Home / วัยรุ่น / รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู / ตอนที่ 5 ลีดนี้...เพื่อพี่คนเดียว~

Share

ตอนที่ 5 ลีดนี้...เพื่อพี่คนเดียว~

last update Last Updated: 2025-10-21 21:05:30

หลังจากผ่านไปสองสัปดาห์ในรั้วมหา’ ลัย—ช่วงหัวค่ำวันหนึ่ง บรรยากาศในบ้านก็เงียบสงบ แสงไฟสีวอร์มไลท์ส่องออกมาจากโคมไฟหัวเตียงในห้องแต่ละห้องอย่างอบอุ่น

เมษาในชุดนอนเสื้อยืดลายแมวน้อยกับกางเกงขาสั้นสีชมพูพาสเทล ผมยาวถูกรวบขึ้นเป็นมวยเล็ก ๆ หนึ่งข้าง เธอยืนลังเลอยู่หน้าห้องพี่คีตะ มือหนึ่งถือหนังสือฟิสิกส์ อีกมือเคาะประตูเบา ๆ

ก็อก ๆ ๆ

ไม่นานก็มีเสียงฝีเท้าเดินมาเปิดประตู แล้วใบหน้าหล่อเข้มของคีตะในชุดเสื้อยืดคอกลมกับกางเกงผ้าลำลองก็มาปรากฏตรงหน้า

“หืม? มีอะไรรึ?”

“หนู...ขอโทษที่รบกวนค่ะ แต่คือว่า...”

เมษายกหนังสือขึ้นบังหน้า ทำตาใสแป๋วมองเขา

“วิชาฟิสิกส์มันยากจังเลย หนูไม่เข้าใจเลยค่ะ โดยเฉพาะเรื่องเวกเตอร์กับแรงลัพธ์ พี่คีตะช่วยสอนหนูหน่อยได้มั้ยคะ?”

คีตะนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูออกกว้างขึ้นแล้วพูดเรียบ ๆ

“เข้ามาสิ”

เมษายิ้มหวาน รีบเดินตัวปลิวเข้าไปนั่งขัดสมาธิบนพรมข้างเตียง เปิดหนังสือออกพาดบนโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ย ๆ ที่วางโน้ตบุ๊กไว้

คีตะนั่งลงฝั่งตรงข้าม หยิบดินสอขึ้นมาแล้วเขียนสมการลงบนสมุดอย่างคล่องแคล่ว

“เนื้อหานี้ไม่ได้ยาก ถ้าเข้าใจภาพรวม ฉันจะอธิบายให้ฟังง่าย ๆ ...”

เมษาทำหน้าเหรอหรา ประกอบเสียง

“อือ...หืม...เหรอคะ?” ไปเรื่อย แต่ในใจนั้นยิ้มเจ้าเล่ห์นิด ๆ

‘เนื้อหาก็เข้าใจอยู่แหล่ะ...แต่ถ้าไม่แกล้งโง่ ก็อดใกล้ชิดสิ~’

คีตะยื่นกระดาษพร้อมโจทย์ให้เธอหนึ่งแผ่น

“ลองทำข้อนี้ดูสิ”

“เอ๋...ทำคนเดียวเลยเหรอคะ?” เมษาเบะปากนิด ๆ แล้วเอียงตัวเข้าหาเขา

“พี่คีตะไกด์ให้หนูหน่อยนะคะ~?” น้ำเสียงอ้อน ๆ มาเต็ม

คีตะนิ่งมองหน้าเธอ ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ แล้วโน้มตัวลงมาเขียนอธิบายช้า ๆ มือเขาเกือบจะสัมผัสหลังมือเธอในจังหวะที่เขาเลื่อนกระดาษเข้ามาใกล้กว่าเดิม...

