تسجيل الدخولแย่แล้ว!! ในใจเธอร้องขึ้นมาแล้วรีบหันหลังหนี ตำรวจก็รีบเรียกเธอเอาไว้ ตอนแรกเธอก้าวเท้าเร็ว พอตำรวจใกล้ถึงตัวเธอก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็ว
กลายเป็นว่าตอนนี้ไม่ว่ามาเฟียพวกนั้นหรือตำรวจล้วนไว้ใจไม่ได้เลย สองเท้าเปล่ารีบวิ่งไปตามถนนคิดว่าจะรอดมือพวกเขาแล้ว ระหว่างที่กำลังจะพ้นหัวถนนจู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดขวาง
แสงไฟที่ส่องมายังหน้าเธอทำให้เธอรีบหันหลัง แต่ก็มีรถอีกคันมาจอดขวางเหมือนเดิม เธอหันมองอย่างหวาดกลัวได้แต่มองเงาปีศาจที่ก้าวลงจากรถ จากนั้นเมื่อมองเห็นชัดเจนเธอก็รู้ว่าเธอหนีไม่พ้นแน่นอน
“ถ้าคุณอยู่ที่อื่นคุณอาจจะหนีพ้น แต่ในฝรั่งเศสนี้ไม่ว่าคุณไปอยู่ตรงไหนก็ไม่รอดสายตาผม ฉะนั้นขึ้นรถ!” ปลายเสียงเขาเหมือนรำคาญที่เธอทำให้วุ่นวายทั้งเมือง
“ฉันไม่ไป”
คำนั้นทำให้เธอได้เห็นกรามเขาขบเข้าหากันอย่างหมดความอดทน “เธอควรรู้ว่าโทษของการขัดคำสั่งผมเป็นยังไง” เขาเดินขยับเข้าหาเธอ จนใกล้ถึงเมญ่าก็รีบวิ่งไปอีกทาง
แต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเขา เธอถูกมาเฟียร้ายแบกขึ้นบ่า สองปากเธอพยายามร้องขอให้คนช่วย แต่ขอโทษ คนพวกนั้นพอเห็นว่าเป็นใครก็ปิดปากเงียบสนิท สายตาเธอยังมองเห็นตำรวจที่ตามมาทำเป็นมองไม่เห็นด้วย
สุดท้ายแล้วเธอก็ถูกเขาจับยัดใส่รถตู้สีดำอีกครั้ง “ปิดกระจก” เสียงเหี้ยมสั่งคนด้านหน้า เธอจึงได้เห็นกระจกระหว่างคนขับกำลังเลื่อนขึ้น ไม่ทันที่เธอจะหาทางหลบเขา สองมือก็โดนกดลงไปกับพื้นเบาะเขาขยับเอียงเธอจากนั้น
เพียะ!! เขากล้าตีก้นเธอ “ทำบ้าอะไร”
เธอถามไม่ได้อยากได้คำตอบ ส่วนเขาก็ยังไม่สะใจจับเธอวางบนขาจากนั้นก็ตีอีก “โอ๊ย เจ็บ!! นายเป็นบ้าอะไร ได้ฉันแล้วก็ปล่อยฉันไปสิ ฉันจะกลับบ้าน”
“บังเอิญไม่เคยมีใครไปก่อนที่ผมจะอนุญาตและบังเอิญเรื่องเมื่อวานที่เราทำกันก็ทำให้ผมรู้สึกว่ายังไม่พอใจเท่าไร”
ถ้าเมื่อวานทำไม่พอใจ เขาจะลากเธอไปกลางแม่น้ำแล้วเอาให้คน ทั้งฝรั่งเศสเห็นหรืออย่างไรถึงจะเรียกว่าพอใจ ไม่ทันจะด่าเขาก็ใช้มือลูบสอดเข้าไปในเสื้อเชิ้ต “หยุดนะ”
