ชารัณรู้สึกสนใจขวัญยิหวาขึ้นมาแบบจริงจัง ยิ่งได้เห็นท่าทางสะดีดสะดิ้งคล้ายกับผู้หญิงที่ไม่เคยถูกชายใด แตะเนื้อต้องตัวมาก่อนเลยนั่น มันก็ยิ่งชวนให้เขาสนใจจนกล้าที่จะวางเงินค่าจ้าง เพราะต้องการใช้เธอทำอะไรบางอย่างให้กับตัวเอง
“พูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็ได้ว่า ฉันไม่ใช่พวกที่รักสนุกแล้วผูกพัน ที่สำคัญเราเริ่มต้นจากผลประโยชน์ที่ได้ด้วยกันทั้งคู่ เธอแค่ต้องการเงิน เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นการร่วมงานที่ถูกต้องและลงตัวที่สุดแล้ว”
ผู้ชายตรงหน้าถ้าไม่พูดถึงเรื่องรูปร่างหน้าตาแล้วเปรียบเรื่องนิสัย ก็ถือได้ว่าเป็นผู้ชายยอดแย่ที่สุดคนหนึ่ง ซึ่งเธอควรอยู่ให้ห่างจากเขามากที่สุด หากถ้าไม่ใช่ในเวลาทำงาน
“ฉันไม่ขอย้ายมาอยู่ที่นี่นะคะ อันนี้คือกฎของฉัน ” ขวัญยิหวาบอกจุดประสงค์หลักของตัวเองออกไป
เมื่อได้ยินอย่างนั้นเจ้าของร่างใหญ่จึงเลิกคิ้วสูงขึ้นรับ พร้อมกับเดินเข้ามาใกล้ ดวงตาคมของอีกฝ่ายทำเอาเธอหายใจไม่ทั่วท้อง
“มองกันแบบนั้นหมายความว่ายังไงคะ คุณเองก็กลัวไม่ใช่เหรอว่าฉันอาจจะเป็นแค่เด็กใจแตกมาย้อมแมวขาย แล้วการที่ต้องเอาเด็กใจแตกที่เห็นแก่เงินมาเลี้ยงไว้ภายในบ้าน มันอาจจะเป็นปัญหาตามมาทีหลังก็ได้” เธอให้เหตุผลกับเขาโดยเอาความไม่ดีของตัวเองมาอ้างแบบข้าง ๆ คู ๆ
“แต่ฉันอยากดูแลสินค้า ให้อยู่ในสายตาของตัวเองตลอดเวลา”
“ฉันไม่ใช่สินค้า!” เธอว่าเขากลับไปเสียงฉุน "แล้วคุณก็ช่วยเลิกพูดคำว่า ฉันเป็นสินค้าของคุณสักทีได้ไหมคะ?"
“เอาล่ะ...ไม่ใช่สินค้าก็ไม่ใช่สินค้า...ฉันยอมให้เธอกลับไปอยู่ที่เดิมก็ได้ งั้นวันนี้ช่วงค่ำเธอต้องเริ่มงานกับฉันทันที ส่วนเงินที่เหลือ เมื่อไหร่ที่ข้อความในมือถือของเธอเด้งเตือนขึ้นมา นั่นก็หมายความว่า การทำงานของเธอจะต้องเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ก่อนอื่นเธอควรกินยาที่แม่บ้านเตรียมเอาไว้ให้ จากนั้นก็เข้าไปเลือกเสื้อผ้าที่ควรสวมใส่ในงานเลี้ยงคืนนี้ แล้วอย่าลืมว่าผู้หญิงที่จะยืนอยู่เคียงข้างฉันได้ จะต้องเป็นคนที่ดูดีและสง่างาม...จำไว้”
“ฉันรู้แล้วค่ะ ไม่ต้องมาย้ำเพราะฉันไม่ใช่พวกผู้หญิงปัญญาอ่อนที่จะต้องมาย้ำกันซ้ำซาก” เจ้าตัวว่าขณะลุกขึ้นยืนแล้วกระแทกส้นเท้าเดินออกไป
และเธอก็ได้สังเกตุเห็นว่าคนรับใช้ที่ยืนรออยู่หน้าห้อง จะต้องได้รับอนุญาตจากชารัณเสียก่อน พวกหล่อนจึงจะสามารถกดรหัส เพื่อเปิดหรือปิดประตูทางเข้าและออกได้ มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกว่าคฤหาสน์หลังใหญ่หลังนี้ มันคือกรงดักหนูดี ๆ นี่เอง
