Home / โรแมนติก / ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา / บทที่ 1 ทางที่ต้องเลือก 100%

Share

บทที่ 1 ทางที่ต้องเลือก 100%

last update Last Updated: 2024-10-29 16:02:19

นั่นสินะ ใครจะหาที่ดินมาขายให้เธอได้ปุบปับเช่นนี้ หญิงสาวนั่งนิ่งอย่างหมดหวัง เพราะหากอยู่ในกรุงเทพฯ ทำงานที่เดิม หรือมาพักกับนภาธร มารดาของเธอก็ต้องตามตัวเจออีกแน่ ๆ เมื่อเพียงฤดีนั่งนิ่ง นภาธรจึงได้แต่ถอนใจเบา ๆ อย่างนึกสงสาร ก่อนจะเอ่ยขึ้นต่อ

       “ฉันรู้ว่าแกชอบดูคลิปทำเกษตร ชอบปลูกต้นหมากรากไม้ แต่การทำเกษตรมันไม่ง่ายอย่างที่แกเห็นในคลิปหรอกนะฤดี แกตัวเล็กแค่นี้จะไปทำงานหนัก ๆ ในไร่ในสวนได้ยังไง แถมอยู่ไกลญาติพี่น้องอีก เจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมาใครจะดูแล ขนาดฉันมีบ้านอยู่ต่างจังหวัดยังทำไร่ทำสวนไม่ไหวเลย”

นภาธรว่าพลางมองเพื่อนที่นั่งกอดหมอนอิงน้ำตาไหลนองอยู่บนโซฟาอย่างอดเวทนาไม่ได้ เพียงฤดีคงจะทนไม่ไหวอีกแล้วจริง ๆ เพราะเมื่อสองปีก่อนเธอเคยชวนให้เพื่อนออกจากบ้าน มาเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน เพื่อหนีปัญหาที่ถูกครอบครัวคอยรีดไถเงินอยู่เรื่อย เธอก็ห่วงแม่ ห่วงพี่ ห่วงน้องไม่ยอมออกมา แต่คราวนี้ถึงกับอยากหนีไปให้ไกลแสนไกล ไม่อยากให้ใครตามเจอ

       “ฉันบอกว่าต้องการที่ดินแปลงเล็ก ๆ แค่สองสามไร่ หรือไร่ครึ่งไร่ก็พอ ไม่ได้ต้องการจะไปทำสวนทำไร่เป็นหลัก แค่ให้ฉันได้มีที่อยู่เป็นของตัวเองจริง ๆ ไม่ใช่เช่าเขาอยู่เหมือนทุกวันนี้ก็พอ ฉันเขียนนิยายและทำคอนเทนต์หาเงินได้ แกไม่ต้องห่วงหรอก ฉันอยากลาออกจากงานมาเขียนนิยายอย่างเดียวมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่กล้าตัดสินใจสักที ตอนนี้เริ่มมีคนอ่านนิยายฉันเยอะขึ้นแล้ว ถ้าฉันขยันเขียนงานต่อเนื่อง ฉันเชื่อว่าฉันมีช่องทางที่จะเลี้ยงตัวเองรอด

ส่วนที่ดินนั่นน่ะ ฉันก็แค่อยากเอาไว้ปลูกโน่นปลูกนี่กินไปตามเรื่องตามราว ยังไม่กล้าคิดเรื่องไปทำสวนทำไร่แบบเต็มตัวหรอก เพราะฉันรู้ว่ามันหนัก คนไม่มีประสบการณ์แบบฉันหวังพึ่งการทำเกษตรทันทีคงไม่ได้หรอก ฉันแค่อยากได้ที่ห่างไกลผู้คน สามารถมีที่เงียบ ๆ เขียนงาน และเป็นที่ของตัวเองไม่ต้องเช่าใครอีกก็พอ”

