Share

บทที่ 740

Author: ไห่ตงชิง
"ท่านบอกว่าจ้าวไท่ไหลอยากพบข้า หลอกข้าใช่หรือไม่?"

จ้าวชิงหลานถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย สายตาจ้องตรงไปยังหลี่เฉิน

"เรื่องนี้เป็นความจริง"

หลี่เฉินตอบด้วยท่าทีไม่ใส่ใจนัก "ข้าตั้งใจจะส่งเขาไปยังที่ที่ปลอดภัยกว่า เขาเองก็ยินยอม แต่มีข้อแม้ว่าอยากพบท่านอีกครั้งก่อนจะจากไป เพราะการเดินทางครั้งนี้ อาจทำให้พวกท่านทั้งสองไม่มีโอกาสได้พบกันอีกในชั่วชีวิตนี้ ข้าจึงตอบตกลงตามคำขอนั้น"

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หลี่เฉินหัวเราะเบา ๆ พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนเรื่องทั่วไป "ว่าไปแล้ว ช่วงนี้จ้าวไท่ไหลไม่ได้กลับบ้าน แถมเล่นหายตัวไปเสียเฉย ๆ จ้าวเสวียนจีถึงกับร้อนรนยิ่งนัก ข้าได้ยินมาว่าเขาให้คนออกตามหาทั่วเมืองหลวงราวกับโยนแหจับปลาเลยทีเดียว"

"วันนี้ในที่ประชุมเช้า ข้าสังเกตเห็นเขากระวนกระวายใจ แต่กลับไม่อาจเอ่ยปากพูดถึงเรื่องนี้ ข้าว่ามันดูน่าขำดี"

"เขาก็ส่งคนมาถามข้าเหมือนกัน"

จ้าวชิงหลานตอบเสียงเรียบ "ข้าบอกไปว่าไม่รู้เรื่อง แต่เรื่องนี้คงปิดบังเขาได้ไม่นาน หน่วยบูรพาซ่อนตัวคนไว้ได้ไม่ยาก แต่จ้าวเสวียนจีก็เก่งพอที่จะรู้ว่าหน่วยบูรพาเป็นผู้ซ่อนจ้าวไท่ไหลไว้"

คำพูดของจ้าวชิงหลานมีลับลม แต่หลี่เ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 741

    ผิวขาวเนียนราวหิมะของนางไร้ที่ติใด ๆเนื้อผิวที่แลดูขาวนวลเหมือนน้ำนม ไม่ต้องสัมผัสก็รู้ได้ว่ามันจะต้องอ่อนนุ่มและลื่นมือเป็นอย่างยิ่งใบหน้าที่งดงามประณีตไร้ที่ติ ยิ่งขับความงามของนางให้โดดเด่นยิ่งขึ้นหากจะเปรียบความงามและรัศมีที่นางมีแล้ว ในบรรดาสตรีที่หลี่เฉินเคยพบเจอมา มีเพียงซูจิ่นพ่าและกงฮุยอวี่เท่านั้นที่พอจะเทียบเคียงได้แม้แต่จ้าวหรุ่ยและวั่นเจียวเจียวที่งดงามอย่างยิ่ง แต่ในด้านของราศีและความสง่างาม พวกนางก็ยังคงด้อยกว่าจ้าวชิงหลานอยู่หนึ่งขั้นยิ่งเมื่อพูดถึงสถานะแล้ว ไม่มีสตรีคนใดเทียบเท่าฮองเฮาอย่างจ้าวชิงหลานได้โดยเฉพาะในวันนี้ ที่จ้าวชิงหลานดูอ่อนโยนขึ้นเพราะอาการป่วย หลี่เฉินมองนางแล้วหัวใจก็พลันเต้นแรงขึ้นแต่จ้าวชิงหลานกลับแสดงท่าทีไม่ชอบใจนัก เมื่อเห็นหลี่เฉินเข้ามาใกล้จนเกินไป นางขมวดคิ้วกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา "ท่านถอยออกไปห่าง ๆ ข้าเสียหน่อย"แต่หลี่เฉินหาได้ฟังไม่ กลับขยับเข้าไปใกล้ยิ่งกว่าเดิม"ท่านป่วย เรียกหมอหลวงมาดูหรือยัง?"จ้าวชิงหลานขมวดคิ้วแน่น แต่ก็อดทนตอบไปว่า" เรียกแล้ว หมอหลวงบอกว่าเพราะข้าคิดมากเกินไปจนเกิดความเครียด ทำให้เลือดลมไม่เดินสะ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 742

