บทที่ 15
แววตาคู่หนึ่งจ้องมองนาฬิกาที่อยู่บนโต๊ะทำงานมือทั้งสองข้างกุมเข้าหากันความคิดหลายอย่างในความรู้สึกตอนนี้จนกระทั่งเวลาผ่านไปถึงเวลาที่จะต้องไปโรงพยาบาลเพื่อดูเพลงมีนาหลังจากผ่าตัด
ครืด! มือถือวางอยู่บนโต๊ะทำงานนั้นโชว์หน้าจอขึ้นชื่อว่าคุณแม่ มือจึงเอื้อมไปหยิบมากดรับสาย
"เงียบหายไปเลยนะลูกชายเป็นยังไงบ้าง"
"ก็เหมือนเดิมครับสบายดี มีอะไรหรือเปล่า โทรหาผมวันนี้ปกติแล้วคุณแม่ไม่ค่อยโทรมาหาผม"
"ก็เห็นเงียบหายไป ไม่มีอะไรหรอกแม่แค่ฝันไม่ดีเป็นห่วงธารามเลยโทรมาหา จำเรื่องที่แม่บอกได้ไหม"
"ครับคุณแม่ผมจำได้"
"ถ้าจำได้ก็ดีอย่าให้ประวัติมันซ้ำรอย ได้สิ่งที่ต้องการก็ถอยออกมา" เขาถอนหายใจออกมาเหมือนกับกำลังเหนื่อยใจหลังจากนั้นกดวางสายจากแม่ของเขาลุกขึ้นเดินออกมาจากห้องทำงาน
"อุ๊ย คุณผู้ชายตกใจหมดเลยค่ะน้องดาว่าจะเอาน้ำกับกาแฟไปให้คุณผู้ชายในห้อง" เธอเป็นแม่บ้านคนใหม่ที่เพิ่งรับเข้ามาได้ไม่ถึงสามวันกิริยาและท่าทางนั้นบ่งบอกถึงความอ่อยการแต่งตัวใส่ชุดแม่บ้านก็จริง แต่ทุกอย่างรัดสัดส่วนจนเผยเห็นได้ชัดสายตาของธารามจ้องมองตั้งแต่หัวจดเท้า
"เธอเป็นแม่บ้านคนใหม่หรอ" เขาจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องที่บ้าน แม่ของธารามนั้นมักจะโทรสั่งงานกับแม่บ้านคนสนิท และธารามเองก็มักจะอยู่ที่คอนโด
"ใช่ค่ะคุณผู้ชาย คุณผู้ชายจะดื่มกาแฟกับน้ำก่อนไหมคะ" สายตายั่วยวนจ้องมองให้เสือนั้นติดกับแต่คนอย่างธารามเขาไม่ใช่ผู้ชายมักมากที่จะไม่เลือกผู้หญิงและคว้าเอาใครง่ายๆ
"ต้องการอะไร" เธอนั้นชื่อว่าน้องดาเดินเอาถาดแก้วน้ำวางไว้ที่โต๊ะด้านข้างหันหลังเดินกลับมาหาธารามก้าวเท้าจนกระทั่งชิดร่างใหญ่ที่ยืนจ้องมองเธออยู่นั้น
"ถ้าน้องดาบอกว่าน้องดาต้องการคุณ" มือสองข้างของเธอลูบเข้ายังแผงอกของเขาทำท่าทีเหมือนคนกำลังมีอารมณ์และยั่วยวนให้ฝ่ายตรงข้ามมีอารมณ์ตาม เธอกำลังคิดผิดที่ยั่วยวนธารามจนต้องถูกผลักประเด็นออกจากตัวล้มลงที่พื้นอย่างไม่เป็นท่า
ว้าย!! "ทำไมทำกับน้องดาแบบนี้คะ"
"มาทางไหนก็ออกไปทางนั้นอย่ามายุ่งกับกูผู้หญิงแบบมึง กูไม่เอามาทำพันธุ์หรอก อย่าคิดว่ากูจะคว้าเอาใครมาบำเรอกูง่ายๆโดยเฉพาะผู้หญิงที่เสนอตัวให้กับกู กูจะไม่มีวันเอา"
"นายคะ"
"ใครอยู่แถวนี้มาเอาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากบ้านของกู จะรับใครเข้ามาทำงานทำไมไม่ดูดีๆว่าเอาแม่บ้านหรือว่าเอาแรดเข้ามา!
