LOGIN“ไฮโซอะไรเล่า ตอนนี้ไม่มีจะแดก ตกงาน!”
“อ้าว ที่สัมภาษณ์อาทิตย์ที่แล้วไม่ได้เหรอ”
“ได้ห่าอะไร แกรู้ไหมฉันขอเงินเดือนไปสามหมื่น มันต่อเหลือสองหมื่นทำงานหกวันต่อสัปดาห์ ถ้าทำงานเยอะขนาดนั้น แล้วได้เงินแค่นี้ สู้ฉันมาเกาะพ่อแม่กินไม่ดีกว่าเหรอ” ทั้งป้าเจนและจินนี่ต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับฉัน
“กลับบ้านเพราะคิดถึงใครหรือเปล่า”
“เปล๊า! จะคิดถึงใคร”
“เสียงสูงด้วย มีพิรุธนะเนี่ย ฉันมีถ่ายงาน แกไปกับฉันไหม” จินนี่ถามเมื่อเห็นว่าฉันอิ่มจากตำมะม่วงตรงหน้า
“ถ่ายงานอะไร” บอกแล้วว่าเพื่อนฉันมันเป็นอินฟลูเอนเซอร์ มีถ่ายงงถ่ายงาน
“เออ ไปด้วยกัน ป่านนี้พู่กันรอแล้ว”
พู่กันที่จินนี่หมายถึงคือสามีหนุ่มของเพื่อน ทั้งสองรักกันมาตั้งแต่มัธยมและเพิ่งแต่งงานกันไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
คิดถึงวันแต่งงานของเพื่อนทั้งสองแล้วฉันก็หน้าร้อนขึ้นมาทันที
“อ๊ะ...อา” เสียงกระเส่าของเราสองยังดังข้างหูของฉันเหมือนเรื่องที่เกิดขึ้นเพิ่งเกิดเมื่อวันวาน
“ภาพ?” และผู้ชายคนที่สร้างเสียงกระเส่านั้นคือคนที่ยืนตรงหน้าฉันเวลานี้ ทันทีที่ฉันลงจากรถมอเตอร์ไซค์ของจินนี่ ฉันก็ได้เจอเขาอีกครั้ง ผู้ชายที่ฉันไม่อยากเจอ
ผู้ชายนิสัยไม่ดี เผลอไม่ได้ ฉันโดนเขาฉวยโอกาสมากี่ครั้งกันแล้วนะ เรียกว่าฉวยโอกาสได้ไหม ในเมื่อทุกครั้งฉันก็เต็มใจ
และไม่เคยลืมสิ่งที่เราทำร่วมกัน
“ทำไมไม่บอกว่าพามาที่นี่” ฉันหยิกสีข้างจินนี่อย่างโมโห เพื่อนก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทำไมยังพาฉันมาโฮมสเตย์เขาอีก
“อะไร ก็ฉันมีถ่ายที่นี่ไง ภาพเขาเพิ่งเปิดคาเฟใหม่ไง ฉันมารับจ้างถ่ายงานเนี่ย ไป ๆ แกไปนั่งรอตรงโน้นก่อน”
จินนี่ไล่ฉันให้ไปนั่งมุมหนึ่งของคาเฟ พู่กันตรงเข้ามาแต่งหน้าให้จินนี่ เดี๋ยวนี้เพื่อนฉันอย่างพู่กันที่เป็นชายแท้สามารถแต่งหน้าได้สวยกว่าฉันกับจินนี่แล้วเหรอ
หลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไปหมดแล้วสินะ แม้แต่เขา
ภาพวาด...หรือภาพ รักแรกของฉัน
ฉันเบี่ยงหน้าไปทางทุ่งนานอกหน้าต่าง วิวของร้านกาแฟเขาค่อนข้างดี ร้านกาแฟสร้างจากดิน มีทั้งหมดสองชั้น ไม่ว่าชั้นบนหรือชั้นล่างต่างก็ลมพัดเย็นสบาย ไม่ต้องพึ่งพาแอร์คอนดิชั่น
มองไปโดยรอบไม่มีสายไฟระโยงระยาง ที่นี่คงใช้ระบบโซล่าเซลล์
กลิ่นหอมของกาแฟตรงหน้าทำฉันเงยหน้าขึ้นและบอกกับพนักงานของร้าน
“พี่ไม่ได้สั่ง”
“พี่จินนี่สั่งให้ค่ะ” เด็กสาวน่าจะอยู่วัยมัธยมบอกกับฉัน มองแก้วกาแฟร้อนตรงหน้า ลายบนแก้วกาแฟฉันพยายามหันแก้ว
ลายอะไร?