       “เฮ้อ! โล่งอก” นภาธรถอนหายใจยาว

       “ฉันนึกว่าแกจะไปทำสวนทำไร่ซะอีก งั้น เอางี้แล้วกัน ฉันมีที่ดินอยู่สองแปลง แปลงนึงสี่สิบไร่ อีกแปลงนึงสองไร่กว่า ๆ อยู่ติดกันนั่นแหละ ฉันแบ่งแปลงสองไร่กว่า ๆ นี้ให้แกก็แล้วกัน ราคาประเมินก็ตกราว ๆ ไร่ละแสน ฉันเห็นว่าแกเป็นเพื่อนและต้องการที่อยู่จริง ๆ เลยแบ่งขายให้ แต่ที่ดินอยู่ที่ชุมพร ห่างไกลมากนะ มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตเข้าถึง น้ำไฟพร้อม แต่เป็นที่ดินเปล่าไม่มีบ้านนะ แกจะไปอยู่ยังไง”

       “ฉันเอา แกขายให้ฉันจริง ๆ นะ” เพียงฤดีรีบตอบรับพลางเขย่าแขนเพื่อนอย่างดีใจ

“เรื่องบ้านค่อยว่ากันทีหลัง ฉันว่าในตัวเมืองแถว ๆ นั้นอาจจะมีบ้านให้เช่า ฉันจะหาเช่าบ้านก่อนสักสองสามเดือน เก็บเงินอีกสักก้อนทำบ้านเล็ก ๆ ช่วงนี้ฉันจะปิดต้นฉบับนิยายเรื่องใหม่น่าจะได้เงินอีกสักก้อนเดือนหน้า แกจะพาฉันไปได้เมื่อไหร่” ตอบอย่างทันทีทันใด

       “แกเตรียมเอกสารไว้ให้พร้อมก็แล้วกัน พรุ่งนี้วันศุกร์พอดี ฉันเลิกงานแล้วจะพาไปดู วันจันทร์ลางานอีกวัน จะได้ไปโอนที่ให้ถ้าแกจะซื้อจริง ๆ ขายให้แกก็แล้วกัน เก็บไว้ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ฉันจะได้กลับไปทำประโยชน์ได้ อาจจะโดนพ่อด่านิดหน่อย แต่ก็ช่างมันเถอะ อย่างน้อยแกก็เป็นเพื่อนฉัน ตอนแก่จะได้ไปอยู่ใกล้ ๆ กัน ถ้าฉันไม่ช่วย แกก็คงหาที่อื่น ยิ่งทำให้ฉันเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก”

       “ขอบใจนะนภา แต่ฉันเกรงใจพ่อ แกบอกเขาก่อนดีไหม”

       “ถ้าบอกฉันก็ไม่ได้ขายสิ แกไม่ต้องรู้สึกผิดหรอก ตอนนี้ฉันอยากได้กระเป๋าชาเนลใบใหม่อยู่พอดีด้วย ราคาสองแสนนิด ๆ พอ ๆ กับราคาที่ดินที่แกจะซื้อเลย ไม่ต้องห่วงหรอกเรื่องพ่อฉันจัดการได้ เอาตังค์ไปซื้อกระเป๋าก่อน” นภาธรคลี่ยิ้มให้เพื่อน

       “เฮ้ย แกจะขายที่ดินเพื่อเอาเงินไปซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมใบละสองแสนเนี่ยนะ” ผู้เป็นเพื่อนอุทานเสียงสูง

       “เถอะน่า อย่าคิดมาก แกเอาที่ดินไป ฉันเอาเงินมา แกได้ความมั่นคง ฉันได้เงินลงทุน แกรู้ไหมกระเป๋าแบรนด์เนมก็คือการลงทุนอย่างหนึ่ง ไว้วันหลังฉันจะสอนการลงทุนด้วยกระเป๋าแบรนด์เนมให้แก ตอนนี้แกก็ไปอาบน้ำนอนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยกลับบ้านไปเอาของ นี่ใส่เสื้อผ้าฉันไปก่อน” นภาธรเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้ายื่นให้เพื่อน 

