LOGINฉันมองชื่อตัวเองด้วยความดีใจ หลังจากผ่านการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยรอบ Portfolio หรือรอบแฟ้มสะสมผลงาน สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยชื่อดังในย่านสนามบินสุวรรณภูมิ ฉันรู้ว่าภาพต้องติดที่เดียวกับฉันแน่นอน เพราะเกรดภาพดีกว่าฉันและเราสองคนตั้งใจเก็บสะสมผลงานตั้งแต่อยู่มัธยมปลาย “เราอยากรู้ว่าในเครื่องยนต์พวกนั้นมีอะไรบ้าง ถ้ามีโอกาสก็อยากซ่อมเครื่องบิน” คำพูดของ ‘ภาพวาด’ ในวัยสิบห้าปีครั้งนั้น ทำให้ฉันเลือกเดินตามความฝันของเขา ขอแค่มีเขาข้าง ๆ สำหรับฉันเรียนอะไรก็ได้ ฉันไม่เคยมีความฝัน ไม่รู้ว่าอยากทำอะไรในอนาคต
View Moreฉันมองชื่อตัวเองด้วยความดีใจ หลังจากผ่านการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยรอบ Portfolio หรือรอบแฟ้มสะสมผลงาน สาขาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยชื่อดังในย่านสนามบินสุวรรณภูมิ ฉันรู้ว่าภาพต้องติดที่เดียวกับฉันแน่นอน เพราะเกรดภาพดีกว่าฉันและเราสองคนตั้งใจเก็บสะสมผลงานตั้งแต่อยู่มัธยมปลาย
“เราอยากรู้ว่าในเครื่องยนต์พวกนั้นมีอะไรบ้าง ถ้ามีโอกาสก็อยากซ่อมเครื่องบิน”
คำพูดของ ‘ภาพวาด’ ในวัยสิบห้าปีครั้งนั้น ทำให้ฉันเลือกเดินตามความฝันของเขา ขอแค่มีเขาข้าง ๆ สำหรับฉันเรียนอะไรก็ได้ ฉันไม่เคยมีความฝัน ไม่รู้ว่าอยากทำอะไรในอนาคต
แต่เมื่อเลื่อนดูรายชื่ออีกครั้งและอีกครั้ง กลับไม่เจอชื่อภาพ ไม่มี ‘นายภาพวาด’ ในรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อ
“วิว” เสียงของแฟนหนุ่มทำฉันเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือในมือ ฉันยิ้มให้เขาทันที แต่รอยยิ้มก็ต้องหุบลงเมื่อเห็นท่าทีแปลก ๆ ของเขา
เขานั่งลงข้าง ๆ เราสองคนอยู่ใต้ต้นลิ้นจี่ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมสระน้ำขนาดเล็กในบริเวณบ้านฉัน บ้านของเราสองคนติดกัน มีเพียงรั้วกั้นเท่านั้น
จากเพื่อนในวัยเยาว์ ตอนนี้เขาคือผู้ชายที่ครองตำแหน่งแฟนของฉันมาสามปี
“อะไรนะ!!!” ฉันถามย้ำเหมือนไม่แน่ใจกับคำพูดที่ได้ยินก่อนหน้านี้
“เราว่า...เราจะไม่เรียนต่อ”
“ไม่เรียนต่อ? ภาพ เธอเป็นบ้าหรือเปล่า เธอเพิ่งจบ ม.6 นะ วุฒิ ม.6 ทำอะไรได้” ฉันยืนขึ้นมองหน้าผู้ชายตรงหน้าอย่างเสียอารมณ์ เพราะเขาคอยตามใจตลอด อยู่กับเขาไม่ว่าฉันจะทำอะไร เขาก็ไม่เคยว่า
“วิว ปู่เราเพิ่งเสีย พ่อเราก็ไม่สบาย ถ้าเราทิ้งไปอีกคน ใครจะช่วยที่บ้าน”
ฉันเข้าใจปัญหาของเขา แต่การเรียนมันสำคัญ ประเทศนี้ถ้าไม่มีใบปริญญา ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่มีใครจ้าง ไม่มีใครยอมรับ
“เราจะขอพ่อให้ช่วยภาพเอง ภาพก็รู้ว่าพ่อเรารักภาพเหมือนลูก” ขอแค่เอ่ยปาก แค่เอ่ยปากเท่านั้น ผู้ใหญ่ภพยินดีช่วยลูกชายของเพื่อนสนิทและยังพ่วงตำแหน่งแฟนของลูกสาวอีกด้วย
ขอแค่เอ่ยปาก พ่อของฉันยอมส่งให้ภาพเรียนอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยสักนิด
“มันไม่ใช่แค่นั้นวิว เราต้องการเวลา เวลาที่ได้อยู่กับพ่อแม่ และดูแลย่า เราต้องหาเงินด้วย ครอบครัวเราไม่ได้มีเงินเหมือนเมื่อก่อนแล้ววิว ค่ารักษาปู่หมดไปหลายล้าน”