เมษาแกล้งยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนปลายจมูกแทบจะเฉียดแก้มของคีตะ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแชมพูดอกไม้และสบู่กลิ่นน้ำนมจากตัวเธอลอยแตะจมูกเขาอย่างแผ่วเบา กลิ่นนั้นหอมสะอาด สดชื่น และอบอุ่นราวกับกลิ่นของฤดูใบไม้ผลิที่เพิ่งเริ่มต้น

คีตะชะงักไปครู่หนึ่ง ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเฉยเช่นเคย...แต่แววตากลับไหววูบเล็กน้อย

เมษาเงยหน้าสบตาเขา ตาใสแป๋วอย่างตั้งใจ

“สอนต่อสิคะ~” เสียงหวานปนซุกซนดังขึ้นเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มขี้เล่น

คีตะกระแอมเบา ๆ แล้วหลบสายตาเธอนิดหนึ่ง ก่อนตอบเสียงเรียบ

“อะ...อืม...”

จากนั้นจึงก้มหน้าก้มตาอธิบายบทเรียนต่อ แต่หูของเขากลับขึ้นสีแดงจาง ๆ อย่างห้ามไม่อยู่ แม้ใบหน้าจะนิ่งขรึมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หัวใจของเขากลับเต้นเร็วขึ้นเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว

บรรยากาศในห้องอบอวลไปด้วยแสงไฟนวลอุ่น กลิ่นสะอาดหอมหวาน และเสียงหัวใจที่ไม่ยอมสงบ...

คีตะยังคงอธิบายอย่างเงียบ ๆ มือข้างหนึ่งจดสูตรลงบนกระดาษ ขณะที่เมษานั่งเท้าคางมองเขายิ้ม ๆ ไม่พูดอะไร

ในใจของเธอกลับร้องดังลั่น…

‘สิ่งที่ยากกว่าวิชาฟิสิกส์...ก็คือการเอาชนะใจพี่คีตะนี่แหละค่ะ’

หลังจากอธิบายจบไปสองบท คีตะก็ยื่นแบบฝึกหัดให้เมษาลองทำดู

“ลองทำข้อนี้ดู”

เขาพูดพลางชี้ที่โจทย์ข้อหนึ่ง

เมษารับสมุดมาอย่างว่าง่าย...แต่ภายในใจกลับตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนสอบไฟนอล

‘ข้อนี้...ฉันรู้วิธีทำอยู่แล้วล่ะ! แต่ต้องทำเหมือนไม่รู้สิ ไม่งั้นโป๊ะแน่เลย’

สาวน้อยทำหน้าเหมือนกำลังคิดหนักก่อนจะค่อย ๆ จดตัวเลขและสูตรลงไป...อย่างช่ำชอง

คีตะนั่งมองอยู่เงียบ ๆ จนเมษาทำเสร็จแล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มหวาน

“เรียบร้อยค่า~”

แต่แทนที่เขาจะชม เขากลับพูดเสียงเรียบ ดวงตาคมหรี่ลงน้อย ๆ อย่างจับผิด

“ข้อนั้น...ฉันยังไม่ได้สอนนี่”

เมษาสะดุ้งเฮือก

“เอ๊ะ!? เอ่อ...ตะ...ตะกี้หนูเดาเอาค่ะ! ฮะ ๆ ๆ ๆ”

เธอหัวเราะแห้ง ๆ พลางหลบตาอย่างลุกลี้ลุกลน

“แหะ ๆๆๆ หนู...หนูว่า คืนนี้สมองเริ่มเบลอแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวไว้วันหลัง...ค่อยมาให้พี่สอนใหม่เนอะ!”

พูดจบ สาวน้อยก็รีบเก็บสมุดอย่างลนลาน พร้อมยิ้มแห้งให้เขา

“ฝันดีนะคะ พี่คีตะ~”

แล้วก็พรวดพราดลุกหนีออกจากห้องไปแบบไม่รอคำตอบ

คีตะนั่งมองตามแผ่นหลังเล็ก ๆ ที่หายออกจากประตูไป ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ ...แล้วส่ายหน้าน้อย ๆ

“เด็กบ๊องเอ๊ย...”