พวกแม่บ้านรีบเอาแม่บ้านที่ชื่อน้องดานั้นออกไปเพราะรู้ดีว่าถ้าธารามโมโหจะเกิดอะไรขึ้น
"เจอแต่เรื่องอะไรวะเนี่ยจะไม่ทันเวลาแล้ว" เขายกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาที่ข้อมือของตัวเองรีบก้าวเท้าเดินออกจากบ้านด้วยความเร็วตรงมาที่รถและขับออกมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาล
"เฮีย" พราวมุกเห็นพี่ชายของตนเดินมาจึงรีบวิ่งมากอดแขนของพี่ชาย เธอกับคุณเพลิงนั่งรออยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด ธารามเดินตรงเข้าไป เขาโอบกอดน้องสาวพร้อมใช้มือลูบหัวของเธอ
"ร้องไห้ทำไม" เขามองหน้าน้องสาวสลับมองหน้าคุณเพลิงเพื่อนสนิทของตนที่กำลังนั่งอยู่เก้าอี้กุมมือเข้าหากันไว้ใต้คางแววตาแดงก่ำดั่งคนกำลังเครียด
"มันเกิดอะไรขึ้นไอ้เพลิง" ธารามเอ่ยถามขึ้น คุณเพลิงได้เพียงแต่หันมองหน้าธารามและหันกลับไปเหมือนเดิมไม่พูดแล้วตอบอะไร เหมือนกับว่าเขานั้นไม่อยากพูดกับธาราม
"ระหว่างผ่าตัดเพลงมีนาเกิดอาการช็อคค่ะเฮียฮือๆหมอกำลังช่วยอยู่"
แกร๊ก!! ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกมา ครั้งนี้เขาคือคุณหมอคนที่ผ่าตัดเพลงมีนาใบหน้าของเขาบ่งบอกถึงความซีด คุณเพลิงรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงมาหาคุณหมอเพราะก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเพลงมีนาเกิดอาการช็อคและคุณหมอได้ทำ CPR หลายครั้ง
"หมอ น้องสาวของผมเป็นยังไงบ้าง? เธอปลอดภัยใช่ไหม คุณหมอตอบมาสิว่าเพลงมีนาปลอดภัย"
"ใจเย็นๆสิวะ หมอเขาตอบมึงไม่ทันหรอกมึงไปเขย่า...
