๒
สู่ดินแดนใหม่
เพียงฤดีมายืนอยู่บนที่ดินแปลงที่เพื่อนบอกว่าจะขายให้ เธอกวาดตามองโดยรอบอย่างไม่อยากเชื่อว่าที่ดินตรงนี้กำลังจะเป็นของเธอ เพราะบรรยากาศรอบด้านช่างสวยงาม แวดล้อมไปด้วยภูเขา เธอมาถึงที่นี่ในตอนเช้าตรู่ เพราะนภาธรไม่จอดรถที่ไหนเลย จึงได้เห็นบรรยากาศแสนสดชื่นและเย็นสบายในยามเช้า
“สวยจังเลยนภา แกโชคดีจังเลยที่มีที่ดินสวย ๆ แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นภาคใต้ มีภูเขา มีหมอกสวยมาก อย่างกับภาคเหนือแน่ะ” เพียงฤดีลืมความหม่นหมองเป็นปลิดทิ้งเมื่อเห็นสภาพอากาศโดยรอบ นี่แหละความฝันของเธอ ที่จะมีบ้านอยู่ท่ามกลางภูเขาและเมฆหมอก บรรยากาศในฝันที่เหมาะสำหรับการเขียนนิยายอย่างที่สุด
“ที่นี่ อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร แกเห็นแล้วใช่ไหมว่ามันห่างไกลมาก ถนนหนทางคดเคี้ยว โชคดีที่ตอนนี้เขาทำถนนใหม่ลาดยางสวยงาม ตอนที่ฉันยังเด็กลำบากกว่านี้เยอะมาก ปู่กับย่าดั้นด้นกันมาจับจองที่ดินที่นี่
ส่วนแปลงสองไร่กว่านั่นน่ะ เพื่อนของปู่มาขออยู่ด้วย ปู่เลยยกที่ดินให้สร้างบ้าน ออกโฉนดให้เรียบร้อย คิดว่าจะได้มาอยู่ด้วยกัน แต่อยู่ได้ไม่นานเขาก็อยากขายที่ดินตรงนี้เพื่อเอาเงินไปซื้อแปลงอื่นที่ได้พื้นที่เยอะกว่า ก็เลยเอาที่ดินไปประกาศขายให้คนโน้นคนนี้ ปู่เลยไปขอซื้อกลับมา ส่วนที่ดินแปลงใหญ่ตอนแรกมีร้อยไร่นิด ๆ แต่ตอนนี้แบ่งกับกับพี่คีรินพี่ชายคนที่สองของฉันน่ะ โน่นไงแปลงที่มีบ้านอยู่ไกล ๆ นั่นน่ะ ของเขาราวหกสิบกว่าไร่ แต่เขาไม่ได้มาอยู่หรอก บ้านก็ทิ้งร้างไว้ ตอนแรกพ่อก็จะแบ่งแปลงที่มีบ้านให้ฉัน แต่ฉันไม่เอา บ้านทั้งเชยทั้งเก่าขนาดนั้นคงทำได้แค่รื้อสร้างใหม่ ฉันเลยเลือกที่สองแปลงนี้ แล้วก็เอาตึกแถวในตัวอำเภอแทน ตอนนี้ให้เขาเช่าขายของอยู่ พอจะได้เงินมาใช้บ้าง เอาบ้านให้พี่คีรินไปเพราะเขารักบ้านนั้นมาก”
“แกมีพี่ชายสองคนใช่ไหม แล้วพี่ชายคนโตล่ะ”
“อ้อ พี่ชลธรน่ะเหรอ เขาได้ที่อีกแปลงนึงที่พ่อซื้อใหม่น่ะ ตอนนี้ก็อยู่กับพ่อ ห่างจากที่นี่ไปไม่กี่กิโลหรอก ตอนนี้ทำสวนทุเรียน ตอนแรกฉันก็คิดว่าจะพาแกไป แต่ก็ไม่อยากเจอพ่อตอนนี้ เดี๋ยวโดนด่า เลยไว้กลับถึงกรุงเทพฯ ก่อน
ตั้งสติได้ว่าจะบอกยังไงแล้วค่อยโทร. ไปบอก ว่าฉันขายที่ดินให้แกแล้ว จะได้ฝากพ่อให้ช่วยดูแลแกด้วย ส่วนคืนนี้ฉันจะพาแกไปพักที่รีสอร์ตแถวนี้ก่อน” นภาธรวางแผน
“แล้วไม่อยู่นานแบบนี้เขาไม่ตัดน้ำตัดไฟไปหมดแล้วเหรอ” เพียงฤดีถามพลางกวาดตามองไปรอบ ๆ
“อ้อ ส่วนไฟฟ้าน่ะ โน่นไง ที่เสาตรงโน้น มีหม้อแปลงไฟฟ้า ไฟไม่ตัดหรอก พ่อยังแวะมาดูให้อยู่เรื่อย ๆ เลยยังไม่ตัดไฟ ไฟฟ้าในที่ตรงนี้มีมาตั้งแต่สมัยเพื่อนคุณปู่มาอยู่โน่นแหละ แกเคยสร้างบ้านไว้ แต่บ้านไม้น่ะ ทิ้งไปไม่นานปลวกก็กินจนมันพังไปแล้ว