เมื่อเดินมาถึงห้องด้านข้างซึ่งอยู่เยื้องถัดมาจากทางห้องนั่งเล่น ทำให้หญิงสาวได้เห็นประตูบานกว้าง ที่ถูกเปิดรอให้เธอเดินเข้าไปด้านใน พร้อมกับสาวใช้ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายกันราวกับถ่ายสำเนากันออกมา
เมื่อเดินเข้าไปถึงด้านในสุด สายตาของขวัญยิหวาก็ไปสะดุดกับชุดราตรี ที่มีพร้อมให้เธอเลือกใส่เป็นจำนวนที่นับไม่ได้ และพวกมันต่างถูกสวมเอาไว้ในหุ่นโชว์ รวมไปถึงเครื่องประดับที่ถูกจัดวางไว้บนโต๊ะด้านข้าง อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย และมีให้เธอเลือกไม่น้อยกว่าห้าชุด
แต่ทว่า...คนที่มีจุดยืนอย่างขวัญยิหวาก็ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจกับมันเท่าไหร่ เพราะของนอกกายทั้งหลายเหล่านั้น มันไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวต้องการ...
“แน่ใจนะว่าที่แกได้ยินมาทั้งหมดนั่น มันไม่ใช่ข่าวลือ”
ลลิตา ลูกสาวคนเดียวของตระกูลอิทธิวิเชียรกุล ซึ่งครองพื้นที่หากินอีกฝั่ง เอ่ยถามเอากับลูกน้องของเธอที่สั่งให้ไปตามสืบข่าวของชารันมาจากวงใน
ลลิตาเฝ้าคลั่งไคล้ชารัณ และตามติดชีวิตของเขามานานหลายปี เธอทำราวกับว่าชายหนุ่มคือรูปปั้นวีรบุรุษกรีซในสมัยกลางที่มีค่ามากมาย แต่ไม่สามารถจับต้องหรือเป็นเจ้าของมันได้
นอกจากผลประโยชน์ที่ทับซ้อนกัน ลลิตายังต้องการชารัณมาเป็นสามี เนื่องจากเขาเป็นคนที่มีความสามารถจนหาตัวจับได้ยาก ที่สำคัญในแวดวงของผู้มีอิทธิพลไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา
ชารัณเปรียบเหมือนเสือร้ายที่ไม่จำเป็นต้องออกล่าเหยื่อ ในเมื่อมีคนยกเอาไปถวายให้เจ้าตัวเขาถึงในถ้ำ เพราะด้วยอำนาจของพงษ์สวัสดิ์วัชรเสวีที่มีมานาน บวกกับสามารถของชารัณมันจึงเอื้อให้ธุรกิจเหล่านั้น ขยายกว้างออกไปมากจนยากที่จะล้มล้าง
“แน่ใจครับ...เพราะข่าวที่เราได้รับค่อนข้างน่าเชื่อถือ คือว่าวันนี้คุณชารัณจะนำผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นคู่หมั้น มาประกาศให้กับทุกคนในงานได้รับรู้”
“ใครกันนะที่กล้ามาล้วงคองูเห่า ฉันชักจะอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นแล้วสิ ว่ามันเป็นใครมาจากไหน”
“ยากครับ เพราะกว่าเราจะได้ข่าวนี้มาก็ถือว่าลำบากเต็มทน อยู่ ๆ ก็มีคนเห็นว่าผู้หญิงรูปร่างหน้าตาดีคนนั้น นั่งรถออกมาจากห้างสรรพสินค้าพร้อมกับคุณชารัณ และตอนนี้ยังไม่มีใครได้รู้ที่มาที่ไปของเธอเลยสักนิด รู้แค่ว่ามีกองกำลังอารักขาคอยตามติดเธอตลอดเวลา ผมว่างานนี้น่าจะเล่นยากอยู่นะครับ”
“ล้อมหน้าล้อมหลังขนาดนั้นคงหวงกันมากเลยสินะ อยากรู้นักว่าผู้หญิงประเภทไหน ที่สามารถทำให้ชารัณยอมเดินตามหลังมันได้ และคืนนี้ฉันจะต้องได้เห็นมัน!”
ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความรู้สึกโกรธจัดฉายชัดอยู่ในดวงตาคู่งาม มือบางสองข้างกำเข้าหากันแน่นอย่างรู้สึกคับแค้นใจ โดยที่ยังไม่ทันได้เห็นใบหน้าว่าที่คู่หมั้นของชารันที่ว่านั่นเลย
“ปล่อยฉัน! เอามือของแกออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้นะ!”“จะสะดีดสะดิ้งไปทำไมวะ ในเมื่อมึงก็น่าจะโดนไอ้ชารัณมันเอาไปแล้วตั้งหลายที แต่เดี๋ยวมึงก็จะได้รู้ว่าระหว่างไอ้ชารัณกับกู แล้วก็ผู้ชายพวกนั้น อย่างไหนจะถึงใจมึงกว่ากัน ฮ่าๆ” อนาวินหัวเราะร่า ก่อนหันหน้าไปทางลูกน้องคนหนึ่งซึ่งกำลังจับโทรศัพท์พร้อมกับกดบันทึกภาพไว้“พวกมึงต้องถ่ายให้ครบทุกช็อตเลยนะ เดี๋ยวกูจะเอามันให้ครบทุกท่า ซูมหน้าอีนี่ตอนที่กูขยี้มันให้ชัดๆ” อนาวินปลดเข็มขัดขณะที่พูดออกมาพร้อมกับมองเธอด้วยสายตาหื่นกระหาย“ไอ้ชาติชั่ว พวกมึงมันพวกชิงหมาเกิดชัดๆ เลวยิ่งกว่าสัตว์นรกเสียอีก...ไอ้…”เพี๊ยะ!อนาวินตบเข้าที่ใบหน้าของหญิงสาวอย่างแรง และแสดงความดิบเถื่อนของมันออกมา ด้วยการใช้มือฝ่ามือหนา บีบเข้าที่ลำคอของขวัญยิหวา พร้อมกับตะคอกใส่หน้าเธออีกครั้ง“มึงเป็นแค่กระหรี่ ยังกล้ามาด่าแล้วก็ขู่ใส่กูอีกเหรอ...วอนนักนะมึง! นอกจากมึงจะโดนพวกกูเอาจนตาย ศพของมึงก็น่าจะมีประโยชน์กับจรเข้ในบ่อนะ อย่างน้อยมึงจะได้รู้ว่าคนอย่างอนาวิน ไม่ใช่คนที่จะให้ผู้หญิงอย่างมึงมาขู่ได้ง่ายๆ”แก้มเนียนใสปรากฏริ้ว ของรอยนิ้วมือเด่นชัดขึ้นในนาทีนั้น ด้วยแรง
เมื่อคิดได้ดังนั้น กุลธิดาจึงมายืนดักรอขวัญยิหวา หลังจากที่รู้ว่าหญิงสาวเรียนจบในชั่วโมงสุดท้าย และกำลังเดินออกมาจากห้องเรียน“ยิหวา..."ขวัญยิหวาหันขวับพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นสูงเชิงสงสัย เมื่อเห็นว่าใครเป็นคนที่เรียกชื่อเธอกุลธิดา!"ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอยิหวา เราไปหาร้านนั่งดื่มชิลล์ชิลล์ แล้วดิวเรื่องงานกันหน่อยไหม?”“ฉันยังจะคุยอะไรกับเธอได้อีก ในเมื่องานแรกของฉันเธอก็ทำกันซะแล้ว”“อย่าพูดแบบนั้นสิ มันก็แค่เรื่องเล็กน้อยที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ดี แต่ครั้งนี้ไม่น่ามีปัญหา ถ้าเราคุยกันเรื่องผลประโยชน์ให้มันชัดเจนและลงตัว...”“หมายความว่ายังไง เธอจะให้ฉันไปรับงานแบบนั้นอีกน่ะเหรอ ไม่ล่ะ...