ฉันมองลายบนแก้วกาแฟอยู่นาน ขมวดคิ้วแล้วขมวดคิ้วอีก เมื่อคิดออกแล้วฉันได้แต่เม้มปาก กำมือแน่น อยากจะด่าไอ้คนทำที่ส่งยิ้มหวานให้ลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาใหม่
โน้ตเล็ก ๆ ที่มาด้วยกับแก้วกาแฟ
“เรารู้ว่าเธอชอบกินเลยทำมาให้อย่างดี” ฉันอยากจะกรี๊ดกับภาพในแก้วกาแฟ เขาจงใจทำให้มันเหมือน...เหมือนไอ้นั่นของเขา เกลียดที่สุดคนรู้ทัน
ฉันใช้ช้อนคนแก้วเสียงดัง แม้แต่บาริสตาเจ้าของร้านยังหันมามอง จากนั้นก็ยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ
ฝากไว้ก่อนเถอะ ภาพวาด อย่าให้ถึงตาฉันบ้างก็แล้วกัน ฉันหันไปสนใจกับทุ่งนาข้างหน้าแทน เอนหลังในโซฟาทรงกลมที่ทำจากหวายและปุด้วยผ้านุ่มนิ่ม ลมพัดเย็นสบาย
ง่วงจัง...ฉันปิดเปลือกตาลงเพราะความเหนื่อยล้า ฉันขับรถจากลำปางตั้งแต่เช้ามืด ออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่เช้าวันก่อนแต่แวะเที่ยวมาตลอดทางเลยกว่าจะถึงบ้านก็สายของวันนี้
ตอนนี้เวลาใกล้จะบ่ายแล้ว ฉันควรนอนได้แล้ว
เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างหู พึมพำอย่างที่เคยได้ยิน เสียงเขา...ภาพ
“วิวอย่าตอดอื้ม”
“เราไม่ไหวแล้วภาพ...อ๊า ภาพ” เสียงที่ครวญครางของเราสองคนดังสู้กับเสียงลมหายใจกระเส่าและเนื้อกระทบเนื้อ บนเตียงกว้างในโรงแรมเดียวกับที่บ่าวสาวจัดงานฉลองมงคลสมรส
“เธอแม่ง!” เขาบ่นพึมพำก่อนจะครอบครองเต้างามของฉันด้วยริมฝีปาก เขาทั้งดูด ทั้งเม้ม จนยอดอกขึ้นสี ฉันเจ็บแต่ทนได้ เหมือนอย่างทุก ๆ ครั้ง เวลาที่เราสองคนได้เริ่มแล้วจะไม่มีใครยอมหยุดจนกว่าไฟสวาทจะมอดไหม้หลังจากการปลดปล่อยเท่านั้น
“ภาพอย่ากัด”
“มันเขี้ยว โคตรแน่น”
ถึงจะเมาแต่ฉันก็จำได้ว่าเราสองคนทำอะไรกันหลังงานปาร์ตี้ในงานแต่งงานของเพื่อนรักอย่างจินนี่และพู่กัน เพื่อนบ่าวสาวอย่างภาพและฉันกลับพากันขึ้นห้องก่อนหน้าบ่าวสาวเสียอีก
และกว่าจะได้กลับออกจากห้องคือเช้าของอีกวัน ใครจะคิดว่าแค่จูบเดียว จูบเดียวเท่านั้นทุกอย่างก็มาถึงตรงนี้
“ภาพ...อ๊ะ” ฉันร้องครางออกมาเพราะความคับแน่น ทุกจังหวะที่เขาถอนตัวออกและกระแทกลงมาทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงด้วยความเร่าร้อน
