ชีวิตที่เคยปกติสุขของมุทิตา กลายเป็นชีวิตที่วุ่นวาย(หัวใจ) เมื่อนายแพทย์หนุ่มหล่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต หญิงสาวไปทำงานช่วยบิดาที่ปัณณธรกรุ๊ป เพื่อลดความฟุ้งซ่านที่เกิดจากน้ำมือ ‘คนคบกัน’ ต้นตะวันขยันเทียวไปเทียวมาจนบิดาเธอเริ่มระแคะระคาย รายนั้นก็ไม่คิดจะหลบซ่อน เวลามาหาเธอที่บริษัทก็ฉีกยิ้มหน้าบานเป็นกระด้ง นั่งรอที่หน้าห้องทำงาน เธอเคยดุเขาให้ไปรอที่ห้องรับรอง เขากลับตอบมาอย่าคนหน้ามึนว่า เดี๋ยวคนอื่นไม่รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน
“วันนี้ไปเที่ยวไหนหรือเปล่าม่อน” บิดาถามลูกสาวด้วยความห่วงใย เห็นไอ้หนุ่มหน้าหล่อที่มานั่งรอลูกสาวบ่อยๆแล้ว ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ มุทิตายิ้มหวานเดินเข้าไปกอดบิดา ที่วันนี้เดินมาหาเธอถึงห้องทำงาน
“ไม่ไปไหนหรอกค่ะ ม่อนจะอยู่กับคุณพ่อ” บิดายีศีรษะลูกสาวเบาๆ
“แน่ใจเหรอ พ่อเห็นหมอต้นมารออยู่ข้างนอกโน่น” คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูง เงยหน้าสบตาบิดา
“คุณพ่อรู้จักพี่หมอต้นด้วยเหรอคะ” บิดายิ้มเล็กน้อย มองตาลูกสาว แต่ไม่พูดอะไร
“เอ่อ...ก็พี่หมอเขาเป็นเพื่อนของพี่ปัณ ม่อนรู้จักเขาตอนที่ไปหาพี่ปัณที่บ้านสวนค่ะ แต่ไม่มีอะไรหรอกค่
หากแต่เมื่อเขาใช้มือใหญ่กดตรึงสะโพกกลมกลึงของตนไว้ และสามีเริ่มส่ายวนบดเบียดช้าๆ หญิงสาวก็หลงลืมตัวขยับรับเขาอย่างรู้งาน ก้องภพหัวเราะเบาๆ เป็นเสียงหัวเราะที่ปานรักรู้ว่าเขาพอใจที่ชักนำเธอให้หลงติดกับดักได้ แต่ก็นั่นแหละ ถึงจะเหนื่อยแค่ไหน เธอก็พร้อมและเต็มใจกระโจนเข้าสู่กับดักของเขาทุกทีสิน่า หญิงสาวหลับตาแน่น ซึมซับความเร่าร้อนที่สาดซัดเข้าสู่ร่างอย่างไม่เกี่ยงงอน เขาต้องการเธอ เธอต้องการเขา ไม่ว่าวันนี้หรือวันไหนสัมผัสแห่งรักที่มอบให้กันยังจะงดงามอยู่เสมอ เพราะมั่นใจว่าไม่ว่าจะเนิ่นนานเพียงใด หัวใจรักของเขาและเธอก็จะมีเพียงกันและกันตลอดไป“ไง...ไอเสือปัณ ลูกแกมาเกิดหรือยัง” เช้าวันสุดท้ายก่อนเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมของน้องเขย ปัณณธรถูกต้นตะวันแซวถาม ชายหนุ่มตวัดค้อนให้ภรรยาที่นั่งป้อนอาหารเช้าให้บุตรชายอยู่ข้างๆกัน ภายในโซนห้องอาหารริมทะเลแบบเอาท์ดอร์ของโรงแรม“อย่าให้ถึงทีกูนะ ไอ้หมอ” ปัณณธรตอบกลับเพื่อนด้วยเสียงรอดไรฟัน อินนัดดาไม่สนใจสามีนัก ที่จริงเธอไม่ได้กินยาคุมกำเนิดมาตั้งนานแล้ว และประจำเดือนก็ขาดไปสองเดือนแล้ว คุณสามีเธอก็ช่างไม่สังเกตเอาเสียเลย
