LOGINผู้หญิงไร้ค่าที่เป็นได้แค่ของเล่นเท่านั้น.. เขาจะเล่นจนมันแหลกคามือก็ไม่เห็นจำเป็นจะต้องแคร์อะไร
View Moreมาเฟียหนุ่มในชุดสูทสีดำแบรนด์เนมหรูกำลังนั่งตรวจเอกสารแสดงบัญชีรายจ่ายและรายรับทั้งหมดในห้องทำงานส่วนตัวในเอ็มมาริออนไนต์คลับตามปกติเหมือนเฉกเช่นเดิมทุกวัน ชายหนุ่มผู้รอบคอบอยู่เสมอและไม่ค่อยไว้ใจใครง่ายๆ ถึงแม้จะมีคนทำบัญชีต่างๆ ให้เรียบร้อยแต่สุดท้ายเขาก็ต้องมาตรวจดูอีกรอบอยู่ดี
เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นทำให้สายตาคมกริบที่จับจ้องเอกสารในมือต้องเงยหน้าขึ้นมามองมือขวาคนสนิทที่พ่วงตำแหน่งเลขามือฉมังเดินเปิดประตูบานใหญ่เข้ามาในห้องทำงานพร้อมกับแฟ้มเอกสารจำนวนหนึ่งในมือ
“นี่คือเอกสารที่ต้องเซ็นทั้งหมดครับ” มือขวายิ้มตอบพลางวางแฟ้นเอกสารที่ถือมาวางไว้บนโต๊ะทำงานหรูสีโอ๊คดำที่เจ้านายหนุ่มสั่งทำเป็นพิเศษ
“เอ่อ..รายชื่อเด็กทั้งหมดที่ผมเอาให้นายดู มีเด็กคนไหนที่นายอยากอุปการะเพิ่มเติมอีกไหมครับ”
เอ็มเจมองหน้าเจ้านายหนุ่มด้วยสายตาชื่นชมและเคารพนับถือไม่ต่างจากที่มองนายท่านบิดาของราเชนทร์และน้องชายฝาแฝดราฟาเอล
เจ้านายหนุ่มลูกเสี้ยวผสมสามเชื้อชาติที่มีใบหน้าหล่อเหลาเป็นเอกลักษณ์แถมยังเป็นชายหนุ่มวัยสามสิบสี่ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย หนุ่มแน่นและแสนเก่งกาจรอบด้านอย่างหาตัวจับไม่ได้
ดวงตาคมสีเทาเข้มอมเขียวกวาดสายตามองรูปถ่ายเด็กสาวและเด็กชายหลายคนที่อยู่ในแฟ้มสีดำอยู่ครู่หนึ่ง
“ทั้งหมด ราล์ฟไปพบลูกค้ากลับมาหรือยัง”
“ยังครับ คงจะเป็นช่วงเย็นๆ เลย เห็นคุณราฟาเอลบอกว่าอาวุธล็อตใหม่ที่ส่งมามีปัญหานิดหน่อยครับ”
ราเชนทร์พยักหน้าตอบและไม่ได้ถามอะไรต่อสายตามองเอกสารแต่ละแผ่นที่เปิดผ่านๆ ไปเหมือนทุกครั้ง เขาไม่ใช่คนใจดีมีเมตตาอะไรมากมาย นี่ก็ถือว่ามันเป็นงานและก็ส่วนหนึ่งของธุรกิจ
นอกจากธุรกิจสีเทามากมายที่เป็นครอบครัวทำอยู่ยังมีงานอีกอย่างที่ครอบครัวเขาทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อสร้างชื่อเสียงด้านที่ดีงามให้แก่วงศ์ตระกูล นั้นก็คือทำการมูลนิธิเพื่อการกุศลไม่แสวงหาผลกำไร ทั้งบริจาคเงินและการรับอุปการะเด็กกำพร้าและเลี้ยงดูส่งเสียให้เด็กพวกนั้นมีการศึกษาและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
คนภายนอกทุกคนล้วนเข้าใจว่าครอบครัวของเขาเป็นพวกมหาเศรษฐีใจบุญสุนทานที่ชอบทำประโยชน์เพื่อช่วยเหลือสังคมโดยการบริจาคเงินมากมายให้องค์กรการกุศลต่างๆ ในประเทศ..แต่สิ่งที่คนภายนอกมองเห็นกลับแตกต่างจากความเป็นจริงที่ดำมืดอย่างสิ้นเชิง
