Se connecterเขาเป็นหลานชายเจ้าของ มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในกรุงเบอร์ลิน ร่ำรวย มหาศาลมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้าหาแต่ทว่า เขากลับสนใจเพียงเด็กทุนของย่าตัวเอง แต่มันก็เป็นเพียงความรู้สึกอยากได้ชั่วครั้ง ชั่วคราว นั่นจึงทำให้เขาเลือกที่จะเป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อนทั้งๆที่มีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว อีกทั้งยังยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา แม้จะต้องหลอกลวงเธอว่ารักก็ตาม "เธอเป็นคนแรกที่เขายอมเข้าหาก่อน...แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่าจะเป็นคนสุดท้ายที่หยุดเขาได้"
Voir plusหลายวันถัดมา
@MIDNIGHTCLUB "เธอช่วยเอาเครื่องดื่มไปเสิร์ฟที่ชั้นวีวีไอพีด้วยนะ พอดีมารีปวดท้องกระทันหัน" เสียงของผู้จัดการประจำร้านเอ่ยบอกยังหญิงสาวชาวเอเชียใบหน้าหวานใสขึ้นในช่วงดึกของวันที่มีผู้คนรอบข้างกำลังเร่งทำงานกันด้วยความกระตือรือล้นเพราะลูกค้าที่เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ "รับทราบค่ะ" เจ้าขาเอ่ยรับด้วยรอยยิ้มก่อนจะรับถาดแอลกอฮอล์ดังกล่าวมาไว้ในมือแล้วเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปยังชั้นสามที่อยู่ด้านบน "โห ดูหรูหรากว่าชั้นข้างล่างเยอะเลย คงจะแพงมากแน่ๆ" เจ้าขาพูดออกมาด้วยความตื่นเต้นเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้มาเสิร์ฟที่ชั้นนี้เพราะโดยปกติแล้วเธอจะทำงานอยู่ข้างล่างเป็นส่วนใหญ่ นัยน์ตากลมโตที่มองนั่นมองนี่นั้นยังคงเบิกโตขึ้นเล็กน้อยด้วยความรู้สึกตื่นเต้นเมื่อทุกอย่างโดยรอบนั้นมันดูหรูหราหมาเห่าสมกับเป็นวีวีไอพีจริงๆ และคนที่จะมาใช้บริการได้ก็คงจะเป็นคนที่มีฐานะมากพอสมควรเลย ใช้เวลาเพียงไม่นานเธอก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องเป้าหมาย และเมื่อเห็นถึงการมาของเธอชายชุดดำที่ยืนอยู่หน้าห้องก็ทำหน้าที่เปิดประตูให้เข้าไปยังด้านในทันที "ขออนุญาตเสิร์ฟนะคะ" เสียงใสดังขึ้นภายในห้องที่มีเพียงแสงไฟเปิดไว้สลัวๆ เท่านั้นทว่าก็สามารมองเห็นทุกอย่างได้ดี อีกทั้งยังมีดนตรีสากลเปิดคลอตลอด ร่างกายของเธอเผลอชะงักไปในจังหวะที่เงยหน้าขึ้นมาแล้วสบสายตากับนัยน์ตาคมเรียบนิ่งของใครบางคนที่คุ้นเคย ก่อนที่เธอจะรีบดึงสายตากลับมาแล้วมองไปยังบริเวณรอบๆ ตัวเขาและนั่นก็ทำให้เธอได้พบกับแม็คนัสและลูคัสที่นั่งอยู่ "อ้าว เด็กใหม่นี่นา" เป็นลูคัสที่เอ่ยทักขึ้นมาเป็นคนแรกในขณะที่เจ้าขากำลังวางเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ นั่นจึงทำให้เธอรีบเอ่ยทักทายตอบกลับไป "อะ เอ่อ ใช่ เราเอง" "ทำไมวันนี้มาเสิร์ฟที่ชั้นนี้ล่ะ" "พอดีเพื่อนอีกคนไม่สบายน่ะ" เจ้าขาเอ่ยตอบออกไปตามปกติ พลันสายตาก็เหลือบมองไปยังหญิงสาวสวยสองคนข้างกายของเขาและอยู่ดีๆ คำพูดของลีน่าก็เข้ามาภายในหัวของเธออีกครั้ง "งี้นี่เอง...