อเล็กซ์ ดิอังเจโล(Alex D'Angelo) รูปร่างสูงใหญ่สง่างามในแบบของผู้ดีอิตาลีแท้ ๆ ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาราวกับภาพวาดจากยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา ทุกอณูของเครื่องแต่งกายถูกจัดสรรอย่างประณีต สูทสีดำที่เขาสวมใส่ถูกตัดเย็บมาอย่างดีเข้ารูปพอดีตัว บ่งบอกถึงความพิถีพิถันและสถานะที่สูงส่ง
เขายืนอยู่ริมหน้าต่างบานใหญ่ ภาพแสงไฟของเมืองอันสว่างไสวทอดยาวออกไปไกลสุดสายตา สายตาของเขาจ้องมองออกไปยังทิวทัศน์ด้านนอก แต่ภายในจิตใจกลับเต็มไปด้วยความคิดถึงเหตุการณ์หนึ่งที่เขาไม่อาจลืมได้ วันที่ชายหนุ่มเอเชียผู้เรียบง่าย แต่กล้าหาญและเด็ดเดี่ยวคนนั้นก้าวเข้ามาช่วยเหลือเขา จีน ชื่อของชายหนุ่มนั้นสะท้อนก้องในหัวของอเล็กซ์ ความทรงจำของการช่วยเหลือในวันที่อันตรายโอบล้อมยังคงชัดเจนในใจ แม้ว่าจะมีเหตุผลหลายประการที่ทำให้คนอย่างเขาไม่ต้องพึ่งพาใคร แต่ในวันนั้น จีนก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงคุณค่าของเขา การพบเจอในครั้งนั้นทิ้งร่องรอยบางอย่างไว้ในใจของอเล็กซ์ ความรู้สึกที่ยากจะนิยามได้ ระหว่างความรู้สึกขอบคุณและความชื่นชมในความกล้าหาญของชายหนุ่มผู้แสนธรรมดาแต่พิเศษเหลือเกิน อเล็กซ์หลับตาลงครู่หนึ่ง ปล่อยให้ความคิดและความรู้สึกเหล่านั้นผ่านไปช้า ๆ ทว่าไม่จางหายไปจากความทรงจำ อาเล็กซ์ที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างของห้องทำงาน มืดสลัว เสียงลมพัดผ่านเข้ามาอย่างเงียบงัน เขายกซิการ์ขึ้นจุดไฟ แสงจากไฟทำให้เขารู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มลามไปทั่วร่างกาย กลิ่นหอมของยาสูบลอยฟุ้งในอากาศ ควันพวยพุ่งขึ้นไปในความมืดรอบตัวเขา ภายนอก หน้าต่างที่เปิดกว้างเผยให้เห็นวิวของฟลอเรนซ์ในยามค่ำคืน เมืองที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวา แม้ว่าภายในใจของเขาจะเต็มไปด้วยความเครียดและความวิตกกังวล ในระหว่างที่ควันจากซิการ์ลอยออกไป อาเล็กซ์รู้สึกเหมือนเขากำลังปล่อยให้ความกังวลทั้งหมดออกไปด้วย เขานึกถึงเหตุการณ์ลอบทำร้ายเมื่อสองสัปดาห์ก่อน จิตใจของเขายังคงเต็มไปด้วยความโกรธและความอยากเอาคืน แต่เหตุการณ์นั้นกลับเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล เขาได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง “เราจะได้เจอกันอีก” เขาพูดเสียงเบาๆกับตัวเอง ขณะที่พยายามสูดหายใจเข้าให้เต็มปอด และในวินาทีนั้นเอง ภาพของจึนก็ผุดขึ้นมาในความคิดของอาเล็กซ์ เขาจำใบหน้านั้นได้ไม่ลืม เด็กหนุ่มร่างบางชาวเอเชียที่เข้ามาช่วยเหลือเขาในช่วงวิกฤตการณ์ ดวงตากลมโตของเด็กนั่นมีความมุ่งมั่นและความกล้าหาญอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน ขณะที่เขาถูกดึงขึ้นจากพื้นและพาเขาหนีจากการไล่ล่าของศัตรู เด็กนั่นพาอาเล็กซ์ไปซ่อนในมุมอับของตรอกเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ขณะที่เสียงปืนและเสียงโวยวายดังอยู่ไกล