อ่านนิยายอยู่ดี ๆ ดันกลายมาเป็นนางเอกที่น่าสงสาร แถมยังเป็นภรรยาของพระเอกอย่างเขาที่นิสัยเหมือนตัวร้ายไม่มีผิด เธอจะไม่ยอมเป็นนางเอกผู้อ่อนแอไม่ว่ายังไงจะต้องหนีออกจากบ้านหลังนี้! หนีจากเขาให้ได้..
View Moreบทนำ
โม่หยางอัน พนักงานสาวโสดใช้ชีวิตในวันหยุดด้วยการอ่านหนังสือนิยายที่เธอชื่นชอบ วันนี้เธอได้ซื้อหนังสือเรื่องใหม่มา คนขายบอกกับเธอว่าพระเอกธงเขียวแต่เมื่อเธอกลับมาที่บ้านเปิดอ่านกลับกลายเป็นพระเอกธงแดง เธอทั้งสงสารนางเอกที่ถูกครอบครัวลุงโขกสับ ออกมาจากนรกขุมแรกต้องมาเจอพระเอกที่คอยเอาแต่ทำร้ายจิตใจด้วยคำพูด กระทำกับเธอเหมือนไม่ใช่คน มองเธอเป็นเพียงแม่พันธุ์ผลิตลูกเท่านั้น โม่หยางอันวางหนังสือลงด้วยความโมโห แต่ใครจะคิดว่าชีวิตของเธอจะเปลี่ยนไปหลังจากที่เธอบ่นพระเอกนิยายเรื่องนี้ทำให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งอยู่ในอ้อมกอดของพระเอกจอมโหดร้ายที่เธอด่าทอเมื่อครู่ ในเมื่อเธอมาอยู่ในนิยายเธอจะไม่ยอมทนให้พระเอกทำร้ายจิตใจอีกต่อไป แต่หนทางของเธอช่างมืดมนเพราะนิยายเรื่องนี้เธอยังอ่านไม่จบด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะหาหนทางหนียังไงก็ไม่พ้นสายตาของเขาอยู่ดี แล้วอย่างนี้เธอจะทำอย่างไรต่อไปติดตามต่อในนิยายนะคะ
* นิยายเรื่องนี้แต่งตามจินตนาการของนักเขียนเท่านั้นไม่ได้อ้างอิงตามประวัติศาสตร์ สถานที่ ชื่อเมืองเป็นเพียงเรื่องสมมุติเท่านั้น อ่านเพื่อความบันเทิง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
ตอนที่ 1 พระเอกธงแดง
ชายร่างกำยำใช้แรงลากหญิงสาวร่างเล็กให้เดินตามตนมาที่ห้องโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้เต็มใจเสมือนถูกบังคับขู่เข็ญใบหน้าของเจ้าหล่อนเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาสั่นเทาหวาดกลัวชายที่อยู่ตรงหน้าเสียจนสองเท้าแทบจะก้าวขาไม่ออก
“ปล่อยนะ! อย่าทำอะไรฉันเลย ฉันไม่ใช่พี่เฟิงลี่ฉี่คุณเข้าใจผิดแล้ว ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะนะ” ชายร่างใหญ่หยุดเดินชะงักหันกลับมามองร่างบางดวงตาแข็งกร้าว ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเข้มขรึม
“ฉันไม่ได้สนใจว่าผู้หญิงที่มากับฉันเป็นใคร ในเมื่อคนตระกูลเฟิงส่งตัวเธอมาดังนั้นต่อจากนี้เธอคือภรรยาของฉันและหน้าที่ของเธอคือแม่พันธุ์ แก้เสื้อผ้าซ่ะก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน ฉันสามารถฉีกเสื้อผ้าของเธอภายในชั่วพริบตา” ร่างเล็กสั่นสะท้านส่ายหน้าไปมาเธอไม่ต้องการเช่นนี้ สู้ให้เธออยู่ในบ้านตระกูลเฟิงถูกป้าโขกสับใช้งานยิ่งกว่าทาสจะดีกว่าให้เธอมาแต่งงานกับมาเฟียที่น่ากลัวเช่นเขา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยรอยสักและรอยแผลเป็นเต็มตัว เว้นแต่ใบหน้าที่ยังไม่มีรอยขีดข่วน เขาเหวี่ยงร่างของเธอลงบนเตียงหนานุ่มก่อนจะปิดประตูถอดเสื้อผ้าที่ตนสวมใส่ออก พร้อมตระครุบร่างบางที่สะอื้นไห้โดยไม่ได้สนใจความรู้สึกของเธอด้วยซ้ำไป เธอเหมือนถูกฆ่าให้ตายทั้งเป็น