“ผมจะดูว่าคุณจะพูดคำนี้อีกนานไหม” คำนั้นเหมือนท้าทายหญิงสาว มือสากลากเข้าไปด้านในกระโปรงเกี่ยวกางเกงในตัวจิ๋วสอดนิ้วเข้าไปหยอกล้อกับขนผืนน้อย เขาลูบเล่นเหมือนกับหยอกล้อกับเด็กน้อย เมญ่ากัดฟัน ก่อนพูดอ่อนลงเรื่อย ๆ “นี่มันในรถนะ”
“ในรถก็ไม่มีใครได้ยินหรอก ยกเว้นว่าคุณจะร้องดังเกินกว่าที่ตัวรถจะกั้นเสียงไว้ได้”
“ฉันไม่ร้อง อ๊ะ” หญิงสาวหันมองเขาที่สอดนิ้วเข้าไป สายตานั้นกำลังยกยิ้มอย่างคนมีชัยเหนือกว่า “เอามันออกไป”
“คุณว่าอะไรนะ ลึกอีก” จบคำเขาก็กดเข้าไปลึกกว่าเดิม เสียงคนอยู่บนตักก็ยิ่งร้องครางหลุดออกมา “ไม่” ยิ่งห้ามเขาก็ยิ่งขยับนิ้ว เสียงรถยังคงแล่นไปไม่มีที่สิ้นสุด จนสุดท้ายแล้วเธอก็ได้แต่ตัวสั่นเทาเพราะนิ้วมือสากกระทำเอาไว้
พอเขาปล่อยเธอ หญิงสาวก็พยายามหนีจากตักเขา คนกระทำจับขาเธอเอาไว้จากนั้นก็ดึงเธอให้นั่งบนตัก “จะไปไหนบทลงโทษยังไม่เริ่มต้นขึ้นเสียหน่อย ถ้าไม่สั่งสอนให้จำเธอก็จะไม่รู้ว่าโทษของการขัดคำสั่งฉัน คืออะไร”
เมญ่าก้มมองเขาที่กำลังปลดเข็มขัดจากนั้นก็ใช้มันมัดมือเธอไว้กับ ที่จับของรถด้านข้าง สองมือรูดซิปกางเกงลงอย่างใจเย็นจับแท่นเนื้อใหญ่ออกจากกายขึ้นมา
หญิงสาวได้มองแล้วก็กลืนน้ำลายลงคอ คิดว่ากว่าเขาจะลงโทษจบเธอคงระบมพอดี....
สุดท้ายเธอก็ถูกลากกลับมาที่เดิม อย่าถามถึงสภาพร่างกายเธอตอนนี้เพราะอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด
เมญ่าคิดว่าตัวเองคงฝันไปหรือว่ากำลังตกอยู่ในคุกกันแน่ สายตาพร่ามัวนั้นลืมตาขึ้นมองเรือนร่างอันสมบูรณ์แบบของชายหนุ่ม เรือนผม ดำขลับ คิ้วดกดำเป็นแพโค้งได้รูป จมูกโด่งสอดรับกับดวงตากลมโต ปากที่ร้อนแรงและหยาบโลนนั้นอวบอิ่มจนทำให้คนมองใบหน้าร้อนผ่าวยามคิดถึงลิ้นร้อนที่สัมผัสกายไปทั่วร่าง
แค่เพียงใบหน้านั้นก็ทำกายเธอร้อนไปทั่วร่าง หากมองต่ำลงมาก็จะมองเห็นแผ่นอกเป็นลอนได้รูป ไหนจะกล้ามที่เป็นมัด ๆ ยามที่จับข้อมือเธอไม่ให้ขยับหนี เลื่อนลงมาที่หน้าท้องแบนราบมีขนขึ้นยาวมาถึงสะดือ สีน้ำตาลเข้มเช่นเดียวกับเรือนผมของเขา
หญิงสาวกลืนน้ำลายอีกรอบเมื่อเจ้าของร่างไม่ได้สนใจว่าใครจะมองเมื่อเขาหันหน้ามาเผยให้เห็นท่อนเอ็นลำใหญ่ ขนาดใหญ่กว่ามาตรฐานที่เธอเคยพบเจอ ท่อนแข็งใหญ่ที่ทำเอาเธอปวดระบมจนแทบจะลุกไม่ไหว ตอนนี้กำลังขยับแกว่งไปมาจนเธออยากจะ...
