หลังจากมีเดทแรกด้วยกันจนถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบจะสามเดือนแล้ว เวหามักจะพาเมญาวีออกไปทานข้าว ซื้อของ หรือบางครั้งก็ไปดูหนังและฟังเพลงด้วยกันบ้างในวันหยุด แต่พออยู่ที่ทำงานก็เว้นระยะห่างในระดับหนึ่งเพราะไม่อยากให้เมญาวีต้องลำบากใจ
วันนี้ชายหนุ่มตั้งใจว่าจะขอเมญาวีเป็นแฟน เพราะเขามั่นใจแล้วว่าเธอคือผู้หญิงที่เขาอยู่ด้วยแล้วมีความสุข
ช่วงเวลาที่ได้รู้จักกันมันอาจจะดูสั้น แต่เพราะทั้งเขาและเธออยู่ใกล้ชิดกันมากในแต่ละวัน ทำให้ได้เรียนรู้กันและกันมากขึ้น
แล้วแผนที่วางไว้ก็ล้มไม่เป็นท่า เมื่อมารดาของเวหาโทรมาบอกให้เขากลับไปทานอาหารเย็นกับเธอที่บ้านเพราะมีคนสำคัญที่อยากให้ลูกชายได้เจอ
“เมย ผมขอโทษนะครับ เย็นนี้ผมคงไปทานข้าวกับคุณไม่ได้”เวหารู้สึกผิดเพราะวันนี้เขานัดทานอาหารเย็นกับเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ เมยเข้าใจ” เมญาวีรู้ดีว่าชายหนุ่มมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขานัดทานข้าวกับเธอแล้วทำอย่างที่พูดไม่ได้ แต่หญิงสาวก็ไม่เคยโกรธเขาเลยสักนิด กลับนึกชื่นชมด้วยซ้ำที่เขารักและดูแลมารดาเป็นอย่างดี
“คุณจะกลับเลยไหมจะได้ออกไปพร้อมกัน”
“เมยขอทำงานต่ออีกนิดนะคะ”
“อย่ากลับเย็นมากนะครับ ผมไปก่อนแล้วจะโทรหานะครับ”
“ค่ะ”
เวหาขับรถออกมาจากบริษัทด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ชายหนุ่มแทบอยากจะหันหลังกลับเมื่อมาถึงบ้านแล้วเห็นว่าคนที่อยู่ในห้องรับแขกนั้นคือใคร
“พี่เวย์ กลับมาแล้วเหรอคะ” ลลนาส่งยิ้มหวานเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรอมานานนับชั่วโมงกลับมาถึงบ้าน
“สวัสดีครับคุณอา” ชายหนุ่มยกมือไหว้ผู้หญิงอีกคนที่ที่นั่งอยู่ใกล้กับมารดา
“อาไม่ได้เจอเวย์หลายปีเลย ไม่คิดเลยว่าจะโตขนาดนี้แล้ว”
“แต่คุณอายังดูเหมือนเมื่อก่อนเลยนะครับ”
“ช่างจะพูดเอาใจคนแก่”
“พี่เวย์ไม่คิดจะทักทายนาน่าบ้างเลยเหรอคะ”
“สวัสดีครับนาน่า” เขาหันไปทักทายอย่างเสียไม่ได้
“ทำไมห่างเหินกับน้องอย่างนั้นละเวย์ น้องเพิ่งกลับมาถึงก็รีบมาหาเวย์เลยนะ”
“ครับ”
คุณวราพรเข้าใจว่าที่ลูกชายของตนเองเลิกกับลูกสาวของเพื่อนรักก็เพราะชายหนุ่มเอาแต่ทำงานจนไม่มีเวลาให้กับแฟนสาว เวหาเองก็ไม่เคยบอกเพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องไม่สมควรที่จะเอาหญิงสาวมาแฉให้ใครฟัง
“พี่เวย์ ทำงานเหนื่อยไหมคะ นาน่าอยากไปทำงานกับพี่เวย์จังเลยค่ะ”
