#ช่วงบ่ายๆ ของวันศุกร์ ทั้งสองจะต้องเดินทางกันในวันศุกร์ เพื่อที่จะได้ไปร่วมกิจกรรมในเช้าวันเสาร์และวันอาทิตย์ การเดินทางก็ไม่ได้ใช้เวลาอะไรมากมายแต่ทว่าก็มาถึงกันจนเย็นอยู่ดี"สวัสดีครับอาจารย์""สวัสดีค่ะอาจารย์"ไทเธย์กับชะเอมเข้ามาทักทายประธานชมรมและกลุ่มอาจารย์ที่มาร่วมชมรมนี้ด้วย แต่ชมรมของไทเธย์ไม่ได้มีอาจารย์มาด้วยเพราะเป็นเพียงชมรมเล็กๆ และก็ประสงค์จะมาดูงานเองไม่เกี่ยวกับทางมหาวิทยาลัย"ขึ้นพักกันเถอะ""เราจะพักกันที่นี่หรอคะ""ใช่ กิจกรรมมันอยู่ที่นี่ก็พักมันซะที่นี่แหละ""อ๋อ..."ไทเธย์พารุ่นน้องไปที่หน้าเคาน์เตอร์ก่อนจะบอกรายละเอียดต่างๆ ที่ได้ทำการจองเอาไว้ล่วงหน้ากับพนักงานแต่ทว่ากลับมีบางอย่างที่ชะเอมได้ยินแล้วถึงกับหูผึ่งในทันที"ห๊ะ! ห้องเดียว?""จะเสียงดังเพื่อ?""แต่รุ่นพี่ไม่ได้บอกนี่คะ ว่าเราจะพักห้องเดียวกัน""ตอนแรกฉันจองไว้แบบนี้ไง" ก่อนที่จะมาเขาได้จัดการอะไรๆ ไว้เรียบร้อยหมดแล้ว จะมาเปลี่ยนเอากระทันหันมันก็ไม่ทันหรอก จะยกเลิกโรงแรมนี้แล้วไปหาโรงแรมอื่นพักก็เสียเวลาแถมเสียเงินเพิ่มด้วย"ยะ แยกไม่ได้หรอ" พูดเสียงอ้อนๆ แต่ก็แผ่วเบามาก"ต้องขออภัยด้วยนะคะ ทางห
ในบ่ายวันหนึ่ง ณ ชมรมหุ่นยนต์ครืด~ ( ข้อความใหม่เข้า )ไทเธย์กำลังนั่งอ่านข้อความที่ถูกส่งเข้ามาในโทรศัพท์มือถือ เขาขมวดคิ้วย่นเหมือนกำลังคิดหนักเอามากๆ ราวกับว่าในนั้นมีเรื่องคอขาดบาดตายTon : ขอโทษว่ะ แม่กูเข้าโรงพยาบาลด่วน ไม่มีใครเฝ้าด้วยกูก็เลยต้องอยู่เฝ้า เรื่องกิจกรรมชมรมมึงช่วยหาคนอื่นไปแทนกูก่อนนะ ขอโทษจริงๆ ว่ะ แต่มันกระทันหันจริงๆ Thaithey : ไม่เป็นไร ขอให้แม่มึงหายไวๆ นะ มีอะไรให้ช่วยก็บอก เรื่องแบบนี้ไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นหรอก ไทเธย์ไม่ได้ว่าอะไรเพื่อนสนิทเลย เพราะมันก็ฉุกละหุกกระทันหันจริงๆ บวกกับพอจะรู้เรื่องเพื่อนสนิทคนนี้มาอยู่บ้าง ว่าแม่ของเพื่อนคนนี้นั้นเจ็บออดๆ แอดๆ เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เคยแว๊บไปเยี่ยมอยู่ 2-3 ครั้งเหมือนกัน ถึงได้เข้าใจแต่ที่หนักใจอยู่ตอนนี้คือ เขาจะหาใครไปแทนได้ เพราะตอนที่ดีลกับทางปลายทางเอาไว้คือจะไปกันสองคน และทางนั้นก็เตรียมทุกอย่างรอเอาไว้เรียบร้อยหมดแล้วด้วย"เสร็จแล้วค่ะรุ่นพี่ไท ช่วยดูหน่อยพอได้ไหม" ชะเอมยื่นเอกสารไปตรงหน้าของรุ่นพี่ไทเธย์ เพราะเพิ่งเข้ามาชมรมใหม่ๆ หน้าที่ของเธอก็เลยไม่ได้มีอะไรมาก นอกจากคอยจดหลักสูตรและเอา