ที่จริงแล้ว.. มูลนิธิพวกนี้เป็นแหล่งฟอกเงินชั้นดีเยี่ยมสำหรับธุรกิจสีเทาของครอบครัวของเขา เงินจากธุรกิจสกปรกที่เอามาฟอกให้มันขาวสะอาด
ปลายปากกาด้ามหรูในมือถูกทำเครื่องหมายกากบาทบนกระดาษเอกสารทุกแผ่นที่มีรูปถ่ายและประวัติของเด็กแต่ละคน ราเชนทร์ไม่เสียเวลาคิดอะไรมากมาย ชายหนุ่มเลือกเด็กทุกคนจากในแฟ้มนั้นก่อนจะยื่นมันส่งคืนให้กับมือขวาคนสนิท
เฉพาะในปีนี้ก็มีเด็กกำพร้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเกือบเท่าตัว เด็กบางคนต้องเป็นกำพร้าเพราะพ่อแม่ตายตั้งแต่อายุน้อยๆ ไม่มีญาติรับไปดูแลเลยถูกนำมาทิ้งไว้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เด็กบางคนก็เกิดจากความไม่พร้อมของคุณแม่วัยใสบ้างและอีกหลายๆ สาเหตุที่มาเฟียหนุ่มไม่อยากสนใจและเสียเวลาคิดให้เปลืองสมอง
ครอบครัวของเขาก่อตั้งมูลนิธิพวกนั้นขึ้นมาก็เพราะเหตุผลเกี่ยวข้องกับธุรกิจล้วนๆ ค่าใช้จ่ายจำนวนมหาศาลที่เสียไปไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเพราะมันคุ้มค่ากับผลลัพธ์ที่ได้กลับคืนมา
คุ้มค่าสุดๆ กับชื่อเสียงด้านดีๆ เป็นที่เคารพนับหน้าถือตาในวงสังคมและมันก็เป็นผลดีกับธุรกิจผิดกฎหมายของครอบครัวและผองเพื่อนสนิทของเขาเอง
ราเชนทร์เอนหลังพิงพนักเก้าอี้หนังนุ่มสีดำ มือหยิบบุหรี่และไฟแช็คซิปโป้ขึ้นมาจุดสูบ ใบหน้าเรียบเฉยและดวงตาคมเข้มมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างใช้ความคิด
“มีเอกสารที่ต้องเซ็นอีกไหม เดี๋ยวฉันจะไปตรวจของที่ห้องใต้ดินกับพีเคสักหน่อย”
“ไม่มีแล้วครับ วันนี้นายจะไปงานปาร์ตี้สังสรรค์ของท่านทูตเยอรมันหรือเปล่าครับ”
งานปาร์ตี้ที่แสนน่าเบื่อแต่ก็จำเป็นต้องไปร่วมงาน..
การสร้างคอนเนคชั่นและกระชับความสัมพันธ์กับผู้หลักผู้ใหญ่ ถึงแม้มันจะเป็นงานที่น่าเบื่อแค่ไหนแต่มาเฟียหนุ่มก็ยินยอมทำมัน
“อืม” ราเชนทร์พ่นควันสีขาวออกมาอย่างผ่อนคลายอารมณ์
“คืนนี้มีงานประมูลที่ห้องใต้ดินของไนท์คลับ นายท่านจะไปร่วมชมด้วยไหมครับ”
“ก็อาจจะ” ราเชนทร์มองหน้าเอ็มเจอยู่ครู่หนึ่งและไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพียงแค่นั้นมือขวาคนสนิทก็รู้หน้าที่ของตัวเองดี ร่างสูงกำยำเดินถือแฟ้มเอกสารออกจากห้องทำงานเพื่อไปจัดการงานต่างๆ ของเจ้านายให้เสร็จเรียบร้อยต่อไป
นิ้วเรียวคีบบุหรี่ที่ถูกจุดสูบจนใกล้จะหมดมวนลงบนที่เขี่ยบุหรี่แก้วคริสตัลบนโต๊ะทำงานก่อนจะหยิบปากกาด้ามหรูขึ้นมาเซ็นชื่อลงในแผ่นเอกสารงานเพื่อสะสางงานที่คั่งค้างอยู่ให้เสร็จ
ดวงตาคมเข้มเป็นประกายแวววาวขึ้นมาเมื่อคิดว่าคืนนี้จะมีเรื่องสนุกๆ รอเขาอยู่และมันก็ช่วยคลายความเบื่อหน่ายให้มาเฟียหนุ่มได้มากโข..