สนใจมานั่งกับพวกฉันไหม?" ลูคัสเอ่ยชวนขึ้นมาในขณะที่สายตาก็ลอบมองไปยังใบหน้าของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินที่กำลังนั่งดื่มแอลกอฮอล์อยู่ด้วยใบหน้าราบเรียบทว่าสายตาคู่นั้นกลับเอาแต่จ้องมองไปยังใบหน้าหวานใสของหญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาใหม่ไม่ผละไปไหน... "ขอโทษทีนะ แต่เราต้องทำงานน่ะ" เสียงใสเอ่ยปฏิเสธด้วยท่าทีประณีประนอม เพราะยังอยู่ในช่วงเวลาทำงานอีกทั้งเธอและกลุ่มของลูคัสก็ยังไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น "ฉันบอกเจ้าของคลับให้ได้นะ" "ไม่เป็นไร เราไม่อยากเอาเปรียบคนอื่น" คนตัวเล็กเอ่ยปฏิเสธออกมาอีกครั้ง นั่นจึงทำให้ลูคัสพยักหน้าอย่างเข้าใจไม่เซ้าซี้อีกแต่ทว่ากลับถามเปลี่ยนเรื่องขึ้นมา "ว่าแต่ทำไมถึงต้องมาทำงานด้วยล่ะ" "จะเสือกอะไรนักหนา" แม็คนัสที่นั่งฟังอยู่นานเอ่ยออกมาบ้างขนาดเขาไม่ใช่คนโดนถามยังรู้สึกรำคาญในความสอดรู้สอดเห็นของเพื่อนสนิท "กูไม่ได้เสือก แค่กำลังทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่อยู่ ใช่ไหมเจ้าขา?" "อื้ม!" เมื่ออยู่ๆ ก็โดนพาดพิงเธอจึงรีบพยักหน้าตอบกลับตาใสเพราะความจริงแล้วเธอก็ไม่ได้คิดอะไรมากนักหรอก หากเพื่อนถามมาเธอก็ตอบเพียงเท่านั้น "ถ้ารำคาญก็ด่ามันไปเลย ไม่ต้องกลัว" แม็คนัสเอ่ยบอกกับหญิงสาวในชุดพนักงานของร้าน นั่นจึงทำให้ลูคัสหันไปแหวใส่เพื่อนด้วยความไม่พอใจ "คนเขาจะทำความรู้จักกัน แล้วมึงมาเสือกอะไรด้วย" "เงียบสักที" ยังไม่ทันที่แม็คนัสจะได้ตอบอะไรกลับไปเสียงเรียบของเคลวินก็เอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกรำคาญ นั่นจึงทำให้เจ้าขาหันไปมองที่เขาทันทีก่อนที่สายตาของคนทั้งคู่สบประสานกัน สายตาเรียบนิ่งคู่นั้นที่เธอไม่อาจคาดเดาได้เลยว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่นั้นทำให้เธอเลือกที่จะผละสายตาออกไปก่อนเสียงใสจะดังขึ้นมาท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆ "งะ งั้นเราขอตัวก่อนนะ ถ้ามีอะไรขาดเหลือก็สั่งได้เลยนะ" พูดจบก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไปทันทีด้วยความเร่งรีบเพราะยังมีงานอีกหลายอย่างที่เธอจะต้องไปทำต่อ ในขณะเดียวกันหลังหญิงสาวใบหน้าน่ารักเดินออกไปลูคัสก็หันมาตั้งคำถามกับเพื่อนสนิททันทีราวกับคิดเรื่องสนุกๆ ออก "มึงว่าผู้หญิงเอเชียจะน่ารักแบบนี้ทุกคนไหมวะ?" "ถามทำไม" แม็คนัสเอ่ยออกมาในขณะที่กำลังจิบเครื่องดื่มอยู่ ไม่ใช่ไม่รู้ว่าลูคัสมันกำลังคิดอะไรอยู่เพราะคนแบบมันจะคิดอะไรได้ถ้าไม่ใช่เรื่องพิเรนทร์ "เปล่า...