      เพียงฤดีออกจากคอนโดฯ ของเพื่อนในตอนเช้า เธอเดินทางเข้าไปที่บริษัทพร้อมกับเขียนใบลาออกทันที ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจะไม่ได้รับเงินชดเชยใด ๆ เพราะเป็นการออกโดยไม่ได้บอกล่วงหน้าตามกฎของบริษัท เธอทนรออีกหนึ่งเดือนไม่ไหวแล้ว เพราะพี่ชายพาเพื่อนมาแทบทุกวัน อีกไม่ช้าไม่นานก็อาจจะเกิดเหตุการณ์แบบเมื่อคืนนี้อีก ซึ่งตอนนั้นเธออาจจะไม่โชคดีเช่นตอนนี้ที่รอดพ้นเงื้อมมือมันมาได้ เพราะหลายครั้งแล้วที่เคยเปรย ๆ กับมารดาเรื่องปัญหาที่พี่ชายพาเพื่อนมากินเหล้าเสียงดังเอะอะในบ้าน

แต่มารดาก็บอกว่าพี่ชายของเธอทำงานมาเหนื่อย ๆ ก็อยากผ่อนคลายบ้างตามประสาผู้ชาย ให้มากินที่บ้านดีกว่าไปกินเที่ยวนอกบ้าน ดังนั้นคงไม่มีอะไรที่จะต้องคุยเรื่องนี้กันอีก สิ่งที่เธอทำได้เพียงอย่างเดียวก็คือตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเองตอนที่ยังมีหนทางจะดีกว่า

เมื่อยื่นใบลาออกกับฝ่ายบุคคลเสร็จ เธอก็นั่งรถแท็กซี่กลับไปที่บ้าน โดยบอกให้แท็กซี่รออยู่หน้าบ้าน แล้วเดินเข้าไปในบ้านอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ  

เมื่อเข้าไปในบ้านเห็นว่าข้าวของในบ้านยังกระจัดกระจาย แต่ไม่มีใครอยู่ที่นั่นแล้ว เธอรีบขึ้นไปบนห้อง เก็บของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางเพียงไม่กี่ชุด ก่อนจะเปิดลิ้นชักหยิบแฟ้มเอกสารส่วนตัวทั้งหมดพร้อมด้วยคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กใส่กระเป๋าแล้วหิ้วออกมาจากห้อง

       “แกจะไปไหน” เสียงมารดาถามมา เพียงฤดีสูดหายใจเข้าลึก สะกดจิตตัวเองเอาไว้ว่าเธอจะไม่ยอมแพ้อีก

       “เมื่อคืนก็ไม่กลับบ้านสินะ ออกไปไหนมา ข้าวของบนโต๊ะเยอะแยะก็ไม่เก็บไม่กวาด ต้องให้ฉันมาเก็บกวาดให้หรือยังไง แล้วนี่จะไปไหนอีก” เพียงฤดีผ่อนลมหายใจออกก่อนจะว่า

       “นั่นพี่ท็อปทำไว้ ก็ให้เขาเก็บสิคะ” หญิงสาวหันไปมองกองขวดเบียร์ที่วางอยู่

“แล้วเมื่อวานพี่ท็อปพาเพื่อนมาบ้าน เพื่อนพี่ท็อปจะข่มขืนฤดี ถ้าไม่หนีออกไปฤดีอาจจะตายไปแล้วก็ได้ ฤดีอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้วนะคะแม่ ฤดีจะไปอยู่ที่อื่น” เธอตอบเสร็จก็ก้าวพรวด ๆ ออกไป

       “ยายฤดี แกกลับมานะ แกจะเห็นแก่ตัว ทิ้งแม่ ทิ้งพี่ ทิ้งน้อง ไปแบบนี้ไม่ได้นะ กลับมาพูดให้รู้เรื่องก่อน แกจะหนีตามผู้ชายไปใช่ไหมถึงไม่เห็นหัวแม่”

เสียงมารดาตะโกนไล่หลังมา คำพูดนั้นทำให้เธอต้องข่มความปวดร้าวในใจเอาไว้ เธอกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวที่หนีเอาตัวรอดไปกับผู้ชายในสายตามารดาไปแล้วหรือ

เธอเคยประพฤติตัวไม่รู้ดีรู้ชั่วแบบนั้นหรือ ท่านเลี้ยงเธอมาจะไม่รู้เลยหรือว่านิสัยของเธอเป็นอย่างไร เธอรักศักดิ์ศรีของตัวเองมากแค่ไหน ถึงได้เอ่ยคำนี้ออกมา หญิงสาวหันไปหามารดา ขณะที่จะเปิดประตูรั้ว

