LOGIN“ต่อไปผมจะไม่เบามือแล้วนะ…”
เขากระซิบเบา ๆ
ก่อนเลื่อนใบหน้าลงต่ำ แล้วไล่จูบตั้งแต่ต้นคอลงมาจนถึงทรวงอก
เธอสะดุ้งเฮือก เขายิ้มมุมปากอย่างพอใจ ปลายนิ้วเรียวยาวเขี่ยสลับบีบบี้บนยอดถัน ร่างบางเสียวสะท้านหนีบขาเข้าหากันขยับสะโพกไปมา สองมือของเขาไล้เลื้อยตามสะโพกกดบีบขย้ำพอดีมือ
ริมฝีปากหยักค่อย ๆ พรหมจูบมายังหน้าท้องแบนราบ ขบเม้มบริเวนท้องน้อยเหนือขอบกางเกงในตัวจิ๋ว ทำให้คนเบื้องล่างดิ้นพล่าน เธอเงยหน้าขึ้นมาดูการกระทำของเขา อย่างไม่อาจปฎิเสธได้
“อืม..อ่าส์”
เขาค่อย ๆ รูดกางเกงในตัวจิ๋วลงมาที่เขาเรียว เพื่อไม่ให้บดบังเนินสวาทที่อวบอูม ขาวขนรำไร ..ช่างเย้ายวนชวนให้ปลุกอารมณ์ความต้องการให้เขาได้ไม่น้อย
“คุณสวยมาก”
เขาพึมพำเสียงแทบพร่า
ก่อนจะเอื้อมมือคลี่กลีบเนื้อสีชมพูแยกออกจากกัน แล้วค่อย ๆ สอดแทรกนิ้วกลางเรียวยาวของเขาเข้าไป
"อื้ม....คะ...คุณ"
เธอสะดุ้งเสียงกระเส่า
คีรติไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปเสียเปล่า เขากดจูบที่ต้นขาด้านในของเธอ พร้อมขยับนิ้วเข้าออกเป็นจังหวะ
ณิชาครางสะท้านไปทั่วห้อง
"อ้ะ....อ่าส์..เสียวเหลือเกิน....อ้ะ.....อ่าาาาาส์"
เธอหลับตาปี๋ เพลิดเพลินไปกับนิ้วเรียวของเขา ไม่นานเขาก็สอดนิ้วนางเข้าไปเพิ่มเป็นสอง
“อ๊ะ...แน่นเจ็บ” เธอสะดุ้ง
"อดทนหน่อยนะครับเดี๋ยวเสียวเอง "
เขากระซิบพร้อมจูบปลอบโลม
เสียง แจะ.. แจะ..ดังถี่ ความฉ่ำแฉะไปทั่วร่องสวาทของเธอ เขารัวนิ้วถี่ขึ้นจนน้ำหวานสีใสออกมาล้นทะลักฝ่ามือของเขาไหลลงร่องก้นขาวลงมาที่ผ้าปูเตียง
“โอ๊ะ...มันเสียวฉันต้องการ....อื้ม....ได้โปรด”
เธอกระซิบ
“ยังไม่ถึงเวลาครับที่รัก...ขออีกนิดหนึ่ง”
เขายกยิ้มเมื่อเห็นเธอแอ่นกายยกสะโพก เงยหน้าตาปรือจากความสุข
“น้ำเยอะมาก ขอลิ้มรสก่อนนะครับ”
ริมฝีปากของเขาขมเม้มกลีบเนื้อเบา ๆ ก่อนที่จะเกร็งลิ้นลากลิ้นร้อนสัมผัสร่องสวาทสาวขึ้นลงอย่างจงใจ
“จ๊วบ ๆ”
เขาดูดกลืนไม่มีท่าทีรังเกียจเธอแม้แต่น้อย
“อืมหวานกว่าที่คิดเสียอีก แม่สาวน้อย”
“อ่าส์....คุณช่วยฉันด้วย ฉัน....”
