หน้าหลัก / วัยรุ่น / รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู / ตอนที่ 4 รอยยิ้มของคุณหนู...กับหมัดของนักสู้

แชร์

ตอนที่ 4 รอยยิ้มของคุณหนู...กับหมัดของนักสู้

ผู้เขียน: เซเรีย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-20 21:16:10

แดดยามบ่ายคล้อยเริ่มอ่อนแรง—นักศึกษาทยอยเดินออกจากตึกเรียน เมษากับพริ้มเดินออกมาด้วยกัน เพราะพวกเธอตั้งใจจะไปร้านคาเฟ่ที่ชาวโซเชียลรีวิวเอาไว้

ทั้งสองคนพูดคุยกันหัวเราะคิกคัก เดินเลี้ยวไปยังทางเดินข้างคณะ เพื่อมุ่งไปยังลานจอดรถของวิศวะ กลับพบว่าทางเดินถูกบล็อกด้วยสาวรุ่นพี่กลุ่มหนึ่ง—ชุดนักศึกษาพอดีตัว รองเท้าส้นสูง และท่าโพสกอดอกเหมือนพร้อมจะถ่ายขึ้นปกนิยายนางร้าย

“จะรีบไปไหนจ๊ะ...น้องปีหนึ่ง”

เสียงหวานติดเย็นดังขึ้นจากหญิงสาวผมประบ่า หน้าคมแต่งหน้าจัด ยืนอยู่กลางกลุ่มด้วยท่าทางน่าเกรงขาม

“น้องชื่อเมษาใช่มั้ย? เมษา…ที่ซ้อนท้ายคีตะมาเมื่อเช้า?”

พริ้มจับแขนเมษาเบา ๆ ทันที สัญชาตญาณบอกว่า ไม่ปลอดภัยแล้วแน่ ๆ

เมษาหันกลับมา มองรุ่นพี่ทุกคนด้วยรอยยิ้มอ่อนหวาน แต่ในแววตากลับเยียบเย็นอย่างน่าประหลาด

ริมฝีปากแดงธรรมชาติยกยิ้มนิด ๆ

“ค่ะ เมษาเอง แล้วมีอะไรเหรอคะ รุ่นพี่?”

“แหม...ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แค่จะถามเฉย ๆ ว่าน้องมีสิทธิ์อะไรถึงได้ใกล้ชิดกับคีตะขนาดนั้น?”

“สิทธิ์เหรอคะ?” เมษากะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะโน้มตัวเล็กน้อย

“หนูก็ไม่รู้หรอกค่ะ แต่หนูอยู่บ้านเดียวกันกับพี่คีตะน่ะค่ะ~”

ผ่าม!

คำตอบของเธอทำให้บรรยากาศเหมือนมีใครจุดชนวนระเบิดกลางอากาศ รุ่นพี่สาว ๆ หน้าเปลี่ยนสีทันที บางคนกัดปาก บางคนกำหมัดแน่น

“เก่งมากเลยนะคะ...งั้นคงต้องสั่งสอนมารยาทเสียหน่อยแล้ว”

ฟึ่บ!

ทันใดนั้น ร่างของสาวรุ่นพี่สามคนก็เข้าประชิดเมษาเร็วราวกับจัดท่ารำมวย—หนึ่งคนยืนขวางด้านหน้า อีกสองคนตีวงด้านหลัง ประกบไว้เหมือนปลาปักเป้าในเข่ง

พริ้มก้าวมาข้างหน้าอย่างลืมตัว

“เห้ยยย! รุมกันนี่หว่า!!!”

แต่เมษายกมือกันเพื่อนเอาไว้—เธอไม่แสดงความกลัวเลยสักนิด ตรงกันข้าม…เธอถอนหายใจเบา ๆ พลางเอียงคอเล็กน้อย คล้ายกับกำลังเบื่อหน่าย

“จะรุมเลยมั้ยคะ?” เสียงหวานพูดนิ่ง ๆ

“จะได้ถอดต่างหูไว้รอ” เมษายักคิ้วกวน ๆ

คำพูดของเมษาทำเอาพวกรุ่นพี่ควันออกหู โกรธหน้าดำหน้าแดง

“ปากดีนักนะแก!!”

เสียงรุ่นพี่สาวแก่คนหนึ่งเอ่ยขึ้น ก่อนจะปรี่เข้ามาอย่างคนที่คิดว่าเด็กปีหนึ่งไม่มีพิษสง

ฟึ่บ!