“เงินหนึ่งหมื่นบาทฤดียังโอนให้แม่เหมือนเดิม แม่ไม่ต้องกลัวว่านะคะว่าฤดีจะไม่ให้เงินใช้ ตั้งตัวได้เมื่อไหร่ ฤดีค่อยมารับแม่ไปอยู่ด้วย”

เธอบอกแล้วก็รีบออกไปเปิดประตูรถแท็กซี่ที่ให้รออยู่ แล้วบอกให้แท็กซี่ออกรถทันที ทิ้งมารดาให้ยืนมองตามอยู่หน้าบ้าน เธอจำเป็นต้องตัดสินใจเช่นนี้ ไม่ยอมอยู่อย่างไร้อนาคตอีกต่อไป

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 100%

    “นายไปเถอะ ฤดีทำกับข้าวไว้แล้ว บอกแม่ว่าพรุ่งนี้จะพาฤดีไปกินข้าวด้วย” คีรินว่าพลางโอบเอวของภรรยาข้าวใหม่ปลามันเข้ามาชิด “โอเค งั้นผมไปละ โคตรหิว” ปรัชญาโบกมือลาแล้วเดินดุ่ม ๆ มุ่งหน้าไปยังบ้านหลังน้อยของเพียงฤดีที่ตอนนี้เปิดไฟสว่างขึ้น คีรินและเพียงฤดีมองตามร่างสูงของปรัชญาที่เดินเข้าไปยังบ้านหลังเล็กที่อยู่ไกล ๆ เพียงฤดีมองภาพนั้นอย่างมีความสุข เพราะบ้านหลังน้อยของเธอนอกจากจะเป็นบ้านที่ให้แม่และน้องได้อยู่อย่างมีความสุขแล้วยังเป็นที่พึ่งพิงของชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ทำตัวเป็นคนโปรดของมารดาเธอได้อย่างน่าเอ็นดู แถมยังทำให้มารดามีความสุขกับการได้มีความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย ไม่ต้องมีเรื่องทุกข์ร้อนให้ต้องกังวลใจอีกไม่ว่าจะเป็นเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยชักหน้าไม่ถึงหลัง ใช้เดือนไม่เคยชนเดือน ตอนนี้ท่านก็ไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทองอีก เพราะเดือนละหนึ่งหมื่นบาทที่เธอให้ ท่านแทบไม่ได้เอาไปซื้ออะไรเลย เพราะใช้เงินจากที่นภดลนำผักไปขายเอาเงินไปซื้ออาหารสด และนภดลก็เริ่มมีรายได้เป็นของตัวเอง

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 70%

    หลังจากรับประทานอาหารเช้าเสร็จ เขาก็ใช้ความพยายามกล่อมภรรยาจนได้กินเธออีกรอบอย่างที่ต้องการ นอนคลอเคลียด้วยกันอยู่บนที่นอนจนถึงอาหารมื้อเที่ยง ถึงได้ออกจากห้องคีรินเปิดประตูออกไปหน้าบ้าน เห็นคนงานกำลังเคลียร์สถานที่ที่ใช้จัดงาน โดยมีปรัชญาคอยดูแล“อ้าว พี่คี ออกมาได้แล้วเหรอ เมื่อคืนคงหนักสินะ” รุ่นน้องหนุ่มเอ่ยแซวพลางยิ้มอย่างมีเลศนัย“แล้วมึงละ หนักเหมือนกันละสิไอ้เป้ ป่านนี้ถึงได้เพิ่งมาเก็บของ”“แหม ก็ยันเช้าอ่ะพี่ พี่ณัฐกับไอ้บุ๋มยังไม่ตื่นเลย พี่เทพพาเมียไปเดินเล่นในสวน ส่วนไอ้หนึ่งพาเมียไปออกไปซื้อของตลาดเดี๋ยวคงจะมา เห็นว่าจะกลับกันเย็นนี้” ปรัชญารายงาน“แล้วยายนภาล่ะ เมื่อคืนนอนที่ไหน”“เห็นพี่ชลพากลับไปนอนบ้านโน้น แต่รถยังอยู่ที่นี่เห็นว่าค่อยกลับมาเอาตอนจะกลับกรุงเทพฯ” ปรัชญาตอบ“อืม งั้นนายก็ทำงานไปเถอะ ฝากช่วยหน่อยนะ วันนี้เพลีย ๆ เดี๋ยวพี่ไปช่วยเมียทำกับข้าวก่อน นายก็หากินเอาเองนะ”“ไปเลยพี่ไม่ต้องเป็นห่วง เรื่องกินน่ะผมฝากท้องกับแม่แล้ว ผูกปิ่นโตทุกวัน เดี๋ยวก็ว่าจะย้ายของในห้องไปอยู่กระท่อมแล้วละ ส่วนพี่ก็เก็บแ

