ปากแข็ง เย็นชา ไร้หัวใจ เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาที่กำลังจะเกิดมา ขออย่าใจร้ายเหมือนคนเป็นพ่อเลย
View More"ซานย์!" ภพนิพิฐเบิกตาโพลงในยามที่ดวงตาคมกริบประสานเข้ากับร่องรอยบาดแผลบนใบหน้าหล่อเหลาของเพื่อนรัก
นานแล้วที่ไม่ได้พบหน้ากัน ซานย์โลดแล่นอยู่ในวงการแพทย์ที่ต่างประเทศ เจ็ดปีก่อนแพทย์หนุ่มสูญเสียมารดาไปกับโรคร้าย ส่วนผู้เป็นพ่อมีภรรยาใหม่ ซานย์รับบทพี่ชายที่ดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวอย่าง 'ซาเฟียร์' เสมอมา ทุกอย่างราบรื่น ปราศจากปัญหา ทว่า ซานย์วัยสามสิบต้นๆ นอกจากจะมีตำแหน่งของแพทย์ที่เชี่ยวชาญ แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าหนุ่มหล่อมีดีกรีเป็นเจ้าของโรงพยาบาล ตอนนี้ความขัดแย้งกำลังเกิดขึ้น เมื่อ 'เฮเลน' บิดาที่ร้ายกาจในสายตาของลูกๆ กำลังลุ่มหลงในตัวภรรยาใหม่พร้อมทั้งลูกเลี้ยงจนคิดที่จะรวมโรงพยาบาลที่แม่ของพวกเขาคือผู้สร้าง กับโรงพยาบาลที่คนพวกนั้นก่อตั้งขึ้นมาใหม่ ซึ่งไม่สามารถเทียบกับโรงพยาบาลของพวกเขาได้ การชุบมือเปิบ หวังที่จะฮุบสมบัติมันไม่ได้ง่าย ซานย์ต่อต้านทุกวิถีทาง และเหมือนว่า พ่อผู้ให้กำเนิดของพวกเขากำลังเล่นแรง สัปดาห์ก่อนเขาถูกลอบทำร้าย แน่นอนว่าการเจ็บตัวเล็กๆ น้อยๆ มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของลูกผู้ชาย ดังนั้นคนพวกนั้นจึงเล็งเป้าหมายไปที่น้องสาวของเขาแทน ทั้งที่ซาเฟียร์ คือลูกสาวเพียงคนเดียวของเขา ทั้งที่ชายหนุ่มผู้เป็นลูกติดของภรรยาใหม่ให้ความสนใจจนอยากได้ลูกสาวของตัวเองไปบำเรอกายนักหนา ทว่าบัดนี้เฮเลนคล้ายคนที่ตาบอด คล้อยตามและยินยอมทุกอย่าง ซึ่งหนทางเดียวที่ซานย์คิดที่จะทํา คือการส่งน้องสาวกลับบ้านเกิดของแม่ นั่นคือประเทศไทย "สรุปเรื่องที่เราคุยกันก่อนหน้านี้..." "มันคือความจริง พ่อแท้ๆ ของกูกำลังบีบกูและน้องให้จนมุม" ภพนิพิฐคิดตาม เขารับรู้ว่าที่ผ่านมาซานย์มีความสุขแค่ตอนที่มีน้องสาวอยู่ข้างตัวเท่านั้น เรื่องราวของบิดาผู้ให้กำเนิดเป็นอันว่ารับรู้เฉพาะสิ่งที่เพื่อนอยากให้รู้เท่านั้น สภาพของซานย์ในตอนนี้ เพื่อนของเขากำลังตกที่นั่งลำบากจริงๆ "มึงจะเอาน้องสาวของมึงมาฝากไว้ที่กู?" "ขอร้องเถอะว่ะ ช่วยกูสักครั้งนะ ตอนนี้สถานการณ์ทางนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย กูเป็นห่วงน้องกูมากจริงๆ" ภพนิพิฐดันปลายลิ้นกับกระพุ้งแก้ม คำขอร้องแกมบังคับส่งผลให้หนุ่มหล่อกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ "ถ้ากูไม่ช่วยมึงล่ะซานย์" "น้องสาวกูก็คงต้องตกเป็นนางบำเรอของพวกมัน" "..." "ถ้าทุกอย่างจะเป็นแบบนั้น กูยอมให้น้องกูตกเป็นของมึงยังจะดีซะกว่า!" "ซานย์" "มึงคิดว่าผู้ชายบ้ากามที่เพียงแต่สนุกกับร่างกายของผู้หญิง พอเบื่อก็เฉดหัวทิ้งมันจะปล่อยน้องกูไว้เหรอวะ มึงรู้ไหมว่าผู้หญิงที่เคยตกเป็นเหยื่อของ 'ออสติน' ที่ถูกมันเอาแล้วทิ้งต้องอุ้มท้อง แล้วไปขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลของกูกี่ราย ที่น่าเจ็บใจคือเหยื่อพวกนั้นหลงรักมัน ที่คิดว่าหากมีการแจ้งความก็คงเอาผิดคนที่มีอิทธิพลล้นมืออย่างมันไม่ได้ ที่มากไปกว่านั้นคือเหยื่อที่หลงรักและมีความสัมพันธ์กับมันไม่มีใครแจ้งความเอาผิดมันเลย" "..." "ช่วยกู ช่วยน้องสาวกูสักครั้งนะเพื่อน ซาเฟียร์ควรได้อยู่ในที่ที่ปลอดภัยกับคนที่ปลอดภัย หากสถานการณ์ทางนั้นดีขึ้นเมื่อไหร่ กูจะกลับมารับน้องสาวของกูกลับไปทันที" สามวันต่อมา "สวัสดีค่ะพี่ภพ" หนุ่มหล่อเจ้าของคอนโดมิเนียมหรูตวัดสายตาขึ้นมองเจ้าของเสียงทักทาย ซาเฟียร์ฉีกยิ้มกว้าง ร่างบางอยู่ในชุดเซทที่สั้นเพียงต้นขาตามประสาเด็กรุ่นใหม่ ดวงตากลมสวยมีเสน่ห์ดึงดูด ปากนิดจมูกหน่อย รอยยิ้มของเธอช่างดึงดูด ตรึงตราตรึงใจ "ซาเฟียร์ค่ะ หนูเป็นน้องสาวเฮียซานย์" คนที่ขยันยิ้มหน้าเสียเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงกระแทกลมหายใจ เพื่อนพี่ชายหล่อมาก หล่อกว่าในรูปที่เจออีกต่างหาก ขนาดในตอนนี้เราทั้งสองมีระยะห่างกันพอสมควร เธอยังได้กลิ่นหอมสะอาดสะอ้านจากร่างกายของคนตัวโต มันคือเรื่องจริงเหรอที่เฮียซานย์บอกว่าเพื่อนของเขาคนนี้ยังไม่มีแฟน "คอนโดของฉันมีแค่ห้องเดียว แต่ไม่ต้องห่วงนะ ระบบการรักษาความปลอดภัยครบถ้วน จะไม่มีใครมาทำร้ายเธอในที่ของฉันได้" "หมายความว่าพี่ภพจะให้หนูอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอคะ" "เธอหนีตายจากผู้ชายอังกฤษมา ฉันคิดว่าจะไม่มีโอกาสได้เห็นสีหน้าผิดหวังในตอนที่พูดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ตามลำพังซะอีก" เพราะยังรู้สึกหงุดหงิดกับภารกิจที่ต้องทำ ภพนิพิฐเผลอประชดประชันออกมาอย่างไม่รู้ตัว "แต่หนูกลัวผี" ซาเฟียร์บอกเสียงอ่อนกำลัง