    หลี่เฉินผู้มาจากยุคเครือข่ายศตวรรษที่ 21 ผ่านประสบการณ์คำด่าของเหล่านักเลงคีย์บอร์ดมากมายจนชินชา บัดนี้เมื่อได้ยินคำด่าของจ้าวชิงหลาน เขากลับรู้สึกราวกับลมฤดูใบไม้ผลิพัดผ่านอย่างเบาสบายนางด่าว่าเขาไร้ยางอาย เรียกเขาว่าคนไร้ศีลธรรม คำด่าก็ยังวนเวียนอยู่แต่ในประโยคเดิม ๆ ดูเหมือนไม่ได้ด่าจริงจังสักเท่าไหร่แต่เมื่อพิจารณาถึงการอบรมสั่งสอนและความประณีตในตัวนางแล้ว การด่าว่าคนอื่นนั้นนับว่าเป็นเรื่องยากสำหรับจ้าวชิงหลานการที่นางสามารถพูดคำด่าเหล่านี้ออกมาได้ แสดงว่านางโมโหจนถึงขีดสุดแล้วหลี่เฉินไม่ได้สนใจแม้แต่น้อยเขากระชับวงแขนที่โอบรัดเอวอันนุ่มนวลของจ้าวชิงหลานให้แน่นขึ้น จากนั้นกระซิบใกล้หูที่แดงระเรื่อของนาง "ท่านต้องการให้ทุกคนข้างนอกนั้นรู้ว่าเรานอนอยู่บนเตียงเดียวกันหรือ?"มาอีกแล้วมาอีกแล้วการข่มขู่อันหน้าด้านของเขามาอีกแล้วกลยุทธ์เก่าใช้ได้ผลเสมอจ้าวชิงหลานที่กำลังส่งเสียงด่าทออย่างไม่เกรงใจพลันเงียบลงนางกัดริมฝีปากแน่น จ้องมองหลี่เฉินด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะกล่าวด้วยความเดือดดาล "ท่านอย่าทำเกินไปนัก!""ข้าไม่ได้ทำเกินไป"หลี่เฉินยิ้ม ก่อนจะก้มลงและสัมผัสเบา ๆ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 743

    บนเตียงหงส์ จ้าวชิงหลานนอนอยู่ด้านใน ส่วนหลี่เฉินนอนอยู่ด้านนอกเดิมที จ้าวชิงหลานตั้งใจจะหลีกเลี่ยงหลี่เฉิน จึงนอนหันหลังให้เขาดังนั้น ท่วงท่าจึงกลายเป็นว่าหลี่เฉินโอบกอดจ้าวชิงหลานจากด้านหลังทว่าเมื่อจ้าวชิงหลานพลิกกายหันมา สองสายตาประสานกัน สร้างบรรยากาศที่แปลกประหลาดขึ้นทันทีจ้าวชิงหลานรู้สึกเสียใจแทบตาย นางคิดในใจว่าพลิกกายทำไมตอนนี้ความกระอักกระอ่วน ความอับอาย และความขุ่นเคืองผสมปนเปกันจ้าวชิงหลานกลับยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองไว้เมื่อหลี่เฉินเห็นท่าทีของจ้าวชิงหลานที่คล้ายดั่งนกกระจอกเทศเช่นนี้ เขาเกือบจะหลุดหัวเราะออกมาเขาไม่คิดเลยว่าจ้าวชิงหลานจะมีมุมที่ดูน่ารักน่าเอ็นดูเช่นนี้ลองคิดดูแล้ว แม้จ้าวชิงหลานจะสูงส่งเพียงใด แม้จะเป็นถึงฮองเฮา แต่แท้จริงแล้วนางก็ยังคงเป็นหญิงสาวอายุเพียงยี่สิบต้น ๆ ก่อนจะมีฐานะอื่นใดยิ่งไปกว่านั้น ท่าทางพลิกกายของจ้าวชิงหลานก็ยังไม่อาจสลัดหลุดจากการควบคุมของมือใหญ่ของหลี่เฉินมือหนาราวกับเงาตามตัว จับแน่นบนผิวกายที่นุ่มนวลจนถึงขีดสุด บริเวณที่อวบอิ่มเกินต้านทาน หลี่เฉินมองเห็นผิวกายที่เรียบเนียนสมบูรณ์แบบนั้น ถูกบีบอัดจนเปลี่ยนรูปไปตา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 744