กูก็แค่รู้สึกว่าเธอน่าสนใจดี" สิ้นประโยคนั้นของลูคัส สายตาคมที่เต็มไปด้วยความเรียบนิ่งของเคลวินก็จ้องมองมาที่เขาทันที "อย่ายุ่งกับของกู" เสียงเรียบที่เอ่ยเตือนขึ้นมานั้นทำให้ทั้งลูคัสและแม็คนัสต่างก็หัวเราะในลำคอออกมาให้กับความหวงของของเพื่อนสนิท ขนาดยังไม่ได้กินมันยังหวงขนาดนี้ แล้วถ้าได้ครอบครองแล้วมันจะหวงขนาดไหน... หลังเลิกงานเจ้าขาก็เดินสะพายกระเป๋าผ้าสีขาวเดินออกมาทางหลังร้านทันที ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหลายชั่วโมงติดต่อกันนั้นทำให้นัยน์ตากลมโตแทบจะปิดอยู่ร่อมล่อเพราะความง่วงซึม ทว่าเธอก็พยายามตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเรียกสติเพราะหากเผลอนั่งหลับบนรถมีหวังเธอคงจะนั่งเลยป้ายเป็นแน่ ร่างนุ่มนิ่มอ่อนล้าเดินเข้ามานั่งรอที่ป้ายรถประจำทางที่อยู่ไม่ไกลจากคลับที่เธอทำงานมากนัก หลังเลิกงานของทุกๆ วันเธอมักจะเดินมานั่งรอขึ้นรถกลับห้องที่นี่เสมอจนเคยชิน หลังนั่งลงได้เพียงไม่นานก็มีรถสปอร์ตคันหรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดที่บริเวณด้านหน้าของเธอนั่นจึงทำให้นัยน์ตากลมโตที่แฝงความง่วงซึมจ้องมองไปที่รถคันนั้นด้วยความสงสัยเพราะบริเวณนี้มีเธอนั่งอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น "อะ อ้าว เคลวินเองหรอ?" น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความแปลกใจดังขึ้นเมื่อคนด้านในลดกระจกลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาคุ้นเคยของเพื่อนร่วมเซค "รอใครอยู่" เสียงจากคนด้านในรถเอ่ยถามอย่างไม่ได้สนใจนัยน์ตาที่จ้องมองมาที่เขาด้วยความสงสัยนั่น "เรารอรถประจำทางน่ะ" "ขึ้นมา เดี๋ยวฉันไปส่ง" ประโยคที่แฝงไปด้วยคำสั่งเป็นนัยๆ นั้นทำให้คนตัวเล็กเงียบไป ก่อนที่เธอจะเอ่ยปฏิเสธออกไปด้วยความเกรงใจที่มี "ไม่เป็นไร..." "ขึ้นมา" ยังไม่ทันมี่เธอจะพูดจบประโยคด้วยซ้ำเขาก็เอ่ยสั่งออกมา แม้จะเป็นเพียงคำพูดไม่กี่คำแต่ทว่าคนตัวเล็กกลับรู้สึกไม่กล้าที่จะปฏิเสธเขา "...