ใบหน้างดงามราวกับตุ๊กตารูปปั้นไม่หลงเหลือรอยยิ้มสดใสอีกต่อไป "เท่าที่ฉันรู้ แม้เธอจะยังเรียนอยู่แต่เธอก็บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่ควรยกข้ออ้างในเรื่องที่มันไร้สาระแบบนี้ขึ้นมา" ภพนิพิฐหยัดตัวลุกขึ้นจนเต็มความสูง ใบหน้าหล่อเหลาราวกับนายแบบจากปกนิตยสารยังคงเรียบเฉย หนุ่มหล่อคนนี้เขาไม่ใจดีกับเธอเลย! "สิ่งที่หนูพูดมันไม่ใช่เรื่องที่ไร้สาระนะคะ หนูเคยเจอผี" "นี่เธอ!" "หนูเคยเจอทั้งผีอำ ผีดึงผ้าห่มเวลาที่เผลอตื่นตอนตีสองตีสาม มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากเลยนะคะ" "ไร้สาระ เธอเคยเจอผีตัวเป็นๆ ไหมล่ะ" "ไม่เคยค่ะ แต่หนึ่งสัปดาห์ก่อนที่จะเดินทางมาประเทศไทย หนูเคยถูกจับขังในห้องสี่เหลี่ยมมืดๆ หนูกลัว" "เด็กแบบเธอมันน่ารำคาญ" ใจคนฟังกระตุกวูบ เมื่อคนทางนี้ที่เป็นที่พึ่งไม่ได้แยแสเธอ คนตัวเล็กก็กำลังคิดไปเองต่างๆ นานา ป่านนี้พี่ชายของเธอที่เดินทางมาส่งเธอที่ประเทศไทยคงรีบเดินทางกลับแล้วเพราะกลัวว่าการหายไปหลายวันทางนั้นจะเกิดการสงสัย เธอควรได้ใช้ชีวิตให้มันดีกว่านี้ แม้การที่ออกมาจากบ้านและต้องมาอยู่ในที่ที่ไม่มีเฮียซานย์อยู่ด้วย เธอยังไม่มีโอกาสให้เฮียได้แนะนำสถานที่ต่างๆ เพื่อให้เธอได้รู้สึกคุ้นเคยกับที่นี่ก่อนเลย ไม่มีเลย เธอทำอะไรไม่ได้เลย! "หนูจะพยายามทำตัวไม่ให้ดูน่ารำคาญ" "เบอร์โทรศัพท์ของฉันติดไว้ที่ข้างผนัง ถ้าเธอมีปัญหาอะไรก็โทรมา" "พี่จะทิ้งหนูไว้ตรงนี้คนเดียวจริงๆ เหรอคะ" "ฉันเองก็มีงานที่ต้องทำ" "หนูยังไม่มีซิมการ์ดของประเทศไทย หนูอยากโทรกลับไปหา..." "ระหว่างที่อยู่ที่นี่ห้ามติดต่อซานย์เด็ดขาด อย่าลืมนะ ซานย์ให้สิทธิ์ฉันเป็นผู้ปกครองของเธอ อย่าดื้อกับฉัน เพราะฉันไม่ชอบเด็กน่ารำคาญ!" ------สวนหลังบ้าน"มีมี่ มี่จ๋า~""ก๊อดๆ~" เสียงตอบรับจากนกแก้วซันคอนัวร์ที่เลี้ยงไว้ในบ้านยังเรียกความสนใจจากไอเดียได้เหมือนทุกครั้งมีมี่ นกแสนรู้ที่ถูกฝึกและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เป็นลูกป้อนโบยบินออกจากกรงแล้วมาเกาะที่บ่าของซาเฟียร์ ดวงตากลมใสแป๋วคล้ายกับตาของเด็ก ปากสีดำวาววับท้าทายให้ซาเฟียร์โน้มริมฝีปากไปจุ๊บเบาๆ ที่ปากของนก ไอเดียส่งเสียงเอิ๊กอ๊ากอย่างชอบใจ"มาแอบอยู่ตรงนี้นี่เอง" ภพนิพิฐเดินตามมาสมทบ วงแขนอบอุ่นและแข็งแรงโอบที่เอวภรรยาเอาไว้หลวมๆ ดวงตาคมกริบกวาดมองที่ใบหน้าของผู้เป็นภรรยาในระยะใกล้ สลับกับการหันมองลูกน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นแม่เช่นกัน"ไอเดียรักมีมี่เหรอลูก มี่เอ้ย""ก๊อดๆ~" เจ้านกน้อยยังคงส่งเสียงเบาๆ พร้อมกับการเอียงคอมองผู้ที่เป็นเจ้าของของมัน ดีแล้วที่เจ้านกแสนรู้ไม่ส่งเสียงกรีดร้อง เพราะหากได้ส่งเสียง รับรองว่าเสียงจะก้องกังวาลไปทั่วทั้งบริเวณมือเล็กป้อมๆ ของไอเดียยกขึ้นไปลูบเบาๆ ที่หัวนก ความเมตตาอารี เด็กน้อยได้มาจากทั้งผู้เป็นพ่อและคนเป็นแม่ สัตว์เลี้ยงตัวเล็กสัมผัสกับกลิ่นเจ้าของตัวน้อย ในอนาคตหากไอเดียเดินมาเล่นที่สวน เป็นไปได้ว่านกน้อยที่อยู่ในกรงสวยงาม
ภายในห้องครัว"คนสวยของแด๊ดดี้ทำอะไรอยู่ครับ""อันดาเช็ดจานให้หม่ามี๊ค่ะ""เก่งจังเลยค่ะ ลูกสาวของแด๊ดดี้เก่งที่สุดเลย" เวลาที่อยู่กับลูกๆ และภรรยา ภูมิรพีอ่อนโยนเสมอ ประกายตาคู่นี้ยังคงเด็ดเดี่ยวและมั่นคง รักที่มีต่อภรรยายังคงเป็นรักที่ยิ่งใหญ่ ส่วนลูกๆ ก็ยังคงเป็นรักที่บริสุทธิ์ของเขาเช่นเดิม"หม่ามี๊ท้องโตแล้ว องศาจะช่วยหม่ามี๊ล้างจานครับ""องศาล้างจาน อันดาเช็ดจานให้แห้งนะ" แด๊ดดี้และหม่ามี๊มองหน้ากัน การที่เด็กสองคนซึ่งเติบโตในเวลาเดียวกัน ใช้ชีวิตในแบบเดียวกันและอยู่ด้วยกันตลอดเวลา เข้าอกเข้าใจกันดี มันเป็นอะไรที่ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่โคตรสบายใจ"แด๊ดดี้ภูมิใจในตัวลูกๆ ที่สุดเลย" องศายิ้ม อันดาเองก็ยิ้มเช่นกัน"ลูกๆ ของแด๊ดดี้ รู้หรือเปล่าครับว่าอาภพและอาภูเกี่ยวข้องอะไรกับแด๊ดดี้""คูมย่าบอกว่า น้องของแด๊ดดี้อันดาต้องเรียกว่าคูมอาค่ะ""เก่งมากครับ อาภพกับอาภูเป็นน้องชายของแด๊ดดี้ แด๊ดดี้รักน้องของแด๊ดดี้มากๆ เพราะเราเป็นพี่น้องกัน เป็นสายเลือดเดียวกัน เป็นคนที่คอยช่วยเหลือกันเวลาที่คนใดคนหนึ่งลำบาก จำไว้นะลูก การมีพี่น้องที่รักกัน มันเป็นอะไรที่ดีมากๆ" เปี่ยมรักอมยิ้มอย่างมีความ
Special 5 "สวัสดีค่ะพี่ภูมิ สวัสดีค่ะพี่ภู แด๊ดดี้" หญิงสาวในชุดนักศึกษายกมือไหว้ทุกคนก่อนจะยิ้มให้คนสุดท้ายที่เธอเอ่ยถึง ภพนิพิฐรั้งเอวคอดกิ่วเข้ามาหา จังหวะที่คืนไอเดียสู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ ปลายจมูกโด่งแอบกดลงที่ขมับบาง สูดดมกลิ่นหอมจากเรือนร่างของภรรยาสาวเข้าจนเต็มปอดอย่างเคยชิน "แด๊ดดี้อาบน้ำให้ลูกแล้วเหรอคะ หอมเชียว" "เรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวพี่ตามเข้าไปนะ" "ได้ค่ะ" ซาเฟียร์แจกจ่ายรอยยิ้มให้กับทุกคนเฉกเช่นทุกครั้ง