สองมือเธอจิกที่ไหลของเขาจนเป็นรอยเล็บแดงนูนเห็นได้ชัด
“คุณต้องการแล้วใช่ไหม...ใจเย็นๆ นะผมจะจัดให้เดี๋ยวนี้”
เขาถอดเสื้อคลุมออก เอ็นร้อนของเขาชูผงาด น้ำใส่ไหลเคลือบปลายหัวเอ็นร้อน เขาเอื้อมมือรูดชัก จนพร้อมใช้งาน
เอาเอื้อมหยิบถุงยางไซต์ 56 สวมใส่ของตัวเองอย่างช่ำชอง
“แยกขากว้าง ๆ หน่อยนะ คุณแยกไหวไหม”
ณิชาส่ายหน้าไปมาเหมือนเธอไม่มีสติ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ยังไม่จืดจาง
เขายกขาเรียว แยกออกจากกัน จนมองเห็นร้องสวาทชัดเจน และนั้นคือเป้าหมายที่เขาต้องจัดการ
“แคบขนาดนี้จะรับผมไหวไหมที่รัก ”
เขากระซิบและเม้มที่ติ่งหูของเธอ ณิชาถึงกับขนลุกเธอหายใจสั่นไหวใจเต้นแรงกว่าเดิม
เขาค่อยๆ ถูเอ็นร้อนวนร่องสวาท แต่เมื่อถึงจังหวะที่สอดใส่
“โอ๊ะ...เจ็บ”
เธออุทานออกมา หนีบขาเข้าหากันอัตโนมัติ
“คุณยังไม่เคย?”
เขาตกใจทำไมคนที่ยังไม่เคยผ่านมือชายถึงกล้ามอบครั้งแรกให้กับขายแปลกหน้า เธอคิดอะไรกันแน่
เขานิ่งสักครู่
“ทำต่อสิคะหยุดทำไม”
“แต่คุณยังไม่เคย มีอะไรมาก่อน”
“แล้วมันสำคัญตรงไหน ฉันซื้อคุณมาแล้ว คุณมีหน้าที่บริการได้เงินก็แยกย้าย ไม่เห็นต้องคิดเยอะ วินวินทั้งคู่”
ณิชาไล้หน้าอกของเขา เธองับไปที่หัวนมชาย เขาเองก็ต้องการเธอไม่น้อย
“เอาก็เอา...”
เขาพึมพำก่อนจับขาเรียวแยกออกอีกครั้ง และคราวนี้เขาจะไม่ปล่อยเธอต้องผิดหวังแน่นอน
เขาก้มหน้าลงไปที่ร่องสวาทอีกครั้ง ก่อนที่จะรัวลิ้นร้อนสอดแทรกเขาไปรัว ๆ จนบริเวณฉ่ำแฉะชื้นไปทั่วบริเวร เขาจึงงัดเอ็นร้อนขึ้นมาอีกครั้งถูวนไปมา ก่อนที่จะจูบเธอเพื่อเก็บเสียงและดันเอ็นร้อนเข้าไปจนมิดสุดโคน
“โอ๊ย...ใหญ่จัง..อื้อ”
“คุณเจ็บมากไหม”
เขาหยุดขยับร่างกาย แล้วถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ค่ะ ไหวทำต่อเลย”
เธอตอบเสียงสั่น
“ปั่ก...ปั่ก...ปั่ก”
“ปั่ก...ปั่ก...ปั่ก”
“แน่น...อื้อ...ซี๊ด.. อ้ะ...อ้ะ ฉันเสียวมาก ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อน”
“อ้ะ...อ้ะ...อ้ะ...คุณเก่งจังเลย”
ณิชาครางสนั่น แม้เธอจะเมาสะลึมสะลือแต่ความสุขที่เธอได้รับ เธอยังคงสัมผัสได้
“ปั่ก...ปั่ก...ปั่ก”
“ปั่ก...ปั่ก...ปั่ก”
“ของคุณตอดดีมาก...ผมก็เสียว...อ่าส์....”
"ผมจะไม่ไหวแล้ว"
"ตับ..ตับ..ตับ"
“อ๊ะ ...อ๊ะ..อ๊ากกก.....อ่าส์”
เวลาค่อย ๆ เคลื่อนไปในค่ำคืนที่ยาวนาน เสียงหัวใจสองดวงสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกัน
เมื่อทุกอย่างค่อย ๆ สงบลง ทั้งคู่เอนกายลงข้างกัน ความเหนื่อยล้าแผ่วเบาแทรกซึมในอากาศ
เธอหลับตาพริ้มก่อนจะขยับเข้าไปใกล้ เขายกแขนขึ้นโอบเธอเบา ๆ ความเงียบในห้องมีเพียงเสียงลมหายใจที่อ่อนโยนและมั่นคง
เช้าวันใหม่
แสงอาทิตย์อ่อน ๆ สาดลอดผ่านม่านบาง สีทองแต้มปลายผมของเธอที่กระจายอยู่บนหมอน เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พร้อมกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ยังอบอุ่นอยู่ในอก
เธอขยับตัว ลืมตาขึ้นช้า ๆ และสบตากับเขาโดยไม่ตั้งใจ ก่อนจะกวาดตามองรอบห้องเพื่อเรียกสติ แล้วก็ต้องชะงัก
เมื่อเห็นสิ่งของบางอย่างกระจัดกระจายอยู่ข้างเตียง ใบหน้าเธอแดงจัดขึ้นมาทันที
“เอ่อ... เมื่อคืนนี้ฉัน...”
เธอเอ่ยเสียงเบา
“คุณทำไม?”
เขาตอบกลับเสียงทุ้มและเข้ม
เธอสูดหายใจลึก
“ฉันจ้างคุณมาไง แล้วคุณก็ทำงานของคุณเสร็จแล้ว ฉันก็ต้องจ่ายค่าจ้างสิ”
เธอหันไปหยิบธนบัตรจากกระเป๋า ห้าพันบาทยื่นให้เขา เขามองธนบัตรในมือเธอ แล้วเงยหน้าขึ้นสบตา
“ทำไมไม่รับล่ะ? หรือว่าน้อยไป?”
เธอพูดพลางขมวดคิ้ว
“ห้าพันนี่ไม่น้อยนะ แถมก็ถือว่าสมเหตุสมผลกับบริการเมื่อคืนแล้ว”
เขาหลุดหัวเราะในลำคอเบา ๆ
“เมื่อคืนคุณ... ใช้ผมไปห้าครั้ง แล้วให้ห้าพันเนี่ยนะ? ”
เธอหน้าแดงกว่าเดิม พูดเสียงแผ่ว
“นี่จะมาโก่งราคากันเหรอ? อีกอย่างนะ... คืนนี้มันเป็นครั้งแรกของฉันเลย...คุณก็กำไรแล้วนะ”
เขาชะงักไปชั่วครู่ ก่อนยิ้มบาง ๆ อย่างพึงพอใจ
“แต่เดี๋ยวนะ ถุงยาง 1 กล่องมี 3 ชิ้นแล้วนายบอกว่า 5 ครั้ง อีกสองครั้งไม่ได้สวมงั้นหรอ?”
เธอพูดเสียงสั่น
เขาพยักหน้า
“จะให้ผมทำยังไง ในเมื่อคุณเรียกร้องหนัก เร้าหรือจะเอา จะเอาอยู่ได้....ผมก็จำเป็นต้องทำตามใจคุณสิ”
“นายนี่มัน...”
เธอพูดไม่ออก...ได้แต่ถอนหายใจ ยื่นธนบัตรเพิ่มให้อีกหนึ่งพัน
“หกพันขาดตัว แล้วเราไม่ต้องเจอกันอีก”
พูดจบ เธอก็รีบลุกขึ้นแต่งตัวโดยไม่หันกลับมามอง แล้วเดินออกจากห้องไปอย่างเยือกเย็น
เขานั่งนิ่ง มองประตูที่เพิ่งปิดลง แล้วพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
“ได้ผมแล้วคิดจะทิ้งกันง่าย ๆ เหรอ... ไม่มีทาง”
สายตาเขาเหลือบไปเห็นคราบสีแดงจาง ๆ บนผ้าปูที่นอน รอยยิ้มมุมปากค่อย ๆ ปรากฏขึ้น
คีรติยืนอยู่ในห้องส่วนตัว มองธนาบัติในมือ ก่อนที่เขาจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
“สืบให้หน่อย… ผู้หญิงที่อยู่กับฉันเมื่อคืน เธอเป็นใคร”
เสียงเขานิ่งแต่เต็มไปด้วยความจริงจัง
แล้วสายตาก็เบิกกว้างเล็กน้อย
ก่อนจะยิ้มออกมา เขาส่ายหน้าเบา ๆ พลางพึมพำกับตัวเอง
“นี่คือครั้งแรกเลยนะที่ได้ค่ะตัว… หึ… ยัยตัวแสบ”
รอยยิ้มนี้ไม่ใช่รอยยิ้มเยาะเย้ย แต่เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความแปลกใจและความสนใจ
ผู้หญิงคนนี้ คือคนเดียวที่ทำให้หัวใจเขาปั่นป่วน
