تسجيل الدخولคนฟังมองแล้วส่งเสียงดังฮึในลำคอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดอ่างน้ำอุ่นขึ้นมาชำระล้างกายหลังจากที่ต้องพ่นน้ำลาวาออกมาตลอด ทั้งคืนในใจได้แต่นึกสงสัยว่าร่างกายนั้นมีอะไรดีถึงทำให้เขาไม่รู้จักเหนื่อย
ตัดมาทางคนที่กำลังอยู่บนเตียงพอเห็นเขาเข้าไปในห้องน้ำนาน เธอก็ขยับลงจากเตียงหยิบผ้ามาสวมใส่แล้วออกไปนอกห้อง หันมองทางขวามือเป็นกระจกและมุมโซฟาที่มองเห็นแม่น้ำ ก่อนจะหันมองตรงหน้า ที่เป็นมุมครัวเล็ก ๆ พอจะมองหากาแฟและเครื่องดื่มน้ำเมาได้
เมญ่าเดินไปแล้วเลือกหยิบกาแฟแทน หันมองเครื่องทำน้ำร้อนก็เทน้ำลงไปแล้วเสียบปลั๊ก คงเพราะเสียงดังด้านนอกห้องเลยทำให้คนที่กำลังอาบน้ำสบายลืมตาขึ้นมาแล้วหยิบผ้าขนหนูมาพันท่อนล่างจากนั้นก็เดินออกมามองอีกคนที่กำลังชงกาแฟอยู่
เมญ่าที่หันมามองพอดียกแก้วกาแฟขึ้นแล้วถาม “กาแฟไหมคะ”
เขารู้สึกแปลกใจที่อีกฝ่ายมีท่าทีที่แตกต่างจากเมื่อคืนอย่างเห็น ได้ชัด “เธอจะมาไม้ไหนอีก”
หญิงสาวเดินถือกาแฟมานั่งที่โซฟาแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นเป่า ความร้อนก่อนจะจิบมันทีละนิดให้ความอุ่นร้อนของกาแฟทำให้ร่างกายอบอุ่น “อืมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย”
คนแปลกใจยังคงเดินตามมาแล้วนั่งฝั่งตรงข้ามหญิงสาว มองอีกฝ่ายที่หันมามองแล้วถามต่อ “คุณเอาไหมฉันจะไปชงให้”
“ผมถามคุณอีกครั้ง คุณเป็นอะไร”
เมญ่าวางแก้วกาแฟแล้วยกใบหน้าเชิดขึ้น “ค่าตัวฉัน และค่าเสียเวลา ค่าเสียความรู้สึก และความเจ็บปวดที่คุณทำ ฉันขอตีเป็นราคา”
เสียงฮึของลูเฟียดังขึ้นอย่างสบประมาทเขาเจอคนแบบนี้มามากตอนแรกคิดว่าเธอดีกว่าคนอื่น ตอนนี้คิดแล้วก็คงไม่ต่างกันเท่าไร
หากแต่คนที่เรียกร้องนั้นกลับคิดว่าตัวเองเสียไปแล้ว หากมานั่ง คร่ำครวญร้องหาความยุติธรรมที่แน่นอนว่าหาไม่ได้แม้แต่ตำรวจก็เท่ากับเสียเวลาเปล่า ในเมื่อเธอเองก็เพิ่งถูกแฟนทิ้งมา แถมเวลาที่จะเรียนในฝรั่งเศสมีถึงเกือบครึ่งปี
เงินจากทางบ้านที่ส่งมาก็น้อยลงเมื่อก่อนเธอสามารถพึ่งพาแฟนได้แต่ตอนนี้คงต้องพึ่งตัวเองก่อน เธอมองเห็นถุงเงินที่พอจะทำให้เธอมีเงินเรียนจนจบ
“เธอต้องการเท่าไร”
เมญ่าคิดมาตลอดทั้งคืนแล้ว “หนึ่งเดือนฉันขอมีอะไรกับคุณแค่ ศุกร์เสาร์อาทิตย์ โดยหนึ่งเดือนฉันจะคิดค่าแรงเดือนละห้าพันยูโร อันนี้ยังไม่รวมของชอปปิงแบรนด์เนม อาหารการกินและจิปาถะอื่น ๆ ส่วนวันจันทร์ถึงพฤหัสบดีฉันต้องไปเรียนและเวลานั้นคุณจะต้องไม่ไปรบกวนฉันหรือแสดงตนว่าเป็นอะไรกับฉันเด็ดขาด”