ฉันรู้เรื่องนั้นดี ว่าที่บ้านเขาลำบากมากช่วงหลังเพราะอาการป่วยของปู่ที่ต้องใช้ทั้งพลังกายและพลังทรัพย์
“แต่นี่มันคือการเรียนต่อนะภาพ มันคืออนาคตของเรา”
“เราเข้าใจวิว แต่ว่าเราทิ้งครอบครัวไปไม่ได้จริง ๆ ถ้าให้เราไปเรียนทั้ง ๆ ที่มีห่วงแบบนี้ เราทำไม่ได้หรอก”
“นายก็เลยเลือกที่จะปล่อยเรา ให้เราไปเรียนไกลบ้านคนเดียว” ฉันรู้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังเอาแต่ใจ กำลังงี่เง่า แต่เวลานี้ฉันอยากจะงี่เง่า อยากเป็นแฟนที่เขาเอาใจ นี่มันคืออนาคตเขา เป็นโอกาสของเขา ในเมื่อมีทางเลือกที่ดีกว่าการหยุดเรียน ทำไมเขาถึงไม่ทำ เขาเองก็งี่เง่าไม่ต่างกัน
“ไม่ใช่อย่างนั้นวิว เธอเข้าใจเราหน่อยได้ไหม เธอก็รู้ว่าเราไม่อยากทำอย่างนี้เลย เราสัญญาว่าจะลงไปหาเธอทุกเดือน”
มือฉันที่สั่นเทาถูกเขากุมไว้แน่น สีหน้าเขากังวลอย่างเห็นได้ชัด เมื่อน้ำตาฉันเริ่มไหล
“เรื่องเงินนายให้พ่อเราช่วยก็ได้ ยังไงพ่อก็ช่วย หรือไม่นายกู้เงินเรียนก็ได้ ไม่เห็นต้องหยุดเรียนเลย” ฉันยังคงดื้อดึง อยากรั้งเขาให้ไปต่อด้วยกัน
“มันไม่ใช่แค่เงินวิว เราต้องการเวลา เราต้องดูแลพ่อกับแม่ เราต้องหาเงิน ไม่ใช่เวลาที่เราต้องใช้เงิน” เขาคงคิดมาแล้วสินะ คิดโดยไม่ปรึกษาฉัน แผนที่เขาวางไว้ไม่ได้มีฉันในนั้นเลย
“ถ้านายไม่เรียนต่อ เราก็เลิกกัน” ฉันยื่นข้อเสนอกึ่งบังคับเพราะรู้ว่าเขารัก เพราะรู้ว่าเขาตามใจตลอด
อย่างไรเสียเขาต้องเลือกฉัน
เขาไม่มีทางยอมจบความสัมพันธ์ของเราแน่
ตลอดชีวิตที่ผ่านมา ในความทรงจำ ภาพคือผู้ชายที่อยู่ข้างฉันและคอยดูแลฉันมาตลอด อยู่กับเขา ไม่ว่าจะงอแงแค่ไหน เขาก็จะตามใจเสมอ
“ขอโทษนะวิว เราขอโทษ”
-----
ผมไม่อยากเลิกกับวิวเลย ไม่เลยสักนิด แต่จะทำอย่างไรได้ ตอนนี้ผมต้องดูแลครอบครัว จากฐานะทางบ้านที่ค่อนข้างดี แต่เพราะโรคร้ายของปู่ ทำให้เราต้องใช้เงินเก็บที่มีในการรักษาท่าน
ถ้าเรียนต่อต้องกู้ยืมเงิน กยศ. มันก็ได้ แต่มันพอแค่ตัวผมเอง แล้วอีกสามชีวิตที่บ้านจะทำอย่างไร ใครจะเป็นเสาหลัก ใครจะหาเงินเลี้ยงดูอีกสามปากท้องที่อยู่ที่นี่ ใครจะดูแลพ่อที่เจ็บ ดูแลย่าที่อายุมากแล้ว
ทุกอย่างมันยากไปหมด ผมตัดสินใจไม่ยื่นพอร์ตเพื่อให้ทุกอย่างมันง่ายขึ้น ในเมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะอยู่ที่นี่ดูแลพ่อแม่ ผมก็ต้องเลือก
และอุบัติเหตุของพ่อนั่นก็เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัดให้ครอบครัวเราลำบากมากขึ้น
ปู่จากไปแล้ว พร้อมกับโรคร้ายและเงินก้อนสุดท้ายของครอบครัว เวลานี้พ่อยังเดินไม่ได้
“พ่อว่าจะขายที่ ส่งภาพเรียน” ที่ดินการเกษตร ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ในจังหวัดหนึ่งของเชียงราย ถามว่าได้ไร่ละเท่าไหร่ผมเองก็ไม่รู้ แต่นั่นเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ปู่ทิ้งไว้ให้
เป็นสมบัติของครอบครัว เป็นที่ทำมาหากิน เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้
“พ่อ ผมไม่เรียนแล้ว พ่อไม่ต้องที่ขายหรอกครับ”
“ภาพ!!!”