    เมื่อจ้าวชิงหลานเข้าใจความหมายของคำว่า “ช่วย” ที่หลี่เฉินต้องการ นางก็ไม่มีทางเลือกอีกต่อไปสมองของจ้าวชิงหลานว่างเปล่า ปั่นป่วนสับสน มีเพียงความคิดเดียวคือ นางจะต้องไม่ปล่อยให้บุรุษไร้ยางอายผู้นี้ได้ดั่งใจทว่าด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ นางสูญเสียความสามารถในการคิดอย่างสิ้นเชิงหลี่เฉินจับข้อมือนางอีกครั้ง เพื่อชักนำเป็นครั้งที่สองในความสับสนว่างเปล่า จ้าวชิงหลานสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวที่ฝ่ามือของนางอีกครั้งการสัมผัสที่ใกล้ชิดเช่นนี้ ทำให้หลี่เฉินถอนหายใจเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจเพียงแค่สัมผัสผ่านมือก็รู้สึกดีถึงเพียงนี้ หากได้ครอบครองจริง ๆ จะเป็นเช่นไรเล่า?แต่เรื่องเช่นนี้ ย่อมต้องค่อยเป็นค่อยไปจ้าวชิงหลานไม่ใช่จ้าวหรุ่ย และยิ่งไม่ใช่องค์หญิงเสียนเฉาการจัดการกับนาง จะรีบร้อนไม่ได้เด็ดขาดใช่แล้ว...คำว่า “รีบร้อนไม่ได้” ช่างเหมาะกับสถานการณ์นี้นัก“ค่อย ๆ ไปก่อน ให้ชินสักหน่อย”หลี่เฉินพูดกับจ้าวชิงหลาน ขณะที่ยังคงมีผ้าห่มกั้นอยู่ระหว่างทั้งสองร่างของจ้าวชิงหลานสะท้านเล็กน้อย นางเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่ตนกำลังทำความอับอายและความโกรธแค้นทำให้นางอยากจะหากรรไกรสักอันมาตัดบ

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 745

    บนเตียงหงส์ ร่างของทั้งสองแนบชิดกันอยู่ภายใต้ผ้าห่มเสียงจูบที่ดัง “จ๊วบ” ในระหว่างที่ริมฝีปากและลิ้นเกี่ยวพันกันนั้น ทำให้ผู้ใดได้ยินต้องหน้าแดงด้วยความกระดากผ้าห่มที่ขยับและพลิกไปมาบ่งบอกได้ชัดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นใต้ผ้าห่มนั้น ไม่ควรมีผู้ใดได้เห็นไม่รู้ว่านานแค่ไหน จ้าวชิงหลานรู้เพียงว่า ริมฝีปากของนางชักจะชาจนไร้ความรู้สึก มือก็เมื่อยล้าจนแทบไม่มีเรี่ยวแรง ในที่สุด หลี่เฉินจึงครางออกมาเบา ๆ ก่อนจะกอดนางไว้แน่น“อ๊ะ!”จ้าวชิงหลานรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งกระทบเข้ากับร่างกายของนาง นางจึงร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจครู่ใหญ่ หลี่เฉินจึงปล่อยนางออกด้วยท่าทีพึงพอใจส่วนจ้าวชิงหลานกลับรีบเช็ดมือและเช็ดสิ่งที่เปื้อนอยู่บนร่างกายอย่างลนลานเมื่อพายุผ่านพ้นไป สิ่งที่หลงเหลือคือความโกรธที่ไม่มีที่สิ้นสุดสายตาของจ้าวชิงหลานราวกับจะฆ่าคนได้นางจ้องมองหลี่เฉินด้วยความโกรธแค้น ทั้งอับอายและน้อยใจนางรู้สึกว่าตัวเองไม่บริสุทธิ์อีกต่อไปแล้วทุกส่วนของร่างกายล้วนเต็มไปด้วยกลิ่นอายของหลี่เฉินความรู้สึกถูกหลี่เฉินย่ำยีเช่นนี้ ทำให้นางโกรธจนแทบคลั่งโดยเฉพาะใบหน้าของหลี่เฉินที่ดูอิ่มเอมใจ ยิ่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 746

    "เมื่อเจ้าออกไปจากที่นี่ ทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องพึ่งพาตัวเจ้าเองทั้งหมด หากในช่วงเวลานี้เจ้าเกิดป่วยขึ้นมา จะเป็นปัญหาใหญ่ได้ พูดคุยกันจากนอกม่านลูกปัดเถิด ข้าจะได้มองเห็นเจ้า"น้ำเสียงของจ้าวชิงหลานเต็มไปด้วยความขมขื่นเมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของจ้าวไท่ไหลก็หมองลงทันทีเขาไม่ยืนกรานอีกต่อไป เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเบา ๆ "ท่านพี่ วันนี้คงเป็นวันสุดท้ายแล้วที่ข้าจะอยู่ที่นี่ พวกเขาบอกว่าจะส่งข้าไปเสียนเฉา""เสียนเฉา!?"จ้าวชิงหลานอุทานด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้รับรู้ถึงจุดหมายปลายทางของจ้าวไท่ไหล นางรีบพูดด้วยความร้อนรน "นั่นเป็นดินแดนที่หนาวเหน็บและแร้นแค้น เจ้าจะไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร?"จ้าวชิงหลานคิดจะขอให้หลี่เฉินเปลี่ยนสถานที่ส่งตัวจ้าวไท่ไหลแม้จะต้องลี้ภัย แต่ก็ไม่จำเป็นต้องไปยังเสียนเฉาที่เป็นดินแดนอันกันดารเช่นนั้นสุดท้ายแล้ว นางยังคงสงสารและเป็นห่วงจ้าวไท่ไหลแต่ไม่คาดคิดว่า จ้าวไท่ไหลกลับยิ้มอย่างปล่อยวาง "ข้าว่าก็ดีเหมือนกัน ในเมื่อจะต้องจากไปแล้ว ก็ถือโอกาสเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมใหม่เสียเลย ข้าคิดดูแล้ว เสียนเฉาแม้จะเป็นดินแดนป่าเถื่อนและเพิ่งผ่านศึกสงครามมา แต่ด้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 747

