หลังจากที่น้องชายตกลงว่าอยากจะทำความรู้จักกับน้องสาวของคู่หมั้นคนสวย ผู้เป็นพี่ชายก็รีบจัดการโทรหาคู่หมั้นสาวเพื่อถามไถ่ และขอรูปถ่ายของฝ่ายตรงข้ามทันที
ด้วยความที่อยากให้น้องสาวมีแฟนแล้วยิ่งถ้าได้ดองกับคนจากตระกูลเดียวกันกับว่าที่สามีของเธอก็คงจะดีไม่น้อย เธอรู้ว่าคู่หมั้นหนุ่มมีน้องชาย แต่เธอเองก็ยังไม่เคยพบกับเขาเช่นกันเพราะเห็นว่าอีกฝ่ายไปเรียนต่อเมืองนอกนานถึงสี่ปี
หวงลี่จินยอมร่วมมือกับคู่หมั้นหนุ่มโดยไม่ลังเลใจสักนิด เพราะอยากจะให้น้องสาวได้พบเจอกับผู้ชายดีๆ แบบเธอ พี่ชายยังแสนดีขนาดนี้แล้วน้องชายจะทำตัวไม่ดีเหรอ คงเป็นไปไม่ได้
หญิงสาวจัดการส่งรูปของน้องสาวในชุดเดรสสุดเซ็กซี่สไตล์ของหวงลี่หลินที่ชอบสวมใส่บ่อยๆ และชุดธรรมดาที่เธอสวมเวลามาบ้านให้กับคู่หมั้นหนุ่มไปสองสามรูป
“สวยมากเลยนะเนี่ย”
เสียงเข้มของเฉินเจียงข่านดังขึ้นขณะที่เปิดดูรูปถ่ายที่คู่หมั้นสาวส่งมาให้ สองขาก้าวเท้ายาวๆ ไปยังอีกห้อง ซึ่งเป็นห้องของน้องชายทันที หากแต่อีกฝ่ายยังคงนอนหลับเพราะยังปรับเวลานอนไม่ได้ เขาจึงจัดการส่งรูปทุกอย่างเข้าไปในแอพพลิชั่นแชท หากน้องชายของเขาตื่นขึ้นมายังไงชายหนุ่มก็ต้องเปิดอ่าน มือหนากดส่งรูปพร้อมพิมพ์ข้อมูลเล็กน้อยไปให้น้องชายทันที
ช่วงสายๆ ของวันใหม่เฉิน เจียวจ้านก็ยังไม่ตื่นนอน ส่วนพี่ชายสุดหล่อนั้นเดินทางไปทำงานที่บริษัทสื่อสิ่งพิมพ์ตั้งแต่เช้าแล้ว จนเวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงร่างหนาบนที่นอนนุ่มภายในห้องนอนสีอึมครึมก็ค่อยๆ พลิกกายแกร่งไปมา
นิ้วเรียวยาวถูกยกขึ้นมาจับระหว่างหัวคิ้ว บ่งบอกถึงอาการปวดศีรษะเพราะปรับสภาพเวลาไม่ทัน ลำแขนแข็งแรงค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นนั่งก่อนที่มือเรียวยาวจะยื่นไปหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูของตนมาเพื่อเช็กข้อความ
สายตาคมจดจ้องไปที่คนในรูป แม้จะรู้สึกถูกใจอยู่ไม่น้อยแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกที่มันกำลังตีตื้นขึ้นมาเอาไว้ เพราะความตั้งใจของเขาและเธอมันทำให้ชายหนุ่มไม่กล้าที่จะคิดจริงจัง
“ฮัลโหล ตื่นแล้วเหรอไอ้น้องชาย เป็นไงสวยถูกใจไหม” เสียงทุ้มของพี่ชายดังมาจากปลายสาย
“อืม..ครับ สวยดี”
สวยมากๆ เลยต่างหาก ที่พี่ชายของเขาชมเธอให้ฟังตนแรกเขายังไม่คิดเลยว่าเธอจะสวยขนาดนี้ ไม่แน่ตัวจริงกับรูปอาจต่างกันก็ได้ แต่ก็ช่างเถอะเพราะยังไงทั้งเธอและเขาก็มีความตั้งใจตรงกัน นั่นคือชีวิตที่เป็นอิสระ
