"........." เท้าแกร่งถึงกับชะงักเมื่อก้าวเข้ามาในบ้านแล้วเห็นผู้หญิงแปลกหน้า เอาแล้วไงแม่กำลังหางานอะไรให้เขาทำอีกล่ะเนี่ย"ลูกจำ...?" คนเป็นแม่กำลังจะถามว่าลูกจำน้องได้ไหม แต่ต้องหยุดคำพูดตัวเองไว้ก่อนเมื่อเห็นว่าลูกชายไม่ได้มาเพียงคนเดียว"สวัสดีค่ะ" เดินเข้ามามิ่งขวัญก็ไหว้ทั้งสองท่านก่อน"สวัสดีจ้ะ แม่ไม่รู้ว่าหนูจะมาด้วย.. มาเอาของหรือจ๊ะ""แม่ครับ""แม่พูดอะไรผิดเหรอ" เฟื่องฟ้าเห็นว่าลูกชายยังไม่ตอบ นางก็เลยถือโอกาสแนะนำผู้หญิงที่นางพามาทานข้าวด้วย"ใครนะครับ?" ฟีฟ่าปรายตามองไปดูผู้หญิงที่แม่เพิ่งแนะนำไป"ก็น้องยูฟ่าไงคะ จำได้ไหมว่าใครที่พี่ฟีฟ่าเรียกชื่อนี้""ยูริ?""แม่ว่าแล้วพี่เขาต้องจำเราได้แน่"มิ่งขวัญที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้แต่เงียบฟังพวกเขาพูดคุยกัน ตกลงอดีตของเขามีกี่คนกันแน่ แต่คนนี้สงสัยจะมาก่อนข้าวทิพย์ด้วยมั้ง เพราะถึงกับต้องทบทวนความจำกันเลย"วันนี้คุณอาจจะยังไม่ว่างเดี๋ยววันหลังค่อยคุยกันใหม่" จังหวะที่มิ่งขวัญกำลังจะหันกลับก็ถูกอีกฝ่ายคว้าตัวไว้ แล้วกระชับร่างของเธอเข้ามาแนบกับลำตัวในท่าโอบ"พี่ไม่คิดว่าเราจะกลับมาประเทศ""คือยูริจะกลับมาอยู่กับคุณแม่ค่ะ" ยูริเป็นลูก
"เข้าไปสิ" ข้าวทิพย์ออกมาก็เห็นว่าฟีฟ่ายืนรออยู่หน้าห้อง"เข้าไปได้แน่นะ""อย่าบอกนะว่าแค่นี้ก็กลัวเมียแล้ว""รู้ได้ยังไง""หึหึหึ" ข้าวทิพย์อดขำไม่ได้ถ้าเป็นคนอื่นคงปฏิเสธหรือไม่ก็บอกว่าตัวเองแค่เกรงใจแต่พอได้ยินเสียงข้าวทิพย์ขำ ประตูห้องก็ถูกเปิดออกมาดูว่าข้างนอกมีอะไรกันทำไมถึงอารมณ์ดีกันจัง แต่พอเปิดคนที่ยืนอยู่หน้าประตูก็คือฟีฟ่า"ผมขอเข้าไปนะครับ""แล้วแต่คุณสิ"จังหวะที่ฟีฟ่าหันกลับมาจะปิดประตูก็ได้ส่งสัญญาณมือบอกข้าวทิพย์ว่าโอเคแล้ว"คุณไม่ลงไปทำงานหรือไงคะ""ใครจะมีกะจิตกะใจทำงานล่ะ เมียงอนขนาดนี้""คุณพูดเหมือนก่อนหน้านี้ให้ฉันฟังหน่อย""ใครจะมีกะจิตกะใจทำงานล่ะ" เพราะก่อนหน้าเขาพูดประโยคนี้"ไม่ใช่""เมียงอน""ประโยคนี้ก็ไม่ใช่""แล้วคุณอยากให้ผมพูดอะไรล่ะ""ก็ตอนที่คุณดึงฉันไปนั่งบนตักไง"ฟีฟ่าใช้ความคิดว่าตอนนั้นเขาพูดอะไรบ้าง"คุณจำไม่ได้จริงๆ เหรอ""คุณก็บอกผมมาสิ""แต่งงานกันนะ""ครับเราจะแต่งงานกัน"มิ่งขวัญนิ่งไปครู่หนึ่ง..นี่เธอติดกับดักเขาเหรอ "ฉันไม่ได้ขอคุณแต่งงานสักหน่อย""อ้าวเมื่อกี้คุณเพิ่งขอ""ฉันหมายถึงให้คุณพูดคำนี้""แต่งงานกับผมนะครับมิ่งขวัญ""..ยังมีอ