“อยากกินไหม” คนถูกจ้องมองเอ่ยถาม ทำให้เธอรู้ว่าถูกจับได้แล้วว่าเธอกำลังแอบสำรวจเขาอยู่
“ไม่” เมญ่าตอบเสียงแข็งแล้วหันหน้าไปทางแม่น้ำแซนด์หันมองแสงอาทิตย์ที่กำลังสาดเข้ามาพร้อมกับไอเย็นเฉียบ เธอจึงขยับหยิบผ้าห่มอุ่นขึ้นมาห่มกายที่ไร้เสื้อผ้า ยังนึกสงสัยว่าเขายืนอยู่ได้อย่างไรโดยไม่ใส่เสื้อผ้า
คนฟังมองแล้วส่งเสียงดังฮึในลำคอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดอ่างน้ำอุ่นขึ้นมาชำระล้างกายหลังจากที่ต้องพ่นน้ำลาวาออกมาตลอด ทั้งคืนในใจได้แต่นึกสงสัยว่าร่างกายนั้นมีอะไรดีถึงทำให้เขาไม่รู้จักเหนื่อยตัดมาทางคนที่กำลังอยู่บนเตียงพอเห็นเขาเข้าไปในห้องน้ำนาน เธอก็ขยับลงจากเตียงหยิบผ้ามาสวมใส่แล้วออกไปนอกห้อง หันมองทางขวามือเป็นกระจกและมุมโซฟาที่มองเห็นแม่น้ำ ก่อนจะหันมองตรงหน้า ที่เป็นมุมครัวเล็ก ๆ พอจะมองหากาแฟและเครื่องดื่มน้ำเมาได้เมญ่าเดินไปแล้วเลือกหยิบกาแฟแทน หันมองเครื่องทำน้ำร้อนก็เทน้ำลงไปแล้วเสียบปลั๊ก คงเพราะเสียงดังด้านนอกห้องเลยทำให้คนที่กำลังอาบน้ำสบายลืมตาขึ้นมาแล้วหยิบผ้าขนหนูมาพันท่อนล่างจากนั้นก็เดินออกมามองอีกคนที่กำลังชงกาแฟอยู่เมญ่าที่หันมามองพอดียกแก้วกาแฟขึ้นแล้วถาม “กาแฟไหมคะ”เขารู้สึกแปลกใจที่อีกฝ่ายมีท่าทีที่แตกต่างจากเมื่อคืนอย่างเห็น ได้ชัด “เธอจะมาไม้ไหนอีก”หญิงสาวเดินถือกาแฟมานั่งที่โซฟาแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นเป่า ความร้อนก่อนจะจิบมันทีละนิดให้ความอุ่นร้อนของกาแฟทำให้ร่างกายอบอุ่น “อืมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย”คนแปลกใจยังคงเดินตามมาแล้วนั่งฝั่งตรงข้ามหญิง
แย่แล้ว!! ในใจเธอร้องขึ้นมาแล้วรีบหันหลังหนี ตำรวจก็รีบเรียกเธอเอาไว้ ตอนแรกเธอก้าวเท้าเร็ว พอตำรวจใกล้ถึงตัวเธอก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็วกลายเป็นว่าตอนนี้ไม่ว่ามาเฟียพวกนั้นหรือตำรวจล้วนไว้ใจไม่ได้เลย สองเท้าเปล่ารีบวิ่งไปตามถนนคิดว่าจะรอดมือพวกเขาแล้ว ระหว่างที่กำลังจะพ้นหัวถนนจู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดขวางแสงไฟที่ส่องมายังหน้าเธอทำให้เธอรีบหันหลัง แต่ก็มีรถอีกคันมาจอดขวางเหมือนเดิม เธอหันมองอย่างหวาดกลัวได้แต่มองเงาปีศาจที่ก้าวลงจากรถ จากนั้นเมื่อมองเห็นชัดเจนเธอก็รู้ว่าเธอหนีไม่พ้นแน่นอน“ถ้าคุณอยู่ที่อื่นคุณอาจจะหนีพ้น แต่ในฝรั่งเศสนี้ไม่ว่าคุณไปอยู่ตรงไหนก็ไม่รอดสายตาผม ฉะนั้นขึ้นรถ!” ปลายเสียงเขาเหมือนรำคาญที่เธอทำให้วุ่นวายทั้งเมือง“ฉันไม่ไป”คำนั้นทำให้เธอได้เห็นกรามเขาขบเข้าหากันอย่างหมดความอดทน “เธอควรรู้ว่าโทษของการขัดคำสั่งผมเป็นยังไง” เขาเดินขยับเข้าหาเธอ จนใกล้ถึงเมญ่าก็รีบวิ่งไปอีกทางแต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเขา เธอถูกมาเฟียร้ายแบกขึ้นบ่า สองปากเธอพยายามร้องขอให้คนช่วย แต่ขอโทษ คนพวกนั้นพอเห็นว่าเป็นใครก็ปิดปากเงียบสนิท สายตาเธอยังมองเห็นตำรวจที่ตามมาทำเป็นมองไม่เห็นด้วยสุด
ทุกอย่างควรจบแค่เมื่อคืนไม่ใช่เหรอ เหตุใดเธอถึงยังถูกมัดอยู่ในห้องนี้เช่นเคย สภาพของเธอที่เปลือยเปล่าส่วนเจ้าของห้องกลับไปนั่ง ริมหน้าต่างดื่มเหล้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดสถานการณ์แบบนี้เธอควรรีบหนี แต่ติดตรงมีเชือกพันธนาการเอาไว้ แผ่นหลังนั่นเริ่มขยับเธอเห็นแบบนั้นก็รีบหลับตาทำเป็นหลับไม่รู้เรื่องราวในคลับเฮาส์ส่วนตัวของลูเฟียที่อยู่ใกล้แม่น้ำแซนด์ ตอนนี้ลูเฟียกำลังทอดมองผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง สองมือที่ถูกเชือกมัดอยู่นั้นร่างกายเปลือยเปล่า เขามีความรู้สึกอยากปล่อยเธอแต่แล้วความคิดอีกอย่างก็เข้ามา “ยังไม่สะใจ” มือหนาจึงละมือลงจากนั้นก็ปิดประตูเดินออกไปทันทีสถานที่นัดหมายในคืนนี้คือท่าเรือสินค้าฝั่งตะวันออกของฝรั่งเศส เมื่อไปถึงเขาก็พบผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อเห็นเขาก็ส่งเอกสารมอบให้ไม่พูดสิ่งใดก่อนจะขึ้นรถจากไปลูเฟียทิ้งบุหรี่ที่สูบอยู่ลงพื้น เปิดซองเอกสารออกมาก่อนจะอ่านหัวข้อด้านใน “รายชื่อสมาชิกประมูล” เขาปิดซองเก็บไว้ตามเดิมก่อนจะขับรถออกไปเช่นกันจากนั้นก็ขับรถไปยังเมืองปารีส เพื่อแวะยังซอกคนจรจัดในตรอกแห่งหนึ่งในถนนคนจร ลูเฟียนั่งอยู่ในรถให้บอดีการ์ด “เทเลอร์นายลงไปดู ว่าอยู่ด้