    จ้าวไท่ไหลเดิมคิดว่าเมื่อพูดจบแล้ว จะได้รับความยินดีจากพี่สาวของตน แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นความเงียบงันที่แสนประหลาดจากหลังม่านลูกปัดรออยู่ครู่หนึ่ง จ้าวไท่ไหลอดรนทนไม่ไหว จึงเอ่ยขึ้นว่า “ท่านพี่ ท่านยังฟังอยู่หรือไม่?”หลังม่านลูกปัด จ้าวชิงหลานยังคงจ้องมองหลี่เฉิน ดวงตาเต็มไปด้วยความลังเลของขวัญที่จ้าวไท่ไหลนำมานั้น นับว่าเป็นแต้มต่อที่ดี แต่โชคร้ายที่หลี่เฉินอยู่ในเหตุการณ์ด้วยพูดได้เพียงว่า ชะตากรรมเล่นตลกนักในยามนี้ จ้าวชิงหลานหวังเพียงให้หลี่เฉินมีเมตตาสักครั้งเช่นพูดว่านี่เป็นของขวัญจากน้องของเจ้า ข้าไม่คิดฉวยโอกาสเช่นนี้แต่หลี่เฉินกลับแสดงท่าทีว่า...ล้อกันเล่นหรือ?เนื้ออันอวบอิ่มที่ลอยมาตรงหน้า ใครเล่าจะปล่อยให้หลุดมือไป?คำว่า "เมตตา" ไม่มีวันเกิดขึ้นกับหลี่เฉินต่อหน้าจ้าวชิงหลาน หลี่เฉินยื่นมือไปแหวกม่านลูกปัดออกหัวใจของจ้าวชิงหลานพลันบีบรัดแน่น“อย่า...”เสียงอ้อนวอนเพิ่งเล็ดรอดออกมา หลี่เฉินก็แหวกม่านลูกปัดจนยืนอยู่ตรงหน้าจ้าวไท่ไหลแล้วจ้าวชิงหลานหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง นางรู้ดีว่า ทุกอย่างจบสิ้นแล้วเป็นไปตามคาด เมื่อจ้าวไท่ไหลเห็นว่าคนที่เดินออกมาจา

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 748

    อย่าว่าแต่ตอนนี้ตนเป็นเพียงสุนัขไร้เจ้าของเลยแม้ในยามที่ข้ายังเป็นคุณชายใหญ่แห่งตระกูลจ้าว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหลี่เฉิน ตนก็ได้แต่ก้มหัวอ้อนวอนแม้แต่บิดาของตนยังถูกเขาบีบคั้นจนเกือบเสียสติ แล้วตัวเขาจะเหลืออะไรเล่า?แต่เมื่อครู่ ตนกลับกล้าคิดจะลงมือกับเขาหากแตะต้องตัวหลี่เฉินจริง เกรงว่าทันทีที่ลงมือ ตนคงถูกดาบฟันจนแหลกเป็นชิ้นๆ แล้วเช่นนั้น ทุกสิ่งที่พี่สาวตนได้เสียสละไป คงสูญเปล่ายิ่งไปกว่านั้น บางทีพี่สาวของตนอาจต้องยอมรับเงื่อนไขอันเลวร้ายของหลี่เฉินเพราะต้องการปกป้องข้า...ความคิดเหล่านี้ทำให้จ้าวไท่ไหลหัวใจสั่นสะท้านแต่สิ่งที่ทำให้เขาโกรธและสิ้นหวังที่สุดคือ เขาไม่มีพลังที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยแม้แต่พี่สาวของเขา ซึ่งเป็นฮองเฮาผู้สูงศักดิ์ ยังต้องยอมศิโรราบต่อหลี่เฉิน แล้วตัวเขามีสิทธิ์อะไรที่จะโกรธหรือท้าทายหลี่เฉิน?สุดท้าย คนที่ต้องตายก็คือตัวเขาเองความคิดเหล่านี้ทำให้จ้าวไท่ไหลรู้สึกหมดอาลัยตายอยากแต่หลี่เฉินหาได้ใส่ใจความทุกข์ทรมานในใจของจ้าวไท่ไหลไม่ เขาเพียงยื่นมือออกมาและกล่าวว่า “ส่งรายชื่อมา”จ้าวไท่ไหลสะดุ้งเฮือก ถอยหลังไปอีกก้าว กัดฟันกล่าวว่า