ปัง! เสียงวางหนังสือลงบนโต๊ะดังขึ้นพร้อมเสียงบ่นของหญิงสาวที่กำลังอ่านนิยายอย่างหัวเสีย
“นี่ฉันว่าฉันเลือกหนังสือนิยายพระเอกธงเขียวมาแล้ว ทำไมถึงกลายเป็นพระเอกธงแดงไปได้ น่าหงุดหงิดจริง ๆ ต้องให้นางเอกของฉันเจ็บปวดถึงไหนกัน คิดว่าออกมาจากบ้านนรกนั่นแล้วจะได้อยู่อย่างสุขสบายกับพระเอกที่ไหนได้ ต้องมาเจอกับพระเอกที่เอาแต่ใจตัวเองน่าสงสารจริง ๆ ที่เขาเห็นนางเอกเป็นเพียงแม่พันธุ์เอาไว้ผลิตทายาทของตนเอง ไปหาอะไรกินก่อนค่อยมาอ่านต่อดีกว่าไม่แน่นางเอกของฉันอาจจะได้อยู่สุขสบายหลังจากนี้ก็ได้” โม่หยางอันลุกขึ้นพรวดเดินไปที่ตู้เย็นหาอะไรมากินในวันหยุดยาว 4 วัน ที่เธอได้พักผ่อนอยู่อพาร์ทเมนท์ตอนนี้บริษัทที่เธอทำงานอยู่ได้ปิดปรับปรุงเธอจึงใช้เวลาพักอยู่กับการอ่านนิยาย เธอเดินเข้าไปหยิบเบียร์พร้อมของกินเดินกลับมาหาหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะนิยายซื้อมาใหม่ตอนกลางวันของวันนี้เพื่อที่จะอ่าน มีแต่คนบอกนิยายเรื่องนี้สนุกพระเอกคลั่งรักนางเอกมาก เธอเชื่อและหยิบมาอย่างไม่ได้อ่านคำโปรยหรือคำแนะนำ
นางเอกชื่อว่า ซ่งชิงชิง เป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่มีลุงเอามาเลี้ยงดูหลังจากเสียพ่อแม่ในวัยเพียง 10 ขวบ แต่ทว่าป้าภรรยาของลุงไม่ชอบเธอ เพราะฐานะทางบ้านไม่ได้ดีเท่าไหร่นัก บ้านที่พักอาศัยก่อด้วยอิฐแดง พื้นปูด้วยซีเมนต์หลังคาสังกะสีธรรมดา เป็นนิยายทศวรรษ 1994 โม่หยางอันชอบนิยายยุคสมัยนี้จึงมีหลายเล่มที่เธอสะสม ชิงชิงถูกบังคับให้แต่งงานแทนเฟิงลี่ฉี่ลูกสาวของลุงหม่าเฟิงมีอายุมากกว่าเธอ 2 ปี
เพียงเพราะป้าอวี้ถิงไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองแต่งงานกับมาเฟียที่น่ากลัว แถมยังมีใบหน้าอัปลักษณ์อีกด้วย จึงส่งชิงชิงไปแทนเพราะครอบครัวตระกูลเฟิงติดหนี้โจวเฉิงเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่ของมณฑลแห่งนี้ เขาต้องการหาหญิงสาวไปแต่งงานกับลูกชายของตนเองแต่ไม่ค่อยมีใครเห็นหน้าของลูกชายของเขา ได้ยินเพียงคำเล่าลือว่าอัปลักษณ์ใบหน้าเละจากการต่อสู้ บาดแผลเต็มตัวไปหมด แค่ได้ยินอวี้ถิงเกิดความหวาดกลัวจะยอมให้ลูกสาวที่งดงามของตัวเองไปแต่งกับคนอย่างนั้นได้อย่างไร ถึงจะรวยมากขนาดไหนแต่มีใบหน้าอัปลักษณ์และนิสัยโหดเหี้ยม เธอจึงบังคับให้ชิงชิงไปแทน
โม่หยางอันอ่านได้มาครึ่งเรื่องใบหน้าเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาสงสารนางเอก คิดว่าจะได้อยู่สุขสบายที่ไหนได้พระเอกอย่างอู๋หยางหลงกลับทำร้ายจิตใจเธอ ทำราวกับเธอเป็นเพียงสิ่งของและแม่พันธุ์เท่านั้น
