ตอนนี้ตาของหญิงสาวโตเป็นประกายเพราะเมื่อแหงนมองขึ้นไปบนฟ้าเธอเห็นทั้งดวงจันทร์กลมโตพร้อมหมู่ดาวที่รายล้อมแถมยังมีเสียงจิ้งหรีดร้องคลออยู่กับบรรยากาศยามค่ำคืนเธอเองยืนยิ้มกอดอกให้กับภาพตรงหน้าพลางคิดในใจว่าเธอไม่ได้มาพบเจอกับบรรยากาศแบบนี้นานเท่าไรแล้วน้าตั้งแต่เป็นหมอมาก็ไม่เคยที่จะว่างจนกระทั่งตัวเธอเองอกหักนี่แหละถึงได้มาเจอกับบรรยากาศแบบนี้อีกครั้ง
จะว่าอกหักก็ไม่ได้สิเพราะเธอไม่เคยได้คบกับชายหนุ่มที่เธอแอบชอบแถมยังไม่เคยได้มีโอกาสบอกกับเขาด้วยซ้ำว่าเธอคิดยังไง
เหตุการณ์วันนั้นเมื่อเดือนที่แล้ว
บ้านแอนเดอสัน
“กลับมากันแล้วหรอคะ….ไหนน้องเพลินซื้อของฝากมาฝากอาเพลงหรือป่าวคะ”
เพลงพิณเข้าไปกอดหอมหลานสาวด้วยความคิดถึงเพราะทั้งพี่ชายและแพรไหมไปเที่ยวพักผ่อนที่ทะเลกันหลายวัน
“ของฝากหรอคะ…คุณพ่อบอกว่าของฝากคือ..คือน้องค่ะ…ในนี้”
เด็กหญิงพาเพลินพูดตามคำที่พ่อของเธอบอกถึงจะบอกว่าของฝากคือน้องแต่เหมือนเจ้าตัวก็ยังทำหน้างงๆอยู่ว่าน้องคืออะไรเพราะก็เห็นๆอยู่ว่าเป็นแค่พุงของแม่เธอ
“555555555”
ภูผาอดขำท่าทีของลูกสาวตัวเองไม่ได้ก่อนกลับเขานัดแนะกับลูกสาวตัวกลมของเขาแทบตายตอนแรกนึกว่าเข้าใจแล้วว่าน้องที่อยู่ในท้องคืออะไรแต่ตอนนี้เขาคิดว่าคงต้องอธิบายกันอีกยาว
เพลงพิณเองก็ต้องทำหน้ากลั้นขำให้กับการทำหน้างงของหลานสาวและเธอเองก็ดีใจมากๆที่จะมีหลานตัวเล็กๆอีกคนมาวิ่งเล่นอยู่ในบ้านแล้ว
“กำลังคุยอะไรกันอยู่หรอทุกคนเสียงหัวเราะดังเชียว”
จู่ๆอัคนีก็เดินเข้ามาในบ้านแต่เช้าโดยที่ไม่ได้นัดกันมาก่อนทุกคนก็เลยค่อนข้างที่จะงงเพราะปกติชายหนุ่มจะนัดก่อนมาทุกครั้ง
“อ้าวอัคแกมาทำไมแต่เช้าวะ”
ภูผาที่ยืนทำหน้าสงสัยอยู่เป็นคนเปิดประเด็นถามเพื่อนของเขาว่ามาทำอะไรแต่เช้า
“ฉันแค่แวะเอาการ์ดแต่งงานฉันมาให้”
อัคนีตอบเพื่อนเขาด้วยสีหน้าเซ็งๆแต่คนที่ฟังกลับอึ้งไปตามๆกันร้อยวันพันปีไม่เห็นชายหนุ่มเปิดตัวแฟนจู่ๆก็มาแจกการ์ดแต่งงานซะงั้นแต่คนที่ท่าจะอึ้งที่สุดคงจะเป็นเพลงพิณเพราะตอนนี้เธอรู้สึกเหมือนสมองเธอไม่รับรู้อะไรแล้วเมื่อได้ยินว่าชายหนุ่มที่เธอแอบชอบมาตั้งแต่มัธยมกำลังจะแต่งงาน
“เห้ยยย....จริงดิฉันไม่เห็นแกจะมีแฟนจู่ๆมาแต่งงานไม่ใช่ว่าไปทำใครท้องเข้าล่ะ”
ภูผายังตกใจไม่หายมันจะมีเรื่องอะไรกันนะที่ทำให้เพื่อนของเขาที่ครองความโสดมานานพอๆกับเขาจู่ๆกลับจะแต่งงานกะทันหัน
“มันมีเรื่องนิดหน่อยเดี๋ยวฉันค่อยคุยกับแกทีหลังก็แล้วกันวันนี้ฉันมีเรื่องต้องจัดการอีกเยอะเลยขอตัวก่อนนะ”