Latest chapter

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1069

    เสียงหัวข้าะเบาๆ ของต้วนจิ่นเจียง ค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นหัวข้าะลั่น ก่อนจะกลายเป็นเสียงหัวข้าะคลุ้มคลั่ง ต้วนจิ่นเจียงราวกับเสียสติ เงยหน้าหัวข้าะอย่างบ้าคลั่ง แม้สายฝนเย็นเฉียบสาดซัดใส่ใบหน้า เขาก็ยังไม่หยุดหัวข้าะ “ดี! ดีมาก!” ต้วนจิ่นเจียงหัวข้าะจนแทบหายใจไม่ออก เขาชี้ไปที่หลี่เฉิน กล่าวด้วยเสียงแหบพร่า “องค์รัชทายาท เจ้านี่ช่างเป็นผู้ถูกมังกรคุ้มครองแท้จริง แม้หลี่อิ๋นหู่กับจ้าวเสวียนจีจะร่วมมือกัน ก็ยังโค่นเจ้าไม่ลง!” “ข้าเพียงเสียดาย ที่ยามท่านอ่อนแอที่สุด ข้ามิได้ลงมือเด็ดขาด ปล่อยให้เจ้าเติบโตมาจนถึงขั้นนี้ ข้า...เสียใจนัก!” สภาพของต้วนจิ่นเจียงเริ่มเข้าสู่ความคลุ้มคลั่งเต็มขั้น ดวงตาแดงฉาน ใบหน้าเหยเกดั่งอสูร “ทำไมกัน! ทำไมข้ารอบคอบวางแผนมาขนาดนี้ เจ้าถึงยังไม่ตาย! มันเป็นเพราะอะไร!” ในถ้อยคำนี้ เต็มไปด้วยความเคียดแค้นและความไม่ยอมแพ้อย่างถึงที่สุด “วางแผนรอบคอบย่อมดี แต่คนอย่างเจ้าที่เอาแต่ซุกซ่อนในมุมมืด ดุจหนอนใต้ซากศพ คอยวางแผนลอบกัดไปวันๆ ยังคิดหวังจะทำการใหญ่ได้หรือ?” หลี่เฉินกล่าวเรียบๆ “ข้าไม่มีเวลามากพอจะปล่อยให้พวกเจ้าถ่วงเล่น มาเข้าเรื่องกัน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1068

    ตึก ตึก ตึก... เสียงฝีเท้าเป็นจังหวะพร้อมเพรียงดังขึ้น ฟังแล้วชวนให้หัวใจพลุ่งพล่านอย่างไม่ทราบสาเหตุ พร้อมเสียงเกราะกระทบกัน สักพักหนึ่ง เหล่าทหารกลุ่มหนึ่งก็เริ่มเข้าสู่ลาน พวกเขาเคลื่อนที่อย่างมีระเบียบและได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี ทันทีที่เข้าสู่ลาน ก็จัดรูปขบวนทันที ล้อมรอบกลุ่มของหลงไหวอวี้ที่ยืนอยู่หน้าศาลบูรพกษัตริย์ การล้อมวงเช่นนี้ ทำให้ต้วนจิ่นเจียงรู้สึกผิดสังเกตขึ้นมาทันทีโดยสัญชาตญาณ “เกิดอะไรขึ้นหรือ อาจารย์?” หลงไหวอวี้ที่รู้สึกว่าต้วนจิ่นเจียงเริ่มตึงเครียดก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย ต้วนจิ่นเจียงตอบเสียงหนักแน่น “พวกทหารเหล่านี้กำลังล้อมข้าอยู่” ต้วนจิ่นเจียงซึ่งเคยเป็นขุนนางกระทรวงกลาโหม ย่อมมีพื้นฐานด้านการยุทธ เขาเพียงแค่ชำเลืองดูก็รู้ว่านี่คือรูปขบวนของทหารต้าฉิน ใช้สำหรับล้อมศัตรูกลุ่มเล็กโดยเฉพาะ หากเป็นคนของหลี่อิ๋นหู่หรือจ้าวเสวียนจี ต่อให้คิดฆ่าพวกเขาก็ไม่ควรจะเป็นเวลานี้ และยิ่งไม่ควรจะทำได้ง่ายดายเช่นนี้ ต้วนจิ่นเจียงหรี่ตาลง พยายามเพ่งมองเครื่องแบบเกราะของทหารเหล่านี้ หวังจะดูให้แน่ชัดว่าเป็นหน่วยใด แต่ด้วยความมืดของยามค่ำคืน และสายฝน

