ขวัญยิหวาทำให้ชารัณขาดความมั่นใจในเสน่ห์ของตนที่มีอย่างล้นเหลือ ถึงแม้เขาจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้เธอสักครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ยินยอม
ด้วยความที่อยากได้เธอมาครอบครอง เขาจึงต้องว่าจ้างให้หญิงสาวมาเป็นคนรักชั่วคราวของเขาในราคาสามล้าน พอเจ้าตัวได้ยินตัวเลขเท่านั้นดันตอบตกลงทันที แต่ก็ยังคงมีข้อแม้กลับมาให้อีกว่า...ขอรับจ้างงานนี้เป็นเวลาแค่หกเดือน
เป็นคนรักกันแค่หกเดือนเพื่อแลกกับเงินสามล้านนี่นะ!
สงสัยเจ้าตัวน่าจะอ่านนิยายน้ำเน่ามากเกินไป
ถามว่าเขายอมไหม?
ยอมสิถามได้...ในเมื่อเงินสามล้านนั่น ชารัณสามารถหาได้โดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที
แต่ถึงอย่างนั้นชารัณก็ได้บอกให้เธอมาตกลงทำสัญญาด้วยกันที่บ้าน เพียงเพราะเขาต้องการจะแกล้งเธอเล่นเพราะเห็นว่ามันสนุกดี ที่สำคัญเขาถูกใจที่ได้เจอกับผู้หญิงมือหนึ่ง ถึงแม้ขวัญยิหวาจะเรียกราคาเขามากยิ่งกว่านี้ เขาก็ยินดีที่จะจ่ายให้เธอ
“ฉันแค่อยากรู้ความจริงว่า ทำไมเธอถึงได้ตัดสินใจเอาตัวเข้าแลกกับเงินแบบนี้”
ขวัญยิหวาทำท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ต้องยอมบอกเขาออกไปตามตรง
“ชีวิตของฉันมีค่ามากมาย ไหนจะค่าเช่าหอ ไหนจะค่าเทอม แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ เพราะจู่ ๆ คนที่เคยส่งเสียฉันเขาก็หายตัวไป จนป่านนี้แล้วเขาก็ยังไม่ติดต่อฉันกลับมาเลย”
“แค่นั้นหางานพาร์ทไทม์ทำ ก็น่าจะพอแล้วมั้ง”
“ก็มันไม่พอไง เพราะตอนที่แม่ฉันยังอยู่ท่านได้ล้มป่วยด้วยโรคเรื้อรังและไม่มีทางรักษาให้หาย เงินที่หามาได้กับที่ยืมเขามารักษาก็แค่ยื้อเวลาให้ท่านได้อยู่กับเราได้นานขึ้น สุดท้ายท่านก็มาจากเราไป ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชายของฉันหายตัวไป ฉันก็คงไม่ถูกเจ้าหนี้พวกนั้น ตามไปทวงหนี้จนถึงที่มหาวิทยาลัยหรอก...ที่สำคัญฉันไม่อยากให้การเรียนสะดุด เพราะอีกไม่กี่เดือนฉันก็จะเรียนจบอยู่แล้วไง เรื่องมันก็มีเท่านี้แหละไม่ได้ซับซ้อนอะไร”
พอได้ฟังเรื่องที่หญิงสาวเล่ามา ชารัณก็เริ่มเข้าใจในเหตุผลของอีกคนนั่นแหละ แต่ก็ยังอยากจะถามเธอต่อไปอีกว่า
“หากเป็นคนแก่หัวล้านพุงพลุ้ยเธอก็ไม่เกี่ยงเลยงั้นเหรอ?” ยิ่งถาม...ชารันก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดตามกับคำถามของตัวเอง
“ทีแรกก็คิดยังงั้น แต่พอเอาเข้าจริงฉันก็ไม่อยากทำ ยิ่งได้ยินคำพูดเหยียบย่ำทำราวฉันเป็นสินค้าแล้วตีราคากันแบบนั้น ฉันก็เลยคิดเปลี่ยนใจ”
“งั้นฉันขอถามข้อสุดท้าย เธอมีแฟนรึยัง?”