“เอ่อ…ยินดีด้วยนะคะพี่หมออัค”
“ครับ..พี่ไปก่อนนะ”
เพลงพิณที่ตอนนี้เหมือนมีก้อนอะไรติดอยู่ที่คอแต่เมื่อได้ยินว่าคนตรงหน้ากำลังจะกลับแล้วเธอจึงรีบเค้าเสียงพูดออกมาเพื่อแสดงความยินดีกับเขาทั้งที่ในใจเธอนั้นมันร้าวไปหมดแล้ว
“เดี๋ยวเพลงขอตัวขึ้นไปบนห้องก่อนนะคะ”
เมื่ออัคนีเดินออกไปหญิงสาวก็รีบวิ่งขึ้นไปบนห้องของเธอทันทีทำเอาแพรไหมถึงกับต้องทำหน้างงและหันหน้าไปหาสามีของเธอเป็นเชิงถามว่าเพลงพิณเป็นอะไร
ภูผาเห็นสายตาของภรรยาก็รู้ทันทีว่าเธอสงสัยในอาการของเพลงพิณแน่ๆจึงพยักหน้าน้อยๆและกอดไหล่เธอเบาๆค่อยๆเล่าว่าเกิดขึ้นอะไรกับน้องสาวของเขาชายหนุ่มเองพอจะมองออกตั้งแต่ที่น้องสาวของเขาเริ่มเข้ามหาลัยใหม่ๆแล้วที่อยากจะเข้าคณะแพทย์นักหนาก็เพราะอยากจะเป็นหมอเหมือนคนที่เธอมองอยู่น่ะสิเขาไม่รู้หรอกนะว่าเพื่อเขาดูออกหรือป่าวว่าน้องสาวเขาคิดยังไงแต่ในเมื่อน้องสาวเขาดันปากแข็งไม่ยอมเปิดเผยความในใจออกมาเองเขาคิดไว้แล้วว่าสักวันน้องสาวของเขาก็ต้องอกหักเพราะการแอบรักข้างเดียวแน่นอนแต่เขาก็ขอไม่ก้าวก่ายเรื่องของเธอหรอกนะเขาเองขอเอาใจช่วยให้น้องสาวของเขาดีขึ้นในเร็ววันก็แล้วกัน
ทางด้านเพลงพิณเมื่อขึ้นห้องมาได้ก็นั่งอึ้งอยู่กับตัวเองสักพักเธอไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองว่าสิ่งที่เธอได้ยินเมื่อครู่มันจะเป็นเรื่องจริงเมื่อตั้งสติได้น้ำตาเม็ดเล็กก็เริ่มไหลย้อยลงมาอาบแก้มนึกสมน้ำหน้าตัวเองที่ปากแข็งแอบรักเขาอยู่ตั้งนานไม่เคยจะบอกแถมตัวเธอเองมีชายหนุ่มมารุมจีบมากหน้าหลายตาแต่เธอก็ไม่เคยสนเพราะเฝ้ารักพี่อัคนีของเธออยู่คนเดียวแล้วดูสิวันนี้สิ่งที่เธอได้ยินคือเขากำลังจะแต่งงานเธอถึงกับไปไม่เป็นตอนนี้เธอรู้สึกไม่มีกระจิตกระใจจะทำอะไรเธอไม่อยากเป็นแบบนี้เลย
“นี่สินะที่เค้าเรียกกันว่าอกหัก…หึ”
หญิงสาวหัวเราะในลำคอให้ตัวเองเธอเคยพบเจอคนมีอาการแบบเธออยู่เป็นประจำในช่วงที่อยู่มหาลัยเธอเองคิดว่ามันคือการเรียกร้องความสนใจคนอกหักมันต้องทำท่าจะเป็นจะตายขนาดนั้นจริงหรอแต่วันนี้เธอได้รู้ซึ้งแล้วว่ามันเป็นยังไง
เพลงพิณยืนดูดาวพลางคิดเรื่องที่ทำให้เธอมาที่นี่พักใหญ่หญิงสาวจึงเดินกลับมาที่เตียงพร้อมปิดไฟนอนและภาวนาว่าขอให้ตนเองนั้นทำใจได้ในเร็ววันเพราะเธอเองยังคงจะต้องไปร่วมแสดงความยินดีกับงานแต่งของอัคนีในเร็ววันนี้