“อึก ๆ ฉันสงสารเธอจริง ๆ ซ่งชิงชิงทำไมชีวิตของเธอถึงได้รันทดแบบนี้ไม่เคยมีวันไหนเลยที่มีความสุข ไอ้พระเอกเฮงซวยแกมาทำร้ายจิตใจนางเอกฉันเกินไปแล้ว ฉันไม่น่าหลงเชื่อคำยุยงของคนขายเลย ทำฉันเสียน้ำตา ไอ้พระเอกบ้าเมื่อไหร่แกจะบอกว่ารักลูกสาวฉันกันห่ะ ต้องให้เธอหนีไปก่อนหรือไง แกถึงจะรู้หัวใจตัวเอง ใช่! ถ้าเป็นฉันฉันจะหนีตั้งแต่วันแรกที่แต่งเข้าบ้านตระกูลอู๋เลยไม่ยอมให้แกมาทำร้ายจิตใจแน่นอน” โม่หยางอันพับหน้าหนังสือที่อ่านถึงไว้ก่อนจะวางมันลงเพื่อเดินไปเอาเบียร์อีกกระป๋อง สองเท้าเดินตรงไปที่ตู้เย็น ทันใดนั้นเองเสียงไฟในห้องดับพรึบลงทันที
พรึบ!! ในห้องมืดสนิทโม่หยางอันหยุดเดินก่อนจะบ่นอีกครั้ง
“อะไรกันวันนี้พยากรณ์อากาศไม่มีฝนนี่น่าแถมตอนนี้ฝนไม่ตกสักหน่อยทำไมไฟถึงดับได้นะ!” เธอบ่นไม่ทันไรกำลังจะเดินหันหลับเดินกลับไปเอามือถือเพื่อเปิดไฟให้ความสว่าง กลับเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นเมื่อจู่ ๆ หนังสือนิยายเกิดแสงส่องสว่าง หนังสือค่อย ๆ เปิดเองทีละหน้าจากช้า ๆ กลายเป็นเร็วขึ้น สายลมไม่รู้มาจากที่ไหนราวกับเกิดพายุในห้องของโม่หยางอัน หญิงสาวแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาในเรื่องที่เกิดขึ้น พายุโหมกระหน่ำเป็นวงกลมดูดร่างบางเข้าไปในหนังสือนิยาย ทุกอย่างในห้องกลับมาเป็นเหมือนเดิม หนังสือถูกปิดไว้เช่นเดิมแต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือร่างของโม่หยางอันถูกดูดเข้าไปในหนังสือนิยาย
“กรี๊ด!! ช่วยด้วยใครก็ได้ช่วยฉันด้วย” เธอร้องเสียงหลงไม่รู้ว่าจะถูกพายุดูดไปที่ใด ไม่นานนักแสงสว่างจ้าได้ปรากฏขึ้นต่อหน้า ร่างกายของเธอหล่นบนเตียงนอนหนานุ่มแต่เหมือนว่าร่างกายของเธอกำลังถูกกอดแน่นจากแขนแกร่ง
“ชิงชิงเธอเป็นอะไรไป จู่ ๆ ก็ส่งเสียงร้องดังไปทั่ว "น้ำเสียงเข้มขรึมดังขึ้นโม่หยางอันลืมตาขึ้นดูด้วยความตกใจเมื่อครู่เธอยังอยู่ในห้องเพียงลำพังแล้วทำไมถึงมีเสียงผู้ชายในห้องของเธอแบบนี้
"นายเป็นใครเอามือของนายออกจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ "เธอทั้งตกใจทั้งตื่นตระหนกเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นชายร่างใหญ่กอดเธออยู่
”เสียสติไปแล้วหรือไง จำสามีของตัวเองไม่ได้หรือว่าเพราะเธอตากฝนตอนกลางวันทำให้สติเลอะเลือนเพราะฤทธิ์ไข้ ฉันบอกเธอแล้วใช่มั้ยว่าร่างกายของเธอมีค่ากับฉันแค่ไหน ตราบใดที่เธอยังไม่ตั้งท้องและยังไม่คลอดลูกของฉันอย่าได้ทำอะไรตามใจตัวเอง” สติของโม่หยางอันขาวโพลนสายตาของเธอกวาดมองไปรอบ ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องที่เธออยู่หรือแม้แต่การแต่งตัวเสื้อผ้าไม่เหมือนยุคสมัยของเธอสักนิด
“เดี๋ยวนะเมื่อครู่นายเรียกฉันว่าอะไร ฉันชื่อว่าอะไรนะ?”