“ไม่เคยมี...รักไม่ยุ่งมุ่งแต่เรียน นี่คือคติประจำใจของฉัน”
“ฉันจะโอนเงินนั่นให้เธอทันที หลังจากที่เราเซ็นสัญญากันเรียบร้อย และเธอต้องอยู่ที่นี่”
“โอนทันทีเลยงั้นเหรอ...จริงเหรอ!นี่ฉันหูไม่ฝาดใช่ไหม?”
“ฉันจะโกหกเธอไปเพื่ออะไร แต่เงินจำนวนนั้นมันก็ต้องแลกกับการทำงานที่สมน้ำสมเนื้อ แต่ฉันยังอดคิดไม่ได้เลยว่า กับการที่จะต้องจ้างผู้หญิงให้มาแกล้งทำเป็นคนรักหลอกตาชาวบ้าน เป็นเงินตั้งสามล้านนั่นมันน่าจะมากไปไหม ขอต่อให้เหลือสักล้านห้าก็น่าจะพอ”
“คุณต่อฉัน...งั้นฉันขอขึ้นเป็นห้าล้านเลยละกัน”
เธอพูดหน้าตาย ทำราวกับถือไพ่เหนือกว่า แต่ถ้าเขาให้จริงตามนั้นมันก็ดีไม่ใช่เหรอ เพราะเธอจะนำเอาที่ได้ไปเรียนต่อจนถึงขั้นเป็นด็อกเตอร์ โดยที่เธอไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนเป็นพี่ชาย อีกทั้งยังช่วยให้เขาได้เรียนต่อในระดับที่เขาต้องการ และได้ทำอาชีพตามที่เขาไฝ่ฝันเช่นเดียวกันกับเธอ
“อื้อหื้อขวัญยิหวา...ราคานั้นฉันสามารถจ้างระดับนางเอกหนังได้อีกตั้งหลายคนเลยนะ”
“งั้นก็สามล้านตามนั้นก็ได้ แต่ไม่ใช่ล้านห้า”
“ฉันขอคิดสักสามวัน...เพื่อประกอบการตัดสินใจ...”
“ฉันรอไม่ได้ ทีแรกคุณเป็นคนเสนอฉันมาเองนะ ขอร้องละคุณอย่ามาทำให้ฉันต้องฝันค้าง ถ้าคิดจะเอาผู้หญิงข้างทางมาทำเรื่องแบบนั้น คุณไม่จำเป็นต้องมาจ้างฉันก็ได้ พอหลุดปากพูดเรื่องเงินออกมา แต่ไม่มีปัญญาจะจ่ายก็เลยมาทำท่ามาก?”
เมื่อหลังชนฝาขวัญยิหวาก็ไม่มีอะไรต้องเสีย เพราะถึงยังไงกุลธิดาก็ต้องเอาเรื่องที่เธอขายตัวไปเที่ยวโพธนาให้ใครต่อใครได้รู้แล้วนั่นแหละ
และหากต้องเดินหน้าต่อไป มันก็ควรจะมีค่าตอบแทนที่สมน้ำสมเนื้อ เพื่อศักดิ์ศรีและชื่อเสียงของเธอที่เสียไปบ้าง
“ฉันไม่มีทางถอยกลับไป โดยที่เสียศักดิ์ศรีหรือเสียชื่อเสียงฟรีๆ หรอกนะ ถ้าคิดจะพูดหรือทำอะไรตั้งแต่ต้นก็ควรจะทำให้มันจบ ถ้าคุณไม่ตกลงคุณก็ต้องจ่ายค่าชดเชยมาให้ฉัน แล้วก็เอาฉันไปส่งให้ด้วย”
“นี่เธอกำลังสั่งคนอย่างฉันงั้นเหรอยิหวา”
“ฉันไม่ได้สั่งแต่คุณต่างหากที่กำลังผิดคำพูด ฉันเคยได้ยินมาว่าพวกมาเฟียพูดจาคำไหนคำนั้น สงสัยแล้วละว่ามันน่าจะเป็นข่าวลวง”
ตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ไม่มีใครเคยกล้า ที่จะต่อปากต่อกับเขาเลยสักคน จนกระทั่งได้มาเจอกับผู้หญิงคนนี้
ขวัญยิหวากำลังหักล้างในสิ่งที่เขาเคยทำมันมาทั้งหมด คนที่กล้าต่อล้อต่อเถียงกับมาเฟียอย่างเขา หากไม่บ้าบิ่นมากๆ ก็เรียกได้ว่า เสียสติอย่างที่สุด
ชารัณรู้สึกสนุกอีกทั้งยังชื่นชอบผู้หญิงตรงหน้า และเธอทำให้เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาในท่าทาง มิหนำซ้ำแววตานั่นมันก็ดูคล้ายกับใครบางคน“เรื่องเงินฉันไม่มีปัญหา ดูแค่ฉันจ่ายค่าตัวของเธอไปเมื่อคืนนั่นก็หลักแสนแล้วมั้ง แต่เรื่องนั้นเอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง และตอนนี้ฉันได้สั่งคนของฉัน ให้ไปจัดการกับยายแม่เล้าที่เอาเธอมาส่งให้ฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นหัวหมอ เพราะยังมาขอเก็บเงินในส่วนที่ฉันต้องการจ่ายให้เธอเอาเข้ากระเป๋าของตัวเองได้อย่างหน้าด้านๆ คนคดในข้องอในกระดูกแบบนั้นฉันละเกลียดที่สุด”ดวงตาของชารัณแข็งกร้าวดุดันตอนพูด ชวนให้ขวัญยิหวารู้สึกขนลุกซู่ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะลงมือทำอะไรกับกุลธิดา แต่ที่แน่ๆ หลังจากนี้ไปเธอคงต้องใช้สติและสมองของตนเพื่อไม่ให้เสียเปรียบผู้ชายคนนี้ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าของขวัญยิหวานั่นเอง“เมื่อเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน แล้วหลังจากที่เราต้องจากกันตามระยะเวลาที่กำหนด เธอไม่กลัวเหรอว่าถ้าต่อไปหากมีผู้ชายดีๆ เขารู้ประวัตินี้ของเธอ แล้วเขาเกิดรับไม่ได้เธอจะทำยังไง”“เรื่องนั้นฉันจะต้องสนทำไมละคะ ในเมื่อสังคมทุกวันนี้ผู้ชายส่วนใหญ่เขาไม่ได้ยึดติดกับผู้หญิงที่ซิงหร
“ว้าว!”ฉันสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!? ขวัญยิหวาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองเห็นภาพของตน สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ภาพสะท้อนของผู้หญิงในนั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ จากฝีมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหน้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแม่เล้า...ซึ่งมีหน้าที่คอยเสาะหาหญิงสาว เพื่อเอาไปบำเรอความใคร่ ให้กับบรรดาพวกผู้ชายทั้งหลายเหล่านั้นและแน่นอนว่าขวัญยิหวา ก็กำลังจะกลายเป็นเด็กไซด์ไลน์ในชั่วโมงถัดไป ด้วยความเต็มใจและยินดีโดยที่ไม่มีใครบังคับขวัญยิหวาถูกจับแต่งหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว และใส่เสื้อสายเดี่ยวที่ผูกเกี่ยวกันไว้ที่หลังคอ พอๆ กับกระโปรงสั้นที่ใส่แนบไปกับเรือนร่าง ซึ่งรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างลงตัวขวัญยิหวาเป็นนักศึกษาเรียนดี ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยทำให้คนเป็นอาจารย์ หรือเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องของเธอต้องผิดหวัง เพราะด้วยมันสมองและความตั้งใจบวกกับความขยัน มันจึงทำให้หญิงสาวกลายเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของสถาบันแต่มันก็แค่นั้นเอง...เรียนดีเรียนเก่งแล้วเป็นยังไง...เพราะเมื่อสุดท้ายหากเธอมีเงินไม่มากพอ มันก็ทำให้ไปต่อ
ชารัณ เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มและดูน่าเกรงขาม แถมเจ้าตัวยังมีรูปงามตรงตามสเปคในแบบที่หญิงสาวทั้งหลายเฝ้าไฝ่ฝันเจ้าของร่างใหญ่ไม่ใช่ลุงพุงพลุ้ยหัวล้าน รูปร่างเตี้ยล่ำอย่างที่ขวัญยิหวาคาดเดานั่นเลยสักนิด หากดูไม่ผิดอายุของเขาน่าจะยังไม่เกินสามสิบปี และที่สำคัญกว่านั้นในความหล่อนั่นมันยังดูดุดันอยู่ในที เขาจ้องมองขวัญยิหวาด้วยนัยน์ตาที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ แต่สายตาของเขามันทำให้คนถูกมอง ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะเจ้าของร่างใหญ่เอาแต่มองสบตากับอีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมละสายตา แล้วเมื่อกุลธิดาเห็นอย่างนั้นเธอถึงกับอุทานออกมาทันที“อุ้ยดูสิ คุณชารัณคงจะถูกใจกับสินค้าของธิดามากเลยใช่ไหมคะ ธิดาขอรับประกันเลยค่ะว่า ขวัญยิหวาคือของใหม่แกะกล่อง ที่ยังไม่เคยผ่านมือของใครมาทั้งนั้น”ขวัญยิหวาถึงกับหน้าม้าน เมื่อได้ยินกุลธิดาพูดถึงเธอราวกับว่า เธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชารัณก็ไม่ได้สนใจฟังคำสาธยายของคนเป็นนายหน้า เพราะสายตาของเขามัวแต่จับจ้องมองอีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังถึงแม้ขวัญยิหวาจะมีอาการตื่นกลัวเขาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็ยังสามารถควบคุมสติของตัวเองได้ดี “หม
รถยนต์คันหรูค่อย ๆ วิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี ที่เป็นอาคารแบบโรมันร่วมสมัย ซึ่งถูกปลูกสร้างบนพื้นที่กว่าสามสิบไร่ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในใจกลางเมืองตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี มีความเฟื่องฟูและร่ำรวยมานาน ด้วยการทำธุรกิจสีขาวแต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็น่าจะเป็นสีเทาเสียมากกว่า แล้วที่ยืนยงและสามารถอยู่ท้าทายสายตา ของผู้คนได้จนถึงทุกวันนี้ เนื่องมาจากพวกเขามีเส้นสายอยู่มาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะถูกโค่นล้มให้จมลงง่ายๆเมื่อล้อกลมสีดำจอดสนิท ประตูรถที่ถูกปิดไว้ได้ถูกเปิดออกให้ ด้วยฝีมือของคนคุ้มกันที่อยู่ในชุดสูทสีเดียวกัน และทันทีที่ปลายเท้าของชารัณหย่อนลงถึงพื้น เสียงของลูกน้องที่ยืนอยู่ก็ดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง“ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้านาย”ชารัณเพียงแค่พยักหน้าให้เบาๆ ก่อนที่เขาจะเบี่ยงหน้าหันไปมองอีกคน ที่กำลังลงจากรถยนต์ตามกันออกมาขวัญยิหวาในสภาพที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคล่ง ซึ่งคลุมชุดกระโปรงของเธอที่ใส่เอาไว้จนเกือบจะถึงหัวเข่า และใบหน้าของหญิงสาวก็ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอางที่ผสมกับคราบของน้ำตาแล้วเมื่อลูกน้องทุกคนเห็นเจ้านายพาผู้หญิงก
ชารัณรู้สึกสนุกอีกทั้งยังชื่นชอบผู้หญิงตรงหน้า และเธอทำให้เขารู้สึกคลับคล้ายคลับคลาในท่าทาง มิหนำซ้ำแววตานั่นมันก็ดูคล้ายกับใครบางคน“เรื่องเงินฉันไม่มีปัญหา ดูแค่ฉันจ่ายค่าตัวของเธอไปเมื่อคืนนั่นก็หลักแสนแล้วมั้ง แต่เรื่องนั้นเอาไว้เราค่อยคุยกันทีหลัง และตอนนี้ฉันได้สั่งคนของฉัน ให้ไปจัดการกับยายแม่เล้าที่เอาเธอมาส่งให้ฉันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นหัวหมอ เพราะยังมาขอเก็บเงินในส่วนที่ฉันต้องการจ่ายให้เธอเอาเข้ากระเป๋าของตัวเองได้อย่างหน้าด้านๆ คนคดในข้องอในกระดูกแบบนั้นฉันละเกลียดที่สุด”ดวงตาของชารัณแข็งกร้าวดุดันตอนพูด ชวนให้ขวัญยิหวารู้สึกขนลุกซู่ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะลงมือทำอะไรกับกุลธิดา แต่ที่แน่ๆ หลังจากนี้ไปเธอคงต้องใช้สติและสมองของตนเพื่อไม่ให้เสียเปรียบผู้ชายคนนี้ อย่างน้อยก็เพื่ออนาคตในวันข้างหน้าของขวัญยิหวานั่นเอง“เมื่อเธอยอมรับข้อเสนอของฉัน แล้วหลังจากที่เราต้องจากกันตามระยะเวลาที่กำหนด เธอไม่กลัวเหรอว่าถ้าต่อไปหากมีผู้ชายดีๆ เขารู้ประวัตินี้ของเธอ แล้วเขาเกิดรับไม่ได้เธอจะทำยังไง”“เรื่องนั้นฉันจะต้องสนทำไมละคะ ในเมื่อสังคมทุกวันนี้ผู้ชายส่วนใหญ่เขาไม่ได้ยึดติดกับผู้หญิงที่ซิงหร
ขวัญยิหวาทำให้ชารัณขาดความมั่นใจในเสน่ห์ของตนที่มีอย่างล้นเหลือ ถึงแม้เขาจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้เธอสักครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ยินยอมด้วยความที่อยากได้เธอมาครอบครอง เขาจึงต้องว่าจ้างให้หญิงสาวมาเป็นคนรักชั่วคราวของเขาในราคาสามล้าน พอเจ้าตัวได้ยินตัวเลขเท่านั้นดันตอบตกลงทันที แต่ก็ยังคงมีข้อแม้กลับมาให้อีกว่า...ขอรับจ้างงานนี้เป็นเวลาแค่หกเดือนเป็นคนรักกันแค่หกเดือนเพื่อแลกกับเงินสามล้านนี่นะ!สงสัยเจ้าตัวน่าจะอ่านนิยายน้ำเน่ามากเกินไป ถามว่าเขายอมไหม?ยอมสิถามได้...ในเมื่อเงินสามล้านนั่น ชารัณสามารถหาได้โดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีแต่ถึงอย่างนั้นชารัณก็ได้บอกให้เธอมาตกลงทำสัญญาด้วยกันที่บ้าน เพียงเพราะเขาต้องการจะแกล้งเธอเล่นเพราะเห็นว่ามันสนุกดี ที่สำคัญเขาถูกใจที่ได้เจอกับผู้หญิงมือหนึ่ง ถึงแม้ขวัญยิหวาจะเรียกราคาเขามากยิ่งกว่านี้ เขาก็ยินดีที่จะจ่ายให้เธอ“ฉันแค่อยากรู้ความจริงว่า ทำไมเธอถึงได้ตัดสินใจเอาตัวเข้าแลกกับเงินแบบนี้”ขวัญยิหวาทำท่าทางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่ก็ต้องยอมบอกเขาออกไปตามตรง“ชีวิตของฉันมีค่ามากมาย ไหนจะค่าเช่าหอ ไหนจะค่าเทอม แล้วค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆ เพราะจู่ ๆ คนที่เ
รถยนต์คันหรูค่อย ๆ วิ่งเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ของตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี ที่เป็นอาคารแบบโรมันร่วมสมัย ซึ่งถูกปลูกสร้างบนพื้นที่กว่าสามสิบไร่ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ในใจกลางเมืองตระกูลพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวี มีความเฟื่องฟูและร่ำรวยมานาน ด้วยการทำธุรกิจสีขาวแต่ส่วนใหญ่ที่เห็นก็น่าจะเป็นสีเทาเสียมากกว่า แล้วที่ยืนยงและสามารถอยู่ท้าทายสายตา ของผู้คนได้จนถึงทุกวันนี้ เนื่องมาจากพวกเขามีเส้นสายอยู่มาก มันจึงเป็นเรื่องยากที่จะถูกโค่นล้มให้จมลงง่ายๆเมื่อล้อกลมสีดำจอดสนิท ประตูรถที่ถูกปิดไว้ได้ถูกเปิดออกให้ ด้วยฝีมือของคนคุ้มกันที่อยู่ในชุดสูทสีเดียวกัน และทันทีที่ปลายเท้าของชารัณหย่อนลงถึงพื้น เสียงของลูกน้องที่ยืนอยู่ก็ดังขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง“ยินดีต้อนรับกลับครับเจ้านาย”ชารัณเพียงแค่พยักหน้าให้เบาๆ ก่อนที่เขาจะเบี่ยงหน้าหันไปมองอีกคน ที่กำลังลงจากรถยนต์ตามกันออกมาขวัญยิหวาในสภาพที่สวมเพียงเสื้อยืดตัวโคล่ง ซึ่งคลุมชุดกระโปรงของเธอที่ใส่เอาไว้จนเกือบจะถึงหัวเข่า และใบหน้าของหญิงสาวก็ยังเปรอะเปื้อนไปด้วยเครื่องสำอางที่ผสมกับคราบของน้ำตาแล้วเมื่อลูกน้องทุกคนเห็นเจ้านายพาผู้หญิงก