งานเลี้ยงบริษัทอสังหาริมทรัพย์ครั้งใหญ่ถูกจัดขึ้นอย่างหรูหราแขกผู้มีอิทธิพลในแวดวงธุรกิจต่างทยอยเข้าร่วมทุกคำเชิญ ทุกการจับมือ…ล้วนแฝงไว้ด้วยผลประโยชน์ที่มองไม่เห็นประสิทธิ์และดำรงคือหนึ่งในผู้ถือบัตรเชิญประสิทธิ์มาพร้อมกับ ณิชาขณะที่ดำรงพา คีรติ มาร่วมงานเช่นเดียวกันและแน่นอน…หากพูดถึงงานที่ผลประโยชน์เดินนำหน้าเช่นนี้ชื่อของ ธันวา ย่อมไม่อาจหายไปจากรายชื่อแขกได้เสียงดนตรีแจ๊สคลอเบา ๆ ลอยอบอวลไปทั่วห้องจัดเลี้ยงแชนเดอเลียร์สะท้อนแสงระยิบระยับเหนือศีรษะณิชาในชุดราตรีสีครีมยาวพลิ้วความเรียบหรูตัดกับผิวขาวผ่อง ทำให้เธอโดดเด่นราวกับแสงจันทร์กลางห้องไม่ว่าจะก้าวไปทางไหน ทุกสายตาก็จับจ้องมาที่เธอโดยไม่รู้ตัวขวัญเดินควงแขนมากับเตชทัตทั้งคู่เป็นที่รู้กันดีในวงสังคมว่ามีแพลนจะแต่งงานกันในกลางเดือนหน้า“ณิชา ทางนี้!”ขวัญเรียกด้วยรอยยิ้มดีใจณิชากำลังจะก้าวเข้าไปหาเพื่อนแต่สายตาของเธอกลับชะงักค้างหญิงสาวผมยาว ผิวขาวลูกครึ่งในชุดราตรีสีดำเข้ารูปยืนเคียงข้างชายคนหนึ่ง…คนที่เธอเคยรักสุดหัวใจ“พี่คีย์…”ณิชาอุทานแผ่วเบา ราวกับกลัวเสียงของตัวเองจะดังเกินไปครึ่งเดือน…ครึ่งเดือนเต
มือของคีรติกำแน่น หัวใจเหมือนถูกบีบจนเจ็บ เขาพยายามควบคุมน้ำเสียงให้สงบที่สุด“ขวัญ… ถ้าไปถึงแล้ว ดูแลณิชาก่อนนะ พี่จะไปเดี๋ยวนี้”ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนขวัญจะเอ่ยขึ้นด้วยความกังวล“พี่คีย์จะมาจริง ๆ เหรอคะ ถ้าณิชารู้ว่าพี่มา ทุกอย่างที่พี่ทำมาก่อนหน้านี้มันจะพังหมดนะคะ”“พี่แค่จะไปดูให้แน่ใจว่านิชาปลอดภัย แค่นั้นจริง ๆ”เขาตอบเสียงหนัก แต่แฝงความห่วงใยที่ปิดไม่มิด“พี่คีย์อดทนไว้นะคะ เพราะถ้ามีใครเห็นพี่แวะเวียนหรือข้องเกี่ยวกับณิชา ข่าวลือที่ปล่อยออกไปจะไม่น่าเชื่อถือทันที”ขวัญเว้นจังหวะเล็กน้อยก่อนพูดต่อ“ไม่ต้องห่วงนะคะ ณิชาขวัญดูแลได้ ขวัญโทรหาพี่เตให้มาช่วยแล้วค่ะ”คีรติหลับตาลงชั่วครู่ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ขอบใจมากนะขวัญ… งั้นพี่ฝากณิชาด้วย”สายถูกตัดลง แต่ความเป็นห่วงในใจเขากลับหนักอึ้งขึ้นกว่าเดิม“รักเธอมากแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย มันเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง”เขาพึมพำคนเดียวห้อง VIP – Diva Dee Bar“ณิชา… ทำไมดื่มหนักขนาดนี้”ขวัญเอ่ยเสียงหลง เมื่อเห็นเพื่อนรักนอนพับอยู่บนโซฟา ร่างกายอ่อนแรงแทบไม่มีสติเจ๊ดีถอนหายใจยาว สีหน้าฉายแววเป็นห่วง“เจ๊ให้เด็กพามาที่ห้อง