“พ่อยังเดินไม่ได้ แม่กับย่าก็แก่แล้ว จะให้ผมไปเรียนได้ยังไงครับ ผมจะอยู่ที่นี่แหละ ทำมาหากินที่บ้านเรานี่แหละครับ”
“แล้วลูกจะทำอะไร”
เด็กหญิงวาดวิวเป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจและความสุขของครอบครัวทั้งสอง การมาเกิดของคนคนหนึ่งช่างมีผลกับความสุขของคนหลายคน “ทวดจ๋ามาถ่ายรูปกันเร็ว” วาดวิวโตมากับผู้สูงวัยเธอจึงเป็นเด็กน่ารักและเข้ากับคนง่าย ไม่แปลกเลยที่ใครจะรักจะหลงลูกสาวของพวกเขา ภาพครอบครัวของผู้ใหญ่บ้านกับครอบครัวของรองผู้ใหญ่แทบล้นเฟรมกล้อง ทุกคนต่างยิ้มและหัวเราะอย่างชอบใจ “วาดเราให้” แต่ภาพของเด็กชายตัวอ้วนกำลังมอบช่อตุ๊กตาหมีให้วาดวิวทำให้ภาพวาดถึงกับหุบยิ้มในทันที แต่เขาก็ถามลูกสาวด้วยเสียงที่พยายามทำให้ธรรมดาที่สุด “ใครเหรอลูก” “นี่ นนท์ค่ะ แฟนวาดเองค่ะพ่อ” คำบอกเล่าของเด็กหญิงทำคนฟังหน้าตึง ให้มันได้อย่างนี้สิ ลูกเขาเพิ่งจะจบอนุบาลแต่กลับมีแฟนเสียแล้ว อาการของผู้เป็นสามีอยู่ในสายตาของภาพวิวมาโดยตลอดหลายวัน ภาพวิวไล่ดูบัญชีรายรับรายจ่ายของอู่ซ่อมรถการเกษตรที่ตอนนี้เปิดให้บริการมาเกือบสามปี ความรู้ที่เรียนมาไม่เสียเปล่าอย่างน้อยก็ได้มาช่วยพ่อและสามี ก่อนหน้านี้กว่าพ่อผู้ใหญ่จะได้ซ่อมเครื่องยนต์สักครั้งต้องรอจากอู่ใหญ่ในตัวจังหวัดเพราะไม่มีใครซ่อมและเข้
“ใช่จ้า” “แล้วตอนนี้ผีโพงไปไหนหมดแล้วจ๊ะ” เด็กหญิงวัยห้าขวบถามอย่างอยากรู้ แต่ถามว่าเธออยากเจอไหม ไม่อยากเจอหรอกแต่ก็อยากรู้ “ผีโพงเป็นผีที่กลัวคน กลัวแสงไฟเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีแล้วมั้ง ผีไม่น่ากลัวเท่าคนหรอกทุกวันนี้” ผู้เป็นทวดบ่น “เหรอ” เด็กหญิงตัวน้อยฟังยายทวดแล้วก็งุนงง ไม่ค่อยเข้าใจมากนัก คนน่ากลัวกว่าผีแล้วเหรอทุกวันนี้ “คนสวยของพ่ออยู่ไหน” เสียงเรียกลูกสาวทำให้คนนอนดูหน้าจอใหญ่เด้งตัวลุกวิ่งไปหาผู้เป็นพ่อทันที “พ่อจ๋า” เด็กหญิงตัวเล็กกระโดดกอดพ่ออย่างคิดถึง ภาพนั้นทำให้คนมองอย่างภาพวิวถึงกับต้องสั่นศีรษะกับความเวอร์ของสองพ่อลูกคู่นี้ เพิ่งห่างกันยังไม่ทันข้ามวันคิดถึงอะไรกันขนาดนั้น “กินข้าวยัง” “ยังจ้า รอพ่อ” “เหรอ เดี๋ยวไปกินที่ร้าน อยากกินอะไร” “เก็ตตี้แดง” เก็ตตี้แดงที่เด็กหญิงวัยห้าขวบหมายถึงคือสปาเกตตีซอสมะเขือเทศซึ่งเป็นเมนูที่วาดวิวชื่นชอบ “อุลไปด้วยกันครับ” ภาพวิวหันไปเรียกอุลลูกพี่ลูกน้องของภาพวาด เด็กชายอุลในวันวานบัดนี้โตขึ้นแทบจะเป็นหนุ่มเต็มตัวแล้ว พุงย้อย ๆ ในวันวานหายไปหมดแล้ว ยิ่งโ