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 50%

    “งั้นเดี๋ยวพี่ป้อนให้” ว่าแล้วก็ดันร่างบางของหญิงสาวให้มาเผชิญหน้า เห็นเธอหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย มือเรียวปิดหน้าอกเอาไว้ เขาเพิ่งรู้ว่ามันไม่ได้เล็กอย่างที่เขาคิด แต่ความอวบอิ่มนั้นล้นมือของเธอทีเดียว ปกติเขาจะเห็นเธอแต่งชุดเรียบร้อย เสื้อผ้าก็ใส่แบบหลวม ๆ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่กลับมีจนเขาต้องแอบกลืนน้ำลาย เขาเอาองุ่นใส่ปากหญิงสาวที่กำลังจะอ้าปากท้วง “อร่อยไหม” ถามด้วยดวงตามระยิบระยับ ที่เต็มไปด้วยแรงปรารถนา “พี่คีริน ไปอาบน้ำสิคะ ฤดีกินเองได้ค่ะ” เธอหลบสายตาหวานฉ่ำนั้นด้วยความเขินอาย พลางไล่ให้เขาไปอาบน้ำก่อน “พี่ไม่อาบคนเดียวหรอก เราต้องไปอาบกับพี่ด้วย รู้ไหมตอนตกแต่งห้องนี้ พี่แอบคิดว่าถ้าวันหนึ่งพี่แต่งงานกับฤดี ก็อยากอาบน้ำด้วยกันทุกวัน จึงได้ติดตั้งอ่างจากุชซี่ไว้ในห้องนอนด้วย” “อะไรน

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 22 วิวาห์แสนหวาน 30%

    ๒๒วิวาห์แสนหวาน งานแต่งงานที่จัดขึ้นที่ไร่คีรินจบลงอย่างสวยงาม แม้ว่าเพื่อนเจ้าบ่าวกับเพื่อนเจ้าสาวออกอาการเขม่นกันอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้ทำให้งานแต่งงานเสียบรรยากาศแต่อย่างใดส่วนเอกกมลผู้เป็นพี่ชายของเจ้าสาวนั้นพาภรรยาวัยสาวน้อยมาด้วย แต่อยู่ร่วมงานเพียงไม่นาน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ ก็พาภรรยากลับไปซึ่งเพียงฤดีก็เข้าใจและเห็นใจในความลำบากใจของพี่ชาย ซึ่งรู้ว่าภรรยาของตนกับมารดานั้นไม่ค่อยลงรอยกันนัก จึงไม่ได้ว่าอะไรที่เขาไม่ได้อยู่จนจบงาน แค่เขาได้มาร่วมงาน เธอก็ดีใจมากแล้ว และเห็นว่าเอกกมลเปลี่ยนตัวเองให้ใจเย็นลงได้อย่างมากก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว “น้องฝากยายฤดีด้วยนะพี่คีริน ดูแลให้ดีนะ ไม่งั้นน้องโกรธจริง ๆ ด้วย” นภาธรว่า ขณะที่อยู่ในห้องหอของบ่าวสาวที่เพิ่งทำพิธีจบลง และหมดหน้าที่เพื่อนเจ้าสาวของเธอแล้ว&nb