มือของเมษายกขึ้น…

แต่แทนที่จะหลบ เธอกลับรับหมัดนั้นไว้ แล้วหมุนข้อมือกลับ พร้อมออกแรงสะบัดเบา ๆ แบบศิลปะป้องกันตัวที่เรียนมาตั้งแต่ประถม

รุ่นพี่คนนั้นเซไปอีกด้านทันที ยังไม่ทันตั้งหลัก…

เพี๊ยะ! เมษาก็สะบัดฝ่ามือเข้าเต็มแก้มของอีกคนที่โผล่มาข้างหลังอย่างแม่นยำ

“หนึ่ง…”

เธอพึมพำเบา ๆ พลางเหลือบมองรอบตัวอย่างใจเย็น

“สอง…”

เพี๊ยะ! อีกฝ่ามือฟาดเข้าอีกคนจนผมหน้าม้าแตกกระเจิง

สาว ๆ ที่เหลือเริ่มชะงัก…ไม่คิดว่าน้องปีหนึ่ง จะเป็นแม่เสือสาว

“สั่งสอนพอแล้วเหรอคะ?”

เมษาเชิดหน้ายิ้ม หยิบยางมัดผมมัดหางม้าให้แน่นขึ้นอย่างสุดเท่

แต่ก่อนที่เธอจะได้ฟาดคำว่า “สาม!” — หนึ่งในรุ่นพี่ก็ดันใช้จังหวะวิ่งเข้ามาด้านข้าง พุ่งชนแรงจนร่างของเมษาเซถลา

แต่ด้วยประสาทสัมผัสที่เฉียบไว เธอถีบสวนเข้าที่ท้องของรุ่นพี่คนนั้นเต็มแรงจนกระเด็นลงไปนอนกับพื้น

ขณะเดียวกันหน้าตึกคณะวิศวกรรมศาสตร์ คีตะและภูผากำลังเดินคุยกันลงมาเรื่องโปรเจกต์ที่ได้รับมอบหมายจากอาจารย์

เพื่อนร่วมรุ่นคนหนึ่งวิ่งเข้ามาหาทั้งคู่

“ไอ้คีตะ!! น้องที่ซ้อนท้ายมึงมาเมื่อเช้า โดนรุมอยู่หลังโรงอาหารว่ะ!”

คำพูดนั้นทำให้เขาชะงัก ดวงตาคมวาววับเป็นประกาย ก่อนจะออกวิ่งตรงไปยังหลังโรงอาหารทันที โดยมีภูผาโวยวายตามหลัง

ทางด้านเมษาที่กำลังตบรุ่นพี่อย่างเมามันด้วยทักษะที่เหนือกว่า ดันตาไวเห็นคีตะกำลังวิ่งตรงมาแต่ไกล

ร่างสูงในชุดนักศึกษาที่พับแขนเสื้อกับกระเป๋าสะพายเฉียงนั้น…ใครเห็นก็ต้องรู้ว่าหล่อชะมัด!

เธออาศัยจังหวะชุลมุนรีบตีหน้ารุ่นพี่จนคิ้วแตกทันที—เอ๊ย! ตีหน้าเศร้า…แล้วทำเป็นลื่นล้มลงกับพื้น พร้อมเซฟตัวเองด้วยท่าทางเนียน ๆ ที่ดูเหมือนถูกทำร้ายอย่างหนัก

ตุบ!

“อ๊ะ!”

เสียงเมษาร้องเบา ๆ มือเล็กยันพื้นไว้ ก่อนจะแกล้งตัวสั่นนิด ๆ

คีตะที่วิ่งมาถึง เห็นภาพนั้นพอดี—โดยไม่ทันมองเลยว่าอีกสามสาวนั้น…ผมกระเซิง แก้มแดง มือสั่น หน้าตาเละกว่าซุปมิโสะ!

“พวกเธอทำบ้าอะไรกัน?”

เสียงของเขาตะคอกออกมาด้วยอารมณ์โมโห ก่อนตรงเข้าไปหาเมษาที่ล้มอยู่

“มะ…ไม่ใช่นะ พวกเราแค่…”

“ไสหัวไป ก่อนที่ฉันจะรายงานเรื่องนี้ให้อาจารย์รู้”

น้ำเสียงเย็นเยียบและสายตาคมกริบของคีตะทำให้สาว ๆ รุ่นพี่รีบถอยออกไปแบบไม่คิดชีวิต

คีตะหันกลับมาหาเมษา

“เจ็บตรงไหนมั้ย?”