งานประมูลที่จัดขึ้นเพียงสามเดือนครั้งที่แสนสนุก มีทั้งพวกของสวยงามที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตเครื่องประดับราคาแพงหายากรวมถึงภาพงานศิลปะของศิลปินชื่อดังที่ถูกโจรกรรมมาเพื่อประมูลในงาน
ที่จริงแล้วมันก็งานประมูลที่จัดขึ้นมาเพื่อสนองตัณหาและความต้องการของพวกเศรษฐีคนมีเงินโรคจิตที่ฉากหน้าในสังคมสวมหน้ากากของคนดีแต่เบื้องหลังกลับมีอีกด้านที่ชั่วช้าต่ำตม มันก็คือด้านมืดในใจคนที่ถูกเก็บกดไว้และไม่สามารถจะระบายหรือแสดงออกได้ในยามปกติ
เขาก็แค่จัดมันขึ้นมา.. จัดงานประมูลพวกนี้ขึ้นเพื่อสนองความต้องการด้านมืดในจิตใจมนุษย์ก็เท่านั้น
กอบัวเรียนอยู่คนละคณะกับมีอาและม่านมุก เวลาเจอกันที่มหาลัยก็แค่ทักทายพูดคุยกันตามธรรมดา แต่ส่วนมากถ้าไม่เจอกันแบบจังๆ กอบัวแทบไม่เดินเฉียดพวกเธอเลยด้วยซ้ำ เหมือนกลัวว่าใครๆ จะรู้ว่าหล่อนเคยอยู่ที่มูลนิธิมาก่อน การที่กอบัวเดินเข้ามาหาเธอนับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับมีอาไม่น้อย“มีอะไรหรือเปล่าบัว” มีอาพูดทักขึ้นก่อนเมื่อเห็นท่าทางอึกอักของกอบัว“วันเสาร์นี้พวกเธอว่างไหม” กอบัวหย่อนตัวลงนั่งเก้าอี้ที่อยู่ด้านหลังมีอา“ไม่แน่ใจ..น่าจะว่าง มีอะไรเหรอ” มีอาตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก“อยากชวนไปงานปาร์ตี้”“งานปาร์ตี้อะไร” มีอามองใบหน้ายิ้มๆ ของกอบัวอย่างนึกสงสัย“งานปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนรุ่นพี่ที่คณะของฉันเอง ฉันอยากชวนพวกเธอไปเที่ยวด้วยกัน”“วันนี้ฝนท่าจะตกหนัก ร้อยวันพันปีเธอแทบไม่อยากคุยหรือเสวนากับพวกฉันเลยด้วยซ้ำ คิดยังไงถึงมาชวนให้พวกฉันไปเที่ยวด้วย..” ม่านมุกพูดประชดออกมา เธอไม่ค่อยชอบกอบัวอยู่ก่อนแล้ว“มุก” มีอาพูดปรามเพื่อนสนิทพลางส่ายหน้าให้ม่านมุกหยุดพูด กอบัวที่ฟังอยู่ยิ้มเจื่อนหน้าถอดสีลงไปทันที“ก็พูดเรื่องจริงนิ” ม่านมุกไม่สนใจว่ากอบัวจะรู้สึกยังไงกับคำพูดของเธอ เพราะเธออยาก
“จำใส่สมองไว้ด้วยสิ ฉันไม่ชอบพูดเรื่องเดิมซ้ำๆ บ่อยๆ ”“เข้าใจแล้วค่ะ” เธอกัดริมฝีปากล่างเล็กน้อยขณะกลั้นใจตอบ ยังไม่ทันจะพาร่างกายบอบช้ำของตัวเองเดินเข้าห้องน้ำไปเสียงทุ้มต่ำก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน“มานี่” ราเชนทร์ขยี้บุหรี่ลงในที่เขี่ยบุหรี่ที่อยู่บนโต๊ะใกล้ๆ ก่อนจับบานหน้าต่างให้ปิดสนิทเหมือนเดิม“พรุ่งนี้มีเรียนเช้าค่ะ แล้วตรงสะโพกมันก็เจ็บมากไว้ต่อวันอื่นได้ไหมคะ” มีอาโกหก...ที่จริงแล้วเธอมีเรียนแค่ช่วงบ่าย แต่เรื่องเจ็บตรงบั้นท้ายนั้นเธอพูดจริง เธออยากได้ยาแก้ปวดและอยากนอนพักผ่อน“ตั้งหลายรอบแล้วคุณ..