“อย่าเลยครับ พี่ว่านาน่าไปช่วยงานคุณอาที่โรงพยาบาลดีกว่า”
“นั่นสินาน่า ไปช่วยพ่อกับแม่ดีกว่า” ลินดาเห็นท่าทางของเวหาแล้วเธอเข้าใจดีว่าผู้ชายคนนี้ไม่มีใจให้ลูกสาวของเธอเลยสักนิด“แต่นาน่าทำงานกับพี่เวย์นี่คะ พี่เวย์จะได้ช่วยสอนงาน”
“พี่คงสอนไม่ได้หรอกครับ งานของเรามันคนละสายงานเลย อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้เก่งถึงขั้นที่ว่าจะมาสอนใคร”
“นั่นสิ งานคนละสายงานเลย แม่ว่าหนูอย่าไปรบกวนพี่เขาเลยนะ”
“ขอบคุณอาลินนะครับเข้าใจ” เวหารู้สึกโล่งใจที่อย่างน้อยมารดาของลลนาก็ไม่ได้ยัดเยียดให้ลูกสาวของเธอมาทำงานด้วย
“หนูนาน่าจ๊ะ ป้าว่า ทำงานกันคนละที่ก็ไม่เป็นไร พอตอนเย็นค่อยเจอกันก็ได้”
“นั้นสิคะ แต่พี่เวย์จะมีเวลาให้นาน่าเหรอคะ”
“มีสิลูก พี่เวย์ของนาน่ายังไงก็ต้องกลับมาทานข้าวกับป้าทุกวันอยู่แล้ว ถ้าหนูอยากเจอก็มาทานข้าวกับป้าสิลูก”
“จริงด้วยค่ะ ขอบคุณนะคะคุณป้า ถ้างั้นต่อไปนาน่าจะมาทานข้าวกับคุณป้าบ่อย ๆ ดีไหมคะ”
“ดีเลยจ้ะ พูดแล้วก็ชักหิวแล้วเราไปทานข้าวกันดีกว่า”
วันนี้วราพรชวนลินดาและลูกสาวมาทานข้าวที่บ้านเพราะอยากให้เวหาลองเปิดใจคบกับลลนาอีกครั้ง แม้จะเลิกกันไปแล้วตอนอยู่ต่างประเทศ แต่ตอนนี้เธอก็กลับมาแล้วมันก็น่าจะสานสัมพันธ์กันได้ไม่อยาก
เพราะเห็นว่าลูกชายเอาแต่ทำงานไม่มีเวลาสนใจผู้หญิงที่ไหน เธอจึงรีบโทรไปนัดกับลินดาทันทีที่รู้ว่าลูกสาวของเพื่อนรักกลับมาเมืองไทย
“พี่เวย์คะ นาน่าเพิ่งกลับมายังไม่ค่อยมีเพื่อนที่ไหนเลย พี่เวย์ช่วยพานาน่าไปเที่ยวบ้างได้ไหมคะ”
“พี่ไม่ค่อยมีเวลาเลยครับ ช่วงนี้งานที่บริษัทยุ่งมาก” เขาไม่ได้โกหกเพราะงานของเขานั้นยุ่งจริง ๆ
“นาน่าไม่ได้ชวนไปวันทำงานสักหน่อย เสาร์อาทิตย์ก็ได้นี่คะ”
“วันหยุดพี่ก็อยากพักผ่อนอยู่บ้านครับ”
“งั้นนาน่ามาหาที่บ้านได้ไหมคะ”
“อย่าเลยครับ เราไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว มาที่บ้านพี่บ่อย ๆ คนอื่นจะมองไม่ดีเอานะครับ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่คะ ใคร ๆ ก็รู้ว่าเราเป็นแฟนกัน” เธอตอบอย่างหน้าตาเฉย
“เคยครับ เราเคยเป็นแฟนกัน แต่มันนานมากแล้วตอนนี้พี่มองว่านาน่าเป็นน้องสาวคนหนึ่ง” เวหาย้ำคำว่าเคยเพราะอยากให้เธอรู้ว่าไม่คิดกลับไปคบกับเธออีกอย่างแน่นอน
“แต่นาน่าไม่อยากมีพี่ชาย นะคะพี่เวย์เรากลับมาคบกันนะคะ นาน่าสัญญาเลยค่ะว่าจะไม่นอกใจพี่เวย์อีกเด็ดขาด”