เมษาเงยหน้ามองเขา ตาใส ๆ สั่นระริกเล็กน้อย

“หนู…ไม่เป็นไรค่ะ”

คีตะยื่นมือให้

“ลุกไหวมั้ย?”

เมษายิ้มบาง ๆ พร้อมคว้ามือนั้นไว้

“ขอบคุณค่ะ”

“โอ้ย แฮ่ก แฮ่ก” ภูผาที่วิ่งตามมาหอบแฮ่กด้วยความเหนื่อย

“น้องเมษาเป็นไรมั้ย?”

“ไม่เป็นไรค่ะ” เมษายิ้มให้ภูผาแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากคีตะ ขณะที่ร่างสูงยังคงกวาดตามองทั่วร่างเธอว่ามีการบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า

“อะแฮ่ม~ จะไม่แนะนำหน่อยเหรอ” พริ้มกระแอมเตือนเพื่อน

“อุ๊ย พี่คีตะ พี่ภูผา นี่พริ้มเพื่อนเมษาค่ะ” เมษาแนะนำเพื่อนสาว

“สวัสดีค่ะ พี่คีตะ พี่ภูผา”

“ว้าววว~ น้องพริ้มน่ารักไม่แพ้น้องเมษาเลยนะเนี่ย” ภูผาตาเป็นประกายแพรวพราว

“จริงสิ พี่คีตะ พี่ภูผา" เมษาร้องขึ้นเหมือนนึกอะไรออก

“วันนี้หนูกับพริ้มว่าจะไปคาเฟ่เปิดใหม่ ชื่อ จันทร์ละมุน ตามรีวิวในโซเชียลเลยค่ะ คาเฟ่ตกแต่งแนวเกาหลีมินิมอล มีโทนสีขาวครีมกับดวงไฟที่เหมือนแสงจันทร์~ หนูอยากไปถ่ายรูปมากเลย!”

เธอยิ้มกว้างอย่างตื่นเต้น ดวงตาเป็นประกายใส

“ไปด้วยกันมั้ยคะ? ถือว่าเป็นการเลี้ยงขอบคุณที่พวกพี่มาช่วยเมษาก็ได้~”

“ไปสิ!” ภูผารีบตอบทันทีด้วยท่าทางกระตือรือร้นสุด ๆ

“ไปใช่มั้ย ไอ้คี”

คีตะมองเมษาเงียบ ๆ อยู่พักหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

“เธอเจ็บตัวแทนที่จะพัก กลับจะลากฉันไปคาเฟ่?”

“หูย~ หนูไม่ได้เป็นแผลตรงไหนนะคะ แค่เจ็บก้นนิดเดียวเอง” เมษาเอียงคอฉีกยิ้มกว้าง ทำเอาพริ้มกลั้นขำแทบไม่อยู่

คีตะยกมือขึ้นลูบต้นคอตัวเองอย่างปลง ๆ

“ก็ได้... แต่อย่าซ่าอีกล่ะ”

“เย่~!”

เมษากับพริ้มตะโกนเบา ๆ พร้อมตบมือตัวเองด้วยความดีใจ ก่อนจะพากันเดินไปยังลานจอดรถพร้อมคีตะ โดยมีภูผาเดินตามหลังพร้อมบ่นว่า

“หวังว่าร้านจันทร์ละมุนจะมีเค้กช็อกโกแลตไม่หวานเกินนะ...”

🌸🌸🌸

คาเฟ่จันทร์ละมุน

ร้านคาเฟ่ชื่อดังที่กำลังไวรัลในโซเชียล ตั้งอยู่ในซอยเล็ก ๆ ใกล้กับมหาวิทยาลัย บรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งด้วยโทนสีขาวครีม ผสมกลิ่นอายเกาหลีมินิมอลและความวินเทจละมุนตา

ภายในร้านมีแชนเดอเลียร์ทรงพระจันทร์เสี้ยวห้อยอยู่กลางร้าน แสงสีทองนวลส่องกระทบเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน เพิ่มความอบอุ่นน่าถ่ายรูปไปทุกมุม

เคาน์เตอร์ไม้หน้าร้านมีป้ายเขียนด้วยลายมือหวัดสวยว่า:

🌕 เมนูแนะนำวันนี้

· เค้กชาไข่มุกหน้านุ่ม “Moon Boba Cream”