แค่นี้ฉันก็ปวดหัวจะแย่อยู่แล้ว ”“แต่ลูกค้ารายนี้ ให้มากกว่าคนก่อนๆ อีกนะ มากกว่าหลายท่าตัวเชียวล่ะ”เงินที่ขวัญยิหวาได้มาจากชารัณมันก็มากพอแล้วนั่นแหละ แต่เธอไม่ต้องการเป็นนางบำเรอของเขา ไม่อยากเอาใจเข้าไปผูกพันแล้วรอวันที่เขาเบื่อหน่าย จากนั้นก็เขี่ยเธอทิ้งไปก่อนรับผู้หญิงคนใหม่เข้ามาแทน หากเธอหาเงินไปคืนเขาได้ เท่ากับจำนวนเงินที่เธอแบ่งเอาไปใช้หนี้ เธออาจกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติดังเดิมเมื่อคิดอย่างนั้น
ตั้งแต่ขวัญยิหวาเข้าไปพัวพันกับชีวิตของชารัณ ระบบความคิดและการใช้ชีวิตประจำวันของเธอค่อนข้างแปลกและดูแตกต่างจากเดิมมาก จากที่เคยไปไหนมาไหนตามลำพัง มันไม่ได้เป็นอย่างนั้นอีกต่อไปเมื่อชารัณได้ส่งธันวามาคอยดูแลความปลอดภัย ให้กับขวัญยิหวาถึงในรั้วของมหาลัย ซึ่งทำให้เธอรู้สึกอึดอัด แต่ก็ไม่กล้าขัดใจเพราะโดนเขาขู่เอาไว้เยอะแยะและวันนี้ก็เป็นอีกวันที่ธันวาตามมาส่งขวัญยิหวาจนถึงหน้าคณะ แต่ก่อนที่หญิงสาวจะก้าวเท้าออกมาจากรถยนต์ เธอได้หันไปพูดกับอีกคนหนึ่งว่า“วันนี้คุณธันวาไม่ต้องจอดรถรอยิหวาที่หน้าคณะได้ไหมคะ ถ้ายิหวาเรียนเสร็จแล้วจะรีบลงมาหาคุณทันที...”เพราะธันวามีอายุมากกว่าหญิงสาวหลายปี ดังนั้นเธอจึงให้เกียรติเขา ด้วยการเปลี่ยนสรรพนามนำหน้าของตัวเองเสียใหม่ เหมือนที่พูดกับเจ้านายของเขานั่นแหละ“ผมรู้ว่ามันอาจทำให้คุณอึดอัดใจ แต่คำสั่งของเจ้านาย เราถือว่าคือที่สุดครับ”พอได้ยินคำตอบของธันวา ขวัญยิหวาถึงกับทำหน้าเซ็ง แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่าอย่ายอมแพ้..“คุณธันวารู้ไหมว่าเพื่อนๆ ของยิหวา ต่างก็แสดงท่าทีหวาดกลัวพวกคุณมาก จากเพื่อนที่เคยสนิทกัน มาตอนนี้กลับตีตัวออกห่าง แถมบางคนยังเอาเรื่องขอ
ในห้องทำงาน ชารัณนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานตัวหนานุ่ม ดวงตาของชายหนุ่มกำลังไล่ดูภาพถ่ายในซองเอกสาร ที่เขาได้เก็บมันเอาไว้เป็นอย่างดี ซึ่งมันคือสำนวนของทางตำรวจที่ลูกน้องของเขาได้รวบรวมมาให้ในมือใหญ่ถือรูปถ่ายใบหนึ่งค้างไว้ แล้วภาพที่อยู่ด้านในมันคืออะไรสักอย่าง ซึ่งมีลักษณะรูปร่างคล้ายกับถูกไฟเผาเสียจนไหม้ดำ และทำให้มองไม่แทบออกเลยว่า มันเคยเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์มาก่อนหน้านั้น ที่สำคัญหลังจากตรวจดีเอนเอจากก้อนเนื้อชิ้นนี้ ถึงได้รู้ว่าเป็นของกันต์ธีลูกน้องมือดีของเขานั่นเอง ช่วงนั้นชารัณได้ข่าวมาว่าแก๊งของลลิตา กำลังทำท่าจะรวมเข้าเป็นแก๊งเดียวกันกับพวกมาเฟียต่างชาติ ซึ่งแก๊งต่างๆ ทั้งเล็กใหญ่อาจอยู่กันอย่างหวาดผวาหากถ้าลลิตาทำได้ และชารัณก็ต้องการข้อมูลเหล่านั้น เพื่อนำมันมาคลี่คลายปัญหา กันต์ธีจึงขออาสาแฝงตัวเข้าไปเพื่อล้วงเอาความลับ จากนั้นจึงส่งกลับมาให้คนเป็นนาย แต่ทุกอย่างได้สะดุดลงกลางคัน เมื่อการติดต่อสื่อสารจากกันต์ธีได้หายไป ต่อมาชารัณจึงได้ข่าวว่าลูกน้องของเขาถูกนำไปเผานั่งยาง ความแค้นของเขาจึงรอวันสะสาง เพื่อหวังล้างแค้นให้กับคนของตนเอง“แกสบายใจได้กันต์ธี ตอนนี้
ประโยคบอกเล่าของร่างใหญ่ชวนให้หัวใจของหญิงสาวเต้นรัว จนเจ้าตัวถึงกับอ้าปากค้างคล้ายกำลังตกอยู่ในภวังค์ ซึ่งไม่เพียงแค่คำพูดเท่านั้นแต่มันยังรวมไปถึงดวงตา ที่สื่อความหมายลึกซึ้งออกมาอย่างชัดเจนเป็นเพราะขวัญยิหวายังไม่เคยมีความรักกับผู้ชายคนไหน มันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หญิงสาวจะหวั่นไหวไปกับผู้ชายตรงหน้า ที่เสนอสถานะภรรยามาให้แบบกระทันหันโดยที่ไม่ทันได้ตั้งตัว“ล้อกันเล่นกันรึเปล่า? กับผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้า แถมยังทำอาชีพสาวไซด์ไลน์เนี่ยนะ! จะมาคู่ควรกับหัวหน้าระดับคุณ ถ้าคิดจะหาเรื่องกลั่นแกล้งกันเพราะไม่พอใจที่ฉันตามตื้อคุณละก็ คุณควรจะหาคนมาเล่นละครตบตาฉันให้มันดีกว่านี้หน่อยนะ” เมื่ออีกฝ่ายทำให้ลลิตารู้สึกไม่พอใจ หญิงสาวจึงเปลี่ยนสรรพนามนำหน้าของตัวเองเสียใหม่เลยเดี๋ยวนั้น“ผมเล่นละครตรงไหน ในเมื่อเราสองคนก็เหมือนเป็นคนคนเดียวกัน ถึงเธอจะเคยทำงานเป็นผู้หญิงไซด์ไลน์...แล้วไง...ในเมื่อผมได้เป็นผู้ชายคนแรก ซึ่งไม่แปลกที่ผมจะรับขวัญยิหวาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต โดยที่ไม่ติดอะไรเลยสักอย่าง”ชารัณยอมรับอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งแม้แต่ตัวของขวัญยิหวาเองยังรู้สึกอายด้วยประสบการณ์ของชาร
ก่อนหน้านั้นลลิตาได้รับข้อมูลมาจากอนาวินผู้เป็นน้องชาย ว่าขวัญยิหวาคือเด็กในสังกัดของแม่เล้าคนหนึ่ง ซึ่งภายหลังเธอได้สั่งให้ลูกน้องตามไปสืบค้น แต่คนเป็นแม่เล้าดูไม่กล้าที่จะเปิดเผยตัวตนเหมือนเมื่อก่อน เพราะหล่อนเคยถูกคนของชารัณตามเล่นงาน แต่ถึงอย่างนั้นลลิตาก็มั่นใจกับข่าวสารที่ตัวเองได้รับมา เธอจึงเชื่อว่าผู้หญิงตรงหน้ากำลังเล่นละครฉากใหญ่ให้เธอดู“เธอเลิกเล่นละครตบตาฉันได้แล้ว เพราะฉันรู้จักกับคนที่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเธอดีพอสมควร แย่หน่อยนะเป็นนักศึกษามันคงหาเงินไม่ค่อยคล่อง เลยจำเป็นต้องออกมาหารายได้พิเศษใช่ไหม?”