“พี่ว่าเราอย่าพูดถึงเรื่องที่ผ่านมาเลยนะครับ พี่ลืมมันไปหมดแล้ว ตอนนี้พี่มีคนที่ชอบอยู่แล้ว” เขาตัดสินใจพูดความจริงออกไปเพราะไม่อยากให้เธอคาดหวัง
“พี่เวย์โกหกคุณป้าเพิ่งบอกเองว่าพี่เวย์ยังโสด” ลลนาเถียงขึ้นมาทันที
“พี่ยังโสดก็เพราะยังไม่แต่งงาน ไม่ได้หมายความว่าพี่ไม่ได้คบกับใครนี่ครับ”
“บอกแบบนี้เพื่อจะกันนาน่าออกไปใช่ไหมคะ” เธอคิดว่าต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ
“เปล่าเลยครับ พี่ย้ำอีกครั้งนะ ตอนนี้พี่มีแฟนแล้วครับ”
“ไม่จริง พี่เวย์โกหก” ลลนาไม่พอใจที่ได้ยินแบบนั้นและเธอก็จะต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเพียงแค่พูดกับเธอเพื่อให้เธอเลิกยุ่งกับเขา
กว่าลลนาและมารดาจะกลับเวหาก็แทบแย่เพราะต้องนั่งคุยเป็นเพื่อนหญิงสาวในขณะที่มารดาของเธอไปคุยกับมารดาของเขาอีกห้องหนึ่ง
ชายหนุ่มเริ่มมองเห็นเค้าลางของความวุ่นวายตรงหน้าถ้าหากเขายังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนมีหวังได้ถูกมารดาจับคู่เขากับลลนาอย่างแน่นอน
ในเมื่อตอนนี้ตัวเองมีคนที่ชอบอยู่แล้วเขาคิดว่าควรจะพาเธอมาทำความรู้จักกับมารดาอย่างเป็นทางการสักที ชายหนุ่มเชื่อว่าถ้ามารดาได้เจอกับเมญาวีแล้วท่านคงเลิกล้มความคิดที่จะให้เขากลับมาคบกับลลนาอย่างแน่นอน
เขามั่นใจว่ามารดาจะต้องชอบเธอเหมือนที่เขาชอบ เพราะผู้หญิงอย่างเมญาวีใครได้อยู่ใกล้ก็มีความสุข เธอเป็นคนที่มีพลังบวกในตัวสูงมาก สดใสร่าเริงแต่ในเวลางานก็ทำได้ดีแม้อายุยังน้อยก็ตาม อีกทั้งหน้าตาก็สวยโดยที่ไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มากมายเลยสักนิด
เวหามองดูนาฬิกาแล้วเห็นว่ายังไม่ดึกมากเท่าไหร่ ชายหนุ่มจึงรีบกดโทรออก เขาเรียกชื่อเธอทันทีที่หญิงสาวกดรับสาย
“เมย”
“คะ คุณเวย์มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ผมขอโทษนะครับที่โทรมาดึก ผมแค่อยากคุยด้วย คุณเข้านอนหรือยัง”
“เมยกำลังจะเข้านอนค่ะ”
“ผมโทรมากวนไหม คุยได้หรือเปล่า”
“ได้ค่ะ”
พอได้ยินคำตอบเวหาก็ล้มตัวลงนอนทั้ง ๆ ที่ยังไม่อาบน้ำ เขาคุยกับเธอจนเวลาผ่านไปนานนับชั่วโมงก่อนจะยอมวางสาย ทั้ง ๆ ที่ตอนกลางวันก็เจอกัน แต่พอกลับมาถึงบ้านเขาก็ยังอยากได้ยินเสียงของเธอ เวหารู้สึกเหมือนตัวเองกลายมาเป็นหนุ่มน้อยอีกครั้ง หัวใจที่แห้งเหี่ยวกลับรู้สึกชุ่มชื่นและกำลังพองขยายคับอกเพราะความรู้สึกที่มีต่อเมญาวีนั้นมันมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นเวหาตั้งใจไว้แล้วว่าจะต้องขอเธอเป็นแฟนให้ได้