· บลูเบอร์รี่ชีสพายเย็น

· ลาเต้ “Midnight Moon” (ลาเต้เข้มสูตรลับเฉพาะของร้าน)

· คาราเมลมัคคิอาโต้ร้อน

· ครัวซองต์อบสดเนยฝรั่งเศส

· ทีรามิสุซากุระ

เมษาเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในร้าน ดวงตาเปล่งประกายวิบวับทันที เมื่อเห็นโซนกระจกริมหน้าต่างที่ประดับด้วยม่านลูกไม้ และมีโต๊ะกลมวางแจกันดอกไลแล็คสีชมพูพาสเทล

“ว้าววว~ น่ารักมากเลยค่ะ~”

เมษาหมุนตัวเล็กน้อยด้วยท่าทางสวยงามสมกับเป็นคุณหนูลูกท่านทูต

“อยากนั่งตรงนั้น!” พริ้มชี้ไปยังมุมโปรดที่เห็นพระจันทร์จำลองบนผนัง

ขณะที่ทุกคนกำลังเลือกที่นั่ง พนักงานหน้าตาน่ารักก็มารับออเดอร์

“พี่คีตะชอบกาแฟเข้ม ๆ ใช่มั้ยคะ? หนูสั่งลาเต้มิดไนท์ให้นะคะ~” เมษาหันมาถามด้วยรอยยิ้มแสนหวาน

คีตะพยักหน้าน้อย ๆ

“แล้วของเธอล่ะ?”

“Moon Boba Cream ค่ะ~ เค้กชาไข่มุกหน้านุ่มอันนี้ดังมากในรีวิวเลย ต้องลอง!”

“ผมเอาคาราเมลมัคคิอาโต้ร้อนกับครัวซองต์ครับ~” ภูผาเสริมพลางยิ้มกว้าง

“แล้วพริ้มล่ะ จะกินอะไรดี?” เมษาหันไปถามเพื่อนสาวที่กำลังนั่งดูเมนูด้วยท่าทางครุ่นคิด

“ขอเป็น Strawberry Bloom Soda กับชีสเค้กยูซุค่ะ~”

พริ้มยิ้มหวานให้พนักงาน ก่อนจะหันไปกระซิบเมษาเบา ๆ

“นึกว่าจะไม่ถามฉันแล้ว เห็นจ้องแต่พี่คีตะจนแทบจะกินพี่เขาเข้าไปแล้ว”

“ยัยพริ้ม!” เมษาหัวเราะเขิน ๆ แล้วตีแขนเพื่อนเบา ๆ

หลังจากทุกคนสั่งเมนูเสร็จเรียบร้อย ก็พูดคุยกันอย่างเป็นกันเอง โดยภูผาเอาแต่ซักถามประวัติของเมษาอย่างออกนอกหน้า จนคีตะต้องปรามเพื่อน

ไม่นานนัก พนักงานเสิร์ฟ ก็นำของหวานที่ทุกคนมาเสิร์ฟที่โต๊ะ

กลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดลอยคลุ้งทั่วร้าน เสียงเพลงบรรเลงเปียโนเบา ๆ กล่อมให้ทุกอย่างดูสโลว์ไลฟ์

เมษาใช้เวลาจัดจานถ่ายรูป—เธอค่อย ๆ หมุนเค้กให้มุมดีที่สุด แสงตกกระทบหน้าครีมสีขาวที่สอดไส้ไข่มุกน้ำตาลอ่อน

“นี่ ๆ พี่คีตะลองเค้กหน่อยมั้ยคะ?”

เมษาตักคำเล็ก ๆ แล้วจ่อช้อนมาตรงหน้าเขา

“ลองดูสิคะ”

คีตะเลิกคิ้ว แต่ก็ยอมก้มหน้าลงมาเล็กน้อย...แล้วงับเค้กเข้าปาก ก่อนเคี้ยวตุ้ย ๆ

เมษากับพริ้มเห็นแบบนั้นก็หลุดหัวเราะคิกคักออกมา

“อร่อยมั้ยคะ?” เมษาเอียงคอถาม

“อืม...ใช้ได้” เขาพูดสั้น ๆ แต่กลับตักเค้กของเมษาอีกคำโดยไม่ขอ

“เย้~”

‘พี่คีตะยอมกินเค้กที่หนูแนะนำแล้ว~ ถือว่าเป็นความสำเร็จของวันนี้เลยค่ะ!’