ริมฝีปากของเขาเผลอยกยิ้มขึ้นอย่างเอ็นดูโดยไม่รู้ตัว

สองสัปดาห์ต่อมา – ณ ลานหน้าคณะวิศวกรรมศาสตร์

เสียงรองเท้าผ้าใบกระทบพื้นดังกึก ๆ พร้อมกับแผ่นกระดาษในมือของภูผาที่วิ่งตรงไปหาเพื่อนรัก ขณะยืนคุยกับรุ่นพี่หน้าคณะ

“คีตะ! ตารางแข่งมาแล้วเว้ย!”

คีตะหันไปมองเพื่อนที่ยื่นแผ่นตารางมาให้ พร้อมหอบเบา ๆ จากการวิ่ง

“เร็วดีนี่ รอบนี้จัดเร็วกว่าปีที่แล้วอีก”

“ใช่ ปีนี้แข่งรวม 4 มหา’ ลัยใหญ่เลย R.C.U เจอของแข็งทั้งนั้น” ภูผาพูดอย่างตื่นเต้น ขณะยื่นตารางแข่งขันกีฬาบาสระดับอุดมศึกษาให้ดู

ตารางแน่นขนัดไปด้วยชื่อคู่แข่งมหาลัยดัง ๆ ทั้ง SUT, MU-Tech, และ MEC

“รอบแรกแข่งกับ SUT ที่สนามใหญ่ของเราด้วยนะ”

คีตะพยักหน้า สีหน้าเรียบเฉย แต่แววตาเข้มขึ้น แม้เขาและภูผาจะอยู่ปี 4 แล้ว แต่ทั้งคู่ยังมีสถานะเป็นนักกีฬาตัวจริงของมหาวิทยาลัย R.C.U และเป็นตัวหลักที่โค้ชยังไว้ใจ

“รอบนี้ถ้าเข้ารอบได้...เจอ MEC ในรอบรองฯ แน่นอน” ภูผาวางมือลงบนไหล่คีตะ

“ถ้ามึงยังเล่นเก่งหมือนเดิม ก็ไม่ต้องห่วงเลยเพื่อน”

คีตะไม่ได้ตอบอะไรมากนัก นอกจากรับกระดาษมาเก็บใส่กระเป๋า

“เย็นนี้ไปซ้อมมั้ย? เห็นโค้ชเรียกรวมพล”

“แน่นอนดิ! แล้วมึงอย่าลืม...” ภูผายิ้มกรุ้มกริ่ม

“...บอกให้น้องเมษามาเชียร์ด้วยนะ”

คิ้วเข้มกระตุกเล็กน้อย

“เธอคงไม่อยากวุ่นวายหรอก”

“หื้ม~แน่ใจเหรอ?” ภูผาหัวเราะหึ ๆ

“แต่มึงก็ต้องบอกน้องเขาปะ? ไป-กลับด้วยกันทุกวันนี่”

ภูผายักคิ้วกวน ๆ คีตะนิ่งไปครู่หนึ่ง

“ไว้กูค่อยบอกที่บ้านก็ได้”

🌸🌸🌸

สนามฝึกซ้อมเชียร์ลีดเดอร์ — ตอนบ่าย

ดูเหมือนคีตะไม่จำเป็นต้องบอกเมษา เพราะเธอรู้ข่าวจากพริ้มตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว และตอนนี้เธอกำลังอยู่ระหว่างการคัดตัวเชียร์ลีดเดอร์ให้กับทีมบาสเก็ตบอลของมหา’ลัย

แดดอ่อน ๆ ยามบ่ายกระทบผิวเนียนใสของเมษา ที่ยืนยืดเส้นยืดสายอยู่ริมสนามหญ้า

เธอสวมเสื้อยืดสีขาวเข้ารูปเล็กน้อย กางเกงขาสั้นพับขา รองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาด ผมยาวสลวยถูกรวบเป็นหางม้าสูง เพิ่มความสดใสและทะมัดทะแมงแบบเด็กกิจกรรม

ผิวขาวอมชมพูของเธอตัดกับแดดบาง ๆ ดูสุขภาพดี รอยยิ้มสดใสราวแสงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิ

“แก เอาจริงเหรอวะ?”