ลลิตาจงใจเปิดเผยภูมิหลังของขวัญยิหวาเพราะต้องการจะฉีกหน้านั่นแหละ แต่เมื่อมาถึงจุดนี้คนที่ถูกข่มขู่กลับดูเหมือนไม่ทุกข์ร้อน เพราะเธอไม่เหลืออะไรที่ต้องมาคอยอาลัยอาวรณ์ ในเมื่อตอนนี้ได้ถูกอีกฝ่ายมองว่าเธอเป็นผู้หญิงใจแตก ที่ทำงานโดยใช้ร่างกายแลกกับเงินตรา...เพราะฉะนั้น...ขวัญยิหวาจึงดับเครื่องชน!“ก็ช่วยไม่ได้นี่คะ ในเมื่อสมัยนี้ทุกอย่างมันต้องใช้เงินซื้อทั้งนั้น แล้วมันเรื่องอะไรที่ฉันต้องมานั่งทำงาน เพื่อแลกกับเงินที่ได้เพียงไม่กี่บาท เพราะเงินแค่นั้นไม่สามารถสน
ชารัณแค่ต้องการทำให้อีกฝ่ายโผล่หางของตัวเองออกมาให้ได้นั่นแหละ และหากเขาคิดจะทำอะไรในที่สาธารณะ แน่นอนว่าเขาสามารถทำได้ ซึ่งมันเป็นการตอบโต้ที่มีแต่ผลกำไรมากกว่าที่จะขาดทุน“อย่าบอกนะคะว่าคุณคิดจะเอาคืนพวกเขาที่นี่ ไม่เห็นหรือไงว่ามันเป็นร้านอาหาร ไอ้ประเภทที่ชักปืนออกมายิงกันเหมือนในหนังไทย คนอื่นอาจถูกลูกหลงได้นะคุณ!”“เธอคงคิดเป็นอย่างเดียวสิท่า ว่าคนอย่างฉันเป็นพวกที่ชอบใช้กำลังมากกว่าสมองน่ะ หากเธอกลัวว่ามันจะบานปลาย ก็ช่วยคิดแผนการณ์ให้ฉันหน่อยสิ”เป็นครั้งแรกที่เชารัณอยากทดสอบมันสมองของคนตรงหน้า ดังนั้นเจ้าตัวจึงไม่รอเวลา เพราะก่อนหน้านั้นอนาวินก็ทำกับเธอเอาไว้เจ็บแสบ“ร้านอาหารนี้คุณมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเขาบ้าง”“หูไวตาไวดีนี่นา ก็แค่เป็นร้านอาหารที่อยู่ในการปกครอง พูดกันง่ายๆ ก็คืออยู่ในการดูแลของเรานั่นแหละ ถามแบบนี้หมายความว่ายังไง?”“ขอฉันเข้าไปดูห้องครัวหน่อยนะคะ” เธอพูดพร้อมกับยกยิ้มราวกับผู้มีชัย ชารัณรู้สึกเหมือนจะยิ่งถูกใจขวัญยิหวามากขึ้นไปเรื่อยๆชารัณจงใจมาที่ร้านอาหารแห่งนี้เพราะเขาได้รับเบาะแสมาว่า ลลิตาและคนที่เคยเป็นลูกน้องมือดี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหา
“ตื่นได้แล้วยิหวา”ชารัณปลุกคนนอนหลับ พร้อมกับยกร่างของหญิงสาวขึ้นมานอนทับบนตัวเขา ขณะที่ร่างกายของทั้งคู่ยังคงเปลือยเปล่า ซึ่งคนตัวเล็กกว่าก็เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา ก่อนซุกลงตรงที่เก่าเพราะเธอรู้สึกเขินอายและเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้ขัดขืนอะไร มือกว้างจึงลูบไล้ไปตามแผ่นหลังจนถึงบั้นท้าย แล้วจึงพูดประโยคต่อไปกับเธอ“ฉันหิว!..” เธอผงกหัวขึ้นสบตา เมื่อได้ยินเสียงเขาบอกออกมาแบบนั้น“ฉัน...ยังกินเธอไม่อิ่มเลย” ขวัญยิหวานอนตัวแข็งเมื่อได้ยินประโยคต่อมา ว่าแล้วเจ้าตัวก็จับสะโพกของเธอโยกย้าย และบดคลึงกับความเป็นชายของเขา ทำเอาหญิงสาวถึงกับตื่นตกใจ“นิ้คุณ!”“อีก...ได้ไหม?" เขาร้องขอ พร้อมกับมองหน้าเธอเพื่อรอคำตอบรับ"ยิหวาไม่มีแรงจะสู้รบปรบมือกับคุณแล้วนะคะ" เธอบอกอีกฝ่าย ซึ่งชายหนุ่มก็เชื่อว่าตอนนี้ เธอคงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือพอที่จะต่อกรกับเขาได้ เพราะเห็นยกธงขาวให้เขาก่อนทุกที“ก็ได้..งั้นเธอไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวฉันตามเข้าไป” เขาบอก พร้อมกับดันร่างเธอออกห่างจากตัวเอง ด้วยเกรงว่าจะอดใจไม่ไหว ขณะเดียวกันก็พยายามดึงจังหวะการเต้นของหัวใจ ให้กลับมาเป็นปกติได้ดังเดิม“ไม่เอานะคะ ยิหวาจะอาบคนเดียว”“ดื้อก
มือใหญ่ข้างหนึ่งลูบไล้ไปตามเรียวขาที่พาดอยู่บนบ่าของเขา นิ้วเรียวยาวลากไล้ผิวเนียนนุ่มไปตามแรงอารมณ์ใคร่ ซึ่งหญิงสาวรู้สึกคล้ายกับถูกเขาสัมผัสไปทั่วร่าง ส่วนมืออีกข้างก็จงใจบีบกำขยำหน้าอกของเธออย่างหลงไหล พร้อมกับใช้ปลายนิ้วบีบคลึงปลายถันที่แข็งชูชันล่อสายตา“ซี้ดด~~อ่าส์...ทำยิหวาให้แรงกว่านี้...นะคะ ” หญิงสาวบอกเขาเสียงสั่น ส่วนชารัญก็ยกยิ้มชอบใจเมื่อเห็นอีกฝ่าย ตอบสนองต่อสัมผัสของเขากลับมาให้อย่างเต็มที่“ยอมรับความรู้สึกของตัวเองแบบนี้น่ะดีแล้ว... ฉันจะให้รางวัลเธอเอง”เขาว่าก่อนเร่งรัดจังหวะตามที่อีกคนขอร้อง เสียงเนื้อกระทบกันดังก้องไปทั่วห้อง พร้อมกับเสียงครางของทั้งคู่ ที่ไม่รู้ว่าเสียงใครที่ร้องดังไปกว่ากัน"อ๊ะ!...อ๊ะ!..ชารัณ..อื้ออ...ยิหวาไม่ไหวแล้ว...” ขวัญยิหวาร้องบอกคนบนร่างอย่างไม่อาจเก็บกลั้นความรู้สึกลึกซึ้ง ซึ่งกำลังพลุ่งพล่านในตัวเธอไว้ได้อีกต่อไป ร่างกายของหญิงสาวกระตุกเกร็ง พลางยกสะโพกของตัวเองบิดเร่าอยู่ใต้ร่างของอีกคน“เสร็จสิ ยิหวา... ให้รางวัลตัวเองไปพร้อมกับฉัน” ชารัณกระซิบเสียงต่ำ ก่อนกระหน่ำใส่คนใต้ร่างอย่างหนักหน่วงและโจนจ้วงใส่เธอสุดกำลัง“อ๊า!อร๊าย~~” ขวั