เอ่อ..ยังไม่พอใจอีกหรือคะ”“พอหรือไม่พอมันอยู่ที่ฉัน”“…”“ฉันจะอาบน้ำด้วย”“อาบสองคนมันไม่ค่อยสะดวกมั้งคะ คุณราเชนทร์อาบก่อนก็ได้” มีอาบ่ายเบี่ยง เธอรู้ว่ามันไม่ใช่แค่อาบน้ำหรอก เขาต้องการมากกว่านั้นราเชนทร์ไม่ได้ตอบแต่ใช้สายตากดดัน ร่างสูงเดินตรงเข้าไปหามีอาที่ยืนนิ่งอยู่กับที่ มือข้างหนึ่งกระชากชุดเดรสรสีแดงที่เธอถือไว้ออกก่อนจะใช้มือข้างเดิมบีบขยำลงบนบั้นท้ายที่บวมแดงของเธอ ใบหน้าสวยเหยเกเล็กน้อยเมื่อฝ่ามือหนาบีบแรงขึ้นๆ ร่างสูงดึงรั้งหญิงสาวที่เดินตามเข้าไปในห้องน้ำมันก็เป็นอย่า
เธอเพิ่งสังเกตว่าเขาไม่ได้สวมถุงยางอนามัยยังไม่ทันจะเอ่ยปากทักคนใต้ร่างก็กระแทกสวนขึ้นมาจนเธอนิ่วหน้าเพราะรู้สึกจุกเจ็บมากกว่าเดิม เขามันโรคจิตและดูจะพอใจที่ทำให้เธอเจ็บ“อ๊ะ มันเจ็บ คุณ..บอกว่าจะให้..มีอาทำไง อยู่นิ่งๆ สิคะ” เธอไม่อยากเจ็บตัวอยากจะรู้สึกดีมากกว่า ให้เธอทำเองคงดีกว่าปล่อยให้เขากระแทกใส่แรงๆ แบบนี้“ใส่ถุงยางก่อนดีไหมคะ อ๊ะ”“ไม่ ทำหน้าที่ของเธอต่อสิ ขย่มลงมาแรงๆ ถ้าทำไม่ถูกใจ..ฉันจะเป็นฝ่ายทำเอง”“ถ้าฉันทำ เธอจะเจ็บมากกว่านี้”มีอากัดริมฝีปากล่างเบาๆ ขณะที่มือบางจับหน้าท้องแบนราบไว้แน่น ขยับสะโพกกลมกลึงบดคลึงบนแก่นกายแข็งใหญ่ช้าๆ พอเธอทำเองมันก็เสียวมากจริงๆ ของเขาทั้งใหญ่ทั้งยาวมันคงเข้าไปลึกจนถึงปากมดลูกเลยทีเดียว“อ๊า สะเสียวจัง” เธอหลุดปากออกมาอย่างลืมตัวเมื่อออกแรงกระแทกบนแก่นกายแรงขึ้นเรื่อยๆดูเหมือนราเชนทร์จะพอใจขึ้นแต่มีอาก็ยังทำไม่ถูกใจเขานัก ฝ่ามือหนาฟ
ชายหนุ่มยิ่งยิ้มกริ่มรู้สึกเหมือนสาวสวยตรงหน้ากำลังเล่นตัวมากกว่าจะอยากให้เขาปล่อยมือเธอจริงๆ ไม่มีสาวคนไหนไม่รู้จักนักธุรกิจนามสกุลดังอย่างเขา“มานั่งข้างๆ ฉันนี่ เธอ!ลุกออกไป ฉันจะให้ผู้หญิงคนนี้นั่งตรงนี้แทน” ชายหนุ่มออกปากไล่สาวสวยที่นั่งข้างๆ หล่อนตวัดสายตาขึ้นมองมีอาอย่างไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมขยับตัวลุกขึ้นยืนและเดินอ้อมไปนั่งที่โซฟายาวด้านหลังแทนยิ่งขัดขืนผู้ชายคนนั้นก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ ท่อนแขนตวัดโอบรัดรอบเอวบางอย่างถือวิสาสะก่อนจะดันร่างบางให้นั่งลงบนตักของตัวเอง“ปล่อยฉันนะ! ปล่อยย!!”มีอาดิ้นขลุกขลัก มือทั้งสองพยายามแกะท่อนแขนที่โอบรัดรอบเอวออก ทุกคนยังคงพูดคุยหัวเราะและดื่มเหล้ากันต่อโดยทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน พวกเขาทำเหมือนกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับเธอเป็นเรื่องปกติเธอหันไปมองราเชนทร์ พยายามจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เขากำลังมองเธออยู่เช่นกัน แต่มองด้วยสีหน้าและแววตาเรียบเฉยเย็นชา คาดเดาไม่ออกว่าเขาจะช่วยเธอไหมในขณะที่ผู้ชายคนนี้กำลังกร