“พี่ถามน้องลี่จินมาแล้วนะ เย็นนี้น้องสาวของเธอจะไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทอีกสองคนที่ไนต์คลับของเยว่อวี่ซิน เพื่อนสนิทของนายสมัยมหาวิทยาลัยน่ะ” เสียงทุ้มของพี่ชายรีบบอกสถานที่ที่น้องชายจะได้พบกับเป้าหมายทันที
“อ๋อ เยว่อวี่ซินที่ร่วมหุ้นกับลู่ตงหานน่ะหรอครับ” เสียงเข้มเอ่ยถามพี่ชายขึ้น
“อืมๆ นั่นแหละ ยังไงคืนนี้ลองไปดูสิ เผื่อจะเจอ ผู้หญิงที่สวยโดดเด่นแบบน้องลี่หลินคงจะหาเจอได้ไม่ยากหรอก แค่นี้ก่อนนะพี่ต้องเข้าประชุมแล้ว” เฉินเจียงข่านรีบบอกน้องชายก่อนที่จะวางสายไป มุมปากหนาสีชมพูแบบคนสุขภาพดียกยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
‘หรือเธออาจจะเป็นแม่สาวรักสนุกเลยไม่อยากผูกมัดกับใครพี่สาวกับน้องสาวไม่จำเป็นต้องมีนิสัยเหมือนกันเสมอไป บางทีพี่เจียงข่านอาจจะมองเธอผิดไปก็ได้ แต่ก็ดี อาจจะง่ายหากคุยข้อตกลงกับเธอ’ หนุ่มหล่อคิดในใจก่อนที่จะต่อสายหาเพื่อนหนึ่งในสองที่เป็นเจ้าของไนต์คลับที่ไม่ได้เจอกันนาน
“ฮัลโหล ใครครับ” เสียงเข้มดังมาจากปลายสาย
“ฮัลโหลตงหาน นี่ฉันเจียวจ้านเอง เฉิน เจียวจ้านน่ะ” เสียงทุ้มรีบเอ่ยทักทายเพื่อน พร้อมทั้งแนะนำตัวทันที
“เฮ้ย!!! ไอ้เจียวจ้าน เป็นไงบ้างวะ ได้ข่าวว่านายไปเรียนต่อเมืองนอกสี่ปี นี่กลับมาแล้วหรอวะ แล้วนายไปได้เบอร์ของฉันมาจากไหน” เสียงเข้มอุทานออกมาอย่างดีใจ ก่อนที่จะเอ่ยถามหนึ่งในเพื่อนสนิทสมัยมหาวิทยาลัย
“เออ ฉันเพิ่งกลับมาถึงเมื่อวาน เบอร์นายไม่ยากหรอกถ้าอยากได้จริงๆ น่ะฮ่าๆๆ แล้วไอ้อวี่ซินเป็นไงบ้าง ยังเฟี๊ยดอยู่เหมือนเดิมหรือเปล่าวะ” เจียวจ้านตอบพร้อมกับหัวเราะออกมา ก่อนที่จะเอ่ยถามถึงเพื่อนสนิทอีกคนทันที
“โห รายนั้นน่ะสบายเกินไปล่ะไม่ว่า กลางคืนมาคลุมคลับกับฉัน กลางวันไปเป็นนักบิด ไอ้บ้านั่นมันชอบความเร็ว นายก็รู้นี่หว่า” ลู่ตงหานตอบก่อนที่จะเผาเพื่อนสนิทอีกคนให้กับเจียวจ้านฟัง
“เออ คิดถึงพวกนายสองคนว่ะ วันนี้เจอกันหน่อยดีไหม” เสียงทุ้มรีบบอกจุดประสงค์ที่ตนติดต่อเพื่อนไป
“ได้สิ คลับของฉันกับไอ้อวี่ซินสาวๆ สวยๆ เพียบ นี่ไอ้อวี่ซินได้กลับไปชิมทุกคืน แต่ฉันไม่ชอบว่ะ ไม่อยากมีปัญหาตามมาทีหลัง” ลู่ตงหานรีบชวนเพื่อนให้มาที่ไนต์คลับของตนทันที ก่อนที่จะเผาเพื่อนอีกคนให้เจียวจ้านฟังถึงวีรกรรมกินไม่เลือกจนมีปัญหาตามมาบ่อยๆ