พรึ่บ! คุณเพลิงนั้นผลักธารามออกจากตัวเองที่กำลังจับเขา หันมองหน้าเพื่อนด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงความโกรธ
"อย่าเพิ่งยุ่งกับกู"
"ใจเย็นๆนะครับทุกคนพวกคุณจะมาทะเลาะกันตรงนี้ไม่ได้ แล้วคุณก็ปล่อยผม ผมเป็นหมอผมมีหน้าที่รักษาคนไข้ไม่ใช่มีหน้าที่รองรับอารมณ์ของใคร" คุณเพลิงยกมือขึ้นในทำนองขอโทษคุณหมอ พราวมุกเดินเข้ามาประคองไว้เพราะว่าคุณเพลิงนั้นแทบจะยืนไม่อยู่
"หมอได้ทำ CPR ด้วยเครื่องกระตุ้นหัวใจไปสามครั้งตอนนี้ยังไม่พ้นขีดอันตรายอาการของคนไข้ 50-50 ยังคงต้องเฝ้าดูอาการในห้องฉุกเฉินอย่างใกล้ชิด หมอออกมาแจ้งอาการกับญาติเท่านี้นะครับ"
"ผมขอเข้าไปหาน้องสาวได้ไหม ถือว่าขอร้องผมอยากให้น้องสาวผมกลับมาแบบปลอดภัย"
"ไม่ได้ครับถ้าเกิดการติดเชื้อขึ้นมา มันจะทำให้อาการของคนไข้แย่ลง"
"มันจะต้องติดเชื้ออะไรขนาดนั้น ปล่อยให้พี่ชายเขาได้เข้าไปดูอาการ" ธารามจ้องมองหน้าหมอเขม่งตะคอกออกมาหลายครั้งและพูดหลายประโยคจนกระทั่งธารามควักปืนออกมาจากทางด้านหลังหมอจึงยอมเสี่ยงให้กับญาติได้เข้าไปดูอาการ
ภาพตรงหน้าของเขาทั้งสามคนนั้น เห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียงผ่าตัดมีเครื่องช่วยหายใจและสายวัดความดันชีพจร มีถุงน้ำเกลือและถุงเลือดมีผ้าสีเขียวปกคลุมร่างกาย ใบหน้าเล็กนั้นซีดเซียวดั่งคนไม่มีลมหายใจ เขาเห็นน้องสาวตัวเองอยู่ในสภาพนี้เขายิ่งร้องไห้ขาอ่อนแรงจนเข่าทรุดลง
"ฮือๆเพลง ตื่นขึ้นมานะเฮียขอโทษ เฮียขอโทษสำหรับทุกอย่างขอร้องอยู่กับเฮียนะ ตื่นขึ้นมามีชีวิตใหม่นะ อย่าทิ้งเฮียไปพ่อกับแม่ทิ้งเฮียไปแล้วเพลงจะทิ้งเฮียอีกหรอ เพลงไม่รักเฮียหรอเฮียยอมทุกอย่างเลยขอแค่ตื่นขึ้นมาอยู่กับเฮีย" พราวมุกและคุณเพลิงกอดกันร้องไห้อยู่ที่พื้น แตกต่างจากธารามที่ยืนกอดอกมองด้วยสายตาที่นิ่งเฉย
ตอนพิเศษเพลงมีนาเธอนั่งยิ้มมาตลอดทางจนกระทั่งถึงบ้านธารามก็ยังไม่ยอมถอดชุดคิตตี้ที่ขอเมียแต่งงานออกเมื่อเดินเข้ามาในบ้านทั้งลูกน้องและแม่บ้านต่างพากันขำเสียงดังในสิ่งที่เขาไม่เคยทำเขาก็ยอมทำเพื่อเมีย"ยืนขำอะไร""อย่าไปดุพวกเขาสิคะขนาดเพลงยังขำเลยนึกยังไงคะเอาชุดนี้มาใส่""ไม่นึกยังไงหรอกเมียชอบอะไรผัวก็ทำให้ทั้งนั้นแหละ ขอแค่มีเมียอยู่ในชีวิตก็พอไม่ขออะไรมากแล้ว" เขาเดินขยับเข้ามาใกล้ๆ นั่งลงที่โซฟาด้านข้างของเธอโอบกอดกระชับเธอเข้าไปไว้ในอ้อมกอด แม่ของธารามนั้นเดินออกมาพอดีใบหน้ายิ้มกริ่มเมื่อเห็นลูกชายกับลูกสะใภ้กำลังพลอดรักกัน"เฮียคุณแม่มาปล่อยได้แล้ว""เอ้าเราทั้งสองคนไม่ได้แอบคบกันนี่จะกลัวทำไมใช่ไหมครับคุณแม่""จ้ะ แม่เห็นลูกทั้งสองคนมีความสุขแบบนี้แม่ก็นอนตายตาหลับแล้วโชคดีของพวกเราเลยนะที่รอดพ้นจากเรื่องนั้นมาได้และก็เป็นโชคดีของแม่ที่แม่ไม่ถูกโยนลงออกจระเข้จริงๆ""และเขา?ธารามหมายถึงพ่อที่แท้จริงของตัวเองจึงเอ่ยถามแม่"เขาคงไม่มีวันได้กลับมาเป็นคนอีกแล้วแหละนรกคงไม่ปล่อยแน่นอน""เอาไว้พวกเราว่างแล้วเราไปทำบุญให้เขานะคะถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยดีกับเฮียแต่เฮียก็คือลูกชายของเขาชา
บทที่ 70ขบวนกำลังเริ่มขึ้น เพลงมีนาเป็นคนถือป้ายนำซึ่งไม่ได้แต่งตัวเหมือนกับคนอื่นเขาแค่เธอใส่ชุดนักศึกษากระโดดเด่นเปล่งประกายโชว์ความสวยจนทุกคนต้องจับจ้องมองเธอโดยเฉพาะกลุ่มผู้ชายนั่นทำเอาธารามไม่ชอบจนเลือดขึ้นหน้าหึงหวงเมียแต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งขบกรามอยู่ที่ร่มไม้"มึงเป็นอะไรวะเนี่ยนั่งหน้ามุ่ยเชียว" ธารามหันมองหน้าเพื่อนและเอ่ยถาม"เฮียเขาจะเป็นอะไรล่ะคะคุณเพลิง เขาก็หึงเพลงมีนาที่โดดเด่นอยู่ในงานนั่นแหละค่ะ ดูสิสายตาผู้ชายจับจ้องมองเป็นตาเดียวกันเลย" พราวมุกนั้นยั่วยวนกวนพี่ชายตัวเองเพราะรู้ว่าพี่ชายตนเองนั้นกำลังหึงหวงแฟนแต่ทำอะไรไม่ได้"น้องกูนี่มันมีเสน่ห์จริงๆ สงสัยจะต้องพาไปประกวดนางแบบซะแล้วสิ""มึงหยุดความคิดของมึงเลยนะไอ้คุณเพลิงถ้ามึงพาเพลงมีนาไปเป็นนางแบบกูฆ่-ามึงแน่""ฮ่าๆ กูไม่เคยคิดเลยนะว่าผู้ชายแบบนึงนิสัยกระด้างร้ายกาจปากหมาและก็เลวจะหลงน้องกูได้ขนาดนี้" คุณเพลิงส่ายน่าไปมาขำธารามที่กำลังเป็นอยู่ แตกต่างจากธารามคนเดิมเปรียบดังหน้ามือและหลังมือก็ว่าได้"ด่ากูขนาดนี้ไม่เอาตีนกระทืบหน้ากูเลยล่ะ""เอ้ากระทืบได้ก็ไม่บอก""กูประชด ชิ! กูนี่อยากจะเดินไปโอบกอดเมียกูแล้
