี้“ใส่ถุงยางก่อนดีไหมคะ อ๊ะ”“ไม่ ทำหน้าที่ของเธอต่อสิ ขย่มลงมาแรงๆ ถ้าทำไม่ถูกใจ..ฉันจะเป็นฝ่ายทำเอง”“ถ้าฉันทำ เธอจะเจ็บมากกว่านี้”มีอากัดริมฝีปากล่างเบาๆ ขณะที่มือบางจับหน้าท้องแบนราบไว้แน่น ขยับสะโพกกลมกลึงบดคลึงบนแก่นกายแข็งใหญ่ช้าๆ พอเธอทำเองมันก็เสียวมากจริงๆ ของเขาทั้งใหญ่ทั้งยาวมันคงเข้าไปลึกจนถึงปากมดลูกเลยทีเดียว“อ๊า สะเสียวจัง” เธอหลุดปากออกมาอย่างลืมตัวเมื่อออกแรงกระแทกบนแก่นกายแรงขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนราเชนทร์จะพอใจขึ้นแต่มีอาก็ยังทำไม่ถูกใจเขานัก ฝ่ามือหนาฟ
ชายหนุ่มยิ่งยิ้มกริ่มรู้สึกเหมือนสาวสวยตรงหน้ากำลังเล่นตัวมากกว่าจะอยากให้เขาปล่อยมือเธอจริงๆ ไม่มีสาวคนไหนไม่รู้จักนักธุรกิจนามสกุลดังอย่างเขา“มานั่งข้างๆ ฉันนี่ เธอ!ลุกออกไป ฉันจะให้ผู้หญิงคนนี้นั่งตรงนี้แทน” ชายหนุ่มออกปากไล่สาวสวยที่นั่งข้างๆ หล่อนตวัดสายตาขึ้นมองมีอาอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมขยับตัวลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมไปนั่งที่โซฟายาวด้านหลังแทนยิ่งขัดขืนผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ ท่อนแขนตวัดโอบรัดรอบเอวบางอย่างถือวิสาสะก่อนจะดันร่างบางให้นั่งลงบนตักของตัวเอง“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยย!!”มีอาดิ้นขลุกขลัก มือทั้งสองพยายามแกะท่อนแขนที่โอบรัดรอบเอวออก ทุกคนยังคงพูดคุยหัวเราะและดื่มเหล้ากันต่อโดยทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน พวกเขาทำเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นเรื่องปกติเธอหันไปมองราเชนทร์ พยายามจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เขากำลังมองเธออยู่เช่นกัน แต่มองด้วยสีหน้าและแววตาเรียบเฉยเย็นชา คาดเดาไม่ออกว่าเขาจะช่วยเธอไหมในขณะที่ผู้ชายคนนี้กำลังกร
“แกรู้จักกับคุณราเชนทร์ด้วยเหรอ” ม่านมุกเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างที่พวกเธอทั้งคู่ยืนรอรถแท็กซี่อยู่บริเวณด้านหน้าของมูลนิธิมีอารู้ว่าเพื่อนอยากรู้เรื่องนี้มากแต่ไม่กล้าถามอะไรออกมาเพราะในมูลนิธิมีคนอยู่เยอะและเธอแทบไม่เปิดโอกาสให้ม่านมุกได้ถามเลย เธออยากโกหกแต่คนอย่างม่านมุกคงไม่เชื่อและไม่เลิกสงสัยแน่ๆ ถ้าคำตอบมันไม่มีเหตุผลพอและคงตามถามเซ้าซี้ไม่หยุดจนกว่าจะได้คำตอบที่หล่อนพอใจ“อืม เคยเจอที่เอ็มมาริออนเมื่ออาทิตย์ก่อน”“ตอนที่แกไปกับอีธานเหรอ เฮ้ย! ทำไมแกไม่เห็นแกเล่าให้ฉันฟังอะ เล่ามาให้หมดเลยนะไปรู้จักคุณราเชนทร์ได้ยังไง”“อือ ก็คุยกันนิดหน่อย” ขนาดเธอเตรียมคำตอบไว้แล้วพอถูกจี้ถามจริงๆ ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน สายตาม่านมุกดูคาดคั้นจนมีอาต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด“แค่นั้นจริงเหรอ ไม่เชื่ออะ! ดูแกสนิทสนมกับเขาออก เห็นคุยกันตลอดแถมเดินตัวติดกันไม่ห่าง แถมฉันยังได้ยินเขาเรียกชื่อเล่นแกบ่อยๆ
ช่วงสายของวันเสาร์ทุกคนที่มูลนิธิดูยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมงานต้อนรับบุคคลสำคัญที่กำลังจะเดินทางมาถึง มีอา ม่านมุกและเพื่อนคนอื่นๆ ที่ว่างในวันนี้กำลังช่วยกันสำรวจดูแลความเรียบร้อยอีกรอบเพื่อไม่ให้งานขาดตกบกพร่อง รวมถึงการช่วยดูแลเด็กเล็กๆ ให้นั่งอยู่กับโต๊ะของตัวเองให้เรียบร้อย ถึงการจัดเตรียมสถานที่จะมีเจ้าหน้าที่มาจัดเตรียมงานให้อยู่แล้วแต่ถ้าวันไหนตรงกับวันว่างไม่มีเรียนหรือไม่ได้ติดธุระอย่างอื่นมีอาและม่านมุกมักจะมาช่วยงานต่างๆ ของมูลนิธิเสมอเธอรู้แค่ว่าเจ้าของมูลนิธิจะเดินทางมาแจกของขวัญและขนมให้กับเด็กๆ แต่ไม่มีกำหนดการแน่นอน เดือนครั้งหรือไม่ก็สองสามเดือนครั้ง พอเด็กทุกคนรู้ก็มักจะตื่นเต้นดีใจและตั้งหน้าตั้งตานับวันรอเพราะจะได้ทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่ หนังสือนิทาน ของเล่นรวมถึงขนมอร่อยๆ แต่ภาพผู้ชายร่างสูงที่เดินลงมาจากรถและมีลูกน้องที่มีอาคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีเดินตามหลังมาด้วยทำให้เธอทั้งตกใจและประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่มาเองเพราะส่วนมากคนที่มาจะเป็นคุณมิคาเอลกับภรรยาของท่านเธอไม่คิดว่าคนร้ายกาจ