เสียงดนตรีเพลงคลาสสิกที่กำลังบรรเลงอยู่สร้างความโรแมนติกให้กับคู่รักหลายคู่ในบาร์รูฟท็อปบนโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา เวหากับเมญาวีก็เป็นหนึ่งในคู่รักนั้น วันนี้เป็นวันครบ 3 ปี สำหรับการแต่งงานของทั้งสอง เป็นโอกาสพิเศษที่ทั้งสองคนจะได้อยู่ตามลำพัง เพราะที่ผ่านมาชีวิตของเขาและเธอวุ่นวายอยู่กับการทำงานและเลี้ยงดูลูกน้อยวัยสองขวบ หลังจากแต่งงานได้เพียงสามเดือนเมญาวีก็ตั้งท้องลูกสาวที่แสนน่ารัก เด็กหญิงตัวน้อยมีชื่อว่าน้องข้าวหอมเพราะอยากเลี้ยงลูกเองแต่ก็ต้องทำงานไปด้วย เวหาเลยแบ่งห้องที่ทำงานเป็นห้องสำหรับเด็กหนึ่งห้อง จ้างพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลลูกสาวในขณะที่เมญาวีทำงาน พอถึงเวลาเลิกงานทั้งครอบครัวก็กลับไปที่บ้านหลักเล็กซึ่งปลูกอยู่ในรั้วเดียวกับบ้านเดิมของเวหา แต่เพราะวันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของทั้งสอง เพชรลดาอยากให้ลูกสาวและลูกเขยได้ใช้เวลาช่วงนี้ด้วยกันตามลำพัง เธอจึงมารับหลานสาวและพี่เลี้ยงไปอยู่ที่โคราชชั่วคราว“ร้านนี้บรรยากาศดีเหมือนกันนะคะพี่เวย์ จองยากไหมคะ”“ไม่ยากหรอกครับ พี่แดนจัดการให้” โรงแรมหรูแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่เดนิสเพื่อนรุ่นพี่ของ
ภายในห้องนอนยังมืดสนิทแม้จะเป็นเวลาเกือบจะเที่ยงเพราะมีผ้าม่านกันแสงอย่างดี เมญาวียังซุกตัวอยู่กับแผงอกแกร่งของคนรัก เธอเพิ่งได้นอนพักในเวลาเกือบจะหกโมงเข้า แต่เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ทั้งเขาและเธอก็เลยไม่ต้องรีบไปทำอะไรที่ไหน เมื่อคืนเมญาวีตามใจเขามากกว่าทุกครั้งเพราะเห็นว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาชายหนุ่มทำงานอย่างหนักเพื่อบริษัทมาตลอด เมญาวีไม่คิดจะไปเรียนต่อแล้วเพราะไม่อยากห่างจากคนรักแต่เธอก็ยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเวหา หญิงสาวใช้เวลาช่วงที่ไม่ตามคนรักไปบริษัทเรียนรู้งานกับคุณสิงหลที่บ้านหลังใหญ่ของเขา เพราะอยากช่วยงานของเวหาให้ได้มากกว่านี้ พอได้ไปบ้านของเวหาบ่อยขึ้นเมญาวีก็สนิทสนทกับคุณวราพรมารดาของชายหนุ่มมากขึ้นด้วย หญิงสาวจึงรู้ว่าที่ผ่านมาเวหาต้องทำงานอย่างหนักเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้คนในบริษัทและบิดายอมรับในตัวเขา เมญาวีรู้สึกเห็นใจคนรักมากขึ้น บริษัทที่เขาทุ่มเททำงานอย่างหนักให้นั้นอีกส่วนหนึ่งก็เป็นของเธอด้วย การจะไปเรียนและให้เขาทำงานที่นี่ไม่ใช่เรื่องที่คนรักควรทำสักเท่าไหร่ ที่ผ่านมาเธอคิดถึงแต่ตัวเองมาตลอด แม้ตอนแรกเวหา