“ผมไม่ตกลง” เสียงลูเฟียพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว
“ถ้าอย่างนั้นก็ทางใครทางมัน” เมญ่าลุกขึ้นแล้วเดินไปยังประตู เมื่อเปิดออกไปก็พบว่ามีคนยืนอยู่หน้าห้องสองคน คนพวกนั้นใส่ชุดสูทดำสวมแว่นดำและมีปืนพกอยู่ ถ้ามีโลโก้คงแปะที่หน้าผากว่า
“พวกเราคือมาเฟีย”
หญิงสาวปิดประตูแล้วหันกลับมามองเขาที่นั่งอยู่ที่เดิม “ถ้าคุณ ไม่ยอมฉันจะฆ่าตัวตายตอนนี้”
คนถูกขู่ยกมุมปากยิ้มแล้วพูดตอบ “ถ้าคุณอยากตายคุณไม่ปิดประตูนั้นหรอก เดินกลับมาหาผมแล้วฟังว่าผมจะบอกอะไร”
เป็นการวางอำนาจที่ทำให้เธอต้องยอมเขาหนึ่งก้าว เพราะสิ่งที่เขาพูดล้วนเป็นความจริง หากเธออยากตายก็เพียงแค่ก้าวออกไปก็ได้ตายสมใจแล้ว
ดังนั้นแล้วเธอจึงจำต้องเดินกลับไปนั่งที่เดิม มองอีกฝ่ายขยับตัวมาข้างหน้าใช้มือประสานแล้วยกมุมปากยิ้ม
“ผมจะให้เงินตามคุณขอ แต่..” เมญ่ามองใบหน้าที่ราวกับตัวเองเป็นราชสีห์ที่ยิ่งใหญ่ผู้ไม่เคยยอมคน
“ถ้าผมต้องการคุณต้องพร้อมเสมอไม่ว่าจะห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องทำงาน หรือแม้แต่ในรถข้างนอกหรือที่ไหนก็ได้ที่ผมอยากทำ ส่วนเรื่องเรียนของคุณนับจากนี้จะมีคนของผมไปส่งและรอรับ คุณห้ามแวะหรือทำกิจกรรมอะไรนอกเหนือเวลาเรียนหากมีปัญหาบอกผมได้เพราะมหาวิทยาลัยที่คุณเรียนเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่บริษัทผมอุปถัมภ์อยู่ ซึ่งแน่นอนถ้าคุณอยากได้ใบประกาศโดยไม่ต้องเรียนก็ได้”
เธอคิดว่าตัวเองเล่นกับไฟกองเล็ก ๆ แต่เปล่าเลยคนตรงหน้าเป็น มาเฟียที่มีอิทธิพลมากของเมืองนี้ ยิ่งรู้แบบนี้เธอก็คิดว่าตัวเองคิดถูกแล้ว ที่ต่อรองกับเขาไม่ใช่วิ่งหนีอย่างเดียว
ชายหนุ่มขยับกลับไปพิงเก้าอี้เหมือนเดิม แล้วยกมือขึ้นตบเพียง ครั้งเดียวคนด้านนอกก็เข้ามาพร้อมกับถาด พวกเขาวางบนโต๊ะกระจก หญิงสาวมองมือถือที่อยู่บนนั้นเป็นแบรนด์ดังผลไม้รุ่นล่าสุด
“มือถือเครื่องใหม่ของคุณ ส่วนมือถือเครื่องเก่าผมทิ้งไปแล้ว ต่อไปนี้ไม่ว่าใครที่ต้องโทรหาคุณ หรือคุณโทรหาต้องได้รับการอนุมัติจากผมก่อน”
เมญ่ามองกองไฟขนาดใหญ่ตรงหน้าที่ใกล้จะเผาเธอให้ไหม้จนเหลือแต่กระดูกตอนแรกแค่คิดว่าหาคนเลี้ยงดูจนจบ ตอนนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิดแล้ว ครั้นอยากถอยหลังกลับก็ไม่ได้เช่นกันดังนั้นเธอจึงจำต้อง