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1067

    สายฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เม็ดฝนขนาดเท่าเม็ดถั่วถูกลมพายุหอบพัด แทบจะซัดกระหน่ำในแนวราบใส่สิ่งปลูกสร้างทั้งปวงระหว่างฟ้ากับดิน บนหลังคา ชายคา และพื้นดิน ล้วนถูกฝนกระแทกกระจายเป็นละอองฝอยบางราวกับหมอก ทั่วทั้งผืนฟ้าดินเปียกชุ่มฉ่ำไปหมด เสียงที่ได้ยิน มีเพียงเสียงสายฝนกระหน่ำราวน้ำตก กับเสียงน้ำในร่องน้ำใกล้ๆ ไหลทะลักอย่างไม่อาจต้านทาน บางทีอาจเป็นเพราะสายฝนนี้ หรืออาจเป็นเพราะเหตุจลาจล เมืองหลวงทั้งเมืองจึงเงียบงันอย่างน่าประหลาด ในยามปกติ ต่อให้เป็นยามดึกเพียงใด ตามตรอกซอกซอยในเมืองหลวงก็ยังคงมีผู้คน จะเป็นเสียงฝีเท้าผ่านไปมา หรือเสียงพูดคุยจากลานบ้านข้างเคียงก็ตามที แต่ไม่ใช่เช่นคืนนี้ ที่ดูราวกับผู้คนล้วนหายไปจนสิ้น สิ่งเดียวที่ยังมองเห็นบนท้องถนน คือทหารที่เร่งฝีเท้าเดินผ่านไป แม้แต่เหล่าทหารเหล่านั้น ต่างก็เฝ้าระวังราวกับกำลังเผชิญศัตรู บางคนถึงกับมีบาดแผลติดตัว ฟ้าดินแห่งเมืองหลวงพลิกผัน ไม่มีผู้ใดกล้าประมาท ในวันนี้ไม่รู้ว่ามีผู้คนล้มตายไปมากเพียงใด เสียงระเบิดในช่วงกลางวันดังสนั่นราวกับฟ้าร้อง ยังทำให้ชาวบ้านพากันปิดประตูหน้าต่าง ไม่กล

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1066

    ประโยคแรกที่ฮ่องเต้ต้าสิงตรัสออกมา ก็ทำให้บรรยากาศในตำหนักบรรทมเคร่งเครียดถึงขีดสุด จ้าวเสวียนจีก้มหน้า สีหน้าอ่อนน้อม เอ่ยด้วยเสียงเบา “ขอฝ่าบาททรงอภัย กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ” “ไม่กล้า?” ฮ่องเต้ต้าสิงแค่นเสียงเย็น ก่อนจะก้าวออกจากที่ประทับมายืนตรงหน้าจ้าวเสวียนจี แล้วตรัสว่า “ยังมีสิ่งใดบ้าง ที่เจ้าไม่กล้า?” จ้าวเสวียนจีก้มหน้า เขามองเห็นช่วงล่างของฮ่องเต้ต้าสิงในระยะประชิด พระวรกายของฮ่องเต้ต้าสิงอ่อนแอยิ่งนัก ขณะทรงยืนอยู่นั้น พระวรกายก็สั่นเล็กน้อย ชัดเจนว่าการยืนอยู่นี้ลำบากอย่างยิ่ง ต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อทรงกาย แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงชายชราอ่อนแรงดั่งเปลวเทียนกลางสายลม เพียงแค่พระองค์ยังมีลมหายใจ ยังลืมพระเนตร แผ่นดินต้าฉินก็ยังไม่ถึงคราวล่มสลาย “ตั้งแต่เจ้าฝังอาจารย์ของเจ้าคือหลินจือเป้าในคดีแสดงความยินดีปีใหม่ แล้วเริ่มรวบรวมพรรคพวก ผูกมิตรแบ่งพรรค ตั้งตัวเป็นใหญ่อย่างลับๆ ไปจนถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ด่านเย่ว์หยา แผนการลอบเร้นอันโหดร้ายแต่ละเรื่อง ล้วนสะเทือนใจอย่างยิ่ง เจ้าคิดว่าข้าจะไม่รู้หรือ? แล้วเจ้ากลับกล้ากล่าวว่าเจ้าไม่กล้า?” ถ้อยคำของฮ่องเต้ต้าส

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1065

    “ซานเป่าใช้งานได้ดี หน่วยบูรพาก็ใช้งานได้ดี แต่ก่อนจะลงมือทำสิ่งใด หรือตัดสินใจต่อผู้ใด เจ้าจำเป็นต้องคิดให้รอบคอบว่า การกระทำของเจ้าจะก่อให้เกิดผลต่อเนื่องเช่นไรบ้าง” “หากซานเป่าตาย หน่วยบูรพาที่อยากอยู่รอดต่อไปก็จะต้องพึ่งพาเจ้ายิ่งขึ้น ดังนั้น เจ้าต้องใช้หน่วยบูรพาต่อไป และควบคุมหน่วยบูรพาไว้ให้มั่น การให้ซานเป่าตายจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด” “ยิ่งไปกว่านั้น ราชสำนักปั่นป่วน ขุนนางทั่วแผ่นดินต่างลำบากใจกับหน่วยบูรพามานาน แต่หน่วยบูรพายังมีคุณค่าที่ควรคงไว้ การรักษาหน่วยบูรพาไว้ย่อมเป็นประโยชน์กับเจ้ามากกว่า ดังนั้น เจ้าห้ามแตะต้องหน่วยบูรพา แต่ซานเป่าล่ะ? ตายไปคนหนึ่ง เจ้าไม่เพียงควบคุมหน่วยบูรพาได้แน่นขึ้น แต่ยังปลอบใจขุนนางทั้งราชสำนัก ให้พวกเขาได้ระบายออกบ้าง ซานเป่าตาย มีแต่ได้ ไม่มีเสีย” ฮ่องเต้ต้าสิงเปรียบประหนึ่งชี้แนะด้วยใจจริง พระองค์ตรัสว่า “จ้าวเสวียนจีก็เป็นเหตุผลเดียวกัน หากจ้าวเสวียนจีตาย ราชสำนักจะวุ่นวาย ขุนนางไม่สงบ ประชาชนก็หวั่นไหว ที่สำคัญที่สุด คือแผ่นดินอาจระส่ำระสาย” “เมื่อบ้านขาดหมาร้ายเสียตัวหนึ่ง ญาติชั่วและเพื่อนบ้านเลวเหล่านั้น ก็จะเริ่มคิดว่า