ระหว่างที่ยังรอวีซ่าซึ่งไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ เมญาวีก็ย้ายมาอยู่กับเวหาที่คอนโด แม้ว่ามารดาของเขาจะชวนให้ไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน แต่เพราะเวหาอยากมีเวลาส่วนตัวกับคนรักให้มากที่สุด เขาจึงพาเมญาวีไปทานข้าวกับท่านที่บ้านเป็นบางวันเท่านั้น เมญาวีตามเวหาไปที่บริษัทเป็นบางวันเท่านั้น เธอไม่ได้ไปทำงานในตำแหน่งเลขา เพียงแต่ตามไปเพราะเวหาอยากให้หญิงสาวเรียนรู้งานในบริษัท พนักงานส่วนใหญ่ไม่มีใครรู้ว่าตอนนี้เมญวีมีหุ้นอยู่ในบริษัท ทุกคนรู้แค่เพียงว่าเธอเป็นคนรักของเวหาเพียงเท่านั้น ช่วงนี้งานของเวหาค่อนข้างหนักเอาการ แต่งานหนักแค่ไหนเขาก็ไม่เคยบ่น เพราะทันทีที่กลับมาถึงคอนโดมาเจอกับคนรักเขาก็หายเหนื่อยทันที “พี่เวย์ ช่วงนี้งานเยอะเหรอคะ” “ก็เยอะเป็นปกติครับ” “หาเลขาสักคนดีไหม” “ไม่เป็นไรครับพี่ธรก็ยังอยู่ เขาช่วยพี่ได้เยอะ” “ถ้ากลัวว่าเลขาคนใหม่จะทำให้เมยหึงพี่เวย์ก็หาเลขาผู้ชายสิคะ” “เอาไว้ถ้าพี่ธรบ่นว่าเหนื่อยพี่จะให้เขาหาคนมาช่วยนะครับ” “ถ้ารอให้พี่ธรบ่นสงสัยไม่ต้องหาเลขากันแล้วล่ะคะ”เมญา
กลับจากหัวหิน เวหาพาเมญวีมาที่บ้านของตัวเอง เป็นครั้งแรกที่เธอมายังบ้านหลังใหญ่“สวัสดีค่ะแม่” เธอยกมือไหว้และเรียกคุณวราพรว่าแม่อย่างที่เคยเรียก เนื่องจากตอนนี้เธอกับเวหาตกลงจะกลับมาคบกันอย่างเดิมแล้ว“หนูเมย แม่คิดว่าจะไม่ได้เจอหนูแล้ว แม่ขอโทษเรื่องพ่อของหนูด้วย ถ้าแม่ไม่เห็นแก่ตัวหนูคงมีครอบครัวที่อบอุ่น”“อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ ที่ผ่านมาเมยก็มีครอบครัวที่อบอุ่น มีแม่กับลุงวัตถ์ เมยไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองขาดอะไร”“หนูไม่โกรธแม่ใช่ไหม”“ไม่ค่ะ เมยคิดว่าเมยกับแม่ก็ต้องขอโทษที่ทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้”“แม่อยากเจอกับแม่ของหนู อยากขอโทษเขาด้วยตัวเองเอง”“ได้สิคะ เอาไว้เมยจะหาเวลาพาแม่มาเยี่ยมนะคะ”“แม่อยากไปหาที่ไร่ เวย์บอกแม่ว่าที่นั่นร่มรื่นมาก แม่อยากไปเที่ยว”“เมยขอถามแม่กับลุงวัตถ์ก่อนนะคะว่าสะดวกวันไหน เพราะบางทีสองคนนั้นก็เข้าไปในไร่ตั้งแต่เช้า ถ้าไม่นัดก่อนก็อาจจะไม่เจอค่ะ”“เอาอย่างนั้นก็ได้ สะดวกตอนไหนหนูก็บอกเวย์นะลูก”“ค่ะแม่”“วันนี้จะค้างที่นี่ไหม แม่จะได้ให้ป้ายุพาจัดห้อง”“ไม่ดีกว่าค่ะ”“เมยรังเกียจครอบครัวของแม่หรือเปล่า”“ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ คุณแม่เข้าใจผิดแล้ว วันนี้เมยต
