Mag-log inเขาเป็นหลานชายเจ้าของ มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในกรุงเบอร์ลิน ร่ำรวย มหาศาลมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้าหาแต่ทว่า เขากลับสนใจเพียงเด็กทุนของย่าตัวเอง แต่มันก็เป็นเพียงความรู้สึกอยากได้ชั่วครั้ง ชั่วคราว นั่นจึงทำให้เขาเลือกที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อนทั้งๆที่มีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว อีกทั้งยังยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา แม้จะต้องหลอกลวงเธอว่ารักก็ตาม "เธอเป็นคนแรกที่เขายอมเข้าหาก่อน...แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะเป็นคนสุดท้ายที่หยุดเขาได้"
view moreณ มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเยอรมณี
หญิงสาวใบหน้าสวยหวานน่ารักเจ้าของนัยน์ตากลมโตราวกับตุ๊กตามีชีวิตกำลังจ้องมองไปยังตึกที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัดก่อนเปลือกตาบางนั้นปิดลงครู่หนึ่งแล้วเปิดขึ้นมาอีกครั้งราวกับกำลังเรียกความกล้าให้กับตัวเองทว่า... "ฮืออ! ไม่กล้าอ่ะ" เสียงใสบ่นออกมากับตัวเองที่ยืนลังเลอยู่นานในขณะที่ใบหน้าน่ารักนั้นก็มุ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจที่ไม่กล้าเดินเข้าไปสักที วันนี้เป็นวันแรกที่เธอย้ายเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลังจากผ่านการอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงจนในที่สุดเธอก็สามารถสอบชิงทุนเข้ามาเรียนต่อที่นี่ได้ในขณะที่เรียนอยู่ปีสามคณะบริหารธุรกิจสาขาการสื่อสารธุรกิจระหว่างประเทศ "เอาน่า วันแรกใครๆก็ประหม่าแบบนี้นั่นแหละ" เสียงของ เจ้าขา พยายามพูดให้กำลังใจตัวเองในขณะที่ฝ่ามือทั้งสองข้างนั้นก็ประสานเข้าหากันแน่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง "เราทำได้ เราทำได้" คนตัวเล็กพยายามพูดเพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังกำลังจ้องมองปฏิกิริยาของเธอด้วยสายตาแปลกประหลาดเพราะภาษาที่ฟังไม่ออก "ไม่เดินเข้าไปหรอ" เสียงที่จู่ๆก็ดังขึ้นจากทางด้านหลังนั้นทำให้เจ้าขาสะดุ้งตกใจอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนใบหน้าน่ารักที่เต็มไปด้วยความเหลอหลานั้นจะหันไปมองหญิงสาวชาวยุโรปผมบลอนที่เดินมาหยุดอยู่ข้างกายตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ "อะ อ๋อ ไปสิ ไป" สิ้นคำตอบนั้นหญิงสาวคนดังกล่าวก็เดินนำหน้าไปในทันที นั่นจึงทำให้คนตัวเล็กได้แต่ยืนมึนงงอยู่กับที่อย่างไม่รู้จะทำยังไงและในตอนนั้นเองเธอคนนั้นก็ได้หันหลังกลับมาอีกครั้ง "ตามมาสิ" "อะ อื้อ ไปเดี๋ยวนี้แหละ!" ใบหน้าหวานรีบพยักหน้าเป็นการตอบตกลงก่อนจะรีบเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปในตัวตึกคณะทันทีด้วยความกระตือรือล้น "เพิ่งย้ายเข้ามาหรอ" เสียงของ ลีน่า ดังขึ้นมาภายในลิฟต์ที่มีเพียงเธอและหญิงสาวใบหน้าจิ้มลิ้มข้างกายในขณะที่สายตาก็มองสำรวจอีกคนไปพลางๆ "อื้ม พอดีเราสอบได้ทุนน่ะ เพิ่งย้ายเข้ามาวันแรกเลย ว่าแต่เธอรู้ได้ยังไงหรอ?" ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรในคราแรกแปรเปลี่ยนเป็นความสงสัยในทันทีพลางจ้องมองหญิงสาวผมบลอนด์ข้างกายตาใสแป๋วอย่างรอคอยคำตอบ "แค่ดูหน้าก็รู้แล้ว" "อ้อ จริงด้วย" รอยยิ้มแห้งๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าน่ารักทันที เธ อก็เผลอลืมไปว่าคนจากทวีปเอเชียและยุโรปนั้นมีลักษณะภายนอกที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงก็ไม่แปลกที่คนข้างกายจะสังเกตุได้ "เรียนอยู่สาขาไหนล่ะ ฉันจะได้เดินไปส่ง" เสียงที่ดังขึ้นอีกครั้งของคนข้างกายทำให้เจ้าขาเงยขึ้นมาก่อนจะรีบเอ่ยตอบออกไปในทันที "เราเรียนอยู่สาขาธุรกิจระหว่างประเทศ" คำตอบนั้นทำให้ลีน่าแอบแปลกใจเล็กน้อยอย่างไม่รู้มาก่อนว่าจะมีเด็กใหม่ย้ายเข้ามาในเซคของตนอีกทั้งยังเป็นเด็กทุน "สาขาเดียวกันเลยนี่" ประโยคนั้นทำให้นัยน์ตากลมโตคู่นั้นเบิกกว้างขึ้นทันที ก่อนน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจจนเก็บไม่มิดจะดังขึ้นมา "จริงหรอ?! ดีจัง นี่เราเจอเพื่อนคนแรกแล้วหรอเนี่...!" ประโยคดังกล่าวหยุดชะงักไปในขณะที่มือเรียวก็ยกขึ้นมาปิดปากของตนแทบจะทันทีอย่างคนที่เผลอลืมตัว "อะ เอ่อ ขอโทษที เราเผลอดีใจเกินไปหน่อยน่ะ แฮะๆ" รอยยิ้มแห้งๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าสวยหวานพลางเกาท้ายทอยอย่างแก้เก้อก่อนประโยคที่ดังขึ้นจากหญิงสาวข้างกายนั้นจะทำให้เธอรู้สึกอับอายยิ่งกว่าเดิม "ไม่หน่อยแล้วมั้ง" "กะ ก็เรายังไม่รู้จักใครสักคน...." "ลีน่า" ยังไม่ทันที่เจ้าขาจะได้พูดจบประโยคคนที่ยืนอยู่ข้างกายก็เอ่ยแนะนำตัวขึ้นมาทันที นั่นจึงทำให้นัยน์ตากลมโตคู่นั้นประกายวับขึ้นมาด้วยความดีใจก่อนน้ำเสียงสดใสนั้นจะเอ่ยแนะนำตัวออกไปบ้าง "อะ อ๋อ เราชื่อเจ้าขานะ ยินดีที่ได้รู้จัก" ติ้ง! ยังไม่ทันที่ลีน่าจะได้ตอบอะไรกลับเสียงลิฟต์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อนนั่นจึงทำให้คนทั้งคู่ต้องรีบเดินออกไปเพราะมีนักศึกษาหลายคนกำลังยืนรอลิฟต์อยู่ที่ด้านหน้า หลังจากเข้าห้องเรียนไม่นานอาจารย์ประจำวิชาก็เดินเข้ามาภายในห้อง ก่อนที่เธอจะถูกเรียกให้ออกไปแนะนำตัวที่หน้าชั้นเรียนเพราะเป็นเด็กทุนที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาในขณะที่อยู่ชั้นปีที่สาม ในขณะที่หญิงสาวผิวขาวอมชมพูเรือนผมสีน้ำตาลสลวยกำลังแนะนำตัวอยู่ที่หน้าชั้นเรียนอยู่นั้น ก็มีสายตาหลายสิบคู่กำลังจับจ้องไปที่เธอด้วยความสนใจเพราะใบหน้าที่สวยหวานน่ารักไร้ที่ติอีกทั้งยังมีนัยน์ตากลมโตที่ดูน่ารักเป็นธรรมชาตินั่นอีก เวลาผ่านไปเธอยังคงยืนแนะนำตัวอยู่ที่หน้าห้องด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความน่ารักสดใส ในขณะที่นัยน์ตากลมโตคู่นั้นก็จ้องมองไปที่เพื่อนร่วมเซคหลายสิบคนในห้องด้วยสายตาเป็นมิตรจนเผลอไปสบเข้ากับสายตาเรียบนิ่งของชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่โซนหลังห้องเข้าพอดี แม้จะเป็นใบหน้าที่ราบเรียบทว่ากลับหล่อเหลาเสียจนหาที่ติไม่ได้ เครื่องหน้าที่ครบครันนัยน์ตาคมเข้มดวงตาสีเทาดำที่ดูเรียบนิ่งทว่ากลับเต็มไปด้วยเสน่ห์ จมูกโด่งเป็นสันฉบับชายชาวยุโรปที่รับกับริมฝีปากหยักได้รูป ความลงตัวราวกับพระเจ้าสร้างนั้นทำให้คนตัวเล็กเกิดความรู้สึกทึ่งอยู่หน่อยๆกับความสมบูรณ์แบบนั้น ก่อนที่เธอจะได้สติเมื่อเสียงของอาจารย์ประจำวิชาดังขึ้น หลังคลาสเรียนจบลงนักศึกษาคนอื่นๆต่างก็พากันทยอยเดินออกจากห้องเรียนไปไม่เว้นแม้แต่เจ้าขาที่กุลีกุจอรีบเก็บของเข้ากระเป๋าผ้าสะพายข้างคู่ใจของตนด้วยความกระตือรือล้นเพราะหวังจะรีบเดินตามลีน่าออกไป หลังเก็บของเข้ากระเป๋าเสร็จเธอก็รีบเดินออกจากห้องเรียนไปในทันที ในขณะที่เดินอยู่ในโถงทางเดินนั้นนัยน์ตากลมโตก็พยายามสอดส่องหาคนที่ตนกำลังตามหาอยู่ไปด้วยและเมื่อเห็นว่าลีน่ากำลังจะเดินเข้าลิฟต์ไปดวงตากลมโตก็เบิกกว้างขึ้นในทันที "ละ ลีน่...!" พลั่ก!! "อ๊ะ! ขะ ขอโทษค่ะ" ประโยคก่อนหน้าจำต้องแปรเปลี่ยนเป็นคำขอโทษอย่างช่วยไม่ได้เมื่อเธอเผลอไปเดินชนเข้ากับแผลงอกแกร่งของใครบางคนเข้าอย่างจังและแม้จะยังไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองคู่กรณีแต่เธอก็สามารถรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายนั้นตัวโตกว่าเธอมาก "เป็นอะไรหรือเปล่า..." หางเสียงในท้ายประโยคนั้นขาดหายไปเมื่อนัยน์ตากลมโตสบเข้ากับนัยน์ตาคมราบเรียบของคนที่เธอเพิ่งจะชมเขาไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน ยิ่งได้มาเห็นใกล้ๆกับตาของตัวเองเธอก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาหล่อมากจริงๆ ทุกอย่างบนใบหน้าของเขามันดูลงตัวไปหมดจนไม่อาจหาคำใดมาเปรียบเปรยได้เลย "ไม่เป็นไร" ก่อนที่เธอจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้เสียงทุ้มของคนตรงหน้าก็ดังขึ้นมาเรียกสติที่กำลังกระเจิดกระเจิงให้กลับคืนมา ในขณะเดียวกันใบหน้าที่ไม่อาจกักเก็บความนึกคิดเอาไว้ได้นั้นก็แสดงถึงความเหลอหลาออกมาในทันที "อะ เอ่อ...ขอโทษอีกครั้งนะ ถะ ถ้านายไม่เป็นอะไร งั้นเราขอตัวก่อนนะ" ไม่รอให้เขาตอบกลับเธอก็รีบเดินจ้ำอ้าวหนีออกไปในทันทีท่ามกลางสายตาคมที่เอาแต่มองตามแผ่นหลังนุ่มนิ่มนั้นไปด้วยความเรียบนิ่ง เพียงไม่นานเขาก็เดินออกไปจากบริเวณนั้นท่ามกลางสายตาของหญิงสาวหลายคนที่มองตามแผ่นหลังกว้างนั้นไปด้วยความสนใจที่มีอย่างไม่ปกปิดทว่านั่นกลับไม่ได้เรียกความสนใจของเขาได้เท่ากับใครบางคนที่กำลังอยู่ในความคิดของเขาในขณะนี้.... เปิดตอนแรกมาแล้วค้าบบบ ถ้าชอบอย่าลืมกดใจและเพิ่มเข้าชั้นเพื่อที่จะได้ไม่พลาดแจ้งเตือนตอนใหม่ๆน้าา❤❤หลายวันถัดมาช่วงเย็นของวันร่างสูงใหญ่ของเคลวินเดินเข้ามาภายในบ้านหลังใหญ่โอ่อ่าที่มีหญิงชราอาศัยอยู่ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งตามนิสัยของตน เหล่าแม่บ้านที่เห็นนายน้อยเพียงคนเดียวของตระกูลที่กำลังเดินเข้ามานั้นต่างก็พากันก้มหัวเป็นการทักทายทันทีเขาทำเพียงพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปนั่งลงที่โซฟาหรูกลางห้องโถงฝั่งตรงข้ามกับหญิงชราวัยเจ็ดสิบกว่าๆ ที่มีศักดิ์เป็นถึงคุณย่าของเขา"ไปไงมาไงล่ะเคลวิน"มารี เอ่ยทักหลานชายด้วยรอยยิ้มอบอุ่น ก่อนที่เธอจะส่งสัญญาณให้แม่บ้านคนสนิทที่ยืนอยู่ออกไปก่อน"ผมผ่านมาทางนี้พอดี