“เรื่องผู้หญิงน่ะ ฉันไม่สนใจหรอก พวกนายสองคนก็รู้ว่าฉันยังหาผู้หญิงที่มองคนที่เนื้อแท้ไม่ได้ ส่วนมากสาวๆ ที่เข้ามาในชีวิตของฉันก็เพราะว่าฉันนั้นเกิดในตระกูลเฉินต่างหาก” เฉิน เจียวจ้านเอ่ยออกมาตามที่ใจคิด
“นายก็จะไปคิดมากทำไม ก็แค่สนุกๆ แบบไอ้อวี่ซินก็ได้ ผู้ชายเรามันก็ต้องมีปลดปล่อยกันบ้างสิ นายจะอดทนไปจนได้เมียคนแรกเลยหรือไง” ลู่ตงหานอดที่จะค้านความคิดของเพื่อนไม่ได้ ในเมื่อผู้หญิงสมัยนี้มองผู้ชายที่หน้าตาและฐานะ พวกเขาก็แค่เล่นๆ กับพวกเธอเพียงเท่านั้นจะไปยากอะไร
“ฉันไม่ชอบใช้ผู้หญิงซ้ำกับเพื่อนก็นายรู้ ถึงจะไม่ใช่สาวบริสุทธิ์แต่อย่างน้อยก็ต้องไม่ใช่ผู้หญิงที่เคยนอนกับพวกนายมาก่อนแน่ๆ”
จะว่าเขาเลือกมากก็ได้แต่เขาไม่เคยไปปลดปล่อยหรือระบายกับใครพร่ำเพรื่อ ตั้งแต่วัยหนุ่มจนอายุล่วงเลยมาจนจะสามสิบ เขาผ่านผู้หญิงมาเพียงสองคนเท่านั้น คนแรกคือถิงมู่หลันแฟนเก่าสมัยเรียนมหาวิทยาลัย และคนที่สองคือผู้หญิงฝรั่งที่อยู่เมืองนอกสมัยไปเรียนต่อเพียงเท่านั้น
“เออๆฉันรู้ ก็ดีแล้ว ถ้าฉันเป็นเมียนายในอนาคตฉันคงภูมิใจแย่ฮ่าๆๆๆ” ลู่ตงหานอดที่จะแซวเพื่อนและหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้
“แค่นี้ก่อนนะ เย็นนี้นายก็มาหาพวกฉันสองคนที่ลู่เยว่ไนต์คลับก็แล้วกัน เผื่อคืนนี้นายจะได้เปลี่ยนใจ เพราะสาวๆ ที่มาร้านเรามีแต่พวกผู้หญิงโปรไฟล์ดี แถมสวยๆ ทั้งนั้น”
ลู่หานตงยังไม่ลดละความพยายามที่อยากจะให้เพื่อนลิ้มลองในรสสวาท แต่คนฟังก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนที่จะวางสายไป
‘การที่เขาจะไปที่นั่นในคืนนี้เป็นเพราะเป้าหมายของเขาไปที่นั่นต่างหาก’ เฉินเจียวจ้านคิดในใจ ก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำธุระส่วนตัวหลังจากการนอนหลับที่ยาวนาน
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามนี้ นายรู้ไหมว่าน้องลี่หลินพักอยู่คอนโดไหน” เยว่อวี่ซินเอ่ยถามเพื่อนสนิทขึ้น เพราะดูจากสาวสวยแฟนกำมะลอของเพื่อนเขาตอนนี้นั้นไม่ได้สติแล้ว“เดี๋ยวเยว่หรูส่งที่อยู่ยัยลี่หลินไปให้พี่ในวีแชทนะคะ”เยว่หรูรู้ดีว่าไม่มีใครรู้จักที่อยู่ของลี่หลินแน่นอนเธอจึงใจดีบอกที่อยู่ให้กับเฉินเจียวจ้าน เพราะเขาดูเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายเธอเสียอีก“ขอบคุณครับ ถ้าอย่างนั้นพี่ขอพาน้องลี่หลินกลับก่อนนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยลาเมื่อเปิดวีแชทแล้วเห็นชื่อของคอนโดที่หญิงสาวพักเรียบร้อยแล้ว“ค่ะ ฝากดูยัยลี่หลินด้วยนะคะ” สองสาวเอ่ยขึ้นพร้อมกันด้วยความเป็นห่วงร่างหนาประคองร่างบางให้เดินออกไปด้วยกัน หวงลี่หลินนั้นยังพอมีสติอยู่บ้างพอได้ยินว่ากลับคอนโด ร่างระหงจึงเดินตามชายหนุ่มไปโดยดี“ไม่ต้องห่วงน้องลี่หลินหรอกนะครับ ถ้าเทียบกันในบรรดาสามคนเราแล้ว ไอ้เจียวจ้านเป็นสุภาพบุรุษที่สุด มันจะไม่เริ่มก่อนแน่นอนถ้าอีกฝ่ายหนึ่งไม่เริ่ม”ลู่ตงหานเอ่ยออกมาให้ทั้งสองสาวสบายใจ หากแต่ทั้งสองสาวหันมามองหน้ากันและภาวนาขอให้หวงลี่หลินนั้นไม่ทำอะไรเพี้ยนๆ จนสุภาพบุรุษอย่างพี่เจียวจ้านตบะแตกก็แล้วก
หวงลี่หลินเดินกลับมาที่โต๊ะราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนที่จะถอนลมหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าเขาที่เธอเพิ่งจะขโมยจูบไปเมื่อสักครู่ไม่ได้เดินตามเธอออกมา“เป็นไง สบายใจขึ้นยัง เห้ย!! แล้วทำไมหน้าแดงขนาดนั้น นี่เธอเมามากเลยหรอยัยลี่หลิน” เยว่หรูเอ่ยถามก่อนที่จะทักขึ้นเมื่อสังเกตใบหน้าสวยของเพื่อนสาวที่บัดนี้แดงราวกับตูดลิง“ป่ะ..ป่าว พี่ตงหานคะ ขอลี่หลินลองอย่างอื่นที่ไม่ใช่พั้นซ์ได้ไหม” นักเขียนสาวตอบเพื่อนก่อนที่จะหันไปคุยกับพี่ชายเพื่อนของเพื่อนสนิท“ลองดื่มเบียร์สดดูไหมล่ะ”หญิงสาวพยักหน้ารัวๆ เจ้าของร้านสุดหล่อจึงสั่งบริกรให้จัดมาให้เธอทันที เขาเข้าใจว่าเธอเครียดและโดนผู้หญิงสองคนนั้นดูถูก โดยไม่ได้คิดว่าเธอนั้นไปทำความผิดอะไรไว้เฉินเจียวจ้านหายไปสักครู่เพื่อให้เธอได้ผ่อนคลายความเขินอายลง แต่พอกลับมาที่โต๊ะก็ต้องพบกับร่างระหงที่กำลังโยกย้ายร่างงามไปมาอยู่ท่ามกลางสองสาว และหนุ่มๆ ที่รายล้อมหากแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปใกล้พวกเธอด้วยรู้ดีว่าเธอนั่งอยู่กับใคร“หายไปนานเลยนะไอ้เจียวจ้าน ดูแฟนกำมะลอของนายสิ ดื่มเบียร์สดไปสามแก้วกลายเป็นแม่เสือสาวไปซะแล้วฮ่าๆๆๆ” เยว่อวี่ซินเอ่ยขึ้นก่อนที่จะ
“ต๊าย... เมาแล้วหรอยะ เมาแล้วก็ควรจะกลับไปนอนนะ” โหรวโหรวเอ่ยขึ้นมาบ้างเมื่อสังเกตเห็นใบหน้าสวยของอีกฝ่ายเริ่มแดงนิดหน่อย ต่างจากตอนที่เธอเห็นตอนที่เพิ่งเข้ามา“ไม่เห็นต้องถามเลย คนแบบยัยนี่เคยดื่มเครื่องดื่มอะไรดีๆ แบบนี้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ เธอสองคนนี่ก็ช่างใจดีเนอะที่คบเพื่อนกระจอกกระจอกแบบนี้ แล้วนี่แฟนยัยลี่หลินใช่ไหมคะ ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณแซ่ไหน