“ตกลงค่ะ” ช่างมันเรื่องอื่นไว้คิดตอนหลังก็ได้ ตอนนี้เธอสมองตันไปหมดแล้วเมื่อเห็นชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วปลดผ้าขนหนูสีขาวออก พร้อมกับพูดว่า
“ถ้าตกลงก็มากินไอติมโปรดของเธอซะเจน” เรียกเธอชื่ออื่น อีกแล้วแต่เธอก็ต้องทำตามคำสั่งเดินไปแล้วก็คุกเข่าตรงหน้าเขา จากนั้นก็ใช้มือจับท่อนเอ็นร้อนระอุ สายตาของเธอเงยหน้ามองเขาที่ดูทรงอำนาจและเอาแต่ใจก่อนจะมองเขาที่ยกมือขึ้นแล้วกดหัวเธอลงไปบนท่อนเอ็นร้อนจากนั้นก็ขยับขึ้นลงอย่างเอาใจจนเธอหายใจไม่ทัน
ใครบอกว่าเล่นกับไฟมันง่าย ตอนนี้เธอขอเถียงขาดใจ!!
คนฟังมองแล้วส่งเสียงดังฮึในลำคอ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ เปิดอ่างน้ำอุ่นขึ้นมาชำระล้างกายหลังจากที่ต้องพ่นน้ำลาวาออกมาตลอด ทั้งคืนในใจได้แต่นึกสงสัยว่าร่างกายนั้นมีอะไรดีถึงทำให้เขาไม่รู้จักเหนื่อยตัดมาทางคนที่กำลังอยู่บนเตียงพอเห็นเขาเข้าไปในห้องน้ำนาน เธอก็ขยับลงจากเตียงหยิบผ้ามาสวมใส่แล้วออกไปนอกห้อง หันมองทางขวามือเป็นกระจกและมุมโซฟาที่มองเห็นแม่น้ำ ก่อนจะหันมองตรงหน้า ที่เป็นมุมครัวเล็ก ๆ พอจะมองหากาแฟและเครื่องดื่มน้ำเมาได้เมญ่าเดินไปแล้วเลือกหยิบกาแฟแทน หันมองเครื่องทำน้ำร้อนก็เทน้ำลงไปแล้วเสียบปลั๊ก คงเพราะเสียงดังด้านนอกห้องเลยทำให้คนที่กำลังอาบน้ำสบายลืมตาขึ้นมาแล้วหยิบผ้าขนหนูมาพันท่อนล่างจากนั้นก็เดินออกมามองอีกคนที่กำลังชงกาแฟอยู่เมญ่าที่หันมามองพอดียกแก้วกาแฟขึ้นแล้วถาม “กาแฟไหมคะ”เขารู้สึกแปลกใจที่อีกฝ่ายมีท่าทีที่แตกต่างจากเมื่อคืนอย่างเห็น ได้ชัด “เธอจะมาไม้ไหนอีก”หญิงสาวเดินถือกาแฟมานั่งที่โซฟาแล้วยกแก้วกาแฟขึ้นเป่า ความร้อนก่อนจะจิบมันทีละนิดให้ความอุ่นร้อนของกาแฟทำให้ร่างกายอบอุ่น “อืมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย”คนแปลกใจยังคงเดินตามมาแล้วนั่งฝั่งตรงข้ามหญิง
แย่แล้ว!! ในใจเธอร้องขึ้นมาแล้วรีบหันหลังหนี ตำรวจก็รีบเรียกเธอเอาไว้ ตอนแรกเธอก้าวเท้าเร็ว พอตำรวจใกล้ถึงตัวเธอก็รีบวิ่งอย่างรวดเร็วกลายเป็นว่าตอนนี้ไม่ว่ามาเฟียพวกนั้นหรือตำรวจล้วนไว้ใจไม่ได้เลย สองเท้าเปล่ารีบวิ่งไปตามถนนคิดว่าจะรอดมือพวกเขาแล้ว ระหว่างที่กำลังจะพ้นหัวถนนจู่ ๆ ก็มีรถคันหนึ่งมาจอดขวางแสงไฟที่ส่องมายังหน้าเธอทำให้เธอรีบหันหลัง