"กลับบ้านกันลูก" เฟื่องฟ้าเสียความรู้สึกมาก เพราะให้ความหวังเรื่องนี้มากเหลือเกิน แต่ไม่คิดว่ามันเป็นแค่การเล่นละคร"แม่ครับ.." ขณะที่เรียกแม่แต่สายตาเขามองไปดูเธอ แต่เธอก็ไม่ได้มองมา"เรื่องมันจบแล้วใช่ไหม ถ้าจบแล้วเราก็กลับบ้านกัน" เฟื่องฟ้าถามลูกชายเพราะได้ยินเรื่องนี้มาจากอัมพรแม่ของฝ่ายหญิงอัมพรรับรู้มาจากข่าวอีกทีว่ามันจบแล้ว เพราะเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกทางสื่อออนไลน์ด้วย คนที่คิดไม่ดีก็ถูกจับกุมไปแล้ว"ถ้างั้นพวกผมกลับก่อนนะ" อภิสิทธิ์ก็ไม่มีคำจะพูดเหมือนกัน ทีแรกคิดว่าเด็กเขารักกัน แต่ที่ไหนได้แค่จัดฉากเพื่อจะจับคนไม่ดีฟีฟ่าจำเป็นต้องกลับไปก่อน เขาต้องหาโอกาสคุยกับพวกท่านให้ได้วันต่อมาที่โชว์รูม.."เราจะไปไหน""ก็ไปทำงานไงครับ""ไม่ต้องไป..ทำงานกับพ่อ""ผมมีงานต้องทำครับ""ก็บอกไม่ต้องไปไง พ่อก็แก่มากแล้ว เมื่อไรคิดจะมาช่วยงานพ่อสักที""พ่อกินยาลืมเขย่าขวดหรือเปล่า" พ่อเขาไม่ใช่คนแบบนี้ ถึงแม้จะรักโชว์รูมนี้มากแต่ก็ไม่เคยใส่อารมณ์กับลูกชาย"พ่อคงปล่อยเรามากเกินไปแล้ว ต่อไปนี้เข้ามาช่วยงานพ่อได้แล้ว""คงยังไม่ได้ครับ" เขายังไม่จัดการเรื่องทั้งหมดเลย"ฟีฟ่า!" ไม่ใช่แค่พ่อที่คิ
"บอส?""พูดมา""คือ..""ถ้าเธอพูดฉันจะไม่ส่งเธอให้กับตำรวจ""อย่านะ!" คนของวิเชียรรีบเข้ามาห้ามไม่ให้ราตรีแพร่งพรายอะไรออกมา"บอกให้พูด!!" เขตแดนตะเบ็งเสียงดังใส่แบบหมดความอดทน ส่วนทางด้านคนของวิเชียรตอนนี้ รปภ. ช่วยกันจับตัวไว้"คือว่าราตรี.." ไม่รู้ว่ามันมาถึงขนาดนี้ได้ยังไง แค่โมโหที่ถูกตบ จนเผยอะไรต่อมิอะไรออกมา"ให้ใครก็ได้โทรแจ้งตำรวจ""ราตรียอมพูดแล้วค่ะ""อย่านะราตรี" เสียงคนของวิเชียรตะโกนไปบอกไม่ให้พูดก่อนที่จะถูกลากตัวให้ไปจากตรงนั้น"จะให้ราตรีพูดตรงนี้หรือคะ" ราตรีมองดูพนักงานที่ยังคงยืนมองกันอยู่"ใช่" นี่แหละเป็นจังหวะที่ดีเลย จะได้มีพยานรับรู้"หือ??" หลังจากที่ได้ฟังราตรีพูด เพื่อนร่วมงานถึงกับสตั้นกันก็ว่าได้ ไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ในบริษัท แต่ราตรีก็พูดเท่าที่ตัวเองรู้ และถูกจ้างวานมาให้สร้างสถานการณ์จนเวลาผ่านไป.. วิเชียรที่คิดว่าตัวเองมาเหนือกว่าก็เลยปล่อยแค่ลูกน้องไปดูสถานการณ์แทน ตอนนี้ถูกตำรวจจับกุมไว้"พวกคุณจะเชื่อคำพูดของผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ใส่ร้ายป้ายสีผมเนี่ยนะ""ที่ราตรีพูดมาเป็นความจริงทั้งหมดค่ะ" ราตรีก็ถูกจับมาไว้ในห้องสอบปากคำเช่นกัน"หุบปาก!""ผมฝา