“นี่มันไม่ใช่ทางที่ไปงานนี่คะ...มาผิดทางหรือป่าวคะ”เพลงพิณนั่งเหม่อลอยมาตั้งแต่ขึ้นรถเธอนั่งมาได้สักระยะก็พึ่งจะสังเกตุเห็นว่าทางที่คนขับรถพาเธอมามันไม่ใช่ทางที่เธอคุ้นเคยอีกอย่างเธอก็จำได้ว่าทางนี้มันไม่ใช่ทางที่จะไปโรงแรมที่จัดงานอย่างแน่นอนเธอจึงถามชายหนุ่มคนขับรถขึ้นว่าเขาพาเธอมาผิดทางหรือป่าว“ไม่ผิดหรอกเพลง”“พ...พี่..ดิน”เมื่อชายหนุ่มคนที่ขับรถให้เธออยู่หันหน้ามาหาเธอพร้อมถอดหมวกที่เขาใส่อยู่หญิงสาวถึงกับต้องตะลึงไม่คิดว่าจะเป็นเขาคนที่เธอเฝ้าคิดถึงอยู่ตลอด“พาเพลงกลับไปที่งานเดี๋ยวนี้เลยนะคะ”หญิงสาวเองอยากจะกระโจนเข้าไปกอดชายหนุ่มตรงหน้านี้ด้วยซ้ำแต่ติดตรงที่เธอยังมีทิฐิอยู่ว่าชายหนุ่มหายไปอยู่กับแฟนเก่าแล้วไม่เคยติดต่อหาเธอเลยอันที่จริงที่ชายหนุ่มหายไปเขาไม่ได้หายไปไหนช่วงที่เขาต้องไปช่วยคนที่หมู่บ้านเขาเองร่วมมือกับตำรวจเพื่อเข้าจับกุมพวกกลุ่มอิทธิพลเขาจึงได้รับบาดเจ็บนอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนโดยเรื่องนี้ทั้งพาฝันละอัคคีก็รู้แต่ดินแดนเองขอร้องทั้งสองว่าอย่าบอกหญิงสาวเพราะเขาไม่อยากทำให้หญิงสาวเป็นห่วงเขารับปากกับอัคคีละพาฝันไว้ว่าเขาใกล้ที่จะหายดีเมื่อไรเขาจะเป
“นี่ปล่อยฝันเดี๋ยวนี้เลยนะ”หญิงสาวเอาแต่ดิ้นแต่ก็ไม่มีแรงที่จะดิ้นให้หลุดพ้นพันธนาการของชายหนุ่มเพราะเธอยังรู้สึกเจ็บระบมจุดซ่อนเร้นของเธออยู่“อย่าดิ้นน่าฝันพี่ขอกอดเมียพี่สักพักนะ”ชายหนุ่มยังคงกอดหญิงสาวอยู่หน้าตาเฉย“ใครเมียพี่..มั่วแล้ว”ตอนนี้หน้าหญิงสาวแดงขึ้นมาเป็นลูกตำลึงเพราะเธอทั้งโกรธทั้งอาย“หรือจะให้พี่ฟื้นความจำว่าไอ้ที่ทำกันเมื่อคืนมันเรียกว่าอะไร”ชายหนุ่มรู้สึกหัวเสียขึ้นมาทันทีที่หญิงสาวไม่ยอมที่จะอ่อนลงให้เขาได้ง่ายๆ“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ...ผู้ชายอะไรขี้โกหกแล้วยังจะเผด็จการอีก..ฝันเกลียดดดดด”หญิงสาวเริ่มหมดความอดทนกับการเผด็จการของชายหนุ่มเธอจึงขึ้นเสียงใส่เขาแบบฟิวขาด“อื้มมมมมม....”เมื่อจบคำพูดของหญิงสาวชายหนุ่มก็บดจูบเธอทันทีเป็นการลงโทษที่เธอแผดเสียงใสเขาชายหนุ่มบดจูบหญิงสาวอยู่เนิ่นนานจนเธอเริ่มที่จะไม่ต่อต้านเขาแล้วแต่สิ่งที่เธอกำลังเป็นอยู่ตอนนี้มันทำให้เขาต้องผละออกจากเธออย่างรวดเร็ว“ฝันพี่ขอโทษ”“ฮึกๆ...ฮือๆๆๆ...ฮืออออ..เอาสิอยากทำ..ฮือๆๆ..อะไรฝันก็ทำเลย..ฮึกๆ”เมื่อน้ำตาของหญิงสาวไหลรินลงมาแถมเธอยังไม่ต่อต้านเขาอีกแบบนี้เขารู้สึกว่าเขาเห็นแก่ตัวที่รังแ