“ซ่งชิงชิงหรือว่าเธอจะเสียสติไปแล้วจริง ๆ ถึงจำไม่ได้แม้กระทั่งชื่อตัวเอง อย่างนี้ฉันจะต้องเตือนความทรงจำของเธอหน่อยแล้ว ว่าเธอคือใครแล้วฉันเป็นใคร” ร่างใหญ่ขึ้นคร่อมร่างของเธอใช้มือจับข้อมือของเธอทั้งสองข้าง โม่หยางอันตกใจสุดขีดไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองแถมยังหวาดกลัวผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า เธอใช้สติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดยกขาขึ้นเตะเข้าระหว่างกลางตัวของชายหนุ่มจนเขาร้องออกมาเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ย!! นี่เธอตั้งใจทำฆ่าฉันหรือไงกัน” โม่หยางอันเห็นอีกฝ่ายเจ็บจนปล่อยมือจากเธอไปกุมน้องชายของเขา เธอรีบลุกขึ้นจากเตียงนอนวิ่งออกจากห้อง กวาดสายตามองไปรอบ ๆ หัวใจเต้นระรัว
“ไม่ใช่หรอก ฮ่า ฮ่า ฉันคงจะอ่านหนังสือมากจนเก็บเอามาฝัน ใช่แล้วฉันฝัน ฉันต้องฝันอยู่แน่ ๆ อย่างนั้นฉันจะหลับตาแล้วลืมตาขึ้นอีกครั้งคงจะทำให้ฉันตื่นจากฝันในครั้งนี้” โม่หยางอันหลับตาลงพร้อมลืมตาขึ้นทว่าทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม
ปัง
“จะหนีไปไหน ไม่ว่ายังไงเธอก็หนีฉันไม่พ้นหรอกนะ” เสียงของหยางหลงดังขึ้นพร้อมเปิดประตูออกมาด้วยใบหน้าเกรี้ยวโกรธ ตอนนี้โม่หยางอันพอจะเดาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ได้ทั้งหมดแล้วว่าเธอนั้นทะลุมิติเข้ามาอยู่ในนิยายเรื่องที่เธออ่านยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ
ตอนที่ 31 เริ่มใหม่อีกครั้ง“ชิงชิงเธอฟื้นแล้ว ฉันดีใจที่สุดเลย” เสียงดีใจของหยางหลงดังขึ้นข้าง ๆ หูร่างเล็กลืมตาที่หนักอึ้งขึ้นมองเมื่อครู่เธอยังร้องห่มร้องไห้อยู่ในยุคปัจจุบันไม่ใช่หรือ ? หรือว่าเธอฝันไป แต่หากเป็นฝันก็ขอให้มันเป็นความฝันตลอดไป“หยางหลงนี่นายจริง ๆ ฉันดีใจจังที่ลืมตามาเห็นนายอีกครั้ง”“ชิงชิงฉันต่างหากที่ดีใจที่เธอฟื้นเธอหลับอยู่บนเตียงตั้งสามวัน ตอนนี้เจ้าก้อนซาลาเปาร้องไห้หาแม่แล้วรู้มั้ย”“ลูก ลูกของเราปลอดภัยแข็งแรงใช่มั้ย”“เฉินอี้น้อยแข็งแรงดีครับซ้อ แถมยังมีใบหน้าเหมือนซ้อไม่มีผิด ”ติงเฉิงคนเงียบขรึมพูดแทรกขึ้นเพราะดีใจที่เห็นซ้อฟื้น 3 