ๆ เขากระซิบด้วยเสียงที่เบาแต่ชัดเจน “อยู่นิ่ง ๆ นะ ฉันจะไปล่อพวกมันเอง” อาเล็กซ์รู้สึกถึงความกังวลในใจ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากนั่งอยู่ในความมืดที่มีฝนโปรยปราย เด็กหนุ่มหายไปในเงามืด ทิ้งให้เขารออย่างหวาดกลัว เวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง ขณะที่อาเล็กซ์ได้แต่ภาวนาให้เด็กนั่นปลอดภัย ในหัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวลและความเครียด เขาไม่รู้ว่าเด็กนั่นจะกลับมาไหม หรือจะถูกจับได้ในขณะที่พยายามล่อพวกนั้นไปทางอื่น แต่แล้ว เสียงของการต่อสู้ก็เริ่มจางลง ในที่สุดอาเล็กซ์ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่เข้ามาใกล้ เขากำลังจะได้รู้ว่าเด็กนั่นทำสำเร็จหรือไม่ ในขณะนั้น ความรู้สึกขอบคุณที่มีต่อเขาก็เริ่มก่อตัวขึ้น “ไม่ว่ายังไง ฉันต้องหาคุณให้พบ” เสียงในใจของเขาดังก้อง ขณะที่เขาเตรียมตัวรอคอยการกลับมาของเด็กหนุ่มผู้กล้าหาญ จีนกลับมาพร้อมกับหายใจหอบ ร่างบางของเขาเปียกโชกไปด้วยฝนและเลือดที่ไหลจากแผลเล็ก ๆ บนมือ เขาสบตากับอาเล็กซ์ที่นั่งอยู่ในมุมมืดของตรอก ขณะเสียงการต่อสู้เริ่มจางหายไปอย่างช้า ๆ ความโล่งใจไหลเข้ามาในใจของอาเล็กซ์เมื่อเขาเห็นเด็กหนุ่มนั้นกลับมา “ฉันกลับมาแล้ว” จีนกล่าวเสียงแหบเบา แต่แสดงถึงความมุ่งมั่น เขายิ้มให้แม้จะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า “ตามที่ฉันสัญญา” อาเล็กซ์พยักหน้า เขาไม่สามารถพูดอะไรได้เพียงแต่รู้สึกขอบคุณ เขายืดแขนออกไปเพื่อให้จีนเข้ามาช่วยพยุงตัวเอง จีนเข้ามาใกล้และยิ้มให้ ก่อนจะพาอาเล็กซ์เข้าไปในห้องของเขา …………………………………………………………. ในย่านที่มีชื่อเสียงของฟลอเรนซ์ Piazza della Signoria จัตุรัสหลักที่ดึงดูดผู้คนจากทุกมุมโลก จีนและแซมนั่งอยู่ที่โต๊ะเล็กๆ กลางแจ้ง จิบกาแฟที่หอมกรุ่นขณะที่แสงแดดอ่อนๆ ส่องกระทบผิว ทำให้บรรยากาศอบอุ่นและมีชีวิตชีวา รอบๆ พวกเขา ผู้คนต่างเดินไปมาพูดคุยและหัวเราะ เสียงหัวเราะและบทสนทนาสลับกับเสียงนกร้องและเสียงกาแฟที่ถูกชงอย่างมีจังหวะ โอบล้อมด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม เช่น Palazzo Vecchio ที่สูงตระหง่าน และ Loggia dei Lanzi ที่ประดับไปด้วยประติมากรรมสุดล้ำค่า ทั้งสองได้ยินเสียงซุบซิบของนักท่องเที่ยวที่ตื่นตาตื่นใจต่อความงามของเมืองนี้ จีนยิ้มให้กับแซม ขณะยกกาแฟขึ้นจิบ "นึกถึงคาเฟ่ในบ้านเราแล้ว รู้สึกอบอุ่นจังนะ" เขาพูดด้วยน้ำเสียงเบาๆ แต่เต็มไปด้วยความสุข แซมหันมามองจีน ตอบด้วยรอยยิ้ม "ฟลอเรนซ์มีเสน่ห์ไม่แพ้กันเลยนะ แต่กาแฟที่นี่อร่อยกว่าที่ไหน" “เอาล่ะ หลังจากนี้เราจะไปไหนกันต่อดี?” จีนถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ขณะมองไปรอบๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนและบรรยากาศที่มีชีวิตชีวา แซมยิ้มกว้าง “ฉันได้ยินมาว่าที่ Uffizi Gallery