“อื้มมมม”เมื่ออัคคีเห็นว่าหญิงสาวจะตะโกนให้คนช่วยเขาจึงรีบปิดประตูล็อคกลอนดันตัวเธอเข้ามาในห้องพร้อมประกบจูบหญิงสาวทันทีเพื่อไม่ให้เธอส่งเสียงดังโวยวายอีกต่อไปปั้กๆๆๆหญิงสาวตกใจอย่างมากที่จู่ๆร่างของเธอก็โดนเหวี่ยงมาในห้องของใครก็ไม่รู้เมื่อเห็นว่าคนที่ดึงเธอเข้ามาเป็นใครเธอก็รีบใช้สองมือทุบไปที่ตัวชายหนุ่มทันทีหญิงสาวเองไม่คิดว่าจะเจอเขาที่นี่ด้วยซ้ำปั้กกกก“โอ้ยยยย...ฝันหยุดเดี๋ยวนี้นะ”หญิงสาวเห็นว่าในเมื่อเธอทุบตีคนที่ประกบจูบเธออยู่อย่างนั้นแล้วเขาเองก็ยังไม่สะทกสะท้านต่อแรงเธอสักเล็กน้อยเธอจึงตัดสินใจใช้ขาของเธอถีบชายหนุ่มออกจากตัวของเธออย่างสุดแรงพร้อมวิ่งไปที่ประตูหมายจะเปิดออกแล้ววิ่งหนีไปแต่ก็ไม่ทันความไวของชายหนุ่มอยู่ดีชายหนุ่มที่กระเดนออกจากตัวหญิงสาวเพราะแรงถีบของเธอเขารีบลุกขึ้นวิ่งตามหญิงสาวพร้อมรวบกอดเธอจากข้างหลังได้ก่อนที่เธอจะถึงประตู“ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไอ้คนหลอกลวงอย่ามายุ่งกับฝันนะ”เมื่อหญิงสาวถูกชายหนุ่มรวบตัวได้จากด้านหลังเธอก็ดิ้นจนสุดแรงปากก็พร้อมว่าเขาต่างๆนาๆที่โกหกเธออีกด้วยตอนนี้เธอยังโกรธเขาไม่หายและโกรธมากขึ้นอีกด้วยที่เขาทำกับเธอแบบนี้ตุ้บบบ“โอ้ย
“ไม่เป็นไรหรอกลูกนอนพักอีกเดี๋ยวก็คงจะหายเดี๋ยวบ่ายพ่อมีคุยงานต่อพ่อมียาที่หมอให้ไว้อยู่....ฝันไม่ต้องห่วงพ่อหรอกลูก”“กินยาหรอคะ...คุณพ่อกินยามานานเท่าไรแล้วคะทำไมฝันถึงไม่เห็นรู้เรื่องแล้วนี่คุณพ่อนอนซมขนาดนี้ยังห่วงงานอีกหรอคะฝันอยากจะรู้จริงๆเลยว่าคุณพ่อจะบ้างานไปจนถึงเมื่อไร”เมื่อพาฝันได้ยินที่พ่อของเธอพูดขึ้นอารมณ์ของเธอตอนนี้ก็เริ่มเดือดประทุขึ้นทันทีเพราะเธอพ่อเธอป่วยขนาดนี้ยังจะบ้างานอยู่อีกเธอไม่ได้อยากจะใช้คำพูดแรงๆกับพ่อเธอนักหรอกแต่มันอดไม่ได้แล้วจริงๆเธอพูดไปพลางน้ำตาคลอไป“ที่พ่อทำไปทั้งหมดก็เพื่อหนูไงลูก”“แต่คุณพ่อเคยรู้มั้ยคะว่าฝันไม่ได้ต้องการเงินจากคุณพ่อเลยฝันต้องการแค่เวลาที่คุณพ่อจะมีให้ฝันก็เท่านั้นฝันเคยนั่งอิจฉาคนอื่นนะคะที่เค้านั่งกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูกทั้งที่กับข้าวนั้นมันก็ไม่ได้มีหลายอย่างแบบเราเลยแต่พวกเค้าก็นั่งกินกันอย่างมีความสุขฝันอยากเป็นแบบนั้นค่ะคุณพ่อ....ฝันอยากให้คุณพ่อนั่งกินข้าวกับฝันแบบนั้นฝันอยากคุณพ่อไปเที่ยวกับฝันแบบไม่ห่วงงาน...ฝันอยากให้คุณพ่อได้เห็นเวลาที่ฝันทำอะไรสำเร็จแต่ไม่เคยเลย...ฮือๆๆๆ”หญิงสาวพูดระบายสิ่งที่อัดอั้นตันใ