วันมานี้เขาเห็นนายของตนเองเฝ้าอยู่ไม่ห่างใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล หากเสียซ้อไปนายน้อยของเขาคงเสียสติเป็นแน่แท้ เขาดีใจที่ซ้อฟื้นขึ้นมาจนกล้าพูดมากกว่าเดิม“ใช่แล้วแถมยังมีปานที่ขาเหมือนเฉินอี้ด้วย เธออยากเห็นลูกของเรามั้ย ติงเฉิงไปแจ้งคุณหมอว่าชิงชิงฟื้นแล้วอย่าลืมแจ้งคุณพ่อด้วย”“ครับนายท่าน” ติงเฉิงรับคำสั่งเดินออกไปนอกห้องตอนนี้มีเพียงแค่หยางหลงกับชิงชิงที่อยู่ด้วยกัน สีหน้าของหยางหลงเริ่มเปลี่ยนผลันเมื่อจำคำพูดของตนเองได้
ตอนที่ 30 เจ็บท้องคลอดอากาศแจ่มใสในฤดูดอกไม้ผลิชิงชิงชวนหยางหลงมาที่หลุมศพของเฉินอี้ โดยมีติงเฉิงขับรถมาให้ เพราะตอนนี้ชิงชิงใกล้คลอดเข้ามาทุกที ทำให้เธอคิดถึงคำพูดของเฉินอี้เมื่อครั้นที่เขาพาเธอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและเป็นคนแรกที่รู้ว่าเธอกำลังตั้งท้อง“เฉินอี้นายสบายดีมั้ย ? ฉันคิดถึงนายจังหวังว่านายจะสุขสบายเฝ้ามองและคอยปกป้องฉันอยู่เสมอ จริงสินายบอกว่าจะมาเป็นพี่เลี้ยงลูกของฉันไม่ใช่หรือไงกันฮึ ตอนนี้ฉันใกล้จะคลอดแล้วนะหากนายยังอยู่ป่านนี้ฉันคงจะได้ยินแต่เสียงของนายที่ตื่นเต้นยิ่งกว่าฉันที่จะคลอดใช่มั้ย ? ขอบใจนะที่นายปกป้องฉันและเป็นห่วงฉันจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต ตอนนี้ฉันใช้ชีวิตอย่างระมัดระวังในทุกวัน และมีความสุขอย่างที่นายต้องการอย่าลืมมาแสดงความยินดีกับคุณชายน้อยของนายด้วยนะ ฉันจะตั้งชื่อของเขาเหมือนชื่อของนายเพื่อระลึกถึง หากไม่มีนายก็ไม่มีฉันในวันนี้เช่นกัน” ชิงชิงวางดอกไม้บนหลุมของเฉินอี้ หยางหลงประคองให้เธอลุกขึ้นก่อนที่เขาจะวางดอกไม้เช่นเดียวกัน“นายไม่ต้องเป็นห่วงครอบครัวของนายนะ ฉันดูแลเป็นอย่างดีและจะดูแลตลอดไป ความห่วงสุดท้ายของนายต่อให้นายไม่ฝากฉัน ฉันก็เต็
ตอนที่ 29 เวรกรรมของอาเหว่ยจงหลังจากที่ทุกคนกลับบ้านท้องฟ้าเริ่มมืดสลัว ชิงชิงโบกมือลาทั้งสองเดินเข้าบ้านอย่างสบายใจเมื่อทุกอย่างคลี่คลาย“ลูกสะใภ้เพื่อน ๆ กลับบ้านกันหมดแล้วใช่มั้ย”“ใช่ค่ะคุณพ่อ ฉันขอตัวไปพักก่อนนะคะ”“จริงสิฉันได้ยินมาว่าลูกสะใภ้กำลังตั้งท้อง พรุ่งนี้เช้าไปโรงพยาบาลตรวจให้แน่ชัดอีกครั้ง ชีวิตคนเราอยู่กับความโศกเศร้าตลอดไปไม่ได้หรอกนะ ฉันรู้ว่าลูกสะใภ้เสียใจขนาดไหนกับการจากไปของเฉินอี้ แต่ถ้าเฉินอี้รับรู้เขาคงไม่สบายใจหรอกนะเพราะเขาต้องการให้ลูกสะใภ้ปลอดภัย เขาถึงได้กล้าปกป้องเอาตัวเองป้องกันไม่ห่วงชีวิต อย่าทำให้เขาเป็นห่วงอีกเลย ใช่ว่าลูกสะใภ้จะเสียใจคนเดียวเมื่อไหร่ ติงเฉิงเองตัวติดกับเฉินอี้มาตั้งแต่เด็ก รายนั้นก็เสียใจไม่ต่างกัน แต่ก็ยังพยายามฝืนใช้ชีวิตต่อ หยางหลงก็แตกสลายตั้งแต่ย้ายกลับมาอยู่ที่นี่มีเฉินอี้กับติงเฉิงคอยเคียงข้าง เพราะเขามั่นใจไว้ใจว่าเฉินอี้เป็นคนดี มีจิตใจเมตตายอมให้ดูแลหนูชิงชิง เห็นมั้ยว่าเราทุกคนต่างเสียใจแต่เรายังมีลมหายใจที่ต้องเดินต่อ”“ขอบคุณคุณพ่อที่เตือนสตินะคะเอาไว้พรุ่งนี้เช้าฉันจะไปโรงพยาบาลพร้อมกับหยางหลงเพื่อฝากท้อง คุณพ่อไม่ต
ตอนที่ 28 แก้แค้นให้เฉินอี้เหว่ยจงแอบอยู่ด้านหลังลูกน้องเห็นเฟิงลี่ฉี่ถูกยิงเขากำมือแน่นดวงตาแดงก่ำ เดินออกมาไม่อยู่ใต้การคุ้มกันของลูกน้องอีกต่อไปเช่นเดียวกันกับหยางหลงเขาตะโกนเสียงสนั่นดังไปทั่วโกดังเพื่อให้ทุกคนหยุดยิงกันไม่ให้เกิดการนองเลือดไปมากกว่านี้“ทุกคนวางปืนลงและหยุดโจมตีกันเสียที ในเมื่อวันนี้ซูเหว่ยจงต้องการตำแหน่งหัวหน้าแก๊งพยักฆ์มังกร ฉันเองที่เป็นหัวหน้าแก๊งไม่ต้องการให้ลูกน้องทั้งหลายต้องมาตายเพราะความโลภของคนผู้เดียว อาเหว่ยจงหากอาเป็นลูกผู้ชายจริง ลงสู้กับฉันหากฉันแพ้ฉันจะยกตำแหน่งหัวหน้าแก๊งให้ แต่กลับกันหากฉันชนะแม้แต่ชีวิตของอาฉันจะไม่ยอมยกให้เด็ดขาด”“เฮอะแค่ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมาสิคิดว่าฉันกลัวหรือไง อย่าลืมสิ่งที่พูดด้วยล่ะต้องยอมแพ้แต่โดยดีอย่าหักหลังคืนคำล่ะ”“ฮ่า ฮ่า ฉันไม่ใช่คนแบบอาอย่าเอานิสัยตัวเองมาพูดให้คนอื่นเลย เรามาสู้กันอย่างลูกผู้ชายฉันพูดคำไหนคำนั้น”โจวเฉิงร้อนรุ่มหัวใจกลัวเหลือเกินแต่หากไม่ปล่อยให้ทำเช่นนี้ลูกน้องก็จะตายเกลื่อนไปหมด พยายามเชื่อฝีมือของลูกชายทั้งสองวางปืนลงเริ่มต่อสู้กันด้วยสองมือ การต่อสู้ฟาดฟันกันอย่างดุเดือด ใบหน้าทั้งสองเริ