มาจากตระกูลอะไร แต่คุณก็ไม่น่าตาต่ำไปคว้ายัยนักเขียนไร้สกุลคนนี้มาเป็นแฟนเลยนะคะ” ถิงถิงแขวะสาวสวยที่ยืนกอดอกมองเธอกับเพื่อนสนิท ก่อนที่จะหันไปคุยกับชายหนุ่มที่ครั้งก่อนหวงลี่หลินแนะนำให้พวกเธอได้รู้จักว่าเขาเป็นแฟนสายตาคมจ้องมองไปที่คนพูดด้วยความไม่พอใจ เขาอยากจะฉีกหน้าผู้หญิงปากเสีย ที่สวยแต่รูปจูบไม่หอมคนนี้นัก หวงลี่หลินคนนี้น่ะหรอกระจอก ทายาทอันดับที่สองของตระกูลหวง ตระกูลที่มีหน้ามีตา มีฐานะร่ำรวยติดอันดับสองของเมืองเอเนี่ยนะ เฉินเจียวจ้านอยากจะพูดออกไปนัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมหญิงสาวถึงยอมให้ผู้หญิงสองคนนี้พูดจาดูถูกอยู่ได้“อ้อ...ครั้งก่อนฉันลืมแนะนำไปใช่ไหมว่าเขาแซ่อะไร เป็นคนตระกูลไหน แต่ในเมื่อเธออยากรู้ฉันก็จะบอกให้เอาบุญ”ห
หนุ่มสาวทั้งสามคู่ยังคงนั่งพูดคุยกันเรื่องทั่วๆ ไป โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาหลายๆ คู่ที่มองมาอย่างอิจฉาเลยด้วยซ้ำ หวงลี่หลินนั้นหลังจากที่โดนเพื่อนๆ เอ่ยแซวก็เอาแต่หลุบตามองมือและชวนเพื่อนสาวคุยเปลี่ยนเรื่อง หากแต่คืนนี้นั้นเธอก็คิดบุคลิกของพระเอกในนิยายของเธอออกแล้ว“ยัยลี่หลิน นี่สรุปบก.ให้เธอลองเขียนแนวอีโรติกจริงๆ อะ” เยว่หรูกระซิบถามหลังจากแฟนของเธอเดินออกจากโต๊ะไปทักทายลูกค้าที่มาใหม่“อืม...อย่าเสียงดังเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน โดยเฉพาะคนข้างๆ ฉัน กลับห้องเดี๋ยวจะเล่าให้ฟังว่าเพราะอะไร”หวงลี่หลินรีบปรามเพื่อนรักเพราะเฉินเจียวจ้านนั้นเป็นรองประธานบริษัทที่เธอเซ็นสัญญาลงนิยายออนไลน์อยู่ ถ้าเขารู้ว่าเธอเอาเขาไปเป็นต้นแบบพระเอกในนิยายของเธอ เธอกลัวว่าเขาจะโกรธเอา เยว่หรูเหลือบไปมองหนุ่มหล่อสุดเซอร์ที่นั่งกระดกวิสกี้เข้าปากอย่างไม่สนใจคนรอบข้างก็พยักหน้าขึ้นลงอย่างเข้าใจ“พี่ขอไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ”เฉินเจียวจ้านหันมาบอกแฟนในนามพอหญิงสาวพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาตเขาจึงลุกขึ้นและเดินตรงไปที่ห้องน้ำของแขกวีวีไอพี ตอนนี้ที่โต๊ะจึงเหลือเพียงสามสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มที่ยังคงชวนอ้ายฉิงคุยตั้งแต่ที่มาถึง