มีนิทรรศการใหม่เปิดอยู่ เราอาจจะไปดูศิลปะที่นั่นกันไหม?” เขาเสนอความคิดขึ้นมาอย่างกระตือรือร้น “น่าสนใจมาก!” จีนตอบเสียงใส “แต่ถ้าหากเราจะไปที่นั่น เราควรหาอาหารกลางวันก่อนหรือเปล่า? ฉันยังหิวอยู่เลย” “จริงด้วย! มีร้านอาหารที่ฉันเคยไปเมื่อครั้งก่อนอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ มันมีพาสต้าที่อร่อยมาก” แซมเสนอ “หลังจากทานข้าวเสร็จ เราค่อยไปดูงานศิลปะกัน” “เยี่ยมไปเลย! จะได้เดินเล่นในฟลอเรนซ์ต่อด้วย” จีนพูดพร้อมยิ้มอย่างมีความสุข “แล้วถ้าเราไปหาร้านที่มีวิวสวยๆ ล่ะ? อยากนั่งดูผู้คนเดินผ่านไปมา” “แน่นอน! ฉันรู้จักร้านหนึ่งที่มีระเบียงอยู่ด้านนอก มองเห็นจัตุรัสได้ชัดเจน” แซมพูด ขณะเขาหยิบสมุดวาดภาพขึ้นมา “เราจะไม่เพียงแค่สนุกกับอาหาร แต่ยังได้แรงบันดาลใจในการวาดภาพด้วย” “เยี่ยมเลย!” จีนยิ้ม “ไปกันเถอะ! ฉันพร้อมแล้ว!” แช๊ะ แช๊ะ... ในขณะที่จีนและแซมนั่งพูดคุยกันอย่างมีความสุขที่ Piazza della Signoria เสียงชัตเตอร์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมุมหนึ่งของจัตุรัส ที่นั่นมีชายคนหนึ่งยืนอยู่ ท่ามกลางความวุ่นวายและเสียงหัวเราะของผู้คน เขามีหน้าที่ติดตามจีนตามคำสั่งของริค ชายคนนั้น ขณะกดชัตเตอร์เก็บภาพทุกอิริยาบถของจีนเอาไว้ จีนที่กำลังหัวเราะหรือยิ้มให้แซม ไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนคอยบันทึกทุกช่วงเวลาในชีวิตประจำวันของเขา อยู่ตลอดเวลา ควันซิการ์ลอยคลุ้งอยู่ในอากาศ มือใหญ่เลื่อนดูรูปที่ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสายตาของริคหรี่ตามองอย่างตั้งใจ เขารู้สึกถึงความไม่สบายใจที่เกิดขึ้นในใจ ไม่ได้การละ คงต้องพาตัวมาเลย เขาตัดสินใจทันที ความคิดที่จะทำให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเริ่มชัดเจนขึ้นในหัว คงไม่ใช่แค่ริคสินะที่หลงกลใบหน้าหวานๆ นั่น แต่ไม่มีทาง ไม่มีใครมาแย่งเขาได้หรอก ริคยิ้มเยาะในใจเมื่อคิดถึงสิ่งนี้ เขารู้ว่าจีนเป็นเหมือนดอกไม้ที่ดึงดูดทุกสายตา แต่เขาเป็นคนเดียวที่ได้สัมผัสความงามนั้นอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ควันซิการ์ยังคงลอยฟุ้ง ริคพยายามควบคุมอารมณ์ภายใน เขาไม่ต้องการให้ใครมาเข้ามาใกล้ชิดกับจีนมากเกินไป ริคอยากลองดู เมื่อเขาได้เด็กหนุ่มนั่นมาครอบครองแล้ว ความอยากที่คุกรุ่นในใจนี่อาจจะหายไป แต่ในขณะเดียวกัน ความรู้สึกนี้ก็ทำให้เขาเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวเอง ว่าทำไมถึงรู้สึกเช่นนี้ถึงจีนนัก? เขามองไปยังภาพของจีนที่ปรากฏบนหน้าจอ มันเหมือนดั่งแรงดึงดูดที่ไม่อาจต้านทานได้ ใบหน้าหวานๆ รอยยิ้มสดใส และแววตาที่เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ ทำให้เขารู้สึกอยากเป็นเจ้าของ อยากให้จีนนั้นเป็นของเขาเพียงคนเดียว “ถ้าฉันได้เขามาครอบครอง คงจะไม่รู้สึกว้าวุ่นอีก” ริคคิดในใจ ขณะที่ความรู้สึกดิบเถื่อนเริ่มก่อตัวขึ้นในตัวเขา