พายุตัณหาสงบลงในเวลาเกือบตีหนึ่ง เวหาเช็ดตัวให้กับเมญาวีเพราะอยากให้เธอนอนสบายตัว จากนั้นก็นอนกอดหญิงสาวคนรักจนถึงสายของอีกวัน “เราจะกลับตอนไหนคะ” เมญวีถามในขณะที่กำลังเริ่มทานอาหารมื้อสายด้วยกัน “คงอีกสักสองวันครับ เมยอยากกลับแล้วเหรอ” “พี่เวย์ขา เมยขอโทรหาแม่ได้ไหมคะ ไม่อยากให้แม่เป็นห่วงนะคะ” พอเธออ้อนเวหาก็ยอมใจอ่อน เขาไปเอากระเป๋าในรถมาให้เธอจากนั้นก็นอนดูทีวีอยู่ที่ห้องรับแขก ส่วนเมญาวีนั้นเดินไปคุยโทรศัพท์ในห้องนอน หญิงสาวกลับออกมาอีกครั้ง เธอนั่งลงข้างเขา พิงศีรษะกับไหล่หนา “แม่ว่ายังไงบ้างครับ” “ไม่ว่าอะไรค่ะ แม่แค่ฝากบอกพี่เวย์ว่าอย่าลืมสัญญา พี่สัญญาอะไรกับแม่คะ” “สัญญาว่าจะดูแลเมยอย่างดีครับ” “แค่นั้นเหรอคะ” “ครับแค่นั้น” เมญาวีคิดว่าต้องมีอะไรมากกว่านั้นแต่เขาไม่ยอมพูด แต่คงไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าอย่างนั้นมารดาของเธอคงบอกไปแล้ว “เราจะอยู่แต่ในห้องเหรอคะ ไหนว่าพาเมยมาเที่ยวทะเล” “เมยอยากออกไปไหน ถ้าจะไปเล่นน้ำรอตอนเย็นก่อนดีกว่าไ
เมญาวีตื่นขึ้นมาท่ามกลางความมืด เธอไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน จำได้แค่ว่ากำลังคุยกับเวหาอยู่ในรถ และเขากำลังจะพาเธอกลับบ้าน เธอกวาดสายตามองไปรอบๆ ห้อง แล้วก็ต้องตกใจเพราะที่นี่ไม่ใช่ห้องนอนของ หญิงสาวรีบลุกจากเตียงแล้วเปิดประตูห้องนอนออกไปทันที “เวย์ พาเมยมาที่ไหน เมยอยากกลับบ้าน” “ตื่นแล้วเหรอครับ หิวหรือยัง มานั่งตรงนี้สิพี่สั่งสเต็กปลาของโปรดให้เมยแล้ว” “พี่เวย์คะ เมยบอกกว่าอยากกลับบ้าน” เธอเดินไปยังประตูด้านหน้าแต่พยายามเปิดเท่าไหร่ประตูก็ไม่ขยับ “เปิดประตูให้เมยด้วย เมยจะกลับ” “เดี๋ยวสิเมยคุยกันก่อน” เวหารีบมาดึงตัวคนรักไว้ เขากอดเธอจากด้านหลัง จมูกกดลงไปยังผมสีดำขลับ สูดดมกลิ่นที่คุ้นเคยเข้าเต็มปอด “เราต้องคุยกับให้รู้เรื่องนะครับ” “เมยว่าเราคุยกับรู้เรื่องแล้วนะคะ” เวหาอุ้มคนตัวเล็กมายังโต๊ะทานข้าว กดให้หญิงสาวนั่งลงบนเก้าอี้ขณะที่ตัวเองกักเธอไว้ด้วยสองแขนแกร่ง “พี่ไม่ให้เมยไปเรียน” “เมยจะไป เมยเตรียมตัวเรียนภาษามาตั้งสองเดือน” “เมยจะทิ้งพี่ไปจริ