“แกรู้จักกับคุณราเชนทร์ด้วยเหรอ” ม่านมุกเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างที่พวกเธอทั้งคู่ยืนรอรถแท็กซี่อยู่บริเวณด้านหน้าของมูลนิธิมีอารู้ว่าเพื่อนอยากรู้เรื่องนี้มากแต่ไม่กล้าถามอะไรออกมาเพราะในมูลนิธิมีคนอยู่เยอะและเธอแทบไม่เปิดโอกาสให้ม่านมุกได้ถามเลย เธออยากโกหกแต่คนอย่างม่านมุกคงไม่เชื่อและไม่เลิกสงสัยแน่ๆ ถ้าคำตอบมันไม่มีเหตุผลพอและคงตามถามเซ้าซี้ไม่หยุดจนกว่าจะได้คำตอบที่หล่อนพอใจ“อืม เคยเจอที่เอ็มมาริออนเมื่ออาทิตย์ก่อน”“ตอนที่แกไปกับอีธานเหรอ เฮ้ย! ทำไมแกไม่เห็นแกเล่าให้ฉันฟังอะ เล่ามาให้หมดเลยนะไปรู้จักคุณราเชนทร์ได้ยังไง”“อือ ก็คุยกันนิดหน่อย” ขนาดเธอเตรียมคำตอบไว้แล้วพอถูกจี้ถามจริงๆ ก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน สายตาม่านมุกดูคาดคั้นจนมีอาต้องพ่นลมหายใจออกมาอย่างอึดอัด“แค่นั้นจริงเหรอ ไม่เชื่ออะ! ดูแกสนิทสนมกับเขาออก เห็นคุยกันตลอดแถมเดินตัวติดกันไม่ห่าง แถมฉันยังได้ยินเขาเรียกชื่อเล่นแกบ่อยๆ
ช่วงสายของวันเสาร์ทุกคนที่มูลนิธิดูยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมงานต้อนรับบุคคลสำคัญที่กำลังจะเดินทางมาถึง มีอา ม่านมุกและเพื่อนคนอื่นๆ ที่ว่างในวันนี้กำลังช่วยกันสำรวจดูแลความเรียบร้อยอีกรอบเพื่อไม่ให้งานขาดตกบกพร่อง รวมถึงการช่วยดูแลเด็กเล็กๆ ให้นั่งอยู่กับโต๊ะของตัวเองให้เรียบร้อย ถึงการจัดเตรียมสถานที่จะมีเจ้าหน้าที่มาจัดเตรียมงานให้อยู่แล้วแต่ถ้าวันไหนตรงกับวันว่างไม่มีเรียนหรือไม่ได้ติดธุระอย่างอื่นมีอาและม่านมุกมักจะมาช่วยงานต่างๆ ของมูลนิธิเสมอเธอรู้แค่ว่าเจ้าของมูลนิธิจะเดินทางมาแจกของขวัญและขนมให้กับเด็กๆ แต่ไม่มีกำหนดการแน่นอน เดือนครั้งหรือไม่ก็สองสามเดือนครั้ง พอเด็กทุกคนรู้ก็มักจะตื่นเต้นดีใจและตั้งหน้าตั้งตานับวันรอเพราะจะได้ทั้งเสื้อผ้าชุดใหม่ หนังสือนิทาน ของเล่นรวมถึงขนมอร่อยๆ แต่ภาพผู้ชายร่างสูงที่เดินลงมาจากรถและมีลูกน้องที่มีอาคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดีเดินตามหลังมาด้วยทำให้เธอทั้งตกใจและประหลาดใจไม่น้อย ไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายคนนั้นที่มาเองเพราะส่วนมากคนที่มาจะเป็นคุณมิคาเอลกับภรรยาของท่านเธอไม่คิดว่าคนร้ายกาจ
Comments