“ปานนึกว่าพี่ก้องจะพาไปเล่นน้ำทะเลเสียอีก” หญิงสาวจูงมือสามีเดินมานั่งหย่อนขาลงในสระน้ำ“เรื่องอะไรจะให้เมียใส่ชุดแบบนี้ไปโชว์คนอื่น พี่จะเก็บไว้ดูคนเดียวครับ” ปานรักหันมาค้อนให้สามี“ค่า...ขอบคุณมากนะคะพี่ก้อง” ปานรักจุ๊บปากสามีเบาๆ แล้วเคลื่อนตัวลงสระ ก้องภพมองตามยิ้มๆ แล้วเคลื่อนตัวลงไปอยู่ในสระกับภรรยา ชายหนุ่มนั่งอยู่ในส่วนที่ตื้นของสระมองดูภรรยาว่ายโผไปมาอย่างมีความสุข เมื่อตะวันใกล้จะลาลับจากขอบฟ้า เขาก็เรียกภรรยาให้มานั่งซ้อนบนตัก โอบกอดร่างบางไว้อย่างแสนรัก“หิวหรือยังครับ” ปานรักส่ายหน้าแทนคำตอบ“ไม่อยากลงไปทำงานช่วยคุณแม่แล้วเหรอ” เสียงกระเซ้าถามไม่จริงจังทำให้ปานรักเบี่ยงหน้ากลับจิกสายตามองสามี“แล้วใครที่ทำให้ปานต้องมาติดแหง็กอยู่บนนี้ ไม่ได้ลงไปเจอผู้คนเลย ป่านนี้พี่ปัณกับพี่อินกลับหรือยังไม่รู้ ไม่เห็นมีใครโทรหาปานบ้างเลย” ก้องภพหัวเราะในลำคอ ก้มหน้าสบตาภรรยา ยิ้มแพรวพราว“ช่วงเวลาโปรโมชั่นแบบนี้ ไม่มีใครเขาโทรหาคู่แต่งงานข้าวใหม่ปลามันหรอก”“เมื่อก่อนปานคิดว่าพี่ก้องเป็นคนเงียบๆนะคะ”“แล้วตอนนี้ค
“พี่สระผมให้นะครับ” แล้วจะปฏิเสธยังไงล่ะ ปานรักจึงได้แต่พยักหน้ารับ ชายหนุ่มปรนนิบัติเธอราวกับว่าเป็นเจ้าหญิง เขาใส่ใจทุกรายละเอียดของร่างกายเธอ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่มีสักตารางนิ้วที่จะรอดพ้นการลูบไล้ทำความสะอาดให้อย่างใส่ใจ จนเมื่อก้องภพกระซิบเบาๆที่ใบหูเล็ก หญิงสาวจึงลืมตาขึ้น“เรียบร้อยแล้วครับ ทีนี้ก็...เป็นทีของน้องปานอาบให้พี่บ้าง” ปานรักมองค้อน นั่นไงผิดจากที่คิดไว้ซะที่ไหน เขาขยับกายเข้าใกล้ จับมือบางวางทาบบนอกแกร่ง มือเล็กไล้วนอย่างกล้าๆกลัวๆ“โอย...น้องปานครับ” ก้องภพครางกระเส่า จับบ่าบอบบางแน่น ปานรักเงยหน้ามองสามีอย่างไม่เข้าใจ“ปะ...เป็นอะไรคะพี่ก้อง” หญิงสาวคิดว่าเขาอาจจะไม่สบาย เพราะเสียงสั่นและใบหน้าแดงก่ำ ดวงตาก็แสดงออกมาราวกับว่าเจ็บปวดนักหนา“ไม่ไหวแล้วครับ น้องปานช่วยพี่ด้วยนะครับ” วงแขนแกร่งกอดรัดร่างนุ่มนิ่มแนบอก“ชะ...ช่วยยังไงคะ พี่ก้องปล่อยก่อนค่ะ เป็นอะไรไปคะ” ปานรักถามไถ่อย่างเป็นห่วงเป็นใย ยิ่งตัวเขาสั่นสะท้านแนบตัวเธออยู่อย่างนี้ หญิงสาวก็ใจไม่ดี หรือเขาจะใช้กำลังมากไป ก็เมื่อคืนกวนเธอทั้งคืนกว่าจะได้หลับไ