เด็กหญิงวาดวิวเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจและความสุขของครอบครัวทั้งสอง การมาเกิดของคนคนหนึ่งช่างมีผลกับความสุขของคนหลายคน “ทวดจ๋ามาถ่ายรูปกันเร็ว” วาดวิวโตมากับผู้สูงวัยเธอจึงเป็นเด็กน่ารักและเข้ากับคนง่าย ไม่แปลกเลยที่ใครจะรักจะหลงลูกสาวของพวกเขา ภาพครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านกับครอบครัวของรองผู้ใหญ่แทบล้นเฟรมกล้อง ทุกคนต่างยิ้มและหัวเราะอย่างชอบใจ “วาดเราให้” แต่ภาพของเด็กชายตัวอ้วนกำลังมอบช่อตุ๊กตาหมีให้วาดวิวทำให้ภาพวาดถึงกับหุบยิ้มในทันที แต่เขาก็ถามลูกสาวด้วยเสียงที่พยายามทำให้ธรรมดาที่สุด “ใครเหรอลูก” “นี่ นนท์ค่ะ แฟนวาดเองค่ะพ่อ” คำบอกเล่าของเด็กหญิงทำคนฟังหน้าตึง ให้มันได้อย่างนี้สิ ลูกเขาเพิ่งจะจบอนุบาลแต่กลับมีแฟนเสียแล้ว อาการของผู้เป็นสามีอยู่ในสายตาของภาพวิวมาโดยตลอดหลายวัน ภาพวิวไล่ดูบัญชีรายรับรายจ่ายของอู่ซ่อมรถการเกษตรที่ตอนนี้เปิดให้บริการมาเกือบสามปี ความรู้ที่เรียนมาไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ได้มาช่วยพ่อและสามี ก่อนหน้านี้กว่าพ่อผู้ใหญ่จะได้ซ่อมเครื่องยนต์สักครั้งต้องรอจากอู่ใหญ่ในตัวจังหวัดเพราะไม่มีใครซ่อมและเข้
“ใช่จ้า” “แล้วตอนนี้ผีโพงไปไหนหมดแล้วจ๊ะ” เด็กหญิงวัยห้าขวบถามอย่างอยากรู้ แต่ถามว่าเธออยากเจอไหม ไม่อยากเจอหรอกแต่ก็อยากรู้ “ผีโพงเป็นผีที่กลัวคน กลัวแสงไฟเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้วมั้ง ผีไม่น่ากลัวเท่าคนหรอกทุกวันนี้” ผู้เป็นทวดบ่น “เหรอ” เด็กหญิงตัวน้อยฟังยายทวดแล้วก็งุนงง ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก คนน่ากลัวกว่าผีแล้วเหรอทุกวันนี้ “คนสวยของพ่ออยู่ไหน” เสียงเรียกลูกสาวทำให้คนนอนดูหน้าจอใหญ่เด้งตัวลุกวิ่งไปหาผู้เป็นพ่อทันที “พ่อจ๋า” เด็กหญิงตัวเล็กกระโดดกอดพ่ออย่างคิดถึง ภาพนั้นทำให้คนมองอย่างภาพวิวถึงกับต้องสั่นศีรษะกับความเวอร์ของสองพ่อลูกคู่นี้ เพิ่งห่างกันยังไม่ทันข้ามวันคิดถึงอะไรกันขนาดนั้น “กินข้าวยัง” “ยังจ้า รอพ่อ” “เหรอ เดี๋ยวไปกินที่ร้าน อยากกินอะไร” “เก็ตตี้แดง” เก็ตตี้แดงที่เด็กหญิงวัยห้าขวบหมายถึงคือสปาเกตตีซอสมะเขือเทศซึ่งเป็นเมนูที่วาดวิวชื่นชอบ “อุลไปด้วยกันครับ” ภาพวิวหันไปเรียกอุลลูกพี่ลูกน้องของภาพวาด เด็กชายอุลในวันวานบัดนี้โตขึ้นแทบจะเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว พุงย้อย ๆ ในวันวานหายไปหมดแล้ว ยิ่งโ