ไอ้บ้า!! ไม่จูบคนแปลกหน้าแต่เอากับคนแปลกหน้าได้ พูดจบเขาก็ใช้ท่อนเอ็นใหญ่กระแทกเข้าไปพรวดเดียว “อยากอยู่แล้วก็ไม่บอก”บอกบ้านแกนะสิ เธอไม่ได้อยากเสียหน่อยเพียงแต่อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อาจจะยังคงอยู่ พอได้รับท่อนเอ็นที่ใหญ่เท่ากำปั้นเข้ามา เอวหนาขยับโยกได้ไม่ทันไรน้ำรักของเธอก็ไหลออกมา สามัคคีกับท่อนเอ็นใหญ่ช่วยให้เขารุกล้ำเข้ามามากขึ้นมากขึ้นที่ว่าคือไม่ถึงครึ่งลำด้วยซ้ำ คนอะไรใหญ่เป็นบ้า แม้แต่แฟนเธอก็ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ พวกเราคบกันก็จริงแต่เธอก็ไม่เคยยอมมอบสิ่งนี้ให้ พอคิดถึงแฟนสารเลวนั้นเธอก็คิดว่าในเมื่อหวงเอาไว้ก็ถูกหักหลังดังนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเล่นตัวอีกคิด ๆ ไปแล้วโลกนี้ก็มีผู้ชายอีกเยอะ เธอจะได้กินผู้ชายไม่ซ้ำหน้า จะได้สมกับเวลาที่เสียไปถึงหนึ่งปี คนคิดประชดชีวิตเงยหน้ามองคนตรงหน้ามองเขาโยกเอวเร่งขึ้นเรื่อย ๆปากไม่อยากร้องก็ต้องร้องเมื่อท่อนเอ็นทั้งหมดไล่พรวดเข้ามา ได้สำเร็จร่องรักของเธอแน่นจนเบียดขยับตัวไม่ได้ “อ๊ะ” เมญ่าส่งเสียงลูเฟียเหมือนชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงความคับแน่น แต่เมื่อเห็นหญิงสาวจิกเกร็งครางเสียงต่ำเขาก็คิดว่าคงคิดมากไปเอง เขาคงไม่ใช่คนแรกของ
ลูเฟียวางมือถือที่มีรูปพวกเขาสองคนลงไป จากนั้นก็หันมอง คนเป็นพ่อที่ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ จารมีน เพราะว่าพ่อจริง ๆ ของเขาก็คือ ดาริโอ ชายผู้ซึ่งถูกมาร์โกพ่อของเจด้าฆ่าตายด้วยมือต่างหากก่อนหน้าที่เขาจะรู้ความจริงนั้น เขากับเจด้าค่อนข้างสนิทกันพอสมควร แต่พอรู้ว่าอีกฝ่ายฆ่าพ่อตัวเอง เขาก็ถอยห่างโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมรับว่าเขารักเธอไปแล้ว และตอนนี้ ก็ยอมรับจริง ๆ ว่าไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไรหัวใจของเจด้าก็ไม่มีให้เขา อีกเช่นกันเสียงดนตรีที่กำลังกึกก้องอยู่เบื้องหน้าทำให้เขารู้สึกรำคาญใจ จึงลุกขึ้นมองไปยังกระจกตรงหน้าเพื่อมองไปยังนักท่องเที่ยวราตรียามค่ำคืนกำลังโยกย้ายสะบัดท่ามกลางแสงสีและแสงไฟ สายตาเขาสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างท่าทางคล้ายกับเจด้าหญิงที่เขารักเหลือเกิน อีกฝ่ายกำลังโยกย้ายเต้นตามจังหวะด้วยชุดเดรสสั้นสีแดงเกาะอก ผู้ชายที่อยู่ใกล้เมื่อเห็นก็รีบไปคว้าเอวมากอดแต่หญิงสาวแทนที่จะดีใจกลับโวยวายแล้วรีบผลักเขาออกจากตัว จากนั้นก็เดินโซซัดโซเซเดินได้ไม่นานก็รู้สึกรำคาญรองเท้าส้นสูง จึงถอดทิ้งแล้วเดินเท้าเปล่าลูเฟียรู้สึกถูกใจจึงยกมือ