ตอนที่ 27 ปกป้องจนวินาทีสุดท้าย“ใครกล้าแตะต้องลูกสะใภ้ของฉันเพียงปลายเล็บ ฉันจะไม่เก็บมันไว้ไม่ว่าจะเป็นตัวพวกแกหรือครอบครัวพวกแก” เสียงคำรามของโจวเฉิงทำให้ทุกคนถอยหลังอย่างน่าเกรงขาม ทุกคนต่างเคยได้ยินเรื่องฝีมือและความบ้าดีเดือดของเขาดี หากกล้าที่จะลงมือเสมือนส่งตัวเองไปตาย“โฮ๊ะ ๆ ฉันคิดว่าใครเสียงดัง ที่แท้ก็พี่โจวเฉิงนี่เอง”“เหว่ยจงแกคิดจะทำอะไรของแกกันห่ะ! ปล่อยชิงชิงกับเฉินอี้เดี๋ยวนี้ ฉันจะไม่เอาเรื่องแกทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น” โจวเฉิงพยายามหว่านล้อมให้น้องชายของตัวเองหยุดทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นพี่น้องเป็นคนในครอบครัว“ฮึ ฮึ พี่โจวเฉิงถ้าฉันกลัวคงไม่ลงมือหรอกนะ พี่หนะจะเข้าใจอะไรพี่ไม่เคยขาดเกิดมามีทุกอย่างไม่เหมือนฉันที่ต้องพยายามมีทุกอย่างด้วยความทะเยอทะยานของฉันเอง” ที่โจวเฉิงมาถึงที่นี่ก่อนเพราะเขาเจอเข้ากับหยางหลงก่อนที่รถยนต์จะเคลื่อนออกจากร้านดอกไม้ ดึงสติลูกชายไม่ให้ทำเรื่องบุ่มบ่ามร้อนใจโดยที่ไม่มีแผนรับมือ เขาจึงเดินทางเข้ามาก่อนให้หยางหลงกับลูกน้องกลุ่มใหญ่ตามมาทีหลัง เขาอยากเกลี่ยกล่อมให้เหว่ยจงวางมือ หากเขาไม่ยอมเมื่อนั้นต่อให้เกิดการป
ตอนที่ 26 ย่ำยีฝั่งด้านเฟิงลี่ฉี่วันนี้เธออารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะอะไรนะหรือ เพราะวันนี้คือวันที่เธอจะได้สั่งสอนนังชิงชิงด้วยตัวของเธอเอง เธอมารอนังชิงชิงกับเหว่ยจงที่โกดังตอนแรกเขาไม่อยากให้เธอมาด้วยซ้ำมันอันตรายแต่ว่าเธอขอเลือกที่จะตามมาเอง อยากมาเห็นสีหน้าของนังชิงชิงและวันที่เธอตกอับ เสียงรถยนต์เคลื่อนตัวเข้ามาในโกดัง ลูกน้องเฝ้าหน้าโกดังรีบมารายงานเหว่ยจงที่ห้องนั่งเล่นว่าตอนนี้ได้จับตัวชิงชิงมาที่นี่ตามที่ต้องการแล้ว“นายท่านตอนนี้เราได้ตัวภรรยาของหัวหน้าแก๊งมาแล้ว แต่ว่ามีลูกน้องที่ตามติดเธอมากด้วยคนหนึ่ง”“เอาตัวเธอไปไว้ในที่ที่เราเตรียมเอาไว้ อย่าลืมเตรียมตัวรับมือกับหยางหลงอีกไม่นานเขาคงจะตามมาช่วยภรรยาสุดที่รัก เฟิงลี่ฉี่เธอมั่นใจใช่มั้ยว่าหยางหลงรักซ่งชิงชิงจริง ๆ”“ฉันแน่ใจยิ่งกว่าแน่ใจ ไม่เชื่อคอยดูสิไม่ถึงครึ่งวันฝ่ายนั้นต้องรีบแจ้นมาช่วยมันทันที แต่ว่าก่อนที่พวกนั้นจะมาช่วยฉันขอไปดูหน้าน้องสาวของฉันก่อนนะ”เหว่ยจงพยักหน้าพร้อมเดินตามหลังเฟิงลี่ฉี่“อุ้ย! กลัวจนตัวสั่นเลยรึไง เป็นภรรยาของหัวหน้ามาเฟียหวาดกลัวเป็นด้วยเหรอ”“เฟิงลี่ฉี่” ชิงชิงได้ยินเสียงของเฟิงลี่ฉี่เดินม
Comments