“วิวร้องไห้ทำไม” ผมตกใจเมื่อกลับมาจากประชุมหมู่บ้านในตอนเย็นมาถึงบ้านเวลาสองทุ่มเห็นเมียนั่งร้องไห้ อยู่ตรงระเบียงดูดาว “เจ้ทราย ฮึก เจ้ทราย” “เจ้ทรายทำอะไร” ผมใจคอไม่ดี ไม่ใช่ทะเลาะกันอีกเหรอเนี่ย “เจ้ทรายไม่ให้กินลิ้นจี่ ฮือ เราอยากกิน ลูกก็อยากกิน เจ้ทรายให้เรากินนิดเดียว” คนท้องที่ตอนนี้ท้องโตขึ้นมากกว่าเดือนก่อน และสิ่งที่โตตามท้องคือการเอาแต่ใจ ทั้งยังอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ วัน ๆ ร้อยเรื่องราว “เจ้ไม่ให้กินเลยเหรอ” ผมถามเพื่อย้ำอีกครั้ง เจ้ทรายไม่น่าจะงกถึงขั้นไม่ให้กินสักลูกนะ เพราะลิ้นจี่ตอนนี้ก็มีเยอะมาก เจ้แกก็ไม่น่าหวง “ให้กิน แต่ไม่อิ่ม” นั่นไงว่าแล้ว “กินไปแค่ไหนทำไมไม่อิ่ม” ผมถามอย่างใจเย็นก็เข้าใจว่าเธอท้อง ข้าวเธอก็ไม่ชอบกิน อาศัยกินพวกผลไม้นี่แหละ แต่ผลไม้ก็น้ำตาลสูงไม่ต่างกัน ผมไม่อยากให้เมียเป็นเบาหวานจึงสั่งเจ้ทรายไว้ว่าให้จับตาการกินของวิวให้หน่อย อะไรห้ามได้ก็ห้าม ถามว่าทำไมผมต้องสั่งเจ้ทราย อ้าว ผมห้ามเมีย ได้ที่ไหนกันเล่า แค่วิวทำตาละห้อยพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุดและบอกว่า “ลูกอยากกิน ไม่ใช่เรา
“คนสวยทำไมทำหน้าอย่างนั้นละ” ผมถามคนสวยที่ใบหน้างอหงิก เมื่อเห็นผลตรวจของตัวเอง “เราท้อง เรายังไม่อยากท้อง” มันเกิดความผิดพลาดครับ เพราะเราสองคนไม่ได้ป้องกันอย่างอื่นเลยนอกจากคิดว่าวิวฝังยาคุม แต่เพราะเราสองคนลืมคิดไปว่ายาคุมแบบฝังออกฤทธิ์ได้ห้าปีเท่านั้น แล้วหลังจากแต่งงานมันก็เกินมาแล้วตั้งหลายเดือน เมื่อไม่กี่วันก่อนวิวก็เวียนหัวมากสุดท้ายพอตรวจแล้วก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ สองขีดแบบชัดเจนไม่ต้องให้กังขากันอีก “ที่ตรวจห้าอันสองขีดหมดเลย ไม่ท้องก็ต้องท้องแล้วละวิว” ภาพดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่งงานก็แต่งแล้วจะท้องก็ไม่เป็นไรหรอก “แต่เรายังเด็ก” เธอว่า ทั้งยังบ่นอุบอิบต่อ “เด็กตรงไหนกัน อายุเท่านี้แหละจะได้มีลูกทันใช้ไงครับ” ผมปลอบคนที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก “เรายังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเลยอะ” วิวบ่นสิ่งที่เธออยากทำ มีอีกหลายอย่างที่เธออยากทำและกลัวว่าจะไม่มีเวลาให้ลูกและงาน “ลูกเป็นของขวัญของเรา อย่าคิดอย่างนั้นเลย อีกอย่างยายกับย่าคงอยากเห็นหน้าเหลนแล้ว คนช่วยเลี้ยงเยอะแยะ อย่าเครียดเลยนะครับที่รัก” ผมซุกหน้ากับกลุ่มผมหนานุ่มข