“วิวร้องไห้ทำไม” ผมตกใจเมื่อกลับมาจากประชุมหมู่บ้านในตอนเย็นมาถึงบ้านเวลาสองทุ่มเห็นเมียนั่งร้องไห้ อยู่ตรงระเบียงดูดาว “เจ้ทราย ฮึก เจ้ทราย” “เจ้ทรายทำอะไร” ผมใจคอไม่ดี ไม่ใช่ทะเลาะกันอีกเหรอเนี่ย “เจ้ทรายไม่ให้กินลิ้นจี่ ฮือ เราอยากกิน ลูกก็อยากกิน เจ้ทรายให้เรากินนิดเดียว” คนท้องที่ตอนนี้ท้องโตขึ้นมากกว่าเดือนก่อน และสิ่งที่โตตามท้องคือการเอาแต่ใจ ทั้งยังอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ วัน ๆ ร้อยเรื่องราว “เจ้ไม่ให้กินเลยเหรอ” ผมถามเพื่อย้ำอีกครั้ง เจ้ทรายไม่น่าจะงกถึงขั้นไม่ให้กินสักลูกนะ เพราะลิ้นจี่ตอนนี้ก็มีเยอะมาก เจ้แกก็ไม่น่าหวง “ให้กิน แต่ไม่อิ่ม” นั่นไงว่าแล้ว “กินไปแค่ไหนทำไมไม่อิ่ม” ผมถามอย่างใจเย็นก็เข้าใจว่าเธอท้อง ข้าวเธอก็ไม่ชอบกิน อาศัยกินพวกผลไม้นี่แหละ แต่ผลไม้ก็น้ำตาลสูงไม่ต่างกัน ผมไม่อยากให้เมียเป็นเบาหวานจึงสั่งเจ้ทรายไว้ว่าให้จับตาการกินของวิวให้หน่อย อะไรห้ามได้ก็ห้าม ถามว่าทำไมผมต้องสั่งเจ้ทราย อ้าว ผมห้ามเมีย ได้ที่ไหนกันเล่า แค่วิวทำตาละห้อยพร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่หยุดและบอกว่า “ลูกอยากกิน ไม่ใช่เรา
“คนสวยทำไมทำหน้าอย่างนั้นละ” ผมถามคนสวยที่ใบหน้างอหงิก เมื่อเห็นผลตรวจของตัวเอง “เราท้อง เรายังไม่อยากท้อง” มันเกิดความผิดพลาดครับ เพราะเราสองคนไม่ได้ป้องกันอย่างอื่นเลยนอกจากคิดว่าวิวฝังยาคุม แต่เพราะเราสองคนลืมคิดไปว่ายาคุมแบบฝังออกฤทธิ์ได้ห้าปีเท่านั้น แล้วหลังจากแต่งงานมันก็เกินมาแล้วตั้งหลายเดือน เมื่อไม่กี่วันก่อนวิวก็เวียนหัวมากสุดท้ายพอตรวจแล้วก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละครับ สองขีดแบบชัดเจนไม่ต้องให้กังขากันอีก “ที่ตรวจห้าอันสองขีดหมดเลย ไม่ท้องก็ต้องท้องแล้วละวิว” ภาพดึงคนตัวเล็กเข้ามากอด แต่งงานก็แต่งแล้วจะท้องก็ไม่เป็นไรหรอก “แต่เรายังเด็ก” เธอว่า ทั้งยังบ่นอุบอิบต่อ “เด็กตรงไหนกัน อายุเท่านี้แหละจะได้มีลูกทันใช้ไงครับ” ผมปลอบคนที่ยังไม่พร้อมจะมีลูก “เรายังมีอะไรที่ต้องทำอีกเยอะเลยอะ” วิวบ่นสิ่งที่เธออยากทำ มีอีกหลายอย่างที่เธออยากทำและกลัวว่าจะไม่มีเวลาให้ลูกและงาน “ลูกเป็นของขวัญของเรา อย่าคิดอย่างนั้นเลย อีกอย่างยายกับย่าคงอยากเห็นหน้าเหลนแล้ว คนช่วยเลี้ยงเยอะแยะ อย่าเครียดเลยนะครับที่รัก” ผมซุกหน้ากับกลุ่มผมหนานุ่มข