บ้านเดชณรงค์“โถ่เอ้ยไอ้ผู้ชายขึ้โกหก..หึ.”พาฝันวิ่งกลับมาเก็บของที่บ้านเดชณรงค์เตรียมตัวกลับทันทีเธอเก็บเสื้อผ้าไปด้วยบ่นไปด้วยด้วยความโมโหไม่คิดว่าจะโดนคนที่เธอรักโกหกกันมานานขนาดนี้“ลุงคะ..คือพอดีว่าหนูจะเข้าไปในตัวเมืองค่ะลุงไปส่งหนูได้มั้ยคะเดี๋ยวหนูให้ค่ารถ 2000”“อ๋อ..ได้เลยหนูขึ้นมาเลย”พาฝันรีบเก็บกระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านนั้นมาอย่างรวดเร็วคิดว่าถ้าเธอเดินออกมายืนรอที่หน้าถนนคงจะมีรถผ่านมาสักคันให้เธอพอได้อาศัยเข้าเมืองพลันสายตาก็เห็นลุงที่เธอเคยเจอที่ไร่ขับรถกระบะเก่าๆผ่านมาพอดีเธอจึงโบกมือเรียกพร้อมให้ลุงไปส่งเธอที่ตัวเมืองเพื่อที่เธอจะไปสนามบินและกลับกรุงเทพทันทีก๊อกๆๆ“ฝันอยู่มั้ย..เปิดประตูให้พี่หน่อยฝัน”อัคคีเดินกลับมาที่บ้นพร้อมดินแดนเมื่อมาถึงดินแดนจึงให้ชายหนุ่มรีบขึ้นไปหาหญิงสาวที่ห้องโดยทันทีแอ้ดดดดด“ฝัน!!!”อัคคียืนเคาะประตูห้องอยู่ครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ยักเห็นว่าจะมีใครมาเปิดเขาจึงลองบิดลูกบิดที่ประตูดูปรากฏว่าห้องของหญิงสาวไม่ได้ล็อคเขาจึงรีบพุ่งตัวเข้าไปที่ด้านในห้องของเธอทันที“ฉันไม่ฝันอยู่บนห้องเลย”เมื่อเข้ามาในห้องไม่เห็นมีใครอยู่เข้าจึงเดินสำรวจทั่วห้อง
“ตอนนี้ยัยฝันกำลังโกรธอยู่ใครก็ห้ามขัดฝันว่าคงต้องรอให้นางอารมณ์ดีกว่านี้อีกนิดคงจะติดต่อฝันกลับมาเองได้เรื่องยังไงเดี๋ยวฝันจะบอกคุณเองตอนนี้คุณไปเคลียกับแม่ผู้หญิงคนนั้นให้จบก่อนเถอะ”พาฝันเห็นว่าคู่นี้ต่างไม่มีสติพอกันแล้วจึงรีบเสนอแนวทางการแก้ไขให้เพื่อที่จะได้จัดการตัวปัญหาได้รวดเร็วชายหนุ่มเองก็ถึงกับโมโหหัวเสียอย่างมากที่แพทตี้ทำให้เขาและเพลงพิณต้องเข้าใจผิดกันเขาถึงกับต้องยื่นคำขาดว่าถ้าเธอมายุ่งกับเขาและเพลงพิณอีกเรื่องราวสุดฉาวของเธอตอนที่คบกับเขาอยู่ตอนนั้นโดนแฉว่อนแน่เขาจำต้องใช้วิธีนี้ขู่เธอเพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่เธอกลัวเพราะหญิงสาวกลัวเรื่องที่เธอจะเสียชื่อเสียงเป็นที่สุดติ้ดๆ“คุณดินยัยฝันส่งข้อความมาบอกว่าจะกลับไปที่บ้านแล้วค่ะ”เมื่อพาฝันได้ยินเสียงข้อความเข้าในมือถือหญิงสาวรีบเปิดอ่านทันทีมันเป็นข้อความของเพื่อนสาวของเธอที่ส่งมาบอกเธอว่านั่งเครื่องกลับมาบ้านนที่กรุงเทพแล้วและก็ขอโทษเธอด้วยที่ออกมาโดยไม่บอกไม่กล่าวซึ่งข้อนี้พาฝันเข้าใจเพื่อนสาวของเธอดี“งั้นเดี๋ยวผมตามไปแต่ตอนนี้ผมคงต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของผมเรื่องรถก่อน”“โอเคค่ะงั้นฝันไปด้วย”ชายหนุ่มจำต้