เสียงโทรศัพท์ทำฉันละสายตาจากกล้ามแน่น ๆ มาดูเบอร์โทรศัพท์ถอนหายใจแล้วก็กดรับ “ว่าไงเฮียผา” ‘ผู้หญิงโสดที่ยังไม่มีแฟนนี่เขาคิดยังไง’ ฉันขมวดคิ้วกับคำถามของเฮียผา “เขาแค่ไม่อยากมีมั้ง” ‘หรือว่าหาไม่ได้วะ’ ฉันกลอกตาอีกรอบแต่มือยังไล้บนหน้าท้องแกร่ง ปมของผ้าขาวม้าทำฉันอยากปลด อะไรที่ใหญ่โตกำลังขดอยู่ใต้ผ้าขาวม้านั่น “ใหญ่” ‘อะไรใหญ่ ไอ้วิว’ “เออ เฮียผาคิดไปใหญ่แล้ว ผู้หญิงโสดเขาก็แค่ยังไม่เจอใครถูกใจ เฮียชอบก็จีบสิ” ‘อยากได้แต่ไม่อยากจีบ’ ภาพจับมือฉันออกจากปมผ้าขาวม้าที่อยากปลด “อ้าว!” ‘จะอ้าวอะไร แค่อยากได้ไง อยากได้เฉย ๆ แต่ไม่อยากคบ’ พอได้ยินคำพูดเฮียผาแล้วฉันก็ได้แต่ถอนหายใจ เป็นอย่างนี้กันทั้งฝูงเลยหรือไงนะ “อยากได้ก็ไปขอเขาโน่น” ‘เขาจะให้ไหม’ “ถามเขาสิ มาถามวิวทำไม เฮียผาเนี่ยก็เหี้ยไม่ต่างจากเฮียบอมเลยนะ พวกมึงเนี่ยเหมาะกับเป็นเพื่อนกันจริง ๆ” ฉันเหลืออดแล้วเหมือนกัน ไอ้พวกผู้ชายเหี้ย ๆ ไม่ดีเหมือนภาพเลยสักนิด ‘เท่าที่กูจำได้ มึงก็เคยได้ผัวมึงแล้วไม่เอาเขาจริง’
“อ๊ะ!” ฉันร้องอย่างตกใจเมื่อร่างกายถูกพลิกให้หันไปอีกทาง สองเท้าอยู่บนโซฟา มือจิกพนักพิงแน่น รู้ว่าเขาต้องการสิ่งใดต่อจากนี้ ท่าโปรดของเรา “วิว ครางดัง ๆ อา” คำสั่งของเขามาพร้อมกับท่อนลำใหญ่โตที่แทรกผ่านร่องเนื้อที่ฉ่ำไปด้วยน้ำรักและกำลังตอดไม่หยุด ทุกแรงขยับของเขาทำฉันแทบขาดใจ เนื้อในกายเต้นไม่หยุด ทุกจังหวะที่เขารูดลำเอ็นร้อนผ่าวผ่านเข้าออกและกระแทกแรงทำร่างฉันสั่นคลอน เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่มีน้ำแทรกกลางระหว่างเรายิ่งทำให้กายฉันสั่นเทิ้มไปด้วยความเสียว ใบหน้าฉันแหงนเริดขึ้นเพราะความเสียวที่ได้รับ ภาพเอี้ยวตัวมาจูบฉัน ในจังหวะที่เขาควงสะโพกเข้าหาไม่หยุด รสจูบเขายิ่งสร้างความวาบหวามไม่หยุด “อื้อ...ภาพเราจะตาย” นั่นคือเสียงของฉันเอง เสียงที่ไม่เคยคิดว่าชีวิตนี้ตัวเองจะเปล่งออกมาอย่างนี้ ทั้งสะโพกที่แอ่นรับแรงกระแทก มันแสบเพราะแรงกระแทกหากแต่ร่างกายฉันกำลังสุขสมเมื่อความแรงยิ่งเพิ่มมากขึ้น หน้าท้องจุกเพราะความลึกของท่อนลำขนาดใหญ่และยิ่งท่านี้เขายิ่งเข้าลึก คำพูดหยาบโลนของภาพที่ดังออกมาในทุกจังหวะที่ฝังกายเข้าหายิ่งทำให้ฉันสั