“อืม...พี่ก้อง พี่ก้อง” ปานรักเงยหน้าครวญครางเรียกชื่อสามีแผ่วเบา ด้วยความซ่านเสียวไปทั้งร่าง ริมฝีปากหยักได้รูป ดูดกลืนยอดอกที่อยู่ตรงหน้าอย่างตะกรุมตะกราม มือใหญ่ขยับสะโพกมนให้เข้ากับจังหวะที่ตนเองแอ่นสะโพกสอดเสยขึ้น จนเมื่อปานรักเริ่มเรียนรู้ที่จะรุกรับอย่างคนหัวไว ก้องภพจึงเคลื่อนมือขึ้นบีบเคล้นอกอวบนุ่มหยุ่นมือ จับฐานอกอวบบีบป้อนเข้าปากตัวเองดูดกลืนขบเม้มอย่างเอาแต่ใจ ลิ้นร้อนไล้วนตวัดรอบเม็ดทับทิมสีหวาน รวบดูดรุนแรง ใบหน้าหล่อเหลากดแนบไปกับอกอวบ ซุกไซ้อย่างหลงใหล“อื้อ...พี่ก้อง” ปานรักโหมสะโพกแรงตามอารมณ์หวามที่ทะยานจนใกล้ถึงปลายทาง หญิงสาวครางแว่วหวาน สลับการการเรียกชื่อสามี ใบหน้างามส่ายสะบัดจนผมยาวสยายเต็มหลัง ก้องภพละมือจากอกอวบ รวบเอวคอดไว้แน่น ขณะที่ทั้งเขาและภรรยาขยับโยกในจังหวะรุกรับรุนแรง ชายหนุ่มซุกใบหน้าลงคลุกเคล้ากับอกอวบดีดเด้งตรงหน้า สูดดมและขบเม้มเบาๆ เพิ่มความเสียวปลาบให้ร่างเล็กจนต้องครวญครางซ้ำ บทเพลงรักบรรเลงไปตามท่วงทำนองร้อนเร่า ต่างเติมเต็มให้กันและกันด้วยไฟปรารถนา“ปานน่ารักที่สุด ที่รักของพี่...อา” ก้องภพเกร็งสะโพกรับการโห
“ไม่เหนื่อยสักนิดครับ แต่คิดถึงเมียแทบขาดใจ” แก้มสาวแดงเรื่อท่ามกลางแสงไฟสลัวภายในห้อง ปานรักจึงพลิกกายนอนตะแคงหันหลังให้ หนีแววตาคมปลาบที่จ้องมองไม่วางตานั้น ก้องภพเอนตัวลงสอดกายลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกับภรรยา เขาวาดวงแขนไปโอบกอดร่างเล็กที่นอนหันหลังให้“น้องปานบอกว่าจะตามใจพี่ทุกอย่าง” ปฏิบัติการทวงสัญญาขาหื่นเริ่มขึ้น พูดจบก็เป่าลมร้อนใส่หูเล็ก พร้อมทั้งขบเม้มเบาๆสร้างความปั่นป่วนให้คนที่นอนใจเต้นแรงอยู่อย่างห้ามไม่ได้ ปานรักหดคอเล็กน้อย“ใครสัญญาอะไรหรือคะ ปานไม่เห็นรู้เรื่อง” หญิงสาวอมยิ้มขณะที่ตอบกลับมา“หืมมม...จำไม่ได้จริงๆเหรอ” ก้องภพพลิกกายขึ้นทาบทับภรรยา สบตายตาถามเอาคำตอบ“จำไม่ได้ค่ะ” ปานรักเบี่ยงหน้าหนีไม่กล้าสบสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา กายสาววูบวาบ แก้มนวลร้อนผ่าว“แน่ใจเหรอว่าจำไม่ได้” ขาแกร่งบดเบียดขาเรียวจนแยกกว้าง ก้องภพแทรกตัวเองไปอยู่ระหว่างขาเรียวนั้น บดเบียดความแข็งขึงกับกลางร่างสาว ในนาทีนั้นเองที่ปานรักเพิ่งสังเกตว่าสามีของเธออยู่ในสภาพเปลือยกาย เขาถอดกางเกงออกตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย หญิงสาวทุบบ่ากว้างเบาๆ หันมาสบสาย