เขาต้องการให้จีนรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของ “บ้าเอ๊ย “แค่คิดความใหญ่โตก็พองแทบจะล้นกางเกงออกมาแล้ว ริครู้สึกถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เมื่อลมหายใจของเขาเริ่มถี่ขึ้น ความรู้สึกนี้ยากจะควบคุม เขาต้องการจีน เขาบ่นกับตัวเอง ขณะที่ความคิดพล่านไปทั่ว ไม่สามารถแยกแยะความรู้สึกได้ชัดเจน ริครู้ว่าเขาต้องไปหาจีนให้เร็วที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องทนอยู่ในสภาพนี้อีกต่อไป เมื่อรู้ว่าความต้องการของเขาไม่ได้จะหายไป แต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าเขาจะได้เป็นเจ้าของเด็กหนุ่มที่เขาหลงใหลอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ริคยืนพิงราวสะพานริอัลโต (Rialto Bridge) อย่างสง่างาม ดวงตาคมกริบของเขากวาดมองไปยังผืนน้ำของแกรนด์คาแนลที่ทอดยาวออกไป เรือกอนโดลาล่องลอยอย่างเงียบงาม ผืนน้ำสะท้อนเงาของอาคารเก่าแก่สไตล์เวนิสที่มีสีสันและแฝงไปด้วยประวัติศาสตร์ สะพานหินอ่อนที่เขายืนอยู่ได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวมากมาย แต่ในตอนนี้ ริคมีความคิดเพียงอย่างเดียว—การรอคอยการมาถึงของจีน สายลมอ่อนๆ จากคลองพัดมากระทบใบหน้า เขาไม่แสดงอาการกังวลออกมาให้เห็นแม้เพียงน้อย แต่ภายในเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและแผนการที่หมุนวนอยู่ในหัว ขณะที่เขาสังเกตเรือกอนโดลาที่ลอยผ่านไปมาในน้ำ เขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความสำคัญของสะพานแห่งนี้ สะพานริอัลโตเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อผู้คนของเวนิส นับตั้งแต่สร้างเสร็จในปลายศตวรรษที่ 16 จากการเป็นทางเชื่อมที่สำคัญของการค้า มาจนถึงวันนี้ที่ยังคงมีชีวิตชีวาด้วยตลาดอาหารทะเลสดๆ และสินค้าท้องถิ่น ที่อีกฟากหนึ่งของสะพาน เสียงตลาดริอัลโตดังก้องด้วยความคึกคัก เสียงแม่ค้าพ่อค้าขายปลาสดๆ และผลไม้ตามฤดูกาลดังแทรกผ่านความเงียบของริค ทว่าเขาแทบไม่ได้ใส่ใจต่อบรรยากาศรอบตัวมากนัก ในใจเขากลับจดจ่ออยู่กับการป
ริคที่มัวเมาอยู่กับร่างบอบบางที่เขาได้มาครอบครองครั้งแล้วครั้งเล่า รู้สึกเหมือนกับว่ามันเป็นมากกว่าการเสพติด มันกลายเป็นความต้องการที่เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยแค่ต้องการเขาในบางเวลา ตอนนี้กลับแทบต้องการตลอดเวลาทุกครั้งที่เขาได้สัมผัสกับผิวเนียนนุ่ม ความรู้สึกตื่นเต้นก็จะซัดเข้ามาในหัวใจ จนทำให้เขาหยุดคิดไม่ได้ ว่านี่มันอะไรกันแน่? ความรู้สึกนี้เหมือนกับไฟที่กำลังลุกโชน ลามไปทั่วร่างกาย ส่งผลให้เขาเกิดความร้อนรุ่มที่ไม่อาจหักห้ามใจได้คนอย่างริค ที่มักจะมีคนมาปรนเปรอรักให้แทบไม่ขาดสาย แต่ไม่มีใครเคยทำให้เขามัวเมาได้ขนาดนี้ เขาเคยมีความสัมพันธ์มากมายที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและอารมณ์ แต่กลับไม่มีใครที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเข้าสู่ความลุ่มหลงอันลึกซึ้งแบบนี้ภายในห้องนอนกว้าง