“แบบนี้ต้องอัปลงไอจีแล้ว~”

เมษาหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายภาพรวดเร็ว ทั้งบรรยากาศ ทั้งเซลฟี่ ทั้งแอบแชะพี่คีตะกับภูผาไว้ครบ

“ว่าแต่...ไอจีพี่คีตะชื่ออะไรคะ เดี๋ยวหนูแท็กไป~”

เธอทำเสียงใส ๆ พร้อมเอียงหน้าถามด้วยความน่ารัก

“ฉันไม่ค่อยเล่นพวกนั้นหรอก” เขาตอบนิ่ง ๆ แต่ตักเค้กของเธออีกคำอย่างหน้าตาเฉย

“ไอ้คีมันขี้เก๊ก อย่าไปเชื่อ”

ภูผาเสริมขณะง่วนอยู่กับครัวซองต์ในมือตัวเอง

“จริง ๆ มันมีครบ ทั้งแอพแชทเขียว แอพฟ้า ไอจี สตอรี่… แต่มันแค่เอาไว้ส่องเฉย ๆ

“งั้น...” เมษาอมยิ้มแบบเนียน ๆ

“หนูขอแอดเฟรนด์พี่คีตะได้มั้ยคะ?”

คีตะนิ่งไปนิด ก่อนจะหยิบมือถือออกมายื่นให้เธอ

“เอาไปแอดเองแล้วกัน”

ภูผากับพริ้มถึงกับตาโต ในขณะที่เมษาดี๊ด๊ารับมือถือของคีตะมา แล้วรีบแอดเฟรนด์ครบทุกแอปฯ อย่างคล่องมือ ก่อนจะยิ้มตาหยี

“แอดเสร็จแล้วนะคะ~ เดี๋ยวหนูแท็กไปค่ะ”

เธอส่งมือถือคืนให้คีตะ ในขณะที่หัวใจแอบเต้นตึกตัก

เมษานั่งไขว่ห้างอย่างเป็นธรรมชาติ มือเรียวยกมือถือขึ้นมาไถดูรูปที่เพิ่งถ่ายในร้านเมื่อครู่นี้

“อืม…รูปนี้ดีสุด~”

เธอยิ้มบาง ๆ เมื่อเห็นภาพที่คีตะก้มหน้ากินเค้กแบบไม่รู้ตัว กล้องจับจังหวะได้พอดีเป๊ะ แม้เขาจะมีสีหน้าเฉยเมยกับการตักเค้ก แต่ก็ยังดูหล่อเหลากระชากใจสาว ๆ อยู่ดี และที่สำคัญ...เธอเองก็อยู่ในเฟรม แอบส่งยิ้มหวานในฉากหลัง

เมษาแต่งสีภาพนิด ๆ เติมฟิลเตอร์ละมุนให้ดูเหมือนภาพฟุ้ง ๆ จากฝัน แล้วก็พิมพ์แคปชั่นลงไปในโพสต์อย่างใจเย็น…

“เค้กหวานมั้ย...ไม่รู้ ต้องถามคนตรงข้ามดู 💬🍰

#เคยบอกว่าไม่ชอบของหวาน...แต่ก็กินเค้กของหนูไปตั้งสองคำแล้วนะคะ 💗 @keetah.eng”

“หนูแท็กหาพี่เรียบร้อยแล้วค่ะ”

โพสต์เสร็จ เมษาส่งยิ้มหวานให้คีตะที่พยักหน้าหงึกหงัก โดยมือยังคงตักเค้กกินไม่หยุด

หลังจากเมษาโพสต์ไม่นาน คอมเม้นต์ก็หลั่งไหลมาเต็ม เพราะยอดฟอลของเธอก็หลักแสนคนอยู่

“เรียบร้อย~ ส่งสัญญาณให้โลกทั้งใบรู้ว่า...ฉันเริ่มรุกแล้ว~”

พริ้มกลอกตาแรงใส่เพื่อน

“ยัยคุณหนูสายบุก…อย่าลืมพกอาวุธด้วยนะ เดี๋ยวพวกสาว ๆ รุ่นพี่จะเล่นแกอีกยก”

“กลัวที่ไหนกัน~” เมษากระซิบตอบพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“พร้อมบวกเสมอ...รวมถึงเป้าหมายด้วย~”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 47 ตอนพิเศษ: เมียท้อง!! แต่สามีเห่อหนักจนน่าจับตี

    สัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์เมษายังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นแค่ช่วงนี้…ข้าวมันไก่ที่เคยกินแล้วฟินตอนดึก กลับกลายเป็นศัตรูของชีวิต ข้าวต้มปลาเจ้าประจำที่เคยคลั่งไคล้ ตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็แทบอ้วกแต่สิ่งที่เธอรู้แน่ ๆ คือ…เธอกำลังจะมีลูก และ “คุณพ่อเด็ก” ก็คือสามีสุดหล่อผู้คลั่งรักที่เพิ่งรู้ข่าวนี้ไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว18.47 น.เสียงประตูคอนโดดัง “แกร๊ก”“เมียครับ!!! ลูกพี่กินอะไรได้บ้าง!! พี่ซื้อของมาเป็นสิบถุง!!!”คีตะ โชติธาดาคนเดิม เพิ่มเติมคือระดับความเห่อเกินหนึ่งพันเปอร์เซ็นต์ในมือเขาถือทั้งซุปปลาแบบออร์แกนิก ขิงแก่สดจากเชียงราย น้ำมะพร้าวไม่แช่เย็น ผ้าคลุมไหล่สำหรับหญิงตั้งครรภ์และ…หนังสือชื่อ ‘เข้าใจเมียท้องใน 60 นาที’ ที่เปิดอ่านค้างไว้ตรงหน้าแรก“พี่คีตะคะ…” เมษาถอนใจเฮือก“แค่หนูบอกว่าอาเจียนตอนเช้า พี่ก็ไปเหมาโซเชียลเหรอคะ?”“ก็…ก็พี่กลัวเมียเหนื่อยไงคะ แล้วก็ลูกพี่…ก็แสบตั้งแต่ยังไม่ออกมา!”คีตะวางของลง ก่อนจะพุ่งมาทรุดตัวนั่งข้างเธอบนโซฟา เอามือทาบท้องเธอเบา ๆ ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่เห็นพุงแม้แต่นิด“อยากให้พี่ทำอะไรมั้ยครับ? อยากกินอะไรเป็นพิเศษ? น้ำแข็งจากขั้วโลก? ท

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 46 ตอนพิเศษ: 3 ปีต่อมา...เมียยังน่ารักไม่เปลี่ยน

    3 ปีต่อมา…แม้กรุงเทพฯ ยังจมอยู่ในวังวนเดิม ๆ ของการจราจรที่เหมือนภาพซ้ำทุกเช้าเย็น แต่ชีวิตของคีตะเปลี่ยนไปไกลราวฟ้ากับเหวจากเมื่อสามปีก่อนจากอดีตหนุ่มวิศวกรรมเครื่องกลที่ชีวิตผูกติดกับเครื่องจักร น้ำมันเครื่อง และซอฟต์แวร์ควบคุมอัตโนมัติวันนี้เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำในห้องประชุมกระจกชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่ อาริกาโตะ กรุ๊ป—บริษัทเทคโนโลยีระดับอินเตอร์ที่กำลังเติบโตเร็วเหมือนติดจรวดในมือของเขามีทั้งดีลระดับพันล้าน หุ้นใหญ่ในมือ และแผนระดมทุนรอบใหม่ที่เหล่านักลงทุนต่างเฝ้ารอแต่ในสมองของเขา...มีเพียงคำถามเดียวที่วนซ้ำอยู่ทุกวัน‘เมียกูกินข้าวยังวะ’ไม่ว่าในแต่ละวันจะมีตารางงานแน่นขนาดไหน ต่อให้เลขาฯ ต้องคุกเข่ากราบขอให้เลื่อนนัดด่วนกับนักลงทุนต่างชาติคีตะก็จะส่ายหน้า...แล้วพูดเสียงนิ่งว่า“ผมห้ามมีนัดหลังหกโมงเย็นเด็ดขาด”‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ ประจำตัวผู้บริหารใหญ่นี้คือกฎเหล็กข้อเดียวที่ใครก็ห้ามล้ำเส้นเพราะนั่นคือเวลาที่เขาจะรีบกลับคอนโดหรูย่านสุขุมวิท...กลับไปหาเมียที่ทั้งน่ารัก แสบ และเป็นแม่บ้านที่เขาหลงรักยิ่งกว่ากำไรรายไตรมาสวันนี้ก็เช่นกัน...เสียง ‘ติ๊ด’ จากปร