ก็ได้" เสียงอ้อมแอ้มเอ่ยตอบก่อนจะเดินไปขึ้นรถยนต์คันหรูที่ทั้งชีวิตนี้เธอยังไม่เคยแม้แต่จะแตะมันด้วยซ้ำ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวของเขานั้นมันดูหรูหรามากเสียจนเธอไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการว่าอีกคนนั้นร่ำรวยมากขนาดไหน "บอกทางด้วย" "โอเค" สิ้นคำตอบรับภายในรถยนต์ก็ถูกปลกคลุมไปด้วยเสียงเพลงที่เปิดคลอเพียงเบาๆ เท่านั้น แอร์เย็นๆ ที่เข้ามากระทบผิวกายนั้นทำให้เปลือกตาของเจ้าขาเริ่มจะหนักมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะความเหนื่อยล้าที่เจอมาตลอดทั้งวันและเพียงไม่นานเปลือกตาบางก็ปิดลงก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไปโดยที่เธอไม่รู้ตัว นัยน์ตาคมหันไปมองใบหน้าจิ้มลิ้มของคนที่หลับไปอยู่เพียงนิดก่อนจะเบนสายตากลับมายังถนนตรงหน้าดังเดิม เพียงไม่นานมือหนาก็เอื้อมเข้าไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูที่อยู่ไม่ไกลแล้วกดเข้าแมพปักหมุดไปยังหอพักที่เธอบอกเมื่อก่อนหน้า ก็จะทำอย่างไรได้ในเมื่อไกด์นำทางดันชิงหลับไปเสียก่อน เพราะเป็นช่วงเวลายามวิกาลท้องถนนเลยโล่งมากกว่าปกติทำให้ตอนนี้รถยนต์คันหรูขับเคลื่อนเข้ามาจอดสนิทอยู่หน้าหอพักกลางเก่ากลางใหม่โดยใช้เวลาเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น นัยน์ตาคมเลื่อนสายตาจากหอพักเข้ามามองยังใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักที่ดูเหมือนว่าจะหลับสนิทไปแล้ว ของอีกคน เขาทำเพียงจ้องมองไปยังดวงหน้าหวานนั้นนิ่งๆ ยิ่งได้มองดูใกล้ๆ ก็ช่างน่ารักจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตามีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น และยิ่งนึกถึงดวงตาใสราวกับลูกกวางตัวน้อยๆ ของเธอนั้นก็ทำให้มุมปากหยักยกขึ้นมาเล็กน้อย และก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรไปมากกว่านี้คนที่หลับอยู่ในคราแรกก็เหมือนจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมานั่นจึงทำให้เคลวินเบนสายตาออกไปทางอื่นในทันที "ถึงแล้วหรอ..." น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความงัวเงียดังขึ้นมาเบาๆ ก่อนนัยน์ตาของเธอจะเบิกกว้างขึ้นเมื่อเพิ่งจะรู้ตัวว่าตัวเองเผลอหลับไปทั้งๆ ที่ควรจะต้องบอกทางกับเขาแท้ๆ "ค เคลวินเราขอโทษ..." น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดเอ่ยบอกยังคนข้างกายพลางจ้องมองเขาด้วยใบหน้าราวกับเด็กที่กลัวผู้ใหญ่ดุ ในขณะที่คนข้างๆ ทำเพียงจ้องมองปฏิกิริยาของเธอเงียบๆ ก่อนเสียงทุ้มจะดังขึ้นมาราวกับไม่ได้ใส่ใจ "ไม่เป็นไร" "งั้นเราไปก่อนนะ ขอบคุณเคลวินที่มาส่ง...