บทที่ 69ธารามกลายเป็นคนที่กลัวเมียไม่กล้าขัดใจเพลงมีนาสักอย่างแค่เมียงอน เขาก็กระวนกระวายจนไม่มีกะจิตกะใจที่จะทำงาน ไม่ยอมห่างจากเมียงานอะไรที่ไม่สำคัญธารามนั้นใช้ลูกน้องทำอย่างเดียวถ้าเขามีงานที่จะต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็จะเอาเพลงมีนาไปด้วยตลอด"โอ๊ยปวดหลัง" เพลงมีนาขยับลุกขึ้นจากเตียงพร้อมกับยืดตัวทำท่าทีปวดหลังเมื่อวานนี้เธอนั้นซ้อมวอลเลย์บอลหญิงเพื่อแข่งขันจริงในวันนี้"เมียจ๋านี่ก็ครบ 1 เดือนแล้วน๊า" มือหยาบลูบเข้าที่ต้นขาของคนข้างๆ"แต่วันนี้เพลงมีแข่งกีฬาและต้องรีบไปแต่เช้าด้วยค่ะติดไว้ก่อนนะคะ""เชอะ! ใช่สิกีฬามันสำคัญกว่าผัวนี่" ธารามนอนหงายไปกับหมอนใช้ผ้าห่มที่ปกคลุมร่างกายตนเองนั้นคลุมหน้าทำท่าทีงอนเมีย ใช่ว่าเมียจะง้อ เพลงมีนากลับลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าไปห้องน้ำไม่สนใจเขา"เมียไม่ง้อผัวหน่อยหรอ เห้อ~ ง้อหน่อยก็ไม่ได้" เขาลุกขยับตัวขึ้นมาจับมือถือมาดูLINE สั่งงานลูกน้องมีเรื่องด่วนเข้ามาธารามก็สั่งให้ลูกน้องคนสนิทนั้นไปทำ"เมียกระโปรงมันสั้นไป" วันนี้เพลงมีนาแข่งกีฬาก็จริงแต่เธอนั้นต้องแต่งตัวนักศึกษาเพราะว่าได้ถือพานกรรไกรขึ้นเวทีให้กับคณะกรรมการได้ตัดริบบิ้น
บทที่ 68คุณเพลิงโทรบอกกับเพลงมีนาว่าวันนี้ไม่ได้กลับบ้านมีธุระที่ต้องจัดการอยู่ต่างจังหวัดกับพราวมุกเพลงมีนาจึงนั่งทานข้าวอยู่คนเดียวมองออกไปนอกบ้านทั้งรถแล้วก็คนยังยืนอยู่ที่เดิมช่วงเวลา 1 วันเต็มๆ ที่เธอปล่อยให้เขายืนตากแดดรอ"ปากร้ายดีนักต้องเจอแบบนั้นแหละ" เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ในขณะที่แม่บ้านกำลังเสิร์ฟอาหารคิดว่าจะไปดูธารามที่หน้าบ้านก่อนแล้วค่อยกลับมาทาน เมื่อเดินออกมาจนถึงประตูรั้วเป็นอย่างที่เขาคิดคนที่นั่งพิงประตูรั้วอยู่เป็นลูกน้องของธาราม"นายครับคุณผู้หญิงออกมา" เขารีบลุกขึ้นทันทีวิ่งไปเปิดประตูรถของธาราม เขากลับหลับอยู่บนรถแอร์เย็นฉ่ำประตูรั้วเปิดเพลงมีนาเดินออกมายืนอยู่ด้านข้างประตูรถ"เวรแล้วไงหลับซะยาวเลยบอกแล้วกลางคืนอย่าหักโหม" เสียงของลูกน้องคนสนิทพูดพร้อมกับก้มหัวลงรีบเดินหนีไปทางอื่นเมื่อเห็นสายตาของเพลงมีนา"ถ้าง่วงก็กลับไปนอนที่บ้านนะคะอย่าเอาร่างกายของตัวเองมาทรมาน" เสียงของเพลงมีนาดังขึ้น เขานั้นกระพริบตายุกยิกและลืมตาขึ้นมาดีดตัวขึ้นพรวดสะดุ้งเมื่อเห็นเธออยู่ระยะใกล้"เพลง""ถ้าง่วงก็กลับไปนอนที่บ้านอย่าใช้ให้ลูกน้องนั่งทรมานอยู่ตรงนี้""ก็มันร้อนนั่งมาทั้งวั