ทันทีที่ณิชาเดินเข้าไปเผชิญหน้ากับเขา“เพี้ยะ!”ฝ่ามือเล็กฟาดลงบนใบหน้าของคีรติอย่างแรง เสียงดังชัดเจนจนบรรยากาศในห้องตึงเครียดขึ้นมาทันที“อยากบอกเลิก ทำไมไม่บอกต่อหน้าฉันล่ะ มาเฟียสายโหด ความกล้ามีแค่นี้เองเหรอ?”ดวงตาของเธอแดงก่ำ เต็มไปด้วยความโกรธและความเจ็บปวด จนเขาแทบมองไม่เห็นความรักที่เธอเคยมีให้เขาอีกแล้ว“ถ้าไม่รักกันแล้ว ก็บอกกันตรง ๆ ไม่ต้องบอกแล้วหนีหน้าแบบนี้ ไม่ต้องกลัวฉันไม่รั้งใครไว้ทั้งนั้นเพราะณิชาไม่ใช่คนที่รอให้ใครมาบอกเลิกถ้าจะจบ…ฉันจะเป็นคนจบเอง”เธอสูดลมหายใจลึกก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่น“ที่มาวันนี้ ฉันไม่ได้มาทวงความรัก ไม่ได้มาอ้อนวอน แค่อยากมาทำให้ทุกอย่างมันจบ ไม่ต้องค้างคา”ณิชาหยิบบัตรเครดิตที่เขาเคยให้ไว้สองสามใบออกมาจากกระเป๋า แล้ววางลงบนโต๊ะตรงหน้าเขาเสียงบัตรกระทบโต๊ะดัง แปะ แผ่วแต่หนักหน่วงเหมือนตอกย้ำจุดจบของความสัมพันธ์“ของของคุณ ฉันเอามาคืน และหวังว่าต่อจากนี้ เราจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”เธอจ้องหน้าเขาตาเขม็ง“คนหลายใจอย่างคุณ ไม่คู่ควรที่จะมาเคียงข้างฉัน”ณิชาหลับตา กลืนน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ในดวงตาลง ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่เจ็บปวดที่สุดออกมา
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป อาการของณิชาดีขึ้น เธอจึงกลับมารักษาตัวต่อที่กรุงเทพ“พี่ณิชาอยากทานอะไรบอกพอร์ชได้นะครับ เดี๋ยวพอร์ชออกไปซื้อให้”พอร์ช น้องชายแท้ ๆ เข้ามาช่วยดูแลและเทคแคร์พี่สาวอย่างใกล้ชิด“ยังไม่อยากทานอะไรเลย ช่วงนี้กินไม่ค่อยลง”ณิชาตอบเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองแม่ที่ยืนจ้องเธออยู่ห่าง ๆ ด้วยความเป็นห่วง“แม่ค่ะ… ณิชาเลิกกับพี่คีย์แล้วนะ เขาบอกเลิกณิชา เขากลับไปหาแฟนเก่าของเขาค่ะ”ภารดีสบตากับลูกสาว เธอรู้ดีว่าณิชากำลังเจ็บปวดมาก แต่ก็ไม่รู้จะช่วยเยียวยาอย่างไร“ถ้าลูกสองคนเลิกกันแบบนี้ งานแต่งก็คงต้องยกเลิก แม่เสียใจด้วยนะลูก”“แม่ไม่คิดจะต่อว่าพี่คีย์เลยเหรอคะ ที่เขาทำกับลูกสาวแม่ได้ถึงขนาดนี้… หนูเจ็บนะคะแม่”น้ำตาของณิชาเริ่มคลอขึ้นจนแทบจะไหล พอร์ชเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเบี่ยงประเด็นทันที"ความรักคือเรื่องของคนสองคน ลูกโตแล้วก็ลองผิดลองถูก แม่ไปยุ่งไม่ได้หรอก แต่แม่จะคุยกับอรสาให้เขาจัดการลูกชายเขาแล้วกัน""ไม่ต้องค่ะแม่ ต่อให้เขากลับมาขอคืนดี ณิชาก็ไม่กลับไปหาเขาแล้ว"ณิชาเม้มปากแน่น“พี่ณิชา ไปเที่ยวต่างประเทศกันไหมครับ แผลพี่ก็ดีขึ้นแล้ว ไปพักผ่อนสักหน่อย เดี๋ยวอะไรก็ดีขึ้นนะพี่