เสียงของพริ้มดังขึ้นจากด้านหลัง ขณะขมวดคิ้วมองเพื่อนสาวที่กำลังยืดแขนยืดขาอย่างคล่องแคล่ว

“เอาจริงดิ! เพื่อพี่คีตะ!!”

เมษาตอบอย่างมั่นใจ ใบหน้าสวยฉายแววมุ่งมั่นเกินเบอร์เด็กปีหนึ่งทั่วไป

ขณะเดียวกันนั้นเอง รุ่นพี่เชียร์ลีดเดอร์สองคนที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลก็กระซิบกันเบา ๆ

“ใช่คนนั้นปะ ที่มีข่าวว่าเป็นเด็กคีตะอะ?”

อีกคนหรี่ตามอง ก่อนจะเดินตรงเข้ามา พร้อมถามเสียงนิ่งแต่แฝงความสงสัย

“เธอ...เป็นแฟนคีตะเหรอ?”

เมษาชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าร้อนวูบขึ้นทันที ก่อนจะ “กรี๊ด~!!!” เบา ๆ กับตัวเอง แล้วรีบปฏิเสธแบบหน้าแดงจัด

“มะ ไม่ใช่ค่ะ! ไม่ใช่เลยค่ะ!”

เสียงหัวเราะเบา ๆ ดังขึ้นจากรุ่นพี่ทั้งสองเมื่อเห็นท่าทางปฏิเสธแบบลนลานของเมษา ใบหน้าขาวอมชมพูของเธอแดงระเรื่อ แต่กลับยิ่งทำให้ดูน่าเอ็นดูจนละสายตาไม่ได้

แม้จะมีข่าวลือว่าเธอซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ของคีตะไป-กลับทุกวัน แต่พอได้เห็นรอยยิ้มสดใสกับดวงตาวิบวับคู่นั้นตรงหน้า—ก็ไม่มีใครใส่ใจข่าวลืออีกต่อไป

“ยิ้มแบบนี้ คนดูทั้งสนามต้องหลงแน่ ๆ เลยว่ะ”

รุ่นพี่คนหนึ่งกระซิบกับอีกคน ซึ่งเธอก็พยักหน้าเห็นด้วยทันที

“เอาล่ะ น้อง ๆ ที่พร้อมคัดตัว เชิญทางนี้เลยค่ะ!”

เสียงเรียกของพี่เชอรี่—หัวหน้าทีมเชียร์ลีดเดอร์แห่งมหา’ ลัย R.C.U. ดังขึ้น พร้อมรอยยิ้มมั่นใจในชุดเทรนนิ่งสุดเฟียส

เมื่อพี่เชอรี่เห็นน้อง ๆ มาเยอะเลยหันไปกระซิบกับพิม เพื่อนสนิทที่ยืนอยู่เคียงข้าง

“แก… สังเกตมั้ย ปีนี้เด็กมาคัดตัวเยอะผิดปกตินะ”

พิมหัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบ

“แก...ลืมไปแล้วเหรอว่านี่มันปีสุดท้ายของคีตะน่ะ? สาว ๆ ทั้งมหา’ ลัยเขาพร้อมใจมาลงสมัครเพื่อจะได้อยู่ใกล้นายวิศวะมาดขรึมขวัญใจสาว ๆ ทั้งคณะไง~”

“โห...แรงบันดาลใจเพื่อชาติจริง ๆ”

พี่รี่ส่ายหน้าเบา ๆ แต่ก็อดอมยิ้มไม่ได้

“เอาล่ะ เริ่มกันเถอะ”

พี่เชอรี่ก้าวไปยืนตรงกลางสนาม เธอวางคลิปบอร์ดลง พลางส่งยิ้มให้กับน้อง ๆ ที่มาคัดตัว

“สวัสดีน้อง ๆ ที่ตั้งใจมาคัดเชียร์ลีดเดอร์วันนี้นะจ๊ะ ก่อนอื่นเลย พี่ขอแจ้งกติกาให้ทุกคนเข้าใจตรงกันก่อนเลย—เพราะลีดของ R.C.U. ไม่ใช่แค่ยืนถือปอมปอม เขย่า ๆ แล้วจบนะคะ”

เธอเดินช้า ๆ ไปหน้ากลุ่มผู้สมัคร ดวงตาเปล่งประกายแบบรุ่นพี่ตัวแม่

ที่นี่เราคัดด้วยระบบเต้นโคฟเวอร์สไตล์เกาหลี”

“ใช่ค่ะ! ไม่ต้องแปลกใจ เพราะทีมลีดของมหา’ ลัยเราต้องขึ้นแสดงในงานอีเวนต์ระดับใหญ่ บางแมตช์มีทั้งถ่ายทอดสดและลงเพจมหา’ ลัย เพราะฉะนั้น...ลีดของ R.C.U. ต้องพร้อมทั้งความสดใส และความแม่นยำ!”

เด็กสาวหลายคนเริ่มฮือฮา—บางคนที่เป็นแฟนคลับวง K-pop ตาเป็นประกายทันที

พี่เชอรี่กระชับหูฟัง พร้อมยิ้มเจ้าเสน่ห์แล้วอธิบายต่อ

กติกาการคัดคือแบบนี้ค่ะ พี่จะเปิดเพลงเกาหลีหนึ่งเพลงที่เรากำหนดไว้ แล้วพี่จะเป็นคนเต้นนำแบบเรียลไทม์ให้ทุกคนดู ใครสามารถ ‘เต้นตามได้จนจบเพลง’ และหลุดจังหวะไม่เกิน 3 ครั้ง จะถือว่า ‘ผ่านรอบแรก’ นะคะ”

เสียงตบมือเบา ๆ ดังขึ้นจากรุ่นพี่คนอื่นที่ยืนข้างสนาม

“หลังจากนั้นจะมีรอบสัมภาษณ์และคัดตัวจริงอีกที ถ้าพร้อมแล้ว… เตรียมใจ เตรียมขาให้พร้อมค่ะ! อีกห้านาทีเราจะเริ่มรันเพลงจริง!”

พี่เชอรี่ปิดท้ายด้วยการดีดนิ้ว พร้อมรอยยิ้มของ “เจ๊เชอร์” ตัวแม่แห่งแดนซ์สายบาส R.C.U.

ด้านเมษาที่ได้ยินกติกาก็ยิ้มมั่นใจ

‘หนูเต้นโคฟเวอร์อยู่หน้ากระจกห้องนอนทุกวัน เพื่อพี่คีตะ หนูพร้อมลุย!’

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 47 ตอนพิเศษ: เมียท้อง!! แต่สามีเห่อหนักจนน่าจับตี

    สัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์เมษายังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นแค่ช่วงนี้…ข้าวมันไก่ที่เคยกินแล้วฟินตอนดึก กลับกลายเป็นศัตรูของชีวิต ข้าวต้มปลาเจ้าประจำที่เคยคลั่งไคล้ ตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็แทบอ้วกแต่สิ่งที่เธอรู้แน่ ๆ คือ…เธอกำลังจะมีลูก และ “คุณพ่อเด็ก” ก็คือสามีสุดหล่อผู้คลั่งรักที่เพิ่งรู้ข่าวนี้ไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว18.47 น.เสียงประตูคอนโดดัง “แกร๊ก”“เมียครับ!!! ลูกพี่กินอะไรได้บ้าง!! พี่ซื้อของมาเป็นสิบถุง!!!”คีตะ โชติธาดาคนเดิม เพิ่มเติมคือระดับความเห่อเกินหนึ่งพันเปอร์เซ็นต์ในมือเขาถือทั้งซุปปลาแบบออร์แกนิก ขิงแก่สดจากเชียงราย น้ำมะพร้าวไม่แช่เย็น ผ้าคลุมไหล่สำหรับหญิงตั้งครรภ์และ…หนังสือชื่อ ‘เข้าใจเมียท้องใน 60 นาที’ ที่เปิดอ่านค้างไว้ตรงหน้าแรก“พี่คีตะคะ…” เมษาถอนใจเฮือก“แค่หนูบอกว่าอาเจียนตอนเช้า พี่ก็ไปเหมาโซเชียลเหรอคะ?”“ก็…ก็พี่กลัวเมียเหนื่อยไงคะ แล้วก็ลูกพี่…ก็แสบตั้งแต่ยังไม่ออกมา!”คีตะวางของลง ก่อนจะพุ่งมาทรุดตัวนั่งข้างเธอบนโซฟา เอามือทาบท้องเธอเบา ๆ ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่เห็นพุงแม้แต่นิด“อยากให้พี่ทำอะไรมั้ยครับ? อยากกินอะไรเป็นพิเศษ? น้ำแข็งจากขั้วโลก? ท