คล้อยหลังจากพี่สะใภ้ ภูพิงค์เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยความไว "น่าอิจฉาคนที่เมียยังใส่ชุดนักศึกษานะ คงเห็นแล้วใจสั่นเป็นบ้า" ภูพิงค์กดยิ้มที่มุมปากพลางปรายตามองเจ้าของหญิงสาวคนที่พึ่งจะอุ้มลูกออกไป ในขณะที่อีกด้าน ภูมิรพีเลือกที่จะเค้นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ "เหมือนว่าจะไม่ได้น่าอิจฉาเท่าไหร่หรอก มึงมองไม่เห็นความกังวลที่อยู่ในสายตาของพี่มึงหรือไง" คนที่กำลังถูกพูดถึงกดปลายลิ้นที่มุมปาก คนหนึ่งช่างเปิดประเด็น ส่วนอีกคนก็ช่างสังเกตซะเหลือเกิน "ต่อหน้าพี่ต่อหน้าน้องทำเป็นจูบขมับ อยู่กันสองต่อสองนี่เตียงไม่ยับเลยเหรอวะ" "ทะลึ่งละ คนรักกัน ไม่จำเป็นต้องเอาก็รักอยู่ดี"
"หนูไม่อยากให้แด๊ดดี้เหนื่อยนี่คะ""ไม่เหนื่อยหรอกน่า ลูกและเธอเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับพี่นะ อย่าคิดมาก" ซาเฟียร์สอดแขนเข้าไปโอบกอดที่เอวสอบ ใบหน้าสะสวยเชิดขึ้นเพื่อมองใบหน้าหล่อเหลา รอยยิ้มแห่งความสุขประดับขึ้นบนใบหน้างดงาม"หนูโชคดีจัง แด๊ดดี้ของหนูน่ารักที่สุด แด๊ดดี้ทำให้หนูรักจนไม่รู้จะรักยังไงแล้ว" คนฟังอมยิ้ม อาศัยจังหวะที่รถติดสัญญาณไฟกดริมฝีปากลงบนหน้าผากมนเบาๆ"สายหรือยัง พอมีเวลาให้พี่สักหน่อยไหม" แก้มของคนฟังแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ซาเฟียร์กัดปากของตัวเองเบาๆ เธอเข้าใจทันทีว่าผู้เป็นสามีต้องการสื่ออะไร"เพราะแบบนี้ใช่ไหมล่ะถึงเลือกที่จะฝากลูกไว้กับคุณย่าแล้วก็มาส่งที่หนูที่มอ.เอง""ฉลาดจัง พี่ขอเวลาสักหนึ่งชั่วโมงได้ไหมล่ะ""แค่พี่ใช้เส้นสายในเรื่องการเรียนของหนู หนูก็รู้สึกไม่ดีแล้วนะ" ภพนิพิฐระบายรอยยิ้มออกมาถ้าจะให้พูดกันตามความรู้สึก เขาไม่ได้ติดขัดไม่ว่าเธอจะเรียนจบที่ระดับชั้นไหน เหตุผลที่เขายอมให้เธอกลับไปเรียนอีกครั้งเพราะเขาแค่อยากตามใจเธอ อยากเปิดโอกาสให้เธอได้ทำในสิ่งที่เธออยากทำทุกอย่าง ถึงยังไงซะเขาก็ไม่มีวันปล่อยให้เธอต้องลำบากอยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้