เลยแวะมาหาครับ"เพราะพ่อแม่ของเขาและหญิงชราตรงหน้านั้นได้แยกกันอยู่บ้านคนละหลังมาตั้งแต่ที่เขาจำความได้ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเทียวไปเทียวมาเพื่อมาเยี่ยมเยือนท่านบ้างเป็นครั้งคราว"แล้วนี่ทานข้าวมาหรือยังล่ะ""เรียบร้อยแล้วครับ"สิ้นประโยคนั้นหญิงชราก็พยักหน้าด้วยความเข้าใจก่อนจะเอ่ยถามขึ้นมาอีกครั้ง"ที่มหาวิทยาลัยเป็นยังไงบ้าง"เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่ไม่ค่อยดีทำให้เธอไม่ได้เข้าไปเยี่ยมเยือนมหาวิทยาลัยมาพักหนึ่งแล้ว คนเราพอแก่ตัวแล้วก็แบบนี้นั่นแหละจะเดินเหินทำอะไรก็ลำบากไปหมด"
หลายวันถัดมา@MIDNIGHTCLUB"เธอช่วยเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟที่ชั้นวีวีไอพีด้วยนะ พอดีมารีปวดท้องกระทันหัน"เสียงของผู้จัดการประจำร้านเอ่ยบอกยังหญิงสาวชาวเอเชียใบหน้าหวานใสขึ้นในช่วงดึกของวันที่มีผู้คนรอบข้างกำลังเร่งทำงานกันด้วยความกระตือรือล้นเพราะลูกค้าที่เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"รับทราบค่ะ"เจ้าขาเอ่ยรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะรับถาดแอลกอฮอล์ดังกล่าวมาไว้ในมือแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังชั้นสามที่อยู่ด้านบน"โห ดูหรูหรากว่าชั้นข้างล่างเยอะเลย คงจะแพงมากแน่ๆ"เจ้าขาพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเสิร์ฟที่ชั้นนี้เพราะโดยปกติแล้วเธอจะทำงานอยู่ข้างล่างเป็นส่วนใหญ่นัยน์ตากลมโตที่มองนั่นมองนี่นั้นยังคงเบิกโตขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อทุกอย่างโดยรอบนั้นมันดูหรูหราหมาเห่าสมกับเป็นวีวีไอพีจริงๆ และคนที่จะมาใช้บริการได้ก็คงจะเป็นคนที่มีฐานะมากพอสมควรเลยใช้เวลาเพียงไม่นานเธอก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องเป้าหมาย และเมื่อเห็นถึงการมาของเธอชายชุดดำที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ทำหน้าที่เปิดประตูใ
"เจ้าขา?"เสียงของลูคัสเอ่ยทักขึ้นด้วยความแปลกใจหลังเห็นหญิงสาวเป็นคนออกมาเปิดประตู เพราะไม่คิดว่าเธอจะมาถึงก่อนคนอื่นๆ"ทำไมถึงออกมาเปิดประตูล่ะ"ลีน่าที่ยืนอยู่อีกคนก็ถามขึ้นมาด้วยเหมือนกัน นั่นจึงทำให้เจ้าขาต้องรีบอธิบายออกมาในทันมี"อะ เอ่อ พอดีว่าเรามาถึงก่อนน่ะ""อ๋อออ งี้นี่เอง"ลูคัสแกล้งลากเสียงยาวในทันทีเมื่อเห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินออกมาอีกคนเหมือนกัน ในขณะสายตาที่เต็มไปด้วยความหมายบางอย่างคู่นั้นก็จ้องมองไปยังใบหน้าเรียบนิ่งของเพื่อนสนิทอย่างต้องการล้อเลียน"ถ้าไม่เข้า ก็กลับไป"เสียงเรียบนิ่งของเคลวินเอ่ยไล่ทันทีด้วยความรำคาญ เมื่อเห็นว่าคนทั้งสามไม่ยอมเดินเข้ามาภายในห้องเสียที"เออๆ รู้แล้ว จะรีบไปตายที่ไหน"ลูคัสบ่นเสียงดังอย่างไม่จริงจังนักก่อนจะเดินเข้ามาภายในห้องเป็นคนแรกตามด้วยแม็คนัสและลีน่าที่เดินเข้ามาเป็นคนสุดท้าย "ลีน่ามากับเพื่อนหรอ"เสียงใสเอ่ยถามขึ้นมาอยู่บริเวณหน้าประตูห้องเพราะคนทั้งคู่ยังไม่ได้เดินตามชายหนุ่มทั้งสามเข้าไป
"เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กั