เช้าวันต่อมา.."คุณรีบออกไปจากห้องสิ" มิ่งขวัญตื่นขึ้นมาก็เห็นว่าเขายังนอนอยู่บนเตียง"อืม.. ขอนอนต่ออีกนิดหมดพลังงานไปเยอะเลย""คนบ้าไม่มีเวลาแล้วเดี๋ยวแม่ก็ขึ้นมา"ก๊อก ก๊อก พูดถึงก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเลย"สายแล้วนะลูก""เดี๋ยวขวัญออกไปค่ะแม่""หนูยังไม่มาเอาของที่วางอยู่หน้าห้องเหรอลูก""แม่ลงไปข้างล่างเถอะค่ะ""ลงไปทานข้าวนะ เดี๋ยวแม่เตรียมอาหารไว้ให้""ยังไม่ลุกอีก!"ถ้าไม่ลุกคงถูกเล่นงานแน่ ชายหนุ่มที่นอนร่างกายอ่อนเพลียอยู่ลุกขึ้นมาแบบเสียอารมณ์เล็กน้อย"อย่าเพิ่งเดี๋ยวฉันไปดูก่อนว่าแม่ลงไปหรือยัง" มิ่งขวัญแง้มประตูออกมาดูต้นทาง แต่พอมองเห็นกล่องที่วางอยู่หน้าห้อง เธอก็เลยหยิบเข้ามาดูว่าเป็นของที่สั่งมาไหม"มันคืออะไร" ฟีฟ่าที่ยืนอยู่ด้านหลังก็มองดูกล่องนั้นเหมือนกัน"อยากรู้ไปทำไม" เธอก็คิดอยู่ว่ามันใช่ที่เธอสั่งไหมเพราะราคามันไม่เหมือนกัน มิ่งขวัญสั่งเครื่องสำอางให้มาส่งที่บ้าน แต่อันนี้ทำไมมันดูราคาไม่ตรงกับที่สั่งไว้"ถ้าสงสัยก็เปิดดูสิ"เธอไม่ได้ห้ามที่เขาจะเปิดดู ถ้ามันไม่ชอบมาพากลก็ยังพอมีเขาอยู่ด้วยพอกล่องถูกเปิดออกคนที่มองอยู่ถึงกับชะงัก สายตาฟีฟ่าปรายมองไปดูเธอที่ยื
"ใครที่กำลังมโนเพ้อฝันอะไรอยู่ก็หยุดซะนะ" ที่เขาไม่ทำแบบนี้ตั้งแต่ทีแรกเพราะคิดว่าอีกฝ่ายจะหยุด แต่ยิ่งเขาไม่พูดก็ยิ่งได้ใจ จนความอดทนของฟีฟ่าหมดลงก็ตอนที่ได้ยินเขตแดนพูดว่าราตรีเป็นคนของวิเชียรกล้าดียังไงจะเข้ามาทำให้ชีวิตของเขาวุ่นวาย ดูละครหลังข่าวมากเกินไปหรือเปล่า แบบฟีฟ่าถ้าไม่ใช่คนที่แคร์จริงๆ มีหรือเขาจะรักษาน้ำใจ"มาขึ้นรถสิครับ" เคลียร์ตรงนี้จบฟีฟ่าก็หันไปหามิ่งขวัญที่ยังคงยืนมองอยู่และเธอก็ยอมเดินกลับมาขึ้นรถของเขา"คุณจะพาฉันไปไหน" เห็นว่าเขาไม่ได้ขับรถไปทางบ้านของเธอ"ไปทานข้าวเย็นบ้านผมก่อน""แต่วันนี้ฉันจะกลับบ้าน""ทานข้าวเย็นเสร็จแล้วเดี๋ยวพามาส่ง" ดูพ่อกับแม่จะปลื้มลูกสะใภ้คนนี้มาก ถ้าไม่พาไปทานข้าวเย็นที่บ้านเดี๋ยวก็ได้หอบกันมาที่บ้านของเธอ เพราะขนาดโรงพยาบาลพ่อกับแม่ยังรู้ได้เลย แค่บ้านของเธอป่านนี้คงรู้แล้วมั้งก่อนจะเข้าบ้านต้องรถขับผ่านหน้าโชว์รูมก่อน"เย็นขนาดนี้โชว์รูมยังไม่ปิดอีกเหรอคะ""ยัง" พ่อเขาชอบขลุกตัวอยู่กับโชว์รูม บางวันนอนอยู่ที่นี่ ไม่รู้จะรักอะไรนักหนากับรถพวกนี้ และนี่ล่ะมันเป็นความฝังใจที่ฟีฟ่าไม่อยากขับรถประเภทนี้ เพราะเห็นว่าพ่อรักมันมากกว่า