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1064

    เมื่อฮ่องเต้ต้าสิงตรัสมาถึงตรงนี้ ความหมายก็ชัดเจนยิ่งนัก หลี่เฉินถอนหายใจยาว เอ่ยว่า “ต่อให้ไม่ใช่จ้าวเสวียนจี ลูกก็ไม่อาจวางใจได้อยู่ดีพ่ะย่ะค่ะ” ฮ่องเต้ต้าสิงมิได้กริ้ว พระองค์ตรัสว่า “เจ้าจะฆ่าเขาก็ได้ แต่ต้องรอให้เจ้าขึ้นครองราชย์ก่อน” “ขุนศึกเปลี่ยนตามกษัตริย์ ขุนนางตามยุค ฮ่องเต้ใหม่ย่อมมีขุนนางใหม่ จ้าวเสวียนจีคือหมากที่ข้าทิ้งไว้ให้เจ้าใช้สร้างอำนาจ แต่ตราบใดที่เจ้ามิได้ขึ้นครองราชย์ ก็ยังไม่อาจแตะต้องเขาได้ มิฉะนั้น ในสายตาขุนนางทั้งแผ่นดิน องค์รัชทายาทยังมิทันครองราชย์ ก็ฆ่าราชเลขาประจำสำนักราชเลขาเสียแล้ว แล้วเมื่อเจ้าขึ้นครองราชย์ พวกเขาจะยังมีทางรอดอีกหรือ?” “เฉินเอ่อร์ ในฐานะฮ่องเต้ ความคิดและวิสัยทัศน์ของเจ้า ห้ามจำกัดอยู่เพียงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง จ้าวเสวียนจี มิใช่จ้าวเสวียนจี แต่เขาคือตัวแทนของกลุ่มคน กลุ่มราษฎรคือกลุ่มราษฎร อ๋องแห่งแคว้นคืออ๋องแห่งแคว้น ขุนนางท้องถิ่นคือขุนนางท้องถิ่น ขุนนางประจำเมืองหลวงก็คือขุนนางประจำเมืองหลวง” “เจ้าต้องมองเห็นพวกเขาเป็นตัวแทนของกลุ่มต่างๆ แล้วปรับกลยุทธ์ของเจ้าให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ใช้ว

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1063

    ตามคำอธิบายและเรื่องราวของฮ่องเต้ต้าสิง หลี่เฉินก็เริ่มมองเห็นถึงเบื้องลึกในจิตใจที่แท้จริงของฮ่องเต้พระองค์นี้ สิ่งที่พระองค์ต้องการ คือการสืบทอดราชบัลลังก์โดยไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด เพราะเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงรากฐานของบ้านเมือง และขุนนางชั่วอย่างจ้าวเสวียนจี ก็คือประกันภัยอีกชั้นหนึ่งที่พระองค์วางไว้ ตราบใดที่จ้าวเสวียนจียังอยู่ เขาก็จะกระหายอำนาจ และต้องพยายามลดบทบาทของฮ่องเต้แน่นอน แต่การลดบทบาทของฮ่องเต้หาใช่ปัญหาไม่ ขอเพียงฮ่องเต้ยังคงดำรงอยู่ อ๋องแห่งแคว้นย่อมไม่อาจก่อหวอด สถานการณ์ก็จะยังดำเนินต่อไปได้ กล่าวได้ว่า ฮ่องเต้ต้าสิงได้วางหมากไว้สองทาง ทางแรก คือหวังว่าจะมีบุตรผู้หนึ่งสามารถเติบโตขึ้นมาเป็นกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ มีสติปัญญาและความสามารถลึกซึ้ง กอบกู้สถานการณ์ได้ แต่เรื่องนี้ยากเกินไป อย่างน้อยในขณะวางแผน ฮ่องเต้ต้าสิงเองก็มองไม่เห็นความหวัง ดังนั้นพระองค์จึงเตรียมทางที่สอง ผลักดันให้เกิดขุนนางชั่วคนหนึ่ง เพื่อรักษาความมั่นคงของการถ่ายโอนอำนาจ แม้ฮ่องเต้จะเป็นเพียงหุ่นเชิด ตราบใดที่ยังเป็นบุตรของฮ่องเต้ต้าสิง แผ่นดินก็จะไม่ล่มสลาย ส่วนอำนาจนั้