น้ำประปาก็มีครบไม่มีวันหยุดด้วย เพราะทำกาลักน้ำมาจากน้ำตกบนภูเขาโน่นแน่ะ ค่าน้ำก็ไม่ต้องจ่าย แต่ปิดวาล์วไว้ วาล์วน้ำอยู่ตรงนี้แกมาดูสิ น้ำนี้ก็ต่อมาจากบ้านพี่คีรินนั่นแหละ ปู่ต่อน้ำมาให้เพื่อนปู่ใช้ ตอนนี้เปิดแล้วน้ำไม่ไหล สงสัยจะปิดวาล์วน้ำที่โน่นไว้” นภาธรชี้ไปยังเสาไฟฟ้าที่ตั้งโด่เด่อยู่ริมถนนลูกรัง ก่อนจะเดินไปยังท่อพีวีซีสีฟ้าที่มีวาล์วน้ำอยู่ใต้โคนต้นไม้ใหญ่
เพียงฤดีหันมองไปยังบ้านสองชั้นที่อยู่บนเนิน ห่างออกไปหลายร้อยเมตร ก่อนจะถามอย่างชั่งใจว่า
“บ้านหลังนั้น ไม่มีคนอยู่เหรอ ฉันขอเช่าได้ไหม”
“บ้า แกจะอยู่ได้ยังไง บ้านเก่าทรุดโทรมขนาดนั้น ถึงจะเป็นบ้านปูน แต่โครงสร้างเป็นไม้ ปลวกน่าจะกินหมดทั้งหลังแล้วมั้ง ข้าวของในบ้านก็ไม่มี เดี๋ยวฉันพาแกไปหาบ้านเช่าในตัวอำเภอดีกว่า จะได้หาของกินสะดวกด้วย อยู่ที่นี่ต้องออกไปอีกไกลราวสองกิโลเลยละ กว่าจะเจอร้านของชำ แถมตลาดนัดก็มีแค่สัปดาห์ละสองวัน แกตั้งสติได้แล้วค่อยกลับมาดูว่าจะทำยังไงกับที่ดินแปลงนี้”
“แต่ถ้าพี่ชายแกให้เช่า ฉันคิดว่าฉันอยู่ได้นะ ฉันขอเช่าอยู่แค่สองสามเดือนเท่านั้นแหละ เงินค่าอีบุ๊กออกอีกสักสองสามรอบ ฉันก็น่าจะทำบ้านเล็ก ๆ ได้สักหลัง แล้วค่อยย้ายออก ฉันอยากอยู่ใกล้ที่ดินของฉัน”
“งั้นก็ไปดูก่อนแล้วกัน จะได้ลองไปเปิดน้ำด้วย ว่าน้ำไหลปกติดีหรือเปล่า” ว่าแล้วนภาธรก็เดินนำไป
เพียงฤดีกวาดตามองบ้านหลังใหญ่ที่น่าจะมีหลายห้องทีเดียว เมื่อก่อนคงจะสวยมาก แต่เมื่อไม่ได้รับการดูแลเป็นเวลานานจึงชำรุดทรุดโทรม หญ้ารกรุงรังรอบบริเวณบ้าน บนหลังคาก็มีเถาวัลย์เลื้อยคลุมเป็นบางส่วน บางจุดก็มีรอยกระเบื้องแตกร้าว
“ฉันอยู่ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เด็ก ๆ พ่อเป็นลูกคนเดียว แต่พอพ่อไปซื้อที่ดินแปลงใหม่แล้วย้ายออกไปไม่นานคุณปู่ก็เสีย พี่คีรินมาอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าจนกระทั่งคุณย่าเสีย ก็ขึ้นไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ จากนั้นก็ไม่ได้กลับมาอยู่ที่นี่อีกเลยเกือบสิบปีแล้ว พ่อจะรื้อบ้านทิ้ง พี่คีรินก็ไม่ยอมให้รื้อ ไม่รู้จะเก็บไว้ทำไม เห็นว่าถ้ามีเวลาค่อยมาปรับปรุง” นภาธรว่า
“บ้านสวยจัง ตอนสร้างเสร็จใหม่ ๆ คงสวยมากเนอะ”
“นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง
หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ
“งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน
๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb
ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให
งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น