แต่ก็มีรถอีกคันมาจอดขวางเหมือนเดิม เธอหันมองอย่างหวาดกลัวได้แต่มองเงาปีศาจที่ก้าวลงจากรถ จากนั้นเมื่อมองเห็นชัดเจนเธอก็รู้ว่าเธอหนีไม่พ้นแน่นอน“ถ้าคุณอยู่ที่อื่นคุณอาจจะหนีพ้น แต่ในฝรั่งเศสนี้ไม่ว่าคุณไปอยู่ตรงไหนก็ไม่รอดสายตาผม ฉะนั้นขึ้นรถ!” ปลายเสียงเขาเหมือนรำคาญที่เธอทำให้วุ่นวายทั้งเมือง“ฉันไม่ไป”คำนั้นทำให้เธอได้เห็นกรามเขาขบเข้าหากันอย่างหมดความอดทน “เธอควรรู้ว่าโทษของการขัดคำสั่งผมเป็นยังไง” เขาเดินขยับเข้าหาเธอ จนใกล้ถึงเมญ่าก็รีบวิ่งไปอีกทางแต่สุดท้ายก็ไม่พ้นเขา เธอถูกมาเฟียร้ายแบกขึ้นบ่า สองปากเธอพยายามร้องขอให้คนช่วย แต่ขอโทษ คนพวกนั้นพอเห็นว่าเป็นใครก็ปิดปากเงียบสนิท สายตาเธอยังมองเห็นตำรวจที่ตามมาทำเป็นมองไม่เห็นด้วยสุด
ทุกอย่างควรจบแค่เมื่อคืนไม่ใช่เหรอ เหตุใดเธอถึงยังถูกมัดอยู่ในห้องนี้เช่นเคย สภาพของเธอที่เปลือยเปล่าส่วนเจ้าของห้องกลับไปนั่ง ริมหน้าต่างดื่มเหล้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียดสถานการณ์แบบนี้เธอควรรีบหนี แต่ติดตรงมีเชือกพันธนาการเอาไว้ แผ่นหลังนั่นเริ่มขยับเธอเห็นแบบนั้นก็รีบหลับตาทำเป็นหลับไม่รู้เรื่องราวในคลับเฮาส์ส่วนตัวของลูเฟียที่อยู่ใกล้แม่น้ำแซนด์ ตอนนี้ลูเฟียกำลังทอดมองผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียง สองมือที่ถูกเชือกมัดอยู่นั้นร่างกายเปลือยเปล่า เขามีความรู้สึกอยากปล่อยเธอแต่แล้วความคิดอีกอย่างก็เข้ามา “ยังไม่สะใจ” มือหนาจึงละมือลงจากนั้นก็ปิดประตูเดินออกไปทันทีสถานที่นัดหมายในคืนนี้คือท่าเรือสินค้าฝั่งตะวันออกของฝรั่งเศส เมื่อไปถึงเขาก็พบผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อเห็นเขาก็ส่งเอกสารมอบให้ไม่พูดสิ่งใดก่อนจะขึ้นรถจากไปลูเฟียทิ้งบุหรี่ที่สูบอยู่ลงพื้น เปิดซองเอกสารออกมาก่อนจะอ่านหัวข้อด้านใน “รายชื่อสมาชิกประมูล” เขาปิดซองเก็บไว้ตามเดิมก่อนจะขับรถออกไปเช่นกันจากนั้นก็ขับรถไปยังเมืองปารีส เพื่อแวะยังซอกคนจรจัดในตรอกแห่งหนึ่งในถนนคนจร ลูเฟียนั่งอยู่ในรถให้บอดีการ์ด “เทเลอร์นายลงไปดู ว่าอยู่ด้