แล้วก็ขับรถกลับดีๆ นะ" เมื่อเห็นว่าอีกคนไม่ได้มีท่าทีโกรธเคืองอะไรเธอก็เอ่ยขอตัวทันทีแต่ก็ไม่ลืมที่จะขอบคุณเขาและเมื่ออีกคนพยักหน้าเป็นการตอบรับเธอก็รีบลงจากรถยนต์คันหรูแล้วเดินเข้าหอพักไป ท่ามกลางสายตาเรียบนิ่งของเคลวินที่มองตามไปแต่เพียงไม่นานเขาก็เลิกสนใจเธอแล้วสตาร์ทรถขับออกไปในทันทีณ มหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศเยอรมณี หญิงสาวใบหน้าสวยหวานน่ารักเจ้าของนัยน์ตากลมโตราวกับตุ๊กตามีชีวิตกำลังจ้องมองไปยังตึกที่ตั้งตระหง่านตรงหน้าด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่าอย่างเห็นได้ชัดก่อนเปลือกตาบางนั้นปิดลงครู่หนึ่งแล้วเปิดขึ้นมาอีกครั้งราวกับกำลังเรียกความกล้าให้กับตัวเองทว่า... "ฮืออ! ไม่กล้าอ่ะ" เสียงใสบ่นออกมากับตัวเองที่ยืนลังเลอยู่นานในขณะที่ใบหน้าน่ารักนั้นก็มุ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกหงุดหงิดใจที่ไม่กล้าเดินเข้าไปสักที วันนี้เป็นวันแรกที่เธอย้ายเข้ามาเรียนที่มหาวิทยาลัยในต่างประเทศหลังจากผ่านการอ่านหนังสืออย่างหนักหน่วงจนในที่สุดเธอก็สามารถสอบชิงทุนเข้ามาเรียนต่อที่นี่ได้ในขณะที่เรียนอยู่ปีสามคณะบริหารธุรกิจสาขาการสื่อสารธุรกิจระหว่างประเทศ "เอาน่า วันแรกใครๆก็ประหม่าแบบนี้นั่นแหละ" เสียงของ เจ้าขา พยายามพูดให้กำลังใจตัวเองในขณะที่ฝ่ามือทั้งสองข้างนั้นก็ประสานเข้าหากันแน่นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะเอ่ยออกมาอีกครั้ง "เราทำได้ เราทำได้" คนตัวเล็กพยายามพูดเพื่อเรียกความกล้าให้กับตัวเองโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามีหญิงสาวอีกคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังกำลัง
หลายวันถัดมาภายในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง ณ กรุงเบอร์ลินกำลังถูกห้อมล้อมไปด้วยบรรดาเหล่าคนมีเงินที่กำลังนั่งทานอาหารกันอย่างมีความสุขท่ามกลางเสียงเพลงที่เปิดคลอเบาๆเพื่อสร้างบรรยากาศทว่าจู่ๆ เสียงพูดคุยเมื่อครู่นั้นกลับแปรเปลี่ยนเป็นเสียงซุบซิบในเวลาอันรวดเร็วเมื่อมีการปรากฏตัวของชายหนุ่มทายาทตระกูลดังที่กำลังเดินเข้ามาภายในสถานที่แห่งนี้แม้ใบหน้าจะราบเรียบทว่ากลับไม่สามารถปกปิดความหล่อเหลาไร้ที่ติตามฉบับชายชาวยุโรปของเขาได้เลย แต่สิ่งที่ตราตรึงสายตาของผู้คนมากที่สุดคงจะเป็นนัยน์ตาสีเทาเข้มที่ดูเรียบนิ่งคู่นั้นไม่ใช่แค่เพียงใบหน้าเท่านั้นที่ดึงความสนใจของผู้คนทว่าด้วยเพราะเขาคือทายาทเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลไฮน์ริชที่ร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศที่เป็นที่จับตามองของคนในสังคมอยู่ในขณะนี้"เคลวินมาแล้วหรอลูก"เสียงสดใสของหญิงวัยกลางคนอย่างเอมิเลียเอ่ยทักทายลูกชายเพียงคนเดียวของเธออย่างเคลวินที่เดินเข้ามาภายในห้องอาหารที่มีความเป็นไพรเวทแยกออกจากโซนด้านนอก"ครับ"เสียงทุ้มตอบรับมารดาของตนก่อนจะหันไปทักทายชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเอ็ดวินผู้นำตระกูลแวร์เนอร์ คนปัจจุบัน"คุณล