“พี่อวี่ซิน ไม่ต้องกอดขนาดนี้ก็ได้เหอะ” เยว่หรูหันไปมองเพื่อนสนิททั้งสองที่มองมาที่เธอและเขาด้วยสายตายิ้มๆ ก่อนที่จะหันมาต่อว่าแฟนหนุ่มที่เธอไม่ได้ต้องการเลยสักนิด“เอาน่า พวกนั้นจะได้เห็นไง ว่าเธอมีแฟนแล้ว ว่าแต่คืนนี้จะแนะนำให้เพื่อนของเธอรู้จักพี่เลยไหม” เยว่อวี่ซินไม่ได้ปล่อยมือจากไหล่บางหากแต่โอบมาชิดกับหน้าอกหนั่นแน่นของตนแล้วพาเธอเดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะวีวีไอพี“เธอว่ายัยเยว่หรูจะใจอ่อนให้พี่อวี่ซินไหมอ้ายฉิง” หวงลี่หลินกระซิบถามเพื่อนสนิทสาวอีกคนทันทีที่เห็นสองหนุ่มสาวที่เดินนำหน้าทำตัวติดกันซะขนาดนั้น“ก็ไม่แน่ น้ำหยดลงบนหินทุกวันหินมันยังกร่อน แล้วนับประสาอะไรกับใจคน เราสองคนก็ระวังหัวใจกันไว้บ้างเถอะ อะไรที่สร้างเอาไว้ ฉันกลัวว่ามันจะย้อนกลับมาทำร้ายหัวใจตัวเราเอง” อ้ายฉิงเอ่ยขึ้นก่อนที่จะเอ่ยเตือนหัวใจตัวเองและเพื่อนสนิทสาวอย่างหวงลี่หลินบ้าง“สำหรับฉันไม่มีทางหรอก ฉันยังยึดมั่นในคำปฏิญาณเดิมของตัวเอง” หวงลี่หลินตอบออกมาอย่างมั่นใจ แม้ภายในใจก็พยายามที่จะไม่หวั่นไหวกับแฟนกำมะลออยู่เหมือนกันทางด้านสองสาวที่เต้นกันอยู่กลางฟลออย่างต้องการเช็กความนิยมของพวกเธอเองก็ต้องหันมองไปต
หลังจากนั่งคิดและจินตนาการอยู่สักพัก นักเขียนคนสวยก็หันไปกดแป้นพิมพ์จนเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องนอน ใบหน้าหวานปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย จนเวลาล่วงเลยไปเกือบสามชั่วโมง ร่างบางจึงได้บิดกายไปมาก่อนที่เธอจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวเก่ง พร้อมทั้งละสายตาคู่สวยที่มีแว่นตาสีใสปกป้องดวงตาเอาไว้จากแสงที่ส่องมาผ่านหน้าจอ“อืมมม...... หิวจัง”เสียงหวานเอ่ยออกมา ก่อนที่จะเดินตรงไปที่ห้องครัว มือบางหยิบเอาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาหนึ่งซอง พร้อมทั้งตั้งหม้อใส่น้ำเปล่าลงไป แล้วเปิดแก๊สเพื่อต้มน้ำรอ ร่างบางหันรีหันขวางหยิบผักสดในตู้เย็นและเนื้อสัตว์มาหั่นอย่างคล่องแคล่ว เพราะออกมาอยู่ข้างนอกตั้งแต่สมัยเรียนจึงทำให้หวงลี่หลิน คุณหนูทายาทอันดับที่สองของตระกูลหวงอย่างเธอนั้นทำอาหารเป็นผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที ชามบะหมี่ที่มีหน้าตาน่าทานก็ถูกวางลงบนโต๊ะอาหาร โต๊ะประจำของนักเขียนสาว แต่ขณะที่กำลังจะตักเอาบะหมี่ในถ้วยเข้าปาก สมาร์ทโฟนเครื่องเล็กของเธอก็แผดเสียงร้องจนคนที่กำลังหิวจนตาลายไม่อาจละเลยได้ ร่างระหงจึงผุดยืนขึ้นแล้วตรงไปหยิบมาก่อนที่มันจะส่งเสียงน่ารำคาญไปมากกว่านี้“ฮัลโหลว่าไง... เอาไงดีฉันรีบทำงานส่งน่ะ