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 46 ตอนพิเศษ: 3 ปีต่อมา...เมียยังน่ารักไม่เปลี่ยน

    3 ปีต่อมา…แม้กรุงเทพฯ ยังจมอยู่ในวังวนเดิม ๆ ของการจราจรที่เหมือนภาพซ้ำทุกเช้าเย็น แต่ชีวิตของคีตะเปลี่ยนไปไกลราวฟ้ากับเหวจากเมื่อสามปีก่อนจากอดีตหนุ่มวิศวกรรมเครื่องกลที่ชีวิตผูกติดกับเครื่องจักร น้ำมันเครื่อง และซอฟต์แวร์ควบคุมอัตโนมัติวันนี้เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำในห้องประชุมกระจกชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่ อาริกาโตะ กรุ๊ป—บริษัทเทคโนโลยีระดับอินเตอร์ที่กำลังเติบโตเร็วเหมือนติดจรวดในมือของเขามีทั้งดีลระดับพันล้าน หุ้นใหญ่ในมือ และแผนระดมทุนรอบใหม่ที่เหล่านักลงทุนต่างเฝ้ารอแต่ในสมองของเขา...มีเพียงคำถามเดียวที่วนซ้ำอยู่ทุกวัน‘เมียกูกินข้าวยังวะ’ไม่ว่าในแต่ละวันจะมีตารางงานแน่นขนาดไหน ต่อให้เลขาฯ ต้องคุกเข่ากราบขอให้เลื่อนนัดด่วนกับนักลงทุนต่างชาติคีตะก็จะส่ายหน้า...แล้วพูดเสียงนิ่งว่า“ผมห้ามมีนัดหลังหกโมงเย็นเด็ดขาด”‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ ประจำตัวผู้บริหารใหญ่นี้คือกฎเหล็กข้อเดียวที่ใครก็ห้ามล้ำเส้นเพราะนั่นคือเวลาที่เขาจะรีบกลับคอนโดหรูย่านสุขุมวิท...กลับไปหาเมียที่ทั้งน่ารัก แสบ และเป็นแม่บ้านที่เขาหลงรักยิ่งกว่ากำไรรายไตรมาสวันนี้ก็เช่นกัน...เสียง ‘ติ๊ด’ จากปร

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 45 ตอนพิเศษ: ของขวัญชิ้นพิเศษจากพี่คีตะ