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เจ้าขาพยายามที่จะเข้ามาตีสนิทกับลีน่าอยู่หลายวันเพราะเธอเองก็ไม่รู้จักกับใครเลยและเพื่อนคนอื่นๆในเซคก็มีกลุ่มกันหมดแล้วเว้นเสียแต่ลีน่าไม่ใช่ว่าไม่มีเพื่อนคบแต่หลังจากที่ได้พูดคุยมาหลายวันเธอก็พอจะรู้ว่าเพื่อนนั้นเป็นคนรักความสันโดษและชอบอยู่คนเดียวเสียมากกว่าการอยู่กับผู้อื่นและถึงแม้จะรู้แต่เธอก็ยังอยากที่จะเป็นเพื่อนกับลีน่าอยู่ดีTTแต่ถึงอย่างนั้นอีกคนก็ไม่ได้มีท่าทีผลักไสเธอแต่อย่างใดนั่นจึงทำให้หลายวันที่ผ่านมานี้ความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่พัฒนาไปในทางที่ดีมากยิ่งขึ้นจนสามารถพูดคุยกันได้หลายๆเรื่องแม้จะเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน"ลีน่าวันนี้เรากินอะไรกันดี"เสียงใสของเจ้าขาเอ่ยถามยังหญิงสาวผมบลอนด์ที่ยืนอยู่ข้างๆกันภายในโรงอาหารของคณะหลังบคิดอยู่นานแต่ก็ยังไม่สามารถเลือกเมนูที่จะทานได้"พิชซ่าไหม?"ลีน่าเสนอขึ้นมาเพราะพิซซ่าคือเมนูสิ้นคิดที่สุดสำหรับเธอแล้ว"โอเค งั้นเดี๋ยวลีน่าไปซื้อน้ำนะ ส่วนเราไปซื้อพิซซ่าเอง"หลังแบ่งหน้าที่กันเสร็จสรรพสองสาวก็แยกย้ายกันไปซื้อของตามหน้าที่ของตนทุกๆวันเธอและลีน่าจะแยกกันไปซื้ออาหารและน้ำเพราะจะได้ไม่เ
ณ ห้องสมุดในช่วงบ่ายของวันหลังมาถึงห้องสมุดทุกคนก็แบ่งหน้าที่แยกย้ายกันไปหาข้อมูล บางส่วนจะต้องหาจากอินเตอร์เน็ตและบางส่วนจะต้องไปหาหนังสือภายในห้องสมุดหนึ่งในนั้นก็คือเจ้าขาที่กำลังไล่สายตาหาหนังสือที่ต้องการอยู่"อยู่ไหนนะ" เสียงเล็กพึมพำกับตัวเองขึ้นมาเมื่อไม่พบหนังสือที่ต้องการเสียทีหลังหาอยู่นาน"ตรงนั้น"เสียงทุ้มที่ดังขึ้นของผู้มาใหม่นั้นทำให้เจ้าขาหันไปมองยังทางต้นเสียงก่อนจะพบเข้ากับเคลวินที่เขาเองก็ได้รับหน้าที่ในการมาหาหนังสือเหมือนกันกับเธอนัยน์ตากลมโตคู่นั้นมองไปยังจุดที่เขาชี้บอกก่อนจะพบเข้ากับหนังสือเล่มที่เธอกำลังตามหา ฉับพลันนัยน์ตาคู่นั้นก็เป็นประกายวิบวับทันทีด้วยความดีใจ"อยู่ตรงนั้นจริงด้วย""ทำไมมันอยู่สูงจัง" เจ้าขาบ่นออกมาก่อนจะพยายามเอื้อมมือขึ้นไปหยิบมันทว่าก็เพียงแตะโดนนิดหน่อยเท่านั้นจนไม่สามารถที่จะหยิบได้และในช่วงจังหวะนั้นเอง..."เดี๋ยวฉันหยิบเอง"ร่างสูงที่เข้ามาประชิดร่างของเธอจากทางด้านหลังทันทีที่พูดจบนั้นทำให้เจ้าขาชะงักไปในทันที กลิ่นน้ำหอมหรูหราที่ลอยออกมาจากตัวของเขานั้นส่งผลให้ใบหน้าใสแดงก่ำขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายกลับสั่นไ