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1062

    “เขาวางแผนมาอย่างยาวนาน บัดนี้ลูกกับเขาก็ถึงคราวแตกหัก ต่อให้มิใช่จ้าวเสวียนจี ลูกก็ไม่อาจอยู่อย่างสงบได้อีกแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” หลี่เฉินเงยหน้าขึ้นอย่างกล้าหาญ จ้องสบสายพระเนตรของฮ่องเต้เบื้องหน้า แม้พระวรกายจะซูบผอมดั่งน้ำมันหมดไส้เทียนใกล้มอด แต่ก็ยังเปี่ยมด้วยพลังสุดท้าย แล้วกล่าวสิ่งที่อยู่ในใจออกไป ฮ่องเต้ต้าสิงทรงฟังด้วยรอยยิ้ม รอจนหลี่เฉินพูดจบจึงเอ่ยว่า “ข้ากล่าวไปแล้ว เขา มิใช่สิ่งที่ควรกังวล” “เจ้าจะฆ่าเขาก็ได้ แต่ไม่ใช่เวลานี้” หลี่เฉินขมวดคิ้ว สีหน้างุนงงยิ่งนัก ฮ่องเต้ต้าสิงทอดถอนใจเบาๆ แล้วตรัสว่า “สามารถเดินมาถึงจุดนี้ เจ้าก็เกินกว่าความคาดหวังเดิมของข้าไปมาก แม้แต่อีกหลายการจัดวางที่ข้าวางไว้แต่แรก ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะได้ใช้จริง แต่ก้าวแล้วก้าวเล่า เจ้าก็ผ่านมาได้ทั้งหมด” “เจ้าควรรู้ว่า บางแผนที่ข้าวางไว้นั้น เริ่มตั้งแต่เมื่อครานานมาแล้ว” หลี่เฉินนึกถึงพี่น้องสกุลอู๋ จึงพยักหน้า “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อทรงวางแผนอย่างลึกซึ้ง ลูกนับถือยิ่งนัก” “รอจนเจ้าได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ เจ้าก็จะเข้าใจเอง” ฮ่องเต้ต้าสิงตรัสเสียงเรียบ “ข้าวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เจ้าคิดว่

  • รัชทายาทจอมเจ้าเล่ห์   บทที่ 1061

    จ้าวหรุ่ยเงยหน้าขึ้น แม้ใบหน้ายังคงซีดเซียวอ่อนแรง แต่กลับมีสีเลือดระเรื่อขึ้นเล็กน้อย “ฝ่าบาท รีบเสด็จเข้าไปเถิด” จ้าวหรุ่ยกล่าวจบ ก็หลีกทางไปด้านข้าง หลี่เฉินจับมือของจ้าวหรุ่ยแน่น แล้วจึงก้าวเข้าไปภายใน จ้าวเสวียนจีตามเข้าไปติดๆ นี่เป็นครั้งแรกที่จ้าวเสวียนจีสนทนากับจ้าวหรุ่ยหลังจากจ้าวหรุ่ยทรยศ “เจ้าคุกเข่าจนฮ่องเต้ทรงฟื้นคืนหรือ?” จ้าวเสวียนจีกล่าวเสียงเรียบ จ้าวหรุ่ยก้มหน้า ไม่กล้ามองจ้าวเสวียนจี เอ่ยเสียงแผ่วเบา “ฮ่องเต้ทรงมีฟ้าคุ้มครองเพคะ” “ข้าไม่คาดคิดเลยจริงๆ” จ้าวเสวียนจีทิ้งประโยคหนึ่งอย่างมีนัย แล้วจึงติดตามหลี่เฉินเข้าไป จ้าวหรุ่ยเม้มริมฝีปาก ก้มหน้าถอยออกจากประตูตำหนักบรรทม ภายในตำหนักเฉียนชิง หลี่เฉินเห็นฮ่องเต้ต้าสิง...ทรงยืนขึ้นแล้ว พระองค์ทรงสวมเสื้อชั้นในสีเหลืองอ่อนที่เพิ่งผลัดเปลี่ยนใหม่ ซึ่งอาจนับเป็นชุดนอนหรือชุดชั้นในก็ได้ หลี่เฉินไม่รู้สึกแปลกตากับฉลองพระองค์ชุดนี้นัก ขณะฮ่องเต้ต้าสิงบรรทมบนเตียง ก็ทรงสวมเช่นนี้ แต่หลังจากเขาข้ามมิติมา ก็เป็นครั้งแรกที่เห็นฮ่องเต้ทรงมีสติและยืนอยู่ “อย่างไรหรือ เห็นข้าแล้ว ถึงกับลืมคำ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status