    เสียงแสงแดดกลางฤดูหนาวทาบทอผ่านสนามหญ้ากว้างของมหาวิทยาลัย R.C.U. กลิ่นดอกไม้ปนกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ท่ามกลางเสียงชัตเตอร์มือถือที่ดังระรัวจากบรรดาเพื่อน ญาติ พี่น้องที่แห่มาร่วมแสดงความยินดีในวันสำเร็จการศึกษาเมษาในชุดครุยปักตราประจำคณะเดินออกจากหอประชุม พร้อมรอยยิ้มสดใสทันทีที่เห็นคนสำคัญ“คุณแม่! คุณพ่อ!”เธอวิ่งเข้าไปกอดคุณแม่ปาริฉัตรแน่น ส่วนท่านทูตดิลกก็ส่งยิ้มอย่างภูมิใจพลางเอื้อมมาลูบผมลูกสาวเบา ๆ“ลูกสาวพ่อเรียนจบแล้วนะ”“สวยที่สุดในรุ่นเลยค่ะ ลูกแม่!”ด้านหลังยังมีอีกสองคนที่ยิ้มอย่างภูมิใจไม่แพ้กัน — คุณธนา และคุณแม่อัญญาของคีตะ ทั้งคู่ยืนถือของขวัญกล่องเล็ก ๆ พร้อมดอกไม้ช่อโตที่เตรียมมาให้เธอเช่นกัน“ยินดีด้วยนะจ๊ะ หนูเมษา”“ขอบคุณค่ะ คุณอา คุณน้า” เมษายิ้มแก้มแทบปริ ก่อนจะรับของขวัญจากทั้งคู่“แล้ว...พี่คีตะล่ะคะ?” หญิงสาวหันมองไปรอบตัวทุกคนมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนแอบอมยิ้ม“หาพี่เหรอ?”เสียงทุ้มคุ้นหูทำเอาเมษาหันขวับไปทันทีคีตะมาในเสื้อเชิ้ตพอดีตัว กางเกงสแลค หล่อเนี้ยบจนทำเอาเมษาถึงกับตาพร่า แต่สิ่งที่ทำให้เธอใจเต้นกลับไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ —มันคือสายตาที่

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ คืนที่พระจันทร์...เป็นพยาน (2/2)

    “คิดอะไรอยู่ หืม~?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหลัง ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมอง แล้วต้องกลั้นหายใจเล็กน้อยคีตะในชุดลำลองเสื้อกล้ามสีเข้มกับกางเกงผ้าสบาย ๆ ผมเปียกนิดหน่อยจากการอาบน้ำ มือข้างหนึ่งถือแก้วน้ำเย็น อีกข้างถือผ้าขนหนูเขาเดินเข้ามาหาช้า ๆ แล้วนั่งลงข้างเธอ พลางยื่นผ้ามาคลุมศีรษะเธอไว้เบา ๆ ก่อนวางแก้วไว้ข้างตัว“ผมยังไม่แห้งดีเลย เดี๋ยวไม่สบาย” เสียงนุ่มนวลเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และค่อย ๆ เช็ดผมให้เธอ“อื้อออ~ ไม่ต้องเช็ดแรงก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหัวหนูหายหมด” เมษาบ่นอุบ แต่เสียงกลับแผ่วลงเรื่อย ๆคีตะหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหยุดเช็ด แล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตาคมนิ่งลึกสะท้อนแสงจันทร์ และเธอรู้สึกได้ว่า ลมหายใจของเขาอยู่ใกล้เพียงปลายนิ้ว“พะ...พี่คีตะ...”“หืม?” คีตะเลื่อนมือมาจับปลายคางเธอเบา ๆ“คือ...” เมษาตาโต หน้าแดงซ่านไม่ทันได้พูดอะไร ริมฝีปากของเขาก็โน้มลงมาแตะกับริมฝีปากของเธอเบา ๆ จูบแรกนั้นนุ่มนวล...อบอุ่น...แฝงความทะนุถนอมแต่ในวินาทีถัดมา รสจูบนั้นกลับค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆปลายลิ้นร้อนแตะที่กลีบปากเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ดุนดันให้เธอเปิดรับสัมผัสที่เร่าร้อนยิ่งกว

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ คืนที่พระจันทร์...เป็นพยาน (1/2)