Special 4 "แอะ~" น้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความอารมณ์ดีดังออกมาจากเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มที่อยู่ในชุดบอดี้สูทสีครีม ผิวของคนตัวน้อยขาวจั๊ว บ่งบอกว่าได้มาทั้งของพ่อและของแม่ ในส่วนของใบหน้าแม้จะออกมาทิศทางของผู้เป็นแม่มากกว่า ถึงอย่างนั้นคนเป็นพ่อก็ยังพยายามโต้เถียงว่าบุตรสาวหน้าตาเหมือนตนเองอยู่ไม่น้อย แต่สุดท้ายแล้วไม่ว่าหนูน้อยไอเดียจะหน้าตาเหมือนใคร ไม่ว่าจะได้พ่อหรือว่าได้แม่มา สุดท้ายก็ลงตัวจนหาที่ติไม่ได้เลย ลมเย็นๆ ในเวลาเช้าลอยกระทบลงมาบนเสี้ยวใบหน้าหล่อเหลา สุดท้ายกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ค่อนข้างคุ้นเคยซึ่งส่งกลิ่นมาจากในห้องนอนก็เรียกสายตาคมกริบให้ตวัดกลับไปมองที่ทิศทางด้านในตามเดิม ความหวงแหนผุดขึ้นเมื่อหน่วยตาคมประสานเข้ากับเรือนร่างของภรรยาสาว ซาเฟียร์กลับไปเรียนหนังสืออีกครั้งหลังให้นมลูกจนครบสามเดือน มีการวางแผนทุกอย่างเอาไว้อย่างชัดเจน ในช่วงพักกลางวันคนตัวเล็กจะกลับมาให้นมบุตรที่บ้าน เพราะเหตุผลนี้และอีกเหตุผลคือได้ตกปากรับคำเอาไว้แล้วตั้งแต่ต้น พ่อของลูกจึงยินดีกับการไปเรียนในครั้งนี้ของผู้เป็นเมีย "ทำไมต้องใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้" คนที่อุ้มลูกคาอกมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดนักศ
Special 3ภายในบ้านหลังใหญ่ของอัศวราชเต็มไปด้วยความคึกคัก ภายนอกตัวบ้านคุณปู่ภีมพลซึ่งเป็นที่รักของหลานๆ เก็บกวาดต้นไม้ที่เฉาตาย พร้อมกับการลงต้นไม้ปลูกใหม่ ความขยันนี้ไม่ได้มีที่มาที่ไปไกลเท่าไหร่นัก สุดท้ายหลานๆ นั่นแหละที่เป็นแรงผลักดันให้คุณปู่จัดการทุกอย่าง เป็นแรงผลักดันที่ทำให้ขยันมากยิ่งๆ ขึ้นไป"น้องไอเวียนหัวเหรอลูก แม่ลืมบอกว่าแม้แต่ผักบางชนิด หากมันจะแสลงมันก็แสลงขึ้นมาดื้อๆ เลยนะ" เบญญาถามสะใภ้คนเล็กอย่างไอติม คุณแม่หลังคลอดยังคงสวยสดไม่เปลี่ยน ไอติมหน้ายังสดใส เป็นเรื่องปกติที่คล้อยหลังจากช่วงหลังคลอดในช่วงเดือนแรกผ่านพ้นไป จะมีการเริ่มทานอาหารที่มีประโยชน์และเพิ่มน้ำนมให้มากขึ้น เรื่องของอาหารแสลงจึงเป็นสิ่งที่ควรระวังมากเช่นกัน"ไอเวียนหัวนิดหน่อยค่ะแม่" "แม่ว่าพักก่อนนะ เดี๋ยวแม่ดูแลอิคคิวให้เอง" คุณย่ายังคงเป็นที่รักของลูกๆ ยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือดูแลหลานๆ อยู่เสมอเด็กชายองศา เด็กหญิงอันดาตอนนี้อยู่ในวัยสองขวบเศษ ช่างพูดช่างคุยช่างสงสัย จากนั้นก็เป็นน้องไอเดียลูกสาวของคุณพ่อภพและคุณแม่ซาเฟียร์ที่ลืมตาดูโลกและเข้ามาอยู่ในบ้านอัศวราชเป็นหลานคนที่สาม หนึ่งสัปดาห์ต่
Comments