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 45 ตอนพิเศษ: ของขวัญชิ้นพิเศษจากพี่คีตะ

    เสียงแสงแดดกลางฤดูหนาวทาบทอผ่านสนามหญ้ากว้างของมหาวิทยาลัย R.C.U. กลิ่นดอกไม้ปนกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ท่ามกลางเสียงชัตเตอร์มือถือที่ดังระรัวจากบรรดาเพื่อน ญาติ พี่น้องที่แห่มาร่วมแสดงความยินดีในวันสำเร็จการศึกษาเมษาในชุดครุยปักตราประจำคณะเดินออกจากหอประชุม พร้อมรอยยิ้มสดใสทันทีที่เห็นคนสำคัญ“คุณแม่! คุณพ่อ!”เธอวิ่งเข้าไปกอดคุณแม่ปาริฉัตรแน่น ส่วนท่านทูตดิลกก็ส่งยิ้มอย่างภูมิใจพลางเอื้อมมาลูบผมลูกสาวเบา ๆ“ลูกสาวพ่อเรียนจบแล้วนะ”“สวยที่สุดในรุ่นเลยค่ะ ลูกแม่!”ด้านหลังยังมีอีกสองคนที่ยิ้มอย่างภูมิใจไม่แพ้กัน — คุณธนา และคุณแม่อัญญาของคีตะ ทั้งคู่ยืนถือของขวัญกล่องเล็ก ๆ พร้อมดอกไม้ช่อโตที่เตรียมมาให้เธอเช่นกัน“ยินดีด้วยนะจ๊ะ หนูเมษา”“ขอบคุณค่ะ คุณอา คุณน้า” เมษายิ้มแก้มแทบปริ ก่อนจะรับของขวัญจากทั้งคู่“แล้ว...พี่คีตะล่ะคะ?” หญิงสาวหันมองไปรอบตัวทุกคนมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนแอบอมยิ้ม“หาพี่เหรอ?”เสียงทุ้มคุ้นหูทำเอาเมษาหันขวับไปทันทีคีตะมาในเสื้อเชิ้ตพอดีตัว กางเกงสแลค หล่อเนี้ยบจนทำเอาเมษาถึงกับตาพร่า แต่สิ่งที่ทำให้เธอใจเต้นกลับไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ —มันคือสายตาที่

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ คืนที่พระจันทร์...เป็นพยาน (2/2)

    “คิดอะไรอยู่ หืม~?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหลัง ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมอง แล้วต้องกลั้นหายใจเล็กน้อยคีตะในชุดลำลองเสื้อกล้ามสีเข้มกับกางเกงผ้าสบาย ๆ ผมเปียกนิดหน่อยจากการอาบน้ำ มือข้างหนึ่งถือแก้วน้ำเย็น อีกข้างถือผ้าขนหนูเขาเดินเข้ามาหาช้า ๆ แล้วนั่งลงข้างเธอ พลางยื่นผ้ามาคลุมศีรษะเธอไว้เบา ๆ ก่อนวางแก้วไว้ข้างตัว“ผมยังไม่แห้งดีเลย เดี๋ยวไม่สบาย” เสียงนุ่มนวลเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และค่อย ๆ เช็ดผมให้เธอ“อื้อออ~ ไม่ต้องเช็ดแรงก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหัวหนูหายหมด” เมษาบ่นอุบ แต่เสียงกลับแผ่วลงเรื่อย ๆคีตะหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหยุดเช็ด แล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตาคมนิ่งลึกสะท้อนแสงจันทร์ และเธอรู้สึกได้ว่า ลมหายใจของเขาอยู่ใกล้เพียงปลายนิ้ว“พะ...พี่คีตะ...”“หืม?” คีตะเลื่อนมือมาจับปลายคางเธอเบา ๆ“คือ...” เมษาตาโต หน้าแดงซ่านไม่ทันได้พูดอะไร ริมฝีปากของเขาก็โน้มลงมาแตะกับริมฝีปากของเธอเบา ๆ จูบแรกนั้นนุ่มนวล...อบอุ่น...แฝงความทะนุถนอมแต่ในวินาทีถัดมา รสจูบนั้นกลับค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆปลายลิ้นร้อนแตะที่กลีบปากเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ดุนดันให้เธอเปิดรับสัมผัสที่เร่าร้อนยิ่งกว

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ คืนที่พระจันทร์...เป็นพยาน (1/2)