ชารัณ เป็นชายหนุ่มที่มีใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มและดูน่าเกรงขาม แถมเจ้าตัวยังมีรูปงามตรงตามสเปคในแบบที่หญิงสาวทั้งหลายเฝ้าไฝ่ฝันเจ้าของร่างใหญ่ไม่ใช่ลุงพุงพลุ้ยหัวล้าน รูปร่างเตี้ยล่ำอย่างที่ขวัญยิหวาคาดเดานั่นเลยสักนิด หากดูไม่ผิดอายุของเขาน่าจะยังไม่เกินสามสิบปี และที่สำคัญกว่านั้นในความหล่อนั่นมันยังดูดุดันอยู่ในที เขาจ้องมองขวัญยิหวาด้วยนัยน์ตาที่ไม่สามารถจะคาดเดาได้ แต่สายตาของเขามันทำให้คนถูกมอง ถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะเจ้าของร่างใหญ่เอาแต่มองสบตากับอีกฝ่ายอย่างที่ไม่ยอมละสายตา แล้วเมื่อกุลธิดาเห็นอย่างนั้นเธอถึงกับอุทานออกมาทันที“อุ้ยดูสิ คุณชารัณคงจะถูกใจกับสินค้าของธิดามากเลยใช่ไหมคะ ธิดาขอรับประกันเลยค่ะว่า ขวัญยิหวาคือของใหม่แกะกล่อง ที่ยังไม่เคยผ่านมือของใครมาทั้งนั้น”ขวัญยิหวาถึงกับหน้าม้าน เมื่อได้ยินกุลธิดาพูดถึงเธอราวกับว่า เธอเป็นแค่สินค้าชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งชารัณก็ไม่ได้สนใจฟังคำสาธยายของคนเป็นนายหน้า เพราะสายตาของเขามัวแต่จับจ้องมองอีกคนที่กำลังยืนอยู่ด้านหลังถึงแม้ขวัญยิหวาจะมีอาการตื่นกลัวเขาอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็ยังสามารถควบคุมสติของตัวเองได้ดี “หม
“ว้าว!”ฉันสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย!? ขวัญยิหวาอุทานออกมาอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เมื่อมองเห็นภาพของตน สะท้อนอยู่บนกระจกเงาบานใหญ่ภาพสะท้อนของผู้หญิงในนั้นดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ จากฝีมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นนายหน้า หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าแม่เล้า...ซึ่งมีหน้าที่คอยเสาะหาหญิงสาว เพื่อเอาไปบำเรอความใคร่ ให้กับบรรดาพวกผู้ชายทั้งหลายเหล่านั้นและแน่นอนว่าขวัญยิหวา ก็กำลังจะกลายเป็นเด็กไซด์ไลน์ในชั่วโมงถัดไป ด้วยความเต็มใจและยินดีโดยที่ไม่มีใครบังคับขวัญยิหวาถูกจับแต่งหน้าให้ดูโฉบเฉี่ยว และใส่เสื้อสายเดี่ยวที่ผูกเกี่ยวกันไว้ที่หลังคอ พอๆ กับกระโปรงสั้นที่ใส่แนบไปกับเรือนร่าง ซึ่งรับกับส่วนเว้าส่วนโค้งของเธอได้อย่างลงตัวขวัญยิหวาเป็นนักศึกษาเรียนดี ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ซึ่งเธอไม่เคยทำให้คนเป็นอาจารย์ หรือเหล่าบรรดาเพื่อนพ้องของเธอต้องผิดหวัง เพราะด้วยมันสมองและความตั้งใจบวกกับความขยัน มันจึงทำให้หญิงสาวกลายเป็นนักศึกษาเกียรตินิยมที่อยู่ในอันดับต้นๆ ของสถาบันแต่มันก็แค่นั้นเอง...เรียนดีเรียนเก่งแล้วเป็นยังไง...เพราะเมื่อสุดท้ายหากเธอมีเงินไม่มากพอ มันก็ทำให้ไปต่อ