เมื่อถึงฤกษ์ส่งตัวเข้าหอ บิดามารดาและญาติผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายก็พากันกล่าวคำอวยพร และคำอวยพรที่เจ้าสาวต้องหน้าแดงแล้วหน้าแดงอีก เห็นจะหนีไม่พ้น ขอให้มีลูกเร็วๆ และขอให้มีลูกเต็มบ้านหลานเต็มเมืองนั่นแหละ“พ่อฝากน้องด้วยนะก้อง พ่อเชื่อว่าป้องจะดูแลปานแทนพวกเราได้ ขอบใจมากที่ช่วยทำให้ครอบครัวของเรากลับมามีความสุขอีกครั้ง” อานนท์ตบบ่าลูกเขยที่นั่งคู่กับลูกสาวอยู่บนพื้นห้องเบาๆ“ผมสัญญาว่าจะดูแลน้องปานด้วยชีวิตของผมครับ” ก้องภพสบตาผู้สูงวัยกว่าด้วยแววตาแน่วแน่“หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก” ปรางทิพย์เอ่ยสำทับ คู่บ่าวสาวก้มลงกราบผู้สูงวัยทั้งสองที่ออกจากห้องหอทีหลังสุด ถึงแม้จะเคยอวยพรเคยกล่าวคำฝากฝังลูกสาวมาแล้วในพิธีการครั้งแรก แต่คนเป็นพ่อแม่ก็ยังอยากย้ำอีกครั้ง ด้วยความที่ลูกสาวเจอะเจอเรื่องราวร้ายแรงมา จนแทบไม่ยอมรับรู้เรื่องราวอะไรรอบกาย แต่เพราะผู้ชายใจดีตรงหน้าเฝ้าถนอมและดูแลกันมาจนปานรักหายขาดจากอาการป่วย อานนท์และปรางทิพย์จึงไม่ลังเลสักนิดที่จะยกลูกสาวให้ชายหนุ่มดูแลสองหนุ่มสาวนั่งสบตากันบนพื้นห้องสวีตชั้นสูงสุดของโรงแรม ซึ่งถูกจัดแต่งเป็นห้องหอ อบอ
ก้องภพจับมือนุ่มของภรรยาเดินกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน ปานรักยิ้มเขินเมื่อถูกเอ่ยแซวจากญาติสนิท แก้มสาวแดงเรื่อแววตาเขินอายสบสายตาสามีเป็นระยะ เขาและเธอเข้าพิธีแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากวันที่ก้องภพคุกเข่าขอแต่งงานเพียงสองเดือนเท่านั้น พิธีแต่งงานแบบไทยที่เรียบง่ายถูกจัดขึ้นที่บ้านณปาย ตามความประสงค์ของบิดาและมารดาของฝ่ายเจ้าสาว หากแต่มารดาของเจ้าบ่าวอยากจัดพิธีฉลองสมรสที่โรงแรมของตนด้วย สามีภรรยาป้ายแดงจึงต้องทำตามความประสงค์ของมารดาอย่างเลี่ยงไม่ได้“เหนื่อยไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างห่วงใย เจ้าสาวยิ้มหวานส่ายหน้าแทนคำตอบ“คุณแม่เตรียมห้องสวีตไว้ให้ใช้เป็นห้องหอ เมื่อไหร่จะถึงเวลาส่งตัวเข้าหอสักทีนะ” นิ้วเรียวเล็กบิดเบาๆที่เอวของคนถามหาเวลาเข้าหอ สีหน้าเจ็บเกินจริงของเขาช่างหน้าหมั่นไส้นัก“ใจร้าย ทำร้ายร่างกายสามี” ก้องภพโอดเบาๆ“จะมาพูดถึงเวลาเข้าหออะไรตอนนี้ งานเพิ่งเริ่มเองนะคะ”“ก็พี่อยากเข้าหอกับน้องปานแล้วนี่”“บ้า ไม่ใช่เข้าหอครั้งแรกสักหน่อย” แก้มสาวแดงเรื่ออุบอิบเถียงสามี“จะครั้งไหนพี