ริคยืนอยู่ริมหน้าต่าง มือหนึ่งถือแก้วไวน์แดงสีเข้ม ขณะที่อีกมือจุดซิการ์ ควันลอยฟุ้งในอากาศ สะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดส่องเข้ามา ร่างของจีนที่นอนหลับอยู่บนที่นอนสีเข้ม เขาดูสงบและน่าอภิรมย์ ผมสั้นเรียบเนียนแนบไปกับหมอน ริมฝีปากที่เคยส่งเสียงครวญครางในคืนที่เต็มไปด้วยความรักตอนนี้ถูกปิดเงียบพวกเขาอยู่
หลังจากจิบกาแฟหอมๆ จีนรู้สึกมีชีวิตชีวาและตื่นเต้นที่จะสำรวจพิพิธภัณฑ์คาเรซซิโอ (Ca' Rezzonico) พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ตั้งอยู่ริมคลองกรันเด เขาเดินออกจากคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นและเสียงหัวเราะของผู้คนที่มารวมตัวกัน ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงเมื่อเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ จีนถูกดึงดูดโดยความงดงามของสถาปัตยกรรมอันประณีตและงานศิลปะที่จัดแสดงอย่างพิถีพิถัน ภายในอาคารที่ส่องแสงทองอร่าม เขารู้สึกเหมือนกำลังเดินเข้าสู่โลกแห่งประวัติศาสตร์และความสวยงามที่สร้างสรรค์มาอย่างช้านานจีนเดินไปตามห้องต่างๆ ที่เต็มไปด้วยภาพวาดที่มีชีวิตชีวา เขาหยุดมองภาพวาดที่สื่อถึงความรักและความงาม โดยเฉพาะภาพของหญิงสาวที่มีสีสันอ่อนโยน รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ซึ่งทำให้เขารู้สึกตื้นตัน ความรู้สึกนี้พาเขาย้อนกลับไปถึงช่วงเวลาที่เขาเคยมีความรักอันงดงามและท้าทายเสียงก้าวเท้าของผู้คนและเสียงกระซิบเบาๆ ของนักท่องเที่ยวเป็นพื้นหลังที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศให้มีชีวิตชีวามากขึ้น เขาเฝ้าดูรายละเอียดของแต่ละชิ้นงาน ศิลปินได้ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกผ่านสีสันและเส้นสายทำให้เขารู้สึกถึงแรงบันดาลใจและความหลงใหลในศิลปะ
พายุรักเร่าร้อนสงบลงและความเงียบสงบเริ่มแผ่ไปทั่วพื้นที่ ทั้งสองนั่งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่มองลงไปเห็น Rio di Palazzo คลองที่เชื่อมระหว่าง พระราชวังดอจ (Doge's Palace) กับ คุกเก่า (Old Prisons) โดยตรง แสงจันทร์ส่องสะท้อนบนผืนน้ำทำให้บรรยากาศโรแมนติกยิ่งขึ้นจีนซบอยู่บนร่างใหญ่ของริคอย่างเหนื่อยอ่อน รู้สึกถึงความอบอุ่นจากตัวเขา ริคนั่งพิงรถ มือข้างหนึ่งโอบรัดเอวของจีนแน่น ส่วนอีกมือยกซิการ์ขึ้นดูดพลางปล่อยควันออกมาอย่างเยือกเย็น"อย่าคิดหนีไปจากฉันอีก นายเป็นของฉันแล้ว" ริคพูดเสียงแหบพร่า ลมหายใจยังร้อนจากแรงปรารถนาที่คุกรุ่นอยู่ข้างใน เขาลูบแขนจีนเบาๆ ขณะจ้องมองใบหน้าของเด็กหนุ่มที่ยังคงหลงเหลือรอยอ่อนล้าจากช่วงเวลาที่ผ่านมาจีนหายใจหอบเล็กน้อย ขมวดคิ้วแล้วบ่นออกมา "อย่างกะคุณจะให้ผมหนีได้" เสียงของเขามีทั้งความขบถและความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งดื้อรั้นและเง้างอนในเวลาเดียวกันริคหัวเราะหึๆ เสียงทุ้มลึกของเขาก้องไปในความมืด “ใช่แล้ว ไม่มีทางที่ฉันจะปล่อยนายไป” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะโน้มตัวลงมาใกล้ สัมผัสริมฝีปากที่แข็งแรงของเขาแนบชิดกับใบหูของจีน ทำให้เด็กหนุ่มต้องหลับตาแน่น ปล่อยให