ไอ้บ้า!! ไม่จูบคนแปลกหน้าแต่เอากับคนแปลกหน้าได้ พูดจบเขาก็ใช้ท่อนเอ็นใหญ่กระแทกเข้าไปพรวดเดียว “อยากอยู่แล้วก็ไม่บอก”บอกบ้านแกนะสิ เธอไม่ได้อยากเสียหน่อยเพียงแต่อาจจะเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์อาจจะยังคงอยู่ พอได้รับท่อนเอ็นที่ใหญ่เท่ากำปั้นเข้ามา เอวหนาขยับโยกได้ไม่ทันไรน้ำรักของเธอก็ไหลออกมา สามัคคีกับท่อนเอ็นใหญ่ช่วยให้เขารุกล้ำเข้ามามากขึ้นมากขึ้นที่ว่าคือไม่ถึงครึ่งลำด้วยซ้ำ คนอะไรใหญ่เป็นบ้า แม้แต่แฟนเธอก็ไม่เคยทำเรื่องแบบนี้ พวกเราคบกันก็จริงแต่เธอก็ไม่เคยยอมมอบสิ่งนี้ให้ พอคิดถึงแฟนสารเลวนั้นเธอก็คิดว่าในเมื่อหวงเอาไว้ก็ถูกหักหลังดังนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเล่นตัวอีกคิด ๆ ไปแล้วโลกนี้ก็มีผู้ชายอีกเยอะ เธอจะได้กินผู้ชายไม่ซ้ำหน้า จะได้สมกับเวลาที่เสียไปถึงหนึ่งปี คนคิดประชดชีวิตเงยหน้ามองคนตรงหน้ามองเขาโยกเอวเร่งขึ้นเรื่อย ๆปากไม่อยากร้องก็ต้องร้องเมื่อท่อนเอ็นทั้งหมดไล่พรวดเข้ามา ได้สำเร็จร่องรักของเธอแน่นจนเบียดขยับตัวไม่ได้ “อ๊ะ” เมญ่าส่งเสียงลูเฟียเหมือนชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงความคับแน่น แต่เมื่อเห็นหญิงสาวจิกเกร็งครางเสียงต่ำเขาก็คิดว่าคงคิดมากไปเอง เขาคงไม่ใช่คนแรกของ
ลูเฟียวางมือถือที่มีรูปพวกเขาสองคนลงไป จากนั้นก็หันมอง คนเป็นพ่อที่ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ จารมีน เพราะว่าพ่อจริง ๆ ของเขาก็คือ ดาริโอ ชายผู้ซึ่งถูกมาร์โกพ่อของเจด้าฆ่าตายด้วยมือต่างหากก่อนหน้าที่เขาจะรู้ความจริงนั้น เขากับเจด้าค่อนข้างสนิทกันพอสมควร แต่พอรู้ว่าอีกฝ่ายฆ่าพ่อตัวเอง เขาก็ถอยห่างโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ต้องยอมรับว่าเขารักเธอไปแล้ว และตอนนี้ ก็ยอมรับจริง ๆ ว่าไม่ว่าเขาจะพยายามเท่าไรหัวใจของเจด้าก็ไม่มีให้เขา อีกเช่นกันเสียงดนตรีที่กำลังกึกก้องอยู่เบื้องหน้าทำให้เขารู้สึกรำคาญใจ จึงลุกขึ้นมองไปยังกระจกตรงหน้าเพื่อมองไปยังนักท่องเที่ยวราตรียามค่ำคืนกำลังโยกย้ายสะบัดท่ามกลางแสงสีและแสงไฟ สายตาเขาสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่งรูปร่างท่าทางคล้ายกับเจด้าหญิงที่เขารักเหลือเกิน อีกฝ่ายกำลังโยกย้ายเต้นตามจังหวะด้วยชุดเดรสสั้นสีแดงเกาะอก ผู้ชายที่อยู่ใกล้เมื่อเห็นก็รีบไปคว้าเอวมากอดแต่หญิงสาวแทนที่จะดีใจกลับโวยวายแล้วรีบผลักเขาออกจากตัว จากนั้นก็เดินโซซัดโซเซเดินได้ไม่นานก็รู้สึกรำคาญรองเท้าส้นสูง จึงถอดทิ้งแล้วเดินเท้าเปล่าลูเฟียรู้สึกถูกใจจึงยกมือ


![นรสิงห์ [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)