บทที่ 67เพลงมีนาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเดินลงมาด้านล่างลูกน้องคนสนิทของพี่ชายนั้นเดินเข้ามาบอกว่าธารามไม่ยอมกลับนั่งเฝ้าหน้าประตูรั้วอยู่"ก็ดีแล้วค่ะปล่อยให้เขาเฝ้าอย่างนั้นแหละอย่าให้เขาเข้ามาได้นะไม่อย่างนั้นเพลงจะสั่งลูกน้องซ้อมพี่นั่นแหละ" เพลงมีนาบอกกับลูกน้องคนสนิทของพี่ชายถ้าเกิดเขาปล่อยให้ธารามเข้ามาได้เขาจะต้องถูกลงโทษจากเธอ"โหทำไมคุณหนูถึงเก่งจังครับเนี่ย""คงจะเป็นเพราะว่าเพลงเข้มแข็งขึ้นมั้งคะ ชั่งเถอะ แต่เพลงก็ต้องขอบคุณนะที่เมื่อก่อนไม่เคยช่วยเพลงแกล้งทำเป็น.."คุณหนูขอบคุณผมหลายครั้งแล้วครับ โชคดีนะครับที่คุณธารามเขาไม่เล่นงานผมไม่อย่างนั้นแล้วก็""พอเถอะค่ะอย่าเพิ่งพูดถึงเขาเลยเพลงเหนื่อย""คุณหนูครับแล้วคุณหนูจะปล่อยให้เขานั่งรออยู่แบบนั้นหรอโต๊ะก็ไม่มีนั่งอยู่ริมฟุตบาทข้างประตูรั้วอีกร้อนก็ร้อนและในช่วงเวลานี้ก็กำลังจะเที่ยง" ในตอนเช้าเพลงมีนาตั้งใจไปเรียนแต่เธอไม่ได้เรียนเพราะว่าเกิดเรื่องขึ้นซะก่อนจึงกลับบ้านมาอาบน้ำเพื่อผ่อนคลายจากความหงุดหงิดด้วย"คนแบบเขามีหรอคะที่จะนั่งตากแดด" เพลงมีนารู้ดีว่าธารามนั้นไม่ยอมนั่งตากแดดอย่างแน่นอน"คุณหนูหมายความว่ายังไงหรอครับ""พ
บทที่ 66หญิงสาวนอนกอดแฟนอยู่ในอ้อมอก เพลงมีนามานอนที่บ้านของธารามพี่ชายอนุญาตให้ทั้งสองคนคบกันอย่างเปิดเผยไม่กีดกันและห้าม ต่างฝ่ายต่างเคลียร์ใจกันหมดทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม"เมียจ๋าขอจับหน่อย" เมื่อเพลงมีนาขยับร่างกายเตรียมที่จะลุกในยามเช้าเพราะว่าเธอนั้นต้องไปเรียนธารามกับคว้ากอดและมือซุกไซร้เล่นอยู่ที่เนินนูนของเธอบนหน้าอก"เฮียคะพอได้แล้ว""ทำไมล่ะขอเล่นแค่นี้ไม่ได้หรอที่เมื่อคืนนี้แอ่นให้""ก็เพลงต้องรีบไปเรียนนี่คะ" เธอถูกดึงเข้าอยู่ในอ้อมแขนของเขาประทับรอยจูบลงที่แก้มซ้ายและขวาเขาไม่อยากปล่อยให้เธอออกจากอ้อมกอดเลยสักวินาที"เฮียคะเพลงก็อยู่กับเฮียทั้งคืนแล้วเพลงจะไปอาบน้ำไปเรียนค่ะ" เธอฟาดฝ่ามือลงที่แขนของเขาเบาๆ ให้เขาปล่อยตนเองนั้นไปอาบน้ำ"ไปด้วย""ไปไหนคะ""ไปเฝ้าเมียเรียน กลัวหมามันมองเมียกู" เขาหวงเมียแค่ไหนแค่ไปเรียนก็ยังไม่ยอมปล่อยให้ไปคนเดียวเมื่อถึงมหาวิทยาลัย เขาเดินโอบกอดเอวเธอโชว์ทุกคน จนถึงตึกเรียนไม่ยอมปล่อยให้เพลงเดินมาคนเดียว"เฮียอายคนอื่นเขา""จะอายใครทำไมผัวมาส่งเรียน ไม่ต้องอายหรอก""อุ๊ยเพลงลืมมือถือไว้ในรถ" เธอค้นกระเป๋าสะพายของตนเองและไม่พบมือถือจึ