    หลังจากคีตะเรียนจบคุณพ่อธนาไม่รอช้า…กดดันให้ลูกชายคนเดียวเข้าไปช่วยงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวทันที“จะออกแบบเครื่องยนต์ หุ่นยนต์ หรืออะไร พ่อไม่ว่า แต่ช่วยทำโปรเจกต์กับแผนกเทคโนโลยีในเครือเราซักอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อน ได้มั้ยลูก!”เสียงของคุณพ่อยังดังก้องในหัวเขาแต่คีตะในเสื้อฮู้ดสีเทา กับกางเกงวอร์มเรียบ ๆ กลับนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ยกโน้ตบุ๊กขึ้นบนตัก เปิดแบบจำลองหุ่นยนต์ต้นแบบที่เขาออกแบบเอง —โครงสร้างเครื่องกลซับซ้อนแต่สมบูรณ์แบบจนเหมือนสิ่งมีชีวิตจริง‘ถ้ามีเวลาอีกซักหน่อย...โปรเจกต์นี้ต้องสำเร็จแน่’เขาคิดในใจ ก่อนเสียงใส ๆ ที่คุ้นเคยจะดังขึ้นจากประตู“พี่คีตะขา~ หนูเอาน้ำมะพร้าวมาฝาก~”เสียงหวานนั่นทำให้เขาชะงัก เงยหน้าขึ้น — และทันทีที่เห็นคนตรงหน้า ความเครียดทั้งวันก็ละลายหายไปในพริบตาเมษาในชุดเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่า เดินยิ้มหวานถือแก้วที่มีน้ำมะพร้าวเย็น ๆ กับถุงใส่ขนมที่เธอซื้อมาฝากตั้งแต่สอบปลายภาคเสร็จ พ่อและแม่ของเธอก็ต้องกลับไปประจำสถานทูตอังกฤษเหมือนเคย และเพราะไม่อยากให้เธออยู่บ้านคนเดียว — เมษาจึงกลับมาอยู่บ้านโชติธาดาอีกครั้งแล

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 43 อนาคตเป็นยังไงไม่รู้...รู้แค่ว่าอยากมีเธอต่อไปในทุกปี

    วันเวลาผ่านไปจนเมษาและคีตะเข้าสู่ปิดเทอมอีกครั้ง และครั้งนี้พ่อและแม่ของเมษาลางานกลับมาเพื่อใช้เวลาอยู่กับลูกสาวที่เมืองไทย ทำให้เมษาต้องกลับไปอยู่ที่บ้านของเธอชั่วคราวแต่เมื่อท่านทูตดิลกรู้ว่าคีตะกับเมษาคบกัน ท่านทูตก็เปลี่ยนบุคลิกกลายเป็นคุณพ่อโหมดหวงลูกสาวทันทีวันนี้...คีตะมีภารกิจ เขาตั้งใจมาขออนุญาตท่านทูตดิลกเพื่อพาเมษาไปเที่ยวด้วยกัน สำหรับ ‘เดทแรก’ ของทั้งคู่ในฐานะ ‘แฟน’บรรยากาศบ้าน ‘ไทระ’ ในย่านเงียบสงบของกรุงเทพฯ ร่มรื่นด้วยเงาต้นไม้ใหญ่และกลิ่นชาเขียวจากสวนญี่ปุ่นที่อยู่ข้างตัวบ้าน แสงแดดอ่อนของช่วงบ่ายส่องลอดใบไผ่รำไร — สะท้อนลงบนกระดานหมากรุกไม้สักกลางโต๊ะหินทรงสี่เหลี่ยม“นั่งสิ”เสียงทุ้มทรงอำนาจแต่สุภาพของท่านทูตดิลกดังขึ้นชัดเจน ขณะเขานั่งไขว่ห้างใต้ร่มกันสาดผ้าเช็ดหน้าสีขาวพับอย่างเรียบกริบวางไว้บนตัก ข้างตัวคือชาร้อนและคุกกี้จากลอนดอนที่ลูกสาวสุดรักสุดหวงจัดเตรียมไว้ให้คีตะในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมเรียบกับกางเกงสแล็กยืนอยู่ตรงหน้า — ข้างกายเขาคือเมษาที่ทำท่าจะเอ่ยปาก แต่ก็ถูกสายตาปรามเบา ๆ จากคุณแม่ปาริฉัตร ที่ยืนพิงประตูกอดอกราวกับกำลังดูซีรีส์เกาหลีด้วยสีหน้าสนุก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status