“พี่รักม่อน พี่รักม่อน” ต้นตะวันถอดถอนกายออกแล้วพลิกร่างภรรยากลับมากอดไว้แน่น บอกรักขณะที่ริมฝีปากทั้งสองอยู่ชิดกัน มุทิตาโอบรอบลำคอหนา ก้มหน้าหนีริมฝีปากช่างจูบเอาแต่ใจนั้น หญิงสาวซุกหน้ากับอกกว้าง รอยยิ้มเปื้อนเต็มดวงหน้าหวาน“ม่อนก็รักพี่หมอค่ะ” มุทิตาบอกรักสามีเสียงหวานคืนนั้นที่เธอตกเป็นของเขา มันไม่ใช่การพลาดพลั้ง แต่มันคือพรหมลิขิตต่างหาก พรหมลิขิตที่ชักนำให้สองหัวใจผูกพัน จนกลายเป็นความรักที่สวยงาม“หลับหรือยังครับที่รัก” ปัณณธรเอนตัวลงนอนเคียงข้างภรรยา แล้วกระซิบถาม อินนัดดาพลิกตัวกลับมายิ้มให้สามี“หลับแล้วค่ะ” นิ้วเรียวดีดหน้าผากมนเบาๆ แต่กระนั้นก็เรียกเสียงโอดโอยจากคนโดนกระทำได้“โอ๊ย! พี่ปัณอ่ะ หนูเจ็บนะ” ปัณณธรยิ้มแล้วจูบหน้าผากมนแผ่วเบา“ก็อินกวนนี่นา” วงแขนแกร่งกอดร่างเล็กแน่น อินนัดดาดิ้นรน เพราะเธอสัมผัสได้ว่าสามีกำลังจะทำมิดีร้ายกับตัวเอง“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวน้องโปรดตื่น” ปัณณธรหัวเราะเบาๆ“นิดเดียวนะ พี่ใจจะขาด” ชายหนุ่มผละจากร่างนุ่มนิ่ม ลงไปยืนข้างเตียง แล้วดึงผ้าห่มลงไปปูที่พื้นหน้าตาเฉย“พี่ปัณ!” อิ
“ที่จริงบ้านสวนมึงก็มีนะ วันหลังเชิญไปพักที่บ้านตัวเองเลย” ปัณณธรยังไม่วายจิกกัดเพื่อต่อ จึงโดนภรรยาตีที่แขนเบาๆ“พี่ปัณพอแล้วค่ะ คุยกันดีๆไม่เป็นหรือไง”“ใช่ค่ะ เจอกันทีไรก็อย่างนี้ตลอด ทีหลังม่อนจะไม่มาด้วยแล้ว” ต้นตะวันกอดร่างภรรยาแน่นขึ้น โยกตัวช้าๆราวกับจะปลอบใจ“โอ๋ๆ ไม่กัดกันแล้วครับ อย่างอนนะที่รัก” มุทิตาถอนหายใจกับท่าทางเอาใจของสามี เขาไม่เคยอายที่จะสาดความหวานใส่เธอ แต่คนโดนปฏิบัตินี่สิ อายจนไม่รู้จะอายยังไงแล้วหนุ่มสาวสองคู่นั่งคุยกันเรื่อยๆ จนก้องภพและปานรักขึ้นมาสมทบ หนุ่มสาวคู่ใหม่ที่ร่วมโต๊ะ ดูกระอักกระอ่วนใจที่ต้องมานั่งมอง ภาพคู่สามีภรรยาสวีตกันแบบไม่เกรงใจฟ้าดิน อินนัดดากับมุทิตาเกรงใจและหน้าไม่หนาพอเท่าสามี จึงพากันขอตัวเลี่ยงไปดูลูกที่นอนหลับอยู่ในห้อง ก้องภพและปานรักนั่งร่วมโต๊ะอยู่ครู่เดียวก็พากันขอตัวแยกย้ายไปนอน“ไม่น่าเชื่อว่ะ” ต้นตะวันยกแก้วน้ำสีอำพันขึ้นจิบแล้ววางลงที่โต๊ะ“อะไรไม่น่าเชื่อ”“อ้าว...ก็มึงกับอินไง กูเห็นขึ้นต้นแค้นแทบตาย แต่มาลงท้ายว่ารักหมดใจเนี่ย” ปัณณธรหัวเราะชอบใจกับคำพูดของเพื่อน