@คณะวิศวะกรรม หลังเลิกเรียนชะเอมกำลังจะเดินกลับบ้านตามปกติ ทว่าก้าวยังไม่พ้นบันได เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางด้านหลัง ทำให้เธอและกลุ่มเพื่อนต้องชะงักในทันที"เสื้อสวยดีนะ""???""ตั้งใจลงรูปแบบนั้นให้ใครดูล่ะ?"เสียงที่ฟังดูเหมือนกำลังยิ้ม แต่เป็นการประชดประชันมากกว่า ดูก็รู้ว่ามาดักรอแบบนี้กำลังหาเรื่องกันเรื่องอยู่ชะเอมหันไปพร้อมกับถอนหายใจ เห็นรุ่นพี่เมษายืนพิงราวบันไดอยู่กับกลุ่มเพื่อนกลุ่มเดิม แขนกอดอกมองด้วยสายตาที่เย็นเฉียบ"ก็ไม่ได้ตั้งใจให้ใครดูค่ะ แค่ลงรูปเฉยๆ เหมือนปกติ" เธอตอบนิ่งๆ"แค่ลงเฉยๆ? แน่ใจเหรอว่าไม่จงใจ" พี่เมษาเลิกคิ้ว พลางเดินเข้ามาใกล้ขึ้นทีละก้าวเหมือนกำลังหาเรื่อง"....." ชะเอมยืนนิ่ง เธอไม่ได้ถอยหนี และก็ไม่ได้กลัวด้วย"หลังจากที่ฉันเตือนเธอไปแล้ว ว่าอย่ามายุ่งกับไทอีก ทำไมเธอถึงไม่ฟัง?"ชะเอมเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ "รุ่นพี่ไทไม่ใช่ของใคร เขายังไม่มีแฟนนะคะ ถ้าพี่กำลังชอบตามจีบอยู่เหมือนกัน เราก็อยู่ในสถานะเดียวกัน เพราะฉะนั้น...ให้ผู้ชายเขาตัดสินเถอะค่ะ ว่าชอบใคร""เขาก็ต้องชอบฉันอยู่แล้ว" พูดด้วยความมั่นใจ"เหรอคะ แต่รุ่นพี่ก็อยู่มาตั้งนานแล
ตกค่ำที่บ้านของชะเอม หลังจากที่ทำอะไรๆ เสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ชะเอมก็กลับขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองพร้อมกับเสื้อฮู้ดของรุ่นพี่ที่เพิ่งจะซักเสร็จ เธอตั้งใจซักมากยิ่งกว่าเสื้อผ้าของตัวเองที่โยนลงถังแล้วปล่อยให้เครื่องมันปั่นเองซะอีก จากนั้นก็เพิ่มความละมุนด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นโปรดของเธอ เหมือนจะเป็นน้ำหอมประจำตัวของเธอด้วยซ้ำ เพราะเธอไม่ได้ฉีดน้ำหอม กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่โชยมาจากตัวเธอก็เป็นกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มเนี่ยแหละคนตัวเล็กหยิบเสื้อตัวใหญ่มาสวมอีกครั้ง เสื้อฮู้ดของรุ่นพี่ไทเธย์ พรุ่งนี้เธอจะเอาไปคืนเขา แต่วันนี้ขอได้สัมผัสการสวมใส่อีกครั้งเถอะ เพราะก่อนหน้านั้นมันเปียกไปหมดเลยแต่จะว่าไปเสื้อตัวนี้มันใหญ่เกินไปสำหรับเธอมาก แขนยาวคลุมเลยมือไปครึ่งหนึ่ง แต่กลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด เหมือนยังมีกลิ่นของเจ้าของติดอยู่เลยเธอหมุนตัวไปมาเบาๆ ส่องกระจกแล้วยิ้มกับเงาตัวเองที่ได้ใส่เสื้อของรุ่นพี่ มันรู้สึกดีจนพูดไม่ถูกเลยขณะที่กำลังมีความสุขอยู่นั้น ก็ดันนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ เธอจำคำพูดของรุ่นพี่ผู้หญิงได้ และก็เจ็บใจมากด้วย แค่ตอนนั้นไม่ได้ตอบโต้เท่านั้นเอง"หึ! เป็นของตัวเองงั้นหรอ