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 100%

    ปรัชญาเดินดุ่มขึ้นมาบนบ้านหลังเล็กของเพียงฤดีเมื่อเห็นคีรินนั่งอยู่หน้าบ้าน เขาเดินขึ้นระเบียง ถอดหมวกแก๊ปวางบนโต๊ะด้วยท่าทางหงุดหงิด แล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าชายหนุ่มรุ่นพี่“เป็นอะไรไอ้เป้” คีรินถาม“ก็ผู้หญิงอะไรไม่รู้ หน้าตาก็ดี แต่เหมือนคนบ้า ผมจอดรถของผมอยู่ดี ๆ ก็มาเคาะกระจกเรียก ด่าผมว่าเสียมารยาทไปจอดรถตรงที่ที่เขาจองไว้แล้ว บ้าบอมาก มันตลาดนัด ใครไปถึงก็จอดก่อน ผมก็ไม่เห็นว่าเขากำลังจะเข้าจอด เห็นรถถอยออกก็เสียบเข้าไป ยังไม่ทันได้ดับเครื่องก็มาเคาะเรียก บังคับให้ผมเอารถออกทั้ง ๆ ที่ตรงอื่นก็จอดได้เยอะแยะ ผมขี้เกียจรำคาญก็เลยถอยรถออกมานี่แหละ จะแวะซื้อเป็ดตุ๋นมากินสักหน่อยเลยไม่ได้กินเลย”“เออน่า อย่าเพิ่งโมโหหิว แม่กับฤดีทำกับข้าวอยู่ น่าจะใกล้เสร็จแล้วละ เดี๋ยวก็กินด้วยกันที่นี่แหละ แล้วว่าไง ออกไปหาลูกค้าไร่พิงอรุณมาเป็นยังไงบ้าง”“ก็ดี ลุงแกก็โอเคแหละ คนแก่น่ะ ให้เราออกแบบระบบให้แล้วเสนอราคาไปก่อน เห็นบอกว่าลูกสาวที่อยู่กรุงเทพฯ อยากให้วางระบบฟาร์มอัจฉริยะไว้ก่อน เดี๋ยวจะกลับมาอยู่บ้านแล้ว”“อืม เห็นลุงแกจะขายที่ดินให

  • ฤดีคีริน...เพียงรักนี้มีเรา   บทที่ 21 ปรับตัวเองง่ายกว่า 70%

    งานแต่งงานกำลังจะจัดขึ้นในอีกสองวันข้างหน้า วันนี้ทั้งประสิทธิ์ สายชล และชลธรมาช่วยเตรียมงานในไร่ตั้งแต่เช้า ไหนจะช่วยจัดเตรียมวางแผนเรื่องอาหาร การจัดสถานที่ รวมทั้งชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว แม้ว่าทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาวจะบอกว่าอยากได้งานเล็ก ๆ อบอุ่น ๆ ภายในครอบครัวแต่ในที่สุดก็ไม่สามารถจัดแบบนั้นได้ เมื่อพ่อแม่เจ้าบ่าวไม่ยอม เนื่องจากเป็นลูกชายคนแรกที่ได้แต่งงาน และไม่รู้ว่าลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กจะมีโอกาสได้แต่งงานไหม จึงขอจัดงานให้ถูกใจพ่อแม่เจ้าบ่าวก่อน“อย่าว่าฉันอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะแม่หทัย ฉันน่ะก็ไม่อยากให้ทุกคนเหนื่อยกันหรอก แต่ฉันก็มีลูกอยู่แค่สามคน อีกสองคนยังไม่มีวี่แววว่าจะได้แต่งงาน เลยขอจัดงานพ่อคีรินให้มันใหญ่หน่อย ให้พออวดเพื่อนได้ว่าฉันได้ลูกสะใภ้ดี แม่หทัยนี่สอนลูกดีจริง ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ขยันขันแข็ง อ่อนน้อมถ่อมตน ฉันเห็นครั้งแรกก็หลงรักแล้ว” สายชลว่าพลางนั่งตรวจเช็คของชำร่วยไปพลาง ว่าจำนวนชิ้นพอกับแขกเหรื่อที่เชิญไว้หรือไม่ขณะคนที่ถูกชมกลับยิ้มเจื่อน ๆ เพราะตนเองก็ไม่ได้สอนอะไรลูกสาวมากนัก มีแต่ใช้งานหนักให้ทำโน่น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status