หลังจากงานเสร็จสิ้น มาร์คหันมาถามริคในรถด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ "ได้ข่าวว่ามีของเล่นใหม่?" น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความสนใจ ริคเหลือบมองมาร์คก่อนจะอมยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ เพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัย มาร์คมองริคอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่แฝงความเป็นห่วง “ระวังไว้นะ... ของเล่นชิ้นนั้นอาจกลายมาเป็นจุดอ่อนของนาย” เขายิ้มมุมปาก แต่สายตากลับเต็มไปด้วยความจริงจัง ราวกับรู้ว่าเรื่องนี้อาจทำให้ริคสะดุดในเกมที่พวกเขาเล่นอยู่ริคนั่งนิ่งในรถ สายตาของเขาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง แต่ความคิดกลับวนเวียนอยู่กับเด็กหนุ่มที่เขาเพิ่งจากมา เขายังไม่รู้... ริคคิดในใจ แต่ที่แน่ ๆ ฉันหวงเด็กนั่นมาก... มากจนไม่อยากให้ใครเข้าใกล้หรือแตะต้องความรู้สึกนี้มันล้ำลึกเกินกว่าที่เขาจะคาดคิด ความหวงแหนที่ไม่เคยมีต่อใครมาก่อน ริคกัดฟันเล็กน้อย รู้ดีว่าความรู้สึกนี้อาจกลายเป็นจุดอ่อน เป็นสิ่งที่เขาไม่ควรมีในโลกที่เต็มไปด้วยอันตรายและการทรยศ แต่เขาห้ามตัวเองไม่ได้... …………………………………………………….. ริค คอนติ พาจีนมายืนอยู่หน้าสะพานถอนหายใจ (Bridge of Sighs) สถานที่ที่โด่งดังแห่งเวนิส สะพานเชื่อมระหว่าง
“อาา… ริค!” จีนส่งเสียงออกมาในขณะที่ริมฝีปากของริคสัมผัสกับผิวของเขา ร่างกายของเขาสั่นสะท้านเมื่อริคเริ่มปลดกระดุมเสื้อของเขาอย่างไม่รีบร้อนในขณะที่ด้านนอกห้องทำงานกำลังคุกรุ่นด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียด เสียงกรีดร้องและการทะเลาะวิวาทดังมาจากข้างนอก แต่ภายในห้องกลับร้อนแรงดั่งไฟ สองร่างกำลังอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน“ให้ฉันทำให้มันร้อนขึ้นอีก” ริคกระซิบเสียงต่ำ ริมฝีปากของเขาไล่ต่ำลงไปตามแนวกรามของจีน ขณะที่มือของเขาก็สัมผัสไปที่ต้นขา ทำให้จีนรู้สึกถึงความร้อนที่เริ่มลามไปทั่วร่างกาย“ไม่… ริค…” จีนพยายามจะขัดขืน แต่เสียงของเขากลับเต็มไปด้วยความหวั่นไหว สถานการณ์ภายนอกดูเหมือนจะไม่เป็นปัญหาในขณะนี้ เขารู้สึกว่าตัวเองตกอยู่ในบ่วงแห่งความเร่าร้อน“ไม่ต้องห่วง” ริคพูดเสียงลึกล้ำ “ไม่มีใครจะมารบกวนเรา” เขาใช้มืออีกข้างหนึ่งบีบแก้มของจีนอย่างเบามือ แต่เต็มไปด้วยความมั่นคง “แค่มีเรา… และความต้องการนี้”“อาา…” จีนครางออกมาอีกครั้งเมื่อริคโน้มตัวเข้ามาใกล้และจูบเขาอย่างดุเดือด จีนตอบสนองด้วยการยืดตัวเข้าหา ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยไฟที่ลุกโชนริคไม่สามารถควบคุมความต้องการของเขาได้อีกต่อไป