“บอกเลิกแล้ว…ก็อย่ากลับมาอีกแล้วกันคุณคีรติ”คำพูดนั้นยังดังก้องอยู่ในหัวไม่ใช่เพราะความแรงของถ้อยคำแต่เพราะคำว่า คุณคีรติ ที่เธอเลือกใช้มันชัดเจนเกินไปชัดเจนว่าเธอโกรธและโกรธเขาจริง ๆคีรติเงยหน้าขึ้น สบตากับเตชทัต แววตาแดงก่ำอย่างคนที่กำลังจะพัง“แค่เธอเรียกกูแบบนั้น…กูก็รู้แล้วว่าณิชาไม่เหลือความอ่อนโยนให้กูอีกแล้ว”เขาหัวเราะแผ่ว ๆ อย่างขมขื่น“กูควรดีใจใช่ไหมวะ ทุกอย่างมันตรงตามแผนเป๊ะแต่ทำไม…ทำไมกูเจ็บแทบขาดใจขนาดนี้”เตชทัตตบไหล่เพื่อนเบา ๆ“อดทนไว้ไอ้คีย์ อีกแค่เดือนเดียว เราจะปิดทุกอย่างให้จบ”คีรติส่ายหน้าช้า ๆ“กูไม่รู้ว่ากูจะทนได้ถึงหนึ่งเดือนไหม”เสียงเขาแผ่วลง“หรือพอถึงตอนนั้น…ณิชาอาจไม่รักกูแล้วจริง ๆ”“ณิชาไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล” เตชทัตพยายามปลอบ“ถ้ามึงได้อธิบาย เธอน่าจะฟังมึง”คีรติหัวเราะในลำคอ“มึงพูดเหมือนไม่รู้จักณิชา”เขาหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า“คุณหนูขี้วีนของกู…ที่ผ่านมาเธอไม่เคยวีนใส่กู เพราะเธอรักแต่จากนี้ไป กูไม่มั่นใจเลยว่าเธอจะเกลียดกูมากแค่ไหน”เตชทัตถอนหายใจยาว“แล้วจะทำยังไงได้วะ”เขามองเพื่อนอย่างเข้าใจ“มึงเป็นคนเลือกทางนี้เอง ไอ้คีย์”คีรติกำม
อ่านข้อความปรากฏบนหน้าจอพี่ไม่ได้รักณิชาแล้วโลกทั้งใบของณิชาราวกับหยุดหมุนดวงตาที่พร่าเลือนค้างอยู่กับตัวอักษรไม่กี่คำหัวใจเต้นแรงผิดจังหวะ ราวกับถูกกระชากออกจากอกทั้งเป็น“…ไม่รักแล้ว?”เสียงเธอแผ่วเบา จนแทบไม่ได้ยินตัวเองมือที่กำโทรศัพท์เริ่มสั่นน้ำตาหยดลงไม่ขาดสายหยดแล้วหยดเล่า…เหมือนหัวใจที่ร้าวไม่หยุด“โกหก…”ณิชาส่ายหน้าแรง ๆ“พี่โกหก…พี่คีย์โกหกณิชา…”เธอพยายามพิมพ์ตอบแต่ตัวอักษรกลับพร่าเลือนเพราะน้ำตาที่ไหลไม่หยุดจู่ ๆ ความเจ็บแปลบก็แล่นขึ้นจากหน้าอกแรงจนเธอสะดุ้งเฮือก“อ๊ะ!”มือหนึ่งกุมหน้าอก อีกมือยันเตียงลมหายใจเริ่มติดขัดหัวใจเต้นแรงและถี่ผิดปกติ“หายใจ…หายใจสิณิชา…”เธอพึมพำกับตัวเอง แต่ยิ่งพยายามกลับยิ่งแน่นน้ำตาไหลผสมเสียงสะอื้นร่างกายที่ยังไม่ฟื้นเต็มที่เริ่มต่อต้าน“เจ็บ…”เธอร้องออกมาเบา ๆความเจ็บที่แผลซี่โครงร้าวปะทุขึ้นทันที เมื่อร่างกายเกร็งจากอารมณ์ที่ถาโถมขวัญที่ยืนอยู่ข้างเตียงตกใจสุดขีด“ณิชา! ณิชา ใจเย็น ๆ ณิชาเป็นอะไร...พยาบาล...พยาบาลค่ะ”เธอรีบกดออดเรียกพยาบาล ก่อนจะพยายามประคองร่างเพื่อนให้เอนลง“พี่คีย์ไม่รักณิชาแล้ว…”ณิชาพูดทั้งน้ำตา“เ