#เช้าวันรุ่งขึ้น ชะเอมตื่นแต่เช้าเช่นเคย เธอรีบเอาเสื้อที่แขวนไว้ตรงหน้าต่างออกไปซักแล้วตากแดดแต่เช้า เพราะวันนี้อากาศปลอดโปร่งมากไม่มีเค้าฝนเลยสักนิด เหมือนที่เขาพูดกันว่า ต่อให้ฝนจะตกหนักแค่ไหนแต่สุดท้าย 'ฟ้าหลังฝนมักสวยงามเสมอ'เสื้อของรุ่นพี่ไทเธย์ที่เธอซักแล้วตากไว้ให้ คงได้คืนให้พรุ่งนี้เพราะเพิ่งจะได้ซัก ถึงยังไงก็ได้เจอกันที่มหาลัยทุกวันอยู่แล้ว"กินข้าวอิ่มแล้วเหรอลูก" แม่ถามขึ้นเมื่อเห็นลูกสาววางช้อนลง เธอดูกินน้อยกว่าปกติ จนอดถามไม่ได้"ค่ะแม่""จะรีบไปไหนแต่เช้า" ผู้เป็นพ่อเอ่ยถาม"ไม่ได้ไปไหนค่ะ ก็ไปเรียนตามเวลาปกติแหละ แค่ไม่ค่อยหิวเฉยๆ" เธอตอบ"ไม่สบายหรือเปล่าลูก""ก็ปกตินะคะ แค่ไม่ค่อยหิวแค่นั้นเอง"ไม่สบายเหรอ? ไม่นะเพราะเธอไม่ได้รู้สึกแย่อะไรเลย ก็รู้สึกปกติเหมือนเดิม เหมือนทุกเช้าที่เธอตื่นขึ้นมา"ถ้ารู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ก็อยู่บ้านสักวัน ไลน์ไปลาอาจารย์เอาไว้ คนไม่สบายไปเรียนไม่ได้อาจารย์คงไม่ว่าหรอกมั้ง""อาจารย์ไม่ว่าหรอกค่ะ จะเข้าเรียนหรือไม่เข้าเรียนก็แล้วแต่ ขอแค่มีงานส่งก็พอ""เราก็อย่าทำแบบนั้นเชียวนะ" ผู้เป็นพ่อพูดเสียงเข้มเหมือนดุ"เอมไม่ใช่คนแบบนั้นส
กึก ~เสียงประตูบ้านปิดลงพร้อมกับเสียงฝนเบาลงจากด้านนอก ชะเอมเดินตัวเปียกเข้าไปในบ้าน ถือเสื้อฮู้ดไว้แนบอกอย่างระมัดระวัง ทั้งกลัวลื่น กลัวทำบ้านเลอะด้วย เพราะคนที่ทำความสะอาดก็คือแม่ของเธอ"กลับมาจนได้นะลูก" เสียงผู้เป็นแม่ดังมาจากห้องนั่งเล่น ก่อนเจ้าตัวจะเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนู"แหะๆ เอมเปียกหมดเลยค่ะ" เธอได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไม่รู้จะพูดยังไงเหมือนกัน สภาพตอนนี้ก็เปียกฉ่ำไปหมดเลย ดีนะที่ไม่ถูกรถเหยียบน้ำฝนที่ขังอยู่ตามพื้นถนนแล้วกระเด็นเข้าใส่ ไม่งั้นงานหนักตกไปที่แม่ของเธอแน่ๆ"แม่โทรหาตั้งหลายรอบ ทำไมไม่รับ? จะให้พ่อเอาร่มออกไปรอรับที่มหาลัย จะได้กางร่มกลับ""ขอโทษค่ะ มือเปียกหมดเลย เอมเลยไม่ได้หยิบโทรศัพท์ดู กลัวมันเปียกด้วย" ชะเอมตอบเสียงอ่อย ก่อนจะยื่นมือไปรับผ้าแล้วเช็ดหัวเช็ดหน้าให้แห้ง"เอาผ้ามาแม่จะเอาไปผึ่งให้ จะได้เอาไว้ซัก""เอ่อ เสื้อตัวนี้เดี๋ยวเอมซักเองค่ะ มัน...มันค่อนข้างสำคัญ""หืม...""มะ ไม่มีอะไรค่ะ พอดีต้องเอาซักแล้วไปคืนเขา"ผู้เป็นแม่มองแล้วยิ้มกริ่มเหมือนจะคาดเดาสายตาของลูกสาวออก ก็เลยไม่ได้ซักไซ้ถามอะไรมากมาย คงจะเป็นเสื้อของใครสักคนที่มีความสำคัญกับหัวใจดวงน้อย