@MIDNIGHT CLUBในช่วงดึกของวันหญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยหวานในชุดพนักงานเสิร์ฟประจำคลับดังแห่งหนึ่งอย่างเจ้าขากำลังยกถาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เดินไปเสิร์ฟที่โต๊ะนั้นทีโต๊ะนี้ทีด้วยความกระตือรือล้นเพราะยิ่งดึกมากเท่าไรเหล่านักท่องราตรีก็เริ่มเยอะมากขึ้นเรื่อยๆ"วีไอพีห้า"เสียงของหญิงสาวผมบลอนด์อายุราวๆ สามสิบถึงสี่สิบปีเอ่ยบอกกับเด็กสาวชาวเอเชียอย่างเจ้าขาที่เพิ่งจะเดินถือถาดกลับเข้ามาได้ไม่นาน ก่อนใบหน้าน่ารักนั้นจะยิ้มตอบรับทันทีและเพียงไม่นานเครื่องดื่มถาดดังกล่าวก็ถูกยกออกไปพร้อมกับหญิงสาวเรือนร่างอรชรสถานที่แห่งนี้เป็นคลับชื่อดังย่านใจกลางกรุงที่เธอเพิ่งจะสมัครเข้ามาทำได้เพียงเดือนเศษๆ เพราะหลังย้ายมาจากประเทศไทยเธอก็เริ่มที่จะหาสมัครงานพาร์ทไทม์ทันทีเพราะฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยทำให้เธอไม่สามารถอยู่เฉยๆ ได้แม้ว่าจะได้ทุนจากทางมหาวิทยาลัยก็ตามทีแต่เพราะเธอเองก็มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยและนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักๆ ที่ทำให้เธอต้องมาเช่าหอพักราคาถูกข้างนอกอยู่แทนที่จะอยู่หอในที่ทางมหาวิทยาลัยจัดหาไว้ให้สำหรับนักศึกษาทุนโดยเฉพาะแต่กว่าจะออกมาได้เธอก็จำเป็นต้องทำเรื่องขออนุญาตอยู่นาน"
"เพิ่งจะรู้ว่ากูมีเพื่อนจิตใจดีขนาดนี้"ประโยคนั้นดังขึ้นจากแม็คนัสทันทีที่เห็นร่างสูงของเพื่อนสนิทอย่างเคลวินเดินเข้ามานั่งที่โซฟาหรูฝั่งตรงข้าม"รู้จักเด็กคนนั้นหรอ"ประโยคคำถามดังขึ้นจาก โคลน์ รุ่นพี่คนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็กๆ อีกทั้งยังเป็นเจ้าของคลับแห่งนี้ที่พวกเขามักจะมาสุมหัวกันบ่อยๆ ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมเรื่องทั้งหมดมันมาถึงหูของเพื่อนสนิทเร็วขนาดนี้"เด็กใหม่เพิ่งย้ายเข้ามา"ประโยคดังกล่าวดังขึ้นจากลูคัสที่กำลังนัวเนียกับหญิงสาวหน้าอกบึ้มสองคนข้างกาย แม้สายตาจะกำลังชมสิ่งสวยๆ งามๆ ข้างกายแต่หูกลับกำลังตั้งใจฟังบทสนทนาของคนทั้งสามเป็นอย่างดีไม่มีพลาด"นี่มึงคิดจะทำอะไรเคลวิน"น้ำเสียงจริงจังดังขึ้นจากโคลน์อีกครั้ง สายตาเรียบนิ่งจ้องมองไปยังรุ่นน้องที่นั่งอยู่ตรงหน้านิ่งอย่างต้องการคำตอบเพราะรู้ดีว่าเคลวินไม่ได้มีนิสัยชอบช่วยเหลือใครนอกเสียจากมันจะมีจุดประสงค์บางอย่าง"สนใจเรื่องของตัวเองเถอะ"เคลวินไม่ได้ตอบคำถามทว่ากลับเบนสายตาไปยังหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังโยกย้ายร่างกายไปตามทำนองดนตรีอยู่กั
Commentaires