    หลังจากคีตะเรียนจบคุณพ่อธนาไม่รอช้า…กดดันให้ลูกชายคนเดียวเข้าไปช่วยงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวทันที“จะออกแบบเครื่องยนต์ หุ่นยนต์ หรืออะไร พ่อไม่ว่า แต่ช่วยทำโปรเจกต์กับแผนกเทคโนโลยีในเครือเราซักอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อน ได้มั้ยลูก!”เสียงของคุณพ่อยังดังก้องในหัวเขาแต่คีตะในเสื้อฮู้ดสีเทา กับกางเกงวอร์มเรียบ ๆ กลับนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ยกโน้ตบุ๊กขึ้นบนตัก เปิดแบบจำลองหุ่นยนต์ต้นแบบที่เขาออกแบบเอง —โครงสร้างเครื่องกลซับซ้อนแต่สมบูรณ์แบบจนเหมือนสิ่งมีชีวิตจริง‘ถ้ามีเวลาอีกซักหน่อย...โปรเจกต์นี้ต้องสำเร็จแน่’เขาคิดในใจ ก่อนเสียงใส ๆ ที่คุ้นเคยจะดังขึ้นจากประตู“พี่คีตะขา~ หนูเอาน้ำมะพร้าวมาฝาก~”เสียงหวานนั่นทำให้เขาชะงัก เงยหน้าขึ้น — และทันทีที่เห็นคนตรงหน้า ความเครียดทั้งวันก็ละลายหายไปในพริบตาเมษาในชุดเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่า เดินยิ้มหวานถือแก้วที่มีน้ำมะพร้าวเย็น ๆ กับถุงใส่ขนมที่เธอซื้อมาฝากตั้งแต่สอบปลายภาคเสร็จ พ่อและแม่ของเธอก็ต้องกลับไปประจำสถานทูตอังกฤษเหมือนเคย และเพราะไม่อยากให้เธออยู่บ้านคนเดียว — เมษาจึงกลับมาอยู่บ้านโชติธาดาอีกครั้งแล

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 43 อนาคตเป็นยังไงไม่รู้...รู้แค่ว่าอยากมีเธอต่อไปในทุกปี

    วันเวลาผ่านไปจนเมษาและคีตะเข้าสู่ปิดเทอมอีกครั้ง และครั้งนี้พ่อและแม่ของเมษาลางานกลับมาเพื่อใช้เวลาอยู่กับลูกสาวที่เมืองไทย ทำให้เมษาต้องกลับไปอยู่ที่บ้านของเธอชั่วคราวแต่เมื่อท่านทูตดิลกรู้ว่าคีตะกับเมษาคบกัน ท่านทูตก็เปลี่ยนบุคลิกกลายเป็นคุณพ่อโหมดหวงลูกสาวทันทีวันนี้...คีตะมีภารกิจ เขาตั้งใจมาขออนุญาตท่านทูตดิลกเพื่อพาเมษาไปเที่ยวด้วยกัน สำหรับ ‘เดทแรก’ ของทั้งคู่ในฐานะ ‘แฟน’บรรยากาศบ้าน ‘ไทระ’ ในย่านเงียบสงบของกรุงเทพฯ ร่มรื่นด้วยเงาต้นไม้ใหญ่และกลิ่นชาเขียวจากสวนญี่ปุ่นที่อยู่ข้างตัวบ้าน แสงแดดอ่อนของช่วงบ่ายส่องลอดใบไผ่รำไร — สะท้อนลงบนกระดานหมากรุกไม้สักกลางโต๊ะหินทรงสี่เหลี่ยม“นั่งสิ”เสียงทุ้มทรงอำนาจแต่สุภาพของท่านทูตดิลกดังขึ้นชัดเจน ขณะเขานั่งไขว่ห้างใต้ร่มกันสาดผ้าเช็ดหน้าสีขาวพับอย่างเรียบกริบวางไว้บนตัก ข้างตัวคือชาร้อนและคุกกี้จากลอนดอนที่ลูกสาวสุดรักสุดหวงจัดเตรียมไว้ให้คีตะในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมเรียบกับกางเกงสแล็กยืนอยู่ตรงหน้า — ข้างกายเขาคือเมษาที่ทำท่าจะเอ่ยปาก แต่ก็ถูกสายตาปรามเบา ๆ จากคุณแม่ปาริฉัตร ที่ยืนพิงประตูกอดอกราวกับกำลังดูซีรีส์เกาหลีด้วยสีหน้าสนุก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status